คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : จบ
Fiction...สะดุดรักยัยตัวจุ้น
....ตอนจบ.....
ท่ามกลางความมืดมิดยามค่ำคืนร่างสองร่างของชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังวิ่งอยู่เคียงข้างกัน มือใหญ่กุมมือน้อยของหญิงสาวไว้อย่างหวงแหน แต่แล้วอยู่ๆร่างสูงกว่าหยุดวิ่งเสียเฉยๆส่งผลให้หญิงสาวร่างบางที่วิ่งมาข้างๆเสียหลักเซถลาไปด้านหน้าดีที่วงแขนกว้างโอบคว้าร่างน้อยมาไว้ในอ้อมแขนได้ทัน ใบหน้านวลซบอยู่กลางอกอุ่นของชายคนรัก เสียงหอบเบาๆของหญิงสาวประสานกับเสียงเต้นรั่วของหัวใจชายหนุ่มอย่างช่วยไม่ได้
"ปล่อยได้แล้วพี่ตุ้ย มิ้นไม่เป็นอะไรแล้ว"มิ้นพูดอย่างเขินอาย
"ไม่อยากปล่อยเลย พี่อยากกอดมิ้นไว้อย่างนี้นานๆจัง"ไม่พูดเปล่าตุ้ยยังกอดกระชับร่างบางของเธอไว้แน่นขึ้นด้วย
"อุ้ย พี่ตุ้ย มิ้นอึดอัดนะ แล้วนี่พี่ตุ้ยหยุดวิ่งทำไม ถึงแล้วหรอค่ะ"
"เปล่ายังไม่ถึงหรอก "
"อ้าวแล้วพี่ตุ้ยหยุดวิ่งทำไมละ"มิ้นดันร่างตุ้ยออกไปแล้วมองหน้าเขาอย่างสงสัย
"ก้พี่อยากให้มิ้นหลับตานิครับ"
"หลับตา หลับทำไมอะ ที่นี่มืดจะตายขืนหลับตาเดินมิ้นก็ได้สะดุดล้มหัวทิ่มกันพอดี"หญิงสาวเบะปากเล็กๆนั้นพร้อมกับเท้าสะเอวเถียงเขาอย่างน่ารัก
"ไม่ต้องกลัวหรอก มิ้นหลับตาแล้วก็จับมือพี่ไว้ พี่ไม่มีทางปล่อยให้มิ้นหกล้มได้หรอก มิ้นไว้ใจพี่รึเปล่า"ตาคมจ้องมองใบหน้าหวานใสของเธอลึกซึ้ง
"ก็ได้ค่ะ มิ้นเชื่อพี่ แต่ถ้าพี่พามิ้นหกล้มละก้อมิ้นจะกัดมิ้นพี่ให้ขาดเลยคอยดู"คนตัวเล็กแยกเขี้ยวใส่ตุ้ยราวกับทำแล้วน่ากลัวเสียเหลือเกิน
"จ้า กลัวแล้ว น่ากลัวเหลือเกิน แม่กระต่ายเขี้ยวคม แล้วที่นี้จะหลับตาได้รึยังครับเจ้าหญิง"ตุ้ยหัวเราะลั่นเมื่อเห็นแม่กระต่ายน้อยของเขาแยกเขี้ยวอวดฟันซี่ขาวๆที่ดูเหมือนเธอกำลังฉีกยิ้มจนตาหยีซะมากกว่า
"หลับก็หลับ"มิ้นหลับตาปี้จนแก้มใสของเธอย่นลง ตุ้ยอดไม่ได้ที่จะบิดแก้มนุ่มของเธอเบาๆก่อนจะกระชับมือน้อยของเธอเอาไว้แน่น
มิ้นอมยิ้มบางๆเมื่อรู้สึกได้ถึงมืออุ่นที่เธอโหยหามานานแสนนานจับมือของเธอเอาไว้ ไม่มาทางข้างหน้ามันจะมืดมิดหรือจะต้องพบเจอกับขวากหนามมากมายสักเท่าใด แต่เธอก็จะไม่หวั่นเกรงอีกแล้ว ถ้ามีมือๆนี้ของผู้ชายคนนี้ คนที่เธอรักหมดใจอยู่เคียงข้างกัน
"ลืมตาได้แล้วครับเจ้าหญิงน้อย"เสียงทุ่มนุ่มกระซิบข้างหูเธอเบาๆ
มิ้นกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงสว่างเบื้องหน้า มิ้นกวาดตามองไปรอบๆห้องเล็กๆน่ารักที่เธอจำได้ดีว่าที่นี้คือภูล้อมดาวนั้นเอง แล้วดวงตาเรียวสวยของเธอก็เอ่อคลอด้วยน้ำตาเมื่อเห็นภายในห้องรับแขกถุกประดับประดาไปด้วยแจกันแก้วใส่กุหลาบสีขาวที่เธอชื่นชอบ โหลปลาทองสองตัวของเธอก็ถูกตั้งไว้ที่โต๊ะตรงมุมห้อง เจ้ากระต่ายน้อยตุ๊กตาตัวโปรดนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายตัวสวยราวกับว่ามันกำลังรอคอยการกลับมาของใครคนหนึง และแล้วน้ำตาที่ถูกเก็บกลั้นเอาไว้ก็ต้องไหล่รินออกมา เมื่อมิ้นเห็นรูปถ่ายของเธอในทุกอิริยาบทกว่าร้อยใบถูกอัดกรอบและแขวนไว้จนทั่วไปหมด
"พี่ตุ้ยนี่มันอะไรกันค่ะ"เสียงสั่นเครือเอ้ยถามตุ้ยเบาๆ
"รูปพวกนี้นะหรอ พี่เป็นคนทำเองแหละเวลาเห็นรูปมิ้นแล้วพี่จะได้รู้สึกว่ามิ้นอยู่ใกล้ๆพี่ไง มิ้นเป็นคนแรกเลยนะที่มีโอกาสเข้ามาข้างในนี้"ตุ้ยยิ้มให้มิ้นอย่างอ่อนโยน
"ไม่ใช่ มิ้นหมายถึงพี่มาอยู่ที่นี้ ที่ภูล้อมดาวได้ยังไงค่ะ"
"พี่มาอยู่ที่นี้ได้ 3 เดือนแล้วละ ตอนนั้นพี่เพิ่งรู้สึกตัวว่าพี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมิ้น มันทั้งเจ็บแล้วก็ทรมานมาก แล้วพี่ก็บอกตัวเองว่าพี่จะอยู่เฉยๆปล่อยให้เวลามันผ่านเลยไปไม่ได้อีกแล้ว พี่ก็เลยตัดสินใจมาที่นี้ "
"ทำไมต้องเป็นที่ไร่ภูดาวด้วยละค่ะ "
"ก็เพราะมิ้นเคยบอกพี่ว่ามิ้นอยากมีบ้านหลังเล็กๆสักหลัง ที่ตื่นมาตอนเช้าจะมองเห็นหมอกขาวกับดอกไม้สวย ตอนกลางคืนก็นอนมองดาวพราวเต็มท้องฟ้าไง ตอนแรกพี่ขอซื้อที่นี้จากคุณย่าแต่คุณย่าก็ไม่ยอม พี่ก็เลยบอกไปว่าพี่ต้องการจะมารอผู้หญิงที่พี่รักที่นี้ คุณย่ามิ้นก็เลยพนันกับพี่ว่าถ้าภายใน 6 เดือน ผู้หญิงคนนั้นกลับมาคุณย่าจะยกที่นี้ให้พี่ พี่มั่นใจมากว่ามิ้นต้องกลับมา แล้วมิ้นก็มาจริงๆ"ตุ้ยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
"ทำไมพี่ตุ้ยถึงมั่นใจนักละค่ะว่ามิ้นจะกลับมา"มิ้นพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้
'ก็เพราะ..รัก.ไงมิ้น พี่เชื่อว่ารักของเราจะนำทางมิ้นกลับมาที่นี่ แล้วมิ้นก็กลับมาจริงๆ เป็นไงที่นี่สวยสมใจมิ้นไหม"
มิ้นมองหน้าชายคนรักก่อนจะโผเข้ากอดเขาอย่างตื้นตันใจ
"ค่ะ ที่นี้สวยมาก สวยมากกว่าที่มิ้นคิดอีก"มิ้นร้องไห้ออกมา ชายหนุ่มเช็ดน้ำตาให้หญิงคนรักอย่างแผ่วเบา
"อย่าขี้แยสิ ดีใจก็ร้องไห้ เสียใจก็ร้องไห้ ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆนะเรานะ มานี้มาพี่จะพาไปดูอะไรที่สวยกว่านี้อีก"
ตุ้ยจูงมือคนขี้แงที่ร้องไห้จนตาบวมไปที่ระเบียงหน้าบ้าน ตะเกียงเจ้าพายุดวงน้อยถูกจุดขึ้นส่องแสงวับวาวสวยงาม
ตุ้ยมองคนขี้แงที่ยิ้มกว้างตาเป็นประกายสดใสของเอ็นดู
"วันนี้ดาวสวยจังเลยค่ะพี่ตุ้ย เต็มท้องฟ้าไปหมดเลย"หญิงสาวมองดวงดาวสวยบนฟ้าอย่างชอบใจ ตุ้ยโอบกอดร่างบางจากด้านหลังอย่างแสนหลัง มิ้นยิ้มบางๆก่อนเอนกายพิงเขาไว้
"มิ้นดูดาวของเรามันยังอยู่เคียงข้างกันเสมอ ไม่ว่าตัวเรา 2 คนจะอยู่ห่างกันคนละขอบฟ้า มันก็คงเหมือนกับความรักที่เรามีให้กันใช่ไหม มันจะยังคงอยู่ตลอดไป"ตุ้ยพูดจบก็จูบเรือนผมสวยนุ่มมือของมิ้นเบาๆ มิ้นพลิกกายหันมาสบตาตุ้ยอย่างเจ้าเล่ห์
"ไหนพี่ตุ้ยลองบอกมิ้นมาสิว่ารักมิ้นตรงไหน"
"อืมมม ต้องไหนเนี่ย ไม่รู้สิ ดื้อก็ดื้อ ซนก็ซน ขี้แง แสนงอน ตาก็ตี๋ ขาก็ใหญ่ ..."
"โอ้ยย หยุดเลยนะ ไม่ต้องพูดแล้ว มิ้นมันมันไม่ดีสักอย่างงั้นไม่ต้องมารักมิ้นเลย"มิ้นสะบัดหน้าอย่างแงงอนแล้วหันหลังทำหน้าบุ้ยอย่างไม่พอใจ ตุ้ยอดหัวเราะไม่ได้กับท่าทางที่แสนจะคุ้นตานี้ของเธอ ตุ้ยฉุดร่างบางมาไว้แนบตัวอีกครั้ง แต่แม่ตัวดีก็ยังยอมหน้าเขาอยู่ดี
"พี่ยังพูดไม่จบเลยนะ พี่จะบอกว่าถึงมิ้นไม่มีอะไรดีสักอย่าง แต่พี่ก็รักมิ้นจนหมดใจ ก็คนมันสะดุดรักแม่ตัวจุ้ยคนนี้ไปแล้วนิจะถอนตัวยังไงก็ไม่ทันแล้ว" ตุ้ยยิ้มขำมิ้นก้มหน้าแอบยิ้มอย่างเขินๆ
"แล้วมิ้นละรักพี่ตรงไหน"
"อะไร ใครบอกว่ามิ้นรัก พี่มิ้นไม่รักซะหน่อย"มิ้นแกล้งเชิดหน้าสูง ตุ้ยมองแล้วอดหมั้นไส้ไม่ได้
"ไม่รักใช่ไหม ไม่รักก็ต้องโดนแบบนี้" ตุ้ยระดมจูบใบหน้าใส เรือนผมสวย ไร้ไปถึงซอกคอขาวของมิ้นอย่างหมั้นเขี้ยว
"หยุดนะพี่ตุ้ย พอแล้ว มิ้นจั๊กจี้นะหยุดดด"ไรหนวดบริเวณแก้มคร้ามของเขากระทบกับผิวกายนุ่มของเธอจนทำให้มิ้นทั้งขนรุกทั้งเขินอายไปหมด
"งั้นก็บอกมาก่อนว่ารักพี่ไหม"ตุ้ยแกล้งจ้องมองมิ้นดุๆ
"รัก"มิ้นพูดเบาๆ
"ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน"
"ก็บอกว่า รักไง"
"อะไรนะ ถ้าไม่ตบดังๆพี่จูบต่อดีกว่า"ตุ้ยทำท่าจะก้มลงจูบมิ้นอีกจนสาวน้อยตกใจ
"มิ้นรักพี่ตุ้ยค่ะ ได้ยินไหม'มิ้นตะโกนเสียงดังลั่นใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นชมพูระเรื่อด้วยความเขินอาย
"ดีมาก อย่างนี้ค่อยสมเป็นคุณหนูมิ้นของพี่หน่อย"ตุ้ยยิ้มชอบใจ
"แล้วพี่ตุ้ยละรักมิ้นรึป่าว ตอบมาดังๆด้วยนะ"มิ้นเอียงคอถามตุ้ยอย่างน่ารัก
"พี่ตุ้ยรักน้องมิ้นครับ และจะรักน้องมิ้นตราบที่พี่ยังมีลมหายใจ พี่สัญญา"
ตุ้ยสบตากับมิ้นนิ่งราวกับทั้งคู่จะส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดภายในใจถึงกันได้ ชายหนุ่มก้มลงประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากนุ่มสวยของเธออย่างแสนรัก หญิงสาวยกแขนเรียวโอบกระชับชายหนุ่มอย่างเปี่ยมไปด้วยรักไม่ต่างกัน ท่ามกลางหมู่ดาวนับล้านดวงที่โอบล้อมร่างของเขาและเธอ หัวใจที่เคยจากกันไปไกลแสนไกลได้กลับมาเคียงคู่อีกครั้ง ด้วยทั้งสองใจยังคงมีสิ่งหนึ่งที่โยงใยหึงกันเสมอมา สิ่งนั้นก็คือ "ความรัก" นั้นเอง
Fiction..สะดุดรักยัยตัวจุ้น
ตอน
เจ้าสาว(มิ้น)กลัวฝน
"วันแต่งงาน คือ วันที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันถึง ฉันควรจะมีความสุขไม่ใช่หรอ แต่ทำไมฉันถึงได้รู้สึกกลัวอย่างนี้นะ"
มิ้นมองตัวเองในชุดแต่งงานลายลูกไม้สีขาวบริสุทธิ์ เอวบางที่คาดทับด้วยผ้าสีชมพูอ่อน
ผมยาวสวยถูกรวบเกล้าแย่งปราณีต ใบหน้าหวานใสถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางค์ราคาแพงในโทนสีชมพูเข้ากับผิวขาวนวลละเอียดของเธอ หญิงสาวยอมรับว่าวันนี้ตนเองดูสวยแปลกตาราวกับไม่ใช่ตัวเธอเลยด้วยซ้ำ จิตใจของว่าที่เจ้าสาวคนใหม่สับสนว้าวุ่นไปหมด
"มิ้น ออกเย้าออกเรือนไปแล้วจะมาซนไม่ได้แล้วนะลูก"เสียงคุณย่าดังขึ้น
"มิ้น ถ้าไ อ้หมอนั้นมำนทำอะไรให้ลูกไม่สบายใจบอกพอนะลูก"เสียงคุณพ่อตามมา
"มิ้น หนูต้องหัดทำกับข้าวเป็นแม่บ้านแม่เรือนบ้างนะลูก"เสียงคุณแม่ด้วย
"มิ้น เธอต้องรีบมีหลานในฉันเล่นเร็วๆนะ"ว้าย ยัยร่าฉันยังไม่อยากมีลูกนะ
"มิ้น ระวังนะคืนเข้าหอวันแรกอะ 555++พี่ไม่อยากจะคิด"ไ อ้พี่ก้อพูดบ้าอะไรเนี่ย
"มิ้น เวลาไ อ้ตุ้ยมันเมานะ พี่ไม่อยากจะพูดเลย 555++"เสียงหัวเราะกระชากวิญญาณของพี่ตุ้ยยังดังอยู่ในหูเลย
มิ้นทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรง "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกกลมๆของมิ้นเนี่ย มิ้นเพิ่งเรียนจบนะ งานก็ยังไม่ได้ทำ ทำไมมิ้นต้องมาแต่งงานแล้วเนี่ย มิ้นไม่น่าหลวมตัวไปหับบรรยากาศวันนั้นเลยยย"
1 เดือนก่อน
ณ มหานครลอนดอน ท่ามกลางฤดูหนาวอันแสนจะหนาวเหน็บหิมะสีขาวสวยโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้ายามคำคืนราวกับดาวดวงน้อยที่กำลังผลัดหล่นมาจากฟากฟ้าอย่างนั้นแหละ หญิงสาวในชุดเสื้อโค๊ดตัวหนาสีชมพูกับผ้าพันคอสีขาวดูน่ารักกำลังวิ่งเล่นอยู่บนสนามหลังคฤหาสตืหรูที่บัดนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ชายหนุ่มหน้าตาคมสันกอดอกมองดูหญิงคนรักอย่างเอ็นดู
"พี่ตุ้ยขา มาเล่นหิมะด้วยกันสิค่ะ สนุกนะ"เสียงใสตะโกนเรียกแฟนหนุ่ม
"ไม่เอาหรอกหนาวจะตาย มิ้นก็เลิกเล่นได้แล้ว โตจนเรียนจบรับปริญญาแล้วยังทำตัวไปเด็กๆอีก"ตุ้ยอดบ่นให้ความไม่รู้จักโตของเธอไม่ได้
"ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย โตแล้วก็เล่นได้ นิแนะขี้บ่นดีนัก"มิ้นปาหิมะก้อนโตกระทบใบหน้าของตุ้ยจังๆ
"จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม งั้นก็ต้องโดนอย่างนี้"
ตุ้ยคว้าหิมะจากพื้นขึ้นมาปามิ้นอย่างไม่ยอมแพ้ แล้วสงครามย่อยระหว่าง 2 หนุ่มสาวก็เริ่มขึ้น ทั้งสองคนวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน แต่แล้วหญิงสาวก็พลาดท้าล้มไปนอนแอ่งแม่งอยู่บนพื้นหิมะหนานุ่มนั้นทันที
"เป็นไงละซนดีนัก เจ็บไหมละ ส่งมือมา พี่ช่วย"
ตุ้ยยื่นมือตั้งใจจะช่วยดึงเธอให้ลุกขึ้น แต่แม่ตัวดีกลับแผลงฤทธิ์ฉุดเขาลงมา แล้วเหมือนกรรมจะตามทันสาวน้อยทันตาเมื่อร่างสูงของเขาล้มลงบนร่างน้อยที่นอนนิ่งราวกับโดนสะกด
ใบหน้าของคนถึงคู่อยู่ห่างกันแค่คืบจนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดใบหน้าชมพูระเรื่อของเธออยู่ ดวงตาคมของชายหนุ่มสบตากับดวงตาหวานละมุนของเธอนิ่ง
"มิ้น เรา 2 คนรู้จักกันมานานแค่ไหมแล้ว"
"เออ ก็ 4 ปีกว่าแล้วค่ะ"
"พี่รักมิ้นมาก มิ้นรู้ตัวรึป่าว"เสียงกระซิบแผ่วเบาของตุ้ยดังขึ้นข้างหูของมิ้น
"รู้ค่ะ"หญิงสาวพูดเบาๆ
"แล้วมิ้นรักพี่ไหมครับ"
"รักค่ะ รักมาก"มิ้นพยายามเบือนหน้าหลบตาคมที่อยูห่างเพียงคืบเดียวของเขา
"ถ้างั้น เราแต่งงานกัยเถอะนะมิ้น"
มิ้นรู้สึกราวกับฝันไป พื้นหิมะที่เคยเย็นชืดกลับอบอุ่นอย่างหน้าประหลาด เธอรู้สึกเหมือนเห็นแสงสว่างสีขาวจืดจ้าไปหมด หญิงสาวสบตาชายคนรักอย่างลึกซึ้งก่อนเอื้อนเอ่ยคำพูดที่มีค่าและพร้อมจะเปลี่ยนชีวิตของเขาและเธอไปตลอดกาล
"ตกลงค่ะ"
มิ้นพูดพร้อมหยาดน้ำตาแห่งความสุข เธอรู้สึกได้ถึงริมฝีปากอุ่นนุ่มของตุ้ยที่ก้มลงมาประทับเรียวปากบางของเธอ ตุ้ยกระชับอ้อมกอดมิ้นเอาไว้อย่างแสนรัก
มิ้นสะบัดหน้าเบาๆเหมือนกับจะไล่ความคิดเหล่านั้นไป
"มิ้นยังไม่พร้อม มิ้นไม่อยากแต่งงาน มิ้นจะหนี///"
มิ้นถอดชุดเจ้าสาวออกแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีขาวสวมคลุมทับด้วยเสื้อไหมพรมสีชมพูลายกระต่ายน้อยตัวโปรด เธอสวมกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบดูทะมัดทะแมง เรือนผมที่ถูกเกล้าอย่างสวยงามถูกปล่อยสยายเหมือนเช่นทุกวัน หญิงสาวตัดสินใจปีนออกทางหน้าต่างแล้วเธอก็ วิ่ง วิ่ง และวิ่งออกไปด้วยหัวใจที่สับสน
"////แย่แล้วค่ะ แย่แล้ว ยัยมิ้นหายไปค่ะ////"ซาร่าวิ่งหน้าตาตื่นพร้อมกับแผดเสียงอย่างตกใจ
"เบาเสียงหน่อยซาร่า เดียวแขกเกรือเขาจะตกใจหมด ไหนลองพูดใหม่ช้าๆชัดๆให้อาฟังสิ"คุรโกวิทย์พูดอย่างมรสติ
"คือหนูขึ้นไปตามยัยมิ้นบนห้องอะค่ะ แต่พอเข้าไปหนุก้เห็นชุดเจ้าสาวถูกถอดไว้บนเตียง แล้วยัยมิ้นก็ไม่อยู่ในห้องด้วยค่ะ"
"ตายแล้วว หายไปเนี่ย ย่าจะเป็นลม"แม่เลี้ยงมินตราทำท่าจะเป็นลมไปจนก้อต้องประคองคุณย่าเอาไว้
"แล้วเราจะทำยังไงกันดีละค่ะคุณ ยัยมิ้นไม่หน้ามาก่อเรื่องเอามันนี้เลย"คุณวาสนาทำท่าจะร้องไห้กับความแสบซนของลูกสาวคนเดียว
"ทุกคนใจเย็นๆนะครับ อย่าเพิ่งให้แขกในงานรู้ เดียวผมจะไปตามมิ้นกลับมาเอง"ว่าที่เจ้าบ่าวหนุ่มในชุดสูทสีขาวสง่าพูดอย่างใจเย็น
"นายรู้หรอว่าลูกสาวฉันอยู่ที่ไหน"คุรโกวิทยืถามอย่างสงสัย
"ผมคิดว่าผมรู้ครับ ผมจะพามิ้นกลับมาให้ได้ครับ"ตุ้ยพูดจบก็รีบออกไปจากงานทันที
ชายหนุ่มมองร่างบางที่นั่งกอดเข่าเหม่อมองไปยังทิวเขาสูงสวยด้านหน้าภูล้อมดาวอย่างเอ็นดู เขารู้ดีว่าเวลาใดที่เธอทุกข์ใจหรือเสียใจเธอก็มักจะมานั่งเงียบๆตรงนี้คนเดียวเสมอ ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งข้างหญิงสาวช้าๆ
"มาทำอะไรตรงนี้ฮะ ยัยกระต่ายน้อย"ตุ้ยเอ่ยถามหญิงสาวเบาๆ
"ป่าว ไม่ได้มาทำอะไร มิ้นจะไปแล้ว"หญิงสาวเช็ดน้ำตาบนใบหน้าตัวเองลวกแล้วทำท่าจะลุกขึ้น แต่มือหนาของตุ้ยกลับฉุดรั้งเธอไว้ก่อน
"ไม่ให้ไป นั่งคุยเป้นเพื่อนพี่ก่อนสิ "ตุ้ยโอบเอวบางของคนตัวเล็กไว้ไม่ให้เธอหนีไปได้
"คุยอะไร มิ้นไม่มีอะไรจะคุยซะหน่อย"มิ้นพูดเสียงงู้งี้ไม่ยอมสบตาตุ้ยเลย
"ทำไมมิ้นหนีออกมาละครับ มิ้นไม่อยากแต่งงานกับพี่หรอ หรือว่ามิ้นไม่รักพี่แล้ว"ตุ้ยสบตาแดงๆของเธอนิ่ง
"ป่าวไม่ใช่นะ มิ้นรักพี่ตุ้ยนะ"สาวน้อยรีบปฎิเสธทันที จนคนถามแอบอมยิ้มไม่ได้
"แล้วมิ้นหนีออกมาจากงานแต่งงานของเราทำไมละครับ"
"ก็ ก็ มิ้นกลัว มิ้นกลัวว่าถ้าแต่งงานไปแล้วชีวิตมิ้นจะเปลี่ยนไป มิ้นไม่รู้ว่ามิ้นจะทำตัวเป็นภรรยาที่ดีของพี่ได้ไหม มิ้น มิ้น มันเป็นเด็กไม่รู้จักโตที่ตุ้ยก้รู้ ฮืออออออออออออ"มิ้นปล่อยโฮลั่นจนตุ้ยต้องคว้าร่างน้อยของเธอมากอดเอาไว้แน่น
"มิ้นไม่ต้องกลัวนะ อย่ากังวลเลย พี่ไม่เคยคาดหวังให้มิ้นเปลี่ยนแปลงตัวเองอะไรเลย มิ้นไม่จำเป็นต้องดีเป้นซะทุกอย่าง ไม่ต้องพยายามทำอะไรให้พี่ เพราะแค่นี้ที่มิ้นเป็นพี่ก็รักมิ้นจนจะบ้าอยู่แล้ว"ตุ้ยกดจมูกลงบนเรือนผมสวยของเธอเบาๆ
"จริงๆหรอ"มิ้นเอีงคอมองตุ้ยอย่างน่ารัก
"ก็จริงนะสิ แต่ถ้ามิ้นไม่อยากแต่งจริงๆพี่ก็ไม่บังคับนะ"ตุ้ยมองมิ้นด้วยดวงตาเศร้าๆ
"ใครบอกว่ามิ้นจะไม่แต่งละ"มิ้นพูดเบาๆ
"ว่าไงนะ สรุปว่ามิ้นจะแต่งงานกับพี่ไหม"
"อืมม แต่งค่ะ"มิ้นพูดเขินๆ
"แต่งวันนี้เลยนะ"
"อืม ก็วันนี้ไง"
"ดีมากงั้นก็รีบไปกันเลย"
ตุ้ยพูดจบก็อุ้มมิ้นจนตัวลอยเลยทีเดียว
"ว้ายย พี่ตุ้ยทำอะไรเนี่ย มิ้นเดินไปเองได้นะ"มิ้นร้องอย่างตกใจ
"ไม่ได้ ขืนปล่อยให้เดินไปเดี๋ยวก็วิ่งหนีพี่ไปอีก ยิ่งซนๆอยู่ด้วย"
"พี่ตุ้ยมิ้นมีอะไรจะบอก"
"บอกอะไรครับ"ตุ้ยสบตาคนในอ้อมแขนอย่างสงสัย
"มิ้นรักพี่ตุ้ยนะค่ะ"
"พี่ก็รักมิ้นครับ"
ตุ้ยก้มลงจูบพวงแก้มสีชมพูระเรื่อของแฟนสาวที่กำลังจะกลายเป็นภรรยาของเขาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าอย่างแสนรัก
จบบริบูรณ์
ฟิคสะดุดรักยัยตัวจุ้น
ตอน
ฮัลนีมูน อิน มัลดีฟ By พี่ตุ้ย
สวัสดีครับทุกคนวันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากเลยครับ แปลกใจหรอครับว่าทำไมผมถึงมีความสุขนักก็เพราะว่าวันเนี่ยเป็นวันที่ผมกับสุดที่รักของผมจะใครซะอีกละครับก็ น้องมิ้น ยัยตัวจุ้นของผมไงครับมาฮัลนีมูนกันที่มัลดีฟทะเลในฝันของเรา 2 คนไงครับ ที่จริงผมกับเธอก็แต่งงานกันได้ 1 เดือนกว่าแล้วละครับแต่คุณพ่อตาผมสิครับไม่ยอมปล่อยให้ลูกสาวไปไหนไกลตาเลยดีนะครับที่คุณแม่ยายแสนดีของผมเขาช่วยชวนกึ่งบังคับคุณพ่อตาให้ไปทัวส์เมืองจีนด้วยกันนะสิ ผมถึงได้พาภรรยาคนสวยมาที่นี้ได้
"พี่ตุ้ยขา หยิบครีมกันแดดให้มิ้นหน่อยสิค่ะ"นั่นไงเธอเรียกผมแล้ว เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อเตรียมไปเล่นน้ำทะเลสวยๆกับผมหนะครับ
"มิ้นจ้า ออกมาเถอะ เดียวพี่ทาให้เองดีกว่า"โอกาสดีๆอย่างนี้ได้ยัง
"ก็ได้ค่ะ มิ้นออกไปแล้วนะ"
โอ้....พระเจ้าทำไมเธอถึงน่ารักอย่างนี้ มิ้นอยู่ในชุดบีกีนีสีชมพูสดใส ผิวขาวเนียนละเอียดไปทั้งตัว หน้าท้องแบนราบ เรียวขายาวเรียวสวย ผมยาวตรงถูกปล่อยสยายไร้ซอกคอและเนินอกอิ่ม แก้มใสเป็นสีชมพูระเรื่อจากไอแดด แล้วก็...ปากอิ่มหน้าจู..นั้นของเธอนั้น ผมรู้จักได้ถึงหัวใจที่เต้นระรั่วจนแทบจะระเบิดของตัวเอง
"ทำไม มิ้นไม่น่ารักหรอ พุงป่องรึป่าวเนี่ย"มิ้นสำรวจตัวเองอย่างไม่มั่นใจ ผมละชอบจริงๆคนน่ารักที่ไม่รู้ว่าตัวเองน่ารักเนี่ย อิอิ แต่ๆ ผมไม่อยากให้ใครเห็นเธอ ไม่อยากไม่ใครมองตัวเธอ ใช่ครับ ผมหวง ผมหึง แต่จะทำไมละก็เธอเป็นภรรยาผมนิ
"ไปเปลี่ยนชุดเลยมิ้น โป๊ไปแล้ว"
"พี่ตุ้ยนี่มันทะเลนะ ใครๆเขาก็ใส่บีกีนีกันทั้งนั้น"
"ไม่ได้ ไปเปลี่ยนเลย พี่ไม่ชอบ"
"ไม่เปลี่ยนๆๆๆๆ"
เราเถียงกันอยู่เกือบชั่วโมงจนได้ข้อสรุปว่าเธอยอมสวมกางเกงขาสั้นทับบีกีนีตัวจิ๋ว ส่วนท่อนบนก็คลุมทับด้วยผ้าคลุ่มไหล่บางๆหนึ่งผืน ผมเดินจูงมือของมิ้นไปตามชายหาด ผมสังเกตุเห็นไ อ้พวกฝรั่งผมทองจ้องมองเธอตาเป็นมันเลย ผมเลยรวบร่างบางๆของเธอมาโอบไว้ทันที ก็ให้มันรู้ซะมั้งสิว่าใครเป็นใคร 555
"พี่ตุ้ยมาโอบมิ้นทำไม อึดอัดนะ"
"ก็พี่รักมิ้นนิ อยากกอด แล้วก็อยากทำอย่างนี้ด้วย"ผมจุ๊บแก้มเธอฟอดใหญ่อยากหมั้นเขี้ยว แก้มใสของเธอแดงขึ้นด้วยความเขินอาย ผมละอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้ซะจริงๆ
"เฮ แรทบี้ แรทบี้ นั่นเธอใช่ไหม"ใครวะเสียงแปร่งๆมันพวกฝรั่ง แล้วก็ใช่จริงๆด้วยมันเป็นฝรั่งผมทองตาสีฟ้าแถมมันยังหล่อยังกับพระเอกหนังฮอลีวูดเลย
"เฮ แฮรี่ มาได้ยังไงเนี่ย"มิ้นผละจากอกผมไปโผเข้ากอดไ อ้ฝรั่งตัวล่ำนั่นอย่างสนิท โอ้ย ผมจะบ้า มันอะไรกันเนี่ย
"แฮรี่เธอมาได้ยังไง แล้วมากับใครเนี่ย"
"ฉันก็เที่ยวคนเดียวอยู่แล้วละ แล้วที่รักละจ๊ะมากับใคร"ไ อ้บ้านั่นมันเรียก มิ้น ว่า ว่าที่รัก ทนไม่ไหวมิ้นแล้วนะโว้ย
"มิ้น จะไม่แนะนำให้พี่รู้จักเพื่อนมิ้นหน่อยสิ"
"อ้อ มิ้นก็ลืมไป พี่ตุ้ยค่ะนี่แฮรี่เพื่อนมิ้นที่อังกฤษค่ะ มิ้นนี่พี่ตุ้ยเป็น.."
"สามีมิ้นครับ"ผมถือโอกาสโอบมิ้นอย่างหวงๆ
"เออ หรอครับ เหอๆแต่งงานแล้วไม่บอกแฮรี่เลยนะ"ไ อ้แฮรี่เกาเมาแกรกๆแก้เก้อไปเลย 55++
"อืม มิ้นขอโทษนะจ๊ะ พอดีมันเป็นงานเล็กๆนะจ๊ะ ไม่ค่อยได้เชิญใครหรอก"
"คุณตุ้ยครับ ผมขอตัวมิ้นสักครู่นะครับ"
ยังไม่ทันจะได้รับอนุญาติเลย เจ้าแฮรี่ก็คว้าข้อมือขาวของมิ้นไปกระซิบกระซาบอะไรกันก็ไม่รู้ แถมมิ้นยังหัวล่อต่อกระซิกกันสนุกสนานอีก ผมเริ่มจะโกรธแล้วนะแถมหึงด้วย ก็น่าจะรู้นะว่าผมเวลาโกธ+หึงแล้วจะเป็นยังไง ผมสะบัดหน้าพรึดเดินเข้าห้องไปทันที
ผมรู้สึกว่าตัวผมมันร้อนไปหมดแล้ว ร้อนจนจะระเบิดผมคงต้องอาบน้ำดับดับโหซะหน่อยแล้ว ผมจัดการถอดเสื้อและกางเกงเหลือเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ผมรู้สึกได้ถึงร่างอุ่นๆที่กอดผมไว้จากด้านหลัง
"พี่ตุ้ยจะขึ้นมาบนห้องทำไมไม่บอกมิ้นสักคำละค่ะ"มิ้นส่งเสียงออดอ้อน ถ้าเป็นวันนั้นคงน่ารักแต่ตอนนี้มันไม่เลยรับ
"พี่จะไปไหนมิ้นสนใจด้วยหรอ"
"สนใจสิค่ะ มิ้นไม่สนใจพี่ตุ้ยแล้วมิ้นจะสนใจใครละค่ะ คนดี"แม่ตัวดีซุกหน้าลงกับแผ่นหลังของผมอีกครั้ง ริมฝีปากกับลมหายใจอุ่นเปารดร่างผมจนร่างกายที่ร้อนของผมร้อนขึ้นเป็นสองเท่าแล้ว
"ก้ ก้ไ อ้ฝรั่งแฮรี่เพื่อนรัก สวีทฮาร์ทของมิ้นไง"
มิ้นวิ่งปรู๊ดมาดักหน้าผม แล้วหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี
"นี่อย่าบอกนะว่าพี่ตุ้ยหึงมิ้นกับแฮรี่นะ 555"
"ก็ใช่นะสิ ก็เล่นกระซิบกระซาบกันจนหน้าแทบจะแนบหน้าแบบนั้น คุยอะไรกันนักหนา"ผมหน้าบู๊ดขึ้นทุกที
"พี่ตุ้ยมานั่งนี่ก่อนแล้วมิ้นจะเล่าให้ฟังนะ"
มิ้นจูงผมไปนั่งลงบนเตียงนอนกว้างก่อนจะทิ้งล่างนุ่มๆของเธอลงบนตักผมอย่างเอากอกเอาใจ
"จะเล่าก็เล่ามาสิ พี่ร้อน"ความจริงผมไม่ค่อยร้อนแล้วนะครับ มันผ่อนคลายต่างหากที่เธอมานั่งอยู่ตรงนี้ ซบอยู่บนอกผมแบบนี้
"คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ"มิ้นกระซิบเบาๆข้างหูของผม แต่สิ่งที่เธอพูดทำผมเกือบจะบ้า
"ห๊า ...ไ อ้แฮรี่มันชอบพี่ มันเป็นเกย์งั้นหรอ"
"555 ก็ใช่นะสิ แฮรี่เขาเจอพี่ที่สนามบินแต่เขาไม่เห็นมิ้นไง แล้วเขาก็เลยแอบชอบพี่ พี่ตุ้ยยังจะกล้าหึงแฮรี่อีกไหมค่ะ"มิ้นหัวเราะคิกคักชอบใจ
"โอ้ยยย ไม่เอาแล้วขนลุกชะมัดเลย "
"งั้นพี่ตุ้ยก็ไปอาบน้ำเถอะเด้วมิ้นส่งอาหารมาให้นะค่ะ"
มิ้นทำท่าจะลุกจากตักผม แต่เรื่องอะไรผมจะยอม ผมจับร่างเธอวางบนเตียงก่อนจะพลิกตัวทาบทับเธอเอาไว้
"พี่ไม่อยากกินอะไร นอกจาก มิ้นคนเดียว"ผมจ้องมองเขาไปในมองตาสั่นไหวด้วยความเขินอายของเธอ
"พี่ตุ้ย ทะลึ่ง"ปากเรียวขยับน้อยๆ
"ทะลึ่งแล้วรักไหมละ"
"ก็รักไง"
มิ้นหลบตาผมอย่างน่ารัก ผมประกบริมฝีปากหนาของผมลงบนปากเรียวบางที่แสนหวานของเธออย่างดูดดื่ม ก่อนจะพรมจูบลงใบหน้าสวย และซอกคอขาวๆของเธอ มือใหญ่ของผมค่อยๆเลื่อนสายบีกีนีเส้นจิ๋วออกจากไหล่เนียนของเธอ แต่แล้วสิ่งที่ไม่ขาดคิดก้เกิดขึ้น
"อุ๊บ..."มิ้นผลุดลุกขึ้นพลางปิดปากของตัวเองเอาไว้ด้วยใบหน้าเหย่เก
"มิ้นเป็นอะไร "ผมตกใจจนแทบบ้าแล้ว
"พี่ตุ้ยเหม็น มิ้นจะ อะ อ้วกก"พูดยังไม่ทันจบภรรยาของผมก็รีบไปอาเจียนอย่างหนักให้ห้องน้ำ ปล่อยให้ผมนั่งหน้าเอ่ออยู่คนเดียว
"เห้ย..ตัวเราก็ไม่เหม็นนิ มิ้นเป็นอะไร อ้วก อาเจียน หรือว่า หรือว่า มิ้นจะ ทะ ท้องงงงงงง
ไชโยยยยยยยยยยยย ไ อ้ตุ้ยจะกลายเป็นพ่อคนแล้ว ลูกกกกกก มิ้นจ้า พี่ตุ้ยไปหาแล้วจ้า"
ใครจะว่าผมเป็นกระต่ายตื่นตูมก็เอาเถอะแต่ผมมันใจในน้ำยาของตัวเองนิครับ 555++ลูกกระต่ายตัวน้อยของผมต้องกำลังจะมาเกิดแน่ 555 อย่าลืมติดตามเรื่องราวของพวกเรา 3 พ่อ แม่ ลูก ได้ในสะดุดรักยัยตัวจุ้น ตอนพิเศษอีกนะครับ แต่จะมาเมื่อไรไม่รู้ต้องถามคุณคนแต่งเอานะครับ ตอนนี้ผมขอลาไปดูแลภรรยาสุดที่รักขอผมก่อนนะครับ บะบายย
***แต่งไปแต่งมามันชักเพี้ยนแล้วสิ ก็อ่านกันขำๆแก้เครียดก็แล้วกันนะจ๊ะ อิอิ**
สะดุดรักยัยตัวจุ้น(ภาคพิเศษ)
ตอน
ลูกไม้ใต้ต้น
“คุณพ่อ คุณแม่ขา พี่ซัน ป้าซาร่า แล้วก็ลุงต้ามาแล้วค่ะ”เด็กหญิงแก้มยุ้ย ตากลมวิ่งโผเข้ากอดพ่อกับแม่อย่างตื่นเต้น
“มากันแล้วหรอเนี่ยไหนบอกว่าจะมาถึงเย็นๆไง มิ้นตื่นเต้นจังเลยค่ะพี่ตุ้ยไม่ได้เจอพี่ต้ากับยัยร่าตั้งเกือบปีเลยนะเนี่ย”มิณฑิตาในวัย 32 ปี แต่ยังคงความสวยน่ารักไว้ได้ไม่สางซา ใบหน้าหวานส่งยิ้มให้เกียรติกมลสามีหนุ่มอดีตนักร้องซุปเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของเมืองไทยที่ขณะนี้ผลันตัวมาเป็นนักแต่งเพลงในกับศิลปินหน้าใหม่แทนและมีเพียงในโอกาสพิเศษจริงๆเท่านั้นที่เขาจะออกจากไร่ภูดาวที่เงียบสงบไปร้องเพลงอันไพเราะให้บรรดาแฟนคลับได้ฟังกัน
“อยากเจอยัยร่าหรือนายต้ากันแน่ฮะ”ตุ้ยอุ้มลูกสาวตัวเล็กมาไว้บนตักพลางมองหน้าภรรยาสาวสุดที่รักอย่างไม่พอใจ
“เอ๊ะ พี่ตุ้ยนี่ทำไมพูดแบบนี้ละ มิ้นก็อยากเจอทั้งยัยร่า พี่ต้า แล้วก็นายซันนี่ด้วยนะแหละ อายุปูนนี้แล้วยังมาหึงอีก ไม่อายลูกบางหรอค่ะ”
“คุณพ่อหึงคุณแม่หรอค่ะ แล้วหึงมันแปลว่าอะไรหรอค่ะคุณพ่อ กระต่ายไม่เข้าใจค่ะ”เด็กหญิงพิมพ์ดาว หรือแม่หนูกระต่ายวัย 5 ขวบ จ้องมองผู้เป็นพ่อตาแป๋วด้วยความสงสัย
“อืม จะพูดยังไงดีละ เอาเป็นว่าคุณพ่อรักคุณแม่ม๊ากมากก็เลยหึงไงครับ กระต่ายน้อย”
“หรอค่ะ ถ้างั้นคุณพ่อก็ต้องหึงกระต่ายสิค่ะเพราะคุณพ่อบอกว่ารักกระต่ายที่สุดในโลกไง”แม่หนูยิ้มกว้างอวดลักยิ้มที่มุมแก้มด้านซ้ายซึ่งถอดแบบว่าจากผู้เป็นแม่อย่างไร้เดียงสา
“555++เอาละสิพี่ตุ้ย อธิบายให้ลูกฟังเลยนะ อยากมั่วดีนัก”มิ้นหัวเราะลั่นกับความช่างคิดของลูกสาวคนเล็ก
“โอ้ย ไม่ใช่แบบนั้นนะกระต่ายน้อย พ่อรักหนูจ๊ะ แต่พ่อหึงหนูไม่ได้พ่อหึงแม่ได้คนเดียว นั้นไงคุณลุง คุณป้า พี่ซันนี่ของหนูมานู้นแล้วไง”
ตุ้ยรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีก่อนที่แม่หนูน้อยจะสงสัยอะไรขึ้นมาอีก แล้วรีบอุ้มลูกสาวตัวน้อยไปต้อนรับครอบครัวของเพื่อนสนิททันที ทุกคนยิ้มให้กันอย่างดีใจมีก็แต่เพียงเด็กชายตากลมโตที่กำลังจ้องมองเด็กชายลูกครึ่งหน้าตาน่ารักอย่างไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
“ยัยมิ้น โอ้ยฉันคิดถึงเธอจังเลย”ซาร่าหญิงสาวร่างเล็กที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาโผเข้ากอดเพื่อนรักด้วยความดีใจ
“ฉันก็ดีใจเหมือนกันแหละ ไม่ได้เจอกันตั้งเกือบปีเลย พี่ต้าสวัสดีค่ะ คุณลุง คุณป้าสบายดีไหมค่ะ”มิ้นหันไปทักต้าที่ยังคงหล่ออบอุ่นอยู่เช่นเดิมอย่างสนิทสนม
“ก็สบายดีนะจ๊ะ ยังบ่นคิดถึงมิ้นกับหลานๆอยู่บ่อยๆเลย”ต้าส่งยิ้มให้มิ้นแล้วลูบเส้นผมดำขลับของเธอตามความเคยเช่น
“อะแฮ่ม สวัสดีครับคุณต้า ซาร่า”ตุ้ยกระแอ่มเบาๆพลางโอบภรรยาสาวอย่างเป้นเจ้าข้าวเจ้าของจนทั้งต้าและซาร่าอดหัวเราะขำๆกับความขี้หึงของนักร้องมาดเข้ม
“ตายแล้ว นี่ตาต้นน้ำใช่ไหมเนี่ย ตัวโตขนาดนี้เลยหรอหล่อเหมือนพ่อเลยนะเนี่ย ไหนมาให้ป้ากอดหน่อยสิครับ”
“สวัสดีครับป้าซาร่า ลุงต้า”เด็กชายพันตะวัน หรือนายต้นน้ำวัย 8 ขวบลูกชายคนโตที่หล่อเข้มถอดแบบผู้เป็นพ่อมาเกือบทั้งหมดจะมีก็เพียงแต่ผิวขาวๆนั่นแหละที่ได้มาจากแม่บ้างที่ก็ยิ่งทำให้เด็กชายดูน่ารักขึ้นไปอีกยกมือไหว้คุณลุงกับคุณป้าอย่างนอบน้อม
“ต้นน้ำไม่ทักทายน้องหน่อยละลูก”มิ้นเอ่ยท่วงลูกชายจอมกวน
“ต้นน้ำมีน้องสาวคนเดียว ไม่มีน้องชายซะหน่อย”ต้นน้ำเมินหน้าไม่มองเด็กชายลูกครึ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ต้นน้ำ เสียมารยาท”มิ้นดุลูกชายเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับน้ามิ้น ความจริงซันกับต้นก็ห่างกันแค่ครึ่งปีเองไม่ต้องเป็นพี่เป็นน้องกันหรอกครับ จริงไหมต้น”นรินทัศน์ หรือ ซันนี่ ลูกชายคนเดียวของสักกทัศน์และนรินธารา เจ้าของผมและดวงตาสีน้ำตาลและผิวขาวจัดที่ทำให้เขาดูคล้ายเด็กฝรั่งส่งยิ้มให้เด็กชายเจ้ากวนอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีซัน”พันตะวันยิ้มเจ้าเล่ห์พลางส่งมือให้เด็กชายรูปหล่อตรงหน้าที่ยืนมือหมายจะจับทักทายเขา แต่พ่อตัวดีกลับชักมือหนีอย่างกวนๆแทน
“ตาต้น ร้ายจริงๆเลยนะ ร้ายเหมือนใครเนี่ย”มิ้นส่งสายตาเขียวปัดให้สามีอย่างพาลๆ
“อ้าวไงมาลงที่พี่ละ แต่ถึงร้ายก็รักนะครับ 555++”ตุ้ยไม่พูดปล่าวพลางจุ๊บแก้มภรรยาคนสวยเบาๆซะหนึ่งทีทำเอาทุกคนหัวเราะกับลั่นกับความซ่าไม่เปลี่ยนของนายตุ้ย
“เอ้ แล้วคนสวยคนนี้ใครเอ้ย แนะนำตัวให้ลุงต้ารู้จักหน่อยสิครับ”ต้าก้มลงมองเด็กหญิงผมยาวสีดำขลับถูกถักเป็นเปีย 2 ข้างที่กำลังส่งยิ้มหวานคุ้นตาให้เขาอยู่
“สวัสดีค่ะลุงต้า ป้าซาร่า พี่ซัน กระต่ายน้อยเองค่ะ”แม่หนูน้อยชู 2 นิ้วและยิ้มน่ารักให้ทุกคน
“โอ้ยน่ารักจังเลย กระต่ายน้อยหนูนี่เหมือนแม่มิ้นยังกับแกะเลยนะเนี่ย ผิดกันอยู่อย่างเดียวเท่านั้นเอง”
“อะไรยะ ยัยร่า พูดดีๆนะ”
“ก็ตาไงต้องขอบคุณพี่ตุ้ยนะเนี่ยที่ให้ตากลมโตแป๋วแหววกับยัยต่าย ถ้าหนูต่ายตาเล็กเป็นเม็ดก๋วยจี้แบบยัยมิ้นละแย่เลย 555”
“เดี๋ยวเหอะยัยร่า”มิ้นตีแขนเพื่อนรักเบาๆ
“เออ ตาซันไหนบอกว่าซื้ออะไรมาให้น้องกระต่ายไงลูก”ต้าลูบหัวลูกชายคนเดียวอย่างเอ็นดู
“นี่ครับ พี่ซันให้กระต่ายน้อยครับ”เด็กชายยื่นกล่องของขวัญสีสวยให้น้องสาวหน้าใสตาหวานอย่างใจดี ท่ามกลางสายตาดุของพี่ชายแท้ของแม่หนูน้อย
“ขอบคุณค่ะพี่ซัน งั้นกระต่ายแกะเลยนะค่ะ”พิมพ์ดาวรีบลงมือแกะของขวัญอย่างรวดเร็วแล้วตาโตก็ส่องประกายวาววับเมื่อเจอของถูกใจแบบที่สุด
“ว้าว ตุ๊กตากระต่ายน่ารักจังเลยค่ะ ขอบคุณมากเลยนะค่ะพี่ซัน”แทนความดีใจกระต่ายโผเข้าหมายจะกอดพี่ชายรูปหล่อด้วยความดีใจ แต่กลับร่างสูงของพี่ชายแท้ๆของเธอเข้ามายืนแทรกตรงกลางระหว่างเธอกับเขาอย่างรวดเร็ว
“เย้ย..พี่ต้นมาขว้างกระต่ายทำไมเนี่ย”
“ก็กระต่ายจะไปกอดมันทำไมละ”ต้นน้ำฉุดแขนป้อมๆของน้องสาวไปไว้ข้างตัวอย่างหวงๆ
“ต่ายจะขอบคุณพี่ซันนิค่ะ เวลาพี่ต้นให้อะไรต่าย ต่ายก็ต้องกอดต้องหอมแก้มไม่ใช่หรอ”กระต่ายเอียงคอถามพี่ชายอย่างสงสัย
“มันไม่เหมือนกันนิ ต่ายน้อยหอมพี่ชาย กอดพี่ชายได้คนเดียว ห้ามกอด ห้ามหอมคนอื่น โดยเฉพาะไ อ้หัวแดงเนี่ย”นายต้นชี้หน้าหล่อๆของซันนี่อย่างโกรธๆ
“ต้นน้ำทำไมพูดจาไม่น่ารักเลยละลูก มันไม่ดีนะครับ ต้นรีบพาซันไปที่ห้องนอนดีกว่านะลูก”
“ห้องนอน ห้องไหนครับแม่มิ้น”
“ก้ห้องต้นไงครับ คืนนี้ซันนี่ต้องนอนห้องต้นนะครับ”
“ไม่เอา ไม่ยอม ไม่ได้ ต้นไม่ทางนอนกับนายซันแน่ๆ ไม่ยอมๆๆ”เด็กชายตาคมออกอาการพยศแล้ว
“งั้น พี่ซันนอนกับต่ายก้ได้ค่ะ”
“!!!ไม่ได้!!!”
เสียงประสานของคุณพ่อกับพี่ชายดังลั่นทำเอาทั้งกระต่ายน้อยและทุกคนที่นั้นถึงกับสะดุ้งความสามัคคีของพ่อตุ้ยและลูกต้น
“คืนนี้ซันนอนห้องต้น ตกลงนะเจ้าต้น”พ่อตุ้ยหันไปหาเจ้าลูกชายตัวดีที่ดูเหมือนจะรู้ใจคุณพ่อดี
“ได้ครับพ่อ ไปได้แล้วนายฝรั่งดอง”คุณชายต้นน้ำดูว่าง่ายขึ้นมาถนัดใจ
“กระต่ายไปด้วยนะค่ะ ไปกันเถอะค่ะพี่ซัน”กระต่ายยิ้มหวานคว้ามือของซันไปจับแล้วเดินไปด้วยกันอย่างร่าเริง
“เห้ย เจ้าซัน มาจับมือลูกสาวน้าได้ไง เจ้าต้นทำไมไม่ดูน้อง ไม่ได้นะต่ายน้อยของพ่อ รอพ่อตุ้ยด้วยลูกกกก”ตุ้ยตาลุกวาวเมื่อเห็นมือของลูกสาวสุดที่รักถูกเกาะกุมโดยลูกชายสุดหล่อของเพื่อนสนิท
“พี่ตุ้ยจะบ้าหรอ เด็กๆเขาจะเล่นกันหยุดหวงลูกได้แล้ว”
มิ้นทนไม่ไหวกับความหวงลูกสาวของคุณพ่อสุดหล่อรีบวิ่งตามไปจัดการทันที เหลือก็แต่เพียง 2 สามี ภรรยาแขกของบ้านที่ได้แต่มองหน้ากันอย่างปลงๆ
“สงสัยประวัติจะซ้ำรอยซะแล้วสิ ซาร่า”
“ยังไงหรอค่ะพี่ต้า”ซาร่าถามอย่างสงสัย
“ก็ตอนเด็กๆพี่หลงรักยัยมิ้นหัวปักหัวปำ แล้วตอนนี้ดูท่านายซันก็จะชอบหนูต่ายเอามากๆเลยดูสิปิดเทอมที่ไรต้องรบเร้าให้มาที่เมืองไทยทุกที”
“จริงด้วยสิ แต่คราวนี้ลูกเราจะลำบากนะค่ะ มีทั้งคุณพ่ออย่างพี่ตุ้ย กับ พี่ชายอย่างนายต้นคอยขว้างอยู่ซะด้วยสิค่ะ”ซาร่าส่ายหน้าอย่างหนักใจ
“ของอย่างนี้มันต้องดูกันยาวๆยังมีเวลาอีกมาก สู้เขานะเจ้าลูกชาย”ต้ายิ้มบางๆ
“สู้ๆนะลูกซัน”
ซาร่ายิ้มให้กับสามีทั้งคู่อดหัวเราะไม่ได้กับภาพความวุ่นวายของครอบครัวสุดวุ่นกับลูกชายสุดหล่อของพวกเขาที่ทำท่าจะสะดุดรักลูกสาวสุดที่รักของบ้านนี้เข้าซะแล้ว....
ความคิดเห็น