ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สะดุดรักยัยตัวจุ้น 5*12 AF3

    ลำดับตอนที่ #6 : หัวมันแล่น(หัวคนแต่ง)2

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 50


    บริษัทACADEMY FANTASIA
    "มิ้นท์นั่งรอพี่สักชั่วโมงหนึ่งนะเด้วพี่ไปประชุมเรื่องคอนเสิร์ตหน่อย"
    "ชั่วโมงหนึ่งเลยหรอ ทำไมพี่ตุ้ยต้องพามิ้นท์มาด้วยเนี่ยมิ้นท์จะนอนอยู่บ้านก็ไม่ยอม"มิ้นท์กระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยใบหน้าบูดๆ
    "ก็บอกแล้วไงว่าจะพาไปธุระต่อ อยู่บ้านเอาแต่กินกับนอนจนจะเปลี่ยนจะกระต่ายเป็นลูกหมูแล้วรู้ไหม"ตุ้ยบิ้ดแก้มยุ้ยๆของเทออย่างหมั่นเขี้ยว
    "พี่ตุ้ยอ้าว่ามิ้นท์อีกแล้วนะ"มิ้นท์ทำแก้มป่องงอนๆ
    "โอ้ๆอย่าเพิ่งตอนนี้เด้วค่อยกลับไปงอนที่บ้านละกันนะพี่ต้องรีบไปทำงานนะจ๊ะคนดี"ตุ้ยลูบหัวคนขี้งอนอย่างเอ็นดู
    "อืมก็ได้แต่ต้องรีบมานะ มิ้นท์ไม่อย่างอยู่คนเด้ว"มิ้นท์มองหน้าตุ้ยอ้อนๆ
    "โอเคๆอย่ามาทำหน้าแบบนี้ดิเด้วพี่ก็ไม่ไปทำงานซะเลย555 ไปก่อนนะเด้วจะรีบมา"
    หลังจากตุ้ยจากไปมิ้นท์คว้าเอาขนมถุงโต การ์ตูนเล่มโปรดก่อนจะคว้าMP3มาเปิดเพลงฟังอย่างสบายอารมณ์ ตูนที่เพิ่งเดินเขามาแม้เห็นเทอจากด้านหลังก็สามารถจำเทอได้ทันที เทอจะรู้บ้างไหมว่าเวลาแค่ 2-3วันที่เขาไม่ได้เจอเทอมันแย่แค่ไหน ตูนรีบเดินตรงไปหามิ้นท์ทันที
    "จ๊ะเอ้"ตูนจับไหล่มิ้นท์ที่กำลังพักเพลงเพลินๆทำเอามิ้นท์ตกใจจนสะดุ้ง
    "อุ้ย พี่ตูนอะมิ้นท์ตกใจหมดเลย"ตาเล็กของเทอเบิงโตขึ้นอย่างตกใจก่อนจะยิ้มจนตาหยีเมื่อเห็นเขา
    "555++เวลามิ้นท์ตกใจนี้น่ารักดีเนอะ แล้วมาทำอะไรกับนี้ละ"ตูนไปนั่งลงข้างๆมิ้นท์
    "อ้อมิ้นท์มารอพี่ตุ้ยอะค่ะเห็นบอกว่าจะพาไปธุระต่อ"
    ตูนเมือ่ได้ยินชื่อตุ้ยก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา มิ้นท์มองหน้าเขางงๆ
    "พี่ตูนเป็นอะไรอะหน้าเศร้าๆ"
    "ป่าวอะครับ ไม่มีอะไร"ตูนพยายามยิ้มให้มิ้นท์
    "แล้วพี่ตูนมีงานหรอค่ะถึงเขามาที่บริษัทอะ"
    "อ้อป่าวหรอกพอดีพี่มารอบอยมันอะ"
    "อืมรอคนเหมือนกันเลย พี่ตูนกินขนมไหมค่ะ"มิ้นท์ยื่นขนมให้ตูนก่อนจะหยิบหูฟังมาเสียบฟังเพลงอีกครั้ง
    "น้องมิ้นท์ฟังเพลงอะไรอะพี่ฟังด้วยได้มะ"มิ้นท์พยักหน้ารับก่อนจะส่งหูข้างหนึ่งให้กับตูน
    http://www.bangkokcity.com/2003/service/board/detail.php?home=musicsmall&boid=36270

    ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
    You really don't know what is it,

    ในความคุ้นเคยกันอยู่ มันแฝงอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น
    in the familiarity we're in, it obscured something that's more than what there is.

    ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
    You really don't know what is it,

    ว่าเพื่อนคนหนึ่ง มันแอบมันคิดอะไรไปไกล กว่าเป็นเพื่อนกัน
    that a friend, that secretly thinks of far more than being friends.

    ตูนฟังเพลงไปและหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างกลายด้วยความรู้สึกรักใคร่มากมายจนบอกไม่ถูก แต่ดูเหมือนเทอจะไม่รับรู้อะไรเลยเพราะเมื่อเทอเห็นร่างสูงและใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มคนนั้นเทอก็ลุกผลุดไปหาเค้าอย่างดีใจพร้อมกับรอยยิ้มที่เขาไม่เคยได้รับจากเทอเลย
    "พี่ตุ้ยมาแล้วหรอ"มิ้นท์เดินจับไปแขนตุ้ยที่เดินมากับบอย
    'อืมเสร็จแล้วละ"ตุ้ยจ้องเขม่งไปที่ช่วยหนุ่มรูปหล่อที่นั่งข้างแฟนสาวของเขาเมื่อครู่
    "อ้าวมาแล้วหรอไ อ้ตูนมารอข้านานมะ"บอยเดินไปตบไหล่เพื่อนซี้
    "ก็สักพักอะดีที่ได้น้องมิ้นท์คุยเป็นเพื่อน"ตูนยิ้มให้มิ้นท์เหมือนจะยั่วๆตุ้ยที่เริ่มจะเครียดๆแล้ว
    "อืมก็ดีแล้วนะนายจะได้ไม่เบื่อ แฟนข้าอะคุยเก่งจะตาย"ตุ้ยยกแขนไปโอบมิ้นท์ไว้อย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ จนมิ้นท์ทำหน้าไม่ถูก
    "เออ ตุ้ยคืนนี้นายจะพาน้องมิ้นท์ไปงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าด้วยกันรึป่าว"บอยพยายามเปลี่ยนเรื่อง
    "อออืมพาไปอยู่แล้ว"ตุ้ยพูดหน้านิ่งแต่มิ้นท์หันไปทำหน้างงสุดขีดก็เขาไม่เคยบอกเทอเลยนี่นาว่าจะพาไปงานเลี้ยงใหญ่โตขนาดนี้
    "พี่ตุ้ยอะไรกันค่ะ"
    "อืมก็ที่บอกว่าไปธุระไงจะพาไปลองเสื้อไปกันเถอะเด้วไปงานสายไม่ดี"
    ตุ้ยไม่สนใจมิ้นท์ที่ยืนเอ่ออยู่ข้างกึ่งลากกึ่งจูงเทอไปเก็บของและเดินผ่านหน้าตูนซึ่งยืนสงบนิ่งอยู่ข้างๆบอย 
     
    "เอามิ้นท์เข้าไปในร้านสิจะได้ลองชุดสวยๆกัน"ตุ้ยดึงข้อมือมิ้นท์ที่ยืนตัวเกร็งอยู่หน้าร้านห้องเสื้อหรู
    "อุ้ยสวัสดีจ๊ะน้องตุ้ยอุตส่าห์แวะมาร้านพี่จะมาหาเสื้อผ้าไปงานไหนจ๊ะ"เจ๊จ้าสาวประเภท2รูปร่างท่วมเดินมาควงแขนตุ้ยอย่างสนิทสนม
    "ไม่ใช่ผมหรอครับพี่แต่เป็นยัยนี่ต่างหาก"ตุ้ยดันร่างมิ้นท์ยืนอยู่ด้านหลังให้เจ็จ้าได้เห็น
    "อุ้ยน่ารักจังคิดว่าใครแฟนน้องตุ้ยนี้เอง หุ่นเพรียวๆดูมีเนื้อนิดๆ ผิวขาวอมชมพูแถมแก้มยังใสยังกับเด็กๆอย่างนี้หาเสื้อผ้าไม่ยากหรอกค่ะ เจ๊รับประกันแล้วงานวันมีวันไหนค่ะ"
    "วันนี้ครับตอน 6โมงเย็น"ตุ้ยพูดหน้าตาเฉย
    ."ตายแล้วคุณน้องทำไมมันกระทันหัยังงี้ละค่ะ แล้วพี่จะหาทันไหมเนี่ย"จ็จ้าทำท่าจะเป็นลม
    "ช่วยหน่อยละกันนะเจ๊ นะครับนะ"ตุ้ยอ้อนๆไป
    "อะจ้าเนี่ยเห็นเป็นน้องตุ้ยนะเนี่ยไม่งั้นเจ๊ไม่ยอมหรอกงั้นเอางี้เด้วเจ๊จัดเสื้อผ้าแล้วแถมแต่งหน้าให้ด้วยดีมะ"
    "เยี่ยมไปเลยเจ๊ เจ๊เนี่ยน่ารักเสมอเลย"
    "พอๆๆไม่ต้องมายอเจ๊เลยไปๆคุณน้องหนูแก้มใสเราไปแต่งตัวตามประสาสาวๆกันเถอะ เออตุ้ยอยากไปชุดไหนก็เลือกไปเลยนะจะได้ไม่ต้องแวะกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก ตามสบายเลย"ว่าแล้วเจ๊จ้าก็ลากตัวนู๋มิ้นท์ที่ยืนปั่นหน้าไม่ถูกไปทันที
    2 ชั่วโมงผ่านไป
    ตุ้ยที่อยู่ในชุดเสื้อเชิทสีแดงสวมคลุมทับด้วยชุดสูทตัวนอกสีขาวทั้งชุด ผม(ที่ยังยาวแบบไม่ได้ตัดนะค่ะ)ถูกเซทจัดทรงอย่างสวยงาม เสริมให้ใบหน้าหล่อเข้มดูดีขึ้นอีก เขากับนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ขาดเวลาเพื่อรอสวยน้อยที่จะเป็นคู่ควงของเขาในค่ำคืนนี้อย่างใจจดใจจ่อ
    "มาแล้วจ้า เจ้าหญิงตัวน้อยของเจ๊จ้า555"
    สิ้นเสียงเจ๊จ้าตุ้ยก็ต้องตกตะลึงกับภาพตรงหน้า
    มิ้นท์อยู่ในชุดผ้าชีฟองพริ้วไหวสีชมพูอ่อนหวานยาวกลอมพื้น คอยาวระหงของเทอถูกตกแต่งด้วยสร้อยทับทิมเส้นยาวสวย เส้นผมที่เคยตรงยาวเหยียดถูกดัดเป็นเกรียวประดับตกแต่งด้วยดอกไส้เล็กๆน่ารัก ใบหน้าเนียนใสของเทอก็ถูกตกแต่งด้วยเฉดสีชมพูรับกับผิวสวยทำให้มิ้นท์สวยน่ารักราวกับเจ้าหญิงจากเทพนิยายเลยก็ไม่ปาน
    "โอ้ยน้องตุ้ยถึงกับตะลึงตาค้างไปเลยหรอค่ะ เร็วๆมารีบรับเจ้าหญิงขิงเทอไปสิจ๊ะ"
    ตุ้ยอมยิ้มบางก่อนจะเดินตรงมาที่มิ้นท์เขาโค้งตัวก่อนจะยืนแขนให้มิ้นท์จับ มิ้นท์เขินจนหน้าแดงก่อนจะจับแขนแข็งแรงของเขาไว้เบาๆ ทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

    ที่งานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าการที่มิ้นท์เดินเคียงคู่เข้าไปภายในงานกับตุ้ยเรียกความสนใจจากบรรดาแขกในงานและบรรดานักข่าวได้มากมาย เสียงฮือฮาในความสมของคนทั้งคู่ดังมาไม่ขาดสาย นักข่าวระดมรั่วชัตเตอร์ใส่ทั้งคู่อย่างไม่ขาดสายทำให้มิ้นท์ประหม่าป็นอย่างมาก ด้วยความตกใจทำให้มิ้นท์เสียหลักสะดุดชายกระโปรงของตัวเองจนเกือบล้มลงดีที่ตุ้ยช่วยประคองไว้ทัน ภาพที่มิ้นท์อยู่ในอ้อมแขนตุ้ยก็ไม่พ้นการจับภาพของนักข่าวอีกตามเคย
    "สวีทกันจังเลยนะค่ะคู่รักคู่นี้'เสียงนักข่าวอาวุโสคนหนึ่งแซวขึ้นมาเรียกเสียงหัวเราะลั่นจากคนรอบๆได้ มิ้นท์กับตุ้ยรีบถอยห่างจากกันและยิ้มอย่างเขินๆ
    "ตูนเป็นอะไรรึป่าว"เพชรแตะที่แขนตูนเบาๆเนื่องจากเทอเห็นตูนมองมิ้นท์และตุ้ยเด้วแววตาเจ็บปวดเขากำแก้วไวน์ในมือแนเสียจนเพชรกลัวว่ามันจะแตก
    "ป่าวไม่มีอะไร"ตูนเดินหนีไปเงียบ
    ตุ้ยพามิ้นท์ไปแนะนำกับบรรดาผู้ใหญ่ภายในงานทุกคนก็รู้สึกชื่นชมในความรักและเป็นธรรมชาติของเทอไม่ได้ทำเอาตุ้ยภูมิใจสุดๆในความน่ารักของแฟนสาว
    "เอาละครับถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยแล้วนะครับ งานเลี้ยงของเราไม่ใช่จะเป็นแค่งานเลี้ยงธรรมดานะครับแต่มันยังเป็นให้ท่านสุภพบุรุษได้มีโอกาสใหกล้ชิดกับท่านสุภาพสตรีที่หมายปองด้วยนะครับ แขกทุกท่านรู้ไหมครับว่าเราจะจัดกิจกรรมอะไร"เสียงพิธีกรอารมณ์ดีของงานดังขึ้นเรียกความสนใจได้ดีเสียงฮือฮาดังไปทั้งงาน
    "เอาละครับไม่ต้องเถียงกันหริอคิดไปไกล เราขอเชิญแขกผู้มีเกียรทุกท่านออกมาวาดรวดลายเส้นรำกันซะหน่อยดีกว่าครับ เอ้แล้วใครจะมาเปิดฟลอร์ดีละครับ"
    "ตุ้ย มิ้นท์ๆๆๆๆ"เสียงตะโกนจากแขกทั้งงานประสานกันเป็นเสียงเดียว
    "โอเคครับมัติเอกฉันท์ขอเชิญคู่หวานของงานออกมาเปิดฟอล์หน่อยครับ"เสียงปรบมือดังกึกก้อง
    ตุ้ยหันมาโค้งมันมิ้นท์เพื่อเชิญเทออกไปเต้นรำมิ้นท์ทำท่าเหมือนจะร้องไห้แล้ว
    "พี่ตุ้ยมิ้นทืไม่เต้นได้ไหมอะมิ้นทืไม่เคยอะ(ไม่เคยเต้นรำที่เมืองไทยค่ะเคยแต่เวลาบริษัทที่อังกิดของคุณพ่อจัดงานเทอถึงยอมเต้น เหอๆ) มิ้นท์ไม่เต้นได้ปะ"
    "ได้ไงละ คนเค้าเรียกร้องอะ มาเถอะอยู่กับพี่มิ้นท์ไม่ต้องกลัวอะไรไงจำไม่ได้หรอ"ตุ้ยยิ้มให้มิ้นท์
    มิ้นท์ยอมควงแขนเดินไปกลับตุ้ยอย่างมั่นใจก้อยู่กับเขาเทอไม่ต้องกลัวอะไรอยู่แล้ว เสียงไฟสาดส่องในยังคนทั้งคู่ราวกับความฝันเพลงหวานบรรเลงขึ้นมาแล้ว... ตุ้ยจูงมือมิ้นท์ออกไปกลางฟอล์เต้นตุ้ยโค้งคำนับให้มิ้นท์ ส่วนมิ้นท์ก็ย่อเข่าถอนสายบัวให้ตุ้ยอย่างน่ารัก ตุ้ยใช้มือซ้ายประคองเอวบอบบางของมิ้นท์ไว้ มิ้นท์สะดุ้งตัวเล็กน้อยอย่างประหม่าเทอวางมือสั่นๆของตัวเองลงบนไหล่แข็งแรงของตุ้ย เพลงไพเราะบรรเลงไปเรื่อยๆทั้งคู่เต้นรับกันได้อย่างสวยงาม ตุ้ยมองหน้าคนรักอย่างไม่เชื่อสายตาเพราะเทอด้วยสวยสง่าและน่ารักอย่างบอกไม่ถูกวันนี้เทอช่างแตกต่างจากสาวน้อยแสนซนที่อยู่ข้างกายเขาทุกวันเสียจริงๆ
    “มิ้นท์เต้นรำเก่งจังเลยนะ”
    “ไม่เก่งซะหน่อยเต้นมั่วๆไปอะ”มิ้นท์รีบแก้ตัวที่จริงแล้วพ่อกับแม่ส่งเทอเป็นเรียนเต้นรำตั้งแต่เด็กแล้วแต่เทอจะบอกเขาได้อย่างไรละ
    “จริงอะ สงสัยจะมั่วเก่งจริงๆนะเต้นซะผิวเชียว อิอิ”ตุ้ยอมยิ้มอย่างเอ็นดู
    เต้นหมุนตัวมิ้นท์ช้าๆรับเทอกลับมาไว้ในวงแขนอย่างนุ่มนวล เกลียวผมสวยของเทอปัดผ่านหน้าตุ้ยจนตุ้ยได้กลิ่นหอมของมัน ตุ้ยจ้องมองมิ้นท์อย่างหลงไหลลเขาอดไม่ได้ที่จะกระชับอ้อมแขนของตนเองเข้ามาทำให้ใบหน้ามิ้นท์อยู่ใกล้ชิดกับคางมนของเขาเข้าไปอีก
    “อุ้ย พี่ตุ้ย”มิ้นท์อุทานเบาๆอย่างเขินด้วยความใกล้กันทำให้เทอรู้สึกได้ถึงลมหายใจเบาๆของชายหนุ่ม
    “วันนี้มิ้นท์สวยมากเลยรู้ตัวรึป่าว”ตุ้ยมองมิ้นท์ด้วยสายตาวับวาว
    “มาชมกันงี้ก็เขินสิ”มิ้นท์ก้มหน้างุดๆอย่างเขินสุดๆ
    “เขินทำไมพูดเรื่องจริงใครๆเค้าก็ชมว่าแฟนพี่อะส้วยสวย”ตุ้ยหัวเราะอย่างเอ็นดู
    “อิอิ แต่วันนี้พี่ตุ้ยก็หล่อน้า”มิ้นท์เงยหน้ามาแซวตุ้ยบ้าง
    “งั้นหรองั้นเรา 2คนก็เป็นคู่รักที่เหมาะสมกันที่สุดเลยใช่มะ”
    ทั้งคู่มองตากันอย่างหวานซึ้ง เสียงเพลงเต้นรำจบลงตุ้ยโค้งคำนับอีกครั้ง มิ้นท์ย่อเขาลงอย่างสวยงามเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั้งงาน“เอาละครับบรรยากาศหวานซึ้งการผ่านพ้นไปแล้วนะครับ งั้นเราก็ขอเป็นช่วงต่อไปเลยดีกว่านะครับไหนน้องAFของเราก็มาร่วมงานกันแล้วนะครับจะปล่อยให้มายืนหล่อๆสวยๆอย่างเด้วก็คงไม่พอ เป็นนักร้องก็ต้องร้องเพลงใช่ไหมครับ งั้นเราขอเชิญน้องๆขึ้นมาร้องกันเลยดีกว่า ขอเสียงปรบมือต้อนรับด้วยครับ”สิ้นเสียงพิธีกรเสียงปรบมือก็ดังลั่นขึ้นทัน
    “พี่ไปร้องเพลงก่อนนะ นั่งรอกับพี่ขวัญนะ”ตุ้ยหันเป็นบอกมิ้นท์ที่นั่งอยู่ข้างคุณขวัญ
    “ค่ะไปเถอะเดี๋ยวมิ้นท์จะรอดูนะค่ะ”มิ้นท์ส่งยิ้มหวานให้ตุ้ย
    “ไปได้แล้วจ๊ะหวานกันจริงๆ”คุณขวัญอดแซวไม่ได้  ตุ้ยแอบมองมิ้นท์แบบเขินก่อนเดินจากไป ตูนมองมิ้นท์นิ่งเหมือนคิดอะไรสักอย่างก่อนจะขยับตัวลุกตามเพื่อนๆไป
    มินิคอนเสิร์ตเริ่มต้นด้วยเพลงแฉของบลูน่าซึ่งเทอก็ทั้งร้องทั้งเต้นจนคนดูถึงกับอึ่ง ตามด้วยหน้าซื่อๆจากบอยที่พกพาเสน่ห์มากวาดใจสาวๆให้งานได้เพียบ ตามด้วยหนุ่มตูนกับเพลงมือใหม่ด้วยหน้าตาอันสุดแสนจะหล่อเหล่าของเขากับทำเอาบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ใจละลายไปเลย เมื่อตูนร้องเพลงจบเค้าก็เดินลงมานั่งข้างมิ้นท์ที่กำลังดู เพชรร้องเพลงยิ่งร้ายก็ยิ่งรักได้อย่างไพเราะมากๆ
    “อ้าวพี่ตูนลงมาแล้วหรอค่ะเนี่ย”มิ้นท์หันไปหาตูนที่มานั่งข้างๆ
    “อืมวันนี้พี่ร้องเพลงเด้วอะ” ตูนจ้องมองมิ้นท์ที่ฟังเพลงที่เพชรร้องอย่างอินสุดๆ
    “เพชรร้องเพลงเพราะมากๆเลยนะค่ะ ว้าจบพอดีเลยอะ”มิ้นท์ปรบมืออย่างชอบใจตูนยิ้มอย่างเอ็นดูเทอดูบริสุทธิ์สดใสเหลือเกินความไร้เดียงสาของเทอทำให้เขาละสายตาจากเทอไม่ได้เสียที
    ตุ้ยเดินขึ้นมาบนเวทีเขาดูสง่ามาก ความเป็นดาวของเขาดูจะดึงดูดสายตาของทุกคนอยากไม่อยาก
    ตุ้ยยิ้มให้ทุกคนก่อนจะมาหยุดสายตาไว้ที่เทอ เทอที่เป็นเจ้าของหัวใจของเขายิ้มอ่อนโยนที่เขาไม่เคยให้ใครนอกจากเทอสายชัดบนใบหน้า
    “วันนี้ผมจะร้องเพลงที่ผมรักให้คนที่ผมรักได้ฟังนะครับ เพลงผีเสื้อครับ”
    http://www.ethaimusic.com/lyrics3/486.htm
            ตุ้ยร้องเพลงได้อย่างไพเราะมาก มิ้นท์มองตุ้ยอย่างตกตะลึงทุกวันที่เขาอยู่เคียงข้างเทอเขาก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นแค่ “พี่ตุ้ย”ของเทอเท่านั้น แต่วันนี้ภาพที่เทอเห็นทำให้เทอได้รับรู้ความจริงว่าเขาเป็นนักร้องเป็นซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของเมืองไทย แล้วเทอละก็เพียงแค่เด็กผู้หญิงธรรดาคนหนึ่งเท่านั้น มิ้นท์มองตุ้ยที่ส่องประกายความเป็นดาวอย่างเศร้าใจ มิ้นท์ค่อยลุกออกจากงานไปอย่างเงียบ ตูนมองตามอย่างเป็นห่วงก่อนจะตัดสินใจเดินตามเทอไป
            ตูนมองมิ้นท์ที่ยืนอยู่ที่ระเบียงของโรงแรมอย่างเป็นห่วง สายลมในฤดูหนาวพัดแรงขึ้นจนเจ้าของร่างสวยต้องห่อไหลบางๆของเทอไว้ด้วยความหนาว ตูนถอดเสื้อสูทหรูของเขาคลุมไหล่เนียนของเทอไว้
    “อุ้ย”มิ้นท์สะดุ้งอย่างตกใจ
    “ขอโทดนะที่ทำให้ตกใจ”
    “ไม่เป็นไรค่ะ” มิ้นท์กระชับเสื้อสูทจองตูนไว้แน่น ตูนมองยิ้มๆ
    “น้องมิ้นท์ออกมาทำอะไรข้างนอกละทำไมไม่ดูตุ้ยร้องเพลงให้จบ’
    “ไม่รู้สิค่ะ มิ้นท์รู้สึกแปลกๆยังไงก้ไม่รู้”มิ้นท์เอนหลังพิงระเบียงแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้าอย่างเศร้า
    “น้องมิ้นท์มีอะไรบอกพี่ได้ไหม”ตูนมองเทออย่างเป็นห่วง
    “มิ้นท์เห็นพี่ตุ้ยร้องเพลงบนเวทีแล้วรู้สึกแปลกๆนะค่ะ รู้สึกว่าเค้าดูเป็นคนที่ดูแตกต่างจากมิ้นท์เหลือเกิน เมื่อเค้าเป็นดาวบนท้องฟ้าส่วนมิ้นท์ก็เป็นแค่คนธรรมดาที่ยืนอยู่ตรงนี้ เอื้อมเท่าไรก็ไม่ถึงเขาเสียที”มิ้นท์ถอนหายใจยาวอย่างเหน็ดเหนื่อย
    “น้องมิ้นท์”ตูนแตะไหล่บางๆของเทอไว้อย่างปลอบโยนเขาเข้าใจเทอดีเทอก็คงต้องเหนื่อยกับการที่ต้องถูกจับจ้อง ต้องตกเป็นข่าว เทอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น
     
    “มิ้นท์”ตุ้ยอุทานเบาๆ
    ตุ้ยที่ยืนฟังอยู่นานเขารู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก มิ้นท์เทอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง เทอคงต้องเหนื่อยกับการปรับตัวที่ต้องข้างกายเขาไม่น้อยเลย ทำไมนะเขาถึงไม่เคยเขาใจความรู้สึกของเทอบ้างเลย ตุ้ยตัดสินใจเดินไปหามิ้นท์และตูน
    “น้องมิ้นท์”
    “พี่ตุ้ย”มิ้นท์สะดุ้งตกใจ
    “ตูนฉันขอตัวมิ้นท์ไปก่อนนะ บอกพี่ขวัญด้วยว่าฉันกับมิ้นท์กลับก่อน”ตุ้ยหันไปบอกตูน ตูนพยักหน้าช้าๆเขาเข้าใจดีว่าตอนนี้คนที่จะทำให้มิ้นทืรู้สึกดีขึ้นไม่ใช่เขาแต่เป็นตุ้ย
    ตุ้ยจับมือมิ้นท์ไว้แน่นก่อนจะพาเทอเดินออกไป มิ้นท์ถอดเสื้อสูทคืนตูนไปและเดินตามตุ้ยไปอย่างงงๆ
    “พี่ตุ้ยจะพามิ้นท์ไปไหนอะ”
    “เด้วก็รู้”ตุ้ยจูงมือมิ้นท์ไปโดยไม่สนใจผู้คนและนักข่าวที่มองตามอย่างตกใจ
    “เห้ย ไ อ้ตุ้ยไปไหนวะ”พี่หนึ่งช่างภาพประจำบริษัททักขึ้น
    “จะกลับแล้วพี่ เออพี่ยืมไอ้เสือลูกชายพี่หน่อยดิ ”
    “เออเอาไปเลย”พี่หนึ่งส่งกุญแจอะไรสักอย่างให้ตุ้ย มิ้นท์มองชาย 2วัยอย่างงงๆไอ้เสือคือไรอะ?
    “ฝากรถผมด้วยนะพี่แล้วค่อยไปคืนพรุ่งนี้ที่บริษัท”ตุ้ยส่งกุญแจรถคันหรูให้พี่หนึ่งไป ก่อนจะดึงมือมิ้นท์ที่ยืนเหวออยู่ตามไป
    “พี่ตุ้ยเราจะไปไหนกันค่ะ”
    “ไม่บอก อยากรู้ก็ต้องตามมา”
    ตุ้ยจูงมือมิ้นท์วิ่งลงบันไดสไตยุโรปที่ทอดยาวไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาของคนนับร้อยเอาใส่ซะสิ"ตุ้ยยื่นหมวกกันน็อคให้มิ้นท์ มิ้นท์รับมาถือไว้อย่างงงๆ
    "อ้าวใส่ซะสิเร็ว ไอ้เสือมันรอนานแล้วนะ"ตุ้ยบุ้ยปากไปที่มอเตอไซด์ฮาเล่คันโตของพี่หนึ่ง
    "นั่นอะนะไอ้เสือ อิอิ "มิ้นท์หัวเราะคิกคักก่อนจะพยายามใส่หมวกกันน็อคที่ตุ้ยส่งให้แต่ใส่ยังไงก็ไม่สำเร็จ
    "เหอ มานี่พี่ใส่ให้เอง"ตุ้ยปรับสายหมวกกันน็อคให้พอดีกับใบกน้าเรียวสวยของมิ้นท์ ตุ้ยอดไม่ได้ที่จะใช้มือลูบแก้มใสของเทออย่างรักใคร่
    "ฮัดชิ้ว"มิ้นท์จามอย่างแรง
    "เห้ยจามมาได้ หมดกันเลยอารมณ์โรแมนติกของพี่ ตลอดเลยนะเรา"ตุ้ยแขกหัวมิ้นท์ที่เช็ดจมูกป่อยๆอย่างขำๆ
    "ก็มิ้นท์หนาวนินา"คนโดนดุแก้ตัวเสียงอ่อยๆ
    "เอาใส่ซะเด้วเป็นหวัดตายไปซะก่อน"ตุ้ยถอดชุดสูทสีขาวของตัวเองให้มิ้นท์ใส่ มิ้นท์รีบใส่มันทันทีเสื้อตัวใหญ่ของตุ้ยที่แสนจะอบอุ่นของตุ้ยทันที
    ตุ้ยสตาร์ทเจ้าเสือทันที "ขึ้นมาสิมิ้นท์ยืนอยู่ทำไม"
    "เออมิ้นท์นั่งรถแบบนี้ไม่เป็นอะ"มิ้นท์ชี้นิ้วมาที่เจ้าเสืออย่างกลัวๆ
    'ขึ้นมาเถอะมิ้นท์ก็นั่งข้างไงๆแล้วก็จับเอวพี่ให้แน่นก็พอ"
    มิ้นท์ปีนมานั่งบนเจ้าเสืออย่างทุลักทุเล
    "จับเอวพี่ซิ"
    "ไม่เอานั่งไง"มิ้นทืไม่ยอม
    "แน่ใจนะ"ตุ้ยหันมามองมิ้นท์อย่างเจ้าเลห์
    "อืม"มิ้นท์พยักหน้าอย่างหวั่นๆ
    พอสิ้นเสียงมิ้นทืตุ้ยก้ออกรถอย่างแรงจนมิ้นท์ต้องผวาไปกอดเอวตุ้ยแน่น ตุ้ยยิ้มอย่างสมใจ
    "พี่ตุ้ยเราจะไปไหนกันหรอค่ะ"มิ้นท์ตะโกนถามตุ้ยแข่งกับเสียงลมที่พัดแรง
    "ก็บอกแล้วไงว่าเด้วก็รู้เอง"
    มิ้นท์จึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรอีกเลย เทอมองทิวทัศน์ของกรุงเทพยามค่ำคืนอย่างชอบใจ ยิ่งตกดึกอากาสก็ยิ่งหนาวมิ้นท์เลยกอดตุ้ยแน่นขึ้นอีกใบหน้าของเทอฉุกอยู่กับแผ่นหลังของเขา ตุ้ยปล่อยมือจากมอร์เตอไซมาจับมือที่เย็นเฉียบของอมิ้นท์เอาไว้
    "เด้วก็ถึงแล้ว ถ้าหนาวมากก็กอดพี่ไว้ให้แน่นอีกนะพี่จะได้อุ่นๆด้วย"ตุ้ยและมิ้นท์ต่างก็แอบยิ้มอย่างมีความสุข

    ตุ้ยพามิ้นท์มาที่ห้องแถวหลังเล็กแถบชานเมืองหลังหลัง ประตูบ้านถูกปิดแล้วราวกับไม่มีคนได้อยู่อาศัยมานาน มิ้นท์มองอย่างกลัวๆตุ้ยเดินนำหน้าไปที่หน้าประตูบ้านมิ้นท์เลยรีบวิ่งตามไปเกาะแขนเขาเอาไว้
    "พี่ตุ้ยที่นี่ที่ไหนอะน่ากลัวจัง มิ้นทืกลัวผีนะ"มิ้นท์เกาะแขนตุ้ยไว้แน่นหน้าตาตื่นๆ
    "เหอกลัวผีขึ้นเสมอจริงๆเลยนะ เขามาเถอะนา"ตุ้ยไขประตูเดินเขาไปในบ้านโดยไม่สนใจสาวน้อยที่เดินตัวลีบตามเขาเข้าไป
    "พี่ตุ้ยเปิดไฟไม่ได้หรอ"
    "ไม่ได้หรอกไฟมันคงถูกตัดไปแล้วละ แต่พี่จำได้ว่ามันมีเทียนนะเด้วหาก่อนนะ นี้ไงเจอแล้ว"ตุ้ยจุดเทียนเล่มเล็กๆขึ้นกลางห้อง แสงเทียนส่องให้เห็นบ้านไม้หลังเล็กๆซ่อมส่อที่เต็มไปฝุ่นหลังหนึ่ง
    "พี่ตุ้ยนี่บ้านใครหรอค่ะ"มิ้นท์ถามตุ้ยเบาๆ
    "บ้านพี่เองละ พี่อยู่มาตั้งแต่เด็กแล้วก็เพิ่งย้ยายออกไปตอนได้เป็นนักร้อง"ตุ้ยมองไปรอบๆบ้านที่เขาเติบโตมา
    "พี่ตุ้ยเคยอยู่ที่นี้ด้วยหรอ"มิ้นท์มองอย่างไม่เชื่อสายตา
    ตุ้ยหันมาจ้องมองมิ้นท์อย่างจริงจัง
    "เมื่อก่อนพี่มันก็เป็นคนเด็กผู้ชายจนๆคนหนึ่ง แม่พี่เป็นพนักงานทำความสะอาดที่โรงพยาบาล ส่วนพ่อพี่ก็เป็นช่างซ่อมรองเท้า ชีวิตพี่อะผ่านมาทุกอย่างแล้วทำงานสารพัดไม่ว่าจะขนน้ำแข็ง ส่งซาลาเปา ขายของในเซเว่นหรือเป็นนักร้องตามผับ ถ้าพี่ไม่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านAFไม่มีคนโหวตให้พี่ชนะพี่ก็คงเป็นแค่ไ อ้ตุ้ยพนักงานบริษัทธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น"
    ตุ้ยหยุดพูดก่อนจะจับไหล่บางทั้ง 2ข้างของมิ้นท์เอาไว้ เขาจ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวยของเทอ
    "พี่ไม่อยากให้มิ้นท์คิดว่าเราแตกต่างกัน พี่ไม่ให้มิ้นท์คิดว่าพี่อยู่สูงเกินที่มิ้นท์จะเอื้อมเพราะพี่ก้เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่รักผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าพี่คนนี้เท่านั้น ขอแค่พี่รักมิ้นท์แล้วมิ้นท์ก็รักพี่แค่นี้ก็พอแล้วไม่ใช่หรอ"ตุ้ยมองหน้าหญิงคนรักและยิ้มให้เทออย่างอบอุ่น
    "ใช่ค่ะ แค่เรารักกันก้พอแล้ว"
    ตุ้ยดึงมิ้นท์มากอดไว้อย่างแสนรัก เค้าก้มลงจูบที่เลื่อนผมมสวยของเทออย่างอ่อนโยนภายในห้องไม้แคบกับแสงเทียนเล่มน้อยๆนั่นมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักแท้จริงของเขาและเทอ
              "แค่มิ้นท์รักพี่ แค่พี่รักมิ้นท์ แค่เรารักกันแค่นั้นก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรอ??"
    "มาแล้วคร๊าบน้ำเต้าหู้ร้อนๆครับเจ้หญิง"ตุ้ยเดินถือน้ำเต้าหู้อุ่นๆ 2แก้วมาให้มิ้นท์ที่นั่งอยู่ที่เก้าอีริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถบชานเมืองที่แสนเงียบสงบแห่งหนึ่ง
    "ขอบคุณค่ะ หนาวๆยังงี้ได้กินน้ำอุ่นค่อยชื่นใจหน่อย"มิ้นท์ถูมือกับแก้วน้ำแก้หนาว
    ตุ้ยออกเทอยิ้มๆ"กินซะสิ ร้านเนี่ยอร่อยมากเลยนะ"
    มิ้นท์รีบดื่มน้ำเต้าหู้ทันทีอย่างรวดเร็ว"อร่อยจังเลยอะพี่ตุ้ย"
    "เหอ กินเหมือนเด็กเลยนะเรา ดูดิปากเปื้อนหมดเลย"ตุ้ยเอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำเต้าหู้ที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากของสาวน้อย มิ้นท์แกล้งมองไปที่แม่น้ำอย่างเขินๆ
    "มิ้นท์ชอบที่นี่ไหม"
    "ชอบค่ะ ที่นี้สวยดูเงียบสงบไม่เหมือนอยู่ในกรุงเทพเลย"มิ้นท์ยิ้มอย่างมีความสุข
    "ตอนเด็กๆพี่อะชอบแอบหนีแม่มานั่งเล่นที่นี้ตอนกลางคืนบ่อยๆ พี่ชอบมองแม่น้ำตอนกลางคืนนะ แสงไฟบนตึกสูงๆมันลงมากระทบในแม่น้ำดูเป็นเหมือนดวงดาวดวงเล็กๆเต็มไปหมดเลย มันเหมือนกับดาวบนฟ้าไกลๆมาอยู่ใกล้ตัวเรานิดเด้วเอง"ตุ้ยเหม่อมองแม่น้ำนิ่ง
    มิ้นท์จ้องมองตุ้ยอย่างไม่เชื่อสายตา
    "เห้ยมองพี่แบบนั่นทำไมอะ"ตุ้ยหันไปเห็นหน้าของมิ้นท์ก็อดงงไม่ได้
    "มิ้นท์ไม่อยากจะเชื่อพี่ตุ้ยก็มีอารมณ์โรแมนติกเป็นกับเค้าด้วย"
    "แหมม ก็ขอนิดหนึ่งดิ ในมุมมืดไง 555"
    มิ้นท์ค่อยถอดรองเท้าสนสูงคู่สวยออกด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวก่อนจะลูบเท้าของตัวเองเบาๆ
    "เป็นอะไรอะมิ้นท์"ตุ้ยมองมิ้นท์อย่างเป็นห่วง
    "รองเท้ามันกัดพี่ตุ้ยเจ็บจัง "มิ้นท์บอกเบาๆ
    ตุ้ยรีบก้มตัวลงไปนั่งที่พื้นแล้วคว้าเท้าขาวๆบอบบางของเทอมาดูทันที
    "พี่ตุ้ยไม่ต้องหรอก มิ้นท์ดูเองได้"มิ้นท์ตกใจมากที่ตุ้ยก้มไปจับเท้าของเทออย่างนั้น
    "มีแผลถลอกด้วยอะ เจ็บมากมะ"ตุ้ยพูดขณะมองแผลที่เท้ามิ้นท์อย่างเป็นห่วง
    "ไม่มากหรอก นิดเด้วเอง"
    "เหอ ใส่รองเท้านิดเด้วก็เป็นแผลละทำไมบอบบางจังฮะ บางที่พี่มองหน้ามิ้นท์พี่ยังแอบคิดไม่ได้เลยว่ามิ้นท์อาจจะเป็นพวกลูกคุณหนูรวยที่หนีออกจากบ้านมาอะ"ตุ้ยยิ้มบางๆก่อนจะลุกมานั่งข้างๆมิ้นท์อีกครั้ง
    คำพูดของตุ้ยทำให้มิ้นท์ถึงกลับสะดุ้งโหย่งเลย"พี่ตุ้ยพูดอะไรก็ไม่รู้ คิดมากจริงๆ"
    "พี่กลัวจริงๆนะมิ้นท์ กลัวว่าวันหนึ่งถ้ามิ้นท์จำทุกอย่างได้แล้วมิ้นท์จะหนีพี่ไป ยิ่งเวลามิ้นท์แต่งตัวแบบนี้มิ้นท์ยิ่งเหมือนเจ้าหญิงเลย เจ้าหญิงสโนไวท์ไงเวลามีเรื่องเดือดร้อนก็มาอยู่กับคนแคะอย่างพี่ แล้วพอเทอได้เจอเจ้าชายเทอก็จากไปกับเจ้าชายทิ้งให้คนแคระต้องอยู่เพียงลำพัง พี่กลัวมากเลยมิ้นท์รู้ไหม"
    มิ้นท์ยกนิ้วชี้มาแตะที่ริมฝีปากขอช่วยหนุ่มเป็นเชิงให้เขาหยุดพูด เทอยิ้มให้เค้าอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหวานๆว่า
    "หยุดพูดได้แล้ว มิ้นท์ไม่ใช่เจ้าหญิง พี่ตุ้ยก็ไม่ใช่คนแคระ แล้วที่เจ้าหญิงทิ้งคนแคระไปก็เพราะเทอไม่ได้รักคนแคระพวกนั้น แต่มิ้นท์ไม่เหมือนกันเพราะ  *มิ้นท์รักพี่ตุ้ย*  แล้วมิ้นท์จะทิ้งพี่ตุ้ยไปได้ยังไงละค่ะ"
    ตุ้ยสบตามิ้นท์นิ่งเค้าค่อยๆโน้มตัวไปใกล้ๆใบหน้าสวยของเทอ ริมฝีปากอุ่นแตะลงบนปากสีชมพูสวยนั่นอย่างแสนจะรักใคร ณ เก้าอี้สีขาวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาท่ามกลางพระจันทร์ดวงกลมโตและดวงดาวดวงเล็กๆบนท้องฟ้า หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังเรียนรู้จักความรักที่แสนสวยงามด้วยกัน

    ตุ้ยถอนจูบจากริมฝีปากเล็กๆนั้นอย่างอ่อยอิ่ง มิ้นท์จ้องหน้าตุ้ยแล้วยิ้มด้วยแววตาซุกซนจนตุ้ยสงสัย
    "ยิ้มอย่างนี้หมายความว่าไงฮะ"
    "รสน้ำเต้าหู้ คิกคิก"มิ้นท์หัวเราะคิกคักอยู่คนเด้ว
    "อะไร พูดไรเนี่ยงงนะ"ตุ้ยงงสุดๆ
    "ก็ปากพี่ตุ้ยไงเป็นรสน้ำเต้าหู้"
    พอมิ้นท์พูดจบตุ้ยก็เขินจนหน้าแดงไปเลย
    "ทะเล้นใหญ่แล้วนะยัยตัวร้าย กลับบ้านกันเหอะดึกแล้ว"ตุ้ยเปลี่ยนเรื่องแก้เขิน
    มิ้นท์พยายามจะใส่รองเท้าแต่เทอก็ต้องเจ็บแผลมากขึ้นอีก ตุ้ยเห็นหน้าแฟนสาวก็ก้มไปหยิบรองเท้าคู่น้อยนั่นส่งให้มิ้นท์ที่นั่งงอยู่ถือไว้แล้วอุ้มเทอจนตัวลอยเดินไปที่เจ้าเสือที่จอดนิ่งอยู่
    "พี่ตุ้ยทำไรนะ"มิ้นท์ร้องอย่างตกใจ
    ตุ้ยไม่ตอบแต่กลับอุ้มมิ้นทืไปวางลงที่เบาะหลังของรถก่อนที่ตัวเองจะสตาร์ทรถ ตุ้ยคว้ามือข้างหนึ่งของมิ้นท์ไปถูกับมือตัวเอง
    "ขอไออุ่นหน่อยดิหวานจัง"พูดจบก็คว้ามือเทอไปแตะที่ริมฝีปากตัวเองทันที
    "มือแฟนใครเนี่ยอุ่นจังเลย"ตุ้ยพูดยิ้มๆแต่มิ้นท์กลับเขินจนหน้าแดง
    "บ้า กลับบ้านได้แล้ว"มิ้นท์พูดเบาๆ
    "กอดพี่แน่นนะ เด้วตกไม่รู้ด้วย"
    "พี่ตุ้ย บ้า"มิ้นท์หน้าแดงแต่ก็ยอมกอดเอวของชายหนุ่มไว้แน่น ก่อนจะซบหน้าสวยลงบนไหล่กว้างของเขาอย่างมีความสุข
      ท่ามกลางถนนที่ทอดยาวไกลและความหนาวเหน็บที่เสียดแทงร่างกายของเขาและเทอ แต่คนทั้งคู่ก็ไม่หวั่นเกรงอะไรอีกต่อไปแค่ได้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกันเท่านี้ก็อบอุ่นเพียงพอแล้ว
    มาต่อแบบเงียบๆ
    ตาเรียวเล็กจ้องมองจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าอย่างตั้งตกตั้งใจจนชายหนุ่มข้างกายอดแปลกใจไม่ได้
    "ดูอะไรอะมิ้นจ้องตาแป๋วเชียว"ตุ้ยขยับตัวมานั่งใกล้ๆแฟนสาว
    "พี่ตุ้ย ที่นั่นมันที่ไหนหรอทำไมมีคนเยอะจังแถมยังมีของขายเต็มเลยอะ"มิ้นชี้นิ้วไปที่จอโทรทัศน์อย่างสนใจ
    "555 นั่นอะนะก็ที่สวนจตุจักรไงไม่รู้จักได้ไงเนี่ยยัยบ๋อง"ตุ้ยเขย่าหัวมิ้นอย่างเอ็นดู
    "ก็ไม่รู้จักอะสิ รู้จักแล้วจะถามไหมเนี่ย"มิ้นเบะปากอย่างน่ารัก
    "ทำไมอยากไปรึป่าวละ"ตุ้ยเอนหลังพิงโซฟาแล้วใช่มือโอบมื้นเอาไว้
    "อยากไปๆอยากมากๆเลยพี่ตุ้ยจะพามิ้นไปใช่มะ"มิ้นซกหน้าไปที่อกอุ่นของตุ้ยออดอ้อนเขาสุดๆ
    "เหออ อ้อนจริงๆเลยนะเราเนี่ย เป็นแมวรึไงพันแข็งพันขาจริงๆ"ตุ้ยอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะกอดร่างเล็กๆนั้นเอาไว้แนบอก
    "พี่ตุ้ยบอกก่อนสิว่าจะพามิ้นไปอะ นะนะพี่ตุ้ยพามิ้นไปหน่อยนะจ๊ะ"มิ้นพูดเสียงน่ารัก
    "อืมพาไปก็ได้ ไปแต่งตัวสิ"
    "เย้ๆๆ พี่ตุ้ยใจดีจัง งั้นมิ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ"มิ้นผละออกจากอ้อมกอดของตุ้ยทันทีแล้ววิ่งจู๊ดไปโดยไม่เหลียวมามองคนอารมณ์หวานค้างซะเลย ตุ้ยได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ
    "พี่ตุ้ยขาเสร็จแล้วค่ะ ไปกันเถอะ"มิ้นยืนยิ้มหวาน
    ตุ้ยมองมิ้นตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยสีหน้าไม่พอใจ
    "ไปเปลี่ยนชุดเลย"
    "ทำไมอะ ไม่สวยหรอ"มิ้นก้มลงมากชุดเสื้อกล้ามสีดำพอดีตัวกับกระโปรงยีนสั้นเสมอเข่าของตัวเองอย่างงงๆ
    "ไม่สวย โป๊ด้วยใส่ยังงี้ไปให้ใครมองฮะ"ตุ้ยโว้ยทันที เขายอมรับว่าวันนี้นอกจากเธอจะน่ารักแล้วยังแอบเซ็กซี่ด้วย ก็ไ อ้เสื้อกล้ามตัวเล็กนั่นกับผมยาวสวยที่เธอรวบตึงขึ้นไปมันเผยให้เห็นช่วงไหล่ ซอกคอกับแขนขาวเนียนของเธออะสิ แถมกระโปรงนั่นมันก็สั้นเกินไปแล้ว ยังงี้ก็ต้องมีผู้ชายมามองขาคู่สวยของเธออีกแน่ๆ แค่คิดเขาก็จะบ้าตายแล้ว
    "อะไรเนี่ยพี่ตุ้ยอะ เรื่องมากจัง"มิ้นหน้าหยิกอย่างไม่พอใจ
    "ไปเปลี่ยนเลย ไม่เปลี่ยนไม่ให้ไปด้วย"ตุ้ยสั่งอย่างเผด็จการ  มิ้นเดินกระแทกส้นไปเปลี่ยนชุดอย่างขัดใจ

    10 โมงวันอาทิตย์ ตลาดนัดสวนจตุจักร
    "พี่ตุ้ยไปซื้อผ้าปูที่นอนใหม่กัน ร้านนั้นน่ารักด้วยอะ"มิ้นชี้ไปที่ร้านขายของประดับบ้านดีไซน์เก๋ร้านหนึ่ง
    "ไม่เอา ไม่เข้า ไม่ซื้อด้วย"ตุ้ยกอดอกนิ่งทำหน้าไม่พอใจ
    "เย้ย ทำไมอะ ดูดิทำหน้าบูดเป็นตูดลิงอีกเป็นไรเนี่ย"มิ้นงงกับอารมณ์แปรปรวนของเขา
    "ซื้อไปทำไมละ มิ้นก็นอนอยู่คนเดียวอะ พี่ต้องนอนแต่โซฟาจจนปวดหลังไปหมดแล้ว"ตุ้ยทำท่าบิดหลังแบบปวดๆให้มิ้นดูด้วย ส่วนมิ้นก็เริ่มเห็นลางร้ายบางอย่างซะแล้ว
    "แล้วมันเกี่ยวอะไรละพี่ตุ้ย"มิ้นมองตุ้ยหวั่นๆ
    "มิ้นจะซื้อก็ได้ไงแต่พี่ขอใช้มันด้วยดิ ขอพี่นอนด้วยคนนะ"ตุ้ยจับแขนมิ้นเขย่าอ้อนเหมือนเด็กอายุสัก 5 ขวบจมิ้นขนลุกซู่
    "เห้ยพี่ตุ้ย อยู่ๆมาขอนอนด้วยได้ไงอะ พูดงี้มาต่อยกันเลยดีกว่า"มิ้นแกล้งถลกแขนเสื้อกำหมัดเหมือนจะต่อยตุ้ย
    "อย่านะพี่แค่ขอนอนด้วยเฉยๆอะ นอนอย่างเดียวจริงๆนะไม่ได้คิดอะไรเลยมิ้นอย่าใจร้ายดิพี่อยากนอนบนเตียงสบายๆบ้างอะ"ตุ้ยทำหน้าจ่อยสนิท
    "แต่มิ้น เออ มันจะดีหรอค่ะพี่ตุ้ย"มิ้นเริ่มจะเครียดขึ้นมาแล้ว
    "มิ้นยังไม่ไว้ใจพี่หรอ งั้นก็ไม่ไปไรแต่พี่อยากจะบอกว่าพี่ไม่มีวันทำร้ายคนที่พี่รักจริงๆได้หรอก ไปร้านอื่นกันเถอะ"
    "เดียวค่ะ ไปในร้านกันเถอะ มิ้นจะเอาสีขาวที่มันดูนุ่มๆอันนั้นนะ พี่ตุ้ยต้องซื้อให้มิ้นด้วย"
    มิ้นคว้ามือของตุ้ยเอาไว้ แล้วดึงเขาเข้าไปในร้านด้วยกัน
    ตุ้ยมองหน้ามิ้นอย่างซึ้งใจที่เธอไว้ใจและเชื่อใจเขา แน่นอนเขาไม่มีวันล่วงเกินเธอแน่นอน เขาจะรอจนกว่าเธอจะรู้ว่าตัวเองเป็นใคร รอจนกว่าทั้งเขาและเธอจะพร้อม เพื่อเธอเค้าพร้อมจะทำได้ทุกอย่าง

    น่านยังอุตส่าห์มาเน่าในจตุจักรอีกนะเราพี่ตุ้ย มิ้นอยากได้ปลาทองอะ"มิ้นดึงมือตุ้ยที่กำลังหอบของพะรุงพะรังเข้าไปในร้านขายสัตว์เลี้ยงน่ารักทันที
    "สนใจจะซื้อปลาทองไปเลี้ยงหน่อยไหมละ เป็นแฟนกันยังไงต้องซื้อ 2ตัวจะไดด้อยู่เป็นเพื่อนกันไงละ"คุณลุงเจ้าของร้านยิ้มอย่างอารมณ์ดี แต่ตุ้ยกับมิ้นได้แต่มองหน้ากันเขินๆ
    "เออ แล้วลุงขายตัวละเท่าไรละครับ"ตุ้ยถามขึ้น
    "อืมแล้วพ่อหนุ่มอยากได้สักพี่ตัวละ"
    "มิ้น อยากได้กี่ตัวละ"ตุ้ยหันไปหามิ้นที่จ้องปลาทองสีสวยตาไม่กระพริบอย่างเอ็นดู
    " เอา 2ตัวก็ได้ค่ะ พี่ตุ้ยตัวหนึ่งของมิ้นตัวหนึ่ง"ปากพูดไปแตตาใสแจ๋วของเธอยังจ้องมองเจ้าปลาน้อยอย่างไม่ว่างตา
    "อืมงั้นเอา 2ตัวก็ได้ครับลุง เท่าไรละครับ"
    "555สงสัยแม่หนูนั้นจะชอบเอาจริงๆนะหน่ะ มองปลาตาแป๋วเชียว งั้นลุงลดไปเป็นพิเศษสำหรับแม่หนูน่ารักนั้นเลย ---บาทครับ"ว่าแล้วคุณลุงก็ไปตักปลาตัวสวยที่มิ้นเล่งเอาไว้ใส่ถุงแล้วส่งให้มิ้น มิ้นปรบมือดีใจจนทั้งลุงและตุ้ยต่างยิ้มให้กันอย่างขำๆ
    มิ้นกับตุ้ยช่วยกันถือข้าวของออกมาจากร้าน แต่สายตาของแม่ตัวจุ้นก็เหลือมไปเห็นกระต่ายน้อยสีขาวน่ารักที่นั่งนิ่งอยู่ในกรง มิ้นไม่รอช้าวิ่งไปอุ้มมันมากอดทันที
    "เห้ยทำไรอะมิ้น"ตุ้ยวิ่งตามไปแบบงงๆ
    "มิ้นอยากได้กระต่ายอะ พีตุ้ยซื้อให้หน่อยนะ"มิ้นกอดกระต่ายน้อยไว้แน่นพลางส่งสายตาออดอ้อนมาที่ตุ้ย
    "ไม่ได้ ที่คอนโดเค้าไม่ให้สัตว์"
    "อ้าวแล้วทำไมยังเลี้ยงปลาทองได้ละ"มิ้นเริ่มหน้าบูดแล้ว
    "ก็ปลาทองมันอยู่ในตู้ปลาไงไม่วุ่นวาย แต่เจ้ากระต่ายเนี่ยมันต้องวิ่งไปวิ่งมา คอนโดเราเล็กนิดเดียวเลี้ยงมันไม่ได้หรอ"ตุ้ยพยายามใช้เหตุผลกับแม่เด็กดื้อ
    "แต่มิ้นอยากได้นิ มิ้นจะเอากระต่ายตัวนี้"มิ้นตะโกนลั่นร้านเลย
    ตุ้ยรีบมาดึงกระต่ายผู้โชคร้ายตัวนั้นจากมือมิ้นส่งคืนให้คุณลุงเจ้าของร้านที่ยืนงงอยู่ ก่อนจะทั้งลากทั้งลากทั้งจูงแม่ตัวแสบมิ้นไป

    "มิ้นกินข้าวสิครับ บ่ายโมงแล้วนะเดียวก็หิวแย่หรอก"ตุ้ยพยายามเอาใจมิ้นที่ไม่ยอมพูดยอมจากับเขาเลยตั้งแต่ออกจากร้านขายสัตว์เลี้ยง
    "ไม่กิน ไม่หิว"มิ้นสะบัดหน้าอย่างงอนๆ
    "อืมงั้นกินน้ำก็ได้ น้ำเย็นชื่นใจนะ"ตุ้ยยืนน้ำหวานสีสวยให้มิ้น
    "ม่ายกิน บอกแล้วไงว่าไม่กิน ไม่หิวอะไรทั้งนั้น"แม่ตัวดีแผดเสียงลั่นอีกครั้ง ใบหน้าสวยๆกลายเป็นหน้าบูดบึ้งไปแล้ว
    "เห้ย ย่าเสียงดังดอายเค้า นั่นก็ไม่กินนี่ก็ไม่กินแล้วอยากได้อะไรละ"ตุ้ยพูดอย่าอ่อนใจ
    มิ้นจ้องหน้าตุ้ยนิ่งก่อนจะแผดเสียงดังสนั่นกว่าเก่าว่า"มิ้น อยาก ได้ กระต่าย น้อยได้ยินไหม"
    ได้ผลเสียงมิ้นเรียกความสนใจจากคนในร้านอาหารได้ทั้งหมด ตุ้ยก้มขมับอยากเครียดๆก่อนจะลุกขึ้นยืน
    "จะไปไหนอะ"มิ้นมองตามอย่างงงๆ
    "จะไปเข้าห้องน้ำจะไปด้วยมะ"ตุ้ยพูดจบก็เดินจากไปเลย
    ***จ๊อกกกกกก***
    เสียงร้องอุธรณ์ของแม่คนไม่หิว ไม่อยากกินอะไรก็ดังขึ้น มิ้นลูบท้องตัวเองก่อนจะมองไปที่อาหารน่ากินบนโต๊ะ เธอกลืนน้ำลายช้าๆ
    "เหอๆ กินนิดหน่อยคงไม่เสียฟอร์มากหรอกเนอะ งั้นกินแล้วละนะ"ว่าแล้วคนดกินนิดเดียวก็ฟาดข้าวหมดจานภายในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากกินจนอิ่มอารมณ์ที่ขุ่นมัวก็เริ่มดีขึ้น มิ้นเริ่มหันไปมองหาตุ้ยที่หายไพกใหญ่แล้ว
    "เย้ย พี่ตุ้ยหายไปเนี่ย หรือว่าเราจะถูกทิ้ง โอ้ยเราไม่หน้าไปแผงฤทธิ์เอาไว้เยอะเลยอะ"มิ้นจ๋อยสนิททำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้ว
    "มิ้น"เสียงที่เท่าคุ้นเคยดีดังขึ้นจากด้านหลัง
    "พี่ตุ้ย"มิ้นรีบหันไปหาตุ้ยอย่างดีใจ แล้วเธอก็ต้องดีใจขึ้นอีกหลายเท่าเมื่อเห็นสิ่งที่เขาแบกมา ตุ๊กตากระต่ายสีขาวหน้ารักขนาดเกือบเท่าตัวเธออยู่ในอ้อมแขนของตุ้ย
    "น่ารักจังเลยอะ พี่ตุ้ย"มิ้นตาเป็นประกาย
    "น่ารักก็มาเอาไปสิ หนักจะตายละ"
    "พี่ตุ้ยซื้อให้มิ้นหรอ"
    "ก็อืมนะซิแทนเจ้ากระต่ายน้อยในร้านนั้นก็แล้วกัน เดียวก็จะมามีเด็กดื้อที่ไหนไม่รู้มางอนไม่พูดพี่กับพี่อีก"ตุ้ยส่ายหัวอย่างระอา
    "เย้ๆพี่ตุ้ยใจดีที่สุดในโลก มิ้นรักพี่ตุ้ยจัง 555"มิ้นวิ่งไปคว้ากระต่ายมากอดเอาไว้ ก่อนจะกระโดดไปหอมแก้มตุ้ยเบาๆแล้วเดินจากไปอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ทิ้งให้ตุ้ยลูบแก้มตัวเองอย่างเขินๆ
    "ถ้าซื้อให้แล้วได้รางวัลยังงี้ ซื้อไปตั้งนานแล้วดีกว่า 555"
    ตุ้ยพูดเบาๆก่อนเดินตามยัยกระต่ายตัววุ่นนั่นไปโอ้ยเหนื่อยจังเลย"มิ้นอุ้มเจ้ากระต่ายยักษ์เข้ามาแล้วล้มตัวลงบนเตียงนอนทันที
    ตุ้ยที่แบกข้าวของมากมายตามเข้ามาได้แต่ส่ายหัวอย่างระอาใจ
    "มิ้นเหนื่อยมากเลยหรอถือตุ๊กตามาตัวเดียวเนี่ย แล้วดูพี่ดิแบกของยังกะจะย้ายบ้าน"
    "พี่ตุ้ยอะชอบบ่น ต่ายน้อยดูคุณพ่อสิค่ะบ่นคุณแม่เอาๆยังกกกะตาแก่เลยเนอะ ถ้าคุณพ่อบ่นมากๆนะคุณแม่จะหนีไปเลยดีมะ ลูกต่ายน้อย"มิ้นพยักเพยิดพูดกับตุ๊กตากระต่ายอย่างน่ารักก่อนทั้งกอด ทั้งรัด ทั้งฟัดมันอย่างสนุกถูกใจ
    "คุณพ่อ คุณแม่หรอ"ตุ้ยพึมพำเบาๆแล้วก็ยิ้มอย่างเขินๆอยู่คนเดียว
    "พี่ตุ้ยเป็นไรอะ ยืนยิ้มอยู่ได้บ้าปะ"มิ้นมาหยุดมากหน้าตุ้ยที่ยืนยิ้มค้างอยู่สักพักอย่างสงสัย
    "ป่าวนิไม่มีอะไรซะหน่อย"ตุ้ยกลับมาเก๊กหน้าขรึมใหม่
    "แน่ใจ"มิ้นเอียงคอมองหน้าสงสัย
    "อืม แล้วนิจะเอาปลาทองที่ซื้อมาใส่โหล่อะยังเนี่ย หรือจะปล่อยให้มันตายคาถุงไปเลย"ตุ้ยแกล้งทำหน้าดุกลบเกลือน
    "อืมจริงด้วยมิ้นเลยลืมไปเลยอะ"
    มิ้นกับตุ้ยช่วยกันตกแต่งขวดโหล่แก้วใส แล้วน้ำเจ้าปลามองสีสวย 2ตัวลงไปปล่อย มิ้นและตุ้ยมองดูผลงานของตัวเองอย่างชอบใจ
    "ว้าวสวยจังเลยเนอะพี่ตุ้ย"มิ้นเอานิ้วไปชี้น้ำให้เจ้าปลาน้อยตกใจเล่น
    "อืมสวยมาก"ตุ้ยจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยไร้เดียงสาของสาวน้อยแต่เธอไม่รู้ตัวยังคงเจื้อยแจ้วเจรจาต่อไป
    "พี่ตุ้ยมิ้นว่าเรามาตั้งชื่อให้ปลาทองกันเถอะ "
    "ตั้งชื่อให้ปลาเนี่ยนะ มันก็หน้าตาคลายๆกันอะ"ตุ้ยมองหน้ามิ้นอย่างขำๆ
    "ไม่เหมือนนะ ตัวนั้นอะตัวใหญ่ หางยาวกว่าต้องเป็นผู้ชายแลย อีกตัวตัวเล็กๆสีสวยๆนะต้องเป็นผู้หญิง"มิ้นพูดอย่างเป็นจริงจังจนตุ้ยยังแอบขำ
    "เหอ อยากตั้งก็ตามใจแล้วจะให้ชื่ออะไรละ"ตุ้ยเมื่อเห็นว่าห้ามไม่ได้ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย
    "งั้นตัวผู้ชายชื่อตุ้ยคุง ส่วนอีกตัวก็ชื่อมิ้นตี้นะ จะได้ว่ายน้ำเล่นเป็นเพื่อนกัน อิอิ"มิ้นหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี
    "ตุ้ยคุงกับมิ้นตี้หรอ เหอเอางั้นก็ได้"ตุ้ยยิ้มพลางดึงมิ้นมาโอบไว้อย่างเอ็นดู
    "มิ้นเรามาช่วยกันเปลี่ยนผ้าปูที่นอนกันเถอะ"ตุ้ยพูดเบา
    "ตอนนี้เลยหรอ"
    "อืมตอนนี้สิ เดียวตอนค่ำๆพี่ต้องไปเล่นมินิคอนเสิร์ตนะ คืนนี้พี่จะได้กลับมานอนกับมิ้นไง"ตุ้ยยิ้มกลุ้มกริ่มจนมิ้นตกดึงตัวออกมาจากอ้อมกอดของเขา
    "ทำไมต้องหน้าแดงด้วยนะ ขี้เขินจริงๆเลยนะเรา" ตุ้ยหยิกแก้มแดงของมิ้นเบาๆ
    "จะไปปูก็รีบไปดิ ช้าอยู่ได้"มิ้นพูดจบก็วิ่งไปอย่างเขิน ปล่อยให้ตุ้ยมองตามไปอย่างเอนดู
    ตุ้ยและมิ้นช่วยกันปูที่นอนสีขาวเนื้อนุ่มด้วยกัน แต่ทั้งคู่ก็เอาแต่แกล้งกันไปมาทั้งเอาหมอนไล่ตีกันทั้งวิ่งไล่จับกันกว่าจะเสร็จก็เล่นเอาหอบเลย ทั้งคู่หมดตัวลงนั่งกับพื้นหันหลังพิงอย่างหมดแรง
    "เฮ้อเหนื่อยจังเลยอะ"มิ้นเอนตัวไปพิงหลังตุ้ยแล้วหอบเบาๆ
    'แล้วใครละที่เอาแต่เล่นอะ "ตุ้ยกระแทกหลังมิ้นเบาๆ
    "ก็พี่ตุ้ยแหละแกล้งมิ้นก่อนนิ "มิ้นกระแทกกลับตุ้ยจนตุ้ยหน้าเกือบคว่ำ
    "ยัยเด็กดื้อคนนี้ นี่จริงๆเลย"ตุ้ยเอาหน้ามาซุกไซ้ผมนุ่มของมิ้นอย่างเอ็นดู
    "พี่ตุ้ยอย่ามาแกล้งมิ้นนะ"มิ้นตีหัวตุ้ยเบาๆ
    ตุ้ยพลิกตัวมานอนบนตักนุ่มๆของมิ้นทันที
    "พี่ตุ้ยอะมาว่าเค้าแล้วมานอนตักเค้าทำไมละ"มิ้นทำหน้างอนๆ
    "จุ๊ๆ อย่าเพิงพูดอะไรนะ พี่ขอนอนสบายอย่างนี้ก่อนนะจะได้มีแรงไปทำงาน"
    ตุ้ยพูดจบก็หลับตานิ่งทันที เสียงหายใจที่สม่ำเสมอของเขาบอกให้มิ้นรู้ว่าตุ้ยหลับไปแล้วจริงๆมิ้นยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วลูบผมตุ้ยเบาๆอย่างแสนรัก
    "หลับให้สบายนะค่ะ มิ้นรักพี่ตุ้ยค่ะ"มิ้นก้มหน้าไปจูบหน้าผากตุ้ยเบาๆ
    10นาทีผ่านไป
    "พี่ตุ้ยขาตื่นได้แล้วค่ะ"มิ้นเขย่าตัวตุ้ยเบาๆ
    "หือ 10 นาทีแล้วหรอเนี่ยไวจัง"ตุ้ยยังไม่ยอมลืมตา
    "ตื่นได้แล้วเดียวไปทำงานไม่ทันนะ"ตุ้ยเอานิ้วแหกตาตุ้ยให้ลืมขึ้น
    ตุ้ยคว้ามือมิ้นไปจับแน่นแล้วมองธอด้วยสายตาดุๆจนมิ้นชักกลัว
    "แกล้งพี่ใช่ไหมงั้นต้องโดนยังงี้"ตุ้ยว้ามือขาวของมิ้นไประดมจูบอย่างนับครั้งไม่ถ้วน
    "พี่ตุ้ยอะ อย่าแกล้งสิมิ้นเจ็บแล้วนะ"มิ้นหน้าแดงก่ำเลย
    ตุ้ยมองมือขาวๆของเธอที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆอย่างชอบใจ
    "วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ เดียวคืนนี้พี่กลับมาเจอดีแน่"ตุ้ยยิ้มอย่างเจ้าเลห์แล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้มิ้นนั่งเหว่ออยู่ที่พื้นคนเดียว
    "กลับมาพี่ตุ้ยจะทำอะไรเรานะ หรือว่าๆๆ ตบ จูบ ผลักลงเตียง ฉีกเสื้อออก ม่ายนะ อย่านะมิ้นยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่นะค่ะ"
    "มิ้นทำบ้าอะไรนะ"ตุ้ยมองมิ้นที่นอนดิ้นไปมาที่พื้นอย่างงงๆก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถที่ลืมเอาไว้แล้วเดินจากไป
    "โอ้ยตายแล้ว ทำบ้าอะไรลงไปเนี่ยฉัน"
    มิ้นเอามือปิดหน้าที่แตกละเอียดของตัวเองก่อนจะลงไปกลิ้งที่พื้นอย่างสติแตก

    น้องมิ้นเริ่มเพี้ยนแล้วเนอะ
    เวลาเที่ยงคืน
    ตุ้ยหยุดยืนอยู่หน้าประตูแสงไฟจากในห้องที่รอดผ่านช่องเล็กๆของประตูบอกให้เขารู้ว่าเจ้าของห้องคงยังไม่หลับ ตุ้ยหยิบกล่องของขวัญสีชมพูหวานออกมาจากกระเป็กางเกง ตุ้ยเปิดมันออกมาช้าๆอยากภูมิใจ ตุ้ยหยิบสร้อยคอทองคำขาวพร้อมจี้เล็กๆที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนว่า MINTUI ขึ้นมาดู
    "หวังว่าเธอคงชอบนะมิ้น"ตุ้ยพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนก่อนจะหยิบสายสร้อยแบบเดียวกันแต่มีขนาดยาวกว่าที่ตัวเองใส่อยู่มาจูบเบาๆอย่างมีความสุข
    ตุ้ยเปิดประตูเข้าไปในห้องเขาก็พบว่าภายในห้องถูกทำความสะอาดและตกแต่งอย่างสวยงาม ตุ้ยมองไปที่เตียงนอนสีขาวสะอาดตาซึ่งบัดนี้เป็นที่อยู่ของเจ้าต่ายน้อยลูกชายของเขาและเธอไปเสียแล้ว มิ้นตี้กับตุ้ยคุงก็ยังคงว่ายน้ำเล่นอยู่ที่บนตัวเตียงเขา ผนังห้องก็มีรูปที่เขาจุ๊บแก้มมิ้นที่เขาและมิ้นเพิ่งไปอัดกรอบด้วยกันแขวนอยู่  ตุ้ยอดยิ้มไม่ได้เพราะการที่มีเธออยู่ด้วยนั้นทำให้เขารู้สึกว่าที่นี้คือ "บ้าน"ไม่ใช่แค่ห้องๆหนึ่งเท่านั้น
    "ขอบคุณนะมิ้นที่ทำให้โลกของพี่สดใสขึ้น"
    ตุ้ยพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะมองหาสาวน้อยผู้กุมหัวใจเขาไป แล้วสายตาของตุ้ยก็เหลือบไปเสื้อผ้าของเชอรี่ที่เขาเก็บมันไว้เป็นอย่างดีถูกทิ้งไว้ในถังขยะ ตุ้ยรีบเดินไปหยิบขึ้นมาดวงตาวาววับด้วยความโมโหฉายขึ้นทันที ตุ้ยรีบเปิดลิ้นชักในตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบรูปถ่ายของเชอรี่มาดูด้วยแววตาเจ็บปวด
    "พี่ตุ้ยกลับมาแล้วหรอค่ะ"มิ้นเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
    "เธอคิดว่าเธอทำอะไรลงไปมิ้น"ตุ้ยมองหน้ามิ้นนิ่ง
    "อืมก็จัดห้องไงค่ะ เป็นไงห้องทั้งสวยทั้งสะอาดฝีมือมิ้นคนเดียวเลยนะ"มิ้นยังคงร่าเริงโดยไม่รู้ว่าตุ้ยโกรธแค่ไหน
    "ฉันหมายถึงเธอมาทิ้งของๆฉันได้ยังไง"ตุ้ยยืนเสื้อผ้าของเชอรี่ไปตรงหน้ามิ้นอย่างโมโหสุดขีด
    "เออ คือ มิ้นไปจัดตู้เสื้อผ้าพี่ตุ้ย แล้วมิ้นก้เห็นชุดพวกนี้นะค่ะมิ้นคิดว่าพี่ตุ้ยคงไม่ได้ใช่แล้วก็เลยเอาไปทิ้ง"มิ้นพูดเสียงสั่นด้วยความตกใจ
    "เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับของที่ฉันรักเข้าใจไหม"
    ตุ้ยเดินตรงเขามาตวาทใส่มิ้น มิ้นถอยหลังไปชนเอากรอบรูปของเชอรี่หล่นแตก ตุ้ยผวาไปหยิบรูปนั้นทันทีก่อนจะมองมิ้นด้วยแววดาหน้ากลัวอย่างที่มิ้นไม่เคยเห็นมาก่อน
    "ทำบ้าอะไรของเธอฮะ รู้ไหมว่าทำอะไรลงไป "ตุ้ยตะโกนลั่น
    "มิ้นไม่ได้ตั้งใจมิ้นขอโทษ"มิ้นน้ำตาคลอเบ้าด้วยความกลัว
    "นอกจากความจำเสื่อมแล้วยังปัญญาอ่อนอีกรึไง เธอจ้องจะทำลายฉันกับเชอรี่ไปถึงไหน"ตุ้ยพูดไปโดยไม่คิด
    มิ้นตกตะลึงกับคำพูดที่ออกมาจากปากผู้ชายที่เธอที่เทอรัก เค้าพูดยังงี้กับเทอได้อย่างไร น้ำตาใสๆไหลออกมาจากตาคู่สวยช้าๆ
    "ทำไมพี่ตุ้ยต้องพูดแบบนี้กับมิ้นด้วย ในสายตาพี่ตุ้ยมิ้นดูเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรอค่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นละค่ะเป็นใครเป็นคนที่พี่ตุ้ยรักใช่ไหมค่ะ"
    มิ้นจ้องมองตุ้ยด้วยสายตาตัดพ้อ แต่ ไม่มีคำตอบใดๆจากตุ้ย  ทำไมพี่ตุ้ยถึงไม่ปฎิเสธ ทำไม มิ้นเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นอีก
    "เค้าเป็นคนที่พี่ตุ้ยรัก แล้วมิ้นละเป็นอะไร มิ้นเป็นอะไรกันแน่ในหัวใจพี่ตุ้ย ของเล่นแก้เหงาแค่นั้นใช่ไหม มิ้นเกลียดพี่ตุ้ย มิ้นเกลียดพี่ตุ้ยได้ยินไหม"
    มิ้นน้ำตาไหลพรากก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปอย่างร้าวราน

    เธออยู่กับฉัน แค่ให้ฉันมาแทนเขา
    เธออยู่กับฉัน เพราะเธอเองไม่เหลือใคร

    แต่ความจริงแล้ว เธอเพียงต้องการ แค่คนคอยปลอบใจ เธอยังลืมเขาไม่ได้เลย


    ถ้าจะรัก.....ได้โปรดจงรักฉัน
    อย่าให้ฉัน ต้องเป็นเพียงเงาใครบางคน

    อยากให้มองด้วยหัวใจ ว่าฉันมีตัวตน
    อย่ามองฉันเป็นตัวแทนของใคร

    อยากให้มองด้วยหัวใจ ว่าฉันมีตัวตน
    ให้เหมือนที่ฉันรักเธอทั้งใจ..................

    น้องมิ้นโหมดเศร้าอีกละมิ้นร้องไห้อย่างหนักออกมาจากคอนโด ความหนาวเหน็บยามค่ำมันทำให้ร่างกายของเธอเจ็บปวดไปหมดแต่มันก็ไม่เท่ากับสายตาและคำพูดของเขาคนนั้นที่กรีดแทงใจเธอจนยากจะลบเลือนไป
        แสงไฟจากรถคันหนึ่งที่กำลังแล่นตรงมายังเธอ มิ้นหันไปมองมองอย่างตกใจ มันใกล้เกินที่เธอจะหนี มิ้นยืนนิ่งมองรถคันนั้นอย่างหวดกลัว
        "คุณพ่อ คุณแม่ พี่ตุ้ย ช่วยมิ้นด้วย"มิ้นยกมือขึ้นปิดหน้าอย่างหวาดกลัว
    ****เอี๊ยดดดดดดดดดดด******

    ความในใจตูน

    เวลาเที่ยงคืน
    ผมเพิ่งเลิกคอนเสิร์ต ที่จริงผมควรจะรีบกลับบ้านไปนอนนะ แต่เพราะอะไรผมถึงคิดถึงเธอขึ้นมา ผมตัดสินใจขับรถมาที่คอนโดเธอแต่ไม่ได้มาหาเธอนะครับ ผมไม่กล้าขึ้นไปหาเธอหรอกเดียวจะมีปัญหาให้เธอเหนื่อยใจเปล่าๆ แค่ผมได้มองเห็นห้องบนคอนโดสูงๆของเธอก็พอแล้ว
    ผมน้ำเน่าไหมละครับ อิอิ แต่ผมก็รักเธอไปแล้วนิ
    "เห้ยยยย"
    ***เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด***
    ผมรีบเหยียดเบกอย่างแรก ผู้หญิงคนนั้นมาทำอะไรอยู่กลางถนนเนี่ย ไม่นะผมไม่อยากชนใคร เห้อ โล่งอกรถผมตจอดห่างจากเธอแค่ไม่ถึงฟุต ยัยนั่นเป็นบ้าอะไรเนี่ยยืนปิดหน้าอยู่ได้
       ผมหญิงผมเหยียดยาวสีดำขลับ ผิวขาวใส ร่างเบาๆนั้นอีก ทำไมผมถึงรู้สึกคุ้นตาเธอนักนะ หรือว่าเธอคือ...
    "น้องมิ้น"
    ผมจำเธอได้ ผมรีบวิ่งไปยังรางที่สั่นเทาของเธอทันที
    'น้องมิ้นเป็นอะไรรึป่าว"เธอยังคงปิดหน้านิ่งไม่ยอมพูดอะไร
    "น้องมิ้นกลัวมากหรอ ไม่ต้องกลัวนะ"ผมจับไหล่เล็กๆทั้ง 2ข้างของเธอเอาไว้
    "พี่ตูน ฮือออออออออ"มิ้นเงยหน้ามองผมพร้อมคราบน้ำตา  เธอโผมากอดผมแน่น ผมตกใจมากเธอเป็นอะไร ใครทำให้เธอเสียใจขนาดนี้
    "น้องมิ้นเป็นอะไรไปครับ"เสียงสะอื้นของเธอมันบาดใจผมเหลือเกิน
    "พี่ตูนมิ้นไม่อยากอยู่ที่นี้แล้ว พี่ตูนพามิ้นไปที ฮือๆๆๆๆ"เธอมองหน้าผม น้ำตาของเธอและแววตาเศร้าๆนั้นทำให้ผมปฎิเสธเธอไม่ได้เลย
    "ได้สิ เราไปกันเถอะ"
    ผมพยุงร่างน้อยนั้นไปที่รถและขับออกไปอยากรวดเร็ว
    ผมขับรถไปเรื่อยๆท่ามกลางความมืดมิด มิ้นยังคงร้องไห้อยู่เธอกอดเข่าแล้วซกหน้าร้องไห้เหมือนเด็กๆ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาจากตาสวยคู่นั้น ร่างเล็กๆของเธอสั้นสะท้านขึ้นเรื่อยๆ ผมทนดูไม่ได้อีกแล้ว ผมตัดสินใจจอดรถ
    "น้องมิ้นบอกพี่ที่เถอะใครทำให้มิ้นเสียใจขนาดนี้"ผมดึงร่างเธอมากอดไว้แน่น
    "พี่ตูน พี่ตุ้ยเค้าไม่รักมิ้นแล้ว ฮือๆๆ"มิ้นกอดผมไว้แน่นแล้วปล่อยโฮออกมาอีก

    ผมและมิ้นเดินไปเรื่อยๆแสงไฟที่ประดับอย่างสวยงามริมถนนราชดำเนิน ไม่ได้ช่วยทำให้เธอคลายเศร้าลงได้เลย มิ้นเดินไปเรื่อยๆเทอหยุดร้องไห้แล้ว แต่ผมรู้ว่าเธอยังเจ็บแล้วก็เจ็บมากเสียด้วย ลมหนาวกลางเดินธันวาปะทะกับร่างบางๆที่สวมเพียงเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นตัวเล็กๆผมเป็นห่วงเธอจังเป็นเธอดูจะไม่สนใจใยดีอะไรเลย
    "พี่ตูน"มิ้นหันหลังกลับมาอย่างกระทันหันจนผมแอบตกใจ
    "มีอะไรหรอครับ"
    "พี่ตูนรู้จักผู้หญิงชื่อเชอรี่ไหม"
    "อืม เชอรี่ที่เป็นแฟนเก่าตุ้ยนะหรอ"
    "แฟนเก่า  พี่ตูนเล่าเรื่องเค้ากับผู้หญิงคนนั้นให้มิ้นฟังหน่อยสิ"ใบหน้าสวยเศร้าขึ้นอีก คำว่า แฟนเก่า มันคงทำร้ายเธอใช่ไหม ผมเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีแล้ว
    "ตอนสมัยที่ตุ้ยจะเข้าวงการนะมันเคยเป็นแฟนกับเชอรี่ รักกันมากด้วยแต่อยู่ๆยัยเชอรี่เนี่ยก็หายตัวไป ไ อ้ตุ้ยอะเสียใจไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่นานเลย เนี่ยแหละทำให้มันไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย"
    "มิน่า"มิ้นพูดเบาๆ น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกแล้ว
    "น้องมิ้นเป็นอะไรไปครับ"ผมพูดเบาๆ
    "พี่ตุ้ยเค้ายังรักผู้หญิงคนนั้นอยู่ พี่ตุ้ยเค้าไม่รักมิ้นเลย ฮือๆๆๆ "
    มิ้นกอดผมไว้แน่น ผมรู้ว่าเธอเจ็บปวด เธอแค่ต้องการที่พึ่งเท่านั้นแต่ผมก็พร้อมจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ
    "ไ อ้ตุ้ยแกทำให้น้องมิ้นเสียใจ ฉันบอกแกแล้วนะ วันนี้ฉันจะเอาน้องมิ้นมาเป็นของฉันให้ได้ ถ้าอยู่กับฉันมิ้นไม่มีทางต้องเสียน้ำตาแน่"
    ผมกอดเธอเอาไว้
    " อย่าร้องไห้นะคนดี อยู่กับพี่มิ้นจะไม่เสียน้ำตาอีกแน่"
    เวลาของผมกับมิ้นมาแล้ว ขอโทษนะตุ้ยเพื่อนรักกลับมาแล้วหรอค่ะคุณตูน"ป้าดาแม่บ้านของตูนรีบมาเปิดประตูรับนายหนุ่ม
    "ครับป้าดา แล้วคุณพ่อกับคุณแม่หลับหมดแล้วหรอครับ"
    "หลับกันหมดแล้วละค่ะ เอ้แล้วหนูคนนั้นนะหรอค่ะที่คุณตูนให้ป้าจัดห้องไว้ให้"ป้าดามองดูมิ้นที่ยืนอยู่หลังตูนด้วยความเอ็นดู
    "ใช่ครับ น้องมิ้นนี่ป้าดาพี่เลี้ยงพี่ แล้วนี่น้องมิ้นเพื่อนผมครับป้าดา"
    มิ้นยกมือไหว้ป้าดาอย่างนอบน้อม ป้าดายังอมยิ้มกับความน่ารักของเธอไม่ได้
    "งั้นผมพามิ้นไปที่ห้องก่อนนะครับป้า ดึกมากแล้ว"
    ตูนจูงมือมิ้นเดินขึ้นไปข้างบน ป้าดามองตามทั้งคู่อย่างชื่นชม
    "สงสัยคุณตูนจะเจอคนถูกใจจริงๆแล้วซะละมั้ง คิกๆ"ป้าดามองตามเจ้านายคนโปรดกับเพื่อนสาวหน้าใสอย่างถูกใจ

    ตูนพามิ้นไปที่ห้องน้ำสีชมพูน่ารักสไตผู้หญิงๆ มิ้นมองรอบๆห้องนั้นอย่างชอบใจ
    "ชอบหรอครับน้องมิ้น"ตูนอมยิ้มเมื่อเห็นดวงตาใส่แจ๋วของเธอจับจ้องที่ตุ๊กตาคิตตี้น่ารักบนเตียงนอน
    "น่ารักดีนะค่ะห้องใครหรอค่ะพี่ตูน"
    "ห้องพี่สาวพี่เองแหละ แต่ตอนนี้เค้าไปเรียนที่เมืองนอกอะ ห้องเลยว่างมิ้นหยิบซื้อผ้าเค้าไปใช่ได้เลยนะ ห้องน้ำอยู่ตรงนั้นนะ ตามสบายเลย"ตูนยิ้มให้มิ้นอย่างอบอุ่น
    "ขอบคุณนะค่ะพี่ตูน มิ้นไม่รู้จะขอบคุณพี่ยังดีแล้ว"มิ้นน้ำตาคลอด้วยความซึ้งใจ
    ตูนจับไหล่ทั้ง 2ข้างของมิ้นไว้แล้วมองเขาไปในดวงตาเธอ"น้องมิ้นไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกเพราะทุอย่างที่พี่ทำไปพี่เต็มใจ แล้วการที่พี่ได้อยู่ใกล้ๆมิ้นมันก็คือความสุขของพี่ด้วย"
    "พี่ตูน"มิ้นเอ้ยชื่อตูนเบาๆ
    "แต่มีอย่างหนึ่งนะที่พี่อยากจะขอมิ้น แล้วถ้ามิ้นทำได้นะพี่จะดีใจที่สุดเลย"
    "อะไรหรอค่ะ"มิ้นเอียงคอมองหน้าตูนอย่างสงสัย
    "น้องมิ้นอย่าร้องไห้อีกเลยนะครับ เพราะน้ำตาของมิ้นมันทำให้พี่เจ็บมากนะครับ"
    "ค่ะ พี่ตูนมิ้นจะพยายามนะค่ะ"มิ้นมองตูนอย่างซึ้งใจ
    ตูนปล่อยมือจากบ่าของมิ้นแล้วเดินออกจากห้องนั้นไป มิ้นมองตามตูนไปอย่างซาบซึ้งใจ
    **ก๊อก ก๊อก ก๊อก**
    มิ้นเปิดประตูไปพบตูนที่กำลังเกาหัวตัวเองอย่างเขินๆอยู่
    "พี่ตูนมีอะไรรึป่าวค่ะ"มิ้นมองหน้าตูนที่เพิงออกไปจากห้องเธอได้ครู่เดียวอย่างงงๆ
    "เออพี่แค่มาบอกมิ้นว่าอย่าลืมห่มผ้านะครับอาการมันหนาว"
    "ค่ะ รับทราบค่ะ อิอิ"มิ้นอดขำไม่ได้
    "เออ ฝันดีนะครับน้องมิ้น"ตูนยิ้มอายๆ
    "ค่ะ ฝันดีเหมือนกันค่ะพี่ตูน"
    ตูนยิ้มกว้างอย่างดีใจก่อนจะเดินจากไปด้วยหัวใจที่พองโต
    "ทำไมพี่ตูนถึงดีกับมิ้นอย่างนี้ แต่ทำไมคนที่มิ้นรักเขาถึงไม่ห่วงใยมิ้นอย่างนี้บ้างค่ะ"
    หยาดน้ำใสๆไหลออกมาจากตาเศร้าของมิ้นเมื่อเธอคิดถึง "เขา"คนนั้น เขาคนที่เธอ"รัก"แขกลับยังรักใครอีกคนความในใจตุ้ย
    "เค้าเป็นคนที่พี่ตุ้ยรัก แล้วมิ้นละเป็นอะไร มิ้นเป็นอะไรกันแน่ในหัวใจพี่ตุ้ย ของเล่นแก้เหงาแค่นั้นใช่ไหม มิ้นเกลียดพี่ตุ้ย มิ้นเกลียดพี่ตุ้ยได้ยินไหม"
        เสียงของเธอยังดังก้องในหูผม เธอวิ่งออกไปจากห้องผมได้แต่นั่งอยู่ที่พื้นมองกรอบรูปของเชอรี่ที่แตกละเอียด ผมมองดูรูปเธอ ใบหน้าของเชอรี่ยังคงยิ้มให้ผมเสมอ แต่ทำไมในหัวผมถึงเห็นแต่ภาพเธอคนนั้น น้ำตาที่ไหลเป็นทาง สายตาที่มองผมด้วยความเจ็บปวด ผมเจ็บปวดเหลือเกิน ผมไม่อยากเห็นเธอร้องไห้ ผมเกลียดตัวเองที่พูดจาแบบนั้นกับเธอ เธอไปแล้ว เธอหนีผมไป ผมก้มมองรูปเชอรี่อีกครั้งและตอนนี้ผมก็รู้ใจตัวเองแล้ว
    "ขอโทษนะเชอรี่ ตุ้ยรักมิ้น ตุ้ยขอโทษ"
        ผมทิ้งรูปเชอรี่ลงที่พื้น ผมตัดสินใจวิ่ง วิ่งตามหัวใจของผมไป ผมไม่รู้ว่ามันช้าไปหรือป่าวแต่ผมต้องตมเธอกลับมา
         ผมเห็นเธอแล้ว เธอกำลังจะขึ้นรถไปกับผู้ชายคนหนึ่ง ไ อ้ตูน ผมจำมันได้ ไม่นะนะมิ้นอย่าไป อย่าทิ้งพี่ไป
    "มิ้น มิ้น อย่าไปนะ พี่ขอโทษ น้องมิ้น อย่าไป"
         ผมทั้งวิ่งทั้งตะโกนตามเธอไป แต่เธอไม่แม้แต่หันกลับมามองผมเลย รถคันนั้นแล่นไปอย่างรวดเร็ว ผมยังคงวิ่งต่อไปแม้จะรู้ว่าไม่มีทางวิ่งได้ทัน แต่ก็ยังแอบหวังมาเทอจะหันกลับมา แค่เธอหันกลับมาเธอจะได้เห็นผมแล้ว แต่เทอก็ไม่หันกลับมาเลย รถคันนั้นแล่นไปจนลับตา ผมทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง
    "มิ้น พี่ขอโทษ กลับมาเถอะนะ อย่าไปจากพี่เลย"
    น้ำตาของผมไหลออกมา เพราะอะไรไม่รู้ผมถึงรู้สึกว่าผมกำลังจะเสียเธอไปแล้ว
          ผมกลับมาบนห้อง ผมมองมองของเรา มองรูปของเรา มองปลาของเรา มองเตียงนอนของเรา ทุกอย่างมันเป็นอดีตไปแล้วใช่ไหม ตอนนี้ไม่มีคำว่า "เรา"
         ผมเดินไปนั่งลงที่เตียงนอนสีขาว ถ้าเพียงตอนนั้นผมมีสติไม่พูดจาอย่างนั้นกับเทอจนนี้ผมคงได้นอนข้างๆเทอ ได้กอดเทอ ได้ยินเสียงหวานๆของเทอ ผมมันโง่จริงๆ ผมใช้มือลูบหมอนที่เทอนอนเบาๆ ผมคิดถึงเทอ ผมเจอกระดาษแผ่นเล็กๆแผ่นหนึ่ง
      "มิ้นรักพี่ตุ้ยนะค่ะ*-*"ลายมือของเทอผมจำได้
    ผมร้องไห้ ร้องไห้ให้กับความโง่ ความเลวของตัวเอง ผมเกลียดตัวเองจริงๆ หัวใจผมเจ็บเหลือเกิน เจ็บเหมือนโดนกรีดด้วยมีดคมๆ
    "มิ้นพี่ขอโทษ มิ้นอยู่ไหน พี่ขอโทษ"
    ผมซุกหน้าลงกับเตียงแล้วร้องไห้อย่างหนัก ผมเจ็บเหลือเกิน ผมทำลายหัวใจตัวเองได้อย่างไร
    ผมอย่างขอโอกาสจากเทอสักครั้ง จะได้ไหม???
    **อกหักไม่ว่าอย่างเทอไม่รักคงบ้า**
    ตุ้ยผวาไปรับโทรศัพท์มือถือทันที
    "ฮัลโลน้องมิ้นหรอครับ น้องมิ้นอยู่ไหนนะ"ตุ้ยกรอกเสียงพูดไปโดยไม่ทันดูด้วยซ้ำว่าใครโทรมา
    "หวัดดีตุ้ย ฉันตูนเองไม่ใช่น้องมิ้นหรอก"
    "ไ อ้ตูนแกเอามิ้นไปไว้ไหนฮะ"ตุ้ยพอรู้ว่าเป็นตูนก็โมโหสุดขีด
    "เหอะ นายจะอยากรู้ไปทำไมว่ามิ้นเค้าอยู่ที่ไหน จะสนใจไปทำไม นายควรจะไปตามหาแฟนเก่านายมากกว่านะ"ตูนพูดด้วยน้ำสียงเยาะเย้ย
    "ฉันถามแกว่ามิ้นอยู่ที่ไหน"ตุ้ยตวาทตูนลั่น
    "เขาอยู่ที่ที่ปลอดภัยก็แล้วกัน"
    ตุ้ยกำโทรศัพท์แน่นก่อนจะกัดฟันพูดอย่างโกรธสุดๆ"กู ถาม เมิง ว่ามิ้นอยู่ที่ไหนตอบมาซิ ไ อ้ตูน"
    "เค้าอยู่กับกูเอง เมิงมีอะไรไหม คนที่ทำให้มิ้นเสียใจอย่างเมิงนะ ไม่สิทธิ์รู้ด้วยซ้ำว่าเค้าอยู่ไหน"ตูนพูดด้วยอารมณ์โมโหเช่นกัน
    "ฉันจะไปรับมิ้นกลับมา"
    "อย่าเลยเค้ากำลังหลับสบายอยู่ เค้าเป็นคนขอให้ฉันพาเค้ามาเอง ถ้าเค้าอยากไปก็ต้องไปเอง"
    "ฉันจะไปหาเขา"ตุ้ยขบกรามแน่น แววตาแข็งกร้าวน่ากลัว
    "นายไม่มีสิทธิ์แล้วตุ้ย ฉันเคยบอกนายแวใช่ไหมว่าถ้าวันไหนนายทำให้มิ้นเสียใจฉันจะแย่งเขาไปจากนาย แล้ววันน้นก็มาถึง วันที่นายทำให้เขาต้องร้องไห้ไง"
        "เวลาของนายกับมิ้นหมดลงแล้วนะตุ้ย ยอมรับความจริงซะเถอะ"
                      ****ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด***
    ตุ้ยกำโทรศัพท์ไว้แน่นจนมือเป็นสีก่ำด้วยความโกรธ
    "เวลาของฉันกับมิ้นไม่มีทางหมดลง มิ้นต้องเป็นของฉันคนเดียว"

    **ก๊อก ก๊อก ก๊อก**
    "คุณตูนขา คุณตูน ตื่นเถอะค่ะ"ป้าดาเคาะประตูห้องตูนเสียงดัง
    "ครับ มาแล้วครับ ป้าดามีอะไรเรียกผมซะเสียงดังลั่นเชียว"ตูนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จถามป้าดาอย่างงงๆ
    "ป้าขอโทษนะค่ะคุณตูน แต่ คือ เออ"ป้าดาอ่ำอึ้งจนตูนสงสัย
    "ป้าดามีอะไบอกผมมาสิครับ"
    "คือเพื่อนคุณตูนมาหานะค่ะ"
    "เพื่อน เพื่อนที่ไหนครับจะมาหาผมตอนเกือบจะตี3เนี่ย"ตูนทำหน้างงๆ
    "ฉันเอง"เสียงเข้มๆดังขึ้น
     "ตุ้ย"
    "ใช่ฉันเอง ตกใจมากเลยหรอ"
    "นายมาทำไม"
    "ฉันมารับมิ้นกลับบ้าน"
    "เค้าหลับไปแล้ว นายมาพรุ่งนี้เถอะ"
    "เค้าอยู่ที่ไหน บอกมา"ตุ้ยมองตูนด้วยแววตาที่อยากจะอ่านออก
    "แล้วถ้าฉันไม่บอกละ นายจะทำไม"ตูนมองหน้าตุ้ยอย่างไม่ยอมแพ้
    "ไม่บอกก็ได้แต่ฉันจะเข้าไปหามิ้นทุกห้องที่บ้านนายมีเลยเอามะ"ตุ้ยทำท่าจะเดินไปเปิดประตูห้องพ่อกับแมของตูน
    "เด้ว ฉันพานายไปเอง"
    ตูนเดินนำตุ้ยไปอยากโมโห ตุ้ยแอบยิ้มอย่างสะใจ ตูนเปิดประตูเข้าไปในห้องที่ปิดไฟมืด
    "น้องมิ้นหลับอยู่"ตูนพูดเบาๆเพราะกลัวว่ามิ้นจะตื่น
    ตุ้ยมองร่างบางๆที่กำลังนอนหลับสบายบนเตียง เขาอยากจะไปดึงเทอมากอดไว้แน่นอก อยากจะจูบหน้าผากมนๆนั้นแล้วบอกเทอว่าขอโทดเหลือเกิน
    "นายจะทำอะไรนะ"ตูนดึงแขนตุ้ยที่กำลังเดินตรงไปหามิ้น
    "ปล่อย ฉันจะพามิ้นกลับบ้าน"ตุ้ยสะบัดมือตูนอย่างแรงก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียงที่มิ้นหลับสนิทอยู่
    "มิ้นครับ ตื่นเถอะนะครับ"ตุ้ยลูบผมเทอเบาๆอย่างทะนุถนอม ตุ้ยมองดูใบหน้าที่บวมช้ำจากการร้องไห้อย่างปวดใจ
    มิ้นลืมตาขึ้นช้าๆ"พี่ตุ้ย"มิ้นเอ้ยขึ้นเบาๆอย่างงัวเงีย
    "กลับบ้านเรากันนะ"ตุ้ยพูดอย่างอ่อนโยน
      มิ้นที่เหมือนจะเรียกสติกลับมาได้แล้วรีบผลุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองตุ้ยด้วยแววตาโกรธๆ
    "ไม่กลับ ออกไปให้พ้น"มิ้นกัดริมฝีปากตัวเองแน่น
    "มิ้นพี่ขอร้องกลับบ้านเรากันเถอะ"ตุ้ยอ้อนวอนเทออีก
    "บ้านของคุณไม่ใช่บ้านของฉัน"
    "พี่ขอโทษ มิ้นจะด่าจะว่าพี่ยังไงก็ได้แต่กลับไปกลับพี่ก่อนเถอะนะ"
    ตุ้ยเอื้อมมือไปจับข้อมือของมิ้นไว้ แต่มิ้นกลับสะบัดทิ้งแล้วถอยห่างจากเขาไปยืนข้างตูนอย่างรวดเร็ว
    "คุณกลับไปซะเถอะ"
      ตุ้ยมองมิ้นที่ยืนอยู่ข้างตูนอย่างเจ็บปวด เขาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้แต่ก็ไม่สำเร็จน้ำตาลูกผู้ชายของตุ้ยไหลออกมาจนได้ มิ้นมองตุ้ยอย่างตกใจ
    "พี่รู้นะมิ้นว่าวันนี้พี่ผิดมาก ผิดจนไม่หน้าให้อภัย แต่พี่อยากให้มิ้นคิดถึงสิ่งดีๆที่เราทำร่วมกันบ้าง มิ้นเคยบอกว่าจะไม่ทิ้งพี่ไง พี่ขาดมิ้นไม่ได้นะ"ตุ้ยร้องไห้ออกมาอีกอย่างเหนื่อยล้า
        มิ้นมองตุ้ยด้วยแววตาสับสน เขาร้องไห้เพราะเทองั้นหรอ ถึงเทอจะโกดเค้ามากแต่ยังไงมันก็เป็นเรื่องของเทอและเขา 2 คนเท่านั้น เทอควรจะคุยกับเขาให้รู้เรื่องไม่ใช่หนีปัญหาอย่างนี้ใช่ไหม
    "พี่ตูนค่ะ มิ้นกลับก่อนนะค่ะ ส่วนเสื้อผ้ามิ้นเด้ววันหลังมิ้นจะกลับมาเอานะค่ะ"
    มิ้นหันไปพูดกับตูนที่ยืนฟังเทอพูดอย่างเจ็บปวด ตุ้ยเงยหน้าขึ้นช้าๆอย่างตกใจ
    "มิ้นนี่มิ้นยอมกลับไปกับพี่จริงๆหรอ "ตุ้ยคว้าแขนมิ้นไปจับไว้อย่างดีใจ มิ้นหันมามองตุ้ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย
    "ปล่อย  ฉันไม่ได้หายโกดคุณ แต่ฉันอยากจะคุยกับคุณด้วยเหตุผลเท่านั้น"
    มิ้นพูดจบก็เดินออกจากห้องไป ตุ้ยรีบตามเทอไปอย่างมีความหวังอีกครั้งแม้มันจะเล็กน้อยก็ตาม
    ตูนมองคนทั้งคู่อย่างปวดร้าว
    "ทำไมมิ้นถึงยอมกลับไปกับคนที่ทำลายมิ้นละครับ หันมามองพี่บ้างจะได้ไหมครับ"
    ตุ้ยเดินตามมิ้นเข้าไปในห้องนอน เธอล้มตัวลงนอนแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมใบหน้าทันที ตุ้ยมองมิ้นอย่างปวดใจ เธอไม่ยอมพูดกับเขาเลยแม้แต่คำเดียวตั้งแต่ออกจากบ้านตูน   เธอทำราวกับเขาไม่มีตัวตน ไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ  ตุ้ยมองร่างของมิ้นที่อยู่บนเตียงที่เขาและเธอช่วยกันจัดมันขึ้นเมื่อตอนกลางวันอย่างเจ็บปวด ถ้าเขาไม่ทำเรื่องโง่ๆนั้นลงไปตอนนี้เขาคงได้นอนหลับสบายข้างๆเธอ แต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้วสินะ  ตุ้ยถอนหายใจเบาๆก่อนจะเดินไปปิดไฟในห้องนั้นจนมืดมิดเพื่อให้เธอได้นอนหลับอย่างสบาย  ตุ้ยหยิบหมอนจากเตียงที่เธอนอนอยู่ไปนอนที่โซฟาอเงียบๆคนเดียว
       ***มิ้น***
             ฉันเดินออกมาจากบ้านพี่ตูนกับเขา ฉันไม่เข้าใจตัวจริงๆมาทำไมฉันถึงยอมกลับมากับผู้ชายที่ทำร้ายจิตใจฉันด้วย แต่พอฉันเห็นใบหน้าที่เคยเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลากลายเป็นซีดเผือด แววตากลมโตคู่นั้นก็ดูเศร้าเหลือเกิน แล้วยังน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาเขาอีก เขาร้องไห้หรอ ผู้ชายคนนี้ร้องไห้ในฉันด้วยหรอ ฉันไม่รู้จริงๆว่าเป็นเพราะอะไรหัวใจฉันถึงสั่นวูบ มันเจ็บเหลือเกิน ฉันตัดสินใจกลับมาพร้อมเขาแต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าฉันอภัยให้เขานะ คำพูดร้ายๆกับการกระทำของเขาฉันยังคงจำได้ดี ความรักที่ฉันมีให้เขาอย่างเต็มร้อยมันก็ดูจะลดลงไปมากแล้วละ ฉันจะไว้ใจและเชื่อใจเขาได้อย่างไร ในเมื่อ ภายในใจของเขายังคงมีผู้หญิงอีกคน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ผ่านมาที่เขาค่อยห่วงใย คอยทำดี และที่เขาบอกว่า “เขารักฉัน”นั้นมันจะเป็นเรื่องจริง เขามาคบกับฉันเพราะว่ารักฉันหรือต้องการให้ฉันเป็นตัวแทนของใครกันแน่ ทำไมนะในขณะที่ฉันมีแต่เขาคนเดียวให้ใจแต่เขากลับไม่ได้มีแค่ฉัน เขามีใครอีกคนซ่อนอยู่ในใจเขา  ฉันเจ็บปวดเหลือเกิน น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าของฉันมันไม่อาจชะล้างความเศร้าภายในใจไปได้เลย ทำไมนะผู้ชายคนนี้สอนให้ฉันรู้จักคำว่ารักแล้ว เขายังต้องทำให้ฉันรู้จักกับความเจ็บปวดด้วย ฉันอยากรู้เหลือเกินว่าเค้ารักฉันจริงๆหรือป่าว  เขาปิดไฟไปแล้ว คงจะไปนอนที่โซฟาสินะ ฉันตั้งใจรอเค้ากลับบ้าน รอให้เขาได้มานอนข้างๆฉัน เตรียมเขียนการ์ดเอาไว้ให้ เขาได้อ่าน แต่ แล้วทุกอย่างมันก็พังไม่เหลือชิ้นดี ฉันมองไปรอบเตียงนอนที่ตอนนี้มีฉันอยู่เพียงคนเดียวอย่างปวดร้าว ความเดียวดายมันเจ็บปวดเหลือเกิน ฉันพยายามกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองเอาไว้ ฉันไม่อยากให้เขารู้เลยว่าฉันรักเขามากเหลือเกิน มันเจ็บปวดเหลือเกิน คืนนี้ฉันได้รู้จักกับมันแล้ว “ความเจ็บปวด”

    “ทำไมมิ้นยังไม่ตื่นอีกนะ เมื่อคืนคงจะเหนื่ ือยมากสินะถึงได้หลับไม่ยอมตื่นอย่างนี้”ตุ้ยพูดกับตัวเองเบาๆ ตุ้ยยิ้มอย่างมีความสุขเธอจะรู้ไหมนะว่าแค่การตื่นมาตอนเช้าแล้วได้พบเธอมันมีให้เขารู้สึกดีแค่ไหน
     ตุ้ยมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยง วันนี้เขามีงานมินิคอนเสิร์ตตอนบ่ายกับเพื่อนๆแม้ว่าเขาจะอยากพูดคุยกับมิ้นให้เขาใจเหลือเกิน แต่ตุ้ยก็ไม่กล้าที่จะปลุกมิ้นขึ้นมา ตุ้ยยืนมองมิ้นที่หลับสนิทอย่างรักใคร่
    “น้องมิ้นพี่ต้องไปทำงานก่อนนะครับ แล้วตอนเย็นพี่จะกลับมาอธิบายทุกอย่างให้มิ้นได้เข้าใจ อาหารกลางวันอยู่บนโต๊ะนะครับ พี่รักมิ้นนะ”ตุ้ยเขียนโน้ตแล้ววางไว้ที่ข้างเตียงเธอก่อนจะเดินออกจากห้องไป
            *วันนี้แล้วสินะที่เขาจะตัดผู้หญิงคนหนึ่งออกไปจากหัวใจ แล้วบอกให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้รู้ว่าเขารักเธอแค่ไหน*
    งานมินิคอนเสิร์ต
    “เห้ยตุ้ยทำไมวันนี้มาสายวะ”บอยเดินมาตบไหล่ตุ้ยที่มาสายไปเกือบครึ่งชั่วโมง
    “พอดีฉันตื่นสายนะ”
    “แน่ใจหรอว่าแค่ตื่นสายนะ”ตูนพูดขึ้นลอยๆดวงตาสวยของชายหนุ่มวาววับอย่างท้าทาย
    “มันก็เรื่องส่วนตัวฉัน ไม่เห็นว่าจะเกี่ยวอะไรกับนายเลยนิ”ตุ้ยจ้องตูนนิ่ง
    “ตอนนี้มันอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวของนาย แต่ไม่แน่นะตอนไปมาอาจเป็นเรื่องของฉันแทนก็ได้ ระวังเอาไว้นะของที่นายไม่เห็นค่ามันอาจจะมีข้ามากสำหรับฉันก็ได้”ใบหน้าหล่อใสแสยะยิ้มอย่างกวนๆตูนลุกแล้วชนไหล่ของตุ้ยเบาๆแล้วเดินจากไป ตุ้ยกำมือแน่นอย่างโมโหสุดขีด
    “เห้ยตุ้ย เอ็งกับไ อ้ตูนมีอะไรกันรึป่าววะ”บอยตบไหล่ตบอย่างเป็นห่วง
    “ไม่มีอะไรหรอก ไปทำงานกันเถอะ”ตุ้ยเดินจากไปด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
    บอยมองตามไปอย่างหวั่นใจว่าเพื่อนเขาทั้ง 2คนจะมีเรื่องผิดใจกันแน่นอนและก็คงไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วนอกจากเรื่องของ”เธอคนนั้น”
    14น.
    ตุ้ยจ้องมองนาฬิกาอย่างว้าวุ้นใจทำไมวันนี้เค้าถึงรู้สึกเป็นห่วงมิ้นขึ้นมาอยากบอกไม่ถูก เพชรที่อยู่ใกล้ๆมองตุ้ยอย่างสงสัย
    “ตุ้ยเป็นอะไรหรอ เพชรเห็นดูนาฬิกาอยู่ตั้งนานแล้วนะ มีอะไรรึป่าว”
    “ไม่รู้เป็นอะไร วันนี้ตุ้ยรู้สึกเป็นห่วงมิ้นจัง”ตุ้ยดูวิตกกังวลมาก
    “เป็นห่วงก็โทรไปหาเค้าสิ”เพชรยิ้มอย่างขำๆ
    “เออจริงด้วยดิลืมไปได้ไงเนี่ย”ตุ้ยกวนหัวตัวเองเขินๆ
    “ไม่มีคนรับนะเพชรทำไงดีละ”โทรเข้าบ้านแล้วไม่มีคนรับอะเพชร ตุ้ยโทรไปตั้งหลายรอบแล้วนะ”
    “ลองโทรเค้ามือมือมิ้นสิ อาจจะอยู่ข้างนอกก็ได้มั้ง”
    ตุ้ยรีบกดโรศัพท์หามิ้นอย่างร้อนรน
    “ฮัลโล มิ้น มิ้นได้ยินพี่รึป่าว”ตุ้ยรีบกรอกเสียงทันทีที่มิ้นกดรับทณศัพท์
    “ฮัลโล”เสียงพูดอย่างอ่อนแรงของมิ้นดังขึ้น
    “มิ้นเป็นอะไรรึป่าว”
    “อือ ปวดหัวจัง”
    **ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด**
    “มิ้นๆ เป็นอะไรไปอะ มิ้นตอบพี่สิ”ตุ้ยตะโกนใส่ทรศัพท์อย่างกับคนบ้า
    “ตุ้ยใจเย็นๆเกิดอะไรขึ้น”เพชรจับตัวที่สั่นเทาของตุ้ยเอาไว้
    “เพชรมิ้นบอกว่าปวดหัวแล้วโทรศัพทืก็ตัดไปเลย ฉันจะกลับบ้านเดียวนี้”ตุ้ยสีหน้าเครียดมากๆ
    “แต่งานคอนเสิร์ตยังไม่จบเลยนะ”
    “ฉันไม่สน ฉันต้องกลับบ้าน ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้ว”
    ตุ้ยพูดจบก็วิ่งออกไปทันที ตุ้ยปวดหัวจนแทบระเบิดออกมาแล้ว
    “มิ้นอย่าเป็นอะไรนะ รอพี่นะมิ้น “ ตุ้ยเปิดประตูเข้ามาภายในห้องสายตาเค้ามองไปที่ร่างบอบบางของหญิงคนรักที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ตุ้ยพุ่งตรงไปยังร่างที่นอนไม่ได้สติอยู่ ใบหน้าซีดขาวถูกปกคลุมด้วยผมยาวของเธอ มือข้างหนึ่งตกอยู่ข้างเตียง โทรศัพท์มือถือเครื่องน้อยที่ใช้สื่อสารกับเขามือสักครู่ก็หล่นอยู่ที่พื้น เธอคงหมดแรงแล้วปล่อยให้มันตกลงไปนั้นเอง
    “น้องมิ้นเป็นไรไปครับ น้องมิ้น”ตุ้ยประคองร่างบางขึ้นมาแล้วเค้าก็ได้สัมผัสกับไอร้อนจากร่างของเธอ ตุ้ยใช้มือแตะไปบนหน้าผากที่ร้อนราวกับไฟของมิ้นอย่างตกใจ
    “มิ้นตื่นเถอะ มิ้นพูดกับพี่สักคำสิ”ตุ้ยเขย่ารางมิ้นเบาๆแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆจากเธอเลย
          ตุ้ยตัดสินใจอุ้มร่างที่ไม่ได้สติของมิ้นขึ้นมา เขาต้องพาเธอไปโรงพยาบาล ตุ้ยรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน ไปหมด ในหัวเขาว่างปล่าว  เขาได้วิ่ง วิ่งและวิ่งไป เรียวแรงมาร่างกายตัวเองมันดูจะเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ตุ้ยมองใบหน้าซีดขาวในอ้อมกอดตนเองที่นอนนิ่งไม่ไหวติ่งอยู่
    “มิ้นอย่าเป็นอะไรนะ พี่จะพามิ้นไปหาหมอ มิ้น”

    “คุณหมอครับเธอเป็นอะไรไปครับ”
    ตุ้ยวิ่งไปดักหน้าคุณหมอซึ่งเพิ่งออกมาจากห้องตรวจ
    “ใจเย็นๆครับ คนไข้เป็นไข้หวัดใหญ่นะครับ คงเป็นเพราะช่วงนี้อากาศเย็นมากแล้วคนไข้ก็พักผ่อนน้อยด้วย เดียวอยู่โรงพยาบาลให้น้ำเกลือสัก 2วันก้กลับบ้านได้แล้วละ”คุณหมอยิ้มให้ตุ้ยอย่างใจดี
    “แล้วมิ้น เอ่อ คนไข้อยู่ที่ไหนหรอครับคุณหมอ”
    “อ้ออยู่ที่ห้อง 605นะครับคุณเข้าไปเยี่ยมเธอได้เลยครับ”
    ตุ้ยมองมิ้นที่นอนหลับอยู่บนเตียงอย่างเศร้าๆ ตุ้ยจับมือบอบบางของมิ้นเอาไว้ แล้วจูบลงเบาๆอย่างแสนรัก
    “มิ้นพี่ขอโทษนะ ถ้าเมื่อวานพี่ไม่ทำร้ายจิตใจมิ้น มิ้นก็คงไม่ต้องออกไปข้างนอกตอนกลางคืน แล้วก็ไม่ต้องไม่สบายแบบนี้ด้วย พี่ผิดเอง พี่ขอโทษนะมิ้น”ตุ้ยซบหน้าลงบนมือน้อยๆของเธอแล้วร้องไห้ออกมาเบาๆ
    “เห็นเธอเจ็บผมเจ็บกว่าเธอเป็นร้อยเท่า ทำไมคนที่มานอนอยู่ตรงนี้ไม่เป็นผมนะ มิ้นพี่ขอโทษ”
    ตุ้ยคิดอย่างเจ็บปวด“อือ หนาว”เสียงมิ้นละเมอขึ้นเบาๆปลุกให้ตุ้ยฟุบหน้าหลับอยู่ข้างๆตัวเธอตื่นขึ้น
    “เป็นอะไรครับมิ้น จะเอาอะไรหรอ”ตุ้ยชะโงกหน้าไปใกล้มิ้นอย่างตื่นเต้น
    “อือ แม่ขามิ้นหนาวจัง”มิ้นเอ่ยเบาทั้งที่ยังหลับตา
    ตุ้ยยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะดึงผ้าห่มที่เธอปัดออกไปมาห่มคลุมร่างเธอไว้ ตุ้ยลูบใบหน้าเนียนใสที่ยังมีไอร้อนจากพิษไข้อย่างแสนรัก
     มิ้นคว้ามือตุ้ยเอาจับเอาไว้แน่น ใบหน้าเธอดูเศร้าขึ้นทันทีปากบางๆของมิ้นเบะเหมือนจะร้องไห้
    “พี่ตุ้ย พี่ตุ้ยไม่รักมิ้นใช่ไหม ทำไม ๆ พี่ตุ้ยยังรักเค้าใช่ไหม”มิ้นพูดขึ้นน้ำตาหยดใสไหลออกมาจากดวงตาที่ยังปิดสนิท มือน้อยๆของของบีบมือตุ้ยไว้แน่น ตุ้ยรู้สึกเหมือนใจจะขาด นี่เขาทำให้มิ้นเสียใจถึงขนาดนี้เลยหรือ เขาทำร้ายคนที่เขารักได้อย่างไร ตุ้ยโน้มตัวไปกอดมิ้นไว้แน่น
    “มิ้น พี่รักมิ้นนะ พี่รักมิ้นคนเดียว เราจะอยู่ด้วยกันพี่จะไม่ทำให้มิ้นเสียใจอีกแล้วนะ”ตุ้ยพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
    คงเป็นเพราะอ้อมกอด คำพูดและความรักที่ตุ้ยมอบให้ทำให้มิ้นดูสงบลง ใบหน้าที่ดูเป็นทุกข์ก็ดูเหมือนจะยิ้มได้ มิ้นหลับสนิทอีกครั้งภายใต้อ้อมกอดของตุ้ย ตุ้ยเช็ดน้ำตาจากใบหน้าสวยของมิ้น เค้าจูบลงบนแก้มของเธออีกครั้งก่อนจับมือเธอเอาไว้แล้วฟุบหลับไปข้างตัวเธอนั่นเอง

    แสงแดดจากหน้าต่างสาดส่องเข้ามาภายในห้องผู้ป่วย มิ้นค่อยๆขยับเปือกตาที่หนักอึ้งขึ้นอย่างยากลำบาก ด้วยพิษไข้เที่รุ่มเล้าทำให้มิ้นรู้สึกทั้งร่างกายมันดูไร้เรียวแรงไป
    “ที่นี่ที่ไหนเนี่ย”มิ้นถามตัวเองงงก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆห้อง มิ้นมองที่แขนข้างซ้ายของตัวเองก็พบสายน้ำเกลือที่ปักอยู่ในเนื้อขาวๆของเธอ มิ้นหน้าตาเหย่เกทันที ก็เธอไม่ชอบให้เข็มแหลมๆนี้มาอยู่ในตัวเธอนี่น่า
    มิ้นรู้สึกได้ถึงแขนผมนุ่มๆที่อยู่บนมืออีกข้างของเธอ มิ้นหันมามองก็พบคนที่เธอรักทั้งโกรธ
    “พี่ตุ้ย”มิ้นอุทานออกมาเบาๆแต่ก็ดังพอจะทำให้เจ้าของชื่อได้ตื่นขึ้นมา
    “น้องมิ้นตื่นแล้วหรอ พี่ดีใจจังมิ้นหลับไปนานมากเลยรู้ไหม พี่เป็นห่วงมากๆเลยนะ”ตุ้ยยิ้มอย่างดีเขาพูดรั่วจนลิ้นจะพันกันตายอยู่แล้ว แต่เค้าก็พบกับสายตาว่างป่าวที่อีกฝ่ายมองมา ตุ้ยรู้สึกจุกหน้าอกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
    “เออ น้องมิ้นยังปวดหัวอยู่รึป่าว”
    “ไม่”
    “เออหิวน้ำไหมครับ เดียวพี่รินให้กินเอาไหม”
    “ไม่หิว”
    ตุ้ยรู้สึกแย่มากๆกับใบหน้านิ่งเฉยราวกับรู้ปั่นของมิ้น ตุ้ยกัดริมฝีปากตัวเองแน่นอย่างเคร่งเครียด
    **ก๊อก ก๊อก ก๊อก**
    “อาหารเช้ามาแล้วค่ะ”พยาบาลสาวแยกถาดอาหารให้ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมรอยยิ้ม
    “น้องมิ้นทานข้าวก่อนนะ มีข้าวต้มกุ้งด้วยน่าตาน่าทานเชียว เดียวพี่ป้อนให้เอาไหมครับ”ตุ้ยพยายามเอาใจมิ้นเต็มที่
    “ไม่ค่ะ มิ้นยังไม่หิว”มิ้นพูดด้วยน้ำเสียงกระด้างก่อนจะเมินหน้าไปทางอื่น ตุ้ยรู้สึกเจ็บมากๆเขามองหน้ามิ้นด้วยแววตาเศร้า

    “สวัสดีจ้า กระต่ายน้อย”เสียงบลูน่าดังสนั่นก่อนตัวอีกตามเคย
    “บลูน่าเสียงเบาๆหน่อยดินี่โรงพยาบาลนะเด้วคนไข้ก็หัวใจวายตายหมดหรอก”ตามมาด้วยเสียงบอยที่เตือนแฟนสาวเบาๆ
    “โอ้ยมิ้นเป็นอะไรมากรึป่าว ฉันเป็นห่วงเธอมากเลยนะ”บลูน่าพุ่งตรงมาหามิ้นพร้อมกับเสียงดังลั่นตามแบบฉบับของเธอ  บอย เพชร และตูนเดินตามมาก่อนจะมายืนข้างๆเตียงของมิ้น
    “น้องมิ้นเป็นยังไงบ้างครับ พี่เพิ่งรู้ว่ามิ้นไม่สบายก็เลยรีบมาทันทีเลย”ตูนมองมิ้นด้วยสายตาเป็นห่วง
    “มิ้นไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะพี่ตูน ขอบคุณทุกคนมากเลยนะที่มาเยี่ยม”มิ้นยิ้มให้ทุกคนอย่างซึ้งใจ โดยเฉพาะกับตูนมิ้นมองหน้าตูนนิ่งนานเพราะเธอรู้สึกขอบคุณเค้าจริงๆที่ค่อยช่วยเหลือเธอทุกอย่าง ตุ้ยได้แต่แอบมองอย่างไม่พอใจ
    “เออแล้ววันนี้พวกแกไม่มีงานกันหรอ”ตุ้ยพูดเสียงแข็งๆแล้วจ้องหน้าไปที่ตูนราวกับพูดกับเค้าแค่คนเดียว
    “ก็มีอะนะ แต่อยากมาเยี่ยมน้องมิ้นก่อนเพราะฉันเป็นห่วงเขามาก”ตูนสวนกลับทันที
    “เออ มิ้นจ้ายังไม่ได้กินข้าวเช้าอีกหรอเนี่ย”เพชรพยายามเปลี่ยนเรื่องเพราะเธอกลัวตุ้ยกับตูนจะมามีเรื่องกันในโรงพยาบาลอีก
    “อืม จริงด้วย คนป่วยต้องกินข้าวเยอะสิครับ เดียวพี่ป้อนให้เอาไหม”ตูนพูดขึ้นอย่างไม่สนใจสายตากระอักกระอ่วนจากเพชร บอยและบลูน่าเลย ส่วนตุ้ยนั่นไม่ต้องพูดถึงเขาแทบจะอยากกระโดมาชกหน้าหล่อๆของตูนเลย
    มิ้นเหลือบมองหน้าตุ้ยก่อนจะพูดอย่างสะใจว่า “เอาสิค่ะพี่ตูน มิ้นกำลังหิวอยู่พอดี”
    คำพูดของมิ้นคำเดียวทำเอาตัวตุ้ยชาไปทั้งตัว ขอบตาเขาเริ่มมีน้ำร้อนเอ่อขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ตุ้ยมองภาพที่ตูนป้อนข้าวต้มให้มิ้นกินอย่างเจ็บปวด ทั้งคู่ดูมีความสุขกันเหลือเกิน ตุ้ยรู้สึกเหมือนตัวเขาเริ่มเป็นส่วนเกินของมิ้นและตูนไปเสียแล้ว ความน้อยใจแล่นเข้ามาให้หัวใจตุ้ยทันทีเขาตัดสินใจเดินเลี่ยงออกมาจากห้องนั่นด้วยความปวดร้าว
     "เห้ยตุ้ยเป็นอะไรรึป่าวทำไมออกมาเงียบๆนะ"บอยที่เดินตามตุ้ยออกมาถามอย่างเป็นห้อง
    "ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ขนาดในอากาศมันร้อนหนะ"ตุ้ยเอนตัวพิงกำแพงราวกับหมดแรง
    "เอ็งแน่ใจหรอไม่มีอะไร ข้านะเพื่อนเอ็งนะโว้ยแค่มองตาข้าก็รู้แล้วว่าเอ็งกำลังมีปัญหา"บอยยืนจ้องหน้าเพื่อนรักนิ่ง
    "ฉันเหนื่อยวะบอยเหนื่อยจริงๆนะ"ตุ้ยทรุดตัวนั่งลงกับพื้นเขายกมือมาปิดใบหน้าตัวเองไว้
    บอยนั่งลงข้างๆตุ้ยเอื้อมมือโอบไหล่ตุ้ยอย่างปลอบใจ
    "มีอะไรก็บอกฉันได้นะตุ้ย ถึงฉันจะช่วยอะไรนายไม่ได้แต่ก็พร้อมจะรับฟังทุกอย่างนะ"บอยยิ้มให้ตุ้ย ตุ้ยเล่าเรื่องราวทุกอย่างระวังเขากับมิ้นให้บอยฟัง
    "เฮ้ออ ไ อ้ตุ้ยเอ้ยหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ"บอยถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจแทนเพื่อนหนุ่ม
    "ข้ารู้ว่าข้าผิด ตอนนั้นข้าสับสนจริงๆนะเลยพูดอะไรไปโดยไม่คิด"
    "แล้วตอนนี้เป็นยังไงละรู้ซึ้งดีรึยัง"บอยพูดด้วยน้ำเสียงเยอะเย้ยตุ้ย
    "เออข้ารู้แล้วข้ารักเค้ามาก แต่เค้าตงเกลียดข้าไปแล้วมั้ง แถมตอนนี้ไ อ้ตูนมันเลยได้ทีทำคะแนนใหญ่เลย เอ็งก็อีกคน ไ อ้บอยอย่ามาซ้ำเติมข้าไอ้มะ"ตุ้ยกุมขมับตัวเองอย่างเครียดสุดๆ
    "ตุ้ย ถ้าเอ็งมั่นใจว่ารักน้องมิ้นเอ็งจะกลัวอะไรอีกละ เอ็งก็ต้องทำให้เข้ารู้สิว่าเอ็งรักเค้าแค่ไหน ข้าเชื่อนะว่าความจริงใจของเอ็งจะทำให้มิ้นใจอ่อนแน่ๆ"บอยพูดอย่างจริงจัง
    "มิ้นเค้าจะให้อภัยข้าจริงๆหรอ"ตุ้ยเงยหน้ามองบอยด้วยสายตามีความหวัง
    "ข้าเชื่อ ความรักจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นแน่"บอยยิ้มบางๆ
    "แล้วเรื่องไ อ้ตูนละ"ตุ้ยสีหน้ากังวลอีกครั้ง
    "เห้อ เรื่องนั้นอะหรอเอ็งจะกังวลอะไรวะ ดูไม่ออกหรอว่าน้องมิ้นเขาก็ทำไปเพื่อประชดเอ็งแค่นั้นแหละ ตอนนี้เอ็งควรจะกลับไปให้ห้องก่อนเหอะเดียวน้องมิ้นเขาเกิดเปลี่ยนใจจริงๆแล้วเอ็งจะหนาวนะ"บอยลุกขึ้นยืนแล้วส่งมือให้ตุ้ยจับ
    "ขอบคุณนะบอย ขอบคุณจริงๆ" 2หนุ่มยิ้มให้กันอย่างจริงใจ

    "พี่ตุ้ย พี่บอยมาพอดีพวกเรากำลังจะกลับกันแล้วนะ"บลูน่าหันมาพูดกับแฟนหนุ่ม
    "ขอบคุณทุกคนมากนะที่มาเยี่ยน้องมิ้นนะ"ตุ้ยยิ้มให้ทุกคน
    "น้องมิ้นครับเอาไว้พรุ่งนี้พี่จะมาใหม่นะ"ตูนไม่สนใจตุ้ยแต่กลับหันไปลาคนป่วยหน้าหวานที่นอนบนเตียง
    "ค่ะ พรุ่งนี้เราค่อยเจอกันนะค่ะพี่ตูน"มิ้นเน้นเสียงคำว่า เรา จนตุ้ยรู้สึกเจ็บแปลบไปที่หัวใจ
     หลังจากทุกคนกลับไปมิ้นก็นอนหลับทันทีปล่อยให้ตุ้ยได้แต่ยืนสับสนอยู่คนเดียว
    "ห้องนี้มันเล็กนิดเดียว ผมกับเธอก็อยู่ใกล้กันแค่เอื้อมแต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเราอยู่ห่างไกลกันเหมือนเกิน ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ ผมเข้าใจมันดีแล้ว"
    ตุ้ยคิดอย่างเจ็บปวดง่วงนอนแล้วใช่ไหมมิ้น เดียวพี่ปิดไฟให้นะ"ตุ้ยเห็นมิ้นหาวก็รู้ว่าทันทีมาเธอคงง่วงนอนแล้ว
    "อืม พี่ตุ้ยกลับไปนอนที่บ้านก็ได้นะ มิ้นนอนคนเดียวได้"มิ้นพูดเบาๆ
    "ทำไมหรอเห็นหน้าพี่แล้วมิ้นถึงกับนอนไม่หลับเลยหรอ"ตุ้ยพูดด้วยความน้อยใจ
    "ไม่ใช่อย่างนั้น ก็ที่เนี่ยมันลำบากนอนก็ไม่สบาย พี่ตุ้ยกลับไปนอนที่บ้านสบายกว่าตั้งเยอะ"มิ้นเห็นตาหม่นคู่นั้นก็อดสงสารไม่ได้
    "พี่กลับบ้านไปพี่ก็นอนไม่หลับหรอก พี่ขออยู่ตรงนี้ได้เห็นมิ้นอยู่ใกล้ๆพี่ก็หลับสบายแล้วละ"ตุ้ยยิ้มอย่างอ่อนโยนให้มิ้นก่อนจะเดินปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอน ด้วยความอ่อนเพลียและการอดนอนทั้งคืนทำให้ตุ้ยหลับไปทันที
     มิ้นมองร่างชายคนรักด้วยความรู้สึกหวั่นไหว เธอเดินไปใกล้ๆเค้าแล้วห่มผ้าให้เขาอย่างเบามือ
    "ฝันดีนะค่ะ"มิ้นเอ้ยเบาๆ
    มิ้นเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมความรู้สึกโกรธและเกลียดเขามันถึงค่อยๆจางหายไป หรือจะเป็นเพราะความรักภายในใจเธอมันมีอานุภาพมากกว่านัก มิ้นหลับตาลงอย่างมีความสุข

    "สวัสดีครับคนป่วย วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ"คุณหมอเจ้าของไข้ถามมิ้นอย่างใจดี
    "ดีขึ้นแล้วค่ะคุณหมอ ไม่ปวดหัวแล้วด้วยค่ะ"มิ้นยิ้มอย่างน่ารัก
    "ยิ้มหวานได้ขนาดนี้ สงสัยวันนี้หมอคงต้องอนุญาตให้กลับบ้านแล้วละ"คุณหมอมองเด็กสาวอย่างเอ็นดู
    "เย้ๆคุณออามหอใจดีจัง มิ้นจะได้กลับบ้านแล้ว"มิ้นตะโกนเหมือนเด็กๆ
    "มิ้นครับ ขอบคุณคุณหมอเขาก่อนสิ"ตุ้ยหัวเราะเบาๆหับความไม่รู้จักโตของสาวน้อย
    "ขอบคุณมากนะค่ะคุณหมอ"มิ้นพนมมือไหว้คุณหมอทันที
    "งั้นอาหมอไปก่อนนะจ๊ะ สาวน้อย แฟนเรานี่น่ารักจริงๆเลยนะ ไว้มีงานแต่งเมื่อไรอย่าลืมเชิญผมลละ"คุณหมอตบไหล่ตุ้ยเบาๆก่อนออกจากห้องไป
    'เออมิ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหอะเด้วพี่เก็บของก่อนเราจะได้รีบกลับ"ตุ้ยเขินจนหน้าแดงไปเลย
    "ค่ะงั้นมิ้นไปเปลี่ยนชุดนะ"มิ้นก็ก้มหน้างุดด้วยความเขินเช่นกัน

    "สวัสดีครับน้องมิ้น"ตูนเปิดประตูพร้อมใบหน้าหล่อใสกระชากใจสาว
    'มิ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่"ตุ้ยมองตูนด้วยใบหน้าบึ้ง
    "อ้าวพี่ตูนมาแต่เช้าเชียวนะค่ะ"มิ้นออกจากห้องน้ำมาพอดี
    'น้องมิ้นจะกลับบ้านแล้วหรอครับเนี่ย'
    "ใช่ค่ะคุณหมออนุญาติให้กลับวันนี้"
    "งั้นเดียวพี่ขับรถไปส่งนะ"ตูนยิ้มหวาน
    "ฉันกับมิ้นจะกลับพร้อมกัน'ตุ้ยพูดเสียงดัง
    "มิ้นจะกลับกับพี่ตูน"
    ตุ้ยกับตูนหันไปมองหน้ามิ้นอย่างไม่เชื่อสายตา
    'งั้นเรากลับกันเลยนะ ตุ้ยขนของตามไปด้วยละ'ตูนพยุงมิ้นออกไป
    ตุ้ยมองตามไปอย่างเจ็บปวดก่อนจะเตะของที่วางอยู่ที่พื้นเพื่อระบายอารมณ์

    "ถึงแล้วครับเจ้าหญิงน้อย"ตูนเปิดประตูให้มิ้นราวกับเธอเป็นเจ้าหญิงเลย
    "ขอบคุณค่ะพี่ตูน"มิ้นพูดก็วิ่งไปที่โหล่ปลาทองสีสวยข้างเตียงทันที"มิ้นตี้ ตุ้ยคุงเป็นยังบ้างคิดถึงแม่รึป่าวเนี่ย"มิ้นเทอาหารให้มันกินอย่างรักใคร่ ตูนมองมิ้นแล้วรู้สึกแปลก
    "มิ้นตี้กับตุ้ยคุงปลาของตุยและมิ้นซิระ"ตูนฝืนยิ้มก่อนจะเดินไปข้างๆเธอ
    "อืม ปลาทองสวยดีนะ"
    "มันก็ต้องสวยอยู่แล้ว ฉันกับมิ้นไปเลือกมาด้วยกันนิ"ตุ้ยที่เพิ่งมาถึงกระแทกของลงพื้นเสียงดังลั่นอย่างไม่พอใจ
    ตูนมองหน้ามิ้นอย่างอึดอัด"เออมิ้นงั้นวันนี้พี่กลับก่อนแล้วกันนะ วันหลังพี่จะมาเยี่ยมใหม่"
    "ค่ะพี่ตูนกลับดีๆนะค่ะ'มิ้นมองตุ้ยด้วยสายตาตำหนิแล้วเดินไปส่งตูนที่หน้าห้อง
    มิ้นล้มตัวลงนอนแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมหน้าทันทีอย่างเคืองๆตุ้ย
    "มิ้นพี่มีเรื่องจะคุยด้วย"
    "มิ้นง่วงมิ้นจะนอน"
    ตุ้ยมองร่างบางที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่ม ดวงตาคมของเขาฉายแววมั่นใจ ตุ้ยตัดสินใจแล้วว่าวันนี้เขาต้องทำอะรบางอย่างซะแล้ว
    "วันนี้พี่จะทำให้มิ้นเข้าใจพี่ให้ได้ เรื่องของเราจะไม่จบลงแบบนี้แน่"
    ตุ้ยมองดูร่างหญิงสาวคนรักด้วยสายตาอ่อนโยน เขาหยิบกีตาร์โปร่งตัวโปรดไปนั่งลงบนเตียงข้างๆตัวเธอ
    "พี่รู้นะว่ามิ้นยังไม่หลับ มิ้นอาจจะไม่อยากฟังเรื่องที่พี่จะพูดก็ไม่เป็นไรหรอก แต่พี่อยากจะร้องเพลงๆหนึ่งให้มิ้นได้ฟัง เพราะมันแทนความรู้สึกทุกอย่างที่พี่อยากจะบอกให้มิ้นได้รู้"

    ตุ้ยเริ่มเกากีตาร์และร้องเพลงให้มิ้นได้ฟัง
    ***อาจยังไม่เห็นว่ารักมากมาย  อาจยังสงสัยผู้ชายคนนี้
          อาจยังไม่เห็นสายตาแห่งความหวังดี  แต่เธอก็คงเข้าใจมันสักวัน
          อาจมีใครๆที่ดีกว่า อาจจะคนที่เธอใฝ่ฝัน
          อาจจะคนที่เธอใฝ่ฝัน จะมีใครให้เธอหมดใจอย่างฉัน
         จะมีใครให้เธอหมดใจอย่างฉัน และมันจะมีเธอเพียงคนเดียว
         อยู่มาจนวันนี้เพื่อเจอเธอ จะอยู่เพื่อเธอตลอดไป
         จะเอาความรักที่มีเก็บไว้  เพื่อรอคอยวันที่เธอมองผ่านมา
         อาจจะมีเวลาที่เธอต้องการ อีกนานแค่ไหนรักนี้ก็ยังอยู่
         อยู่เป็นรักแท้ให้เธอเท่านั้น ด้วยใจที่พร้อมให้เทอจากคนอย่างฉัน
         กับวันเวลาที่ยาวนานก็คงจะพอให้รอเทอและคงจะทำให้เทอได้รู้
    เพลงจบลง ตุ้ยมองร่างบางที่นอนนิ่งบนเตียงด้วยแววตาอบอุ่น เค้าค่อยๆโน้มร่างไปประทับรอยจูบเบาๆบนแก้มใสของมิ้นอย่างแสนรัก
    "ฝันดีนะครับมิ้น หวังว่ามิ้นจะเข้าใจความหมายของเพลงที่พี่ร้องนะ"
    ตุ้ยลุกจากเตียงช้าๆด้วยความผิดหวังที่เธอดูเฉยช้าเหลือเกินกับเขา
    "พี่ตุ้ย"เสียงสั่นๆของมิ้นดังขึ้น
    ตุ้ยชะงักเค้าหันหลังกลับไปมองมิ้นที่นั่งอยู่บนเตียงพร้อมใบหน้าที่เปียกเปื้อนไปด้วยน้ำตา ตุ้ยเดินกลับไปหาเธอแล้วนั่งคุกเขาลงกับพื้นตรงหน้าเธอทันที
    "อย่าร้องไห้สิครับคนดี เดียวก็ไม่สบายไปหรอก"ตุ้ยยกมือทั้ง 2ข้างเช็ดใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของมิ้นเบาๆ
    "พี่ตุ้ยมีอะไรจะบอกมิ้นหรอ"ดวงตาคู่สวยมองตุ้ยอย่างรอคำตอบ
    "พี่อยากจะขอโทดมิ้นสำหรับทุกอย่างที่พี่ทำลงไป พี่ยอมรับผิดทุกอย่าง พี่อยากบอกมิ้นว่าเรื่องของพี่กับเชอรี่มันจบลงไปแล้ว เค้าเป็นอดีตไปแล้ว อย่าสงสัยในความรักของพี่เลยนะมิ้น พี่อยากจะบอกว่าพี่รักมิ้นแค่คนเดียวเท่านั้น"ตุ้ยจ้องหน้านิ่ง
    "แต่ แต่พี่ตุ้ยก็ยังเก็บของทุกอย่างของเธอเอาไว้ไม่ใช่หรอ แล้วจะบอกได้ยังไงว่าพี่ตุ้ยลืมเขาไปหมดแล้ว"มิ้นก้มมองพื้นด้วยความไม่มั่นใจ
    "งั้นมิ้นรอพี่ตรงนี้แปปนะค่ะ"
    ตุ้ยกลับมาพร้อมเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช่ของเชอรี่ เขาจัดการทิ้งทุกอย่างลงในทั้งขยะ ตุ้ยยิ้มรูปภาพของเชอรี่ที่ถ่ายคู่กับเขาขึ้นมาแล้วทำท่าจะฉีกมันออก
    "อย่าค่ะพี่ตุ้ย"มิ้นทรดลงนั่งข้างๆตุ้ยแล้วจับมือเขาเอาไว้
    "ทำไมละ ถ้ามันทำให้มิ้นไม่สบายใจพี่ก็ไม่อยากจะเก็บมันเอาไว้"ตุ้ยหันมายิ้มให้มิ้น
    "แต่มันเป็นของที่พี่ตุ้ยรักนะ"
    "มันไม่ใช่อีกแล้วละมิ้น ไม่มีของหรือคนๆไหนที่พี่จะรักเท่าคนที่อยู่ข้างๆพี่ตอนนี้หรอก"ตุ้ยซบตามิ้นก่อนจะฉีกรูปนั้นทิ้งลงถังขยะไป
    "พี่ตุ้ย"ริมฝีปากบางเอ่ยชื่อเขาเบาๆ
    "มิ้นพี่รักมิ้นนะ"ตุ้ยมองเขาไปในดวงตาของมิ้นเพื่อให้เธอเห็นถึงความจริงใจของเขา
    "มิ้นก็รักพี่ตุ้ยค่ะ"
    ตุ้ยดึงร่างบางของมิ้นมากอดไว้แนบอกอย่างแสนรัก
    "พี่ขอโทษนะมิ้นขอโทษที่ทำให้มิ้นต้องเสียใจ"ตุ้ยกระซิบข้างหูมิ้นเบาๆ
    "ไม่ต้องพูดถึงมันแล้วละค่ะ แค่พี่ตุ้ยรักมิ้นคนเดียวมิ้นก็มีความสุขแล้ว"
    "อย่าสงสัยให้ความรักของพี่ ปัจจุบันและอนาคตของพี่ มิ้นคือคนที่พี่รักคนเดียวเท่านั้น"
    "ขอบตุณค่ะพี่ตุ้ย"
    ตุ้ยกอดมิ้นไว้แน่นเค้าสัญญากับตัวเองว่าเค้าไม่มีวันปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปจากอ้อมแขนของเขาอีกแน่
    "ลาก่อนนะเชอรี่ ฉันรู้แล้วว่าฉันรักใคร "
           "พี่รักมิ้นนะ"
    เสียงหัวใจตุ้ยเอื้อนเอ่ยขึ้นตุ้ยนอนสบายอยู่บนเตียงนุ่ม ตุ้ยมองดูมิ้นซึ่งนั่งแปรงผมยาวสวยอยู่หน้ากระจกด้วยสายตาเปี่ยมรัก
    "มิ้นเลิกหวีผมเหอะมานอนนี่ได้แล้ว"ตุ้ยตบลงบนที่วางเตียงแล้วยิ้มอย่างกรุ่มกริ่ม
    "อืมเด้วสิ พี่ตุ้ยนอนไปก่อนเลยก็ได้"มิ้นรู้สึกว่าตัวเธอมันร้อนขึ้นยังก็ไม่รู้ สีแดงบนใบหน้าปรากฎชัดเจน
    "เร็วสิมิ้น ที่อยากนอนพร้อมกันอะ น้านะครับ น้องมิ้นคนดี"ตุ้ยคว้าเจ้าต่ายน้อยมากอดทำหน้าตาน่าสงสาร
    "เรื่องมากจริงๆเลยอะพี่ตุ้ย"มิ้นส่ายหน้าขำๆแต่ก็ยอมมานั่งบนเตียงข้างๆเขา
    "ต่ายน้อยดูแม่มิ้นสิครับมาว่าพ่อตุ้ยเฉยเลยอะ ใจร้ายเนอะ"ตุ้ยทำเป็นคุยกับเจ้ากระต่ายขาว
    "ปัญญาอ่อนหรอพี่ตุ้ยพูดคนเดียวก็ได้ มิ้นนอนดีกว่าไม่อยากคุยกับคนบ้า"มิ้นพูดจบก็ล้มตัวลงนอน มิ้นขยับตัวไปชิดเตียงอีกด้านแถมยังดึงผ้ามาคลุมถึงคออีก
    ตุ้ยมองมิ้นอยู่รู้ทัน ยิ่งเห็นเธอระแวงเขาก็ยิ่งอยากแกล้ง
    "มิ้นไม่ปิดไฟหรอ"
    "ไม่เอา ไม่ต้องปิดเลยนะ คืนนี้มิ้นอยากเปิดไฟนอน"
    "อ้าวไงงั้นอะ เปิดไฟสว่างยังงี้แล้วเราจะทำอะไรกันได้ไงอะ"ตุ้ยทำตาเจ้าเลห์
    "เห้ยพี่ตุ้ย ทะลึ่งพูดอะไรก็ไม่รู้"มิ้นหน้าแดงแปร๊ดลุกขึ้นนั่งกอดอกอย่างกลัวๆเธอมองตุ้ยราวกับเขาเป็นโจรบ้ากามเลยทีเดียว
    "เห้ยจะบ้าหรอพี่หมายถึงเราจะนอนกันยังไงคิดไรไปเนี่ยยัยบ๋อง"ตุ้ยหัวเราะลั่นกับท่าทางกระต่ายตื่นตูมของมิ้น
    "พี่ตุ้ยอะชอบแกล้งอะ มิ้นนอนดีกว่า"มิ้นทำแก้มป่องอย่างงอนๆ
    "เด้ว ขยับมานั่งใกล้ๆพี่ก่อนสิ"
    "ไม่อาวอะ พี่ตุ้ยจะทำอะไรมิ้นอ้า"มิ้นหน้าตาตื่นอีกแล้ว
    "โอ้ยยัยกระต่ายเอ๋อ จะบ๋องไปถึงไหนฮะถ้าพี่จะทำอะไรอะพี่ทำไปนานแล้ว มานี่เร็วๆดิ"
    มิ้นขยับตัวไปนั่งข้างตุ้ยช้าๆแบบอดระแวงไม่ได้
    "หลับตาด้วยดิ"
    "หลับตาด้วยหรอ"มิ้นเริ่มงงๆ
    "อืม หลับตาเร็วๆเลย"ตุ้ยทำหน้าดุๆ
    "อืมหลับบตาก็ได้อย่าดุสิ"
    มิ้นหลับตาลงช้าๆ
    "ลืมตาได้แล้ว"
    มิ้นลืมตาขึ้น ตาค่สวยเป็นประกายสดใสเมื่อเห็นสิ่งของที่หน้าตรงหน้า สร้อยคอทองคำขาวที่มีจี้เล็กๆมีตัวอักษรว่าMINTUIซึ่งตุ้ยถืออยู่ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
    "สวยจังเลยค่ะพี่ตุ้ย"มิ้นยิ้มหวาน
    "พี่ก็มีนะเหมือนกันเลย ดูสิ"ตุ้ยชี้ให้มิ้นสร้อยแบบเดียวกันที่เขาใส่อยู่
    "น่ารักจังเลย เราจะได้ใส่สร้อยเหมือนกันใช่มะ อิอิ"
    "พี่ดีใจนะพี่มิ้นชอบที่จริงที่ตั้งใจจะให้ตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้วละ แพอดีเราทะเลาะกันซะก่อน ก็เลย.."มิ้นรีบเอานิ้วไปแตะลงบนริมฝีปากตุ้ยที่พูดถึงเรื่องนั้นด้วยแววตาเศร้าเป็นเชิงไม่ให้เขาต่อพูดต่อ
    "ไม่เอาค่ะ ไม่พูดถึงมันแล้วนะ มันผ่านไปแล้วมิ้นไม่อยากคิดถึง พี่ตุ้ยใส่สร้อยให้มิ้นดีกว่านะค่ะ"มิ้นยิ้มอย่างน่ารักก่อนจะใช้มือรวบผมตัวเองไปด้านหลังเพื่อให้ตุ้ยใส่สร้อยให้เธอ
    ตุ้มมองมิ้นอย่างซึ้งใจตุ้ยมองลำคอขาวของมิ้นแล้วเค้าก็ต้องชะงักเมื่อพบกับสร้ายคอรูปหัวใจที่มิ้นใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา
    "มีอะไรหรอค่ะ"มิ้นงงที่เห็นตุ้ยนิ่งไป
    "อืมพี่ลืมไปอะว่ามิ้นมีสร้อยใส่ติดอยู่แล้ว"ตุ้ยยิ้มเจื่อนๆ
    -สร้อยคอที่ต้าซื้อให้มิ้นตอนวันเกิด มิ้นใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลาเพราะเธอเคยบอกกับต้าว่าเธอจะใส่มันไว้ติดตัวตลอดเมื่อเค้าอยู่ข้างๆตัวเธอ แต่วันนี้มิ้นตัดสินใจที่จะถอดมันออก คนที่ต้าควรจะอยู่ใกล้ๆไม่ควรจะเป็นเธออีกต่อไปแล้ว แต่ควรจะเป็นซาร่าต่างหาก และตอนนี้เธอก้ตัดสินใจแล้วว่าต่อจากนี้ผู้ชายคนนี้ต่างหากที่เธออยากอยู่ใกล้ๆเขา..ตลอดไป..
    มิ้นถอดสร้อยเส้นสวยออกจากคอของตัวเอง
    "พี่ตุ้ยใส่สร้อยของเราให้มิ้นหน่อยสิ"มิ้นยิ้มให้ตุ้ย
    ตุ้ยยิ้มอย่างดีใจที่เธอเลือกจะใส่สร้อยของเขา ตุ้ยใส่สร้อยให้มิ้นช้าๆ
    'สวยมากเลยมิ้น"ตุ้ยพูดเคลิ้มๆ
    "ขอบคุณนะค่ะพี่ตุ้ย"
    ตุ้ยมองตามิ้นนิ่งราวกับถูกสะกด ตุ้ยค่อยๆโน้มหน้าไปใกล้มิ้นช้าๆๆ
    "มิ้นนอนนะค่ะพี่ตุ้ย"
    คราวนี้มิ้นรู้ทันเธอเลยล้มตัวลงนอนอย่างรวดเร็วปล่อยให้ตุ้ยมองตามอย่างเซ็งๆ
    "จะเล่นยังงี้ใช่ไหมมิ้น"ตุ้ยทำหน้าเจ้าเล่ห์อีกแล้ว
    ตุ้ยล้มตัวลงนอนข้างๆมิ้นแล้วคว้าตัวเธอมากอดไว้แน่น
    พี่ตุ้ยปล่อยนะ มากอดเค้าได้ไงอะ ปล่อยยบอกให้ปล่อยไง"มิ้นด้นคลุกคลักอยู่ให้อ้อมแขนแข็งแรงของตุ้ย
    "ไม่ปล่อย ห้ามดิ้นด้วย"
    "ปล่อยเลยนะ ไม่ได้เค้าจะถีบตัวเองให้ตกเตียงเลย"
    "ก็ลองถีบดูดิจะได้ได้รู้ว่าจะโดนอะไร"
    "โดนไรอะ ไม่กลัวหรอก"
    "ไม่กลัวหรอ งั้นก้โนนี้เลย จุ๊บ"ตุ้ยจูบหน้าผากของแม่ตัวแสบทันที
    "เย้ย เค้ายังไม่ได้ถีบเลยนะ"มิ้หน้าแดงไปเลย
    "ก็ทำให้ดูไงว่าถ้าถีบจะโดนยังงี้ อิอิ"
    "ขี้โกงอะ"มิ้นแก้มป่องงอนๆ
    "อืมงั้นก็นอนให้พี่กอดนิ่งๆนะ อย่าดื้ออย่าซน อิอิ"ตุ้ยหัวเราะเบาๆ
    "ค่าคุณท่าน กอดเฉยๆนะห้มทำอย่างอื่นด้วย"
    "ครับเจ้าหญิงหลับฝันดีนะ"
    ตุ้ยกอดมิ้นเอาไว้แนบอกอกบนเตียงนอนกว้างของเขาและเธอ คืนนี้เป็นคืนที่ทั้งมิ้นและตุ้ยมีความสุขมาก แค่มีกันและกันแค่นั้นก็มีความสุขมากพอแล้ว

    พี่ตุ้ยอะลากมิ้นมาที่บริษัททำไมแต่เช้าเนี่ย"มิ้นหน้ามุ้ยขณะเดินเข้ามาในบริษัทกับตุ้ย
    "เหอ เช้าอะไรเนี่ย 9โมงแล้วนะ วันนี้พี่มีถ่ายMVมิ้นก็มานั่งดูพี่เฉยๆเองจะบ่นทำไมจ๊ะ"ตุ้ยขยี้หัวมิ้นเบาๆอย่างเอ็นดู
    "พี่ตุ้ยอะผมมิ้นยุ่งหมดเลยนะ "มิ้นแก้มป่องงอนๆ
    "โอ๋ๆอย่างอนนะยิ่งทำแก้มป่องตายิ่งเล็กลงไปอีกนะ ลืมตาหน่อยสิไหนๆตาหายไปไหนแล้วเนี่ย"ตุ้ยยิ่งเห็นมิ้นงอนก็ยิ่งแกล้ง
    "พี่ตุ้ยอ้า มิ้นกลับบ้านแล้ว"มิ้นสะบัดหน้าพลึบทำท่าจะกลับจริงๆ
    ตุ้ยรีบคว้าเอวคนแสนงอนมาโอบเอาไว้แน่น
    "โอ๋ๆโกรธพี่หรอครับ อย่าโกรธพี่เลยนะ ก็พี่ไม่อยากให้มิ้นอยู่บ้านคนเดียวนิ หายโกรธนะครับ"ตุ้ยก้มหน้าไปใกล้ๆแม่คนแก้มใสแต่ขี้งอนคนนี้
    "ไม่หายหรอก พี่ตุ้ยชอบแกล้งมิ้น"
    "อืมงั้นถ้าหายโกรธพี่นะ พรุ่งนี้พี่พาไปเที่ยวเลยเอาปะ"ตุ้ยยื่นข้อเสนอ
    "เที่ยวหรอ ที่ไหนละ"มิ้นเหล่ตามองอย่างสนใจ
    "เป็นความลับบอกได้แต่ว่าต่างจังหวัดด้วยนะ"
    "จริงหรอ มิ้นอยากไปๆ"มิ้นกระโดดโลดเต้นยิ้มหน้าบาน
    "มิ้นใจเย็นๆคนอื่นเค้ามองกันใหญ่แล้ว"
    "เหอๆจริงๆด้วยอะพี่ตุ้ยอะไม่เตือนมิ้นเลยนะ"มิ้นมองไปรอบๆเห็นทุกคนมองเธออย่างขำๆก็ได้แต่ลูบผมอย่างเขินๆ
    "อ้าวไงเป็นความผิดละ เราไปข้างในกันเถอะเด้วพี่สายกันพอดี"ตุ้ยหัวเราะขำๆห่อนจะคว้ามือของแม่ตัวดีจูงเดินตามไป
    "พี่ตุ้ยหยุดทำไมอะ"มิ้นโวยขึ้นเพราะอยู่ๆตุ้ยก็หยุดเดินทำให้ใบหน้าของเธอกระแทกกับหลังเขาเต็มๆ
    สายตาของมิ้นไปหยุดชะงักที่ชายหนุ่มตาเศร้าที่อยู่ตรงหน้า
    "พี่ตูน"มิ้นอุทานเบาๆ
    "หวัดดีครับของน้องมิ้น"
    สายตาเศร้าของเขาหยุดอยู่ที่มือของตุ้ยที่กุมมือเธอเอาไว้ เขาเข้าใจทันทีว่าคนทั้งคู่คงเข้าใจกันแล้ว ส่วนตัวเขาก็คงต้องเจ็บปวดอีกเช่นเคย
    "พี่ตุ้ยค่ะเข้าไปข้างในก่อนนะ มิ้นอยากคุยกับพี่ตูน"มิ้นสบตาตุ้ยอย่างขอร้อง
    "แต่.."
    "พี่ตุ้ยค่ะ มิ้นจะตามพี่ตุ้ยเข้าไปเอง"มิ้นเอ้ยอย่างหนักแน่น
    "อืมก้ได้งั้นพี่ไปก่อนนะ"ตุ้ยไว้ใจคนที่เขารักดี
    "พี่ตูนค่ะ มิ้นมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ตูน"
    "ได้สิพี่พร้อมจะคุยกับมิ้นทุกเรื่องอยู่แล้ว"ตูนเอ่ยอย่างเศร้าๆ

     
     
     
    ตูนพามิ้นขึ้นไปบริเวณดาดฟ้าของบริษัทที่ตกแต่งเป็นสวนญี่ปุ่นขนาดย่อมๆดูสวยงามแตกต่างจากบรรยากาศวุ่นวายใจกลางเมืองใหญ่อย่างสิ้นเชิง
    "สวยจังเลยค่ะพี่ตูน"มิ้นยิ้มอย่างร่าเริงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เธอเดินมากับตูน
    "อืมช่ายพี่ชอบที่นี้มาเลยนะเวลามีเรื่องเครียดๆพี่ก็จะมานั่งที่นี่แหละ"ตูนพามิ้นไปนั่งที่ม้านั่งไม้ริมสวนสวย
    "หรอค่ะ ถ้างั้นวันหลังถ้ามิ้นต้องมารอพี่ตุ้ยอีกมิ้นขึ้นมารอบนนี้ดีกว่าเนอะ"
    ตูนมองมิ้นที่เมื่อพูดชื่อตุ้ยดวงตาเธอก็สดใสขึ้นทันทีด้วยความเจ็บปวด
    "มิ้นกับตุ้ยคืนดีกันแล้วหรอ"ตูนจ้องหน้ามิ้นนิ่งทำเอามิ้นที่ยิ้มกว้างอยู่ถึงกับชะงักไปเลย
    "อืม ค่ะเราเข้าใจกันแล้ว"มิ้นก้มหน้าไม่กล้าแม้แต่จะสบตาผู้ชายที่อยู่ข้างๆ
    "หึ หึ พี่ดีใจด้วยนะไ อ้ตุ้ยมันแก้ตัวว่ายังไงละมิ้นถึงได้เชื่อมันนะ"ตูนหัวเราะอย่างขมขื่น
    "อย่าเรียกว่าแก้ตัวเลย พี่ตุ้ยเขาขอโทษมิ้นแล้วก็บอกมิ้นว่าเขาลืมผู้หญิงคนนั้นไปหมดแล้ว เขาเป็นอดีตไปแล้ว ส่วนมิ้นจะเป็นปัจจุบันและอนาคตของพี่ตุ้ยค่ะ"
    "แล้วมิ้นก็เชื่อมันงั้นสิ 555 มันไม่ง่ายเกกินไปหรอมิ้น"ตูนมองมิ้นด้วยแววตาตัดพ้อ
    "ไม่ใช่การเชื่อหรอกค่ะ แต่มิ้นไว้ใจพี่ตุ้ยมากกว่า เราต้องไว้ใจและเชื่อใจคนที่เรารักไม่ใช่หรอค่ะ"
    "ถ้ามิ้นคิดอย่างนั้นพี่ก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่พี่อยากจะบอกมิ้นว่าถ้าวันไหนที่มิ้นเสียใจหรือมีปัญหาอะไรมิ้นมาหาพี่ได้เสมอ พี่พร้อมจะอยู่ข้างๆมิ้นนะ"ตูนพูดอย่างเศร้าๆ
    มิ้นสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดก่อนจะพูดในสิ่งที่เธอตั้งใจจะบอกกับตูน
    "พี่ตูนค่ะ มิ้นอยากจะขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างที่พี่ตูนทำให้มิ้น มิ้นรู้นะค่ะว่ามิ้นเองก็ทำให้พี่ตูนเสียใจมาตั้งหลายครั้งหลายหน มิ้นไม่อยากตูนเอาตัวเองมายึดติดกับมิ้นนะค่ะ มิ้นไม่อยากทำร้ายพี่"
    ตูนยิ้มบางๆก่อนจะพูดความในใจออกไป"มิ้นไม่ต้องเสียใจอะไรทั้งนั้น เพราะทุกอย่างที่พี่ทำไปพี่เต็มใจถึงพี่จะเจ็บพี่ก็ยอม มิ้นเข้าใจไหมว่าแค่เราทำอะไรให้คนที่รักมีความสุขแค่นั้นเราก็สุขใจแล้ว"
    "รัก พี่ตูนหมายความว่ายังไงค่ะ"มิ้นมองหน้าตูนอย่างสับสน
    "มิ้นไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่ฮะ มิ้นรู้ไหมว่าพี่รักมิ้นแค่ไหน พี่รักมิ้นตั้งแต่เจอมิ้นครั้งแรก รักทั้งๆที่รู้ว่ามิ้นมีเจ้าของแล้ว แต่พี่ก็ไม่เคยตัดใจจากมิ้นได้เลย พี่ทำไม่ได้มิ้นเข้าใจไหม"ตูนจับไหลบางๆของมิ้นเอาไว้
    "พี่ตูน มิ้นไม่ได้รักพี่นะค่ะ มิ้นคิดว่าพี่ตูนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง คนที่มิ้นรักคือพี่ตุ้ยค่ะ"
    "แต่พี่รักมิ้น พี่รักมิ้นเข้าใจไหม"ตูนตะโกนเสียงก่อนจะรวบร่างบางๆของมิ้นมากอดไว้แน่น
    "ปล่อยนะ มิ้นบอกให้ปล่อย"มิ้นพยายามดิ้นรนจากอ้อมแขนของตูนแต่ก็ไม่สำเร็จ
    "พี่ไม่ปล่อย พี่รักมิ้นนะ"
    "มิ้นบอกให้ปล่อย ถ้าพี่ตูนไม่ปล่อยมิ้น มิ้นจะเกลียดพี่ตูนไปตลอดชีวิต"มิ้นพูดอย่างหนักแน่น
    ตูนชะงักกับคำพูดของเธอ เขาคลายอ้อมแขนจะร่างบาง ตูนมิ้นสายตาที่มิ้นมองเขาด้วยความโกรธอย่างเจ็บปวด มิ้นรีบวิ่งไปทันทีปล่อยให้ตูนนั่งนิ่งราวกับคนไร้ชีวิตอยู่ตรงนั้นเองมิ้นเข้ามาในสตูดิโอด้วยความเครียดแต่เมื่อสายตาของเธอมองไปยัง"ผู้ชายคนนั้น"ก็ทำให้เธอยิ้มได้ทันที ตุ้ยอยู่ในชุดอัศวินสีดำแบบนักรบฝรั่งที่เอวมีดาบห้อยอยู่ใบหน้าคมเข้มถูกตกแต่งไว้อย่างดีจนเขาดูหล่อมากๆ ฉากหลังจัดแต่งเป็นเหมือนพระราชวังในนิทาน มิ้นได้แต่งมองอย่างตะลึง
    "เห้ยทำไมยัยแอนนี่ยังไม่มาอีกวะเนี่ย"พี่ต่อผู้กำกับเริ่มเครียดเมื่อแอนนี่ดาราสาวชื่อดังที่ต้องมารับบทนางเอกยังไม่มา
    "ใจเย็นดิพี่ ช่วงนี้แอนนี้เค้างานเยอะมั้ง"ตุ้ยพูดกับพี่ต่อแต่กลับหันไปโบกมือให้มิ้นที่ยิ้มร่าอยู่
    "งานย้งเยอะอะไรพี่ไม่สนแล้วโว้ยเปลี่ยนตัวนางเอกโว้ย"พี่ต่อของขึ้นไปแล้ว
    "อ้าวแล้วจะหานางเอกที่ไหนทันอะพี่"ตุ้ยอมยิ้มขำมิ้นที่แลบลิ้นใส่เขา
    "เห้ยเล่นอะไรวะไ อ้ตุ้ยพี่ซีเรียสนะ"พี่ต่อหงุดหงิดที่เห็นตุ้ยยังระรื้นอยู่ พี่ต่อหันไปเห็นนสาวน้อยหน้าใสกริ๊งที่นั่งเท้าคางยิ้มหวานให้ตุ้ยอยู่ก็ตาลุกวาวทันที
    "โป๊ะเช๊ะ พี่เจอนางเอกของเราแล้ววะตุ้ย"
    "ใครอะพี่ ไม่มีเห็นมีเลย"ตุ้ยงงๆ
    "ก็น้องหนูคนนั้นไง น่ารักฉิบเลย"พี่ต่อชี้ไปที่มิ้นที่นั่งทำตาแป๋วอยู่
    "คนนี้ไม่ได้พี่ ยังไงก็ไม่ได้"
    "ทำไมละวะก็น้องเค้าน่ารักอะ"
    "ไม่ได้พี่นั่นมันแฟนผม"
    "เออแฟนเอ็งก็ดีแล้วไงจะได้เล่นกันไหลลื่นไงวะไม่ดีหรอ"
    "ไม่ดีพี่ ไม่ดีเลย"ตุ้ยหน้าบูดไม่พอใจ
    "เห้ยหวงหรอเด้วนี้ห่วงแฟนงั้นดิ"พี่ต่อมองตุ้ยอยู่รู้ทัน"ไม่สนโว้ยพี่เจอนางในฝันแล้ว นางเอกของพี่แหละน้องคนนี้"
    พี่ต่อพุ่งตรงไปยังมิ้นที่นั่งทำหน้าบ๋องแบ๋วอยู่ทันที
    "หวัดดีจ้าน้องหมวยน้อย ชื่อไรครับเนี่ย"
    "ชื่อมิ้นค่ะ ทำไมหรอค่ะ"มิ้นมิงหน้าพี่ต่อกับตุ้ยอย่างงงๆ
    "พี่เด้วผมพูดเอง เนี่ยพี่ต่อเค้าเป็นผู้กำกับMVของพี่ เขาอยากให้มิ้นมาเป็นนางเอกให้นะ"
    "อะไรนะ ไม่เอาอะมิ้นทำไม่ได้หรอก"มิ้นหน้าเสียไปเลย
    "อย่าเพิ่งบอกว่าทำไม่ได้สิครับ พี่เชื่อว่าหนูทำได้ อีกอย่างดาราที่พี่ติดต่อไว้เค้าก็เบี้ยวพี่ด้วย ยังไงน้องมิ้นก็ช่วยพี่หน่อยนะครับ"พี่ต่อทำท่าอ้อนวอนสุดฤทธิ์ มิ้นมองหน้าตุ้ยเชิงปรึกษา
    "พี่ตุ้ยว่าไงอะค่ะ"
    "ไม่ต้องเล่นหรอก อย่างเธออะทำเป็นแต่หน้าเอ๋ออย่างเด้วแหละ"ตุ้ยพูดเพราะหวงมิ้นนั่นเองแต่มิ้นดันเข้าใจว่าตุ้ยท้าทายเธอ
    "อืมงั้นมิ้นตกลงรับเล่นค่ะ มิ้นจะแสดง"มิ้นเชิดหน้ามั่นใจ
    "เห้ย.."ตุ้ยเหว่อไปเลย
    "เอางั้นน้องมิ้นไปแต่งหน้าแต่งตัวเลยครับ เจ้าหญิงของเรามาละดีจริงๆเลย"

    "ก็ฉันไม่อยากให้ใครเห็นเธอนิ ไม่เข้าใจหรอว่าคนมันหวง ยัยบ้าเอ้ยไม่รู้อะไรบ้างเลยนะ"ตุ้ยส่ายหน้าอย่างหนักใจ  "ว้าวสวยมากๆ สวยจริงๆเลย เหมือนเจ้าหญิงที่พี่คิดเอาไว้เลยนะเนี่ย"พี่ต่อตะโกนดังลั่นสตูดิโอ
    ตุ้ยหันหลังไปมองมิ้นที่สวมชุดสีขาวปักดิ้นทองเหลืองอร่ามสวยงาม กระโปรงทรงซุ่มยาวกรอมพื้น ผมที่เคยตรงสลวยถูกดัดเป็นหลอนราวกับตุ๊กตาประดับด้วยมงกุฎสีทองรูปดอกไม้เล็กๆน่ารัก  ใบหน้าเนียนใสที่เคยไร้เครื่องสำอางค์ก็ถูกตกแต่งเป็นประกายสีทองสวยงาม แต่ตุ้ยก็ต้องมาติดใจที่ชุดสวยคว้านช่วงคอกว้างจนทำเผยให้เห็นเนื้อขาวๆและคอสวยๆนั้น
    "พี่ต่อชุดมันคอกว้างไปปะเนี่ย"ตุ้ยหน้าบึ้งมายืนบังมิ้นเอาไว้ไม่ให้คนอื่นมองเห็น
    "เห้ยก็มันชุดเจ้าหญิงฝรั่งนะมันก็ต้องเป็นอย่างนี้ทุกชุดแหละ เอ็งนิอย่าหวงแฟนให้เวอร์วะ"
    มิ้นกับตุ้ยมองหน้ากันอย่างเขินๆ
    "เอาใส่ซะไว้ตอนจะเข้าฉากค่อยถอดนะ"ตุ้ยยืนเสื้อคลุมให้มิ้นใส่ มิ้นยิ้มหวานให้ตุ้ยทันที
    "เอาพอละเลิกสวีทกันได้ละ ทำงานๆพี่จะขออธิบายคอนเซ็บของเพลงนางฟ้าในใจก่อนนะ เพลงนี้จะเป็นMVแนวแฟนตาซีหน่อยนะ คือตุ้ยจะเป็นทหารเอกที่แอบหลงรักเจ้าหญิงแสนสวย เขาก็รู้ตัวว่าเขาและเธอแตกต่างกันมาก แต่เขาก็พร้อมฟันฟ่าอุปสรรคทุกๆอย่างๆเพื่อจะได้อยู่เคียงข้างเธอ เข้าใจตรงกันนะตุ้ย มิ้น"
    http://ethaimusic.com/lyrics/103.htm
    "ครับ/ค่ะ"
    "เอางั้นเรามาถ่ายฉากสำคัญของเรื่องกันเลยดีกว่านะ"
    "ฉากไหนหรอค่ะ"มิ้นทำหน้างงๆ
    "ฉากที่อัศวินหนุ่มขอเจ้าหญิงแต่งงานไง"พี่ต่อพูดหน้าตาเฉยแต่ทำเอามิ้นหน้าแดงก่ำไปเลย
    5 4 3 2 1 แอ๊คชั่น
    ตุ้ยจับมือมิ้นมองเข้าไปในตาสวยเป็นประกายของเธอ ท่ามกลางสวนดอกไม้สวยงามราวกับสรวงสวรรค์
    "เจ้าหญิงท่านช่างงดงามเหลือเกิน เกินกว่าที่หม่อมฉันจะห้ามใจไม่รักท่านได้ หม่อมฉันรู้ดีว่าตัวเองต้อยต่ำต่างจากพระองค์มากมายเหลือเกิน"ทหารหนุ่มพูดอย่างเจียมตัว
    "อย่าเอ่ยเช่นนั้น เจ้าต่อสู้กับศัตรูดูแลอาณาจักรของเราให้ปลอดภัย เจ้ามีบุญคุณกับเรามากมายจนเราไม่รู้ว่าจะตอบแทนเจ้าอย่างไร"
    "หม่อมฉันไม่ต้องการสิ่งใดจากองคืหญิงเลย นอกจาก..."
    ตุ้ยคุกเข่าลงกับพื้นจับมือมิ้นเอามิ้นเอาไว้แล้วมองเข้าไปที่ดวงตาเธอ
    "แต่งงานกับหม่อมฉันเถอะนะ เจ้าหญิงน้อย"
    มิ้นมองตุ้ยอย่างหวานซึ้ง น้ำตาแห่งความตื้นตันเอ่อดวงตาของเธอ
    "ตกลง อัศวินของข้า"
    ตุ้ยจุมพิตเบาๆที่มือน้อยของเธอ ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นแล้วดึงร่างงามไปกอดไว้อย่างแสนรักเสียงดนตรีหวานดังขึ้น ดอกไม้เล็กๆโปรบปรายลงมาจากฟากฟ้า
    -เสียงปรบมือดังขึ้นลั่ยสตูดิโอ สายตาของทีมงานทุกคนมองตุ้ยกับมิ้นอย่างซาบซึ้ง ตุ้ยค่อยๆคลายอ้อมกอดจากร่างของมิ้น ทั้งคู่มองตากันแล้วอดที่จะยิ้มให้กันไม่ได้
    "ยอดเยี่ยม ยออดเยี่ยมมากๆถือเป็นฉากแห่งที่หวานมากๆไม่น่าเชื่อว่าน้องมิ้นจะไม่เคยแสดงละครมาก่อนนะเนี่ย หนูรู้ตัวไหมว่าหนูเป็นนางเอกละครได้สบายเลยนะ"พี่ต่อถึงกับหน้าบานเลย
    "ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ พี่มิ้นแสดงได้ก็เพราะพี่ๆช่วยมากกว่า"มิ้นยิ้มเขินๆ
    "เขาเรียกว่าเราเล่นมาจากหัวใจพี่'ตุ้ยหัวเราะเบาๆก่อนจะคว้าร่างมิ้นมาโอบไว้
    "555++ไ อ้ตุ้ยเกินไปแล้วเอ็ง ดุดิมิ้นอายหน้าแดงแล้ว"
    "เอ่อแล้วMVนี้จะออกอากาศเมื่อไรอะพี่"
    "ก็หน้าจะสักปีใหม่มั้ง อย่าลืมรอดูละหนูมิ้น"
    "ค่ะมิ้นดูแน่ๆ"
    "เอาๆไปพักผ่อนกันเถอะเลิกกองแล้ว พี่ไปก่อนนะ"พี่ต่อเดินจากไป
    "มิ้น ชอบฉากเมื่อกี้มะ"ตุ้ยยิ้มเจ้าเล่ห์
    "ตอนไหนละค่ะ"มิ้นทำท่าไม่รู้เรื่อง
    'ก็ตอนที่อัศวินหนุ่มขอเจ้าหญิงแต่งงานไง พี่อยากให้เราเป็นอย่างงั้นบ้างจัง"ตุ้ยทำหน้าฝันกลางวัน
    "บ้าพี่ตุ้ยอะพูดไรไม่รู้ มิ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า"มิ้นทุบอกตุ้ยเบาๆก่อนจะเดินหนีไปอย่างเขินๆ
    "เด้วเจ้าหญิงน้อยกระหม่อมด้วย"ตุ้ยเดินแซวมิ้นตลอด
    มิ้นหยุดนิ่งเมื่อเห็นผู้ชายตรงหน้า ตูนมองมิ้นด้วยสายตาสำนึกผิด มิ้นสะบัดหน้าแล้วเดินจากเขาไปทันที ตุ้ยองทั้งคู่อย่างสงสัยก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้ตูนมองตามทั้งคู่ไปด้วยความเจ็บปวดโอ้ยวันนี้เหนื่อยชะมัดเลยอะ”ตุ้ยล้มตัวลงนอนบนเตียงทันทีเมื่อถึงห้อง
    “พี่ตุ้ยขึ้นมาเด้วนี้เลยนะ ตัวสกปรกนอนบนเตียงได้ไงอะ”มิ้นเท้าเอวมองอย่างระอา
    “ไม่เอาอะพี่จะนอนง่วงแล้ว”ตุ้ยเริ่งงอแงเหมือนเด็กๆ
    “พี่ตุ้ย อย่ามางอแงนะง่วงอะไรนี่เพิ่ง 2ทุ่มเองนะไปอาบน้ำเลย”มิ้นขึ้นไปยืนบนเตียงพยายามดึงแขนให้เขาลุกขึ้นมา แต่ตุ้ยกลับออกแรงดึงตัวมิ้นลงมาจนร่างบางของเธออยู่บนตัวของเขา
    “พี่ตุ้ยปล่อยมิ้นนะ”มิ้นพูดเบาๆ ดวงตาหวานไมากล้าสบาเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยซ้ำ
    “ไม่ปล่อย ก็ไหนมิ้นบอกว่าพี่สกปรกไง พี่เลยจะให้มิ้นพิสูจน์ว่าพี่นะตัวหอมจะตาย”ตุ้ยยิ้มกรุ่มกริ่มจนมิ้นอายหน้าแดง
    “ไม่พิสูจน์อะ ปล่อยมิ้นนะ”
    “ไม่ปล่อยจะกอดให้แน่นเลยด้วย จนกว่ามิ้นจะ.....”
    “จะอะไรละ มิ้นอึดอัดจะแย่แล้วนะ”มิ้นรีบพูดเพราะตุ้ยกอดเธอแน่นจะจะหายใจไม่ออกแล้ว
    “มิ้นจะหอมแก้มพี่ก่อน”ตุ้ยเอียงแก้มให้คนหน้าแดงที่นอนทับเขาอยู่
    “ไม่เอาอะมิ้นไม่หอมยังไงก็ไม่หอม”มิ้นส่ายหน้าพร้อมเม้มปากแน่น
    “ไม่หอมก็ตามใจยังเราก็นอนกอดกันอย่างนี้ทั้งคืนก็ได้”ตุ้ยแกล้งทำเป็นหลับตานิ่ง
    มิ้นมองหน้าคนเจ้าเล่ห์อย่างลังเลใจก่อนที่เธอจะกดจมูกเล็กๆลงบนแก้มเขาเบาๆและรวดเร็วจนชายหนุ่มตั้งตัวแทบไม่ทัน
    “มิ้นหอมแล้วพี่ตุ้ยก็ปล่อยสิค่ะ”แม่สาวน้อยทวงสัญญา
    “นั่นหอมหรอมิ้นพี่คิดว่าอะไรมาชนหน้าซะอีก ครั้งนั้นไม่นับ หอมใหม่เลย อีกข้างๆ”ตุ้ยเอียงแก้มอีกข้างให้มิ้น
    “พี่ตุ้ย”มิ้นเริ่มเสียงดังอย่างโมโห
    “เสียงดังทำไมเนี่ย ให้หอมแก้มไม่ได้ให้ตะโกน”ตุ้ยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับอาการรวนๆของเธอ
    มิ้นกัดปากตัวเองแน่นอย่างขัดใจ ก่อนจะก้มไปหอมพ่อตัวดีอย่างแรงจนตุ้ยหน้าชาไปเลย
    “พอใจรึยัง ปล่อยมิ้นได้แล้ว”มิ้นแก้มป่องแบบงอนๆ
    “โอเค ปล่อยได้ละ”
    ตุ้ยพลิกร่างตัวเองให้ทอดทับบนร่างของมิ้นกอดจะประทับริมปากของตนเองลงบนปากเรียวสวยของเธออย่างรวดเร็ว
    “ชื่นใจจัง พี่ไปอาบน้ำก่อนนะคนดี”ตุ้ยยิ้มกวนแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้คนโดนรังแกนอนนิ่ง หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายอยู่คนเดียว


     
     
     ***อกหักไม่ว่าอย่างเธอไม่รักคงบ้า***
    มิ้นรีบลงขึ้นจากเตียงมาคว้าโทรศัพท์ที่ดังขึ้นไปดูเบอร์ที่ไม่คุ้นตาอย่างสงสัย
    “สวัสดีค่ะ”
    “สวัสดียัยกระต่ายฟันหลอ”
    ตาเรียวเล็กของมิ้นเบิ่งกว้างอย่างตื่นเต้น ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างด้วยความยินดีเป็นที่สุด จากสรรพนามที่เขาเรียกเธอ เธอก็รู้ดีว่าเป็นใครก็มีเขาคนเด้วเท่านั้นแหละที่เรียกเธออย่างนี้
    “พี่ก้อ”มิ้นตะโกนเรียกชื่อลูกพี่ลูกน้องหนุ่มดังลั่นด้วยความดีใจ
    “เห้ยจะตะโกนทำไมเนี่ย ขี้หูพี่ร่วงกระจายหมดแล้ว”ชายหนุ่มพูดกวนๆตามแบบฉบับเขา
    “พี่ก้ออยู่ที่ไหนเนีย แล้วได้เบอร์มิ้นมาจากไหน มิ้นคิดถึงพี่ก้อมากเลยนะ แล้วพี่ก้อคิดถงมิ้นไหมอะ”มิ้นพูดรัวยาวแบบไม่หายใจจนก้อต้องหยุดเธอเอาไว้
    “หยุดได้แล้วไ อ้บ๋องที่ละคำถามดิ พี่อยู่ที่เมืองไทยเนี่ยอยู่ภูดาว”
    “ภูดาวบ้านคุณย่าอะหรอ”มิ้นคิดถึงไร่ภูดาวแสนสวยกับคุณย่าของเธอที่เป็นดั่งศุนย์รวมใจของคนที่นั้นขึ้นมาทันที
    “อืมช่าย ที่นี่อากาศดีมากๆเลยนะ”
    “แล้วพี่ก้อไม่อยู่ที่ฝรั่งเศสแล้วหรอ”
           ในครอบครัววัฒนกุลอันแสนอบอุ่นของเธอ คุณลุงวิทย์ลูกชายคนโตของตระกูลเป็นผู้สืบทอดกิจการสิ่งทออันดับ3ของประเทศอังกฤษจากคุณปู่ของเธอ แต่คุณชายธรรมนูญหรือพี่ก้อของมิ้นกลับมีใจรักในการเล่นดนตรีและร้องเพลงอย่างหนักถึงขนาดยอมลาออกจากคณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ แล้วหนีไปเรียนต่อด้านการดนตรีที่ฝรั่งเศสโดยไม่สนใจเสียงทัดทานจากทางบ้านเลยแม้แต่น้อย   แต่ถึงยังไงพี่ก้อก็ยังเป็นพี่ชายที่แสนดีทั้งรักและตามใจเธอ(เกือบ)ที่สุด(รองจากพี่ต้าค่ะ) ถึงแม้เขาจะกวนตามแบบฉบับเด็กแนวไปเสียหน่อยก็ตาม
    “แล้วพี่ก้อไม่อยู่ที่ฝรั่งเศสแล้วหรอ”
    “อยู่ดิพี่ยังเรียนวอยส์ไม่ถึงไหนเลยนะ ช่วงนี้พี่แค่กลับมาชาร์จแบตเฉยๆอะ”
    “แล้วพี่ก้อเอาเบอร์มิ้นมาจากไหนหรอค่ะ”
    “อ้อก็เอามากจากไ อ้ต้ากับยัยซาร่านะซิถามได้”
    “พี่ต้ากับยัยร่าหรอค่ะ งั้นพี่ก้อก็รูเรื่องทุกอย่างแล้วสิ”มิ้นหน้าซีดด้วยความกลัว
    “ใช่ฉันรู้ทุกอย่างแล้ว ยัยมิ้นแฟนนักร้องดังถูกมะ”
    “พี่ก้อแล้วคุณย่าละค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ คุณลุง คุณป้าละรู้หรือป่าว ฮือๆๆๆ”มิ้นสติแตกจนร้องไห้ออกมา
    “เห้ยอย่าเพิ่งร้องไห้สิยัยกระต่ายขี้แย ยังไม่มีใรรู้เรื่องนี้ซะหน่อย”ก้อรีบพูดทันทีเพราะเขาทนเห็นน้องสาวหน้าใสนนี้ร้องไห้ไม่ได้จริงๆ
    “พี่ก้อ ฮือ พี่ก้อ ม่ายบอกครายจริงๆนะ”มิ้นพูดไปร้องไห้ไปอย่างน่าสงสาร
    “ไม่บอกใครก็ได้แต่มีข้อแม้นะ”
    “ข้อแม้อะไรหรอ”
    “มิ้นต้องมาฉลองปีใหม่กับพี่ที่ไร่ภูดาว”ก้อยื่นคำขาดทันที
    “ภูดาว เชียงใหม่นะพี่ก้อ ไม่ใช่ใกล้ๆเลยนะมิ้นจะไปได้ไงละ”มิ้นเครียดไปเลย
    “แกต้องมาให้ถ้าไม่อยากให้ทุกๆรู้เรื่องนี้ เจอกันวันที่ 31นะถึงแล้วโทรหาพี่ด้วยแค่นี้นะน้องสาวสุดเลิฟ”
    ***ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด**
    “พี่ก้ออย่าเพิ่งวางสิ พี่ก้อ พี่ก้อ”มิ้นโมโหสุดขีด เธอคิดถึงใบหน้ายียวนกวนประสาทของพี่ชายตัวดีแล้วอยากจะกรี๊ดขึ้นมาซะจริง
    “ภูดาว เชียงใหม่ คุณย่า พี่ก้อ โอ้ยจะบ้าตายแล้วมิ้นจะไปได้ไงละเนี่ย”มิ้นกุมขมับลงไปดิ้นกับพื้นอย่างคิดไม่ตก

    ไร่ภูดาว จังหวัดเชียงใหม่
          ชายหนุ่มรูปร่างสัดทันผิวขาว ใบหน้าเนียนใสราวกับเด็กหนุ่มกระชับผ้าพันผื่นโปรดแน่น เขาจิบกาแฟอุ่นๆในมือนั่งลงที่ระเบียงของบ้านปีกไม้หลังสวย ชายหนุ่มเปิดกระเป๋าสตางค์ของตนเองออก แสงไฟจะตะเกียงเจ้าพายุอันเล็กส่องให้เห็นภาพเด็กชายหน้าตากวนที่ยืนอยู่ด้านหลังเด็กหญิงผิวขาว แก้มแดง ที่ยิ้มหวานจนเห็นฟันหน้าหักไป 2 ซี่ อันเป็นที่มาให้เขาเรียกเธอมา”กระต่ายฟันหรอ”นั่นเอง ในภาพอาจจะดูเหมือนเด็กชายไม่สนใจจะถ่ายรูปกับเด็กหญิงตรงหน้าเท่าไร แต่ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าเขาอมยิ้มอยู่แถมมือเล็กๆทั้ง 2ข้างยังกอดเอวเล็กๆของเด็กหญิงเอาไว้อยากรักใครซะด้วย
          ก้อยิ้มให้กับรูปน้องสาวแสนรักของตัวเอง และจับผ้าพันคอที่เธอซื้อให้เขาเมื่อ 4ปีที่แล้วไว้ เขาไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งเธอแค่ต้องการอยากจะเจอก็เท่านั้น แต่คนกวนๆอย่างเขานะหรอจะไปหาเธอง่ายๆมันต้องมีอะไรสนุกๆกันเสียหน่อย
    “มาให้ได้นะ ยัยกระต่ายน้อย พี่คิดถึงเธอรู้ไหม”
    ก้อพูดเบาๆด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
    “มิ้นเป็นไรอะ เป็นลมบ้าหมูรึไงถึงได้ไปนอนชักอยู่ที่พื้นอะ”ตุ้ยที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำมองมิ้นที่นอนดิ้นอยู่ที่พื้นอย่างงงๆ
    “เปล่าซะหน่อย พี่ตุ้ยอะมั่ว”มิ้นลุกขึ้นนั่งกอดเข่าหน้าบูดบึ้ง
    “มานั่งนี่สิ เช็ดผมให้พี่ด้วย เร็วๆเลย”ตุ้ยตบโซฟาเบาๆเป็นเชิงให้แม่ตัวดีมานั่งใกล้ๆ
    มิ้นรับผ้าขนหนูไปเช็ดผมให้ชายหนุ่มอย่างไม่อิดออด แต่คิวมนของเธอก็ยังผูกโบไม่เลิกจนตุ้ยเริ่มสงสัย
    “เป็นอะไรฮะเรา หน้าบูดเป็นตูดลิงเชียว”ตุ้ยหันมาจับแก้มใสๆของมิ้นบิดเบาๆอย่างหมั้นเขี้ยว
    “พี่ตุ้ยอะอย่าแกล้งมิ้นสิ มิ้นยิ่งเบื่อๆอยู่นะ”มิ้นตีมือตุ้ยเบาๆ
    “เบื่อหรอยังงี้สงสัยจะต้องไปเที่ยวซะละมั้ง”ตุ้ยอมยิ้มขำๆเมื่อเห็นแม่คนอารมณ์ไม่ดีตาใสแจ๋วขึ้นทันที
    “เที่ยวหรอ เที่ยวที่ไหนอะค่ะพี่ตุ้ย”มิ้นกอดแขนตุ้ยอย่างประจบ
    “อืมปีใหม่ทั้งที่เราก็ต้องไปเที่ยวต่างจังหวัดกันนะสิ จริงมะ”
    “จริงค่ะจริง พี่ตุ้ยไปเที่ยวกันนะ ไปที่ไหนกันดีนะ”มิ้นเอาหน้าเล็กๆของเธอไปซุกไซร้ที่ต้นแขนของตุ้ยอย่างออดอ้อนสุดๆ
    “ขี้อ้อนจริงนะเรา หนาวๆอย่างนี้ก็ต้องไปเชียงใหม่สิ ดีมะ”ตุ้ยลูบหัวมิ้นอย่างเอ็นดู
    “เชียงใหม่หรอ เมื่อกี้พี่ตุ้ยพูดว่าเชียงใหม่ใช่มะ”มิ้นกระโดดลุกจากโซฟามายืนหน้าตุ้ยด้วยความตื่นเต้นทันที
    “อืมไปเชียงใหม่ไงพอดีบลูน่ามันมีบ้านอยู่ที่นั้นแล้วไม่มีคนอยู่แล้วช่วงปีใหม่พวกพี่ก็ไม่มีงานว่างตรงกันด้วยละเลยถือโอกาสไปเที่ยวกันซะหน่อย มิ้นอยากไปมะ”
    “อยากไปค่ะ อยากไปมากๆ มิ้นจะไปเชียงใหม่ๆๆๆ”มิ้นกระโดดโลดเต้นไปรอบๆมองด้วยความดีใจสุดขีด ตุ้ยได้แต่ส่ายหน้ามองเธออย่างเอ็นดู

    “พี่ก้อขา คุณย่าขา รอมิ้นนะ เด้วมิ้นจะรีบไปหาเลย”
    มิ้นหัวเราะคิกคักอยู่ในกระจกอย่างมีความสุข
    ขอบคุณค่ะพี่แก้ม เอาไร่สวยๆรับกับอากาศหนาวๆนะค่ะ ชอบๆ

    "พี่ตุ้ยตื่นได้แล้วค่ะ"มิ้นใช่มือตบหน้าชายหนุ่มที่นอนพิงบ่าเธอเบาๆ
    "อืม ถึงแล้วหรอ"ตุ้ยพูดงัวเงียแต่ก็ยังไม่ยอมขยับตัวจากบ่านุ่มๆของมิ้นเลย
    "ถึงแล้วค่ะ ลุกได้แล้วคนอื่นเขาไปขนของลงรถกันหมดแล้วนะ"มิ้นอมยิ้มแล้วลูบแก้มคนขี้เซาเบาๆ
    "พี่เหนื่อยจังเลยอะ ขับรถตั้งนานปวดหลังปวดคอไปหมดแล้ว"ตุ้ยลืมตามาทำหน้าอ้อนมิ้นอีก
    "เมื่อยมากเลยหรอ งั้นก็รีบเข้าบ้านเลยเด้วมิ้นนวดให้เอาไหม"
    "เอาๆน้องมิ้นนี่ใจดีจริงๆเลยนะเนี่ย"ตุ้ยคว้าตัวมิ้นมากอดแน่นทันที
    ***ปี้น ปี้น ปี้น***
    **ปัง**
    ตูนที่นั่งอยู่หน้าพวงมาลัยบีบแตรรถอย่างแรงก่อนจะกระแทกประตูรถด้วยอย่างโมโห ตุ้ยคลายอ้อมกอดจากมิ้น ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างอึดอัด

    "เห้ยสาบานได้นะบลูน่าว่าเนี่ยบ้านคนไม่ใช่บ้านผีสิง"
    "ก็ใช่นะสิ พี่บอยพูดงี้หมายความว่าไงฮะ"
    "ก้ดูดิทั้งฝุ่นทั้งใยแมงมุมเต็มไปหมดเลยอะ"
    "ก็บ้านนี้มันไม่มีคนอยู่นี่นาจะให้สะอาดได้ไงละ"
    "แล้วจะทำยังไงกันละ เย็นขนาดนี้แล้วจะนอนกันได้มะ"
    "ก็ใครใช่ให้พี่บอยขับรถหลงทางละ ถ้าพวกพี่ไม่หลงเราถึงกันตั้งนานแล้วละ"
    "อย่ามาหาเรื่องพี่นะบลูน่า"
    "พี่บอยนะแหละหาเรื่อง"
    บอยและบลูน่าจ้องกันอย่างเอาเป็นเอาตายจนเพชร มิ้น และตุ้ยต้องมาช่วยกันห้ามทัพ
    "ใจเย็นๆสิบลูน่า บอย วันนี้วันสิ้นปีนะอย่ามาทะเลาะกันเพราะเรื่องไร้สาระเลยนะ"
    "ใช่ค่ะมิ้นว่าเรามาช่วยกันแก้ปัญหาดีกว่านะ เนี่ยก็เกือบจะ 5โมงเย็นแล้วเด้วcout down กันไม่ทันนะค่ะพี่บอย บลูน่า"มิ้นพยายามยิ้มหวานแก้สถานะการณ์ซึ่งก้ดูจะเป็นผลซะด้วย
    "แล้วน้องมิ้นจะเอาไงละครับ พี่เบื่อคนเที่ยวนี้จริงๆ ไม่มีเหตุผล"บอยเหล่มองบลูน่าแล้วกอดอกอย่างกวนๆ
    "บลูน่าก็เบื่อ เบื่อมากๆๆ"บลูน่าก็ยังไม่ยอมเช่นกัน
    "เออเพชรว่านะพวกผู้ชายขับรถกันมาตั้งไกลแล้วน่าจะได้พักผ่อนนะ เอางี้ละกันพวกผุ้ชายนะทำความสะอาดบ้านละก็นอนพักกันไปละกัน ส่วนเพชร มิ้นละก้อบลูน่าจะออกไปซื้ออาหารและก็ข้างของมาจัดงานปีใหม่กันเย็นนี้ดีไหม"
    "จะดีหรอเพชร ตุ้ยว่าพวกผู้หญิงอยู่บ้านดีกว่านะ เด้วเราไปเองดีกว่า"ตุ้ยพูดอย่างเป็นห่วง
    "ไม่เป็นไรหรอกบลูน่ายังพอจำทางได้ เด้วขับรถพาไปเองไม่หลงหรอก"
    "แน่ใจนะว่าจะไม่เกิดเรื่องนะ"บอยพูดกวนๆแต่น้ำเสียงเขาก็แอบเจือด้วยความเป็นห่วงบลูน่าไม่น้อย
    "ไม่หรอก รีบไปจะได้รีบกลับไง"บลูน่าเดินไปที่รถทันที
    "มิ้นรีบกลับมานะ อย่าเถลไถลละ"ตุ้ยคว้าแขนมิ้นแล้วพูดอย่างเป็นห่วง
    "ค่ะแล้วมิ้นจะรีบกลับนะค่ะ"
    มิ้นยิ้มหวานให้ตุ้ย ก่อนจะเดินผ่านไปที่ตูน มิ้นชะงักไปทั้งคู่จ้องตานิ่งกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่มิ้นจะเดินไป ตูนมองตามมิ้นไปด้วยสายตาสับสน
    "เห้ยตุ้ยเข้าบ้านดิ รถเขาออกไปตั้งนานละนะ"บอยตบบ่าตุ้ยที่ยังยืนนิ่งที่เดิมอยู่
    "ข้ารู้สึกแปลกๆวะเหมือนว่ามันจะมีเรื่องยังไงไม่รู้ดิ"ตุ้ยหน้าเครียด
    "คิดมากวะ เข้าบ้านเหอะ"บอยดึงแขนตุ้ยเขาไปในบ้านด้วยกัน

    "อย่ามีอะไรเกิดขึ้นกับมิ้นเลยนะ รีบกลับมานะมิ้น"ตุ้ยรำพึงกับตัวเองเบาๆ ขณะที่มิ้นกำลังช่วยเพชรและบลูน่าซื้อของให้ตลาด มิ้นรู้สึกเหมือนกับมีผู้ชายคนหนึ่งเดินตามเธออยู่ มิ้นเริ่มกลัวเธอรีบก้าวเดินอย่างเร็ว แต่เสียงฝีเท้าข้างหลังก็ขังคงตามเธอไม่หยุด มิ้นรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว เมื่อท่อนแขนของเธอถึงจับเอาไว้ที่เอวของเธอก็รู้สึกได้ถึงของแข็งๆที่จี้อยู่
    "ปล่อยฉันนะ นะ นายไปใครนะ ปล่อยฉันเถอะนะ"มิ้นพูดเสียงสั่นด้วยความกลัว
    **เงียบ**
    "นินายโจร นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ ถ้านายอยากได้เงินนะฉันให้หมดเลยนะ ฉะ ฉันเป็นลูกมีพี่อมีแม่นะนายอย่าฆ่าฉันเลยนะ ฉันกลัวแล้วนะ"มิ้นเริ่มพล่ามราวกับคนสติแตกแล้ว
    "คิก คิก คิก"
    "เสียงคุ้นๆแฮะ"มิ้นเริ่มเอ๊ะใจกับเสียงหัวเราะนั้นซะแล้ว เธอตัสินใจหันกลับไปดูหน้าเจ้าโจรบ้านั้นทันที
    "กรี๊ดดดดดดดดดดดด ไ อ้พี่ก้อ ไ อ้พี่บ้า"มิ้นกรี๊กลั่นก่อนจะกระโดดกอดพี่ชายขี้แกล้งของเธอทันที
    "เห้ยยัยบ๋องพี่หายใจไม่ออก แค๊ก แค๊ก"
    "ดีๆตายไปเลยชอบแกล้งเค้าดีนัก 555"มิ้นหัวเราะร่าก่อนจะยอมปล่อยมือจากตัวเล็กๆของชายหนุ่ม
    "แหมแกล้งนิดหน่อยเองยัยกระต่ายฟันหลอ"ก้อจัดแต่งทรงผมเท่ห์ๆของตัวเองให้เข้าที่
    "อิอิ หล่อแล้วจ้าคุณพี่ แล้วพี่ก้อมาได้ไงเนี่ยหรือว่าสะกดรอยตามมิ้นมา"มิ้นชี้หน้าก้ออย่าระแวง
    "อย่ามาบ้าเลย พี่มาซื้อดอกไม้ไปปลูกในไร่ให้คุณย่าต่างหาก พอดีมันเห็นเธอยืนหน้าเอ๋ออยุ่ก็เลยอย่าแกล้งก็แค่นั้นละ"
    "หรองั้นก็แล้วไป"
    "ไปกันเถอะ"ก้อไม่พูดพ่ำทำเพลงกระชากแขนแม่น้องสาวไปทันที
    "เห้ยไปไหนเนี่ยพี่ก้อ"มิ้นพยายามขืนตัวเอาไว้อย่างงงๆ
    "ไปบ้านคุณย่าไง อย่ามาผิดสัญญานะยัยกระต่าย"ก้อทำหน้าดุเลย
    "ไม่ได้ผิดสัญญาแต่มิ้นต้องไปบอกเพื่อนก่อนสิ นะๆพี่ก้อเด้วเพื่อนมิ้นเป็นห่วงนะ"มิ้นทำหน้าอ้อนๆพี่ชายสุดเลิฟ
    "เออๆเร็วๆนะ"ก้อใจอ่อนจนได้

    "มิ้น ไปไหนมาอะเราต้องใจแทบตายแหละอยู่ๆก็หายไปนะ"เพชรมองมิ้นที่เดินมากับชายหนุ่มร่างเล็กหน้าตากวนๆคนนั้นอย่างงงๆ
    "เออคือมิ้นบังเอิญไปเจอเพื่อนนะ "
    "เพื่อนหรอ"เพชรทำหน้าไม่ค่อยเชื่อเท่าไร
    "อืม แล้วเพชรกับบลูน่าซื้อของเสร็จแล้วหรอ"มิ้นรีบเปลี่ยนเรื่อง
    "ก้ยังอะเหลืออีกหลายอย่างเหมือนกัน"บลูน่าพูดขึ้น
    "อืมงั้นมิ้นขอไปธุระกับเพื่อนก่อนนะ เด้วค่อยไปเจอกันที่บ้านนะ"
    "จะดีหรอมิ้น"เพชรพุดอย่าลังเล
    "ดีสิมิ้นไม่ได้เจอกับเพื่อนมาตั้งนานแล้วนะ เด้วมิ้นจะรีบกลับนะจ๊ะ"มิ้นไปกอดแขนของเพชรกับบลูน่าแล้วทำตาบ๋องแบ๋วอย่างน่ารัก
    "ก็ได้แต่มิ้นต้องรีบกลับมานะ ก่อน 1 ทุ่มนะ โอเคปะ"บลูน่ายื่นข้อเสนอ
    "อืมก็ได้มิ้นจะรีบกลับจ้า"มิ้นยิ้มหวานอย่างถูฏใจก่อนจะคว้าแขนนายก้อเดินขึ้นรถไป
    "บลูน่าเธอคิดเหมือนฉันมะ"เพชรมองหน้าบลูน่าอย่างเหนื่อยใจ
    "คิดว่าจะเกิดเรื่องยุ่งๆใช่มะ"
    "อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดใช่มะ"
    "ใช่อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด"
    2สาวมองหน้ากันอย่างหวั่นใจ อะไรมันจะเกิดก็คงต้องเกิดอยู่แล้วละค่ะทุกคน"เห้ยตุ้ยเลิกเดินไปเดินซะทีได้มะวะ"บอยเตือนตุ้ยที่เดินวนไปวนมาเกือบจะร้อยรอบเข้าไปแล้ว
    "ก็ข้าเป็นห่วงมิ้นนินี่ก็ตั้งเกือบ 2 ทุ่มแล้วนะทำไมยังไม่กลับมาอีก"ตุ้ยคิ้วขมวด ใบหน้าหล่อดูเครียดมากๆ
    "เออ คือมิ้นเขาอาจจะคุยกับเพื่อนเพลินก็ได้นะค่ะ"บลูน่าพูดเบาๆอย่างกลัวๆตุ้ยเหมือนกัน
    "เพื่อนหรอเธอพูดบ้าอะไร มิ้นเขาไม่รู้จักใครเลยรู้ไหม"ตุ้ยตะโกนลั่นด้วยความโมโห
    "ตุ้ยหยุด"บอยต้องหยุดตุ้ยไว้เพราะเห็นใบหน้าสงสัยของเพชรและบลูน่าแล้วก็กลัวว่าทั้ง 2คนจะรู้ว่าที่จริงแล้วมิ้นความจำเสื่อม "เออแล้วพอจะจำได้ไหมว่ามิ้นเค้าบอกว่าจะไปที่ไหนนะ"บอยหันไปถามเพชรและบลูน่า
    "มิ้นเค้าไม่ได้บอกเราว่าจะไปไหนอะค่ะแค่บอกว่าจะไปกับเพื่อน"
    "เด้วนะ เพชรจำได้แล้ว เพชรเห็นรถที่ผู้ชายคนนั้นขับไปมันติดสติกเกอร์เขียนว่า ไร่ภูดาว นะค่ะ"
    "จริงๆด้วยบลูน่าก็เห็นนะ"
    "ไร่ภูดาวหรอ แล้วมันอยู่ที่ไหนละ"ตูนที่นั่งนิ่งอยู่นานลุกขึ้นพูดอย่างตื่นเต้น
    "ใช่มันอยู่ที่ไหนกันฮะบลูน่า"ตุ้ยจับแขนบลูน่าเขย่าอย่างลืมตัว
    "โอ้ยพี่ตุ้ยเบาๆดิเจ็บนะ ไร่ภูดาวนะอยู่บนภูเขาตรงก่อนทางเลี้ยวเข้าบ้านบลูน่าไง มันเป็นไร่ของแม่เลี้ยงมินตรา ทั้งสวย สงบแล้วก็ห่างไกลผู้คนด้วย"
    "แล้วมันอยู่ไกลไหมบลูน่า"ตุ้ยถามอย่างตื่นเต้น
    "ถ้าขับรถไปก็ราวๆ 2 ชั่วโมงอะพี่ตุ้ย แต่ทางที่จะไปมันค่อนข้างลำบากนะยิ่งตอนกลางคืนด้วยไฟก้ไม่ค่อยจะมีอะ"
    "พี่จะไปให้ยากลำบากแค่ไหนพี่ก็จะไป"
    ตุ้ยไม่สนใจอะไรอีกแล้วเขารีบวิ่งไปสตาร์ดรถทันทีแต่ปรากฎว่า...
    "เห้ยทำไมรถมันไม่ติดละ"ตุ้ยหันว่าถามตูนและเพื่อนๆอย่างโมโห
    "ก้มันจะติดได้ไงละในเมื่อน้ำมันมันหมดนะ"ตูนชี้ไปที่เข็มบอกน้ำมันที่หมดเกลี้ยงถัง
    "โถโว้ย บลูน่าขับรถประสาอะไรเนี่ยให้น้ำมันหมดฮะ แล้วจะทำยังไงกันละเนี่ย"ตุ้ยฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยรถอย่างอับจนหนทาง
    "เออบลูน่าคิดออกแล้ว แด๊ดดี้มีรถมอร์เตอร์ไซต์อยู่คันหนึ่งค่ะจอดอยู่ที่ห้องเก็บของ"
    "เห้ยจริงหรองั้นเรารีบไปกันเลย"ตูนรีบวิ่งไปทันที
    "บลูน่าแน่ใจนะว่ามันยังวิ่งได้อยู่อะ"เพชรมองเจ้าสิ่งที่บลูน่าเรียกว่ามอร์เตอร์ไซต์อยอ่างอ่อนใจ
    "ก็มันไม่ใช่ตั้งนานแล้วนินา"บลูน่าจ่อยสนิทเลย
    "เอาไงวะตุ้ย"บอยหันไปตบไหล่เพื่อนซี้อย่างเห็นใจ
    "ยังไงข้าก็จะไป"ตุ้ยพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
    "ตุ้ยมันอันตรายนะนี่ก็ค่ำมืดแล้วด้วยแถมรถมันก็เก่ามาก ยังไงเรารอมิ้นก่อนไหมเด้วเค้าคงกลับมานะ"เพชรพูดด้วยความเป็นห่วงตุ้ยมาก
    "เรารอไม่ไหวแล้วจริงๆเพชรอกเราจะระเบิดทั้งกลัวทั้งเป็นห่วงเขา ถ้าเราอยู่เฉยๆเราคงต้องตายแน่ๆ"ตุ้ยพูดพร้อมคว้ามอร์เตอร์ไซต์แล้วเขนออกไปข้างนอก
    "แต่ว่า"
    "เพชรพอเถอะ ระวังตัวด้วยนะตุ้ยพามิ้นกลับมาให้ได้"ตูนตบไหล่ตุ้ยเบาๆนาทีนี้เขาเข้าใจดีว่าตุ้ยรู้สึกอย่างไรเพราะเขาเองก็รู้เช่นนั้นเหมือนกันแต่เขาไม่มีสิทธิ์จะไปตามเธอ ในเมื่อตุ้ยคือเจ้าของหัวใจเธอไม่ใช่เขา
    "ขอบใจตูนที่แกเข้าใจฉัน ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงนะแล้วฉันจะพามิ้นกลับมาเอง"ตุ้ยหันไปยิ้มให้ตูนและเพื่อนๆทุกคนอย่างซึ้งใจ

    ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ ไร้ซึ่งแสงไฟมีเพียงแสงของพระจันทร์และดวงดาวที่สาดแสงลงบนถนนขดเคี้ยวจิตใจตุ้ยทั้งว้าวุ่นและสับสนเพราะ เธอ..
    "มิ้นเธออยู่ที่ไหนรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงแค่ไหน พี่จะหาเธอให้เจอเราจะกลับบ้านด้วยกันนะ" ณ ไร่ภูดาว
        แม่เลี้ยงมินตราหญิงสูงวัยผู้ที่ยังดูทั้งสง่างามและมีอำนาจใบหน้าปรากฎรอยยิ้มหวานกับลักยิ้มตรงกลางแก้มซ้ายที่ถูกถ่ายทอดยังมิณฑิตาหลานสาวคนโปรดได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน หญิงชรามองดูหลานชายและหลานสาวกับขนมกันไปหยอกล้อกันไปอย่างมีความสุข
    "คุณย่าขาไม่ทานขนมหรอค่ะ"มิ้นยิ้มหวานอย่างประจบ
    "ไม่ละย่าอิ่มแล้วหนูทานไปเถอะ'
    "คุณย่าต้องกินเยอะๆนะค่ะจะได้แข็งแรงค่ะ"
    "เหอ เบื่อคนขี้ประจบจัง"ก้อพูดลอยๆแต่สายตากลับไปจ้องเอาแม่น้องสาวตัวดีจนได้
    "ว่าใครขี้ประจบก็มิ้นคิดถึงคุณย่าจริงๆนะค่ะ คิดถึงที่ซู๊ดเลย"มิ้นหันไปคอนพี่ชายก่อนจะทำหน้าตาออดอ้อนคุณย่าอีก
    "คิดถึงแล้วทำไมไม่มาหาย่ามั้งละเจ้ามิ้น"แม่เลี้ยงมินตรามองหลานสาวอย่างเอ็นดู
    "ก็มิ้นต้องหนังสือนี่ค่ะ มิ้นว่าคุณย่าย้ายไปอยู่อังกฤษกับมิ้นดีกว่านะค่ะมิ้นจะได้ดูแลคุณย่าด้วยไง"
    "ไม่เอาละ ที่นั้นทีแต่ฝรั่งมังค่าเมืองก็วุ่นวายไปหมด ที่นี่นะเงียบสงบดีจะตาย"
    "สงบมากๆครับคุณย่า ขนาดสัญญาณโทรศัพท์มือถือยังไม่มีเลย ดีนะน้ำกับไฟฟ้ายังพอจะเข้าถึงบ้าง ไม่รู้ที่นี้มันมีดีอะไรคุณย่าถึงได้รักมันนัก"ก้อส่ายหน้าอย่างเบื่อๆ
    "เอ้เจ้าก้อนิพูดจาไม่น่ารักเลยนะ ที่ภูดาวเนี่ยออกจะสวยงาม อากาศก็แสนจะดี ผู้คนก็มีความรักและก็จริงใจไม่เสแซ้งเหมือนคนเมือง ที่สำคัญ.."
    "ยังเป็นที่ที่คุณปู่ขอคุณย่าแต่งงานด้วย"ก้อ/มิ้นพูดขึ้นพร้อมกัน
    "555เจ้า 2คนนี้จำแม้นจริงๆนะ"หญิงชรายิ้มอย่างเป็นสุข
    "ก็ต้องจำได้สิค่ะ คุณย่าเล่าให้พวกเราฟังบ่อยๆ"
    "ความทรงจำดีๆนะมันมีค่ากับเรามากนะมิ้น ยิ่งเป็นความทรงจำกับคนที่เรารักแล้วด้วยมันก็ยิ่งมีความหมายถึงปู่ของหนูจะจากย่าไปนานแล้วแต่ย่าก็ยังจดจำทุกๆอย่างเกี่ยวกับเขาได้ ย่าไม่เคยคิดเสียใจเลยแม้สักนาทีที่รักปู่ของพวกเจ้านะ"ดวงตาของแม่เลี้ยงมินตราเป็นประกายสดใสเมื่อพูดถึงชายคนรัก
    "มิ้นอยากมีความรักที่สวยงามแล้วก็มั่นคงเหมือนคุณปู่กับคุณย่าจังค่ะ"มิ้นเท้าคางทำท่าฝันหวาน
    "แล้วหนูมีแฟนกับเขารึยังละ"ผู้เป็นย่าถามอย่างเอ็นดู
    มิ้นสะดุ้งสุดตัว ใบหน้าใสแดงระเรื่ออย่างมีพิรุด
    "เออ คือ มิ้น"
    "มีแล้วครับคุณย่าเป็น"
    "พี่ก้อหยุดเลย"มิ้นรีบลุกไปปิดปากพี่ชายตัวดีเอาไว้มีหรือที่ก้อจะตายแพ้เลยกลายเป็นสงครามย่อยๆระหว่างคนทั้งคู่ไปเสียจนได้
    "พอๆเจ้าก้อยัยมิ้นเล่นเป็นเด็กๆไปได้"
    "แฮกๆๆพี่ก้ออะน้ำลายเต็มมือมิ้นเลยนะ"มิ้นถูมือตัวเองกับกางเกงอย่างขยักแขยง
    "แหวะยัยกระต่ายมือถือก็เค็มชะมัดสกปรกไม่เปลี่ยนเลย"
    "เอาๆหยุดได้แล้ว ย่าจะไปนอนแล้วนะ"คุณย่ายิ้มอย่างเอ็นดู
    "คุณย่าง่วงแล้วหรอค่ะเด้มิ้นพาไปที่ห้องนอนนะค่ะ"มิ้นรีบไปประคองผู้เป็นย่าอย่างเอาใจ
    "ไม่ต้องๆอยู่คุยกันต่อไปเถอะ เออแล้วคืนนี้จะค้างที่นี้ไหมละ"
    "เออคือเพื่อนมิ้นรออยู่นะค่ะ เด้วจะให้พี่ก้อไปส่ง"
    "อืมงั้นก็กลับดีๆละ เจ้าก้อดูน้องด้วยนะ"
    "คุณย่าฝันดีนะค่ะ แล้วมิ้นจะแวะมาหาอีก"มิ้นจูบแก้มคุณย่าก่อนที่ท่านจะเดินจากไป

    "พี่ก้อกี่โมงแล้วเนี่ย"มิ้นเหมือนจะเพิ่งนึกอะไรได้
    "4ทุ่มครึ่งทำไมอะ"
    "เห้ยแย่แล้ว ตาย ตายแน่ๆมิ้นบอกว่าจะกลับไปตอน 1ทุ่มนิน่าโอ้ยไม่น่าคุยเพลินเลยนะ โทรสับละ โทรออกไม่ได้อะ ไม่มีสัญญาณเลยพี่ก้อไปส่งมิ้นเร็วๆๆ"มิ้นสติแตกไปแล้วเธอรีบวิ่งออกจากบ้านไปรวดเร็วจนก้อต้องวิ่งตามไป
    "ยัยกระต่ายช้าๆก็ได้ยิ่งซุ่มซ่ามอยู่เด้วหกล้มหัวแตกไปไม่รู้นะ"ก้อเตือนมิ้นที่วิ่งไปบนสนามหญ้าท่ามกลางความมืด
    มิ้นเดินถอยหลังไปคุยกับก้อไปอย่างอวดเก่ง"อย่างมิ้นนะ ไม่มีทางหก.. ว้ายยย"
    มิ้นตกหลุมทำท่าจะหงายหลังล้มไปดีที่ก้อคว้าเอวบางๆของเธอไว้ได้ทันมิ้นจึงตกอยู่ในอ้อมกอดของก้ออย่างช่วยไม่ได้
    "เกือบไปแล้ว ขอบคุณนะพี่ก้อ"มิ้นยิ้มหวานให้ชายหนุ่มตรงหน้า

    "มิ้น"
    "พี่ตุ้ย"
    ตุ้ยเดินตรงมากระชากมิ้นออกจากอ้อมกอดของก้อแล้วเขวี้ยงหมัดใสใบหน้าใสของชายหนุ่มจนก้อล้มไปกองที่พื้น
    "พี่ก้ออ "มิ้นผวาจะไปหาที่ชายที่นั่งอยู่ที่พื้นแต่ตุ้ยกลับกระชากแขนน้อยๆของเธอไปอย่างแรง
    "นายน้อยเป็นอะไรไหมครับ ไ อ้หนุ่มนั้นมันมาจากไหนไม่รู้ผมห้ามไม่มามันเข้ามามันก็ไม่เชื่อ มันพาคุณหนูไปแล้วนะครับจะให้ผมสั่งคนงานไปตามจับมันมาไหมครับ"หัวหน้าคนงานประจำไร่ประคองก้อนายน้อยของเขาให้ลุกขึ้นอย่างเป็นห่วง
    "ไม่ต้องหรอก ปล่อยเขาไป"
    ก้อเช็ดเลือดฝาดๆที่มุมปากตัวอีกช้าๆ
    "ว่าที่น้องเขยฉันหมัดหนักไม่เบาเลยแหะ แสบๆอย่างยัยมิ้นก็ต้องเจอคนจริงอย่างนายเนี่ยถึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน 555"
     ตุ้ยฉุดกระชากมิ้นที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินอย่างแรงโดยไม่สนใจว่าร่างบางๆของเธอจะเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย
    "พี่ตุ้ย มิ้นเจ็บนะ ปล่อยมิ้น"มิ้นพยายามดึงข้อมือเล็กๆของเธอออกจากมือแข็งแรงของตุ้ย
    ตุ้ยหันกลับไปจ้องมิ้นด้วยแววตานิ่งเขาคว้าต้นแขนทั้ง 2ข้างของมิ้นแน่น
    "เจ็บหรอ เธอเจ็บใช่ไหมมิ้น แล้วพี่ละ พี่ทั้งเป็นห่วงทั้งกลัวว่าเธอจะเป็นอันตราย กลัวไปสารพัทว่าเธอจะหายไป พี่ตามหาเธอเหมือนคนบ้า แล้วดูที่เธอทำสิ ดูที่เธอทำสิมาหน้าระรื่นยืนกอดกับผู้ชายอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน เธอทำไดยังไงมิ้น เธอทำยังยังไง"ตุ้ยเขย่าแขนมิ้นอย่างแรงด้วยความโมโหและเจ็บปวด
    "พี่ตุ้ย ฮืออ ฮืออ มิ้นขอดทดมันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่ตุ้ยคิดนะค่ะ มิ้นขอโทษ ฮือออ"มิ้นปล่อยโฮออกมา เธอทั้งกลัวทั้งเสียใจระคนกันไปหมด
    "ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดงั้นหรอ งั้นที่พี่เห็นมันคืออะไรละ อธิบายมาสิ"ตุ้ยมองมิ้นนิ่ง
    "มิ้น มิ้นบอกไม่ได้ มิ้นบอกพี่ตุ้ยไม่ได้ค่ะ"มิ้นก้มหน้าต่ำไม่กล้าสบตาชายหนุ่มตรงหน้า
    "555 บอกไม่ได้งั้นหรอ ทำไมแค่พี่ขอคำอธิบายมิ้นยังไม่พี่ไม่ได้หรอ เธอเป็นคนยังไงกันแน่ฮะมิ้นปากเธอบอกว่ารักพี่แต่พอลับหลังเธอก็มีแต่เรื่องปิดบังพี่ ในขณะที่พี่รักเธอแค่คนเดียวแต่เธอกับมายืนกอดพลอดหลังกับผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ พี่เจ็บมากรู้ไหมมิ้น"ตุ้ยหัวเราะอย่างขมขื่น
    "มิ้นกับพี่ก้อมันไม่ใช่แบบนั้นะค่ะ อย่าเข้าใจผิดสิค่ะ พี่ตุ้ย เชื่อมิ้นนะเชื่อใจมิ้นเถอะ"น้ำตาใสของเธอหยดออกมาจากตาคู่สวยนั้น
    "เชื่อหรอ ที่ทำนะฉันควรเชื่องั้นหรอ ผู้หญิงอย่างเธอมันไว้ใจไม่ได้จริงๆ"
      ตุ้ยผลักร่างมิ้นออกไป แต่มิ้นกลับเสียหลักล้มลงไปกองที่พื้นมิ้นร้องไห้อย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บทั้งกายและใจ มิ้อยากจะบอกความจริงให้ตุ้ยได้รู้แต่เธอทำไม่ได้เธอกลัวมาเขาจะ..เกลียดเธอ...ถ้ารู้ว่าเธอโกหก แค่คิดมิ้นก็ปวดใจไปหมดแล้ว มิ้นได้แต่ปิดหน้าแล้วร้องไห้อย่างหมดหนทาง
      ตุ้ยจ้องมองหญิงสาวคนรักที่นั่งร้องไห้ที่พื้นด้วยความสับสน ใจที่แข็งแกร่งของเขากลับสั่นหวูบเพียงแค่เห็นหยาดน้ำตาของเธอคนนี้ ตุ้ยเดินตรงไปคว้าแขนบางของมิ้นแล้วฉุดให้เธอลุกขึ้น มิ้นมองหน้าตุ้ยอย่างตกใจ ตาตู่สวยดูบอบช้ำไปหมดตุ้ยกัดริมฝีปากตัวเองแน่น
    **ฉันไม่ควรจะใจอ่อนให้เธอ ฉันจะไม่ยอมให้น้ำตาของเธอมาทำให้ฉันใจอ่อนอีกแล้ว**
    ตุ้ยพยายามข่มใจตัวเองไว้
    "พี่ตุ้ยเราจะไปไหนกันค่ะ"มิ้นมองตุ้ยด้วยสายตาหวั่นๆ
    "ไม่ต้องถามขึ้นรถ"ตุ้ยสตาร์ทรถโดยไม่หันมามองมิ้นเลยด้วยซ้ำ มิ้นตัดสินใจขึ้นรถทันทีอย่างไม่อิดออด
    **มิ้นจะไปกลับพี่ตุ้ยค่ะ ไม่ว่าพี่ตุ้ยจะไปไหน จะที่ไหนมิ้นก็ไม่กลัว**
    มิ้นพูดเบาๆพลางมองแผ่นหลังของชายคนรักอย่างเจ็บปวดท่ามกลางค่ำคืนอันหนาวหนาวเหน็บไร้แทบชานเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ ไร้ซึ่งแสงไฟมีเพียงเสียงของพระจันทร์และดวงดาวนับล้านดวงเท่านั้นที่สาดส่องให้เห็นร่างบางของหญิงสาวผิวขาวนวล ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ผมยาวสยายปลิ้วไปตามแรงลมหนาวที่เสียดแทงกาย
       ตุ้ยมองถนนที่ทอดยาวไปข้างหน้าด้วยแววตาร้าวราน เขารู้สึกทั้งเสียใจ ทั้งผิดหวัง ตุ้ยไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่เขาทั้งรักและทะนุถนอมจะได้ร้ายจิตใจเขาได้ถึงขนาดนี้ มันปวดร้าวเหลือเกินที่คนที่เขาที่สุดกลับมาหักหลังเขาได้เช่นนี้ ตุ้ยเพิ่มความเร็วของมอรืเตอร์ไซต์อย่างแรงจนมิ้นสะดุ้งอย่างตกใจ ยิ่งความเร็วของรถเพิ่มขึ้นลมหนาวก็ยิ่งพัดแรงจนทำให้มิ้นต้องห่อตัวด้วยความหนาว เสื้อไหมพรมบางๆที่เธอใส่ไม่อาจช่วยบรรเทาความหนาวของค่ำคืนนี้ได้เลย ม
      มิ้นตัดสินใจโน้มตัวลงพิงแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มตรงหน้า มิ้นสะอื้นออกมาเบาๆเธอเองก็รู้สึกเจ็บไม่น้อยไปกว่าเขาเลย เสียงสะอื้นและใบหน้าเย็นเฉียบของหญิงสาวทำให้ตุ้ยถึงกับใจสั่น
    มิ้นค่อยๆเอื้อมมือไปกอดเอวของตุ้ยเอาไว้ ตุ้ยก้มมองข้อมือน้อยๆของที่เขียวช้ำจากแรงบีบที่เขาด้วยความเจ็บปวด ตุ้ยจอดรถที่ข้างทางทันที
    "พี่ตุ้ยจอดรถทำไมค่ะ"มิ้นถามอย่างตกใจ
    "เอาไปใส่ซะ "ตุ้ยถอดเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ของตัวเองส่งให้มิ้นโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้าเธอ
    "มะ ไม่ค่ะมิ้นไม่หนาว"
    "ไม่หนาวอะไรตัวเย็นเฉียบขนาดนี้ยังจะมาโกหกอีก รับไป"ตุ้ยหันไปมองอย่างดุๆ
    "ไม่เอามิ้นไม่หนาวพี่ตุ้ยใส่เถอะ"มิ้นยังคงไม่ยอม
    ตุ้ยลงมาจากรถทันที มิ้นมองตามตุ้ยอย่างงๆ
    "ลงมา"
    "ไม่เอา มิ้นไม่อยากลง"
    "ลงมา นั่งบนรถมอร์เตอไซต์อย่างนั้นเด้วก็ตกหรอก เร็วๆอย่าให้ฉันโมโหนะ"ตุ้ยทำเสียงเข้มอย่างโมโห มิ้นเริ่มหน้าเสียก่อนจะก้าวลงมาจากรถอย่างกลัวๆ
      ตุ้ยก้าวไปยืนตรงหน้ามิ้นก่อนจะใส่เสื้อกันหนาวตัวโตของตนลงบนร่างบางๆของมิ้นตุ้ยรูดซิบเสื้อให้มิ้นแล้วถอดผ้าพันคอสีสวยจากคอตัวเองไปพันรอบขอขาวๆของมิ้น เขาค่อยจับผมที่ถูกแรงลมพัดจนพันกันไปหมดของมิ้นให้เข้าที่อย่างเบามือ
      มิ้นมองหน้าตุ้ยด้วยความซาบซึ้ง เธอทำร้ายเขามากมายแต่เขากลับห่วงใยและดูแลเธอเป็นอย่างดี นี่เธอทำอะไรลงไป เธอเป็นผู้หญิงหลอกลวงและร้ายกาจมากเลยใช่ไหม มิ้นจ้องมองตุ้ยด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลออกมาจากตาแดงช้ำของเธออีกจนได้
      มิ้นกัดริมฝีปากแดงระเรือของตัวเองแน่น วันนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าเธอจะบอกว่าความจริงกับเขาทุกอย่าง ความจริงที่เธอไม่เคยอยากจะให้เขาได้รับรู้เลย แต่วันนี้เธอจะพูดออกมาถึงแม้มันจะทำให้เธอต้องเสียเขาไปตลอดการก็ตาม
       มิ้นสบตาตุ้ยนิ่ง
    "พี่ตุ้ยค่ะ มิ้นมีเรื่องอยากจะบอกพี่ตุ้ยค่ะ มิ้นจะไม่ปิดบังพี่ตุ้ยอีกต่อไป"
    "พี่ตุ้ยค่ะ มิ้นมีเรื่องอยากจะบอกพี่ตุ้ยค่ะ มิ้นจะไม่ปิดบังพี่ตุ้ยอีกต่อไป"
    มิ้นสบตาตุ้ยน้ำตาของเธอไหลออกมาไมขาดสาย ร่างบางๆของเธอสั่นอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจากการร้องไห้อย่างหนัก
    "มิ้นเป็นอะไรรึป่าว"ตุ้ยอดไม่ได้ที่จับไหล่บางของมิ้นเอาไว้ ตุ้ยตกใจมากที่เห็นมิ้นร้องไห้มากมายถึงขนาดนี้
    "มิ้นน ฮืออ มิ้นไม่ได้ความ.."
    ตุ้ยคว้าร่างที่สั่นไหวของมิ้นมาไว้ในอ้อมกอดเขาแล้วกอดเทอเอาไว้แน่น
    "พอแล้วมิ้นไม่ได้พูดแล้วไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นอะไรแต่ถ้ามันทำให้มิ้นต้องเสียใจขนาดนี้พี่ก็ไม่อยากจะฟัง"ตุ้ยจูบเบาๆลงบนเรือนผมนุ่มของหญิงสาว
    "พ พี่ตุ้ย ฮืออมิ้นขอโทด มิ้นผิดเองทุกอย่างเป็นเพราะมิ้นคนเดียว ฮือออ"มิ้นยังคงสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของตุ้ย
    "พอแล้วพี่ไม่อยากฟังอะไรอีกแล้ว เลิกขอโทษพี่ซะทีเถอะ"มิ้นดันร่างมิ้นออกมาเพื่อจะมองหน้าเธอได้ชัดๆ ตุ้ยยิ้มบางๆให้มิ้นเขาเช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆ
    มิ้นคว้ามือของตุ้ยมากุมเอาไว้
    "พี่ตุ้ยค่ะ ไม่ว่าในชีวิตของมิ้นจะทำอะไรผิดพลาดแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่มิ้นมั่นใจว่ามิ้นตัดสินใจถูกก็คือ มิ้นรักพี่ตุ้ย มิ้นรักพี่ตุ้ยคนเดียว พี่ตุ้ยอย่าสงสัยในความรักของมิ้นเลยนะค่ะ"
      ตุ้ยคว้าร่างมิ้นมากอดไว้แนบกายแน่นอย่างมีความสุข เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันถึงได้เชื่อในคำพูดง่ายๆของเธอ ทำไมเขาถึงไม่อยากจะฟังเรื่องที่เธอจะบอกเพียงเพราะแค่เรื่องนั้นมันทำให้เธอเสียน้ำตา หรือจะเป็นเพราะสิ่งนี้ "ความรัก" ความรักทำให้เขาเลือกจะรักและเชื่อใจเธอคนนี้ เธอคนที่เขารัก
      "มิ้นพี่รักมิ้นนะ รักมิ้นคนเดียว"
    ตุ้ยกระซิบลงข้างหูของมิ้น ก่อนจะเลื่อนใบหน้าไปใกล้ๆเธอ ทั้งคู่สบตากันนิ่งตุ้ยค่อยประทับริมฝีปากของตนลงบนกลีบปากสีแดงระเรื่อของมิ้น มิ้นยกแขนของเธอกอดรอบคอของตุ้ยยกเคลิบเคลิม ตุ้ยกระชับอ้อมแขนกับเอวบางของเธอ ทั้งคู่ยืนจูบกันอย่างดูดดื่มท่ามกลางแสงจันทร์นวลและดวงดาวนับล้านดวง ลมหนาวพัดปลิ้วผ่านร่างของทั้งคู่แต่ความอบอุ่นในรักของเขาและเธอคงมากกว่าทั้งคู่จึงไม่รู้สึกหนาวสั่นเลยแม้แต่น้อย
    **ปัง ปัง ปัง**
    เสียงที่ดังพร้อมกับแสงสว่างสวยจากพลุมากมายบนท้องฟ้าเรียกความสนใจจากมิ้นไป เธอขยับตัวออกจากอ้อมกอดของตุ้ยช้าๆ ตุ้ยจำต้องถอนปากจากปากบางนั้นอย่างเสียได้
    "โอ้โห้พลุสวยจังเลยพี่ตุ้ย"มิ้นตาวาวอย่างชอบใจ
    "อืมสวยจริงๆด้วย สงสัยจะปีใหม่แล้วมั้ง"ตุ้ยยิ้มบางๆเมื่อเห็นคนเจ้าน้ำตาเปลี่ยนเป็นสาวน้อยร่าเริ่งได้ชั่วอึดใจ
    "อืมจริงด้วย เที่ยงคืนแล้วอะ อิอิ"
    "อย่างนี้เขาต้องเรียกว่าจูบข้ามปีนะสิ 555"ตุ้ยคว้าร่างมิ้นมากอดไว้แน่นอีก
    "พี่ตุ้ยอะทะลึ่ง"มิ้นหน้าแดงก่ำก่อนจะทุบลงบนอกชายหนุ่มเบาๆ
    "Happy new yearนะครับ มิ้นทำให้คืนนี้เป็นวันปีใหม่ที่พิเศษที่สุดของที่เลยรู้ไหม"ตุ้ยสบตามิ้นอย่างหวานซึ้ง
    "Happy new year เหมือนกันค่ะพี่ตุ้ย มิ้นก็มีความสุขมากเลยที่มีพี่ตุ้ยอย่างข้างๆอย่างเนี่ย"มิ้นซุกหน้าลงบนอกกว้างของตุ้ยอย่างน่ารัก จนตุ้ยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
    "พี่รักมิ้นนะครับ"
    "มิ้นก็รักพี่ตุ้ยค่ะ"
    ตุ้ยและมิ้นกอดกันอย่างเปี่ยมรักราวกับว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ม่านหมอกบางๆในชีวิตของคนทั้งคู่เท่านั้น เมื่อลมรักของเขาและเธอพัดผ่านมาม่านหมอกเหล่านั้นก็จางไปอย่างรวดร็ว เหลือเพียงแค่ "รัก" เท่านั้น
    "พี่ตุ้ยเรากลับกันเถอะดึกมากแล้วป่านเนี่ยเพื่อนๆเป็นห่วงเรากันแย่ละ"มิ้นดันตัวออกจากอ้อมกอดของตุ้ย
    "เออจริงด้วยพี่ก็ลืมเวลาไปเลยมัวแต่กอดคนเที่ยวนี้เพลินไปหน่อย"ตุ้ยยิ้มกริ่มแต่ทำเอาสาวน้อยข้างตัวหน้าแดงไปเลย
    "พี่ตุ้ยอะบ้า มิ้นกลับดีกว่า"คนขี้อายเดินลิ่วไปที่รถทันที ตุ้ยส่ายหน้าขำๆก่อนจะเดินตามสาวน้อยไป
    "กอดเอวแน่นนะเจ้าหญิงตกไปกระหม่อมไม่รู้ด้วยนะขอรับ"ตุ้ยพูดพลางจับแขนของมิ้นมากอดเอวตัวเองทันที
    **กึก กึก**
    เสียงปริศนาดังขึ้น
    "พี่ตุ้ยเสียงอะไรอะ แล้วทำไมรถมันไม่ติดอะ"มิ้นถามตุ้ยพร้อมใบหน้าแหย่เก
    "เออพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันอะ แต่สงสัยว่ารถมันจะเสียแล้วละ"ตุ้ยตอบกลับไปด้วยใบหน้าไม่ต่างกัน
    "รถเสีย พี่ตุ้ยบอกว่ารถเสียหรอแล้วเราจะทำไงกันอะ พี่ตุ้ยซ่อมได้ปะ"มิ้นทำท่าเหมือนจะร้องไห้แล้ว
    "มิ้นครับพี่เป็นนักร้องนะไม่ใช่ช่างซ่อมมอร์เตอไซต์ "
    "แล้วเราจะทำยังไงกันดีละค่ะที่เนี่ยทั้งมึดทั้งหนาวอะมิ้นกลัวนะ"มิ้นน้ำตาคลอเบ้า
    ตุ้ยพามิ้นลงมาจากรถแล้วลูบผมคนขี้แยเบาๆอย่างปลอบใจ
    "ไม่ต้องกลัวนะ พี่ตุ้ยอยู่ทั้งคนไม่มีใครทำอะไรมิ้นได้หรอก เด้วเราก็เข็นรถเนี่ยไปเรื่อยมันจะมีบ้านคนหรือรถผ่านมาก็ได้นะ"
    'บ้านคนหรอ บนเขาอย่างเนี่ยจะมีคนอยู่ด้วยหรอค่ะ"
    "อย่าเพิ่งท้อสิ ไม่ลองไม่รู้นะ ไปกันเถอะ"
    ตุ้ยเดินไปจูงรถออกนำไปมิ้นรีบวิ่งไปเดินเคียงข้างชายหนุ่มทันที
    หลังจากเดินมากว่า 20 นาที มิ้นก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น
    "พี่ตุ้ย พี่ตุ้ยดูโน้นสิมิ้นเห็นแสงไฟด้วยละ"มิ้นชี้ไปที่ข้างทาง
    "เออจริงด้วยเหมือนแสงตะเกียงนะ สงสัยจะเป็นบ้านคนเราเข้าไปกันดีกว่านะ"ตุ้ยพูดอย่างดีใจ
    **ก๊อก ก๊อก ก๊อก**
    ตุ้ยกับมิ้นไปเคาะประตูหน้าบ้านไม้2ชั้นใต้ถุนสูงแบบไทยลานนาหลังหนึ่ง
    "ขอโทษครับมีใครอยู่ช่วยเปิดประตูให้หน่อยครับพวกเรารถเสียครับ"ตุ้ยตะโกนขอความช่วยเหลือ
    "เปิดประตูหน่อยค่ะ ช่วยเราด้วยนะค่ะ"
    ประตูของบ้านเปิดออกแสงตะเกียงส่องให้เห็นหญิงและชราคู่หนึ่งมองตุ้ยและมิ้นอย่างไม่ไว้ใจ
    "เป็นใครละเนี่ยขโมยรึป่าว"หญิงชรามองอย่างหวั่นใจ
    "ป่าวค่ะพวกหนูเป็นนักท่องเที่ยวแล้วรถของเราเกิดเสียนะค่ะ โทรสับก็ไม่มีสัญญาณด้วยเลยติดต่อเพื่อนไม่ได้คุณตาคุณยายช่วยเราด้วยนะค่ะ"มิ้นยิ้มหวานแบบที่ใครๆก็อดใจอ่อนไม่ได้
    "เอาไงละตา ยัยหนูเนี่ยดูก้ไม่ใช่คนร้ายอะไรนะ"
    "เข้ามาก่อนก็แล้วกัน คืนนี้ก็นอนที่บ้านเราก่อนพรุ่งนี้ตอนเช้าๆถึงจะมีรถจากในเมืองมารับดอกไม้ในสวนเราไปขายพ่อหนุ่มกับนังหนูเนี่ยค่อยติดรถไปกับเขาก็แล้วกัน"ชายชราพูดอย่างใจดี
    "ขอบคุณมากครับคุณตาคุณยาย"ตุ้ยหันไปยิ้มกับมิ้นอย่างดีใจ
    ตากับยายพามิ้นเข้าไปในบ้านไม้สะอาดสะอ้านนั้น หญิงชราส่งมุ้งกับเสื่อให้มิ้น แต่มิ้นได้แต่มองมันอย่างงงๆ
    "เออนี่มันอะไรหรอค่ะ"มิ้นหันไปถามตุ้ย
    "อ้อ เนี่ยเขาเรียกว่าเสื่อกับมุ้งไงตามต่างจังหวัดอะบ้านที่เขาไม่มีมุ้งลวดก็ต้องกางจนมุ้งเนี่ยแหละเอาไว้กันยุง"
    "อ้อเข้าใจแล้วค่ะ"มิ้นยิ้มร่าเริง
    "555ผัวเมียสมัยนี้มันแปลกๆนะตาแทนที่เมียมันจะรู้งานบ้านงานเรือนกัลเป็นเจ้าผัวไปเสียนี่"ยายหัวเราะอารมณ์ดี
    "โถ้ยายก็นังหนูเนี่ยมันสวยน่ารักยังงี้ไ อ้หนุ่มนี้มันก็ย่อมเป็นธรรมดาละจริงมั้ย"
    "คุณตาคุณยายค่ะมันไม่ใช่อย่างนั้นค่ะหนูกับเขาเราเป็น"
    "เออพอๆๆนังหนูไม่ต้องเขินนายายอาบน้ำร้อนมาก่อน เอาอย่างนี้ตากับยายไปนอนก่อนดีกว่าเอ็ง 2คนจะได้คุยกันสะดวก"ตากับยายยิ้มให้กันอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินเข้ามุ่งไปนอนหลับพักผ่อนกัน
    "พี่ตุ้ยยิ้มอะไรอะ ทำไมเมื่อกี้ไม่บอกยายกับตาไปละ"มิ้นหันไปทำตาเขียวใส่ตุ้ยที่ยิ้มอารมณ์ดีอยู่
    "ก็ตากับยายเขาไม่เปิดโอกาสให้พี่พูดนิ พี่ไปกางมุ้งดีกว่าเด้วเราไม่ได้นอนกันพอดีนะจ๊ะที่รัก อิอิ"ตุ้ยทำหน้าทะเล้นก่อนเดินหนีไปปล่อยให้มิ้นยืนโมโหอยู่คนเดียว

    "มิ้นเข้ามานอนดิพี่กางมุ้งเสร็จแล้วนะ"ตุ้ยเรียกมิ้นที่ยืนหน้างออยู่
    "ไม่เอามิ้นไม่อยากนอนกับพี่ตุ้ย"มิ้นสะบัดหน้าอย่างงอนๆ
    "อ้าวเป็นงั้นไปงอนอะไรพี่เนี่ย พี่ไม่พูดซะหน่อยว่าเรา เออ เป็น เออนั้นอะ ตายายเขาพูดนะ"ตุ้ยแกล้งทำหน้าจ่อยๆ
    "ไม่ต้องพูดแล้วมิ้นไม่อยากฟัง"มิ้นอุดหูทันที
    "โอเคไม่พูดละ เราไปนอนกันเถอะอย่ามาดื้อนะถ้ายังดื้อพี่อุ้มไปจริงๆด้วยนะ"ตุ้ยทำท่าจะอุ้มมิ้นจริงๆ
    "มะไม่เอานะมิ้นไปเองได้"มิ้นรีบวิ่งปรู๊ดไปนอนทันที
    ตุ้ยยิ้มอย่างเอ็นดูเขาเอนตัวลงนอนใกล้มิ้น ตุ้ยจ้องมองหน้ามิ้นที่หลับตานิ่งอยู่อย่างแสนรัก
    "หลับผันดีนะครับที่รัก"ตุ้ยโน้มตัวไปจูบหน้าผากมนของหญิงคนรักเบาๆก่อนจะหลับตานิ่งไป
    มิ้นหลับตาช้าๆอมยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะโน้มตัวไปจูบหน้าผากตุ้ยเบาๆเช่นกัน
    "ฝันดีเหมือนกันค่ะที่รัก"
    มิ้นคว้ามือตุ้ยมากุมเอาไว้ก่อนจะหลับตาลงอย่างอบอุ่นและปลอดภัย

    ***อีกมุมของจังหวัดเชียงใหม่ หญิงสาวผมยาวตรง รูปร่างเพรียวบางจ้องมองโทรทัศน์ที่ฉายภาพมิวสิกวิดีโอนางฟ้าในใจที่ตุ้ยและมิ้นแสดงเอาไว้อย่างหวานซึ้ง ดวงตาเรียวเล็กของหญิงมองภาพคนทั้งคู่นิ่งอย่างหน้ากลัว เธอก้มกน้าลงมองรูปถ่ายหญิงสาว 2 คนที่ใบหน้าเหมือนกันทุกอย่าง แตกต่างกันเพียงคนหนึ่งใบหน้านิ่งสนิทแบบไร้อารมณ์ ส่วนอีกคนยิ้มหวานอย่างอ่อนโยน
    "ถึงเวลาที่ฉันจะทวงทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมาแล้วเชอรี่ สิ่งที่เธอสูญเสียไปฉันจะเป็นคนเอากลับมาเธอเอง หมดเวลาความสุขของเธอทั้ง 2คนแล้วละ"
    หญิงสาวจ้องมองภาพตุ้ยที่กอดมิ้นไว้ด้วยแววตาอาฆาตแค้น
    "ทำอะไรอยู่คนเดียวฮะยัยเปิ้ลดึกแล้วนะไม่หลับไม่นอน"หญิงสาวใบหน้าสวยเก๋ ผมสีน้ำตาลอ่อนหยิกเป็นลอนถูกปล่อยสยายไว้กลางหลังเธอถือนมอุ่นมาส่งให้เพื่อนสาวที่ยังคงจ้องมองภาพในทีวีนิ่ง
    "ฉันยังไม่ง่วงนะ แล้วเธอละทำไมยังนอนอีกลูกตาล"
    "สงสัยฉันยังไม่คุ้นกับที่นี่มั้ง ไปอยู่ญี่ปุ่นมาตั้ง 2ปี กลับมามันก็เลยรู้สึกแปลกทีอะ เอ๊ะนั้นมันตุ้ยนิโอ้โห้เด้วนี้ดังใหญ่แล้วเนอะ"ลูกตาลมองภาพตุ้ยในทีวีอย่างตื่นเต้น
    "อืมเด้วนี้เพื่อนเธอเขาเป็นนักร้องใหญ่แล้วนะดังมากๆเลยแหละ"แอปเปิ้ลก้มหน้าลงเปิดหนังสือไดอารี่สีขาวสะอาดตาที่อยู่บนโต๊ะตรงหน้า
    "ดีจังในที่สุดตุ้ยก็ทำสำเร็จแล้ว ได้เป็นนักร้องสมใจ"ลูกตาลยิ้มอย่างมีความสุข
    "นายบอยของเธอนะเค้าก็ดังนะ เป็นศิลปินหนุ่มเจ้าเสน่ห์ไปแล้วนะ "แอปเปิ้ลยิ้มบางๆ
    ลูกตาลถึงกับชะงักเมื่อได้ยินชื่อชายหนุ่มคนนั้น คนที่เธอ"เคย"รักหมดใจ
    "เขาไม่ใช่ของฉัน อย่าพูดอย่างนี้อีกนะเปิ้ล"ลูกตาลแววตาเศร้าลงทันที
    "ทำหน้าอย่างนี้อีกละ เธอยังลืมบอยไม่ได้ใช่ไหมตาล"
    "ฉันไม่เคยไม่มีไรให้ต้องจำนิ อีกอย่างฉันก็มีแฟนแล้วด้วย อย่าไปพูดอย่างนี้ให้เขาได้ยินนะ"
    "นายโด่งนะหรอ นายตี๋อินเตอร์ รักกันนักทำไมไม่มาด้วยกันละจ๊ะ"
    "เค้าติดถ่ายแบบนิ แต่เค้าบอกว่าจะมารวมงานแสดงภาพถ่ายของฉันที่กรุงเทพให้ได้เลยนะ"ลูกตาลยิ้มหวานหน้าแดงระเรื่อทันทีเมื่อถึงโ่ด่งแฟนหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นที่เธอไปเจอเขาเมื่อตอนที่เธอไปเรียนถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 2ปีก่อน
    "พูดถึงแฟนเข้าหน่อยละหน้าบานเชียวนะ"เปิ้ลส่ายหน้าอย่างขำๆ
    "ผู้หญิงที่แสดงมิวสิกของเขาอะเป็นใครหรอ ดูตุ้ยสนิทด้วยจัง น่ารักซะด้วย"ลูกตาลมองตุ้ยกับมิ้นที่ยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวอยู่ด้วยกันอย่างสงสัย
    "ก็แฟนเค้าไงละ เห็นลงข่าวกันจังว่ารักกันหนักหนา"้
    "จริงหรอดีจังเลย ในสุดตุ้ยก็ตัดใจจากรี่ได้ เขาจะได้มีความสุขสักที"ลูกตาลยิ้มอย่างมีความสุข
    "เธอพูดอย่างนี้ได้ยังไงตาล รี่นะเขาเพื่อนเธอนะ นายนั่นลืมเชอรี่แล้วเป็นคบกับยัยเด็กนั้นหน้าตาเฉย เธอไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอที่เพื่อนรักเธอโดนหักหลังนะ"เปิ้ลจ้องมองหน้าลูกตาลแล้วตะโกนด้วยความโมโห
    "เธอพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกนะเปิ้ล เชอรี่ตายไปตั้งนานแล้วนะ เธอจะให้ตุ้ยจมกับอดีตอย่างนั้นได้ยังไงละ"ลูกตาลพูดเสียงอ่อยๆ
    "ฉันไม่สน ฉันรู้แต่ว่ายัยรี่รักนายนั่นมาก ยอมทำทุกอย่างให้เขา ฉันยังจำวันที่ยัยรี่จากไปได้รี่แทบจะไม่มีแรงพูดอะไรด้วยซ้ำ แต่รี่ก็ยังกอดสมุดไดอารี่กับรูปภาพของนายนั่นอยู่ คำสุดท้ายที่ยัยรี่พูดก่อนตายคืออะไรจำได้ไหม ถ้าเธอจำไม่ได้ฉันจะบอกให้ตาลรี่บอกว่ารี่รักตุ้ย แล้วนี่หรอคือผลตอบแทนความรักของรี่นะ คือการนอกใจใช่ไหม"ดวงตาของเปิ้ลเอ้อไปด้วยน้ำตาเมื่อเธอคิดถึงแฝดผู้น้องที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
    "เปิ้ลเธอใจเย็นๆนะ ยังไงเชอรี่ก็จากเราไปแล้ว เราทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นละ"ลูกตาลโอบร่างของเปิ้ลที่สั่นไปหมดไว้
    "ฉันไม่ยอม ฉันจะต้องเอาทุกอย่างที่ควรจะเป็นของรี่คืนมา"
    "เธอหมายความว่ายังไงเปิ้ล"ลูกตาลมองหน้าแอปเปิ้ลอย่างสงสัย
    "ฉันจะเป็นเชอรี่ ฉันจะเอาตุ้ยกลับมาคืนรี่ให้ได้"เปิ้ลพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
    "เธอจะบ้าไปแล้วหรอ เธอจะปลอมตัวเป็นรี่ได้ยังไง เธออย่าทำอะไรบ้าๆนะ"ลูกตาลมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่เชื่อสายตา
    "เธอจะบ้าไปแล้วหรอ เธอกับตุ้ยไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำยังไงตุ้ยเขาก็ต้องจับได้นะ"
    "ไม่มีทาง ทุกอย่างเกี่ยวกับนายนั่นรี่เขียนไว้ในไดอารี่ทั้งหมดแล้วฉันก็อ่านมันจบแล้วด้วย ตุ้ยไม่มีทางรู้แน่ๆว่าฉันไม่ใช่ยัยรี่"เปิ้ลแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว
    "เปิ้ล อย่า.."
    "หยุด เธอไม่ต้องมาห้ามฉัน ฉันตัดสินใจไปแล้วเธอไม่มีทางเปลี่ยนใจฉันได้หรอกลูกตาล อีกอย่างเธอต้องช่วยฉันด้วย"
    "ช่วย ช่วยอะไร ฉันช่วยเธอไม่ได้หรอก"
    "ได้สิ วันพรุ่งนี้เธอจะไปแสดงภาพถ่าของเธอที่กรุงเทพใช่ไหม ฉันจะไปกับเธอด้วย แล้วเธอก็ต้องยืนยันกับตุ้ยและก็บอยว่าฉันคือเชอรี่ แค่นี้เธอทำได้ไหมตาล"เปิ้ลเดินไปหยุดตรงลูกตาลมองเธอด้วยสายตาเยือกเย็นที่เธอมักทำเสมอ
    "ฉันทำไม่ได้ ฉันไม่อยากโกหก"ลูกตาลก้มหน้าต่ำไม่กล้าสบสายตาแบบนั้นของเปิ้ล
    "เธอต้องทำ เธอสัญญากับเชอรี่แล้วไม่ใช่หรอว่าเธอจะเป็นรักของฉัน จะอยู่เป็นเพื่อนฉันแทนเขา แล้วเธอก็บอกว่าจะช่วยฉันทุกอย่างถ้าเพียงแค่ฉันขอร้อง เธอลืมไปแล้วใช่ไหม"เปิ้ลจับไหล่ของลูกตาลแล้วบีบมันแย่างแรงจนลูกตาลหน้านิ่ว
    "ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆนะเปิ้ลว่าทำไปทำไม เธอแน่ใจนะว่าสิ่งที่เธอกำลังจะทำลงไปนะเพื่อเชอรี่ ไม่ใช่เพื่อตัวเธอเอง"ลูกตาลมองหน้าเปิ้ลอย่างสงสัย
    "เธอไม่ต้องพูดมากหรอกตาล ฉันรู้ตัวดีว่าทำอะไร เธอไปนอนได้แล้วฉันอยากอยู่คนเดียว"แอปเปิ้ลรีบเมินหน้าหนีก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ตัวเดิม ลูกตาลมองดูแอปเปิ้ลอย่างหวั่นใจ
    "แอปเปิ้ลเชอรี่เธอ 2คนนี่เหมือนกันเพียงหน้าตาแต่จิตใจนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับดินจริงๆ" ลูกตาลถอนหายใจเบาๆก่อนจะเดินเข้าห้องไป
    แอปเปิ้ลจ้องมองรูปถ่ายของตัวเธอเองกับน้องสาวฝาแฝดนิ่ง
    "ตลอดชีวิตเธอเป็นผู้รับมาตลอด เธอได้ความรักจากแม่ จากลูกตาล แล้วก็ผู้ชายคนนั้นด้วย ต่อไปนี้ฉันต้องได้มันมาบ้างนะเชอรี่ เธอบอกเองไม่ใช่หรอว่าเธอกับฉันเป็นเหมือนคนๆเดียวกัน เพราะฉะนั้นผู้ชายคนนั้นฉันขอนะเชอรี่"
    แอปเปิ้ลหยิบรูปถ่ายนั้นมาแล้วค่อยฉีกใบหน้าอ่อนหวานของแฝดผูน้องตัวเองออกอย่างเลือดเย็น แอปเปิ้ล+เชอรี่ ฝาแฝดผู้แตกต่าง
    "เปิ้ลไปเล่นขายของกันไหม"เสียงเด็กหญิงผิวขาวซีด ตัวเล็กบอบบางเรียกเด็กหญิงอีกคนที่ใบหน้าเหมือนกันราวกับพิมพ์เดียวแตกต่างกันที่อีกคนตัวโต ผิวคล้ำกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
    "ไม่ เราเบื่อรี่ไปเล่นกับลูกตาลเหอะเล่นอะไรก็ไม่รู้ปัญญาอ่อน"แฝดผู้พี่เบะปากปากอย่างรำคาญ
    "แต่รี่เล่นกับตาลแค่ 2 คนเองมันไม่สนุกนะเปิ้ลไปเล่นกับเราเถอะสนุกด้วยเนอะลูกตาล"เด็กหญิงตัวเล็กหันไปยิ้มกับลูกตาลเพื่อนรักแล้วไปเกาะแขนแอปเปิ้ลอย่างประจบ
    "บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปสิ รำคาญจริงๆเลย"เปิ้ลผลักเชอรี่จนล้มลงไปที่พื้น ลูกตาลรีบไปประคองเชอรี่ที่น้ำตาคลอหน่วยอยู่
    "เปิ้ลเธอแกล้งรี่ทำไมรี่เขาเป็นน้องเธอนะ"เด็กหญิงแก้มป่องมองเปิ้ลอย่างโกรธๆ
    "เธอไม่ต้องมายุ่งเลยนี่มันเรื่องของฉันกับยัยรี่ เธอไม่ต้องมายุ่ง"เปิ้ลกอดอกเชิดหน้าขึ้น
    "เธอนี่มันร้ายกาจจริงๆเลยนะ"
    "พอเถอะตาลอย่าทะเลาะกันเลยนะรี่ขอร้อง"เชอรี่จับมือลูกตาลเอาไว้

    "เปิ้ล รี่เข้ามาในบ้านเดียวนี้เลยลูก"
    เสียงเรียกปนเสียงสะอื้นของแม่ทำให้ฝาแฝดทั้ง 2 คนจ้องหน้ากันอย่างงงๆ
    "เปิ้ลแม่ร้องไห้หรอ"เชอรี่ลุกขึ้นยืนข้างพี่สาวด้วยใบหน้ากลัวๆ
    "คงงั้นละ สงสัยจะทะเลาะกับพ่อนะ"แอปเปิ้ลพูดเบาๆ
    "เปิ้ลรี่กลัวจัง"เชอรี่หน้าเสีย
    "ไม่ต้องกลัวมีเปิ้ลอยู่ทั้งคนรี่จะกลัวอะไรละ เราเข้าไปหาพ่อกับแม่กันเถอะ"
    เชอรี่จับมือแอปเปิ้ลเอาไว้ถึงแม้เปิ้ลจะชอบเอาแต่ใจและแก้ลงเธอเสมอแต่รี่ก็รู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆพี่สาวฝาแฝดของเธอคนนี้
    "เปิ้ล รี่ พ่อกับแม่จะเลิกกันนะลูกพวกหนูต้องเลือกว่าใครจะอยู่กับแม่และใครจะไปอยู่เชียงใหม่กับพ่อ"แม่ร้องไห้จนตัวโยนก่อนจะคว้าร่างลูกสาวฝาแฝดทั้งสองมากอดไว้แน่น
    "คุณแม่พูดถึงเรื่องอะไรค่ะ รี่ไม่เข้าใจ คุณพ่อๆเก็บของทำไมค่ะ"เชอรี่ร้องไห้ด้วยความตกใจ
    "พ่อต้องไปหนู 2คนต้องไปกับพ่อคนหนึ่งนะลูก"พ่อทรุดตัวนั่งข้างๆเปิ้ลและรี่
    "ฮือๆๆรี่ไม่ให้คุณพ่อไปเรา 4คนจะต้องอยู่ด้วยกัน ฮือๆๆๆๆ"
    "ไม่ร้องไห้นะรี่เด้วหนูไม่สบายขึ้นมาอีก พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันไม่ได้นะลูก อีกหน่อยพอหนูโตหนูจะเข้ใจเอง"แม่ร้องไห้พลางกอดเชอรี่เอาไว้แน่น
    "เปิ้ลจะไปอยู่กับพ่อเองค่ะ"เสียงเด็ดเดี่ยวของเปิ้ลดังขึ้น พ่อ แม่และเชอรี่หันไปดูด้วยความตกใจ
    "เปิ้ลหนูแน่ใจแล้วหรอลูก"พ่อถามขึ้น
    "แน่ใจค่ะ รี่ไม่ค่อยแข็งแรงยิ่งไปอยู่ไกลๆก็ยิ่งลำบาก เปิ้ลจะไปกับคุณพ่อเองค่ะ"เปิ้ลลุกขึ้นยืนคอเชิดตรงอย่างมั่นใจ
    "เปิ้ล ฮือออ อย่าไปนะ ถ้าเปิ้ลไปแล้วรี่จะอยู่ได้ยังไง อย่าไปนะเปิ้ล"เชอรี่กอดพี่สาวเอาไว้แน่น
    "อย่าร้องไห้เชอรี่ ฉันไปแค่เชียงใหม่ไม่ได้ไปตายนะ ฉันจะโทรสับหาเธอทุกวัน เธอต้องเข้มแข็ง อย่าอ่อนแอไม่มีฉันแล้วเธอต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ"เปิ้ลกอดน้องสาวเอาไว้อย่างเป็นห่วง
    "เปิ้ลอย่าทิ้งรี่นะ"เชอรีร้องไห้ไม่หยุด เปิ้ลค่อยดันร่างของน้องออกไปก่อนจะกลั้นใจเดินออกไปจากบ้านกับพ่อด้วยความโดดเดี่ยว
    "ลูกตาล ดูแลเชอรี่ด้วยนะ"เปิ้ลหันไปบอกลูกตาลที่ยืนร้องไห้เบาๆอยู่ที่ข้างประตู
    "ได้เราจะดูแลรี่เอง"ลูกตาลจับมือเปิ้ลเป็นเชิงสัญญา
    แอปเปิ้ลนั่งรถไปกับพ่อ รถแล่นจากบ้านที่เคยเป็นของเธอไปช้าๆ เปิ้ลหันกลับไปเห็นเชอรี่ร้องไห้วิ่งตามรถจนเสียหลักล้มลง
    "เชอรี่ ฉันรักเธอนะ ดูแลตัวเองด้วยนะ"
    น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาจากดวงตาที่เคยเข้มแข็งของแอปเปิ้ลช้าๆ
     
    แอปเปิ้ล แฝดผู้พี่ที่ได้รับแต่ความเจ็บปวด

    ฉันมาอยู่กับพ่อตอนอายุ 10 ขวบ พ่อเทำงานเป็นพนักงานบริษัทเล็กๆในเชียงใหม่ ฉันอยู่กับพ่อได้ไม่กี่เดือนพ่อก็พาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในบ้าน
    "เปิ้ลนี่หน้าเพ็ญเขาจะมาอยู่บ้านเรานะ เขาจะมาเป็นแม่หนู"พ่อโอบนังผู้หญิงหน้าหนาคนนั้นไว้
    "อุ้ย น่ารักจังเลยค่ะคุณ ชื่อแอปเปิ้ลหรอจ๊ะมาให้แม่กอดหน่อยสิ"ยัยปากแดงของตรงปรี่มากอดฉันไว้ ฉันขยักแขยงเป็นบ้า
    "ปล่อยนะ ฉันมีแม่คนเดียว อย่ามายุ่งกับฉันนังคนบ้า"ฉันผลักยัยนั้นออกไปแล้ววิ่งขึ้นไปบนห้องทันที
    "เปิ้ล ออกมาขอโทษน้าเพ็ญเด้วนี้นะ นังเด็กดื้อ"พ่อตะโกนอย่างโมโห
    "ช่างเถอะค่ะคุณ คุณไปทำงานเถอะเด็กๆก็เป็นอย่างนี้เอง เด้วฉันจะดูแลแกเอง"
    "จ๊ะงั้นผมไปกอดนะที่รัก"
    หลังจากพ่อออกไปยัยนั้นก็แปลงร่างเป็นแม่มดใจร้าย มันไขกุญแจห้องเข้ามาทั้งตบ ทั้งตีฉันจนฉันเจ็บไปหมด ขังฉันไว้ในห้องแถมบอกกับพ่อว่าฉันหลับไปแล้ว พ่อก็เชื่อมัน ฉันเจ็บเหลือเกิน เชอรี่เธออยู่ที่ไหน เธอคงนอนกอดแม่อยู่ใช่ไหม แม่คงเอานมอุ่นๆมาให้กินก่อนนอน จูบเธอเบาๆ ฮืออออออออ ทำไมเธอถึงมีความสุขอยู่ตลอดนะ ทำไมต้องเป็นฉันที่ต้องเสียใจอย่างนี้
    8 ปีต่อมา
    ฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลได้ พอกันทีความเจ็บปวด ฉันจะไม่อยู่บ้านหลังนี้ที่มีพ่อกับนังแม่เลี้ยงใจร้ายอีกแล้ว ฉันตัดสินใจย้ายออกมาอยู่ที่หอพัก พ่อบอกว่าถ้าฉันอออกมาจะไม่ส่งเสียฉันสักบาท แต่ฉันไม่สน ฉันทำงานสารพัททั้งล้างจาน ส่งหนังสือพิมพ์ ทำทุกอย่างที่ได้เงินมาเรียนต่อ ฉันไม่กล้าบอกแม่ฉันไม่อยากให้แม่เห็นว่าฉันอ่อนแอ เปิ้ลคนนี้ไม่มีทางอ่อนแอแน่ๆ
     แล้ววันหนึ่งฉันก็ได้รับจดหมายจากเธอ จดหมายที่ทำให้ฉันได้รู้จักเขา
    --สวัสดีจ๊ะเปิ้ลจ้าา รี่คิดถึงเปิ้ลจังทำไมเปิ้ลไม่มาหารี่กับคุณแม่บ้างเลย คุณแม่เพิ่งกลับจากอังกฤษซื้อเสื้อผ้าสวยๆมาเต็มเลย รี่ก้เลยส่งผ้าพันคอกับเสื้อไหมพรมมาให้เปิ้ลด้วยนะ สวยถูกใจไหมละ เปิ้ลจ้าตอนนี้รีี่มีแฟนแล้วนะเขาเป็นคนดีมากๆเลย รี่มีความสุขที่สุขในโลกเลย เขาชื่อตุ้ย รี่รักตุ้ยจังเลยละ อิอิ เขินเหมือนกันนะเนี่ย รี่ส่งรูปรี่กับคุณแม่ แล้วก็รี่กับตุ้ยมาให้เปิ้ลดูด้วย แล้วจะเขียนมาหาบ่อยๆนะ รักเปิ้ลเสมอจ้า
       ฉันหยิบรูปแม่กับเชอรี่มาดูช้าๆ แม่กับรี่กอดกันกลมเชียวดูมีความสุขกันเหลือเกินนะ น้ำตาของฉันมันไหลออกมาจนได้ ทำไมฉันไม่ได้กอดแม่แบบนี้บ้างนะ ฉันปาจดหมายและของๆแม่หล่นกระจายลงพื้น และรูปๆหนึ่งก็ล่วงลงสู่พื้น อะไรก็ไม่รู้ทำให้ฉันหยิบรู้นั่นมาดู
    **ผู้ชายคนนี้คงเป็นตุ้ยสินะ ฉันมองรอยยิ้มอบอุ่นขอเขาแล้วรู้สึกสบายใจอยากบอกไม่ถูก เพราะอะไรหัวใจฉันถึงสั่นๆอย่างนี้นะ**
    ตั้งแต่นั้นมาฉันก็รอคอยจดหมายของเชอรีที่เขียนมาเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้สเมอ ฉันไม่รู้จริงๆไว่าทำไมฉันถึงมีความสุขทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องของเขา หรือว่า...ฉันจะรักเขาเข้าแล้ว..
       ทำไม ทำไม เขาถึงไม่เจอฉันก่อนเชอรี่ ถ้าเขาเจอฉันเขาจะรักฉันไหม ทำไมนะเชอรี่ทุกคนถึงได้รักเธอกันนัก ทำไมเธอถึงได้ทุกอย่างไป แล้วฉันต้องสูญเสียทุกอย่างไป ฉันเกลียดเธอ เธอทำให้ฉันเกลียดเงาของฉันเองในกระจก..เชอรี่เชอรี่ แฝดน้อง ผู้เจ็บปวดกับความรัก

    ฉันยังจำครั้งแรกที่เจอเขาได้ วันที่ 15 ก.พ.2003
    "เจ้าเหมียว เจ้าเหมียวหายไปไหนมากินข้าวเร็ว เหมี่ยวๆๆๆ"ฉันตะโกนหาเจ้าเหมี่ยวแม่สีขาวของฉันที่หายออกไปจากบ้านอยู่
    "เออขอโทดนะคุณ ผมว่าผมเจอเจ้าเหมียวของคุณแล้วละ"เสียงทุ่มของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นแต่ฉันมองหาเขาไม่เจอนะสิ
    "เออคุณอยู่ไหนหรอค่ะ ฉันมองไม่เห็นคุณเลย"
    "อยู่นี่คร๊าบบบ"ฉันหันไปดูพบผู้ชายหน้าคมๆตาโตๆกับรอยยิ้มน่ารักของเขาทำให้ฉันใจสั่น เขาอุ้มเจ้าเหมียวนั่นเอาไว้ก่อนจะยื่นเจ้าเหมียวข้ามรั่วมาให้ฉัน"
    "ขอบคุณมากนะค่ะ ถ้าไม่ได้คุณนะป่านเนี่ยเจ้าเนี่ยจะหลงไปไหนก็ไม่รู้"ฉันก้มหน้าลงจูบเจ้าเหมียวเบาๆ
    "ไม่ไปไรครับ ผมยินดีช่วย"
    "เออขอโทดนะค่ะ คุณชื่ออะไรหรอค่ะ"ฉันถามเขาไปเบาๆ
    "ผมชื่อตุ้ย แล้วคุณละ"
    "ฉันชื่อเชอรี่ บ้านตุ้ยอยู่แถวนี้หรอค่ะ"
    "อย่าเรียกว่าบ้านเลยครับ ผมอยู่ที่อพาตเม้นข้างๆเนี้ยนะครับ"เขาชี้ไปที่อพาตเม้นเก่าๆตรงข้ามบ้านของฉัน
    "เออ รี่ต้องเข้าบ้านแล้วนะค่ะ วันนี้ขอบคุณมาก ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ"
    "เช่นกันครับ เออ น่ารักนะครับ"เขาพูดอะไรฉันงงไปหมด
    "อะไรหรอค่ะ"
    "ก็น่ารักไงครับ"เขาอมยิ้มเจ้าเล่ห์
    "อะไรละพี่น่ารัก เจ้าเหมียวหรอค่ะ"
    "ก็ทั้งเจ้าเหมียวแล้วก็เจ้าของมันละครับ น่ารัก ผมไปก่อนนะครับคุณเจ้าของเจ้าเหมียว อิอิ"เขายิ้มทะเล้นแล้วจากไปตั้งแต่นั้นมาเขาก็เป็นแขกประจำของบ้านฉันไปเลย ความรักของเราเติบโตอย่างสวยงาม ทั้งฉันและเขาต่างก็มีความสุขมาก จนกระทั่ง...
    วันเกิดตุ้ย ฉันกับลูกตาลช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว ส่วนบอยกับตุ้ยก็กำลังเล่นกีตาร์ร้องเพลงอยู่ที่หน้าบ้าน
    "เชอรี่ช่วยหยิบหมูสับในตู้เย็นให้หน่อย"ลูกตาลตะโกนบอกฉัน
    "จ้าเด้วรี่หยิบให้นะ"
    ฉันกลับหลังอยากเร็ว **วูบ**ลมเย็นๆผ่านหัวฉัน ตาฉันมันพร่าเลื่อนไปหมด ฉันล้มลงที่พื้นอย่างแรง
    "รี่เป็นอะไรนะ"ลูกตาลวิ่งมาประคองฉันเอาไว้
    "ไม่ ไม่เป็นนไร แค่หน้ามืดนะ"
    "ฉันจะไปบอกตุ้ยนะ เราจะได้พาเธอไปหาหมอกันไง"
    "อย่านะ วันนี้วันเกิดอย่าทำให้เขาตกใจสิ"ฉันรั้งแขนตาลเอาไว้
    "แต่เด้วนี้เธอเป็นลมบ่อยมากเลยนะ แถมยังปวดหัวบ่อยๆอีกยังไงเธอก็ต้องไปหาหมอ"ลูกตาลทำท่าเหมือนจะร้องไห้แล้ว
    "อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เด้วพรุ่งนี้ฉันจะไปหาหมอกับเธอนะ ฉันสัญญา"ฉันยิ้มบางๆให้ลูกตาล

    ที่โรงพยาบาล
    "คุณหมอค่ะ เพื่อนหนูเป็นอะไรค่ะ"ลูกตาลถามคุณหมออย่างตื่นเต้น
    "ตาลใจเย็นๆสิ อย่าเร่งรัดคุณหมอ"
    "เออ คือผลการตรวจพบว่าคุณเป็นเนื้องอกในสมองครับ"
    "เนื้องอกในสมอง มันมีทางรักษาไหมค่ะคุณหมอเพื่อนหนูจะหายใช่ไหมค่ะ"ลูกตาลร้องไห้ออกมาแล้ว ฉันได้แต่นั่งอึ้งอยู่ตรงนั้นพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ
    "คือผมสแกนสมองผมว่าเนื้องอกก้อนนี้มีขนาดใหญ่มาก และอยู่ในตำแหน่งที่มีผลต่อการหายใจทำให้คุณรู้สึกแน่นน่าอกเหนื่อยง่าย หมอเสียใจที่ทำการผ่าตัดให้คุณไม่ได้"
    "หนูจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนค่ะ"เสียงเบาๆรอดออกมาจากริมฝีปากฉันอย่างยากลำบาก
    "อย่างเร็ว 3เดือนอย่างช้าก็ 6เดือนครับ"
     3เดือนงั้นหรอ ชีวิตฉันเหลือเพียงเท่านี้จริงๆหรอ โลกของฉันมันดับวูบลงทันที น้ำตาของฉันไหลพรากจากตาทันที
    "เชอรี่เราไปบอกคุณแม่เธอกันเถอะ"ลูกตาลประคองฉันที่แทบจะยืนไม่อยู่ออกมาจากโรงพยาบาล
    "ไม่ บอกคุณแม่ไม่ได้นะคุณแม่กำลังจะมีชีวิตครอบครัวใหม่ถ้าคุณแม่รู้คุณต้องไม่ยอมย้ายตามคุณลุงเดวิคไปอเมริกาแน่ๆ"
    "แล้วเธอจะทำยังไงต่อไปละ"
    "ฉันจะไปหาเปิ้ล ฉันจะไปอยู่กับเปิ้ลที่เชียงใหม่ ฉันคิดถึงเขา"ฉันคิดถึงเปิ้ลขึ้นมาจับใจ
    "แล้วตุ้ยละเธอจะบอกเขาไหม"
    "ไม่ ไม่นะลูกตาลเธอต้องสัญญาว่าจะไม่บอกตุ้ย ฉันไม่อยากให้ตุ้ยเสียใจ ฉันไม่อยากให้เขาเห็นฉันในสภาพคนใกล้ตาย ฮือออออออ สัญญากับฉันสิ เธอต้องไม่บอกเขานะ "ฉันร้องไห้อย่างหนักจนทรุดลงไปกองกับพื้น
    "ได้ฉันสัญญา ฉันจะไม่บอกเขา เธออย่าร้องไห้เลยนะรี่"ลูกตาลกอดฉันเอาไว้
    "ขอบใจนะลูกตาล เธอเป็นเพื่อนแท้ของฉันจริงๆ"ฉันซุกหน้ากับผมของเธอ
    "ฉันจะไปกับเธอด้วย ฉันไม่มีทางให้เธอไปคนเดียวหรอก"
    "แล้วบอยละ เธอตัดใจจากเขาได้หรอ"ฉันมองหน้าลูกตาลที่เศร้าลงไปอย่างเป็นห่วง
    "อย่าพูดถึงเขาเลย ยังไงเราก็เป็นได้แค่เพื่อนกัน เขาคงไม่คิดอย่างที่ฉันคิดหรอก เธอไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้นเชอรี่ ตอนนี้เธอเป็นคนที่สำคัญกับฉันที่สุดนะ"
    "ขอบใจมาก ฉันรักเธอนะลูกตาล"เรากอดกันแน่น ฉันไม่เหลือใครอีกแล้วนอกจากเธอ ลูกตาล

    ตุ้ยที่รัก
     รี่ขอโทษที่จากไปโดยไม่บอก รี่มีเหตุผลของรี่ อยากบอกตุ้ยว่าเชอรี่รักตุ้ยและจะรักตลอดไป ตุ้ยเป็นผู้ชายคนเดียวที่รี่รัก จำเอาไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตุ้ยจะมีรี่อยู่ข้างๆ ทุกลมหายใจที่ยังเหลืออยู่ของรี่จะมีไว้เพื่อรักตุ้ยเท่านั้น เชอรี่รักตุ้ยนะ
       
          ฉันเขียนจดหมายนี้พร้อมหยดน้ำตา นี้คือจดหมายฉบับสุดท้ายที่ฉันส่งให้เขา ฉันไม่รู้ว่าเขาจะได้อ่านรึป่าว แต่ฉันก็คงทำได้เพียงเท่านี้จริงๆฉันรักเขามากเกินกว่าจะเห็นเขาเจ็บปวด เธอเกลียดฉันได้แต่อย่าลืมฉันเลยนะตุ้ย ฉันอยากให้เธอจดฉันในฐานะผู้หญิงที่เธอรักก็ยังดี
           ***ทุกลมหายใจที่ยังเหลือ ฉันมีไว้เพื่อรักเธอ**
    เชอรี่ประทับรอยจูบลงบนรูปของตุ้ยช้าๆก่อนหลับตาลง
    **ลูกตาล+บอย นิยามคำว่าเพื่อนสนิท**

    วันนี้ฉันได้ยินชื่อเค้าอีกแล้ว "บอย" ตลอดเวลากว่า 2ปีที่ผ่านมาฉันพยายามลบชื่อเขาออกไปจากหัวใจ ฉันคิดเสมอว่าฉันลืมเขาได้แล้ว แต่ทำไมวันนี้แค่ฉันได้ยินชื่อเขาใจฉันมันถึงได้หวั่นไหวอย่างนี้นะ
    2 ปีก่อน
    "ตายแล้วรี่ ตาลต้องสายแน่ๆเลยอะเปิดเรียนวันแรกแท้ๆนะเนี่ยเด้วตาลไปก่อนนะ"วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันจะใช้ชีวิตนักศึกษาแต่ฉันลกับมาสายซะแล้วสิ แถมวันนี้รุ่นพี่ในคณะยังจะมารับน้องใหม่ด้วย ฉันต้องตายแน่ๆเลย
    **โครม**
    "ว้ายยยยย"
    ฉันวิ่งไปชนใครก็ไมม่รู้แต่ตัวฉันกลับล้มลงไปกองที่พื้น หนังสือที่ถือว่าก็หล่นกระจายไปหมดเลย ฉันเงยหน้าไปเห็นผู้ชายตัวขาวๆหน้าแหลม ยืนถือกีตาร์แถมทำหน้ากวนใส่ฉันด้วย
    "นิเธอวิ่งมาได้ไงเนี่ยทะเล้อทะล้ามาชนคนอื่นเค้าได้ไงเนี่ย"นายนั่นพ่นคำพูดอย่างนั้นใส่ฉันได้ยังไงนะ
    "นายบ้า นายชนฉันล้มนะ ฉันเจ็บด้วยนายไม่คิดจะช่วยฉันแล้วยังมาด่าฉันอีกหรอ"ฉันปรี๊ดใส่ทันที
    "เห้อ ขี้บ่นจริงๆเลยยัยแก้มป่อง เอาลุกขึ้นมาสิ"นายนั้นส่งมือมาให้ฉันดึงตัวลุกขึ้นแต่อย่างฉันหรือจะยอมนายบ้านั้นฉันพยายามลุกขึ้นเองแต่..
    "โอ้ยยย"ฉันเจ็บแปลบที่ข้อเท้าขึ้นมาสงสัยข้อเท้าฉันแพลงซะแล้ว
    "เป็นอะไรรึป่าว ข้อเท้าเธอบวมมากเลยนะเด้วฉันพาไปห้องพยาบาลเอาไหม"นายนั่นมาประคองฉันอย่างเป็นห่วงแฉนไม่ให้อภัยหรอกก็นายเป็นคนทำให้ฉันเป็นแบบนี้นิ
    "ไม่ต้อง ฉันจะไปคณะสายมากแล้วด้วย"ฉันเชิดหน้าอย่างหยิ่งๆ
    "เธอเรียนคณะอะไรละ เด้วฉันไปส่งก็ได้"
    สมองน้อยฉันเริ่มประมวลผลว่าถ้าฉันยังทำหยิ่งต่อไปฉันคงต้องโดนรุ่นพี่เชือดแน่ๆฉันก็เลย..
    "เรียนนิเทศน์นายไปตั้งคณะนิเทศน์ถูกไหมละ"
    "นิเทศน์หรอ ฉันก็เรียนนิเทศน์นะวันนี้พี่ๆนัดพบไม่ใช่หรอ"นายนั่นเบิกตาเล็กๆให้กว้างอย่างตื่นเต้น
    "นายเรียนนิเทศน์เหมือนกันหรอ ไม่น่าเชื่อเลยอะแต่ก็ดีนะฉันไม่มีเพื่อนเรียนด้วยสักคน"ฉันเองก็แอบดีใจเหมือนกันที่ได้เจอเพื่อน
    "อืมงั้นเด้วเราไปที่คณะกันเถอะสายมากแล้ว"นายนั่นประคองฉันพร้อมกับยิ้มซื่อๆให้ฉัน ตั้งแต่นั้นมาฉันก็อดยิ้มให้กับคนหน้าซื่อๆอย่างเขาไม่ได้ซะที

    ห้องรับน้อง
    นายนั่นประคองฉันเข้ามาในห้องท่ามกลางสายตาของรุ่นพี่และเพื่อนร่วมชั้นปีของพวกเรากว่าร้อยชีวิต
    "บอยนายตายแน่"ฉันเห็นนายนั่นจ้องมองผู้ชายหน้าตาดี ตาโต คนหนึ่งที่พูดพยายามทำท่าให้บอยเข้าใจ ซึ่งฉันรู้ภายหลังว่าเค้าคือตุ้ยเพื่อนรักของบอยและคนรักของเพื่อนสนิทฉันนะเอง
    "ขอโทษนะครับน้องทั้ง 2 พวกพี่นักน้องไว้กี่โมงครับ"รุ่นพี่หน้าโหดคนหนึ่งเดินมาจ้องหน้าฉันกับนายนั่น
    "เออ 9โมงครับ"บอยตอบ ขณะที่ฉันหน้าเจื่อนอย่างกลัวๆ
    "ตอนนี้มันกี่โมงครับน้อง"
    "9โมงครึ่งครับ"ฉันกลัวจัง
    "แล้วทำไมน้องถึงมาสายกันละครับ ว่าไงน้องผู้หญิงมีปากรึป่าว"พี่คนนั้นหันมาตวาทใส่ฉันจนฉันน้ำตาร่วงไปเลย
    "พี่ครับไม่ใช่ความผิดเขาหรอกเขาพอดีผมวิ่งชนเขาเขาก็เลยขาเจ็บแล้วก็เลยมาสายนะครับ"บอยรีบแทรกตัวมากั้นกลางระหว่างฉันกับพี่คนนั้นทันที ฉันรู้สึกซึ้งใจจัง
    "แมนมากๆ ชื่ออะไรหรอน้อง"รุ่นพี่หน้าโหดมองหน้าบอยอย่างเหี้ยมๆ
    "บอย สิทธิชัยครับ"บอยตอบเสียงดังฟังชัด
    "แล้วน้องละชื่ออะไร"
    "ลูกตาล ธนวรรณค่ะ"
    "ดีมาก คนที่มาสายก็ต้องโดนทำโทษใช่ไหม แต่พี่เห็นกับความรักของร้องทั้งสองคนที่ช่วยเหลือกันตั้งแต่วันแรกที่เขามาเป็นเพื่อนร่วมคณะกันพี่จะลงโทษสถานเบาละกัน"
    "ยังไงหรอค่ะ"
    "ไม่ยากๆ น้องบอยก็ต้องดูแลเทคแคร์น้องลูกตาลเป็นอย่างดี พี่ๆแล้วก็เพื่อนๆจะคิดซะว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันถ้าน้องตาลไปไหนต้องมีน้องบอย ถ้าวันไหนพวกพี่เห็นว่าน้อง 2 คนไม่อยู่ด้วยกันจะต้องโดนลงโทษทั้งคู่เป็นเวาล 1เดือนเข้าใจไหมครับ "รุ่นพี่คนอื่นกับเพื่อนที่นั่งอยู่แอบอมยิ้มกันใหญ่เลย ฉันอายชะมัด
    "เออพี่ค่ะ หนูทำอย่างอื่นได้ไหมค่ะลงโทษอะไรก็ได้นะ"ฉันพยายามอ้อนวอน
    "ไม่ได้ คำพูดพี่ถือเป็นคำศักดิ์เปลี่ยนไม่ได้ ตกลงตามนี้ ไปนั่งที่ไป"
    ฉันกับบอยมองหน้กันอย่างลำบากใจ แต่ตั้งแต่วันนั้นฉันกับเขาก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันที่ไหนมีบอยก็ต้องมีฉัน เขาไปส่งฉันที่บ้านทุกวันไม่เคยขาด ตลอดระยะเวลา
       4ปีในมหาวิทยาลัยฉันรู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้เป็นแค่เพื่อน ฉันรู้ตัวฉันดี แต่สิ่งเดียวที่ฉันไม่เคยรู้ก็คือ ..บอยรักฉันบ้างหรือป่าว..มันยากเหลือเกินที่จะรู้ใจใครสักคน เขาคิดยังไงกับฉันกันแน่ ฉันตอบไม่ได้จริงๆ
      แล้ววันที่ฉันต้องตัดสินใจก็มาถึง ฉันนัดบอยมาที่มหาลัยที่ๆเราเจอกันครั้งแรก
    "ลูกตาลนัดเรามาทำไมหรอ"บอยยิ้มให้ฉัน
    "พ่อกับแม่จะให้ฉันไปเรียนถ่ายภาพต่อที่ญี่ปุ่น นายว่าฉันควรจะไปไหม"ฉันมองหน้าบอยนิ่ง
    บอยสะดุ้ง ใบหน้าเขาตื่นเล็กน้อยก่อนนจะปรับเป็นยิ้มให้ฉันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    "ก็ไปสิ เธอเองก็อยากเป็นช่างภาพไม่ใช่หรอ"
    "เธอไม่คิดจะห้ามฉันสักคำเลยหรอ เธอไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอที่เราจะไม่ได้เจอกันทุกวันนะ เธอไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอบอย"ฉันรู้สึกปวดใจเหลือเกิน ทุกอย่างที่ฉันทำก็เพื่อลองใจเขา ถ้าเขาห้ามฉันสักคำฉันก็จะไม่ไป แต่นี่เขากลับยินดีที่ฉันจะไปงั้นหรอ
    "ก็มันเพื่ออนาคตของตาลเองนิ ฮันเป็นเพื่อนเธอก็ต้องยินดีกับความก้าวหน้าของเพื่อนสิ"บอยยิ้มให้ฉันแล้วตบไหล่ฉันบเ
    "เพื่อนหรอ เธอคิดกับฉันแค่นั้นเองหรอบอย"น้ำตาใสๆของฉันมันไหลออกมาจนได้
    "เธอหมายความยังไงตาล"บอยมองหน้าฉันอย่างสงสัย
    "เธออยากรู้จริงๆหรอบอย ได้ฉันจะบอกเธอเอง ตอลอดเวลที่ผ่านว่าฉันไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อน ฉันรักเธอได้ยินไหม ฉันรักเธอบอย"
    ฉันตะโกนเสียงดังก่อนจะวิ่งหนีบอยไป

    **คนน่ารักไม่มีแฟนได้ไง คนน่ารักไม่มีแฟนคงเหงา ฉันขอสมัครรักเธอได้รึป่าว**
    เสียงโทรสับปลุกให้ฉันตื่นจากพะวัง ฉันก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อรู้ว่าใครโทรมา "โด่ง"คนที่ฉันรักที่สุด ฉันไม่ควรคิดถึงบอยเลยในเมื่อฉันมีคนที่ฉันรักหมดใจอยู่แล้ว บอยก็คงเป็นนได้แค่ภาพเลื่อนลางภายในใจฉันเท่านั้น ฉันสลัดความฟุ้งซ่านก่อนกดรับสาย
    "สวัสดีจ๊ะโด่ง ตาลคิดถึงโด่งจัง"

    .....เพื่อนรัก ยังก็คงเป็นเพื่อนรัก จะให้เปลี่ยนเป็นคนรัก  มันคงไม่มีทาง ใช่ไหม...ตุ้ยลืมตาตื่นขึ้นช้าๆเค้ารู้สึกได้ถึงความอ่อนนุ่มของเส้นผมสวยที่คลอเคลียใบหน้าอยู่ ตุ้ยอดอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นมิ้นที่นอนหนุนแขนเขาอยู่และซุกใบหน้าเล็กๆนั่นกับอกอุ่นของเขา
    "เมื่อคืนคงหนาวละสิแม่ตัวดี มากอดเราซะแน่นเชียว"ตุ้ยจูบลงบนแก้มใสของมิ้นเบาๆอย่างเอ็นดู
    "คุณแม่ขา วันนี้มิ้นไม่ไปโรงเรียนนะค่ะ มิ้นจานอน"มิ้นพึมพำพูดเบาๆแต่ตุ้ยกลับหน้าเครียดขึ้นมากระทันหัน
    "ละเมอถึงแม่หรอ หรือว่ามิ้นจะจำอะไรได้แล้วจริงๆ ไม่นะมิ้นพี่อยากให้มิ้นจากพี่ไป"แค่คิดตุ้ยก็ใจหายแล้ว เขารวบร่างน้อยๆในอ้มแขนมากอดไว้แน่นอย่างหวงแหน
    "อื้อออ อึดอัดจัง"มิ้นลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะแหกปากโวยลั่น"กรี๊ดดดด พี่ตุ้ยมากอดมิ้นทำไมเนี่ยปล่อยนะ คนขี้โกง"มิ้นผลักตุ้ยกระเด็นไปเลย
    "เห้ย ใครขี้กอดตัวเองมากอดพี่เองนะ แถมมานอนทับแขนพี่ด้วย ปวดแขนนะเนี่ยยังมาว่าพี่ขี้โกงอีกนะยัยบ๋อง"
    "ก้ ก็ ไม่รู้แหละ มิ้นหลับนิไม่รู้ตัว มิ้นล้างหน้าดีก่าสายแล้ว"มิ้นรีบวิ่งหนีไป ตุ้ยเลยต้องวิ่งตามเธออกไปที่หน้าบ้าน
     อากาศในยามเช้าที่แสนสดใส หมอกจาง และท้องฟ้าสีสดใสทำให้ทั้งมิ้นและตุ้ยรู้สึกปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก
    "อ้าวนังหนู ไ อ้หนุ่มตื่นกันแล้วหรอ"ตาที่กำลังตัดดอกกุหลาบสีสวยให้สวนหน้าบ้านร้องตะโกนถาม
    "ค่ะคุณตา คุณตาทำอะไรอยู่หรอค่ะ"มิ้นวิ่งไปหาคุณตาอย่างรวดเร็วจนตุ้ยกลัวว่าเธอจะล้มลงไป
    "ตัดกุหลาบไปขายในเมืองนะลูก เด้วสายๆหน่อยก็จะมีรถมารับไป พวกเอ็งก็ติดรถเขค้าเข้าเมืองนะ"
    "คุณตาขา กุหลาบพวกเนี่ยสวยจัง กลิ่นก็หอมหนูช๊อบชอบ"มิ้นก้มลงดมกุหลาบสีขาวสวยตรงหน้าอย่างชอบใจ
    "ชอบหรองั้นเดียวตาตัดให้เอาไหมละ"คุณตายิ้มเอ็นดูสาวน้อยแก้มแดง ตุ้ยก็ยังอดอมยิ้มไม่ได้ก็มิ้นมักจะทำให้ใครๆหลงรักกับความใสซื่อของเธออยู่เสมอไม่เว้นแม้ตัวเขาเอง
    "ไม่เอาค่ะ มิ้นขอตัดเองนะค่ะคุณตา"มิ้นทำตาออดอ้อนอีก
    "เอาๆก็ได้แต่ระวังหนามมันบาดนะนังหนู"
    "ค่ะ หนูจะระวัง"
    มิ้นก้มลงไปตัดกุหลาบดอกสวยตรงหน้า แต่แล้ว..
    "โอ้ย// เจ็บจังเลย"มิ้นจับนิ้วของตัวเองเอาไว้ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ"
    "เป็นอะไรนะมิ้น ไหนให้พี่ดูสิ"ตุ้ยคว้านิ้วเรียวของเธอไปดูก็พบหยดเลือดสีแดงจากปลายนิ้วนั้น
    "หนามกุหลาบมันตำนะ แต่นิดเดียวเองนะ เด้วก็หายแล้วละ"มิ้นจ๋อยสนิทเมื่อตุ้ยทำท่าดุ
    "ไหนบอกว่าจะระวังไง แล้วจะให้พี่ปล่อยให้คลาดสายตาได้ยังไงเนี่ย ดูแลตัวเองบ้างสิมานี่เลยไปล้างมือเเด้วนี้เลย"ตุ้ยจูงมิ้นที่ทำท่าเมื่อเด็กน้อยโดนครูดุไปล้างมือ ตากับยายได้แต่มองมองกันอย่างเอ็นดู

    "เอานิกุหลาบที่หนูชอบ ยายตัดมาให้"คุณยายยืนกุหลาบสีขาวช่อใหญ่มาให้มิ้น
    "ขอบคุณค่ะคุณยาย"มิ้นทำท่าจะคว้าทันทีแต่คุณยายกับส่งให้ตุ้ยแทน
    "เอาเจ้าหนุ่มให้นังหนูมันเองก็แล้วกัน เด้วหยิบเองแล้วหนาวมันจะตำอีก 55"ยายแซวมิ้นกับตุ้ยจนเขินไปเลย ตุ้ยส่งกุหลาบให้มิ้นช้าๆ
    "ขอบคุณค่ะพี่ตุ้ย"มิ้นแก้มระเรื่อ ทั้งสองคนสบตากับอย่างหวานซึ้ง
    "ไ อ้หนู อีหนู รถจากในเมืองเขามาแล้วพวกเองรีบมาขึ้นรถเถอะ"ตาตะโกนจากหน้าบ้าน
    มิ้นกับตุ้ยรีบวิ่งไปที่หน้าบ้านอย่างดีใจ ทั้งคู่ช่วยกันขนดอกไม้ขึ้นรถและไม่ลืมที่จะยกเจ้ามอร์เตอไซเจ้าปัญหานั้นขึ้นรถกระบะไปด้วย
    "ตาจ้า ยายจ้าเรา 2คนขอบคุณมากเลยนะค่ะที่ตากับยายช่วยเราเอาไว้ ถ้าไม่ได้ตากับยายเรา 2คนก็ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง"มิ้นกับตุ้ยยกมือขึ้นไหว้ตายายด้วยความซาบซึ้ง
    "ไม่เป็นหรอก เราคนไทยด้วยกันมีอะไรก็ต้องช่วยกัน"ยายคว้าร่างมิ้นมากอดเอาไว้อย่างเอ็นดู ส่วนตาก็ลูบหัวตุ้ยเบาๆพร้อมสั่งว่า
    "เอ็งดูแลนังหนูมันให้ดีๆนะ น่ารักอย่างเนี่ยหายาก555"
    "ครับตาผมไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่ๆ"ตุ้ยหันไปขยิบตากับมิ้นเขินจนพูดไม่ออก
    "เอาๆไปกันได้แล้ว รถเขาจะรีบไปแล้ว"
    "หนูไปก่อนนะจ๊ะแล้วถ้ามีโอกาสหนูจะมาหาตากับยายอีกนะจ๊ะ"มิ้นโบกมือให้ตายายก่อนจะก่อนขึ้นไปนั่งที่กระบะหลังของรถกับตุ้ย ตลอดทางทั้งคู่มองธรรมชาติที่สวยงามข้างทางอย่างความสุข
    "พี่ตุ้ยค่ะ"มิ้นเรียกตุ้ยที่กำลังเหม่อมองข้างทางขึ้น
    "มีอะไรมิ้น"
    "มิ้นมีอะไรจะบอก"มิ้นยิ้มเจ้าเลห์
    "มิ้นรักพี่ตุ้ยนะ"มิ้นก้มลงกระซิบข้างหูตุ้ยเบาก่อนจะแกล้งมองไปทางอื่นหน้าตาเฉย
    ตุ้ยทั้งงงทั้งมีความสุขเค้ามองหญิงสาวด้วยแววตาเปี่ยมรัก
    "พี่ก็รักเธอมิ้น รักมากจริงๆนะ"ตุ้ยพูดลอยๆไปแต่เขาก็รับรู้ได้ว่ามันได้ส่งถึงใจผู้หญิงข้างกายเขาได้อย่างแน่นอน

    ***หวังว่ารักคงช่วยแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง แค่เรารักกันอุปสรรคใดๆก็คงไม่สำคัญ ใช่ไหม??***
    "พี่บอยนั้นพี่ตุ้ยกับมิ้นนิ มาโน้นแล้ว"บลูน่าตะโกนอย่างดีใจก่อนจะวิ่งไปกอดมิ้นด้วยความดีใจ
    "โอ้ยบลูน่ามิ้นหายใจไม่ออกแล้วนะ อิอิ"
    "เหออ พวกเราเป็นห่วงพวกนายมากเลยรู้ไหมตุ้ย ทำไมเมื่อไม่กลับมาละ พวกเรานอนไม่หลับกันทั้งคืนเลยนะ"บอยกอดคอตุ้ยไว้
    "พอดีเมื่อคืนรถเสียนะก็เลยต้องแวะค้างคืนที่บ้านชาวบ้านนะ"
    "มิ้นขอโทษนะค่ะที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงแถมยังอดฉลองปีใหม่กันเลย"นหน้าเศร้าอย่างสำนึกผิด
    "ไม่เป็นไรหรอกมิ้นแค่มิ้นกับตุ้ยกลับมาอย่างปลอดภัยพวกเราก็ดีใจแล้วละ"เพชรยิ้มบางๆ
    "อืมแล้ววันี้เราจะเอายังไงกันละ เหลือเวลาว่างอีกวันหนึ่งจะกลับกรุงเทพเลยหรือว่าจะอยู่เที่ยวต่อีกวัน"บอยหันไปถามความคิดเห็นเพื่อน
    "อย่าเพิ่งกลับเลยนะเรายังไม่ได้ไปเที่ยวไหนกันเลยอะ"บลูน่ามองเพชรกับมิ้นอย่างหาพรรคพวก
    "อืมเพชรเห็นด้วยนะ นานๆทีพวกเราจะมีโอกาสมาพักผ่อนอย่างนี้อะ"
    "อืมงั้นเราจะไปไหนกันดีละ"ตุ้ยถามขึ้น
    "งั้นไปอ.ปายกันไหม นั่งรถไป3-4ชั่วโมงก็ถึงแล้ว สวยนะโรแมนติกด้วย"บอยถามขึ้น
    "ดีๆไปกันเถอะบลูน่าก็เคยได้ยินนะว่าที่นั้นสวยมากๆ ต้องไปล่องแพด้วยนะ อิอิ"บลูน่าร่าเริงทันที
    "ก็ได้งั้นก็รีบไปเก็บข้าวของเถอะจะได้ไปทันล่องแพดูพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำปายกัน"บอยยิ้มเมื่อเห็นแฟนสาวตัวเองชอบใจ
    ตุ้ย บอย เพชรและบลูน่าพากันเข้าไปในบ้านเพื่อเก็บข้าวของ มิ้นเดินตามไปช้าๆแต่ตูนกลับคว้าข้อมือเล็กๆของเธอเอาไว้
    "อุ้ย"มิ้นอุทานอย่างตกใจ
    "มิ้นขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ"ตูนรีบปล่อยมือมิ้นทันที
    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ตูนมีอะไรจะพูดกับมิ้นรึป่าวค่ะ"มิ้นอดสงสารไม่ได้ที่เห็นใบหน้าหล่อใสของเขาดูคล้ำเศร้าอย่างคนอดนอนแบบนี้
    "พี่เป็นห่วงมิ้นมากเลยนะ เมื่อคืนพี่กลัวจนแทบคลั่งเลยกลัวว่าตุ้ยจะหามิ้นไม่เจอ กลัวว่ามิ้นจะเป็นอันตราย พี่กลัวจริงๆนะมิ้น"
    "พี่ตูนค่ะ มิ้นไม่เป็นอะไรเลยนะ ดูสิ"มิ้นยิ้มสดใสและจับมือที่สั่นเทาของตูนเอาไว้
    "มิ้น พี่ พี่ อยากจะขอโทษเรื่องวันนั้น พี่รู้ว่าพี่ผิดที่ทำแบบนั้นกับมิ้น มิ้นอย่าเกลียดพี่เลยนะ"ตูนมองหน้ามิ้นดวงตากลมสวยของเขาสั่นไหวไปหมด
    "ช่างมันเถอะค่ะ มิ้นลืมไปหมดแล้ว พี่ตูนอย่าไปพูดถึงมันเลยนะ"มิ้นยิ้มให้เขา
    "ขอบคุณนะมิ้น พี่ยังเป็นพี่ชายของมิ้นอยู่ใช่ไหม"ตูรอคอยคำตอบของมิ้นอย่างตื่นเต้น
    "ค่ะ พี่ตูน"มิ้นยิ้มตาประกายสดใส รอยยิ้มของเธอทำให้ผู้ชายที่รู้สึกว่าโลกที่เคยมืดมนไปหมดกลับสว่างสดใสได้ในทันที 
     
    "ยะฮู้ถึงซะที 2 มือล่วงกระเป๋า 2 เท้าก้าวลงแพเลยเพื่อน"ตูนหัวเราะร่าเริงจนเพื่อนอดแปลกใจและดีใจไม่ได้ที่นายตูนผู้สดใสร่าเริงได้กลับมาแล้ว
    "คึกจังเลยนะพี่ตูนไปกินยาอะไรมาฮะเนี่ย"บลูน่าแซวตูนแบบขำๆ
    "ก็คนมันมันแฮปปี้นี้น่า เนอะมิ้นเนอะ"ตูนหันไปพยักหน้ากับมิ้นที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างตุ้ย
    "มิ้นไปกันเถอะ เสียเวลา"ตุ้ยรีบคว้าแขนของมิ้นแล้วดึงเธอไปเลย มิ้นแอบหันมายักคิ้วให้ตูน 1 ทีอย่างรู้กัน
      แม่น้ำที่ใสสะอาดจนเห็นตัวปลา อากาศเย็นๆกับแสงแดดอุ่นที่ส่องกระทบพื้นน้ำทำให้ที่นี้ดูงดงามมาก แพสี่เหลี่ยมทำจากไม้ไผ่พร้อมคนพายเรือ 1 คนจอดรออยู่ที่ริมน้ำ
    "มิ้นลงมาสิ แพเนี่ยเค้าให้ขึ้นได้ 2 คน มิ้นมากับพี่นะ"ตุ้ยก้าวลงไปในแพแล้วส่งมาให้ยืนจับ แต่มิ้นเสียหลักเซจนตุ้ยต้องคว้าร่างบางๆของเธอเอาไว้มิ้นจึงตกอยู๋ในอ้อมกอดของตุ้ยไปโดยปริยาย
    "ปล่อยได้แล้วพี่ตุ้ย อายเค้า"มิ้นเหลือบมองไปที่คนท่อแพที่แอบอมยิ้มอยู่
    "ขี้เขินจริงนะเราเนี่ย แฟนผมก็งี้แหละพี่ขี้อาย 555"ตุ้ยกลับแกล้งหันไปคุยกับชายคนนั้นซะอีก
    "พี่ตุ้ยอะบ้า เด้วโดน"ปากบอกเด้วแต่มือน้อยๆของเธอกลับฟาดลงบ่นไหล่ของเขาไปเสียแล้ว
    "โอ้ยพี่เจ็บนะมิ้นเนี่ย"ตุ้ยรีบนั่งลงข้างมิ้นที่ทำแก้มป่องอย่างงอนๆ
    "55++คุณมีแฟนน่ารักก็ต้องอดทน ผมเข้าใจ"คนท่อแพแซวมิ้นและตุ้ยอย่างเอ็นดู
    "มิ้นร้อนแดดไหมครับ เด้วพี่บังแดดให้เอานะ"ตุ้ยยกเสื้อคลุมขึ้นบังแดดให้มิ้น
    "ไม่ต้องมายุ่งกับเค้าเลย มิ้นเบื่อพี่ตุ้ยแล้ว"มิ้นพูดอย่างงอนๆ
    "มิ้นเบื่อพี่แล้วหรอ แต่พี่รักมิ้นนะทำไงดีนะ"ตุ้ยแกล้งเอาจมูกไปชนผมสวยของมิ้น"หอมชื่นจาย"
    "พี่ตุ้ย เผลอไม่ด้เลยนะเนี่ย"มิ้นมองหน้าตุ้ยดุๆ
    "ไม่เผลอก็ได้เหมือนกัน จุ๊บ"ตุ้ยก้มลงหอมแก้มมิ้นหน้าตาเฉย มิ้นจับแก้มใสที่กลายเป็นสีชมพูของตัวเองเอาไว้ มิ้นตั้งท่าจะขยับหนีเขาแต่ก็ทำไม่ได้
    "นั่งแพมันก็ดียังงี้เองนะพี่ต้องนั่งชิดกันขยับหนีไปไหนก็ไม่ได้ด้วย 555"ตุ้ยแกล้งตะโกนคุยกับพี่คนท่อแพอย่างชอบใจ
    "นี่แหนะ หนีไม่ได้งั้นหรองั้นก็ต้องโดนนี่เลย"มิ้นวักน้ำจากแม่น้ำมาสาดใส่ตุ้ยอย่างสนุกสนาน แต่จังหวะนั้นเองมิ้นกลับเสียหลักจนเกือบจะหงายหลังตกน้ำไป ดีที่ตุ้ยคว้าตัวเธอไว้ได้ทัน
    "เกือบไปแล้วนะมิ้น เกิดตกน้ำไปจะทำยังไงเนี่ย"ตุ้ยมองหน้ามิ้นอย่างดุๆ
    "มิ้นขอโทษ มิ้นประมาทไปหน่อยอะ"มิ้นหน้าเสียไปเลย
    "อย่าทำแบบนี้อีกรู้ไหมพี่เป็นห่วงมากนะ นั่งเฉยๆดูวิวไปเลย อย่าซนรู้ไหม"
    "ค่ะพี่ตุ้ย"มิ้นรับคำเบาๆ ตุ้ยจึงโอบรอบเอวของมิ้นไว้อย่างเป็นห่วง

    ลองแพมากว่า 2 ชั่วโมง พระอาทิตย์ดวงกลมโตสีส้มสวยก็คอยๆเคลื่อนต่ำลงมาจากท้องฟ้า มิ้นเอนตัวลงพิงตุ้ยแล้วมองภาพนั้นด้วยแววตาชวนฝัน
    "สวย"ตุ้ยพูดขึ้น
    "ใช่ค่ะพระอาทิตย์สวยจัง"มิ้นพูดเบาๆแต่ไม่มองหน้าของชายหนุ่มข้างตัว
    "ไม่ใช่"
    "อ้าว แล้วอะไรละค่ะที่สวย"มิ้นมองตุ้ยอย่างสงสัย
    "มิ้นไงสวยจัง "ตุ้ยมองตามิ้นอย่างแสนรัก
    "พี่ตุ้ยอะ ชมกันงี้ก็เขินแย่สิ"มิ้นพูดอายๆ
    "พี่รักมิ้นนะ รู้รึป่าว"
    "รู้สิค่ะ เด้วนี้พี่ตุ้ยบอกมิ้นเกือบทุกวันเลยนะ."มิ้นยิ้มบางๆ
    "ไม่รู้เป็นอะไร เด้วนี้พี่อยากบอกรักมิ้นทุกวันเลยอะเหมือนกลัวว่าจะไม่ได้บอกอีกอย่งนั้นแหละ"ตุ้ยหัวเราะเบาๆ
    "มิ้นก็รักพี่ตุ้ยค่ะ"
    ตุ้ยคว้าร่างมิ้นมากอดเอาไว้และมองพระอาทิตย์ที่ตกสู่พื้นน้ำด้วยกันอย่างมีความสุขรถเคลื่อนตัวมาจอดให้ตัวเมืองปายในตอนค่ำ  ปายเป็นอำเภอเล็กๆในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้คนที่อาศัยอยู่มีทั้งคนไทยและชาวเขาเผ่าต่างๆมีศิลปะวัฒนธรรมที่แตกต่างกันแต่ก็สามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว  อากาศหนาวเย็นปะทะกับร่างหนุ่ม-สาวทั้ง 6 จนพวกเขาต้องกระชับเสื้อกั้นหนาวเข้ากับร่าง
       มิ้นมองร้านรวงที่ถูกประดับประดาด้วยดวงไฟเล็กๆอย่างชอบใจ
    "สวยจัง เมืองนี้ไฟเค้าเป็นสีส้มอย่างนี้ดูโรแมนติกจัง"มิ้นยิ้มร่าจนตาหยี
    "เค้ามีถนนคนเดินด้วยนะ มีแต่ข้าวของสวยๆทั้งนั้นเลยจะไปเดินดูไหมละ"ตุ้ยถามมิ้นอย่างเอ็นดู
    "ไปๆมิ้นอยากไปเราไปเดินเที่ยวกันนะพี่ตุ้ย"มิ้นกระตุกแขนตุ้ยอย่างตื่นเต้น
    "มิ้นไม่ไปกินข้าวด้วยกันก่อนหรอ เด้วค่อยไปเดินก็ได้"เพชรถามขึ้น
    "มิ้นกินขนมบนรถอิ่มแล้วอะ แต่ถ้าพี่ตุ้ยหิวเด้วมิ้นไปกินด้วยก่อนแล้วค่อยไปเดินดูของก้ได้นะค่ะ"มิ้นทำหน้าเจื่อนไปเลย
    "ดูทำหน้าเข้าสิ เห้ออ พี่ไม่หิวหรอกไปเดินเลยก็ได้เดินไปซื้อของกินไปก็ได้ พวกนายไปกินข้าวกันเถอะแล้วเด้วตอน 3 ทุ่มคอยมาเจอกันที่รถนะ"ตุ้ยโยกหัวมิ้นเบาๆ
    "อิอิ งั้นเราไปกันเลยนะค่าพี่ตุ้ยขา"มิ้นซบหน้ากับต้นแขนตุ้ยอย่างร่าเริง ทุกคนได้แต่มองแม่สาวน้อยอย่างขำๆ

    มิ้นกับตุ้ยเดินดูของแฮนเมกที่บรรดาพ่อค้า แม่ค้านำมาวางขายอย่างชอบใจ มิ้นดูท่าทางจะตื่นเต้นมากหยิบของซื้อของชิ้นนั้นชิ้นนี้ไปทั่ว ดูเหมือนอะไรก้ดูสวยถูกใจยัยตัวจุ้นคนนี้ไปเสียหมด ตุ้ยต้องคอยเดินตามบ้างวิ่งตามบ้างเพราะมิ้นวิ่งเข้าวิ่งออกร้านขายต่างๆอย่างสนุกสนาน
    "มิ้นไปร้านนั้นกันเถอะ"ตุ้ยกระตุกมือมิ้นเอาไว้
    "ร้านอะไรหรอค่ะพี่ตุ้ย"มิ้นมองตุ้ยงงๆ
    "ร้านขายโพสการ์ดนะ เราสามารถเขียนแล้วก็ส่งหาตัวเองได้ด้วยนะ"
    "หรอๆ งั้นรีบไปกันเถอพี่ตุ้ย"มิ้นดึงมือตุ้ยวิ่งไปทันที

    "เอาไงกันดีละพี่ตุ้ย เยอะแยะไปหมดเลยอะ"มิ้นมองโปสการ์ดมากมายจนตาหลายตรงหน้า
    "อืมเอางี้ละกันน้องมิ้นเขียนส่งให้พี่ แล้วพี่ก็เขียนส่งให้มิ้นละกัน"ตุ้ยยิ้มบางๆ
    "ก็ได้ตกลงตามนี้ แยกกันไป อิอิ"
    มิ้นยิ้มร่าเธอเลือกโปรการ์ดรูปดอกไม้เมืองหนาวสีสันสดใสที่ตรงข้างล่างเขียนด้วยตัวอักษรสีเทาว่า
    "In love In Pai"
    "จะเขียนอะไรดีนา อืมเขียนอันนี้ละกัน"

    พี่ตุ้ยขา....
    อากาศที่ปายหนาวจัง ขอกอดทีหนึ่งสิ 555 มิ้นล้อเล่น อย่าคิดมาก
    พี่ตุ้ยมิ้นอยากบอกว่า "มิ้นรักพี่ตุ้ยจังค่ะ" ทุกอย่างที่พี่ตุ้ยทำให้มิ้น มิ้นจะ
    จดจำมันไปตลอด ไม่ว่าเราจะอยู่ห่างกันแค่ไหนมิ้นก็จะรักพี่ตุ้ย
    ขอให้พี่ตุ้ยจดไว้นะค่ะ...มิ้นรักพี่ตุ้ยที่สุดค่ะ
                                        กระต่ายมิ้น อิน เลิฟ 555

      ตุ้ยหยิบโปสการ์ดรูปทิวเขายามเช้าที่ปกคลุมไปด้วยม่านหมอกจางๆ เขาหยิบบางๆเมื่อคิดถึงใบหน้าของคนที่เขาจะเขียนถึง

    To...มิ้น 20.00 น.
    มิ้นนี่ก็เกือบ 2 เดือนแล้วสินะที่พี่ได้รู้จักมิ้น พี่ไม่รู้ว่าจะเขียนออกมาได้อย่างไรว่ามันวิเศษแค่ไหนที่ได้เจอมิ้น
    มิ้นมาเปลี่ยนโลกที่เคยมีแต่ความเงียบเหงาของพี่ให้สดใสและสวยงาม มิ้นเป็นที่ทำให้พี่ได้รู้จักกับความรักอีกครั้ง
    พี่ตอบไม่ได้ว่าพี่จะรักมิ้นตลอดไป แต่พี่อยากจะบอกมิ้นว่าพี่รักมิ้นมากและจะรักมิ้นให้มากขึ้นทุกวัน
                                                                                                     พี่ตุ้ยรักมิ้นครับ

    ตุ้ยกับมิ้นมองหน้ากันแล้วอมยิ้มขำๆก่อนที่ทั้งคู่จะหย่อนโปสการ์ดทั้ง 2 ใบลงในตู้ไปรษณีย์สีแดงอันเล็กเล็กหน้าร้าน
    "มิ้นเขียนอะไรอะ"ตุ้ยจูงมิ้นแล้วถามเธอเบาๆ
    "ไม่บอก เก็บไว้อ่านเองสิ"มิ้นยิ้มหวาน
    "ก็ได้ พี่จะรอนะ"ตุ้ยยิ้มให้มิ้น
    ทั้งคู่เดินจูงมือกันไปท่ามกลางแสงไฟสลัวสวยงามในอำเภอปายที่เงียบสงบ

    หลังจากช่วยกันกางเต็นซ์และจัดข้าวของเรียบร้อยแล้ว หนุ่มสาวทั้ง 6ต่างมานั่งผิงไฟกันท่ามกลางอุณหภูมิที่เย็นยะเยือก แสงของกองไฟและพระจันทร์ส่องให้เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของทั้งคน บอยกับบลูน่านั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน เพชรจิบกาแฟอุ่นๆอย่างผ่อนคลาย ตูนใช้กิ่งไฟเขี่ยกองไฟร้อนๆเล่นอากาศที่หนาวเย็นไม่อาจดับความร้อนจากจิตใจเขาได้เลย ตูนพยายามจะไม่มองไปที่คนคู่นั้น
       มิ้นกับตุ้ยนั่งชิดกันบนข่อนไม้เล็กๆอย่างมีความสุข
    "พี่ตุ้ยมิ้นไม่เอาเพลงนั้นนะเปลี่ยนเพลงๆ"เสียงเจื้อยแจ้วของมิ้นดังขึ้น
    "ไม่ชอบเพลงโบว์แดงแสลงใจหรอ งั้นพี่เปลี่ยนก็ได้ --สาวกระโปรงเฮ่อน รีบไปเรียนแล้วละ--"
    "ม่ายอาวว มิ้นไม่ชอบเพลงนี้ ไม่ต้องมาร้องแล้ว"มิ้นหน้าบูดเธอสะบัดใบหน้าสวยอย่างงอนๆ
    ตุ้ยมองหน้ามิ้นอย่างเอ็นดูก่อนจะคว้ากีตาร์โปร่งขึ้นมา
    "เอาเพื่อนๆทุกคนครับ วันนี้ผมนายตุ้ย AF3จะขอเปิดคอนเสิร์ตสด ณ เมืองปาย ขอมอบเพลงนี้ให้สาวน้อยขี้งอนที่นั่งอยู่ข้างๆผมนะครับ กระต่ายน้อยมิ้นค๊าบบบ"ตุ้ยมองมิ้นที่หน้าเอ๋ออย่างขำๆก่อนจะเริ่มร้องเพลงนั้นเพื่อเธอคนนี้
    http://ethaimusic.com/lyrics/301.htm

    ไออุ่นรัก... รักเธอช่างอุ่นกาย
    The love’s warmth, your love is so warm.

    เหนือเกินสัมผัสใด ที่สุดแล้วที่เคยเจอ...
    Beyond every touches, the best I’ve ever encountered
    เพลงจบลงบอย บลูน่าและเพชรปรบมือให้ตุ้ยทันทีมีเพียงตูนที่มองตุ้ยด้วยใบหน้านิ่ง
    "ชอบไหมครับคุณกระต่าย"ตุ้ยแกล้งเอียงหน้าไปใกล้ๆแก้มแดงของมิ้น
    "ไม่ชอบ"
    "อ้าวทำไมละ พี่ร้องไม่เพราะหรอ"ตุ้ยหน้าเจื่อนไปเลย
    "ป่าวก็เพราะไง แต่มิ้นว่าที่นี้มันหนาวไม่เห็นอุ่นเลย"มิ้นอมยิ้มบางๆ
    "โห้พี่ก็คิดว่าอะไร พี่ร้องว่าไออุ่นรักไงอากาศหนาวแค่ไหนพี่ก็อุ่นถ้ามิ้นอยู่ใกล้ๆไงจ้า"ทั้งคู่ส่งสายตาหวานในกัน
    'แค้กๆๆๆ "ตูนส่งเสียงขึ้นมา
    "เป็นอะไรหรอตูน"ดพชรถามอย่างตกใจ
    "เลี่ยนวะ ไปนอนดีกว่า"ตูนลุกขึ้นเดินเข้าเต็นไปเลย
    "เออเพชรก็ง่วงนะ เหอๆๆง่วงจังเลยไปนอนแล้วน้า"เพชรเห็นใบหน้าเหว่อของเพื่อนที่เหลือก็เลยต้องขอชิ่งไปก่อน 2 หนุ่ม 2 สาวที่เหลือมองหน้ากันอย่างงงๆ
    "เออ บลูน่าพี่ว่าเราไปเดินเล่นกันมะ"บอยหันไปจับมือแฟนสาวไว้
    "อืมก็ดีนะ นานๆเราจะได้อยู่ด้วยกัน 2 คนเนอะ มิ้นจ้าถ้าง่วงก็เข้าไปนอนก่อนได้เลยนะไม่ต้องรอเราหรอก"ทั้งสองคนจับมือเดินกันไปกระหนุงกระหนิง
    "จะไปไหนมิ้น "ตุ้ยคว้าแขนมิ้นที่กำลังจะลุกขึ้นไว้
    "จะไปนอนแล้ว"มิ้นซ่อนใบหน้าชมพูระเรือไว้ วันนี้เธอรู้สึกร้อนไปหมดเวลาอยู่ใกล้ๆเขา
    "ไม่เอาอยู่กับพี่ก่อนพี่ยังไม่ง่วงเลยนะ "ตุ้ยโอบเอวบางของมิ้นเอาไว้ ตุ้ยกับมิ้นนั่งอิงแอบดุดาวด้วยกันเงียบๆอย่างมีความสุข
    "หนาวหรอมิ้น"ตุ้ยมองมิ้นที่เอามือถูกันเบาๆ
    "อืมมือเย็นไปหมดแล้ว"
    ตุ้ยคว้ามือมิ้นมาถูกับมือตัวเอง ก่อนจะเป่าลมหายใจอุ่นๆของเขาลงบนมือเล็กๆคู่นั้น
    "พอแล้วพี่ตุ้ย มิ้นไม่หนาวแล้วละ"มิ้นพยายามดึงมือของตัวเองออกจาการเกาะกุมอย่างชายหนุ่มด้วยความเขินอาย
    "มือยังเย็นอยู่เลยนะ"ตุ้ยจับมือมิ่นไปใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อกันหนาวของเขาและกุมมือเธอเอาไว้ มิ้นอดยิ้มกับท่าทีอบอุ่นของตุ้ยไม่ได้ เธอค่อยๆศีรษะลงพิงไหล่กว้างของเขา
    "มิ้นสนุกไหมมาเที่ยวที่นี่นะ"ตุ้ยถามมิ้นเบาๆ
    "สนุกสิค่ะ มิ้นชอบภูดาวมากเลยนะ มิ้นฝันเอาไว้นะว่าสักวันมิ้นจะมีบ้านปีกไม้หลังเล็กๆ มีระเบียงที่หน้าบ้านมองเห็นดอกไม้สีสวยๆที่ปลูกไว้ตรงหน้าบ้าน พอตอนเช้าๆตื่นมาก็เห็นหมอกขาวๆปลุกคลุมทิวเขา ถ้ามันเป็นจริงได้มิ้นคงมีความสุขมากเลย"มิ้นพูดด้วยสำเสียงชวนฝัน
    "แต่สำหรับพี่นะที่ไหนที่มีมิ้นอยู่พี่ก็มีความสุขแล้วละ"ตุ้ยกดจมูกลงบนเส้นผมหอมของมิ้นอย่างแสนรัก
    "พรุ่งนี้เราก็ต้องกลับไปสู่ดลกความจริงแล้วสิค่ะ"มิ้นเอ่ยเศร้าๆ
    "ใช่จ๊ะ แต่เราก็ยังสามารถคิดถึงที่นี่ได้นะ เวลาที่เรามีความทุกข์เราก็จะคิดถึงที่นี่ด้วยกัน"
    "ค่ะถ้าวันไหนที่มิ้นทุกข์ มิ้นจะคิดถึงเวลาที่มิ้นอยู่กับพี่ตุ้ยตรงนี้นะค่ะ"มิ้นซุกหน้ากับอกอุ่นของตุ้ย
    ตาเล็กๆของเธอปรื้อลงด้วยความง่วง
    "ง่วงแล้วหรอมิ้น"ตุ้ยมองมิ้นอย่างเอ็นดู
    "ค่ะง่วงแล้ว"
    "งั้นไปนอนเถอะพี่พาไปมานั่งตากน้ำค้างนานๆเด้วไม่สบาย"ตุ้ยฉุดร่างมิ้นขึ้นแล้วพาเธอไปส่งที่เต็นซ์
    "ฝันดีนะครับ"ตุ้ยจูบหน้าผากมิ้นเบาๆ
    "ฝันดีเหมือนกันค่ะ"มิ้นเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อหอมแก้มของตุ้ยเบาๆก่อนจะผลุบเข้าเต็นซ์ไป
    ตุ้ยลูบแก้มตัวเองเบาๆก่อนจะจากไปด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×