หวาน...ชีวิต - นิยาย หวาน...ชีวิต : Dek-D.com - Writer
×

    หวาน...ชีวิต

    ไม่มีภูมิปัญญาใดจะซึ้งใจเท่ากับภูมิปัญญาไทย ไม่มีความสามารถใดเหนือความตั้งใจจนทำไม่ได้ เราเชื่อว่าเมื่อคุณอ่านจะซาบซึ้งกับความเป็นไทยในสายเลือด เชื่อเถอว่า...ขนมไทยมีพลังในชีวิตของคนไทยทุกคน

    ผู้เข้าชมรวม

    352

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    352

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    6
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  28 ก.ค. 59 / 16:20 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

             ผู้เขียนเติบโตมาในบ้านที่ทำอุตสาหกรรมครัวเรือนด้านขนมไทยทำมานานตั้งแต่พ่อยังเป็นเด็ก ย่ากับแม่ใหญ่ช่วยกันรวบรวมสูตรจากบ้านงานที่ไปลงแขกสมัยอยู่บ้านม้า แล้วยกแพขึ้นบกเปลี่ยนที่อยู่ถึง ๒ ครั้ง แต่ไม่เคยเลิกทำขนมแถมขายข้าวสาร ทำบายศรีสะสมสูตรขนมตามบ้านงานบวชที่เอาบายศรีไปร่วมงาน จนมีร้านใหญ่แผงแรกในตลาดเจ้าพรหมคนเก่าแก่ในตลาดรู้จักแม่ประสารเป็นอย่างดี บางคนเรียกพี่สาร แต่หลานๆ เรียกแม่ใหญ่


        แม่ใหญ่เป็นสาวโสดมีศักดิ์เป็นป้า ใช้หยาดเหงื่อแรงงานตัวเองแลกอนาคตหลานๆ แม้ว่าไปโรงเรียนแล้วจะไม่มีแรงงานช่วยงานที่บ้าน วันที่แม่ใหญ่หมดแรงทำต่อตัดสินใจปิดร้าน เพราะอายุมากทำไม่ไหวบวกต้นทุนการทำขนมสูง เลยยกเลิกกิจการเหลือแต่ร้านขายแกงที่ยังคงอยู่เพียงร้านเดียว จำวันที่แม่ใหญ่ปิดร้านได้ ปากบอกว่าโล่งใจแต่นอนก่ายหน้าผากน้ำตาซึม แม่ใหญ่ไม่อยากให้หลานลำบากอย่างที่ตัวเองเป็น บังคับให้ทำงานในบริษัทอย่างน้อยก็ได้เงินเดือน หลานเลยทำขนมได้ไม่ดีเท่าที่แม่ใหญ่ทำ ก่อนแม่ใหญ่เสีย ๒-๓ ปี แม่ใหญ่เล่าเรื่องขนมให้ฟังตลอด เพราะเสียดายสูตรขนมแต่ไม่สนับสนุนให้หลานคนไหนมาลงแรงอีก ส่วนตัวคิดเสมอว่าสิ่งที่น่าภูมิใจคือภูมิปัญญามีค่ากว่ามรดกทรัพย์สิน แม้วันนี้จะทำขนมได้ไม่เท่าที่ย่า แม่ใหญ่ และแม่ที่ลงแรงเหมือนเมื่อก่อน แต่อยากถ่ายทอดในรูปแบบที่ตนเองพอจะทำได้ หากใครอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วเดินเข้าครัวทำขนมกินสักถ้วย หรือมีแรงบันดาลใจทำขนมไทยขาย นับเป็นกุศลที่มอบให้ผู้เขียนตอบแทนบุญคุณบุพการีที่เลี้ยงดูมา 

      

    ผู้เขียนผูกพันกับการเขียนหนังสือมาแต่เล็ก ความที่หัวช้าเกือบซ้ำชั้นตอนประถม กว่าจะอ่านออกเขียนได้พ่อต้องทุ่มเทอย่างหนัก ถ้าพ่อหมดใจในวันนั้นคงไม่ได้เรียนต่อและมีวันนี้ พ่อเชื่อว่าการเรียนมอบอนาคตที่ดีให้ลูก ทั้งๆ ที่พ่อมีอาชีพนักการภารโรงและแม่อ่านหนังสือไม่ออกสักตัว แม้ว่าพ่อจากไปหลายปีแต่สิ่งที่เชื่อมเราไว้คือตัวหนังสือ ทุกครั้งที่อ่านหรือเขียนรู้สึกใกล้ชิดพ่อ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ตอนนี้มีความสุขกับการเขียนและจะเป็นแบบนี้ตลอดไป


    อีกท่านที่ลืมไม่ได้ ครูเหน่ง ที่อนุเคราะห์สอนวิธีการเขียนนวนิยายแม้ตัวเองจะเป็นนักเรียนหลังห้อง แต่อ่านและจดจำทุกอย่างที่ครูสอนมาปรับใช้กับวิธีการนำเสนอของตนเอง ขอบคุณพี่ลี่ พี่เมย์ ที่อนุเคราะห์ที่พักกำลังใจเขียนนิยายต่อไป น้องบี๋ให้ผลักดัน หนุนให้เขียนนิยายเรื่องนี้ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในกลุ่มแปดดาวเหนือ ที่ลุ้นผลักดันให้เดินหน้าต่อ

                ขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้จริงๆ
                พลอยมณี แก้วชิงดวง  

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น