ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ::: Motivation ❤ Love ::: [TVXQ][YAOI]

    ลำดับตอนที่ #4 : ,,, Part 3 ,,, แจจุงจะจีบยุนโฮ!

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 54


    Title         :  Motivation Love
    Type        :  Long fiction
    Author      :  *..MooKiiE..*
    Category :  Comedy / Romance
    Paring      :  Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu

    Note         :  เรื่องนี้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้ต้องการให้บุคคลที่อยู่ในฟิคเรื่องนี้เสียหายแต่อย่างใด เนื้อหาก็จะเกี่ยวกับ Boy’s loveนะค่ะ ถ้าใครไม่ชอบก็กรุณากดปิดลงไปเลยนะค่ะ  ขอบคุณค่ะ ^ ^ 

     

    *******************************************************

     

    อ่านกันให้สนุกนะค่ะ ><

    Part 3


                    หลังจาดที่โดนชองยุนโฮรุกไปอย่างหนักเมื่อวานนี้ วันนี้คิมแจจุงก็เลยคิดว่าเขาควรจะเป็นฝ่ายรุกชองยุนโฮกลับบ้าง จะปล่อยให้ยุนโฮรุกอยู่ฝ่ายเดียวได้ยังไง เสียศักดิ์ศรีของคิมแจจุงคนสวยหมด! ดังนั้นวันนี้แจจุงก็เลยตื่นแต่เช้ามานั่งเฝ้าประตูบ้านของยุนโฮว่าเมื่อไหร่คนร่างสูงจะโผล่ออกมาเสียที ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่บ้านหลังข้างๆ อย่างไม่ละสายตา เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วยัยก้นบอลลูนเพิ่งจะเดินออกจากบ้านไป แต่ยังไม่มีวี่แววว่ายุนโฮของเขาจะโผล่หัวออกจากบ้านมาแต่อย่างใด

     

                    “นี่ถ้ายังไม่ออกมาอีก เขาจะไปเรียนแล้วนะ!

                    แจจุงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เมื่อหันไปเห็นนาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนังที่กำลังบอกเวลาว่าตอนนี้คือเวลาแปดโมงสิบห้านาที และวันนี้แจจุงก็มีเรียนตอนเก้าโมงเสียด้วยซิ

     

                    และในตอนนั้นเองที่ดวงตากลมโตได้สังเกตเห็นบานประตูของบ้านหลังข้างๆ ถูกเปิดออก ก่อนที่จะมีร่างสูงๆ ของใครบางคนจะเดินออกมาด้วยท่าทีสบายๆ

                    “มาแล้วๆ”

     

                    แจจุงรีบคว้ากระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไปด้วยความเร็วแสง คนสวยทำทีเป็นเพิ่งเดินออกมาจากบ้านก่อนที่จะหันไปล็อคประตูด้วยท่าทีสบายๆ ทั้งๆ ที่ตนเองนั้นรนรานออกจากบ้านแทบตาย

     

                    แจจุงเหลือบสายตาไปมองดูบ้านหลังข้างๆ สักเล็กน้อย เขาเห็นยุนโฮกำลังเดินไปที่รถยนต์ของตนเอง และไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลา แจจุงก็รีบสาวเท้าเดินออกจากบ้านของตนเองอย่างทันที

     

                    คนสวยทำเป็นเดินทอดน่องเอื่อยๆ อยู่บริเวณหน้าบ้านของยุนโฮ เพราะบริเวณนี้มันเงียบมาก มันจึงทำให้เขาสามารถได้ยินเสียงรถยนต์ที่กำลังขับออกมาจากบ้านของคนร่างสูงได้เป็นอย่างดี แจจุงภาวนาในใจว่าขอให้ยุนโฮสังเกตเห็นเขาด้วยเถอะ เพราะถ้าร่างสูงไม่เห็นเขา สิ่งที่เขาคาดหวังเอาไว้ก็จบเห่ และในตอนนั้นเองที่...

     

                    “แจจุง!

     

                    เยส!”

                    แจจุงฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ก่อนที่จะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติยามที่หันหน้ากลับไปหาคนร่างสูงที่เอ่ยเรียกตนเองเอาไว้

     

                    “อ้าว? ยุนโฮ”

                    แจจุงแสร้งทำเป็นแปลกใจที่เห็นคนร่างสูง

     

                    ยุนโฮลดกระจกลงเพื่อเอ่ยเรียกคนสวยที่กำลังเดินอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของตนเอง   

                    “แจจุงกำลังจะไปมหาลัยหรือป่าว? ไปกับผมก็ได้นะ”

     

                    และแล้วสิ่งที่แจจุงรอคอยก็มาถึง ความพยายามในวันนี้ไม่เสียเปล่าเลยจริงๆ

                    “จะดีหรอ?

     

                    “ดีซิ ยังไงเราก็เรียนคณะเดียวกันอยู่แล้ว”

     

                    “งั้น... แจจุงก็ขอรบกวนด้วยนะ”

                    คนสวยฉีกยิ้มหวาน

     

                    “เต็มใจให้กวนเลยครับ”

                    ยุนโฮเปิดประตูลงจากรถ ก่อนที่จะเดินอ้อมไปเปิดประตูให้คนร่างบาง ตามแบบสุภาพบุรุษ เป๊ะๆ

     

                    “ขอบคุณนะ”

                    แจจุงเดินขึ้นไปนั่งอยู่บนรถของคนร่างสูง เขามองดูยุนโฮที่กำลังเดินอ้อมกลับขึ้นมาบนรถด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

     

                    วันนี้คิมแจจุงก้าวหน้าขึ้นมาอีกขั้น เขาได้มานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของชองยุนโฮแล้วนะ!’

    .

    .

    .

    .

    .

                    “เฮ้ย! ยูชอน เดี๋ยวฉันไปเรียนก่อนนะ คาบนี้อาจารย์โหดว่ะ”

                    ชางมินลุกออกจากเก้าอี้ที่ตนเองนั่งอยู่ ฝ่ามือหนารวบเอาหนังสือเรียนของตนเองขึ้นมาถือเอาไว้

     

                    “เออๆ ตอนเที่ยงค่อยโทรมาละกัน”

                    ยูชอนพยักหน้ารับ

     

                    “โอเค”

                    ชางมินพยักหน้าให้ยูชอนทีหนึ่งก่อนที่จะเดินจากไป

     

                    ส่วนยูชอนทีกำลังนั่งรอแจจุงอยู่ที่หน้าตึกนิเทศฯก็นั่งเป็นหมาหงอยเพราะไม่รู้จะหาอะไรทำในระหว่างรอให้แจจุงเสด็จมาเรียน ตอนนี้เขาเบื่อ เขาจึงไม่มีอารมณ์มานั่งตอบบีบีและเมนชั่นของสาวๆ คนร่างสูงนั่งเท้าคางมองดูนู่นดูนี่ไปเรื่อยเปื่อยอย่างคนไม่รู้จะทำอะไร

                    “ไปเดินเล่นที่โรงอาหารดีกว่า”

     

                    และเมื่อคิดได้ดังนั้นยูชอนก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากที่ที่ตนเองนั่งอยู่เพื่อมุ่งหน้าไปโรงอาหารของคณะนิเทศฯอย่างทันที

     

                    ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทียูชอนก็เดินทางมาถึงโรงอาหารประจำคณะแล้ว เขาฉีกยิ้มบางๆ ให้กับสาวๆ ที่เอ่ยทักเขา ตลอดทางที่ยูชอนเดินผ่านก็มักจะมีทั้งเพื่อนและผู้หญิงเอ่ยทักทายเขาไปตลอด คนร่างสูงเดินดูร้านค้าต่างๆ เพื่อที่จะหาอะไรกินแก้เบื่อไปอย่างเรื่อยเปื่อย และในตอนนั้นเองที่...

     

                    “โอ๊ะ!!

     

                    มีใครบางคนที่กำลังเดินกดไอโฟนในมือของตนเองจนลืมมองทางจึงทำให้เดินชนกับเขาเข้า และทันทีที่คนคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาเพื่อเอ่ยขอโทษ เขาก็ต้องฉีกยิ้มขึ้นมาเมื่อพบว่าคนคนนั้นคือ...

     

                    “ขะ... ขอโทษฮะ พอดีว่า..... นะ นาย!! อะ...ไอ้โรคจิตหนิ!!!

     

                    คิมจุนซู คนน่ารักของปาร์คยูชอนนั่นเอง บังเอิญจริงๆ ที่คนน่ารักของเขาก็เรียนที่นี่ด้วย สงสัยต้องไปบอกแจจุงแล้วแหละว่าว่าที่เมียของเขาก็เรียนที่นี่เหมือนกัน

     

                    “จุ๊ๆ มาชี้หน้ากันแบบนี้มันเสียมารยาทนะครับคุณเด็กนิติ~ เดี๋ยวผมฟ้องคุณเอานะ”

                    ยูชอนเอ่ยแซวคนตัวเล็กด้วยรอยยิ้มแบบทะเล้นๆ เขาตั้งฉายาให้จุนซูด้วยล่ะ เป็นไง น่ารักมั้ย?

     

                    “ไอบ้า! ฉันชื่อคิมจุนซู ไม่ได้ชื่อเด็กนิติ!

     

                    “อ่า... แนะนำตัวกันแบบนี้ แสดงว่าอยากทำความรู้จักกับผมบ้างแล้วใช่ป่ะ”

                    ยูชอนนี่ก็ยังชอบคิดเข้าข้างตนเองอยู่เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

     

                    “หลงตัวเองชะมัด นี่! ช่วยหลีกทางด้วย ฉันจะรีบไปเข้าเรียน”

                    คนตัวเล็กเริ่มทำสีหน้ายุ่งขึ้นมาบ้างแล้ว

     

                    แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นยูชอนก็ไม่คิดจะยอมให้จุนซูเดินผ่านไปง่ายๆ หรอก ขอแกล้งต่ออีกสักหน่อยเถอะ 

                    “ให้ผมเดินไปส่งนะ คณะของเราสองคนอยู่ใกล้ๆ กัน”

     

                    “ขอบใจนะที่อุตส่าห์มีน้ำใจ แต่ฉันขอกองความหวังดีของนายเอาไว้ตรงนี้แหละ หลีกไป!!

     

                    “โห~ ใจร้ายอ่ะ นี่ผมปาร์คยูชอนนะ คนดังของมหาลัยนี้เลยนะคุณ”

     

                    จุนซูจ้องมองใบหน้าของคนตัวสูงอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่คนตัวเล็กจะทำท่าทางคิดอะไรบางอย่าง และในตอนนั้นเองที่จุนซูเอ่ยพูดอะไรออกมาด้วยรอยยิ้มหวานที่ตนเองเป็นคนปั้นแต่งมันขึ้นมา

                    “เนี่ยหรอคนดัง หึ! ฉันเห็นแต่ไอ้โรคจิตที่... ปากก็ห้อยเป็นปากเป็ด จมูกก็บานอย่างกับหลุมดำ หัวก็เถิกอย่างกับแป๊ะยิ้ม นี่ถ้าคือสิ่งที่นายเรียกว่าหล่อแล้วละก็นะ ฉันคิดว่านายคงกำลังหลอกตัวเองอยู่น่ะปาร์คยูชอน  ท่าทางคงจะหลอกตัวเองมานานแล้วล่ะซิเนี่ย เห๊อ~ น่าสงสารจริงๆ”

     

                    โดนจุนซูเอ่ยชมแบบชุดใหญ่แบบนี้ ยูชอนถึงกับชะงักค้างกันไปเลยทีเดียว

     

                    “ท่าทางจะช็อค อิย่ะฮะฮ่า! งั้นฉันไปก่อนนะ บ๊ายบาย... พ่อคนหลงตัวเอง!

                    เมื่อพูดจบแล้วคนตัวเล็กก็เดินยิ้มหน้าบานผ่านคนร่างสูงที่ยังคงยืนอึ้งอยู่ไปอย่างทันที จุนซูอารมณ์ดีเพราะสามารถแก้เผ็ดปาร์คยูชอนได้สำเร็จ อ๊า! การด่าคนมันก็สนุกดีเหมือนกันแหะ

     

                    ยูชอนใช้เวลาอยู่สักพักหนึ่งเลยทีเดียวกว่าที่จะหายช็อคเพราะโดนคนตัวเล็กด่าสิ่งที่ตนเองภาคภูมิใจมาตั้งแต่เกิด ด่าอะไรปาร์คยูชอนไม่ว่า ไม่ถือ แต่นี่เล่นด่าหน้าตาที่สุดแสนจะเพอร์เฟคของปาร์ค ปาร์คยอมไม่ได้!!

     

                    “ด่าไปเหอะ! คนที่นายด่าว่าไม่หล่อคนนี้แหละที่จะเป็นผัวนายในอนาคต ยัยกลม!!

    .

    .

    .

    .

    .

                แจจุงนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตนเอง คนสวยกำลังฉีกยิ้มกว้างเพราะในตอนนี้เขากำลังมีความสุขแบบสุดๆ อยู่ และความสุขแบบนี้มันก็ไม่ควรเก็บเอาไว้คนเดียวใช่ป่ะ ดังนั้นเรื่องแบบนี้มันต้องประกาศให้คนอื่นๆ ได้รู้ด้วย ดังนั้น คิมแจจุงก็เลยอัพเดทสเตตัสในเฟสบุ๊คของตนเองว่า...

     

                วันนี้มีสุดหล่อมารับไปเรียนด้วยแหละ

                   

                    และเนื่องจากคิมแจจุงเป็นคนดัง เป็นคนสวยที่ใครๆ ต่างก็พากันรู้จัก ดังนั้นแจจุงก็เลยมีเพื่อนในเฟสบุ๊คมากถึงสี่พันคน และในสี่พันคนนั้นก็มีคนที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขารวมอยู่ด้วย ดังนั้นแจจุงจึงคิดว่าสิ่งที่เขาอัพลงไปนั้นคงจะเป็นที่สนใจของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว

     

                    และดูเหมือนว่าแจจุงจะคิดถูกเสียด้วย เพราะเวลาผ่านไปเพียงหนึ่งนาทีก็มีคนเข้ามากดไลท์และคอมเม้นเสียมากมาย แล้วคำถามเหล่านั้นก็ล้วนแต่เป็นคำถามที่แสดงถึงความสงสัยว่าคนหล่อที่เขาพูดถึงนั้นเป็นใคร

     

                    คนสวยยกยิ้มที่มุมปาก ใบหน้าสวยหวานหันไปมองใบหน้าทางด้านข้างของคนร่างสูงที่กำลังตั้งอกตั้งใจกับการขับรถอยู่ด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะหันหน้ากลับมาให้ความสนใจกับโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของตนเองต่อ คนสวยกดพิมพ์ข้อความอะไรบางอย่างลงไป

     

                แจจุงกำลังบอกใบ้คำตอบให้ทุกคนอยู่ล่ะ ...

     

                ถ้าทุกคนอยากรู้ว่าใครที่มารับแจจุงไปเรียนในวันนี้... ก็คอยดูที่หน้าตึกนิเทศฯนะฮะ

     

                    แจจุงไม่ได้มีเหตุผลแอบแฝงอะไรเลยนะที่อัพบอกกับทุกๆ คนแบบนี้ ก็เห็นเขาสงสัยกัน แจจุงก็แค่ใจดี... ก็เลยแอบบอกใบ้ให้เล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้อยากอวดใครเลยนะ จริงจริ๊ง!!

     

                คนสวยหันหน้าออกไปมองวิวทางด้านนอกหน้าต่าง บนใบหน้าหวานกำลังมีรอยยิ้มบางๆ ประดับเอาไว้อยู่ ในตอนนี้ก็แค่รอให้พวกเราสองคนเดินทางไปถึงที่มหาลัยเพียงเท่านั้น

     

                    และแล้วสิ่งที่แจจุงกำลังรอคอยอยู่ก็เดินทางมาถึงเสียที เมื่อรถยนต์คันหรูของยุนโฮเลี้ยวเข้ามายังมหาวิทยาลัยยองอินและมุ่งตรงสู่คณะนิเทศศาสตร์ที่อยู่ด้านในสุดของมหาวิทยาลัย

     

                    แจจุงเป็นคนคิดอะไรแบบมีแบบแผนตลอด เขาไตร่ตรองหาส่วนได้ส่วนเสียและคิดหาผลกำไรจากการกระทำของตนเองอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะเรื่องของผู้ชาย แจจุงนะคิดแล้วคิดอีก คิดหนักยิ่งกว่าเวลาทำข้อสอบอีกนะจะบอกให้ กับครั้งนี้ก็เช่นกัน การที่อัพสเตตัสป่าวประกาศบอกทุกๆ คนแบบนั้นแจจุงก็คิดว่ามันมีส่วนดีมากกว่าส่วนเสีย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจทำเช่นนั้นไป และเนื่องจากลานจอดรถของคณะนิเทศฯมันตั้งอยู่ตรงหน้าอาคารเรียนแบบพอดิบพอดี ดังนั้นแจจุงก็เลยคิดว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นมีแต่ได้กับได้

     

                    แจจุงแอบอมยิ้มเมื่อสิ่งที่ตนเองคิดนั้นมันเป็นไปตามที่หวัง เขาแอบเห็นนักศึกษาหลายๆ คนจ้องมองมาที่รถยนต์ของยุนโฮตั้งแต่ตอนที่คนร่างสูงขับเข้ามาที่คณะนิเทศฯนี้แล้ว ขนาดไม่รู้ว่ามีเขานั่งมาด้วยยังให้ความสนใจกันขนาดนี้ และถ้าเห็นเขาเปิดประตูลงจากรถและเดินคู่ไปกับยุนโฮด้วยจะไม่ตกใจมองตาค้างกันไปเลยหรือไงนะ อ๊า! แค่คิดก็สนุกแล้วซิ

     

                    “ไปกันเถอะครับ”

                    ยุนโฮที่กำลังปลดเข็มขัดนิรภัยอยู่หันมาบอกกับเขาด้วยรอยยิ้ม

     

                    “ฮะ”

                    แจจุงพยักหน้ารับก่อนที่จะหันมาจัดการปลดเข็มขัดนิรภัยของตนเองออกบ้าง คนสวยรอจังหวะให้คนร่างสูงลงจากรถไปก่อนตนเองสักพักหนึ่ง ก่อนที่ตนเองจะเปิดประตูตามลงมาทีหลัง

     

                    และทันทีที่แจจุงเปิดประตูลงจากรถตามยุนโฮลงไป คนที่อยู่บริเวณนั้น ทั้งคนที่นั่งอยู่หน้าคณะและคนที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมาต่างก็พากันจ้องมองคนทั้งคู่ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปกระซิบกับเพื่อนของตนเองอย่างสนุกสนาน ส่วนใครที่กำลังกดบีบีอยู่ก็ไม่รอช้าที่จะแบ่งปันข่าวสารนี้ให้กับเพื่อนๆ ของตนเองได้รู้

     

                    ก็เลยกลายเป็นว่าข่าวที่คิมแจจุงคนสวยประจำคณะนิเทศฯ มาเรียนพร้อมกับชองยุนโฮหนุ่มหล่อนักศึกษาหน้าใหม่นั้นได้ถูกกระจายไปทั่วทั้งภายในคณะและข้ามสายคณะกันอย่างรวดเร็วโดยที่ตัวต้นเหตุที่ต้องการจะปล่อยข่าวนั้นไม่ต้องเสียแรงเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย

     

                    ก็บอกแล้วว่างานนี้คิมแจจุงมีแต่ได้กับได้...  

     

                    “แจจุงเรียนชั้นไหนหรอ?

                    ยุนโฮที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลยนั้นหันหน้ามาถามคนที่เดินอยู่ข้างๆ กันด้วยรอยยิ้มบางๆ

     

                    “แจจุงเรียนชั้นสี่หนะ”

     

                    “งั้นก็ใกล้กันเลย วันนี้ผมเรียนชั้นห้า”

     

                    “อ่า... น่าจะได้เรียนชั้นเดียวกันเนอะ น่าเสียดายจัง”

     

                    “ไม่ต้องเสียดายหรอกน่า... ตอนกลางวันเราอาจจะเจอกันก็ได้นะ”

     

                    “นั่นซิเนอะ”

     

                    “งั้นเดี๋ยวผมเดินไปส่งแจจุงที่ห้องก่อนดีกว่า แจจุงโอเคมั้ย?

                    ยุนโฮเลิกคิ้วถาม

     

                    เป็นคำถามที่เข้าทางแจจุงมาก เข้าทางแจจุงแบบสุดๆ นี่ยุนโฮไม่ได้รู้เลยใช่มั้ยว่าเขากำลังมีแผนอะไรอยู่ ทำไมร่างสูงถึงได้ให้ความร่วมมือกับแผนของเขานักนะ

                    “อ่า... ถ้าไม่เป็นการรบกวนยุนโฮจนเกินไปอ่ะนะ”

     

                    “ไม่เลยผมเต็มใจ”

     

                    “งั้นแจจุงก็ไม่มีปัญหา”

                   

                    ยุนโฮเดินไปส่งแจจุงถึงหน้าห้องตามที่ได้บอกเอาไว้ สาวๆ ที่อยู่แถวๆ นั้นมองคนทั้งคู่เป็นตาเดียว มองเสร็จแล้วก็หันกลับไปรวมกลุ่มนินทากันต่อตามสไตล์ของสาวๆ

                   

                    “เดี๋ยวผมไปเรียนก่อนนะ บ๊ายบาย”

                    ยุนโฮทำท่าจะหันหลังกลับไป แต่ก็ถูกแจจุงเรียกเอาไว้เสียก่อน

     

                    “อ่ะ! ยุนโฮเดี๋ยวก่อน”

     

                    ยุนโฮหันหน้ากลับมา เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

                    “มีอะไรหรอ?

     

                    “คือ.... คือว่า..... อ่า.......”

                    คนสวยยืนก้มหน้า บิดไปบิดมาด้วยความเขิน

     

                    “อะไรครับ?... แจจุง”

                    ยุนโฮยกยิ้มด้วยความเอ็นดูให้กับท่าทีเขินอายของคนตรงหน้า

     

                    “คือ.... เย็นนี้ยุนโฮว่างหรือเปล่า?

                    แจจุงตัดสินใจรวบรวมความกล้าและเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองใบหน้าคม ที่กำลังมองตนเองอยู่เช่นกัน

     

                    ยุนโฮทำท่านึกคิดอยู่สักพักหนึ่ง วันนี้จุนซูบอกว่าจะไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เพื่อไปซื้อของใช้ส่วนตัว กว่าจะกลับก็คงจะค่ำ แต่เขาก็ยังมีการบ้านที่ต้องรีบกลับไปเคลียอยู่ดีนั่นแหละ

                    “ถ้าใช้เวลาไม่มากเท่าไหร่ ก็คงจะว่างอยู่นะ แจจุงมีอะไรหรือเปล่า?

     

                    “แจจุงจะชวนยุนโฮไปกินไอศกรีมนะ แต่ถ้ายุนโฮไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ”

     

                    “อ่า... แค่กินไอศกรีมเอง ผมไปได้อยู่แล้ว”

     

                    “จริงนะ!

                    คนสวยฉีกยิ้มด้วยความดีใจ

     

                    ยุนโฮพยักหน้ารับ

                    “อื้ม!

     

                    “งั้น... เย็นนี้เลิกเรียนแล้วเจอกันนะ”

     

                    “อ่า... งั้นผมคงต้องขอเบอร์แจจุงเอาไว้แล้วล่ะ”

                    ยุนโฮหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะส่งมันให้กับคนร่างบาง

     

                    แจจุงรับมือถือของคนร่างสูงมาด้วยความตื่นเต้น ปลายนิ้วเรียวกดหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองด้วยหัวใจที่เต้นรัว ก่อนที่จะส่งมันกลับไปให้กับเจ้าของที่กำลังยืนยิ้มมองเขาอยู่

     

                    “โอเค งั้นถ้าผมเลิกเรียนแล้ว เดี๋ยวผมจะโทรหานะ”

                    ยุนโฮโบกมือลาแจจุงก่อนที่จะหันหลังและเดินขึ้นบันไดไป

     

                    ส่วนแจจุงก็กำลังยืนยิ้ม และบิดไปบิดมาอยู่หน้าห้องเรียน แต่ไม่ยอมเดินเข้าไปในห้องเสียที!

    .

    .

    .

    .

    .

                    หลังเลิกเรียนแจจุงยืนรอยุนโฮอยู่ที่หน้าตึกหลังจากที่พวกเขาทั้งสองสองคนโทรนัดแนะพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้แจจุงบอกชางมินและยูชอนให้กลับบ้านไปก่อนเพราะวันนี้เขามีนัดเดทกับชายในฝัน โดยปกติแล้วพวกเราทั้งสามคนมักจะเดินกลับบ้านด้วยกันอยู่เสมอๆ แต่เขาคิดว่า เขาอาจจะไม่ได้กลับบ้านกับชางมินและยูชอนอีกต่อไปแล้วล่ะเพราะว่าเขาจะรอกลับบ้านพร้อมกับยุนโฮ แฟนของเขาอ่า... คิดเป็นตุเป็นตะเลยนะคิมแจจุง! ได้ข่าวว่าเพิ่งจะรู้จักกันเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เองนะ

     

                    “แจจุง!

                    เสียงเรียกที่ดังมาจากทางด้านหลังทำให้คนตัวเล็กหันหลังกลับไปมองได้อย่างทันที

     

                    “อ่า... นึกว่าไปเดินหลงทางอยู่ที่ไหนเสียอีก”

                    คนตัวเล็กฉีกยิ้มกว้างให้กับคนร่างสูง

     

                    “แจจุงมารอนานแล้วหรอ?

     

                    “นานจนรากแก้วไชลงไปในดินแล้วล่ะ!

     

                    “ฮะฮะฮ่า! งั้นเดี๋ยวผมจะไถ่โทษโดยการพาแจจุงไปเลี้ยงไอศกรีมนะ”

     

                    “ถึงไม่บอกแจจุงก็จะให้ยุนโฮเป็นคนเลี้ยงอยู่ดีนั่นแหละ”

     

                    “งั้นก็ไปกันเลยดีกว่าเนอะ”

     

                    ยุนโฮและแจจุงเดินขนาบข้างไปที่ลานจอดรถด้วยกันท่ามกลางสายตาของคนที่อยู่บริเวณนั้นที่กำลังจับจ้องคนทั้งคู่อยู่ รถยนต์คันหรูขับออกจากคณะนิเทศฯเพื่อมุ่งตรงไปสู่ร้านไอศกรีมชื่อดังที่ตั้งอยู่หน้ามหาลัย โดยมีคนตัวเล็กเจ้าถิ่นเป็นคนคอยบอกทาง

     

                    ใช้เวลาเพียงไม่นานนัก ในที่สุดคนทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงร้านไอศกรีมขนาดกลางที่ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น ร้านไอศกรีมแห่งนี้เป็นร้านที่เหล่านักศึกษาของหมาลัยยองอินพากันมานั่งเล่นพูดคุยกันอยู่เสมอๆ จนแถบจะกลายเป็นถิ่นของเหล่านักศึกษาไปเสียแล้ว แจจุงก็มักจะมาที่นี่พร้อมกับยูชอนและชางมินอยู่บ่อยๆ

     

                    “แจจุงมาร้านนี้บ่อยมากๆ เลยนะ”

                    แจจุงหันมาพูดกับยุนโฮขณะที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังเดินเข้าไปในร้าน

     

                    “ร้านน่ารักดีนะ สงสัยวันหลังคงจะต้องพาจุนซูมาบ้างแล้วล่ะ”

                    ยุนโฮหันไปมองดูบรรยากาศรอบๆ ร้าน

     

                    แจจุงถึงกับคิ้วกระตุกทันทีเมื่อได้ยินชื่อของใครบางคนผ่านเข้ามาในหู ถึงจะรู้สึกไม่พอใจเล็กๆ แต่ก็ต้องพยายามควบคุมสีหน้าให้อยู่ในโหมดปกติเช่นเดิม

                    “จุนซูหรอ?

     

                    “อ้อ! แจจุงคงจะไม่รู้ซินะว่าผมไม่ได้มาอยู่ที่นี่คนเดียว”

                    ยุนโฮที่เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองยังไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้กับแจจุงได้รู้รีบหันมาอธิบายให้แจจุงได้ฟังอย่างทันที

     

                    แจจุงเดินนำยุนโฮมานั่งในที่ที่เขาชอบมานั่ง เป็นมุมที่สงบที่สุดและให้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุด

                    “แล้วยุนโฮอยู่กับใครหรอ?

     

                    ถึงจะรู้มาแล้วว่าคนที่ชื่อจุนซูนั้นไม่ได้มีอะไรกับยุนโฮ แต่แจจุงก็อยากที่จะฟังมันอย่างชัดๆ จากปากของคนร่างสูงอยู่ดี

                   

                    ยุนโฮยิ้ม

                    “แฟนผมน่ะ!

     

                    ช็อค!!!

     

                    บอกได้คำเดียวเลยว่าตอนนี้คิมแจจุงช็อค ช็อคมาก!! และดูเหมือนว่าการช็อคของแจจุงนั้นจะแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน

     

                    “ฮะฮะฮ่า! ผมล้อเล้น ดูหน้าแจจุงซิ ช็อคไปเลย”

                    ยุนโฮหัวเราะเสียงดัง หน้าตอนช็อคของแจจุงมันตลกมากจริงๆ

     

                    แจจุงทำหน้ายุ่ง ยุนโฮอ่ะทำเขาตกอกตกใจหมด นึกว่าจะได้เป็นชู้กับยุนโฮซะล่ะ!       

                    “ยุนโฮนิสัยไม่ดีอ่ะ! ชอบแกล้งแจจุง”

     

                    แต่ยังไม่ทันที่คนทั้งคู่จะได้คุยกะไรกันต่อ พนักงานสาวของร้านแห่งนี้ก็เดินเข้ามารับออเดอร์เสียก่อน แจจุงสั่งไอศกรีมรสมะนาวกับวานิลลา เขารู้ว่ามันไม่ค่อยจะเข้ากันเสียเท่าไหร่ แต่เขาก็ชอบอ่ะ ทั้งเปี้ยวและก็หวานมีครบทั้งสองรสเลย! ส่วนยุนโฮก็สั่งช็อคโกแลตกับรสกาแฟ ตามสไตล์ของคนหล่อแบบเข้มๆ

     

                    “แล้วตกลงว่าจุนซูนี่เป็นใครอ่ะ?

                    แจจุงถามออกมาหลังจากที่หนักงานสาวคนนั้นเดินจากไปแล้ว

     

                    “จุนซูเป็นลูกพี่ลูกน้องผม เราเกิดห่างกันห้าเดือน เพราะตอนเด็กๆ ผมคอยดูแลเขาตลอด เขาก็เลยชอบเรียกผมว่าพี่น่ะ”

     

                    “อ้อ~

                    คนสวยพยักหน้าขึ้นลงเป็นการเข้าใจ โถ่~ ที่แท้ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันเสียเวลาหึงอยู่ตั้งนาน!

     

                    “แล้วแจจุงล่ะ อยู่ที่บ้านกับใคร?

     

                    “อยู่กับแม่น่ะ แต่ตอนนี้แม่ไปช่วยพ่อดูแลร้านที่โซลก็เลยต้องอยู่คนเดียว... เหงามากเลย”

                    คนตัวเล็กยู่ปากเข้าหากัน ก่อนที่จะต้องฉีกยิ้มออกมาเมื่อไอศกรีมที่ตนเองสั่งไปนั้นถูกนำมาวางลงตรงหน้าของ คนสวยหันไปฉีกยิ้มบางๆ ให้กับพนักงาน ก่อนที่หันกลับมามองถ้วยไอศกรีมของตนเองด้วยสายตาแวววาว

     

                    “คิดถึงจังเลย~

                    แจจุงว่าก่อนที่จะตักไอศกรีมรสมะนาวเข้าปากไป

     

                    ยุนโฮมองดูคนตัวเล็กที่กำลังตักไอศกรีมเข้าไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู บางครั้งคิมแจจุงก็ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่ใจกล้า แต่บางครั้งก็ชอบทำตัวเป็นเด็กๆ ช่างเป็นบุคคลที่น่าค้นหาเสียจริงเชียว

     

                    “ยุนโฮรู้ตัวป่าวว่ายุนโฮน่ะหล่อมากๆ เลยนะ อ่า... ยิ่งมานั่งมองใกล้ๆ แบบนี้ก็ยิ่งหล่อ”

                    แจจุงเงยหน้าขึ้นมาพูดกับคนร่างสูง

     

                    “แจจุงก็พูดเกินไป ผมหน้าตาธรรมดาจะตาย”

     

                    “ใครบอก! ถ้ายุนโฮหน้าตาธรรมดา เพื่อนของแจจุงก็หน้าตาบ้านนอกมากเลยล่ะซิ”

                    แจจุงกำลังพูดถึงชางมินและยูชอนอยู่นั่นเอง

     

                    “ผมเขินนะเนี่ย มาชมกันแบบนี้”

                    ยุนโฮยิ้ม เขาตักไอศกรีมเข้าปากและมองหน้าขาวๆ ของแจจุงไปด้วย

     

                    “ก็หล่อจริงๆ นี่นา... ยุนโฮน่ะเป็นผู้ชายในฝันเลย”

     

                    ยุนโฮยิ้ม เขาวางช้อนที่ตนเองถืออยู่ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปหาคนร่างบาง และเอ่ยถามบางสิ่งบางอย่างออกไป

                    “แจจุงกำลังจีบผมอยู่หรือป่าวเนี่ย?

     

                    อ่า... ตรงประเด็นดีจัง แต่ในเมื่อเขาแสดงออกไปซะขนาดนี้แล้ว จะมานั่งปิดก็คงจะไม่ทันแล้วล่ะนะ ดังนั้นแจจุงก็เลยตอบออกไปว่า...

                    “และถ้าแจจุงกำลังจีบยุนโฮอยู่ล่ะ ยุนโฮจะว่ายังไง?

     

                    ยุนโฮยกยิ้มให้กับคำตอบตรงๆ ของคนร่างบาง ดวงตาคมสบเข้ากับดวงตากลมโตที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่ก่อนที่จะตอบออกมา    

                    “ผมจีบยากนะ”

     

                    “จีบยากแจจุงก็จะจีบ”

                    แจจุงตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่น

     

                    ยุนโฮมองความเด็ดเดี่ยวของคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มแสนพึงพอใจ อ่า... ชักจะสนุกขึ้นมาเสียแล้วซิ          

                    “งั้นผมจะรอดูการจีบของแจจุงละกัน”

     

                    คนสวยยิ้มหวาน ก่อนที่จะตอบกลับไปด้วยความมั่นใจว่า...

     

                    “รับรองเลยว่ายุนโฮจะต้องใจอ่อนกับลูกจีบของแจจุงแน่ๆ”

     

     

    TBC ^-----------------^*

     

    *******************************************************

     Talk ::

      

    สวัสดีค่ะทุกๆ คน ^----------------------^*

    มุกรีบมาอัพฟิคให้แล้วนะค่ะ ตอนนี้น้ำยังไม่ท่วมบ้าน ยังพอมีเวลาว่างอยู่ 5555

    อยู่บ้านไม่ได้ไปไหนเลย นอนเฝ้าน้ำทุกวัน = =

    ใครที่กำลังเจอปัญหาเรื่องน้ำท่วมอยู่ ขอให้ผ่านมันไปได้ด้วยดีนะค่ะ มุกเป็นกำลังใจให้ ^^

     

    พาร์ทที่แล้วแอบมีคนรู้ด้วยว่าฉากโรงอาหารนั้นเป็นฉากโรงอาหารของม.กรุงเทพ 555

    ถูกล่ะค่ะ มันเป็นร้านเครปกับร้านไอศกรีมในม.กรุงเทพนั่นเอง แจจุงก็เรียนสาขาเดียวกับมุกนะ ต่างกันแค่มุกอยู่ปี2แต่แจจุงอยู่ปี 1 ><

     

    พาร์ทนี้คนสวยจะเริ่มรุกยุนโฮล่ะนะ และตอนหน้าแจจุงก็จะเริ่มจีบยุนโฮแล้ว ><

    ส่วนยูชอนก็ยังคงลวนลามจุนซูอยู่เช่นเคย = =”

     

    เอาเป็นว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ รออ่านตอนหน้ากันนะค่ะ

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้กันค่ะ

     

    ถ้าน้ำไม่ท่วม ก็จะรีบมาต่อให้ค่ะ ถ้าน้ำท่วมมุกก็คงต้องขอตัวไปนอนเป็นกระสอบทรายขวางน้ำไม่ให้เข้าบ้านก่อนละกันนะ 55555

     

    แวะไปพูดคุยกันได้ที่ >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE

    หรืออยากสอบถามเรื่องฟิค >>> mookiie_jong@hotmail.com[/B]

      

    แล้วเจอกันในตอนหน้าค่ะ

    ^------------------------------------^*

      

    *******************************************************


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×