ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต เบลฝน - ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต เบลฝน นิยาย ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต เบลฝน : Dek-D.com - Writer

    ความบังเอิญหรือพรหมลิขิต เบลฝน

    โดย Agent47

    เบลฝนความบังเอญหรือพรหมลิขิต

    ผู้เข้าชมรวม

    2,638

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    2.63K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    11
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 ก.พ. 59 / 14:41 น.

    แท็กนิยาย

    เบลฝน ก้อยดาว



    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ณ Nadao bangkok
    “พี่ฝน มานานยังอ่ะ” ฉัน เบลล์เขมิศรา พลเดช “พี่พึ่งมาน่ะ แล้วเบลล์มาทำไรหรอ” ฉัน ศนันธฉัตร  ธนพัฒน์พิศาล “เบลล์เข้ามาหาพี่ปิงน่ะค่ะ พี่ปิงบอกซีซั่นนี้เรามีฉากเลิฟซีน เยอะมากๆ” เบลล์พูดพร้อมทำตาโต ฝนเห็นแบบนั้นก็อดจะขำไม่ได้ “พี่ฝน จะกลับรึยัง เดี๋ยวเบลล์ไปส่งไหม” เบลล์พูดพร้อมส่งยิ้มหวานไปให้คนพี่ “เบลล์ ค..คือ มาร์กับมาไทยแล้วอ่ะ มาร์โทรมาบอกพี่ว่าจะมารับน่ะ” เบลล์หุบยิ้มลงทันทีเมื่อพูดถึงมาร์ เพราะมาร์เป็นแฟนฝน ทันใดนั้นเอง “ฝน รอนานไหม” ทั้งสองหันไปมองพร้อมกัน เบลล์เห็นอย่างงั้นจึงยกมือไหว้และกล่าวสวัสดี ตามมารยาท “สวัสดีค่ะ งั้นเบลล์ไปก่อนน่ะพี่ฝน” ฝนมองตามหลังเบลล์ไป เธอรู้ดีว่าเบลล์รู้สึกยังไง บนรถยนตร์คันหรู มีเพียงความเงียบปกคลุม และมีเสียงคนนึงทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ลง “ฝน แวะหาไรกินก่อนไหม” ฝนทำท่าครุ่นคิดก่อนจะตอบ “ไม่ดีกว่า วันนี้ฝนเพลียอยากพักผ่อน” คนที่กำลังขับรถอยู่หันกลับมามองฝน ก่อนจะพูดขึ้น “โอเค ไว้คราวหน้ามาร์ไปเที่ยวใหม่ก็ได้น่ะ” ฝนพยักหน้าก่อนจะยิ้ม ไม่นานนักรถยนตร์คันหรูก็มาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ฝนก้าวขาลงจากรถกำลังจะเข้าบ้าน “ฝน”ฝนหยุดเท้าที่จะเดิน แล้วหันไปเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่ามีอะไรรึป่าว มาร์เหมือนดูรู้เลยตอบกลับมา “ดูแลสุขภาพบ้างน่ะฝน เราเป็นห่วง มาร์รักฝนน่ะ” ฝนพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “รักเหมือนกันค่ะ” แล้วรถคันหรูก็ขับออกไป ฝนเดินขึ้นมาบนห้องนอน ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง แล้วก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ฝนส่งไลน์ไปหาเบลล์ เบลล์ไม่อ่านและไม่ตอบกลับ ฝนจึงโทรไปแต่โทรไปกี่สายก็ไม่มีคนรับ ฝนตัดสินใจหยิบเสื้อคลุมและกุญแจรถแล้วขับออกจากบ้านไป ภายในห้องที่มีแต่ความเงียบปกคลุม เบลล์กำลังนั่งมองโทรศัพท์ที่มีทั้งเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า และเสียงโทรศัพท์ เบลล์รู้ว่าใครส่งมาและโทรมาเบลล์เลือกที่จะไม่รับสายและไม่ตอบไลน์ ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น “ก็อก ก็อก ก็อก ก็อก”เสียงเคาะประตูบ่งบอกถึงความร้อนใจของคนเคาะซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกจาก “เบลล์ ทำไมไม่รับโทรศพท์พี่ค่ะ หืมม”คนพี่พูดขึ้นก่อนจะเดินเข้ามากอดเบลล์จากทางด้านหลัง ฝนเข้ามาในห้องนี้ได้เพราะมีคีย์การ์ดของคอนโดเบล เพราะเบลล์และฝนแอบคบกัน เบลล์สะดุ้งเล็กน้อยหลังจากคนพี่มากอดเธอทางด้านหลัง แล้วยิ่งการพูดจาหวานๆยิ่งทำให้เรื่องในหัวของเบลล์ตีกันยุ่ง เบลล์เลือกที่จะไม่ตอบฝนแต่กลับถามฝนแทน “พี่ฝนมาหาเบลล์ไม่กลัวพี่มาร์รู้หรอ”คนพี่ที่รู้ถึงความตัดพ้อในคำพูดนั้น จึงกอดเบลล์แน่นขึ้นและเอาคางเกยไว้บนไหล่เบลล์ ก่อนจะมองหน้าคนน้องที่ตอนนี้สีหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ฝนกดจมูกลงบนแก้มขวาของคนน้องก่อนจะพูดขึ้น “พี่ขอโทษน่ะที่อาจจะทำให้เบลล์ต้องลำบากใจ รอพี่หน่อยได้ไหม ถ้าพี่พร้อมเมื่อไหร่พี่จะบอกเรื่องเราสองคนให้ทุกคนรู้”คนพี่พูดขึ้นพร้อมเอาคางเกยไว้บนไหล่คนน้อง เบลล์ที่ตอนนี้นิ่งคิดอะไรมากมายในหัวที่ตอนนี้ตีกันจนยุ่ง เบลล์กำลังคิดว่า เวลาเขามาฉันก็ไม่ได้เจอพี่ แต่พอเขาไปพี่ก็มาเจอฉัน ความรู้สึกน้อยใจปนกับความคิดมากมายตีกันจนยุ่ง “เบลล์ไปอาบน้ำก่อนน่ะพี่ฝน”คนน้องตัดสินใจ ไปอาบน้ำเผื่อความเครียดจะลดลงได้บ้างคนพี่จึงค่อยๆคลายวงแขนออกจากคนน้อง และมองตามแผ่นหลังของคนน้องด้วยสายตาที่พร่ามัว ก่อนที่หยดน้ำตาจะไหล่ลงมาและพูดกับตัวเองเบา “พี่ขอโทษน่ะเบลล์ พี่ก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้”ฝนปล่อยน้ำตาไหลลงมาเรื่อยๆ ไม่นานนักทั้งสองคนก็อาบน้ำเสร็จ “เบลล์มาพี่เช็ดผมให้” “ไม่เป็นไรพี่ฝน เบลล์เช็ดเองดีกว่า” ฝนเห็นความดื้อรั้นของคนน้องก็ดึงผ้าเช็ดผมออกมาจากมือเบลล์แล้วพูดว่า “ก็เบลล์เช็ดไม่แห้งจะนอนทั้งยังเปียกแบบนี้ก็เป็นหวัดกันพอดี” หลังจากฝนพูดจบก็เช็ดผมให้คนน้องต่อ เบลล์ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะรวบรวมความกล้าแล้วถามออกมา “พี่ฝนรู้สึกยังไงตอนนี้”ฝนมองหน้าคนน้องในกระจก ก่อนจะถามออกไป “หมายถึงตอนเช็ดผมให้เบลล์อะหรอ”แล้วก็หัวเราะ เบลล์จึงถามขึ้นมาใหม่ทำให้ฝนชะงักมือที่กำลังเช็ดทันที “เบลล์หมายถึงสถานะของเราตอนนี้”ฝนมองเข้าไปในตาคนน้องผ่านกระจกสายตาคนน้องมีแต่คำถามมากมาย ว่าจะต้องทนอยู่ในสถานะแบบนี้อีกนานแค่ไหน “คนพี่จึงเลือกที่จะพูดออกไป “พี่รู้ว่าเบลล์คิดอะไร พี่รักเบลล์จริงๆน่ะ แต่ขอเวลาให้พี่ก่อนได้ไหม ถึงตอนนั้นพี่จะบอกทุกคนเองว่าเรารักกัน”หลังจากคุยกันเสร็จฝนและเบลล์ก็เข้านอน ความเงียบเข้าปกคลุมห้องนอนฝนและเบลล์นอนหันหลังให้กัน คนพี่เลือกที่จะทำลายความเงียบลง “เบลล์ หลับแล้วหรอ”คนน้องเลือกที่จะไม่ตอบและแกล้งหลับ ทันใดนั้นมือคนพี่ก็โอบกอดคนน้องจากด้านหลัง และดึงให้ตัวคนน้องแนบชิดกันก่อนจะกระซิบข้างหูคนน้อง “พี่รักเบลล์น่ะ ถ้าพี่พร้อมเมื่อไหร่พี่จะเป็นคนไปบอกทุกคนเอง” ก่อนที่คนพี่จะเข้าสู่ห้วงนิทราคนน้องที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดคนพี่นั้น มีความคิดหลายอย่าง และกำลังคิดในใจว่า “แล้วอีกนานไหมที่พี่จะพร้อมบอกทุกคนว่าเรารักกันพี่ฝน ฉันจะต้องทนอยู่ในสถานะแบบนี้อีกนานแค่ไหน อยู่ใกล้กันแค่เอื้อม แต่ความรู้สึกเหมือนอยู่ห่างกัน หรือเราจะต้องลองห่างกันดู เราสองคนจะได้มีเวลาทบทวนเรื่องต่างๆของตัวเองให้มากขึ้น”ทันใดนั้นคนน้องก็น้ำตาไหลออกมา ก่อนที่จะตัดสินใจลองห่างจากคนพี่ดูเบลล์จับมือของฝนแน่นขึ้น เพราะวันพรุ่งนี้เบลล์อาจจะไม่ได้อยู่กอดกับฝนแบบนี้อีกแล้ว แล้วเบลล์ก็เข้าสู่ห้วงนิทราเช้าวันต่อมา ฝนเอื้อมมือไปหวังจะกอดคนน้องแต่ก็ต้องตื่นเพราะคนข้างกายเธอไม่อยู่แล้วแต่มีกระดาษแผ่นหนึ่งเขียนไว้ซึ่งเป็นข้อความที่ทำให้ฝนใจกระตุกวืด “พี่ฝน เบลล์ตัดสินใจดีแล้วน่ะ เราคงต้องลองห่างกันดูเผื่อพี่และฉันจะได้มีเวลาคิดทบทวนหัวใจตัวเองว่าเรารักกันมากแค่ไหน หรือเป็นเพียงความเหงาที่ทำให้เรารักกัน แต่ถ้าพี่ยังคงรักฉัน แล้วตอนนั้นพี่ไม่มีใคร และพรหมลิขิตทำให้เราได้บังเอิญเจอกัน เราคงได้รักกัน เบลล์จะรอวันนั้นน่ะพี่ฝน พี่ฝนไม่ต้องตามหาเบลล์เบลล์ดูแลตัวเองได้ พี่ฝนอยู่ทางนั้นก็ดูแลตัวเองดีๆน่ะ เบลล์ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ลา เบลล์รักพี่ฝนน่ะ”หลังจากฝนอ่านจบน้ำใสๆก็ไหลออกจากตาผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ ฝนเดินออกมานอกห้องนอนภาพวันวานที่มีเบลล์อยู่ฉายเข้ามาในหัวของฝน ฝนเดินไปที่โต๊ะกินข้าวก็ต้องยิ้มทั้งน้ำตาเพราะสิ่งที่เบลล์ทิ้งเอาไว้พร้อมกระดาษโพสอิท “ทานให้อร่อยน่ะพี่ฝน” กระดาษโพสอิทใบนี้แปะอยู่ข้างชามข้าวต้มที่เบลล์ทำทิ้งไว้ ฝนนั่งลงกินข้าวต้มทั้งน้ำตา ฝนภาวนาอย่างเดียว สักวันเราจะต้องได้เจอกันเบลล์พี่จะรอวันนั้น ผ่านมา 2 ปี ในรถคันหรูที่มีเพียงเสียงเพลง หากฉันตาย ทำให้คนที่นั่งอยู่ในรถ นึกถึงคนๆนึงนั่นคือ เบลล์เขมิศรา เธอรู้แล้วว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยไม่นึกถึงเบลล์เลย เธอรอวันที่พรหมลิขิตจะให้เธอมาพบกัน ณ ห้างSiam Paragon ระหว่างที่ฝนเดินเลือกเสื้อผ้า เธอกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบเสื้อตัวนึงแต่ก็มีมือคนคนนึงเอื้อมมาหยิบพร้อมกับเธอ เธอจึงพูดว่า “คุณเอาตัวนี้ไปก่อนก็ได้ค่ะ”แต่ก็ต้องตกใจ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาพบกับคนที่เธอ เฝ้าคิดถึงมาตลอด 2 ปี เบลล์ที่พึ่งหลุดจากภวังค์หลังจากตกใจอยู่นานพูดขึ้น “พรหมลิขิตหรือบังเอิญกันน่ะ ที่ทำให้เราได้เจอกัน”เบลล์พูดพร้อมส่งยิ้มมาให้ฝน ฝนไม่รอช้าเข้าไปกอดเบลล์แน่นก่อนจะพูดขึ้น “พี่รู้หัวใจตัวเองแล้วน่ะ พี่รักเบลล์ พี่ไม่เคยไม่คิดถึงเบลล์เลย พี่เลิกกับมาร์แล้ว พี่พร้อมที่จะบอกทุกคนแล้วน่ะว่าเราคบกัน” เบลล์กอดตอบฝนและลูบหัวคนพี่เบาๆ ก่อนจะพูดขึ้น “ความบังเอิญหรือพรหมลิขิตที่ทำให้เราได้เจอกันเบลล์ไม่รู้หรอก แต่เบลล์อยากรู้ว่า พี่ฝนยังรักเบลล์อยู่ไหม”ฝนยิ้มและกอดเบลล์แน่นขึ้นก่อนจะตอบออกมา “เมื่อกี้พี่ก็บอกแล้วไง ว่าพี่รักเบลล์ รักเหมือนเดิม ไม่สิ รักมากกว่าเดิม” เบลล์กอดฝนก่อนจะดึงตัวฝนออก และพูดขึ้น “ถ้างั้นเบลล์มีอีกอย่างที่จะบอกพี่ฝน เป็นแฟนกับเบลล์น่ะค่ะ ความบังเอิญของเบลล์”ฝนยิ้มและพยักหน้าก่อนพูดว่า “ค่ะ ความบังเอิญของพี่” ทั้งคู่กอดกันแน่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ จะไม่มีอะไรพรากพวกเขาออกจากกันอีก 
    “ความห่างไกลไม่ได้ทำให้ใครเลิกกัน  แต่มันทำให้เรารู้หัวใจตัวเองต่างหาก” 
    มือใหม่หัดแต่ง ดีไม่ดียังไงคอมเมนต์บอกได้น่ะค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×