คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ,,, Part 8 ,,, นายชอบพี่ยุนโฮใช่มั้ย?
Title : Smartly Boy
Type : Long fiction
Author : *..MooKiiE..*
Category : Comedy / Romance
Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
Part 8
ณ สวนหลังโรงเรียน สถานที่ที่เป็นที่ทานข้าวของสองหนุ่มร่างบาง แจจุง และ จุนซู บรรยากาศของสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงดีไม่เปลี่ยนแปลง แสงแดดอ่อนๆที่คอยให้ความสว่างอยู่นั้นไม่ได้แรงมากจนเกินควร กลิ่นของดินและต้นไม้ใบหญ้าก็ยังคงลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศให้คนที่ได้มานั่งชมวิวแถวๆบริเวณนั้นได้คลายความตึงเครียดลงไปได้บ้าง ...
แต่ถึงทุกคนจะคลายความตึงเครียดลงไปได้บ้างนั้น สำหรับแจจุงมันคงจะไม่ใช่ เพราะตอนนี้บนใบหน้าสวยหวานนั้นประดับไปด้วยความโมโหอย่างสุดซึ้งอยู่นั่นเอง แนวคิ้วที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบตอนนี้มันกำลังขมวดกันเป็นปมขนาดย่อมๆ หัวคิ้วของทั้งสองฝั่งนั้นแทบจะมาบรรจบกันอยู่แล้ว ปากเล็กๆนั่นอีกล่ะ ที่กำลังยู่เข้าหากัน แล้วขมุบขมิบถ้อยคำบางอย่างอยู่ตลอดไม่ขาดสาย
มือบางของคนที่กำลังอยู่ในอารมณ์ฟาดหัวฟาดหางอยู่วางกล่องข้าวทั้งสองกล่องของตนเองอย่างแรง แรงขนาดที่คนตัวเล็กที่เป็นผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นอีกคนแทบสำลักข้าวออกมาเสียอย่างนั้น
“ จะ... แจจุง .. เอ่อ ใจเย็นๆก่อนดิ ชั้นตกใจหมดเลย “
เสียงของคนที่ยังอยากจะนั่งกินข้าวของตนเองต่อแบบมีบรรยากาศดีๆ รีบเอ่ยเรียกเพื่อนรักของตนเองทันที
แต่ดูเหมือนว่าคนที่ถูกเรียกนั้นจะไม่รู้สึกตัวแต่อย่างใด ยังคงจ้องเขม็งไปที่กล่องข้าวสองกล่องนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำอย่างกับว่าถ้าจ้องนานอีกนิดกล่องข้าวสองกล่องนั้นอาจจะหมดไปเองก็ได้
“ ฮึ่ย!!~ บอกให้ชั้นทำข้าวกล่องมาให้ แล้วไหนว่ะ ไอ้คนที่สั่งให้ทำให้กินหนะ คิดว่าคนทำมันไม่เหนื่อยรึยังไงกัน... ชั้นไม่ใช่พ่อครัวนะเว้ย!!! “
จุนซูที่นั่งกัดช้อนกินข้าวเล่นอยู่ในปากจ้องมองเพื่อนของตนเองตาปริบๆ ตอนนี้อารมณ์ของแจจุงขึ้นสูงจนทะลุปรอทไปแล้ว ห้ามยังไงก็คงจะห้ามไม่อยู่ คงต้องปล่อยให้เจ้าตัวได้ระบายออกไปสักพักนั่นแหละ เดี๋ยวสักพักก็จะดีขึ้นเอง
“ รู้มั้ยว่ามันเปลืองอาหารบ้านชั้น ชั้นไม่ได้รวยแบบนายหนิ ... โมโหๆ “
เสียงหวานๆนั่นก็ยังคงบ่นต่อไป จุนซูก็นั่งฟังเพื่อนบ่นและตักข้าวเข้าปากไป เออ... มีเสียงแจจุงบ่นให้ฟัง ที่นี่ดูไม่เงียบเหงาเลยแหะ ....
“ อิตาชอง ยุนโฮ โผล่หัวมาเอาข้าวกล่องของนายเดี๋ยวนี้!!! “
หลังจากใช้เวลาในการบ่นคนที่ บ่นยังไงก็ยังไม่โผล่ปลายเส้นผมมาให้เห็นจนเหนื่อยแล้ว แจจุงก็หันมาตักข้าวกล่องของตัวเองขึ้นมากินเพื่อบรรเทาความเหนื่อย แต่ก็ยังอดที่จะบ่นหรือด่าคนหน้าหมีอยู่เป็นระยะๆอย่างเสียไม่ได้
และเมื่อข้าวคำสุดท้ายได้ลงไปอยู่ในท้องของคนสวยเรียบร้อยแล้วนั้น คนร่างบากก็รีบกระดกแก้วน้ำขึ้นดื่มทันที ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนเองออกมาเช็ดปากอย่างลวกๆ เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วแจจุงก็ลุกขึ้นยืนทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว จุนซูสะดุ้งเล็กน้อยกับอาการของเพื่อนรัก ก่อนจะเอ่ยปากเรียกคนที่กำลังจะหันหลังเดินออกไปทันที
“ แจจุง!! นั่นนายจะไปไหนน่ะ? “
คนที่ถูกขัดจังหวะในการเดินหันมาทางคนพูดก่อนจะยกยิ้มที่ดูแล้วน่ากลัวพิลึกขึ้นมาที่มุมปาก แล้วจึงเอ่ยคำตอบออกมา
“ เอาอาหารไปเลี้ยงหมี “
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
สองหนุ่มหล่อที่เป็นที่หมายปองของสาวๆทั้งโรงเรียนที่ยังไม่รู้ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี่นั้นจะมีภัยอันใหญ่หลวงคลืบคลานเข้ามา ตอนนี้กำลังนั่งทานข้าวกับหญิงสาวสวยสองคนที่มีตำแหน่งเป็นถึงคนสวยระดับต้นๆของชั้นปี3เสียด้วย
ทั้งสี่คนนั้นนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆยุนโฮหันไปคีบเอาเกี๊ยวซ่าขึ้นมาชิ้นหนึ่งก่อนจะหันไปป้อนให้กับคนร่างสูง ซึ่งร่างสูงก็รับอาหารชิ้นนั้นเข้าปากไปอย่างยินดี ก่อนที่ทั้งสองคนจะหันไปกระซิบพูดคุยกันในระยะที่ว่าแทบจะกัดหูกันกินอยู่แล้ว
ฝั่งยูชอนก็ไม่น้อยหน้ากัน เพราะทั้งสองคนนั้นก็นั่งคุยกันในแบบที่เรียกว่าปากจะจูบ จมูกจะเกยกันอยู่มะรอมมะร่ออยู่แล้ว สองหนุ่มหล่อ กับอีกสองหญิงสวยยังคงนั่งโชว์ความหวานต่อไปเรื่อยๆท่ามกลางสายตาของคนทั่วทั้งโรงอาหารที่กำลังจ้องมองคู่ของทั้งสองคนนั้นอยู่ ....
และหนึ่งในนั้นก็รวมแจจุงและจุนซูเข้าไปด้วย
โดยส่วนตัวแล้วนั้นจุนซูก็รู้สึกโกรธ และน้อยใจยูชอนเอามากๆ แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะเค้าไม่ได้เป็นอะไรกับยูชอน ถ้าแสดงอาการอะไรออกไป ก็กลัวว่าพี่ยูชอนจะโกรธ และ อาจจะไม่อยากอยู่ใกล้เค้าอีกเลย จุนซูจึงต้องจำใจเก็บความช้ำใจและน้อยใจของตัวเองไว้ภายใน
‘ เห๊อออออ!!~
น่าจะรู้นะจุนซูว่ายังไงพี่เค้าก็ไม่มีทางหันมามองเราแบบนั้นหรอก รอบกายพี่ยูชอนมีแต่ผู้หญิงสวยๆทั้งนั้นให้พี่เค้าเลือก อย่างเราเค้าจะมาสนใจทำไม จุนซูเอ๋ย... ‘
จุนซูทำได้แต่เพียงมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเศร้าๆ ที่จริงเค้านะจะชินกับภาพเหล่านี้ได้แล้วนะ แต่ทำไม? เวลาเห็นพี่ยูชอนอยู่กับหญิงอื่นทีไร ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาไม่ได้นะ ....
ถึงจุนซูจะเงียบไม่พูดอะไรกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า แต่คงไม่ใช่สำหรับคิม แจจุงคนนี้ที่ตอนนี้ไฟในอกมันเดือดขึ้นมาเสียยิ่งกว่าเก่าด้วยซ้ำ
“ หึ!! ไอ้หมี แกให้ชั้นทำข้าวกล่องมาให้ แต่ตัวเองกลับมานั่งกินข้าวกับผู้หญิงนี่นะ รู้จักคิม แจจุงน้อยไปแล้ว!!! “
ตอนนี้คิม แจจุงโกรธแบบสุดๆแล้ว จะโดนไล่ออกรึป่าวไม่รู้ แต่ที่รู้ตอนนี้คืออยากฆ่าหมี!!!
ไม่ต้องยืนคิดถึงแผนการให้เสียเวลา ช่วงขาเรียวบางก็ก้าวเดินเข้าไปยังโต๊ะที่เป็นจุดรวมสายตาของคนทั้งโรงอาหารทันที โดยที่ไม่ลืมที่จะคว้าข้อมือของเพื่อนรักให้เดินเข้าไปด้วย
ถึงแม้ว่าเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามานั้นจะดังเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่สามารถเรียกความสนใจจากสองชายหนุ่มนั่นได้เลย แม้แต่น้อย
แจจุงหยุดยืนอยู่ทางด้านหลังของยุนโฮ ก่อนจะส่งนิ้วเรียวของตนเองไปสะกิดเรียกคนที่ยังไม่รู้ชะตาชีวิตว่าอาจจะขาดได้ภายในไม่ช้า
“ ฮึ่ย!! ใครว่ะ มาสะกิดเรียกทำไม ไม่เห็นรึไงว่าคนกำลังกินข้าวอยู่ “
คนร่างสูงที่ถูกขัดจังหวะการกินข้าวสบถออกมาในระดับที่ไม่ดังมากนัก แต่ก็ทำให้คนที่ถูกกล่าวหาว่ารบกวนนั่นได้ยินอย่างชัดเจน
แจจุงขบกรามแน่เพื่อบรรเทาความโกรธ ผ่อนลมหายใจออกมาสักเล็กน้อย ก่อนจะส่งนิ้วเรียวไปสะกิดที่ไหล่หนานั่นแรงขึ้นกว่าเดิม
“ เฮ้ย!!~ รอให้กินข้าวเสร็จก่อนได้มั้ย จะเรียก ... อะ. .. จะ.. แจ ... แจจุง!!! “
ร่างสูงที่ตอนแรกว่าจะหันมาด่าคนที่ขัดจังหวะการหม้อสาวของตนเองนั้นถึงกับหน้าถอดสี ตกอยู่ในห้วงแห่งความค้างไปเลยทีเดียวเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเรียกตน
“ ก็ชั้นเองเนี่ยแหละ คิดว่าใครห๊ะ!? ยุนโฮ... “
ร่างบางถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นๆ ที่คนฟังรู้สึกขนลุกวาบขึ้นมา แต่ที่กลัวมากที่สุดคือไอ้รอยยิ้มที่มันกำลังส่งมาให้เค้านี่แหละที่รู้สึกว่าน่ากลัวกว่าเป็นไหนๆ
‘ ทำไมนะ?
ทั้งๆที่แจจุงกำลังยิ้ม แต่พอเห็นรอยยิ้มนั่นแล้วมันรู้สึกเหมือนมีเขี้ยวโผล่ออมากเลยว่ะ ‘
คนร่างบางละสายตาออกจากคนตรงหน้าก่อนที่ดวงตากลมนั้นจะค่อยๆเคลื่อนย้ายมองไปที่ลำแขนของคนตัวโตที่กำลังถูกเรียวแขนเล็กของผู้หญิงคนข้างๆคล้องไว้อยู่ มุมปากกระตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพาตัวเองแทรกกลางคนทั้งสองนั่นทันที
“ ยุนโฮนี่นะ ... ทำตัวไม่น่ารักเลย ดูซิ!! แค่ชั้นบอกว่าติดธุระ ไม่ว่างมากินข้าวด้วย ไม่เห็นจะต้องหาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มากินข้าวด้วยแก้ขัดรอชั้นเลย ใจร้ายจริงๆ “
อึ้ง!!! นี่คืออาการของคนที่ถูกกล่าวหาว่าใจร้าย ดวงตาเรียวเล็กนั่นได้แต่มองตามการกระทำของคนสวยด้วยอาการค้างๆ
แจจุงพูดไปด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด ก่อนจะกระชากแขนของคนตัวสูงนั่นให้หลุดจากการเลื้อยพันของแขนผู้หญิงข้างกาย สะโพกบางค่อยๆกระแทกไปที่ร่างสูงเพื่อให้ร่างสูงเขยิบตัวออกไปเล็กน้อย ซึ่งยุนโฮก็ทำตามอย่างว่าง่าย เพราะยังคงอึ้งอยู่
เมื่อยุนโฮเขยิบที่ให้ตนเองแล้วนั้น แจจุงก็หันไปยิ้มหวานให้ผู้หญิงที่นั่งหน้าเหวออยู่ข้างๆทันที ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำบางอย่างออกมาด้วยรอยยิ้ม ที่ใครๆก็ดูออกว่านั่นคือ ‘รอยยิ้มเยาะเย้ย’
“ ขอโทษด้วยนะจ๊ะ หมดหน้าที่แล้วก็ไปซะซิ ยังจะนั่งอยู่ทำไมอีก “
หญิงสาวคนที่ถูกแจจุงไล่หันมาส่งสายตาอ้อนวอนกับคนร่างสูง แต่ยุนโฮก็ทำแค่เพียงพยักหน้าขึ้นลงเท่านั้น และเมื่อไม่มีใครช่วยเธอได้ เธอจึงลุกขึ้นยืน แล้ว เดินออกไปจากโรงอาหารนั่นทันที
แจจุงได้แต่มองตามด้วยสายตาแห่งผู้ชนะ เมื่อจัดการกับปลายเหตุได้แล้ว คนสวยก็หันมายิ้มให้กับตัวต้นเหตุทันที และรอยยิ้มนั้นมันก็คือรอยยิ้มเดียวกันกับที่ยุนโฮได้เห็นไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วนั่นเอง
“ อะ ..เอ่อ “
“ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ชั้น “
ยังไม่ทันที่ยุนโฮจะได้เอ่ยอะไรขึ้นมา คนสวยก็ถามขึ้นมาทันที
“ คือ ... ผมไม่ได้เอาโทรศัพท์ลงมาจากบนห้องด้วยหนะ แจจุงโทรมามีอะไรหรอ? “
ร่างสูงพยายามทำใจดีสู้เสือ ตอนนี้ไม่อยากจะขัดอะไรคนตรงหน้าทั้งนั้นแหละ เกิดโมโหฆ่าเค้าตายขึ้นมาทำไง
“ นายถามว่ามีอะไรงั้นหรอ!! ทั้งๆที่นายบอกให้ชั้นทำข้าวกล่องมาให้ แต่นายกลับมานั่งกินข้าวกับผู้หญิงเนี่ยนะ!!~ “
แจจุงตะโกนออกมาด้วยความเหลืออดก่อนจะหันสายตาไปทางอื่น แต่ก็ต้องสะดุด เมื่อเห็นว่าตอนนี้ข้างกายของปาร์ค ยูชอนนั้น ไม่ใช่หญิงสาวคนที่นั่งอยู่เมื่อครู่ แต่ตอนนี้มันกลับกลายมาเป็นเพื่อนรักของเค้าแทนนี่ซิ คิม จุนซูไปนั่งกับหมอนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่!!? ถึงจะสงสัยเรื่องของเพื่อน แต่ตอนนี้ยังมีเรื่องอื่นให้แจจุงสนใจกว่า นั่นก็คือเรื่องของ ชอง ยุนโฮ !!!
ยุนโฮเหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเองนั้นได้นัดกับแจจุงให้ทำข้าวกล่องมาให้ตนเองด้วย เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาทันที นี่เค้าต้องขอโทษใช่มั้ยเนี่ย
!!~
“ เอ่อ... แจจุง เค้าขอโทษนะ แบบว่า... เค้าลืมจริงๆอ่ะ “
น้ำเสียงปัญญาอ่อนแบบที่เด็กเล็กๆเค้าพูดกันถูกชอง ยุนโฮผู้หล่อเหลางัดขึ้นมาพูดอ้อนคนร่างบางตรงหน้านี้ทันที
แต่ปฏิกิริยาที่คนร่างบางตอบกลับมานั้นก็คือ .... นิ่ง
“ แจจุงครับ ผมขอโทษจริงๆนะ ยกโทษให้ผมนะๆ “
ยุนโฮขนลูกอ้อนออกมาสารพัดอย่างเพื่อให้คนสวยนั้นยอมยกโทษให้ ซึ่งก็ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรเลยกว่าที่ร่างบางจะยอมพูดกับเค้า
“ นายควรจะเห็นใจชั้นบ้างนะ ที่ต้องตื่นมาทำข้าวกล่องให้นายกิน แต่นายกลับมานั่งโอบสาวและมานั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารนี่แทน!! “
“ ขอโทษครับ “
คนร่างสูงได้แต่นั่งก้อมหน้าก้มตาพูดแต่คำว่าขอโทษออกมา
“ ฮึ่ย!!~ ถือว่านี่ครั้งแรกนะที่นายลืมนัดของชั้น ถ้ามีครั้งที่สองนายตายแน่!!! “
ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของคนตรงหน้า ประกายแห่งความสดใสก็เกิดขึ้นกับยุนโฮทันที
“ ครับ!! ผมจะไม่ลืมนัดของเราอีกแล้ว อ่า.. ไหนครับข้าวกล่องของผมที่แจจุงทำให้หนะ ผมอยากกินจังเลย “
ยุนโฮรีบเปลี่ยนเรื่องในการพูดคุยทันทีโดยการถามหาอาหารฝีมือของคนตรงหน้า
“ เหอะ!! ระริกระรี้ขึ้นมาทันทีเลยนะ ยังไม่อิ่มอีกรึไง เห็นนั่งป้อนกันแทบจะเกยตักกันกินอยู่แล้ว “
แจจุงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประชดๆ ซึ่งนั่นมันก็ทำให้ยุนโฮยิ้มออกมาทันที
เพราะอาการที่คนร่างบางนี้แสดงออกมานั้น มันเหมือนกับว่า... แจจุงกำลังหึงเค้า
“ แจจุงหึงผมหรอ? “
คนร่างสูงที่ตอนนี้กลับมาทะเล้นเหมือนเดิมเอ่ยถามคนร่างบางด้วยน้ำเสียงทะเล้นๆ ตามแบบฉบับ ชอง ยุนโฮ
และมันก็เป็นดังคาด เพราะเมื่อแจจุงได้ยินประโยคคำถามนั้นก็เกิดอาการชะงักขึ้นมาทันที ก่อนที่แก้มขาวๆนั่นจะค่อยๆขึ้นสีระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย เพียงแค่นั้นก็ทำให้ยุนโฮยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีได้แล้ว
“ บะ... บ้ารึไง!! ใครเค้าจะไปหึงนายกัน ชั้นก็แค่โกรธที่นายใช้ให้ชั้นทำข้าวกล่องมาให้ แต่ดันลืมก็แค่นั้นแหละ หลงตัวเองชะมัด!! ใครเค้าจะไปหึงนาย ฮึ่ย!! และนี่ตกลงจะกินมั้ยห๊ะ? ข้าวกล่องหนะ เดี๋ยวก็เททิ้งซะเลย “
แจจุงรีบยกข้าวกล่องนั่นขึ้นมาบังหน้าทันที เพื่อกลบอาการเขินของตนเอง ฟันขาวกัดที่ริมฝีปากล่างของตนเองเล็กน้อย เมื่อตนเองถูกกล่าวหาว่าไปหึงคนตรงหน้า
ยุนโฮหยิบข้าวกล่องของแจจุงขึ้นมาตักกินอย่างอารมณ์ดี เคี้ยวไปก็ยิ้มไป จนคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอดที่จะส่ายหัวกับอาการขาดๆเกินๆของเพื่อนรักเสียไม่ได้ ก่อนที่จะหันมาสนใจกับคนข้างๆตัวเองแทน พอเห็นแจจุงเดินมาหายุนโฮสายตาของเค้าก็ลอดผ่านไปสะดุดเข้ากับใบหน้ากลมเล็กของจุนซูทันที ไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลา เค้าก็หันไปบอกหญิงสาวที่นั่งคล้องแขนเค้าอยู่ให้ลุกออกไปทันที ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปชวนให้จุนซูมานั่งดูสถานการณ์ของคู่ตรงหน้านี้ด้วยกัน
“ จุนซูทานข้าวรึยังครับ? ”
เมื่อเห็นว่าร่างเล็กข้างกายยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำตั้งแต่มานั่งอยู่ด้วยกัน ร่างสูงจึงเป็นฝ่ายทำลายความเงียบนั้นลงโดยการชวนคนร่างเล็กนี่คุยนู่นนี่ไปเรื่อย
“ อ่อ... จุนซูอิ่มแล้วล่ะฮะ บังเอิญแจจุงเค้าบอกว่าจะเอาข้าวมาให้หมี จุนซูก็เลยเดินตามมาด้วย เพราะอยากรู้นะฮะ ว่าโรงเรียนเรามีหมีตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
เพียงแค่ยูชอนได้ยินคำตอบซื่อๆของคนข้างกายก็ต้องถึงกับหลุดขำออกมา ส่วนจุนซูผู้ที่ยังไม่รู้ว่าทำไมยูชอนถึงก็ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ
และเมื่อขำจนพอในแล้วยูชอนก็ใช้สายตามองไปยังคู่ของคนตรงหน้าที่กำลังนั่งกินข้าวไป ทะเลาะกันไปอยู่ ก่อนที่จะหันมาให้คำตอบกับคนร่างเล็กที่นั่งหน้าซื่ออยู่ข้างๆ
“ ก็ตอนนี้ใครล่ะครับที่กินข้าวของแจจุงอยู่ คนนั้นนั่นแหละที่เป็นหมี “
ถึงยูชอนจะพูดออกมาแบบนั้น จุนซูก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี ก่อนจะกระจ่างแจ้งในคำตอบทันทีเมื่อหันไปเห็นพี่ยุนโฮที่กำลังนั่งเคี้ยวข้าวตุ้ยๆอยู่ข้างๆแจจุงที่นั่งด่าไปด้วย
.
.
เห๊อ... ช่างเป็นการกินข้าวที่แสนสงบจริงๆ
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
หลังจากที่ไปให้อาหารหมีหื่นเรียบร้อยแล้ว แจจุงกับจุนซูก็รีบกลับห้องของตนเองทันที เพราะตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว
‘ ฮึ่ย... ถ้าชั้นเข้าเรียนสายนะ ชั้นจะไปเอาเรื่องนายแน่ มัวแต่ชวนทะเลาะอยู่ได้ โมโหโว้ยๆ!!~’
แจจุงเดินกระทืบเท้าเข้าห้องเรียนไปอย่างคนหัวเสีย และเมื่อทั้งสองคนนั่งลงที่เก้าอี้ประจำของตนเอง อาจารย์สาวก็เดินเข้ามาสอนทันที ช่างเป็นการเข้าเรียนทันเวลาอย่างหวุดหวิด...
เสียงของอาจารย์ที่บรรยายวิชาเศรษฐศาสตร์นั้น ไม่ได้ลอยเข้าหูของคนร่างบางคิม แจจุงแต่อย่างใดเลย แจจุงเอาแต่นั่งจ้องหน้ากระดาษที่ถูกเปิดค้างไว้ตั้งแต่อาจารย์เข้ามาสอน และก็ยังคงไม่มีวี่แววที่จะเปิดมันไปยังหน้าต่อไปอีกเลย ตอนนี้ในหัวของคนร่างบางมีแต่คำว่า
‘ ชั้นทำลงไปได้ยังไง ‘
และ
‘ นี่ชั้นทำอะไรลงไปเนี่ย!!!~’
สิ่งเหล่านี้แหละที่ตอนนี้มันกำลังวิ่งพล่านไปทั่วทั้งหัวสมองของแจจุง หลังจากที่ได้มานั่งคิดย้อนถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อช่วงกลางวันแบบละเอียดแล้วนั้น แจจุงก็รู้สึกได้ว่าสิ่งที่เค้าทำลงไปนั่นมันเข้าข่ายว่า... เค้าในตอนนั้นกำลังหึง ชอง ยุนโฮอยู่นั่นเอง
‘ อ๊ายยยยย!!~ นี่ชั้นเป็นอะไรไปเนี่ย ‘
แจจุงได้แต่นั่งทึ้งหัวตัวเองไปมา จุนซูที่กำลังให้ความสนใจอยู่กับอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่หน้าห้องละสายตามามองเพื่อนข้างตนเองทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้แจจุงกำลังตกอยู่ในห้วงของคำว่า
‘ เพิ่งจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ‘
จุนซูมองอาการทึ้งหัวของตนเองไปมาของเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มขำๆ ก่อนจะหันไปตั้งใจฟังอาจารย์สอนต่อ
‘ ชอบเค้าแล้วล่ะซิ... แจจุงเอ๋ยยยยยย ‘
‘ นี่ชั้นลืมไปแล้วรึไงว่ะเนี่ย ... หมอนั่นมันสามารถไล่เราออกจากโรงเรียนได้เลยนะ ทำไมถึงกล้าเดินไปหักหน้าหมอนั่นแบบนั้นว๊า... ฮื่อออออ คิม แจจุงไม่รู้ตัวจริงๆน๊า.. สงสัยที่ทำแบบนั้นลงไปต้องมีผีเข้าสิงเค้าแน่ๆเลย แต่...เอะ เดี๋ยวก่อน!! หมอนั่นคงไม่ไล่เราออกหรอก เพราะถ้าจะไล่อาจจะไล่ออกไปนานแล้ว เพราะคราวนี้ยุนโฮก็ผิดเหมือนกัน เชอะๆ ลองมาว่าชั้นดูซิ จะเอามีดสับกระบาลเลย คอยดู ฮึ่ยยย!!~ ‘
ไม่ว่าอาจารย์จะพูดอะไร ต้นทุน กำไร อุปสงค์ อุปทาน หรืออะไรก็แล้วแต่นั้น แจจุงก็ไม่มีกระจิตกระใจที่จะฟังแล้ว เพราะมีเรื่องหมีๆให้คิดมากกว่าที่จะมานั่งสนใจอาจารย์สอน
แถบจะเรียกได้ว่าตลอดคาบบ่ายที่มีวิชาเรียนนั้นแจจุงไม่ได้ตั้งใจฟังอาจารย์ที่เข้ามาสอนพูดเลย ดวงตากลมมัวแต่นั่งมองหน้ากระดาษที่ตนเองเขียนเล่นฆ่าเวลาที่ล้วนแล้วแต่มีคำที่เกี่ยวกับชอง ยุนโฮทั้งนั้น
‘ ไอ้หน้าหมี ’
‘ไอ้หมีหื่นลามกเอ้ยยยยย .... ’
และ
‘ ชอง ยุนโฮ หมีหื่นหน้าหม้ออออออ ....’
ทุกๆ สรรพนามที่คนสวยต่างคิดขึ้นมาให้คนร่างสูงนั้น ถูกบรรยายสรรพคุณทั้งหลายเหล่านั้นลงบนกระดาษที่เคยว่างเปล่า จนบัดนี้มันกลับเต็มแน่ไปด้วยคำที่ถูกคนร่างบางสรรสร้างขึ้นมาด้วยมันสมองของตนเองล้วนๆ จนล่วงเลยมาถึงเวลาเลิกเรียน
ทันทีที่เสียงออดของโรงเรียนดังขึ้น บรรดานักเรียนที่รอคอยเวลาให้เสียงออดดังก็รีบพากันโกยเอาของที่อยู่บนโต๊ะลงกระเป๋านักเรียนของตนเองทันที และแจจุงกับจุนซูก็ได้รวมอยู่ในพวกคนกลุ่มนั้นด้วย แจจุงผู้ที่ไม่มีสมาธิเลยตลอดการเรียนกำลังกดโทรศัพท์โทรออกไปหาคนที่เพิ่งจะมาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านเค้า และเมื่อนัดแนะกับชางมินได้แล้วว่าจะไปยืนรอเด็กหนุ่มร่างสูงที่หน้าโรงเรียนแจจุงและจุนซูก็พากันเดินออกจากห้องเรียนทันที
และวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่แจจุงกลับบ้านเองโดยไม่มีสารถีสุดหล่อแสนรวยขับรถไปส่ง เพราะยุนโฮได้บอกกับแจจุงแล้วว่าช่วงนี้มีงานของทางบ้านที่ต้องไปจัดการให้เรียบร้อยเลยไม่ค่อยจะมีเวลา ซึ่งแจจุงก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก แต่ก็อดรู้สึกโหวงๆยังไงชอบกล
แจจุงและจุนซูมายืนรอชางมินที่หน้าโรงเรียนเป็นเวลาเกือบจะสิบนาทีแล้ว แต่คนร่างสูงนั่นก็ยังไม่โผล่หัวมาสักที แจจุงกำลังจะควักโทรศัพท์ของตนเองออกมาโทรตามพอดี แต่ก็ต้องเก็บความคิดนั้นพับเก็บลงไป เพราะคนที่กำลังจะโทรตามนั้น กำลังเดินยิ้มร่ามาทางที่พวกเค้าสองคนนั้นยืนอยู่แล้ว
“ อ่า... โทษทีนะครับพี่แจจุง พอดีผมแวะไปซื้อขนมปังที่โรงอาหารมากินระหว่างที่เราเดินกลับบ้านไปด้วยหนะ “
ชางมินที่เห็นพี่หน้าสวยยืนมองแบบนิ่งๆ รีบพูดขอโทษขอโพยทันที
แจจุงละสายตาจากคนตรงหน้ามามองถุงขนมที่คนร่างสูงนั้นถือมา
‘ เหอะๆ แน่ใจหรอว่าซื้อมากินตอนเดินกลับบ้าน ไม่ใช่ซื้อมากินทั้งวัน อะไรมันจะเยอะขนาดนั้น!!!~ ‘
“ อื้ม รีบกลับบ้านเถอะ พี่มีรายงานที่จะต้องรีบทำด้วยหนะ “
วันนี้จุนซูก็คงจะมาฝากท้องไว้ที่บ้านเค้าอีกเช่นเคย อีกไม่นานบ้านเค้าก็คงจะมีสมาชิกเพิ่มเข้ามาอีกล่ะมั้ง ถึงวันนี้คาบบ่ายเค้าจะไม่ได้ตั้งใจฟังเรื่องที่อาจารย์สอน แต่เค้าก็ยังมีสติพอที่จะได้ยินว่าอาจารย์นั้นส่งให้ทำรายงานมาส่งในวันพรุ่งนี้ เค้าเลยนัดกับจุนซูว่าจะช่วยกันทำให้เสร็จตั้งแต่วันนี้เลย วันอื่นๆจะได้ไปทำอย่างอื่นที่อยากทำกัน
‘ ว้าว... นี่เค้าก็เป็นคนที่ขยันเหมือนกันนะเนี่ย ’
ตลอดระยะเวลาในการเดินกลับบ้านนั้นก็ไม่ได้เงียบเหงา เพราะจุนซูผู้เป็นคนมีอัธยาศัยดีนั้นก็ได้ชวนชางมินคุยนู่น คุยนี่ไปตลอดทาง และยังเพิ่มสีสันโดยการแย่งขนมชางมินนั้นกินไปตลอดทางด้วย จนแจจุงต้องคอยเข้ามาห้ามปรามเป็นระยะๆ พอชางมินไม่แบ่งขนมให้จุนซูกิน จุนซูก็จะงอน จนชางมินใจอ่อนยอมแบ่งให้ดินนั่นแหละ ถึงจะกลับมายิ้มร่า หน้า บานเหมือนเดิม
ใช้เวลาไม่นานนักก็เดินมาถึงบ้านของแจจุง วันนี้แจจุงเลือกที่จะเดินเข้าประตูทางด้านหลังของบ้านที่อยู่ติดตรงห้องครัว เพราะดูจากวันนี้แล้วลูกค้าของแม่ดูจะเยอะเป็นพิเศษ แจจุง จุนซู และ ชางมิน เดินเข้าไปทักทายแม่ของแจจุงสักพักหนึ่งเป็นการายงานให้เจ้าของบ้านได้รู้ว่าสมาชิกทั้งหมดของบ้านกลับมาแล้ว แล้วยังมีแขกหน้าเดิมพ่วงกลับมาอีกด้วย และเมื่อทักทายกันจนหอมปากหอมคอแล้ว แจจุงก็พาจุนซูขึ้นไปยังห้องนอนของตนเองทันที ส่วนชางมินก็ขนขนมที่คุณน้าคนสวยเอามาให้ขึ้นไปกินบนห้องนอนของตนเอง
ปัง!!~
ทันทีที่เสียงประตูห้องนอนถูกปิดลง จุนซูก็ล้มตัวลงนอน แล้วกลิ้งๆเล่นบนที่นอนนั่นเล่นทันที
“ อ๊า... สบายจังเลย แจจุงๆ ทำรายงานเสร็จแล้ว เอาเค้กมาให้กินด้วยน๊า....”
อ้อนของร้องกันแบบเป็นเรื่องปกติ เพราะมากินของบ้านแจจุงก็ไม่เคยจะเสียตังค์สักที เพราะอย่างนี้ไง จุนซูถึงชอบที่จะมาบ้านแจจุงอยู่บ่อยๆ
“ เหอะๆ ทำรายงานให้เสร็จก่อนจะดีมั้ย เอ้า!!~ ไปเปิดคอมไป เดี๋ยวชั้นขออาบน้ำก่อน นายหาข้อมูลไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวชั้นอาบน้ำเสร็จแล้วจะมาช่วย ”
จุนซูพยักหน้าขึ้นลงเป็นการเข้าใจ ก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดคอมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานใกล้ๆนั้น แต่สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับช่อดอกไม้ที่เริ่มเหี่ยวแล้วนั้น
‘ เอ๋? ใครซื้อให้แจจุงเนี่ย ... เดี๋ยวค่อยถามดีกว่า ‘
เวลาผ่านไปสักพักประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก ก่อนที่ร่างบางจะก้าวออกมาด้วยเสื้อผ้าแบบสบายๆที่ใส่เวลาอยู่บ้าน
แจจุงลากเอาเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างๆกับจุนซู ก่อนทั้งสองคนจะตั้งใจช่วยกันค้นหาข้อมูลที่ต้องการออกมาทำรายงาน อย่างขยันขันแข็ง และเมื่อทำกันสองคน รายงานทั้งสองเล่มนี้จึงเสร็จออกมาภายในเวลาสองชั่วโมงกว่า
“ เห๊อ.... เสร็จสักที ”
ทันทีที่รายงานนั้นเสร็จเรียบร้อย แจจุงก็ล้มตัวลงนอนแผ่หลาอยู่กลางเตียงทันที
“ ใช่... เค้าเริ่มหิวแล้วอ่ะ แจจุง “
อาจจะเป็นเพราะใช้พลังงานเยอะเกินไปเสียหละมั้ง ตอนนี้จุนซูเลยรู้สึกหิวขึ้นมาอีกแล้ว
“ นายเพิ่งกินขนมไปกับชางมินไปเองนะจุนซู หิวอีกแล้วหรอ? “
แจจุงยกคอขึ้นมาจากที่นอนอันแสนนุ่มของตนเองเล็กน้อยขณะถามเพื่อนรัก
“ อื้อ เค้าหิวแล้วล่ะ ”
พูดขึ้นมาพร้อมกับส่งรอยยิ้มกว้างๆไปให้กับคนที่นอนอยู่บนเตียง
แจจุงหันไปมองนาฬิกาที่ฝาผนังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปบอกกับเพื่อนรักที่นั่งมองตาปริบๆอยู่
“ เดี๋ยวอีกสักพักก็ได้กินล่ะ เดี๋ยวค่อยลงไปละกัน ”
จุนซูพยักหน้าขึ้นลงเป็นการเข้าใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนมีเรื่องที่จะคุยกับแจจุงอยู่พอดี
“ เออ จริงซิ แจจุงดอกไม่ช่อนี้ใครให้มาหนะ “
แจจุงลุกขึ้นมานั่งมองเพื่อนรัก ก่อนจะมองไปตามนิ้วเรียวนั่น แล้วก็พบเข้ากับช่อดอกไม้ที่จุนซูถามถึง
“ อ้อ ยุนโฮหนะ ”
“ ว้าว!!!~ รุ่นพี่เค้าให้ดอกไม้นายด้วยหรอเนี่ย น่าอิจฉาจังเลย ให้กันในวันที่ไปเดทใช่มั้ย ฮ๊า.. โรแมนติกจังเลยน๊า อยากได้จากพี่ยูชอนบ้างจัง ”
แจจุงได้แต่นั่งฟังเพื่อนรักพูดอย่างปลงๆ ก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้นมาจับจี้รูปดาวที่ห้อยอยู่ที่คอของตนเอง จุนซูที่หันมาเห็นพอดี ถึงกับตาวาว เพราะเค้าจำได้ว่าแจจุงไม่เคยใส่สร้อยนี่นา ...
“ สร้อยสวยจังเลยนะแจจุง ซื้อมาใส่ตอนไหนเนี่ย ทำไมชั้นไม่เห็นรู้เลย ”
จุนซูรีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ แล้ว เดินเข้ามานั่งลงอยู่ที่เตียงตรงหน้าของแจจุงทันที
แจจุงรู้สึกอายเล็กๆ ที่ต้องตอบคำถามนี้กับจุนซู
“ เอ่อ ยุนโฮซื้อให้หนะ ”
“ ห๊า!!!!!~
ถึงกับซื้อสร้อยให้กันเลยหรอเนี่ย น่าอิจฉาๆ “
แจจุงได้แต่ก้มหน้ายิ้มแบบอายๆ เค้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเค้าต้องรู้สึกอายกับการที่อีกฝ่ายซื้อของให้ด้วยก็ไม่รู้
จุนซูเงียบคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยปากถามคำถามบางอย่างออกมา คำถามที่ทำให้แก้มขาวๆของแจจุงนั้นร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
.
.
.
“ นี่แจจุง ... นายชอบพี่ยุนโฮใช่มั้ย? ”
TBC .. . .^ ^
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
Talk ::
อ่า .... สวัสดีนะค่ะ 55 555
คราวนี้มาต่อช้าสักเล็กน้อย เพราะใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ก็มีเรื่องต้องไปทำบ้าง ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ
อ่าและพอเปิดเทอมแล้ว มุกก็อาจจะมามาอัพช้าบ้างนะค่ะ เพราะตอนนี้อยู่ม.6แล้ว ต้องตั้งใจเรียนนิดนึง 5555 แถมสายวิทย์ก็ใช่ว่าจะมีงานน้อย = = ช่วยรอกันด้วยนะค่ะ เพราะยังไงมุกก็ต้องมาอัพอยู่แล้ว อาจจะช้าบ้าง
ช่วยเข้าใจด้วยน๊า...
ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะยังไงมุกก็ต้องแต่งให้จบอยู่แล้ว ขอให้รอกันนะค่ะ อาจจะสัก4ถึง5วันล่ะมั้งค่ะ ถึงจะมาอัพ ^ ^
อ่า.... มุกขอบคุณทุกคนเลยนะค่ะ ที่เข้ามาอ่านกัน 5 5555
คอยติดตามกันและคอยเม้นให้กันตลอดเลย อิอิ >< ขอบคุณจริงๆน๊า ....
ขอบคุณที่ชอบเรื่องนี้ค่ะ ขอให้อ่านกันต่อๆไปด้วยน๊า ... ยังคงยืนยัง ว่าอ่านๆไปเดี๋ยวก็คงจะมีสาระ 555
ตอนนี้ฟิคของเราก็ดำเนินมาถึงตอนที่ 8 แล้ว มีความสุขในการอ่านบ้างรึป่าว? 55 555
อ่านกันต่อไปด้วยนะค่ะ อย่าเพิ่งทิ้งเรื่องนี้กันนะค่ะ T T
แล้วเจอกันในตอนหน้าค่ะ
ความคิดเห็น