คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 : ผู้บุกรุก
04
แสงพระอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้าเล็ดลอดช่องหน้าต่างมาปลุกร่างที่หลับใหลอยู่ เพราะตื่นเช้าเป็นกิจวัตรไม่นานนักร่างสูงก็ลุกขึ้นจากฟูกที่นอนของตน องค์รัชทายาทที่มีหน้าที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเคารพเสด็จพ่อของตนอยู่ตลอดจึงไม่มีท่าทีอิดออดจากการนอนเลยแม้แต่น้อย เขามองไปรอบห้องเหมือนทุกเช้าที่ตื่น แต่แล้วสายตาคมก็ไปสะดุดกับพวงหยกที่เคยหายไป บัดนี้มันได้กลับมาวางอยู่บนแท่นอ่านหนังสือของเขาดังเดิมแล้ว
“หยกนั่น....” ร่าสูงลุกขึ้นหมายจะเดินไปหยิบสิ่งที่สะดุดตาเขา แต่เพียงก้าวเท้าไม่ทันออกจากฟูกก็รู้สึกเหมือนเหยียบอะไรบางอย่าง มันคือดอกไม้กลีบสีขาวเหมือนงาช้าง กลีบดอกยาวซ้อนกันหลายกลีบ มีกลิ่นหอมอ่อนๆส่งออกมา เขาก้มลงเก็บก่อนจะมองมันอย่างสงสัย ไม่ใช่เพียงเพราะเหตุใดดอกไม้นี้ถึงมาตกอยู่ตรงนี้ แต่เขาไม่เคยเห็นดอกไม้ชนิดนี้มาก่อนเลยตั้งหาก
......ดอกไม้นี่มาได้อย่างไรกัน
“ตื่นแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท” ขันทีชางคนสนิทเดินเข้ามาในห้องพร้อมอ่างล้างหน้า ถ้าหากเขาได้เห็นดอกไม้หน้าตาประหลาดนี่อาจจะทำเขาโวยวายใหญ่โตก็เป็นได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นองค์รัชทายาทจึงรีบกำดอกไม้นั้นไว้ในมือก่อนจะเอื้อมมือไปซ่อนมันไว้ในหนังสือที่ใกล้ตัวมากที่สุด
“นั่นไม่ใช่หยกที่พระองค์ทรงตามหาหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“อ่า ข้าเจอมันอยู่ในที่นอนน่ะ ทำไมตอนนั้นถึงหาไม่เจอกันนะ” เขาพูดก่อนจะรีบคว้าพวงหยกเจ้าปัญหาใส่ลิ้นชักแล้วหมุนตัวกลับมาหาขันทีคนเดิมที่กำลังชะโงกหน้ามองตามพวงหยกชิ้นนั้น
“มัวยืนทำอะไรอยู่ มาแต่งตัวให้ข้าสิ”
ภารกิจขององค์รัชทายาทก็ยังคงน่าเบื่ออยู่เช่นเดิม ตื่นบรรทมแต่เช้าก่อนพระราชาเพื่อเสด็จมาถวายคำนับเสด็จพ่อของตน เสวยอาหารเช้ากับพระมเหสีผู้เป็นเสด็จแม่ ทรงเรียนตำราการปกครองกับอาจารย์ด้านอักษรในตอนสาย ตอนบ่ายทรงฝึกซ้อมวิทยายุทธ์ทางการทหาร ตกเย็นก็ทรงทบทวนตำราหนังสือ กิจวัตรที่ซ้ำซากเช่นนี้มีหรือที่องค์รัชทายาทอย่างเขาจะไม่เบื่อ หลายครั้งที่เขาเคยหลบหนีออกจากวังไปเที่ยวเล่นจนขันทีชางผู้คอยดูแลต้องรับโทษจนเดินไม่ได้อยู่หลายวัน สุดท้ายเพื่อเห็นแก่คนที่ต้องรับผิดแทนเขา การหลบหนีไปเที่ยวเล่นนอกวังก็ได้หายไปจากสมอง แม้ความเบื่อหน่ายจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาจะทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาคือองค์รัชทายาทผู้ที่ขึ้นครองบัลลังก์พระราชาคนต่อไป
“องค์รัชทายาท ไม่สิ กียุล กียุล!” เสียงเรียกทำเอาเจ้าของชื่อตื่นจากภวังค์แห่งห้วงความคิด กียุล หรือ ลีกียุล (*ราชวงศ์เกาหลีจะใช้นามสกุลลี) คือชื่อขององค์รัชทายาทอย่างเขาที่ไม่มีใครสามารถเอ่ยออกมาได้นอกจากพระราชาและเจ้าของชื่อ และคนที่กำลังเรียกเขาอยู่ตอนนี้ก็คือพระราชานั่นเอง
“เห็นเจ้าเหม่อลอย กำลังครุ่นคิดอะไรอยู่รึ” พระราชาที่ว่างเว้นจากภารกิจการบ้านการเมืองอย่างเขาก็ไม่ลืมที่จะทำหน้าที่ของผู้เป็นพ่อ วันนี้เขาได้เชิญลูกชายและลูกสาวของตนมาทานอาหารเย็นร่วมกันฉันครอบครัวธรรมดาทั่วไปบ้าง
“คิ้วของเสด็จพี่จะมัดกันเป็นปมอยู่แล้วนะเพค่ะ” องค์หญิงซองฮวางที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารตรงหน้าก็ไม่วายจะทักพี่ชายของตน
“ลูกไม่ได้เป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ” กียุลรีบตอบก่อนจะคีบอาหารเข้าปากเพื่อกลบเกลื่อนท่าทีพิรุธ ในหัวของเขาคิดเพียงแต่เรื่องดอกไม้ปริศนาที่ตกอยู่ในห้องของเขา หากได้เอ่ยปากเรื่องนี้ออกไป ทหารองครักษ์ทั้งวังหลวงได้แห่มาอยู่ยืนเบียดเสียดกันเต็มตำหนักตะวันออกของเขาเป็นแน่ แค่นี้ก็อึกอัดจนอยากจะหนีออกไปจะตายอยู่แล้ว
“เจ้าไม่ได้เป็นอะไรข้าก็สบายใจ แล้วตอนนี้องค์หญิงของพ่อเป็นเยี่ยงไรบ้าง”
“ตอนนี้หม่อมฉันกำลังสนใจเรื่องประวัติศาสตร์อยู่เพค่ะเสด็จพ่อ”
“เอ๊ะ องค์หญิงของพ่อสนใจประวัติศาสตร์หรอกหรือเนี่ย นึกว่าจะเป็นจัดดอกไม้หรือพวกเย็บปักเสียอีก ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ถึงแม้ว่าภาระหน้าที่พระราชาจะหนักหนาแต่เขาก็เป็นพ่อที่ดีได้เช่นกัน แต่อย่างที่ว่ากันครอบครัวราชวงศ์ใช่จะอบอุ่นเหมือนครอบครัวสามัญชนทั่วไป
ประโยคสนทนาบนโต๊ะอาหารเย็นนี้เป็นของพระราชากับองค์หญิงซะส่วนใหญ่ องค์รัชทายาทได้แต่นั่งกินอยู่เงียบๆ มีคำถามก็จะตอบไม่กี่คำ ดูไม่มีกะจิตกะใจอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จนสุดท้ายกียุลก็ขอตัวกลับไปตำหนักของตน ปล่อยให้พ่อได้คุยกับลูกสาวอย่างเต็มที่ ขายาวก้าวออกจากตำหนักของพระราชาพร้อมขันทีและคนติดตาม ไม่นานนักกียุลก็มีถึงตำหนักตะวันออกของตน เขากลับมานั่งที่แท่นอ่านหนังสือก่อนจะเปิดหนังสือเล่มที่ซ่อนดอกไม้ประหลาดนั่นไว้
.....ดอกไม้นี่จะเกี่ยวกับการที่ข้ารู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองข้าในคืนก่อนหรือไม่นะ
ความคิดที่ยุ่งเหยิงของเขาพยายามนำเรื่องราวทั้งหลายมาปะติดปะต่อกัน แต่ดูเหมือนข้อมูลจะมีน้อยเกินไป ดอกไม้นี่อาจจะเป็นดอกไม้ป่าที่ลมพัดเข้ามา หยกนั่นนางกำนัลอาจจะขโมยไปแต่สุดท้ายก็กลับใจเอามาคืน ส่วนเรื่องความรู้สึกที่เหมือนมีคนจ้องมองตอนหลับก็อาจเป็นขันทีชางที่เข้ามาเฝ้าก็เป็นได้ ทุกอย่างล้วนมีความเป็นไปได้ทั้งนั้น ระหว่างที่กียุลกำลังคิดเรื่องราวต่างในใจอย่างเงียบเชียบ พวกข้ารับใช้ก็เข้ามาจัดการเปลี่ยนชุดให้เขาเรียบร้อย
“เสวยชาดอกเบญจมาศเพื่อให้บรรทมง่ายเถอะพ่ะย่ะค่ะ ดูจากวันนี้พระองค์ทรงมีเรื่องให้ครุ่นคิดมากมาย กระหม่อมจึงเตรียมชานี่มาถวายพ่ะย่ะค่ะ” ขัยทีชางยกถ้วยชามาตั้งบนแท่นอ่านหนังสือ ประโยคเมื่อครู่ของขันทีทำให้กียุลต้องเก็บสีหน้าที่ดูคิดหนักนั้นใส่ลิ้นชักทันที เขาไม่คิดว่าคนอื่นจะดูออกได้มากถึงเพียงนี้ ทั้งเสด็จพ่อทั้งขันทีชาง
“อ๊ากกก ชาร้อนขนาดนี้ทำไมเจ้าถึงไม่บอกข้า”เพราะความรีบร้อนที่จะกลบเกลื่อน ชาเจ้ากรรมจึงได้ลวกปากองค์รัชทายาท นางในทั้งหลายรีบวิ่งเข้ามาในห้องตามเสียงร้องของผู้เป็นนาย นางกำนัลน้อยใหญ่ต่างพากันตกใจตกใจรีบเข้าไปเช็ดชาที่หกไปทั่ว พวกนางนั้นรู้ว่าการทำให้องค์รัชทายาทได้รับบาดเจ็บมีโทษถึงหัวหลุดจากบ่าได้
“ทรงประหารหม่อมฉันด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีชางรีบร้องขอรับโทษของตนพร้อมทรุดตัวลงก้มคำนับหน้าแนบพื้นทันที
“เจ้าอย่าทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เลยรีบเก็บกวาดให้เสร็จเถอะ ข้าจะนอนแล้ว” กียุลรับผ้าจากนางกำลังมาเช็ดปากก่อนจะส่งกลับคืนแล้วล้มตัวนอนลงบนฟูกทันที เมื่อเห็นว่าองค์รัชทายาทต้องการจะพักผ่อน ขันทีชางและข้ารับใช้ก็รีบเก็บของออกไปในทันที กียุลเกียดความวุ่นวายเป็นที่สุด การทนใช้ชีวิตที่มีคนคอยติดตามมากมายก็ถือเป็นเรื่องที่น่ารำคาญสำหรับเขาพอแล้ว เรื่องเล็กๆที่ผ่านไปได้เขาก็จะปล่อยผ่านไปแบบนี้อยู่เสมอ แม้กระทั่งเรื่องดอกไม้ที่มาตกอยู่ในห้อง กียุลก็เลือกที่จะเก็บไว้ในใจดีกว่าพูดออกไปในกลายเป็นเรื่องใหญ่โต
ไม่รู้ว่าเพราะชาลวกปากหรือสมองที่ยังไม่หยุดเรื่องที่แสนน่าปวดหัวพวกนี้กันแน่ที่ทำให้กียุลไม่สามารถจมเข้าสู่ห้วงนินทราได้ แม่จะพยายามข่มตานอนเท่าใดก็ไม่ได้ผล
.......หรือข้าจะขอชาที่ทำให้นอนหลับได้จากขันทีชางดีนะ แต่ยังแสบปากอยู่เลย
แสงจันทร์เคลื่อนคล้อยผ่านไป ดึกมากพอที่จะทำให้วังหลวงที่กว้างใหญ่นี่เงียบเชียบลงได้ เหลือแต่เสียงพลิกตัวอยู่บนฟูกกับเสียงความคิดขององค์รัชทายาทที่ยังดังอยู่
ตึก!!!
เสียงฝีเท้าย่ำลงบนพื้นเสื่ออย่างแผ่วเบาแต่สำหรับคืนที่เงียบเชียบเช่นนี้ก็สามารถเรียกสติจากคนที่กำลังจะหลับอย่างกียุลในตื่นขึ้นได้
.....มีคนกำลังบุกรุกเข้ามาในห้องของข้า?
แม้จะรู้ตัวแต่ก็ยังคงหลับตานิ่ง กียุลยังคงนอนรอให้ผู้บุกรุกเข้ามาใกล้กว่านี้ เสียงฝีเท้าที่ก้าวอย่างเบาเริ่มสัมผัสได้ชัดเจนมายิ่งขึ้นเมื่อเดินมุ่งหน้าไปหาคนที่นอนอยู่
.....วันนี้ข้าจะจับเจ้าด้วยมือของข้าเอง
ผู้บุกรุกทรุดลงนั่งข้างตัวคนที่หลับโดยไม่รู้ว่าคนตรงหน้ายังตื่นอยู่ มือเล็กค่อยๆเอื้อมออกไปจากหน้าตักของตน แต่ไม่ทันจะได้สัมผัส มือหนาของอีกคนก็ยกขึ้นมาคว้ามือเรียวที่หมายจะจับใบหน้าของเขาไว้ กียุลลืมตาขึ้นก่อนจะฉุดตัวคนที่บุกรุกเข้ามาในห้องของตนลงบนฟูกหนาแล้วพลิกตัวขึ้นกดร่างอีกคนไว้ เขาจ้องมองคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะตกใจอย่างหนัก นัยน์ตาคมของเขาสะท้อนภาพคนตรงหน้าที่กำลังเบิกตากว้างพร้อมเหงื่อเม็ดใสที่ผุดขึ้นไปทั่วใบหน้าด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าเป็นใคร?”
ไรเตอร์มาแล้วค่า><
เพิ่งกลับจากทริปไปเที่ยวมาค่ะ55555
ยังไม่หายปวดหลังเลย ทำยังไงดีเนี่ยยยย
ขอโทษที่หายไปหลายวันด้วยนะคะTT
รักรีดเดอร์ค่ะ<3
ความคิดเห็น