ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ☆--- Mystery Love ---☆ [TVXQ][YAOI]

    ลำดับตอนที่ #8 : ,,, Part 7 ,,, เมื่อคิมแจจุงปราบผี

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 57


    Title         :  Mystery Love
    Type        :  Long fiction
    Author      :  *..MooKiiE..*
    Category :  Comedy / Romance
    Paring      :  Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu

    Note         :  เรื่องนี้มุกได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง The Master’s Sun นะคะ จึงทำให้เนื้อหาบางอย่างอาจคล้ายคลึงกันบ้าง

                                                                                                                                                                                                                                                              

    *******************************************************

     
     

    อย่าลืมกดเป็นแฟนพันธุ์แท้ฟิคเรื่องนี้กันนะคะ ^^

    Part 7

     

               

                “ฉันให้เวลานายอีกสองวัน

                “ถ้านายยังกำจัดผีตัวนั้นไม่ได้ฉันก็จะกำจัดนายเอง!

                   

                    นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่ชองยุนโฮพูดกับเขาหลังจากที่ภารกิจปราบผีเมื่อคืนต้องล้มเหลวไม่เป็นท่าเนื่องจากผีสาวตนนั้นหายตัวไปอย่างลึกลับ ขนาดชางมินเองก็ยังหาเธอไม่พบ วิญญาณผีตนอื่นๆ ที่เขาเข้าไปสอบถามต่างก็พากันส่ายหน้ายามที่เขาถามถึงเธอ

     

                    ให้ตายเหอะ! นี่เขาจะกลายเป็นฝ่ายที่โดนกำจัดออกไปจากที่นี่อย่างงั้นหรอ?

     

                    “ไม่ได้นะ! ฉันไม่ยอมไปง่ายๆ แบบนั้หรอก!!

                    แจจุงตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง

     

                    เนื่องจากอยู่ในช่วงทำภารกิจปราบผีอยู่ ชองยุนโฮจึงใจดีอนุญาตให้เขาละเว้นจากการทำหน้าที่ทำความสะอาดไปก่อน อันที่จริงน่าจะเป็นการกำจัดเขาให้พ้นจากสายตาเสียมากกว่า นี่เขาไม่ได้ไปทำตัวเกะกะอะไรเลยนะ แค่แอบแว๊บไปดูชองยุนโฮที่ห้องทำงานบ้างเป็นครั้งคราว อาสาเอาน้ำไปเสิร์ฟให้ทุกๆ ครึ่งชั่วโมง เข้าไปเช็ดกวาดปัดถูในห้องอยู่บ่อยๆ ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้ส่งเสียงหรือก่อกวนอะไรเลยนะจริงๆ

     

                    “พี่แจจุง!!

                    เสียงของชิมชางมินที่มาพร้อมกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันทำเอาคิมแจจุงที่กำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ

     

                    “ชางมิน! พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง ถ้าพี่ตกใจจนช็อคตายไปจะทำไง”

                    แจจุงหันไปดุชางมินที่ทำหน้าตาทะเล้นไม่ได้รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองเลยสักนิด

     

                    “ก็คงเสียใจ”

                    ชางมินตอบกลับมาด้วยใบหน้านิ่งๆ

     

                    แจจุงเกือบจะเชื่อในคำพูดนั้นอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่ได้ฟังประโยคต่อมาเสียก่อน

     

                    “คงจะไม่มีใครซื้อกาแฟให้ผมกินอีกแล้ว”

                   

                    แจจุงฟังแล้วได้แต่ทำหน้าเพลีย

                    “สรุปฉันมีค่ากับนายแค่เรื่องกินซินะ”

     

                    “เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยเสียใจทีหลัง ที่ผมมาที่นี่เพราะผมมีข่าวดีมาบอกพี่แหละ รับรองเลยว่าถ้าพี่ได้ฟังแล้วพี่จะต้องรีบไปซื้อกาแฟมาให้ผมเป็นสิบๆ แก้ว”

     

                    “ให้มันเป็นข่าวดีจริงๆ ก่อนเหอะ มีอะไรก็รีบๆ พูดมาเลย คนยิ่งเครียดๆ อยู่”

     

                    ชางมินทำหน้าทะเล้น

                    “อย่าลืมพิซซ่าของผมล่ะ”

     

                    “แถมกาแฟอีกสองแก้วเลยเอ้า!! รีบๆ พูดมา”

     

                    ชางมินฉีกยิ้มด้วยความพึงพอใจ ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดบางสิ่งบางอย่างออกมา

                    “ผมหาผีผู้หญิงคนนั้นเจอแล้วล่ะ”

     

                     แจจุงฟังแล้วก็ถึงกับทำตาโตด้วยความตื่นเต้น

     

                    “และผมก็รู้แล้วด้วยว่าเธอต้องการให้พี่ช่วยเธอเรื่องอะไร”

     

                    แจจุงมองชางมินด้วยสายตาซาบซึ้งและดีใจแบบสุดๆ

                ดีมากชิมชางมิน งานนี้ถือว่านายทำได้ดีมาก

     

                    “แล้วพี่จะเพิ่มไก่ทอดให้นายนะ”

    .

    .

    .

    .

    .

                    “นี่ครับสิ่งที่นายน้อยต้องการ”       

                    เลขาคิมวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะของชองยุนโฮ หลังจากที่ได้รับคำสั่งให้ช่วยสืบเรื่องอะไรบางอย่างให้เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว

     

                    ยุนโฮรับแฟ้มนั้นมาเปิดดู เขากวาดสายตาอ่านเอกสารต่างๆ ที่อยู่ภายในนั้นอย่างเงียบๆ ฝ่ามือหนาผลิกแผ่นกระดาษไปทีละหน้าอย่างช้าๆ เรียวคิ้วเข้มค่อยๆ ขมวดเป็นปมขนาดเล็กยามที่สายตาคมไล่กวาดสายตาผ่านตัวอักษรไปทีละตัวในแต่ละบรรทัด

     

                    “ขอบคุณมากนะครับเลขาคิมสำหรับข้อมูลพวกนี้”

     

                    คนสูงอายุกว่าฉีกยิ้มบาง

                    “ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วที่ต้องคอยช่วยเหลือเรื่องการทำงานของนายน้อย”

     

                    ยุนโฮขมวดคิ้วก่อนที่จะบ่นพึมพำออกมาเบาๆ

                    “นายน้อยอีกละ!

     

                    เลขาคิมหัวเราะออกมาเบาๆ

                    “ว่าแต่คุณจะเอาข้อมูลพวกนี้ไปทำไมกันครับ? ผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรอครับ?

     

                    ยุนโฮถอนหายใจออกมา เขาเอนหลังพิงพนักพิงอย่างเหนื่อยล้ากับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ยิ่งนานวันเรื่องผีในห้างคิงดอมก็เป็นยิ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่โตที่ประชาชนภายนอกให้ความสนใจ แต่เพราะเรื่องนี้นั่นเองที่ทำให้ลูกค้าของเขาน้อยลง เปิดโอกาสให้คู่แข่งได้แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปอย่างง่ายดาย

     

                    ไม่มีอะไรพิสูน์ได้ว่าผีผู้หญิงที่อยู่ในรูปนั้นเป็นเรื่องจริงไร้การตัดต่อหรือไม่ ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าห้างของเขามีผีจริงๆ และก็ไม่มีอะไรที่จะยืนยันได้อีกนั่นแหละว่าคิมแจจุงจะสามารถจัดการปัญหานี้ได้

     

                    เพียงแค่นึกถึงใบหน้าเหวอๆ มึนๆ ของอีกฝ่ายชองยุนโฮก็แทบจะอยากหัวเราะออกมาอยู่แล้ว

                    “คนเบ๊อะๆ แบบนั้นจะไปทำอะไรได้”

     

                    “ครับ? เมื่อกี้นายน้อยพูดอะไรนะครับ?

     

                    “ไม่มีอะไรครับ”

                    ยุนโฮรีบเอ่ยปากปฏิเสธก่อนที่จะทำทีเป็นก้มหน้าลงดูแฟ้มที่อยู่ในมืออีกครั้ง

     

                    “ผู้หญิงคนนี้ คุณคิดว่าเธอเป็นผีที่อยู่ในรูปนั้นรึป่าวครับ?

                    เลขาคิมตัดสินใจถามในสิ่งที่ตนเองสังสัยออกไป

     

                    ยุนโฮนิ่งไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาและเอ่ยปากตอบกลับไป

                    “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะผมก็ยังไม่เคยเห็นผีผู้หญิงคนนั้นเองกับตา”

     

                    บังเอิญเขาไม่ใช่คนเห็นผีซะด้วยซิ และบุคคลที่อ้างว่าตัวเองเห็นผีก็ไม่ได้บอกอะไรกับเขาเลยว่าผีตนนั้นเป็นใคร คาดว่าหมอนั่นเองก็คงจะไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเห็นผีจริงรึป่าว บอกจะมาปราบผีให้ ปราบยังไงเห็นเดินหาผีทั่วห้างเกือบทั้งคืนก็ยังหาไม่เจอ! น่าจะไล่ออกตั้งแต่เมื่อคืนให้รู้แล้วรู้รอด!

     

                    แล้วนี่นายเบ๊อะนั่นไปปราบผีถึงไหนแล้วล่ะวันนี้เขายังไม่เห็นหน้าเลย หรือถอดใจลาออกไปแล้ว หึ! ก็ดีเขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไล่

                   

                    “วันนี้หมอนั่นไปไหนซะล่ะครับ”

                    ยุนโฮถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ในขณะที่ยังคงให้ความสนใจอยู่ที่เอกสารภายในมือ

     

                    “หมอนั่น? ใครครับ?

                    เลขาคิมถามกลับไป แม้ภายในในจะมีใครอยู่เอาไว้ในในแล้วก็ตาม

     

                    “คิมแจจุง”

     

                    เลขาคิมอมยิ้มหลังจากที่ได้ฟังคำตอบจากนายน้อยตระกูลชองก่อนที่จะรีบตอบคำถามของยุนโฮกลับไป

                    “เมื่อชั่วโมงที่แล้วตอนที่นายน้อยประชุมอยู่ เขามาขออนุญาตผมไปไหนสักที่ เห็นบอกอยู่แถวๆ ชองดัมดง”

     

                    “ชองดัมดง?

                    ยุนโฮเลิกคิ้วขึ้น เขาพลิกหน้ากระดาษกลับไปที่หน้าแรก ดวงตาคมกวาดสายตามองหาที่อยู่ของผู้หญิงคนนี้อย่างรวดเร็ว

     

                    “ชองดัมดง……. หรือว่า….

                    ยุนโฮลุกออกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว เขารีบเดินออกปากห้องทำงานพร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารนั้นติดมือไปด้วย  เลขาคิมยืนมองด้วยความมึนงงก่อนที่จะรีบเดินตามยุนโฮออกไป

     

                    “นายน้อยจะไปไหนครับ?

     

                    “ชองดัมดง”

     

                    “เอ่อ”

                    เลขาคิมอ้าปากเตรียมจะพูด แต่ก็โดนยุนโฮพูดสวนกลับมาเสียก่อน

     

                    “ผมจะไปคนเดียว ไม่ต้องตามมานะครับ”

                    เมื่อพูดจบแล้วชองยุนโฮก็เดินเข้าลิฟต์พร้อมกับกดปุ่มปิดประตูไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เลขาคิมได้แต่ยืนทำหน้างงอยู่ที่หน้าลิฟต์คนเดียว แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เขาก็พอจะรู้อยู่บ้างว่านายน้อยจะไปหาใคร

     

                    “อ่าคงจะไปช่วยกันปราบผีซินะ”

    .

    .

    .

    .

    .

                    เงียบมันเงียบเกินไปมันเงียบเกินกว่าที่ควรจะเป็น

     

                    จุนซูกวาดสายมองดูบรรยากาศหน้าฟร้อนอย่างพิจารณา เขาเองก็ยังงงๆ มึนๆ อยู่เหมือนกันที่ตัวเองไม่ถูกไล่ออกหรือโดนต่อว่าอย่างที่ควรจะเป็น ก็แหมวีรกรรมที่เขาไปก่อเอาไว้เมื่อวานมันน้อยเสียที่ไหน ต่อยหน้าเจ้าของโรงแรมพร้อมกับตะโกนด่าอย่างไม่ไว้หน้าแบบนั้น

     

                อ่าไม่คิดว่าตัวเองจะยังมีชีวิตรอดอยู่ที่นี่ได้อีกนะเนี่ย

     

                    “หรือหมอนั่นจะลงมาด่าเราที่แผนกเอง”

                    จุนซูพึมพำออกมาเบาๆ เขาขมวดคิ้วจนหน้ายุ่ง

     

                    จินฮีที่ยืนอยู่ไม่ไกลเห็นสีหน้าที่ดูวิตกกังวลของจุนซูก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้จึงต้องเดินเข้ามาถามไถ่

                    “ทำหน้ายุ่งเชียว เป็นอะไรรึป่าวจุนซู?

     

                    จุนซูสะดุ้งเพราะมัวแต่คิดอะไรอยู่คนเดียวก่อนที่เขาจะหันมายิ้มแหยๆ ให้กับพี่สาวคนสวย

                    “ไม่มีอะไรฮะ แค่กำลังคิดเรื่องรายงานนิดหน่อย”

     

                    “ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องไปทำงานที่ร้านอาหารก็ได้นะ เดี๋ยวพี่บอกเขาให้”

                    จีนฮีพูดด้วยความเป็นห่วง

     

                    จุนซูส่ายหน้าพร้อมกับฉีกยิ้มบาง

                    “ไม่เป็นไรฮะ ถ้าไม่ทำแล้วผมจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเทอมล่ะ”

     

                    “เห๊อตามใจเราก็แล้วกัน แต่ถ้ามีอะไรก็มาปรึกษาพี่ได้นะ”

     

                    “ครับ”

                    จุนซูพยักหน้ารับ เขาหันหน้าพร้อมกับกวาดสายตามองดูรอบๆ กาย เมื่อเห็นว่าทางสะดวกคิมจุนซูก็ตัดสินใจถามในสิ่งที่ตนเองสงสัยออกไป

     

                    “พี่จินฮีฮะ คือว่าวันนี้…… คุณยูชอนเขาไม่ลงมาที่แผนกหรอฮะ?

     

                    หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

                    “ไม่รู้ซิ คุณยูชอนไม่ได้บอกอะไรไว้ ถามทำไมจ๊ะ? เออย่าบอกนะว่าจุนซูก็หลงเสน่ห์คุณยูอนเข้าเหมือนกัน”

     

                    ฟังคำพูดนั้นแล้วคิมจุนซูแทบเบ้ปากออกมาอย่างทันที เขารีบส่ายหัวพึบพั่บพร้อมกับเอ่ยปากปฏิเสธ

                    “ไม่ใช่ฮะ!

     

                    “คนแบบหมอนั่นใครจะไปหลงลงวะ แหวะ!

                    ก่อนจะแอบพึมพำกับตัวเองเบาๆ

     

                    จีนฮีหัวเราะออกมา

                    “มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณยูชอนรึป่าวจ๊ะ บอกพี่ได้นะ เดี๋ยวพี่ไปบอกเขาให้”

     

                    “เรื่องคุยคงไม่มี แต่เรื่องด่านี่มีเพียบเลย”

     

                    “เอ๊ะ?

                    จีนฮีทำหน้างง

     

                    จุนซูฉีกยิ้ม             

                    “ไม่มีอะไรแล้วล่ะครับ พี่จินฮีไปทำงานต่อเถอะฮะ”

     

                    จีนฮีถึงจะยังงงๆ อยู่แต่เธอก็พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะเดินกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ จุนซูถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ส่วนภายในหัวก็คิดนู่นคิดนี่เต็มไปหมด

     

                    สรุปปาร์คยูชอนจะเอายังไงกับเขา อันที่จริงเมื่อคืนนี้เขานอนคิดเรื่องหาที่ฝึกงานใหม่พร้อมกับหาข้อมูลเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเพราะคิดว่ายังไงเรื่องนี้ปาร์คยูชอนก็คงจะไม่ปล่อยให้จบง่ายๆ แน่ ก็เขาเล่นจัดเต็มใส่หมอนั่นซะขนาดนั้น วันนี้เขาเตรียมตัวจะเข้ามาลาพวกพี่ๆ ที่แผนกพร้อมกับไปลาออกที่ห้องอาหารเสียด้วยซ้ำ แต่พอมาถึงที่ฟร้อนก็ต้องแปลกใจเพราะมันไม่ได้มีเรื่องเหมือนที่เขาคิดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนทุกคนจะไม่รู้ว่าเมื่อวานนี้เขาไปก่อวีรกรรมอะไรไว้ เป็นไปได้มั้ยว่าเรื่องเหล่านั้นยังไม่ถูกส่งลงมา แต่การมีเรื่องกับผู้บริหารไม่น่าจะปล่อยให้เงียบได้หนิ เพียงแค่ยูชอนเอ่ยปากบอกกับผู้จัดการ แค่โทรมาแป๊บเดียวคิมจุนซูก็ต้องระเห็ดออกจากโรงแรมนี้ไปแล้ว ไม่มีโอกาสได้มายืนเสนอหน้าแบบนี้หรอก

     

                    “หรือว่าหมอนั่นจะไม่เอาเรื่องเราวะ”

                    แต่ไม่น่าใช่เมื่อวานก็แอบขู่เขาอยู่เหมือนกัน

     

                    “ช่างเหอะ! ไม่คิดละเว้ย!

     

                จะลงมาด่าก็มา จะไล่ฉันก็พร้อมไป! ไม่กลัวมันหรอก ไอ้ไก่ลามก!!’

     

                    หลังจากนั้นจุนซูก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ เขาต้อนรับแขกทุกคนตามที่พี่ๆ สอน ยิ้มแย้มแจ่มใสพูดคุยทักทายกับแขกได้เป็นอย่างดีแม้จะมีเรื่องให้อารมณ์เสียอยู่ในใจ แต่เขาก็สามารถแยกมันออกจากกันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จนเวลาผ่านไปสักพัก อยู่ๆ พี่จินฮีที่ขอตัวไปรับโทรศัพท์จากทางผู้บริหารก็เดินเข้ามาบอกกับเขาว่า

     

                “จุนซูจ๊ะคุณยูชอนโทรมาบอกเมื่อกี้ว่าหลังพักกลางวันเสร็จให้ขึ้นไปพบที่ห้องด่วน”

     

                นั่นไงสาส์นท้ารบได้ถูกส่งมาแล้ว

                และมีหรอที่คิมจุนซูจะหนี ไม่มีทางซะละ เอาเป็นว่าเขาขอรับคำท้าในศึกครั้งนี้ก็แล้วกัน

     

                    มาซิ! ถ้าลามกมาเดี๋ยวคิมจุนซูจะจับถอนขนให้เลย!!!

    .

    .

    .

    .

    .

                    “บ้านหลังนี้หรอ? แน่จะนะว่านายพาฉันมาถูกน่ะ”

                    ดวงตากลมกวาดสายตามองดูบ้างหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความไม่แน่ใจ ก่อนที่จะหันหน้าไปถามเจ้าผีตัวแสบที่เป็นคนพาเขามาที่นี่

     

                    “ไม่รู้ดิ ทำไมไม่ถามเจ้าของบ้านเขาเองล่ะ”

                    ชางมินตอบกลับมาหน้าตาย

     

                    แจจุงเบ้ปาก          

                    “แล้วเธออยู่ให้ฉันถามมั้ยล่ะ!

     

                    ชางมินหัวเราะ ดวงตาคมมองทะลุไปทางด้านหลังของแจจุงก็ที่จะพยักเพยิดหน้าไปทางนั้น แล้วอยู่ๆ แจจุงก็เกิดความรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา ขนอ่อนๆ ของเขาตั้งลุกชันอย่างกะทันหันอย่างพร้อมเพรียงกัน เอาล่ะเซ้นส์สัมผัสที่หกของเขาเลยทำงานอีกแล้ว

                    “ขะข้าง….. หลังฉัน?

     

                    ชางมินไม่ตอบ เขาฉีกยิ้มพร้อมกับพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ

     

                ปึก!!!

                    สัมผัสเย็นวาบที่วางแหมะลงมาบนไหล่ของเขาทำเอาแจจุงสะดุ้งอย่างสุดตัว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสัมผัสนี้เป็นของใคร ก็ในเมื่อหางตาของเขามันเห็นอยู่แว๊บๆ ว่ามีมือขาวๆ มาวางอยู่ที่ไหล่เขา

     

                    “ซะ…. ซอนมี? ซอนมีหรอ?

                    ใช่แล้วชื่อของผีตนนั้นก็คือซอนมี เด็กสาววัยใส หน้าตาดี ฐานะทางบ้านก็ดี เธอกำลังจะสอบเข้ามหาลัยอยู่ไม่กี่เดือนข้างหน้า อนาคตของเธอกำลังจะสดใสสวยงามตามฉบับวัยรุ่นทั่วๆ ไป แต่แล้วความตายก็มาพรากเอาเธอออกจากสิ่งสวยงามพวกนั้นไปเสียก่อน

     

                    และเพราะมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้เธอไม่สามารถไปจากโลกนี้ได้อย่างสงบใจ เขาผู้ที่สามารถมองเห็นเธอ และบังเอิญอยากช่วยชองยุนโฮปลาบผี จึงต้องมารับหน้าที่ในการช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ไป

     

                    แต่ก็อยากจะขอร้องสักนิด ถ้าจะมาขอให้ช่วย ก็ช่วยมาแบบดีๆ จะได้มั้ย? มาแบบเลือดอาบ ตัวซีด ผมปิดไปครึ่งหน้าแบบนี้ถ้าเขาเห็นแล้วช็อคตายไปก่อนใครจะช่วยพวกคุณกันห๊ะ!? แต่ก็นั่นแหละ ได้แต่คิด แต่ไม่กล้าพูดออกไปหรอก แค่สบตาพวกเขา คิมแจจุงก็กลัวจนตัวสั่นแล้วเหอะ!

     

                    แจจุงต้องรวบรวมสติและความกล้าอยู่ตั้งนานกว่าที่จะทำใจหันหลังกลับไปมองเธอได้ และแค่เขาหันไป แค่นิดเดียว ย้ำ! ว่าแค่นิดเดียวใบหน้าขาวๆ ของเธอก็มาจ่อประชิดอยู่ตรงหน้าของเขาเสียแล้ว

     

                ทำอะไรไม่เกรงใจคนเห็นผีที่กลัวผีแบบเขาบ้างเลย ให้ตายซิ!’

     

                    “ละ…. หลังนี้ถะ…… ถูกแล้วใช่มั้ย?

                    แจจุงกลืนน้ำลยลงคืออึกใหญ่หลังพูดจบ

     

                กด…… กริ่ง……’

                    เสียงของเธอช่างเย็นชวนเสียวสันหลังซะเหลือเกิน มาพูดข้างๆ หูแบบนี้ใครเขาจะไปกล้าขยับตัวกันล่ะ แค่หายใจยังผวาเลย ณ จุดนี้ ไม่เกิดเป็นคิมแจจุงไม่รู้หรอกว่ามันน่ากลัวขนาดไหน

     

                    ชางมินที่ยืนกอดอกมองดูอยู่ข้างๆ หัวเราะพร้อมกับยิ้มขำ ก็ผีเหมือนกัน จะไปกลัวพวกเดียวกันทำไมล่ะ จริงมั้ย?

                    “เขาบอกให้พี่กดกริ่ง”

     

                    “ระรู้แล้ว!!

     

                    “ซะ…… ซอนมี คือ…… ไม่ต้องมายืนใกล้ผมขนาดนี้ก็ได้นะ คือ…..

     

                กด………กริ่ง

     

                    “รู้….รู้แล้ว!

                    ทำไมต้องขู่กันด้วยเล่า!

     

                    แจจุงสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนที่จะค่อยๆ เอื้อมมือออกไปกดกริ่งที่กำแพงข้างประตู เขากดย้ำลงไปประมาณสองครั้ง ก่อนที่จะถอยหลังออกมายืนรออยู่ข้างๆ ชางมิน ซอนมีเองก็ยืนอยู่ข้างๆ เขาเช่นกัน เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าชุดสีขาวที่เธอสวมใส่มีคราบเลือดที่เปื้อนเปรอะอยู่ทางด้านหลัง จริงๆ บางอารมณ์ใบหน้าขาวๆ ของเธอก็มีคราบเลือดเปื้อนด้วยเหมือนกัน

     

                เลือดพวกนี้คงจะได้มาจากอุบัติเหตุที่เป็นต้นเหตุการตายของเธอซินะ

                    แจจุงแอบลอบมองวิญญาณเด็กสาวด้วยแววตาสงสาร เขาเองก็มีน้องที่กำลังเรียนอยู่ ถ้าเกิดจุนซูเป็นอะไรไป เขาก็คงจะเสียใจมาก ขนาดเขาที่ไม่ใช่พ่อแม่ยังเจ็บปวด แล้วนับประสาอะไรกับบิดามารดาที่ให้กำเนิดเธอมา พวกเขาก็คงจะเจ็บปวดและโศกเศร้ากับการจากไปของซอนมีมากแน่ๆ ก็เพราะแบบนี้ไง เขาถึงอยากช่วยเธอ แม้เขาอาจจะไม่สามารถทำให้ความเจ็บปวดของพวกเขาหายไปได้ทั้งหมด แต่แค่ลดน้อยลง แม้จะน้อยนิด แต่มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี

     

                    และในตอนที่เขากำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั่นเอง ประตูบ้านบานเล็กก็ถูกเปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ใบหน้าของเธอยังอ่อนเยาว์อยู่ตามฉบับของผู้ดีมีเงิน แต่ใบหน้านั้นกลับเต็มไปด้วยความเศร้าประดับเอาไว้

     

                    “คุณเป็นใคร?

                    คุณป้าคนนั้นเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของแจจุงด้วยความสงสัย

     

                    แจจุงทำหน้าเหรอหรา เขารีบหันหน้ากลับไปมองซอนมีที่ยืนอยู่ข้างๆ ทันที

     

                แม่………’

     

                    สิ่งที่หลุดออกมาจากปากของซอนมีก็ทำให้เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือแม่ของซอนมีนั่นเอง และเธอก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เขามาที่นี่เสียด้วย

     

                    “เอ่อคือ……. ผมชื่อคิมแจจุงฮะ”

     

                    “ฉันจำได้ว่าฉันไม่รู้จักเธอนะ”

     

                    แจจุงอึ้งไปสักพัก เขาหันไปมองซอนมีที่เอาแต่ยืนร้องไห้และจ้องมองแม่ของเธอก่อนที่จะรวบรวมความกล้าและตัดสินใจพูดเข้าประเด็นที่ทำให้เขามายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้อย่างทันที

     

                เขาต้องช่วยซอนมี

                เพราะถ้าเขาช่วยซอนมีให้ไปสู้สุขคติได้ เขาก็จะได้อยู่ใกล้ชองยุนโฮต่อไป

     

                ของเดิมพันในครั้งนี้ช่างสำคัญนัก

                ท่านประธาน

                หลุมหลบภัยของเขา

     

                    “ผมมาที่นี่เพราะซอนมีขอร้องให้ผมมาครับ”

     

                    ชื่อของซอนมีทำให้คุณป้าคนนั้นยืนนิ่งพร้อมกับมีสีหน้าตกใจไปได้สักพักหนึ่ง ก่อนที่ใบหน้าเรียบเฉยของเธอจะเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด แม้แต่แจจุงเองก็ยังตกใจเลย

     

                    “ออกไปจากหน้าบ้านฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ! กล้าดียังไงเอาเรื่องลูกฉันมาล้อเล่นแบบนี้!! เธอรู้มั้ยว่าซอนมีตายไปแล้ว!? คนที่ตายไปแล้วจะไปบอกให้เธอมาที่นี่ได้ยังไง!! ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!!

                    แม่ของซอนมีทั้งตะโกนด่าทั้งผลักไสแจจุงอย่างเอาเป็นเอาตาย

     

                    แจจุงตกใจทำอะไรไม่ถูก ซอนมีเองก็เอาแต่ตะโกนเรียกคุณแม่ๆ พร้อมกับร้องไห้อย่างหนัก ส่วนชางมินก็หายไปแล้ว เออดีถือว่าทำดี

     

                    “เดี๋ยวซิครับคุณป้า ก็เพราะผมรู้ว่าเธอตายไปแล้วยังไงล่ะครับ ผมถึงต้องมาที่นี่!

     

                    “เธอจะมาหลอกอะไรฉัน! หัวอกคนเป็นแม่ที่เพิ่งจะสูญเสียลูกสาวไปมันยังเจ็บปวดไม่พออีกหรือไง เธอยังจะมาหลอกอะไรฉันอีกห๊ะ!!

                    เธอตะโกนออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา

     

                    “ซอนมีเธอให้ผมมาบอกคุณ…….

     

                    “ออกไป!!

     

                    “เธออยากขอโทษและขอให้คุณเลิกโทษตัวเองได้แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้เธอตายมันเป็นเพราะคุณ คุณได้ยินมั้ยว่าเธออยากจะขอโทษ!!

                    แจจุงเองก็ไม่ยอมแ เขาตะโกนพูดออกมาอย่างสุดเสียงเช่นกัน และดูเหมือนว่ามันจะได้ผล เพราะคุณแม่ของซอนมีเริ่มนิ่งลงไปบ้างแล้ว ดวงตาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของเธอมองมาที่เขาอย่างอึ้งๆ แจจุงจึงใช้จังหวะนี้ในการส่งต่อคำพูดที่ซอนมีต้องการส่งถึงแม่ของเธออย่างทันที

     

                    “ในวันนั้นที่พวกคุณทะเลาะกัน ในวันที่ซอนมีมาบอกคุณว่าเธอไม่อยากเรียนหมอ พวกคุณทะเลาะกันแรงมากจนซอนมีวิ่งหนีออกจากบ้านไป เธอโกรธคุณจริง แต่เธอไม่ได้คิดฆ่าตัวตาย ที่เธอโดนรถชนในวันนั้น มันเป็นอุบัติเหตุ รถคันนั้นทำผิดกฎจราจร ขับด้วยความเร็วแล้วพุ่งเข้ามาชนเธอเอง คุณไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอตายเลยนะครับ”

     

                    หญิงวัยกลางคนมองแจจุงด้วยดวงตาสั่นระริกก่อนที่น้ำตาของเธอจะไหลออกมาเป็นสาย เธอทรุดนั่งลงกับพื้นจนแจจุงต้องรีบเข้าไปช่วยพยุง ซอนมีเองที่ถึงแม้จะเป็นวิญญาณเธอก็รีบเข้าไปโอบกอดแม่ของเธออย่างทันที แม้ว่าท่านจะไม่รู้สึกถึงสัมผัสนี้ที่เธอมอบให้ แต่เธอก็อยากจะทำ

     

                    “เธอ…… ซอนมี……. ให้เธอมาบอกกับฉันจริงๆ น่ะหรอ?

     

                    “ครับ”

     

                    “เธอเห็นซอนมีใช่มั้ย? เธอติดต่อกับลูกสาวฉันได้ใช่รึป่าว? บอกเขาที บอกให้เขากลับมาหาฉันที”

     

                    “เธอตอนนี้ซอนมีกำลังนั่งกอดคุณอยู่”

     

                    เพียงแค่นั้นเธอก็ปล่อยเสียงโหออกมาอีกรอบ

                    “ซอนมีลูกแม่! ฮือ!!! แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ”

     

                คุณแม่………’

                    ใบหน้าขาวซีดของเธอหันกลับมาจ้องแจจุง

     

                บอกเขาที ช่วยบอกคุณแม่ของฉันที……’

     

                    “ซอนมีไม่อยากให้คุณโทษตัวเอง ถ้าคุณมัวแต่โทษตัวเองแบบนี้เธอก็จะไปสู่สุขคติไม่ได้นะครับ”

     

                    “แต่ถ้าไม่เป็นเพราะฉัน ถ้าฉันไม่ขัดใจเธอ ลูกของฉันก็คงจะไม่ออกไปข้างนอก และเธอก็คงจะไม่ถูกรถชนแบบนี้!

     

                    “คุณไม่อยากให้เธอหมดห่วงหรอครับ? เลิกโทษตัวเองแบบนี้เถอะ เพราะยิ่งคุณทำแบบนี้ เธอก็จะไปจากที่นี่ไม่ได้”

     

                    “เธอจะมาเข้าใจอะไรฉัน!

     

                    “เข้าใจซิครับ ผมรู้ว่าคุณป้าเจ็บปวดแค่ไหน ซอนมีเองก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน เธอแค่อยากให้แม่ของเธอเลิกโทษตัวเอง ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกต้องตาย ตอนนี้ลูกของคุณก็กำลังคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อกับแม่ของเธอต้องร้องไห้เหมือนกัน มันบาปนะครับ คุณกำลังทำให้เธอบาปมากขึ้น

     

                    “……………………

     

                    “เลิกโทษตัวเองเถอะครับ นั่นคือสิ่งที่ซอนมีต้องการและอยากจะขอร้องให้คุณทำเพื่อเธอ”

     

                    “ซอนมี…….. ลูกฉัน…. ต้องการแบบนั้นจริงๆ น่ะหรอ?

     

                    “……………………

     

                    “ถ้าแม่ทำตามที่ลูกขอลูกจะไปสู่สุขคติได้ใช่มั้ยลูก

     

                    ซอนมีโอบกอดคุณแม่ของเธอเอาไว้

                    คุณแม่คะ…… หนูขอโทษ เลิกร้องไห้เถอะนะ ทำเพื่อหนูนะคะ

     

                “ได้…. แม่จะทำ……. แม่จะพยายาม……… แม่จะทำเพื่อลูกของแม่”

     

                    “ซอนมี ลูกรู้ใช่มั้ยว่าพ่อกับแม่รักลูกมากแค่ไหน ลูกรับรู้ใช่มั้ย?

     

                รู้…… หนูรู้ค่ะ

     

                    แจจุงฉีกยิ้ม เขาเองก็ห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้กับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ไม่ได้

                    “เธอรู้ครับซอนมีรู้ว่าพวกคุณรักเธอมาก”

     

                    “แม่จะไม่โทษตัวเองแล้ว….. ชาติหน้ากลับมาเป็นลูกที่น่ารักของแม่อีกนะซอนมี หนูต้องกลับมานะ”

                    แม่ว่าเธอจะไม่สามารถมองเห็นลุกของเธอได้ แต่สัมผัสสายใยของความเป็นแม่ บุคคลที่ให้กำเนิดซอนมีเองก็สามารถสัมผัสได้ถึงสายใยบางๆ จากลูกของเธอ

     

                    ซอนมีโอบกอดคุณแม่ของเธอเอาไว้ เธอฉีกยิ้มกว้างออกมา ชุดสีขาวที่เธอสวมใส่ไม่ได้มีคราบเลือดเปรอะเปื้อนอีกต่อไปแล้ว เส้นผมของเธอกลับมายาวสวยไม่ปกปิดใบหน้าขาวซีดนั้นเอาไว้ ดวงตาของเธอไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนอย่างเคย

                    แล้วหนูจะกลับมา……’

     

                    ร่างของเธอค่อยๆ สลายหายไปในอากาศอย่างช้าๆ และก่อนที่เธอจะจากไป รอยยิ้มของซอนมีก็ได้ถูกส่งมาให้กับแจจุงที่กำลังฉีกยิ้มให้กับเธอเช่นกัน

     

                ขอบคุณ……’

                    และนั่นก็เป็นประโยคสุดท้ายบนโลกใบนี้ของซอนมี

                   

                    ดวงตากลมโตมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีครามพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างออกมาโชคดีนะซอนมี

    .

    .

    .

                    ไม่ไกลจากหน้าบ้านของซอนมี มีร่างของใครบางคนที่ได้ยืนมองดูเหตุการณ์พวกนั้นอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ ดวงตาคมมองดูร่างบางของแจจุงที่กำลังช่วยพยุงร่างของคุณป้าคนนั้นเข้าไปในบ้านด้วยแววตาครุ่นคิด

     

                    ยุนโฮขมวดคิ้วพร้อมกับทำหน้ายุ่ง

                    “หมอนั่นเห็นผีได้จริงๆ หรอเนี่ย

     

                    “นี่คิมแจจุงช่วยปราบผีในห้างของฉันสำเร็จแล้วใช่มั้ย?

                    ช่วยบอกเขาทีว่ามันไม่จริง

     

                    “ให้ตายเหอะ!!

                    ชองยุนโฮสบถออกมาอย่างหัวเสีย และยังไม่ทันทีจะได้คิดอะไรต่อ คิมแจจุงที่หายเข้าไปในบ้านหลังใหญ่เมื่อสักครู่ก็โผล่ออกมา และดันตาดีมองเห็นเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้อีกต่างหาก

     

                    นายคนสติไม่ดีก็ฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาด้วยความดีใจพร้อมกับตะโกนเรียกชองยุนโฮอย่างสุดเสียง

                    “ท่านประธานฮะ!!!

     

                    “ท่านประธาน! ผมปราบผีให้คุณเรียบร้อยแล้วนะครับ!

                    ร่างบอบบางวิ่งดุ๊กๆ เข้ามาหาคนร่างสูงที่ยืนล้วงกระเป๋าทำหน้าตาไม่รับแขกอย่างอารมณ์ดี

     

                    ใบหน้าขาวใสช้อนสายตามองดูใบหน้าคมด้วยดวงตาเป็นประกาย ไหนๆ เขาก็ทำดีไปแล้ว งั้นขอรางวัลเป็นสิ่งตอบแทนหน่อยก็แล้วกันนะ

     

                    แจจุงไม่รอช้า แขนเล็กๆ คล้องไปที่เรียวแขนของคนร่างสูงกว่าอย่างทันที หัวกลมๆ ถูไถไปมาบนแขนของอีกฝ่าย ชองยุนโฮขมวดคิ้วพร้อมกับพยายามผลักหัวนั้นให้ถอยออกจากแขนของตัวเองแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะคิมแจจุงในตอนนี้กำลังตีมึนอย่างสุดความสามารถอยู่!

     

                    ถือว่าเป็นการปลอบขวัญเขาก็แล้วกันเนอะ

     

                    “ผมปราบผีให้คุณได้แล้ว ทีนี้ผมผมก็อยู่กับคุณต่อได้แล้วใช่มั้ย?

     

                    “……………………

                    ชองยุนโฮขมวดคิ้วทำหน้ายุ่ง ส่วนแจจุงก็ยังคงฉีกยิ้กว้างอย่างมีความสุข โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า

     

                ‘ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันหาวิธีปราบนายใหม่ก็ได้

                    เดี๋ยวฉันจะขนผีทั้งห้างมาให้นายปราบเลยคอยดูซิ!

     

     

     

    TBC ^----------^*

     

     

    *******************************************************

     

    Talk : )

     

    สวัสดีค่ะ
    มุกมาแล้วววววววววววววว
    มาซะค่ำเลย เพราะงานเยอะค่ะ รายงานจะต้องส่งแล้ว
    ถ้ารายงานไม่เสร็จอาทิตย์หน้ามุกอาจจะไม่ได้มาอัพนะคะ ขอโทษล่วงหน้าก่อนเนอะ

    ขอทอล์คสั้นๆ พอ
    พาร์ทนี้ขาดยูชอนเนอะมาแต่ชื่อ 55555
    ชอบชางมินเรื่องนี้ กวนดี แต่จริงๆ ก็แต่งให้กวนทุกเรื่องอ่ะ
    เอาล่ะ ขอไปทำรายงานต่อก่อนนะคะ ><

    ใครที่อยากพูดคุยกับมุก นี่ช่องทางค่ะ สอบถามเรื่องฟิค ทวงฟิค อยากได้ฟิคที่มุกเคยรวมเล่มเอาไว้ก็ทวิตเตอร์เลย

    Twitter >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE  
    E-mail >>> mookiie_jong@hotmail.com

    ขอบคุณทุกๆ คนที่กดเข้ามาอ่านนะคะ

    แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะทุกคน

    ^-------------------------------^*

     

    *******************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×