ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ☆--- Mystery Love ---☆ [TVXQ][YAOI]

    ลำดับตอนที่ #2 : ,,, Part 1 ,,, คุณเป็นใครกันนะ?

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 57


    Title         :  Mystery Love
    Type        :  Long fiction
    Author      :  *..MooKiiE..*
    Category :  Comedy / Romance
    Paring      :  Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
    Note         :  เรื่องนี้มุกได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง The Master’s Sun นะคะ จึงทำให้เนื้อหาบางอย่างอาจคล้ายคลึงกันบ้าง

                                                                                                                                                                                                                                                              

    *******************************************************

     

    ขอให้มีความสุขในการอ่านค่ะ ^^



    Part 1

     
     

                    สายผนที่กำลังตกอยู่เริ่มเบาลงหลังจากที่มันตกจากฟากฟ้าไปได้เกือบสองชั่วโมง การจราจรบนท้องถนนไม่ได้ติดขนัดเหมือนช่วงหัวค่ำเพราะนี่ก็เป็นเวลาเกือบจะห้าทุ่มเสียแล้ว อีกทั้งยังเป็นวันที่ฝนตก ผู้คนจึงรีบพากันกลับบ้านไปตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ตามท้องถนนจึงมีเพียงรถไม่กี่คันที่แล่นผ่านไปผ่านมา ผู้คนเริ่มบางตาลง หรือบางจุดที่ค่อนข้างเปลี่ยวก็ไร้ผู้คนเลยก็ว่าได้

     

                    รถยนต์สีดำคันหรูแล่นไปตามท้องถนนด้วยความเร็วตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ บรรยากาศภายในรถนั้นเงียบสงบไร้เสียงพูดคุยหรือเสียงเพลงใดๆ ทั้งสิ้น

     

                    “เลขาคิม พรุ่งนี้ผมต้องเข้าบริษัทกี่โมง”

                    เสียงทุ้มๆ ของคนที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังเอ่ยถามบุคคลที่กำลังทำหน้าที่ขับรถให้เขาอยู่ด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ร่างสูงใหญ่นั่งเอนหลังพิงกับเบาะ เขาเอนหัวไปทางด้านหลังพร้อมกับปิดเปลือกตาลงเพื่อพักสายตาหลังจากที่ต้องเหนื่อยล้ากับงานมาหลายชั่วโมง

     

                    “จริงๆ นายท่านอยากให้คุณเข้าบริษัทตั้งแต่เช้าเลยครับ แต่ถ้าคุณมีธุระด่วนอะไรก็เข้าช้ากว่านั้นก็ได้”

     

                    คนฟังฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา

                    “พรุ่งนี้ผมจะแวะไปมหาลัยก่อน”

     

                    “แล้วบริษัท?

     

                    “ผมจะแวะเข้าไปตอนบ่าย ได้ใช่มั้ย?

                    ดวงตาคมเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง เขายกมือขึ้นนวดขมับของตนเองเมื่อรู้สึกว่าหัวของเขาในตอนนี้มันกำลังตื้อๆ ยังไงชอบกล

     

                    “ได้ครับ”

                    เลขคิมยิ้มบางพร้อมกับตอบรับกลับไป

     

                    ดวงตาของผู้ที่สูงวัยกว่าทั้งอายุและหน้าที่การทำงานมองดูใบหน้าคมของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายของตัวเองด้วยสายตาเอ็นดู นายน้อยที่เขาเห็นตั้งแต่ยังเป็นทารก ได้เห็นเขาค่อยๆ เติบโตขึ้นในแต่ละปี ในตอนนี้คนคนนี้กำลังจะได้ขึ้นเป็นผู้บริหารที่ต้องปกครองใครอีกหลายร้อยคน

                    “เหนื่อยหน่อยนะครับ คุณอาจจะยังไม่ชิน แต่เวลาคุณทำงานจริงมันอาจจะเหนื่อยมากกว่านี้อีกสิบเท่า”

     

                    “ผมน่าจะหนีไปเรียนต่ออีกสักสองปี”

                    เขาบ่นออกมาด้วยความเบื่อหน่าย

     

                    “จะเร็วจะช้าคุณก็ต้องรับหน้าที่นี้อยู่ดีนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าผมจะช่วยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน”

     

                    “ขอบคุณครับเลขาคิม”

     

                    “ยินดีครับ นายน้อยชองยุนโฮ

     

                    “เรียกผมว่าชองยุนโฮก็พอ ตัดไอ้คำว่านายน้อยนั่นออกไปเถอะ ผมเป็นเป็นผู้ใหญ่จนจะขึ้นเป็นประธานอยู่แล้วนะครับเลขาคิม”

                    คนร่างสูงพูดตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เขาขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งๆ ในตอนที่ได้ยินคำว่า “นายน้อย” คำที่ใครต่อใครคนมักใช้เรียกเขามาตั้งแต่เด็กๆ นายน้อยของตระกูลชอง ทายาทเพียงคนเดียวของชองยองโฮ เจ้าของห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่และดังที่สุดของเกาหลีใต้อีกทั้งยังมีธุรกิจในเครือต่างๆ อีกมากมาย และเพราะมีสิ่งที่ต้องดูแลอยู่มากมายอย่างงี้นี่เองที่ทำให้ชองยุนโฮที่ยังไม่ทันจะได้รับใบปริญญาต้องรีบออกมาฝึกงานที่ห้างก่อนที่จะต้องออกไปบริหารงานจริงๆ ในเร็วๆ นี้

     

                    ชองยุนโฮชื่อนี้ที่ใครหลายๆ คนต่างก็รู้จัก ไม่ใช่เพราะเขาเป็นทายาทของเศรษฐีชื่อดังแต่เพียงเท่านั้น แต่ด้วยใบหน้าและรูปร่างของเขา ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยที่จะทำให้คนคนนี้โด่งดัง หลายต่อหลายครั้งที่ชื่อและรูปภาพของชองยุนโฮถูกตีพิมพ์ในหนังสือและนิตยสารชื่อดัง ทั้งภาพข่าว บทสัมภาษณ์ การถ่ายภาพแฟชั่น งานอดิเรกต่างๆ เรื่องกอสซิป หรือแม้แต่ภาพที่เห็นแค่ด้านข้างหรือแค่แผ่นหลังกว้างๆ ของคนคนนี้ก็ยังเป็นข่าวได้เลยให้ตายซิ!

     

                    ดวงตาคมปิดลงอย่างเหนื่อยล้า เขาต้องการจะพักสายตาอีกสักนิดเพราะอีกนานพอสมควรเลยกว่าจะถึงคอนโดของเขา แต่ยังไม่ทันจะได้พักผ่อนอย่างใจหวัง อยู่ๆ รถที่เคลื่อนที่ไปตามท้องถนนอย่างราบรื่นก็เกิดเบรกกะทันหันขึ้นมาซะอย่างงั้น

     

                เอี๊ยด!!!!

     

                ยุนโฮเอนตัวไปทางด้านหน้าตามแรงเบรกของรถ เรียกได้ว่าหัวแทบทิ่มกับเบาะรถเลยก็ว่าได้ ใบหน้าคมดูจะหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบเท่า อาการเหนื่อยล้าจากการทำงานยิ่งทำให้ชองยุนโฮกลายเป็นคนขี้หงุดหงิดมากขึ้นไปอีก

                    “เกิดอะไรขึ้น”

     

                    เลขาคิมหันใบหน้าที่ดูจะตกใจนิดๆ กลับมามองยุนโฮที่นั่งอยู่ทางด้านหลังพร้อมกับเอ่ยปากตอบกลับไป

                    “มีคนโบกรถอยู่ทางด้านหน้าครับ”

     

                    ยุนโฮขมวดคิ้วทันทีหลังจากที่ได้ฟัง ดวงตาคมมองออกไปที่ด้านหน้ารถสิ่งที่เขาเห็นคือร่างของใครบางคนที่ใส่เสื้อกันฝนยืนตากฝนอยู่ข้างทาง

     

                    “เราควรจะจอดรับเธอ….

                    ยังไม่ทันทีเลขาคิมจะได้พูดจบ ยุนโฮก็พูดสวนขึ้นมาเสียก่อน

     

                    “ขับต่อไป รถคันนี้ไม่ใช่แท็กซี่ที่จะต้องมาจอดรับคนแปลกหน้าขึ้นมาร่วมทางด้วย”

     

                    เลขาคิมมีสีหน้าลังเลใจอยู่เล็กน้อยก่อนที่เขาจะหันไปปรับเกียร์และจับพวงมาลัยเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์อีกครั้ง ในตอนที่รถกำลังจะขับผ่านตรงจุดที่คนคนนั้นยืนอยู่ คนร่างบางที่ยืนอยู่ข้างทางก็รีบโบกมือพร้อมกับมองดูรถยนต์คันหรูด้วยสายตาแห่งความคาดหวัง แต่แล้วรถยนต์คันนั้นก็ขับเลยเขาไป

     

                    เลขาคิมมองดูร่างของคนในชุดกันฝนด้วยสายตาเป็นห่วง ก่อนที่จะละสายตากลับมาจ้องมองท้องถนนอีกครั้ง  แต่อยู่ๆ ท้องถนนที่มีเพียงแค่แสงไฟคอยให้แสงสว่างอยู่ตามข้างทางก็เกิดมีแสงสว่างประหลาดอะไรบางอย่างวาบขึ้นมาซะอย่างงั้น และด้วยความตกใจจึงทำให้เขาเผลอเหยียบเบรกรถลงไป

     

                    เพียงไม่นานประตูทางด้านหลังคนขับก็ถูกเปิดออก พร้อมกับร่างของใครบางคนที่อยู่ภายใต้ชุดกันฝนที่แทรกตัวเข้ามาอยู่ภายในรถท่ามกลางความมึนงงของคนทั้งสอง

     

                    คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่จัดการถอดฮู้ดของเสื้อกันฝนออก เส้นผมที่ยังคงเปียกหมาดๆ ลู่ลงแนบเข้ากับแก้มขาวซีด คนร่างบางหันใบหน้าขาวๆ ของตนเองไปมองสบตากับคนทั้งสอง เขายิ้มแหยๆ พร้อมกับพูดออกมาเบาๆ

                    “ผมผม นึกว่าพวกคุณจะไม่เห็นผมซะแล้ว”

     

                    ดวงตาคมมองดูคนมาใหม่ด้วยสายตาหงุดหงิด

     

                    “แต่เพราะคุณป้าคนนั้นบอกผมว่าพวกคุณจะรับผมขึ้นรถมาด้วย ผมก็เลยลองโบกรถคุณดู”

     

                    ทั้งสองคนไม่มีใครพูดตอบอะไรกลับไป ยุนโฮขมวดคิ้วในตอนที่ได้ยินคำว่าคุณป้า? คุณป้าคนไหน? ทั้งๆ ที่ตรงนั้นก็มีนายคนนี้ยืนอยู่แค่คนเดียว ท่าทางเขาจะรับคนสติไม่ดีขึ้นมาบนรถแล้วล่ะมั้งงานนี้ ให้ตายเถอะ!

     

                    แต่เพราะสายตาที่กำลังจ้องมองมาที่ตนเองอย่างนิ่งๆ นั้นยิ่งทำให้แจจุงรู้สึกประหม่าขึ้นไปอีก

                    “เอ่อไม่ทราบว่ารถของพวกคุณจะวิ่งผ่านแถวย่าน….

     

                    “ออกรถ”

                    ยุนโฮไม่รอให้คนแปลกหน้าพูดจบ เขาหันไปสั่งให้เลขาคิมออกรถต่ออย่างทันทีด้วยความหัวเสีย ใจจริงเขาอยากจะไล่คนคนนี้ลงจากรถไปเลยด้วยซ้ำ แต่คิดว่านายคนนี้คงจะไม่ยอมลงจากรถเขาไปง่ายๆ แน่ ไล่ไปก็เสียเวลาเปล่า รีบพาไปปล่อยที่ไหนสักที่แล้วรีบกลับไปนอนน่าจะดีกว่า

     

                    “ครับ”

                    เลขาคิมขับเคลื่อนรถไปตามท้องถนนอีกครั้ง เขาหันมองดูใบหน้าอันแสนจะหงุดหงิดของชองยุนโฮผ่านกระจกมองรถทางด้านหลัง

                   

                    “แล้วจะให้ผมส่งคุณคนนี้ที่ไหนครับ?

     

                    “ปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด”

                    น้ำเสียงนิ่งๆ ที่ตอบกลับมาทำให้คิมแจจุงที่กำลังจะเอ่ยปากพูดต้องรีบหุบปากและนั่งนิ่งๆ อยู่กับที่ดังเดิม

     

                    “ครับ”

                    เลขาคิมตอบรับกลับมาสั้นๆ

     

                    รถยนต์คันหรูแล่นไปตามท้องถนนไปเรื่อยๆ ดวงตากลมของแจจุงก็นั่งมองนู่นมองนี่ไปเรื่อย เขาแอบเหลือบสายตามองดูคนร่างสูงที่นั่งอ่านอะไรสักอย่างอยู่ข้างกายบ่อยๆ

     

                อ่าเขาช่างดูดีเสียจริง

                    นั่นคือความคิดที่อยู่ในหัวของแจจุง สันจมูกโด่งๆ ริมฝีปากเป็นกระจับ ขนตาที่ยาวตรง อีกทั้งดวงตาคมคู่นั้นที่มีโอกาสได้จ้องมองเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้เขาจดจำได้เป็นอย่างดี คนคนนี้เขาเป็นใครกันนะ

     

                    “โอ๊ะ! แฟ้มของคุณกำลังจะล่วง”

                    แจจุงพูดพร้อมกับเอื้อมมือออกไปหยิบแฟ้มที่กำลังจะตกลงจากเบาะรถ แต่ยังไม่ทันที่มือของเขาจะได้แตะกับแฟ้ม ฝ่ามือหนาของใครบางคนก็พุ่งเข้ามาหยิบมันไปเสียก่อน และในจังหวะนั้นนั่นเอง มือของเขา ก็มีโอกาสได้สัมผัสกับฝ่ามือของคนข้างๆ เข้า

     

                แปล๊บ!

                   

                    กระแสไฟอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นในตอนที่มือของพวกเขาสัมผัสกันมันทำให้แจจุงรู้สึกตกใจและประหลาดใจไปในเวลาเดียวกันจนเผลอร้องออกมา

                    “อ๊ะ!?

     

                    ยุนโฮทำหน้ายุ่ง เขาขมวดคิ้วพร้อมกับหยิบเอาแฟ้มเล่มนั้นมาวางข้างตัว

     

                    “คะคุณ? เมือกี้คุณรู้สึกมั้ย ตอนที่มือของพวกเราแตะกัน ผมรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตเลย คุณรู้สึกมั้ย? คุณก็รู้สึกเหมือนผมใช่มั้ย?

                    แจจุงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ไม่เคยมีใครที่เขาโดนตัวด้วยแล้วจะเกิดกระแสไฟประหลาดๆ แบบนี้

     

                    “ไม่”

                    แต่คำตอบของชองยุนโฮนั้นช่างราบเรียบและแตกต่างจากอารมณ์ของคิมแจจุงเสียเหลือเกิน คนร่างบางได้แต่นั่งกุมมือของตัวเองพร้อมกับยิ้มแหยๆ

     

                    คนตัวเล็กเปลี่ยนเป้าหมายไปคุยกับคุณลุงที่ท่าทางใจดีและน่าจะเป็นมิตรมากกว่าคนร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน

                    “ไม่ทราบว่าคุณลุงจะขับรถผ่านหน้าห้างเดอะคิงดอมมั้ยครับ? บ้านผมอยู่แถวนั้น ถ้ายังไง…..

     

                    เสียงพูดของแจจุงถูกแทรกด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ของคนข้างตัว

                    “ปั๊มข้างหน้า”

     

                    แจจุงหันหน้ามามองยุนโฮ

     

                    “ฉันจะส่งนายแค่ที่ตรงนั้นเท่านั้น”

     

                    คนตัวเล็กหน้าเจื่อนพร้อมกับพยักหน้ารับเบาๆ

                    “ครับผมลงตรงนั้นก็ได้”

     

                    และหลังจากนั้นทั่วทั้งรถก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบอีกครั้ง แจจุงนั่งหันหน้าออกไปมองดูสายฝนทางด้านนอกหน้าต่างไปเรื่อยๆ และในตอนนั้นนั่นเองที่ดวงตากลมโตของเขาดันสบเข้ากับร่างบอบบางของหญิงสาวที่ยืนใส่ชุดขาวที่เปื้อนเลือดโชกไปทั้งตัวเข้า ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ หัวใจดวงน้อยเต้นถี่รัว ไม่ชินจะอีกกี่สิบปีเขาก็คงจะไม่มีวันชินกับพรสวรรค์แปลกๆ แบบนี้เป็นอันขาด!

     

                    และดูเหมือนว่าเธอจะรู้ว่าเขานั้นมองเห็นเธอ เพราะใบหน้าของเธอเองก็กำลังจ้องมองมาที่เขาเช่นเดียวกัน ดวงตาที่แสนจะน่ากลัวคู่นั้น้องมองมาที่เขาอย่างไม่ลดละ ก่อนที่ร่างของเธอจะพุ่งตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว

                    “อย่าเข้ามานะ!!!!!

     

                    คนร่างบางหลับตาปี๋ ยกมือทั้งสองข้างปิดตาพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาอย่างดัง ทั้งยุนโฮและเลขาคิมต่างก็พากันตกใจกับอาการแปลกๆ ของคนคนนี้ เลขาคิมหยุดรถพร้อมกับหันหน้ามาเรียกคนร่างบางที่ยังคงหลับตาปี๋อยู่

                    “คุณครับ คุณเป็นอะไรรึป่าว?

     

                    แจจุงค่อยๆ ถ่างนิ้วออกเพื่อให้เกิดช่องว่างระหว่างดวงตาก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง และสิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือ ใบหน้าของหญิงสาวที่ไร้ตาดำ เธอนั่งอยู่บนเบาะที่นั่งข้างคนขับ หันหน้ามาทางเขา ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดง ใบหน้าของเธออยู่ห่างจากใบหน้าของเขาเพียงไม่กี่เซนติเมตร คนตัวเล็กตกใจสุดขีน เขาหวีดร้องออกมาอีกครั้ง

                    “ไม่!!!!!!!

     

                    และที่พึ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดก็คือชายหนุ่มนิรนามที่นั่งอยู่ข้างๆ แจจุงโผเข้าเกาะแขนชองยุนโฮอย่างรวดเร็ว

     

                    พรึ่บ!!!!

                    และร่างของผีสาวตนนั้นก็หายไปอย่างทันที

     

                    แจจุงค่อยๆ หันหน้ากลับไปมองตรงที่ที่เคยมีร่างของผีสาวนั้นนั่งอยู่ แต่ในตอนนี้กลับไม่มีร่างของผีตนนั้นนั่งอยู่อีกต่อไปแล้ว คนตัวเล็กขมวดคิ้ว ดวงตากลมกวาดสายตามองไปรอบๆ รถก่อนที่สายตาของเขาจะวกกลับมาสบตากับดวงตาคมที่กำลังก้มหน้าลงมามองเขาด้วยสายตาไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่นัก

     

                    “ช่วยออกไปจากตัวผมด้วย”

                   

                    แจจุงหน้าเจื่อน เขาค่อยๆ ขยับกายออกมานั่งที่เดิมของตัวเอง รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกเดินทางอีกครั้ง ตลอดระยะเวลาที่นั่งอยู่ในรถแจจุงก็เอาแต่นั่งคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้อยู่ตลอด

     

                    ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผีพวกนี้จะหายไปง่ายๆ และรวดเร็วถึงขนาดนี้ ทุกครั้งที่เขาเจอผีพวกนี้มักจะคอยตามติดเขาและขอร้องให้เขาช่วย และจะยอมสลายตัวหายไปเมื่อได้รับความช่วยเหลือจากเขาแล้ว หรือถ้าเป็นพวกผีที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องอะไร ก็มักจะคอยหลอกหลอนให้เขากลัวด้วยหน้าตาที่น่าเกลียดต่างๆ นานา พอแกล้งเขาเสร็จถึงจะจากไป แต่ผีผู้หญิงเมื่อสักครู่นี้ ยังไม่ทันจะได้แกล้งอะไรเขาหรือขอให้เขาช่วยอะไรเลยสักนิด

     

                เพียงแค่เขาแตะตัวของผู้ชายคนนี้ผีตนนั้นก็หายไป

     

                    “ถึงแล้วครับ”

                    เลขาคิมหันมาบอกคนทั้งคู่ รถยนต์คันหรูจอดอยู่ที่หน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้ยังพอมีรถยนต์และผู้คนให้เห็นมากขึ้นกว่าที่อื่นๆ

     

                    ดวงตาคมปรายสายตามองคนร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นเชิงบอกให้แจจุงนั้นลงจากรถของเขาไปสักที

     

                    ดวงตากลมหันไปมองดูบรรยากาศทางด้านนอกรถ เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ปั๊มน้ำมันนี้ห่างจากบ้านของเขาเพียงไม่มากนัก เดินไปไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย เห๊อ

     

                    แจจุงยิ้มแหยๆ หัวยุ่งๆ ของเขาก้มลงเล็กน้อยในตอนที่เขากล่าวขอบคุณคนทั้งสอง

                    “ขอบคุณครับ ขอบคุณที่มาส่ง”

     

                    ยุนโฮพยักหน้ารับไปแบบส่งๆ

                    “ลงไปได้แล้ว ฉันจะรีบกลับบ้าน”

     

                    แจจุงพยักหน้าก่อนที่จะส่งยิ้มกว้างไปให้กับคุณลุงที่ดูใจดีคนนั้นเป็นการบอกลา แต่ก่อนที่จะเปิดประตูลงจากรถไปคนตัวเล็กก็ทำใจกล้ายื่นมือออกไปแตะแขนของคนร่างสูงที่นั่งหน้ายุ่งอยู่อีกครั้ง ก่อนที่จะรีบลงจากรถไปเพราะกลัวโดนคนคนนั้นเขมือบหัว

     

                    ทันทีที่คนแปลกหน้าและแปลกประหลาดได้ลงจากรถของตัวเองไปแล้ว ชองยุนโฮก็สั่งให้เลขาคิมออกรถอย่างทันที เขาไม่ได้หันกลับไปมองดูคนคนนั้นและไม่มีความคิดที่จะต้องหันไปมองด้วย คิดว่านี่คงจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่จะได้พบกัน คนแปลกๆ แบบนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้ชองยุนโฮเจอเป็นครั้งที่สองหรอก

     

                    ทางด้านของแจจุงนั้นกลับคิดในสิ่งที่ตรงข้ามกัน ดวงตากลมมองดูรถยนต์สีดำคันหรูที่วิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ จนลับสายตาพร้อมกับฉีกยิ้มออกมาบางๆ

     

                    เขาก้มหน้าลงมองฝ่ามือของตนเอง นึกถึงกระแสไฟบางอย่างในตอนที่มือของเขาและมือของผู้ชายคนนั้นสัมผัสกันแล้วก็ได้แต่ฉีกยิ้มออกมา

     

                    คุณเป็นใครกันนะ…’

     

     

    TBC ^----------^*

     

     

    *******************************************************

     

    Talk : )

     

    สวัสดีค่ะทุกคนนนนนนน
    มุกนี่ชอบมาดึกๆ ตอนที่เค้านอนแล้วเสมอเลยเนอะ 55555
    วันนี้เป็นวันดี เป็นวันเกิดของคนสวย มายเมนของมุก คิมแจจุงนั่นเอง
    ก็เลยได้ฤกษ์งามยามดีมาอัพฟิคซะเลย ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดของแจจุงที่มุกได้เอามามอบให้กับทุกๆ คนก็แล้วกันเนอะ

    ช่วงนี้กำลังนอยด์อยู่ค่ะ สาเหตุเพราะทงบังไม่ได้ขึ้นไลฟ์ อดเจอหน้าหล่อๆ ของสองหนุ่ม อดแซวพี่ยุนเรื่องเชือกเลย
    เค้าเสียใจ T^T

    จริงๆ ช่วงนี้มุกกำลังฝึกงานอยู่ค่ะ จันทร์ถึงศุกร์ฝึกงาน วันเสาร์มีเรียน ตารางแน่นมากชีวิต
    เหนื่อยค่ะ งานก็เยอะ รายงานก็ต้องส่ง ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย
    ฟิคเรื่องนี้ก็พยายามจะเอามาลงให้ได้ทุกอาทิตย์นะคะ จะพยายาม

    เป็นไงกันบ้างคะ ได้ลองอ่านสองตอนแล้ว ชอบกันมั้ย?
    ถ้าใครที่ดูซีรีส์เรื่องนี้เหมือนกันน่าจะโอเคอยู่เนอะ มุกชอบคาแรคเตอร์ของพระเอกและนางเอกเรื่องนี้มาก
    งงๆ มึนๆ แต่ก็น่ารักกันทั้งคู่
    ถ้าใครว่างๆ ลองไปหาเรื่องนี้ดูกันนะคะ สนุกมากค่ะ!

    เอาล่ะ ขอแวะไปปั่นวิวสักนิดก่อนนอนก่อนนะคะ
    ขอจบทอล์คแต่เพียงเท่านี้ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
    ^-------------------^*

    Twitter >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE  
    E-mail >>> mookiie_jong@hotmail.com 

     

    *******************************************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×