คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ,,, Part 18 ,,, ฉันรักนาย
Title : Mystery Love
Type : Long fiction
Author : *..MooKiiE..*
Category : Comedy / Romance
Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
Note : เรื่องนี้มุกได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง The Master’s Sun นะคะ จึงทำให้เนื้อหาบางอย่างอาจคล้ายคลึงกันบ้าง
*******************************************************
ขอให้มีความสุขในการอ่านค่ะ และ
อย่าลืมกดเป็นแฟนพันธุ์แท้ฟิคเรื่องนี้กันนะคะ ^^
Part 18
“ฉันเอง……..”
“ผู้หญิงเลวของนายไง”
หลังจากที่คิมแจจุงพูดคำนั้นออกมาชองยุนโฮก็นิ่งค้างไปอย่างทันที ดวงตาคมจ้องมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา แม้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้จะเป็นคิมแจจุง แต่ความรู้สึกของเขากลับบอกว่ามันไม่ใช่…
“ชเวอินนา…”
ใช่… ความรู้สึกของเขาบอกว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้คือชเวอินนา รักแรกและรักเดียวของเขา
คนที่หักหลังและทิ้งเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ
คนร่างบางยกยิ้ม
“ดีใจจังที่นายยังจำฉันได้”
ยุนโฮยกยิ้มที่มุมปาก เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีโอกาสได้มายืนคุยกับคนที่ตายไปแล้วตั้งหลายปีแบบนี้ อีกทั้งคนคนนั้นก็ยังเป็นคนที่เขาไม่อยากจำและไม่อยากเจอมากที่สุดในชีวิตอีกด้วย
“หึ! ฉันไม่มีวันลืมเธอหรอก”
แม้จะไม่อยากจำ แต่เขาก็ไม่สามารถลืมเธอหรือลบเธอออกไปจากความทรงจำของเขาได้
“นายคงเกลียดฉันมากเลยซินะ ทั้งๆ ที่นาย… เคยรักฉันมากแท้ๆ”
ยุนโฮกำมือแน่นในตอนที่ได้ฟังคำพูดเหล่านั้น เขาอยากจะปฏิเสธมันออกไปแต่ในเมื่อทุกคำพูดนั้นเป็นเรื่องจริงเขาก็เลยได้แต่ยืนเจ็บใจอยู่นิ่งๆ
“ยิ่งนายรักฉันมากเท่าไหร่ นายก็ยิ่งเกลียดฉันมากเท่านั้น”
แจจุงหรือจะพูดให้ถูกว่าอินนาที่อยู่ในร่างของแจจุงพูดออกมาพร้อมกับฉีกยิ้มเศร้าๆ
“ใช่”
ยุนโฮตอบกลับมาด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่น้ำเสียงแน่วแน่
“เพราะเธอรีบจากฉันไปแบบนั้น ฉันก็เลยได้แต่เจ็บใจและเก็บความเกลียดนั้นเอาไว้โดยที่ไม่ได้แก้แค้นเธอคืน”
หญิงสาวฟังแล้วก็ได้แต่ฉีกยิ้มออกมาเศร้าๆ
“ฉันอยากให้นายกลับมาเป็นชองยุนโฮคนเดิม”
ยุนโฮแทบจะหัวเราะออกมาเสียงดังในตอนที่ได้ฟัง
“ก็ไม่ใช่เพราะเธอหรอถึงทำให้ฉันกลายเป็นชองยุนโฮคนนี้”
“เธอเป็นคำสาปในรักแรกของฉัน”
“แต่ในเมื่อเธอกลับมาแล้ว ก็ช่วยทำให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิมซะซิ”
ดวงตาของเธอจ้องมองคนตรงหน้าอย่างเศร้าสร้อยและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
“ช่วยถอนคำสาปนั้นซะ”
ดวงตาคมจ้องมองสบสายตากับคนตรงหน้าอย่างแน่วแน่แต่ทว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวด ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ายุนโฮนั้นรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์นี้มากแค่ไหน
“ช่วยคืนหัวใจของฉันกลับคืนมาสักทีซิ”
เพราะไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ไม่ว่าจะบอกว่าตัวเองนั้นลืมเธอได้แล้ว แต่ในความเป็นจริง มันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เขายังคงรักเธอและจดจำรักครั้งแรกนี้ได้อย่างขึ้นใจ
แม้สมองจะสั่งให้ลืม แต่หัวใจกลับจดจำ…
ความรักของเขายังคงอยู่ที่เธอไม่เปลี่ยนแปลง
อินนายิ้มเศร้า ดวงตากลมโตของแจจุงเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา ฝ่ามือขาวค่อยๆ ถูกยกขึ้นมาโดยหมายที่จะสัมผัสใบหน้าของคนร่างสูง
“ยุนโฮอ่า…….”
“ฉันไม่เคยหลอกนายเลยนะ”
ดวงตาของเธอที่จ้องมองอีกฝ่ายนั้นช่างเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อยากจะบอก รวมไปถึงคำขอโทษที่อยากจะพูดออกไปด้วย
“………………”
ดวงตาคมจ้องมองคนตรงหน้าดวยสายตาเจ็บปวด ผู้หญิงคนนี้เป็นบาดแผลครั้งใหญ่ในชีวิตและความทรงจำของเขา เธอเป็นแผลที่แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่สามารถจะรักษาให้หายได้ แม้จะถูกรักษาเป็นอย่างดี แต่บาดแผลในครั้งนี้ก็ยังหลงเหลือเป็นแผลเป็นให้เขาได้จดจำ
‘ครั้งหนึ่ง… เขาก็เคยรักเธอมากเช่นกัน’
และไม่รู้ว่ามันยังจะเป็นแบบนั้นอยู่มั้ย…
ฝ่ามือขาวๆ ของแจจุงยื่นเข้ามาสัมผัสใบหน้าคม ยุนโฮมองฝ่ามือนั้น ดวงตาของเขาแดงก่ำเพราะพยายามฝืนไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา
‘อย่าแสดงความอ่อนแอออกไปเด็ดขาดนะชองยุนโฮ อย่าทำให้เธอรู้ว่าเธอนั้นมีอิทธิพลต่อนายขนาดไหน’
ฝ่ามือของแจจุงวางทาบลงที่ข้างแก้มของยุนโฮ ดวงตาของเธอจ้องมองสบสายตากับดวงตาคมอย่างสั่นไหว ก่อนที่วิญญาณของเธอจะหลุดออกจากร่างของแจจุงไป เธอได้พูดบางอย่างทิ้งท้ายเอาไว้เบาๆ ซึ่งมันเป็นคำพูดที่ดังก้องสะท้อนไปทั่วทั้งหัวสมองและหัวใจของยุนโฮเหลือเกิน
“ชองยุนโฮ… ฉันรักนาย”
สายลมที่พัดผ่านมานำพาวิญญาณของอินนาให้มลายหายไปกับอากาศ บรรยากาศรอบข้างนั้นเงียบสงบ ทันทีที่อินนาออกจากร่างของแจจุงไป ร่างของคิมแจจุงก็เอนตัวลงมาซบยุนโฮที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างทันที ศีรษะกลมของแจจุงเอนซบอยู่ที่ลาดไหล่ของคนร่างสูง
ยุนโฮยืนนิ่งไม่ไหวติ่งอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะถูกยกขึ้นมาอย่างช้าๆ เขาวางมือลงที่แผ่นหลังบอบบางของแจจุงอย่างแผ่วเบา
ราวกับว่าเขากำลังโอบกอดคนคนนี้เอาไว้…
เธอ… จะกลับมาทำไม…
กลับมาให้ฉันคิดถึงเธออีกทำไม? อินนา…
.
.
.
“ผู้หญิงคนนั้นเธอมาขอใช้ร่างของผม ท่านประธานรู้จักเธอมั้ยครับ?”
แจจุงเอ่ยถามออกมาในตอนที่เขากำลังนั่งทานข้าวเช้าอยู่ในห้องพักของยุนโฮ ถึงแม้จะเป็นอาหารที่ยุนโฮโทรสั่งมาจากร้านข้างล่างคอนโดก็ตาม แต่แค่นี้เขาก็ดีใจแล้ว!
โอ๊ย! พูดแล้วก็นึกว่าตัวเองฝันไป ไม่นึกไม่ฝันว่าความฝันที่จะได้มาที่บ้านของยุนโฮจะเป็นจริงได้เร็วขนาดนี้ ช่วงนี้เขากำลังดวงดีแบบสุดๆ ไปเลยซินะ ได้มาบ้านของยุนโฮแล้ว แถมยังได้นอนเตียงเดียวกับยุนโฮอีกต่างหาก ความฝันต่อไปเป็นอะไรดี?
ขอให้ได้เป็นแฟนกับท่านประธานเร็วๆ ก็แล้วกัน ฮิฮิ
ยุนโฮยกกาแฟขึ้นจิบด้วยท่าท่างสบายๆ
“อืม”
แจจุงตาโตด้วยความตกใจ นี่ยุนโฮรู้จักวิญญาณผีตนนั้นด้วยหรอเนี่ย!
“เธอเป็นใครหรอครับ? ญาติ? เพื่อน? หรือว่าแค่คนรู้จัก”
ยุนโฮไม่ตอบ อันที่จริงเขาแทบจะไม่อยากพูดถึงเรื่องของเธอเลยด้วยซ้ำ
“แล้วเธออยากจะให้ผมช่วยอะไรเธอรึป่าว? บอกมาได้เลยนะครับ! ผมจะช่วยเต็มที่เลย!!”
ยิ่งถ้าเป็นคนรู้จักของท่านประธานด้วยแล้วเขายิ่งพร้อมช่วย!
ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าขาวๆ และดวงตากลมโตของคิมแจจุงที่กำลังฉายแววกระตือรือร้นอยู่ด้วยใบหน้านิ่งๆ
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอต้องการจะให้นายช่วยอะไรรึป่าว”
แจจุงฟังแล้วก็ได้แค่ยกมือขึ้นเกาจมูกพร้อมกับฉีกยิ้มแหยๆ แก้เขิน
“ส่วนเรื่องที่ถามว่าเธอเป็นใครนั้น… ฉันคงจะพอตอบได้”
ในเมื่อคิมแจจุงสามารถเห็นเธอได้ และก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เห็นเธอบ่อยแค่ไหน ยังไงสักวันหมอนี่ก็ต้องรู้อยู่ดีว่าเธอเป็นใคร สู้เขาบอกไปเลยให้มันจบๆ ไม่ต้องเป็นปัญหาคาราคาซังแบบนี้ไปเลยน่าจะดีกว่า
แจจุงตื่นเต้นและอยากรู้เรื่องของเธอคนนั้นเอาเสียมากๆ ก็นะ อดีตเคยเป็นคนที่ยุนโฮรู้จักนี่นา… เขาก็ย่อมอยากจะรู้เป็นธรรมดา
“เธอชื่อว่าชเวอินนา”
แจจุงพยักหน้ารับเบาๆ เพื่อเป็นการรับรู้ ผีผู้หญิงที่สวยๆ ตนนั้นชื่อว่าอินนา อ่า… ถ้าได้เจอกันอีกต้องไปทำความรู้จักเอาไว้ซะแล้ว แต่ประโยคต่อมาของยุนโฮทำเอาแจจุงถึงกับผงะและแทบอยากจะถอนคำพูดทั้งหมดทิ้งไปอย่างทันที
“เธอเคยเป็นแฟนของฉันเอง”
และสงสัยจะกลัวว่าคิมแจจุงจะช็อคไม่พอ ชองยุนโฮถึงได้จัดให้ชุดใหญ่เต็มๆ
“เป็นรักครั้งแรก และรักครั้งเดียวของฉัน”
นี่เขา…
มีคู่แข่งเป็นผีหรือเนี่ย!?
‘ถอนคำพูด! ผมไม่อยากรู้จักคุณละ คุณชเวอินนา!’
.
.
.
.
.
“ทำไมฉันต้องมานั่งอดหลับอดนอนเพื่อรอพี่นายด้วยเนี่ย!”
ปาร์คยูชอนเอ่ยปากพูดประโยคนี้มาเป็นรอบที่ร้อยแล้วก็ได้มั้ง ทั้งๆ ที่ปกติแล้วฝ่ายถามนั้นจะเป็นคิมจุนซู แต่สถานการณ์ในวันนี้มันกลับกัน เพราะครั้งนี้คิมจุนซูเป็นฝ่ายลากเขาให้มานั่งรอพี่ชายของตนเองที่หายไปตั้งแต่เมื่อคืน
ย้อนกลับไปเมื่อคืน หลังจากที่วางสายจากอีกฝ่ายเขาก็รีบวิ่งออกมาจากงานอย่างทันที และเขาก็เห็นคิมจุนซูยืนหน้าเครียดอยู่หน้างาน จนเขาต้องเดินเข้าไปถามด้วยความสงสัย
แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้น… ไม่ใช่คำตอบ
แต่เป็นคำด่าชุดใหญ่เลยล่ะ
“ปาร์คยูชอน!”
ถึงกับเรียกแค่ชื่อเฉยๆ เดาได้เลยว่าเจ้าเด็กแสบนี่คงจะโมโหมาก
ยูชอนถึงกับผงะไปเล็กน้อยที่โดนคนตัวเล็กหันกลับมาจ้องหน้าเหมือนกับกำลังจะเขมือบร่างเขาไปทั้งตัวแบบนั้น
“คุณรู้มั้ยว่าคุณทำให้พี่ของผมหายไป! คุณทำให้ผมต้องละสายตาจากพี่แจจุง! คุณก่อเรื่องให้ผมอีกแล้วนะ! คุณจะทำให้ชีวิตของผมวุ่นวายไปถึงไหนกัน!!”
คนแรกเลยที่บอกว่าเขาเป็นตัวสร้างความวุ่นวาย!
“ให้ตายเหอะ! ชีวิตผมไม่น่ารู้จักคนอย่างคุณเลย!!”
และก็เป็นคนแรกอีกเช่นกันที่ไม่อยากรู้จักเขา… ให้ตายเหอะ! เหมือนโดนเอาเท้ามาเหยียบที่หน้าเลยว่ะ!
คิดแล้วก็ตลก เจ้าของโรงแรมยืนให้นักศึกษาฝึกงานด่าอยู่เฉยๆ เหมือนอำนาจของพวกเราสองคนนี่จะสลับที่กันยังไงก็ไม่รู้แหะ
“เพื่อเป็นการชดใช้! คุณต้องไปช่วยผมตามหาพี่ชายและต้องอยู่รอเขาจนกว่าที่พี่แจจุงจะกลับมา!”
และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้ปาร์คยูชอนต้องมานั่งตาปรือหาวแล้วหาวอีกอยู่ที่ห้องพักของคิมจุนซูในตอนนี้นั่นเอง และคงเพราะเรื่องนี้จึงทำให้คิมจุนซูไม่ได้รู้สึกกังวลใจที่จะต้องอยู่ร่วมห้องกับเขาตามลำพังสองต่อสอง เพราะความกังวลทั้งหมดถูกเทไปที่เรื่องของพี่ชายตนเอง
จุนซูนั่งกอดอกขมวดคิ้วพร้อมกับทำหน้าเครียด พี่แจจุงยังไม่กลับมาเลย ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองไปที่บานประตูห้องอีกครั้งพร้อมกับภาวนาให้พี่ชายของเขาเปิดประตูเข้ามาเสียที ไม่รู้ว่าเมื่อคืนพี่แจจุงจะไปก่อเรื่องอะไรเอาไว้รึป่าว อันที่จริงต้องบอกว่าไม่รู้จะมีใครมาอาศัยร่างของพี่แจจุงก่อเรื่องรึป่าวต่างหาก…
“เดี๋ยวพี่นายก็กลับมา”
จุนซูตวัดสายตามองยูชอนอย่างขุ่นเคือง
“คุณก็พูดได้ซิ คนที่หายไปไม่ใช่พี่คุณหนิคุณจะไปรู้สึกอะไร!”
จุนซูเม้มปากแน่น
“คุณไม่รู้หรอกว่าพี่ชายผมเขาไม่เหมือนคนอื่น”
ดวงตาคมจ้องมองคนตรงหน้านิ่ง สีหน้าจริงจังของเจ้าเด็กแสบทำให้เขารู้ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเล่นหรือหยอกล้ออะไรได้ตามปกติ
คนตัวเล็กขบกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้ ในตอนนี้เขากังวลไปหมด ใจสั่นและหวาดกลัวคิดไปต่างๆ นานา ได้แต่ภาวนาไม่ให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพี่แจจุง
‘พี่ต้องปลอดภัยนะพี่แจจุง ขอให้วิญญาณดีๆ ช่วยดูแลและปกป้องพี่ชายของเขาด้วย’
ยูชอนจ้องมองคนที่นั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟา จุนซูทั้งเม้มปากและกำมือตัวเองแน่น เขาที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกตัวนึงลุกขึ้นเดินไปทรุดตัวอยู่ข้างๆ คนตัวเล็ก ซึ่งจุนซูก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับการย้ายที่นั่งของเขาเลยแม้แต่น้อย
ดวงตาคมจ้องมองฝ่ามือของคนตัวเล็กด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะยื่นเข้าไปกอบกุมฝ่ามือเล็กๆ ที่กำลังบีบแน่นจนเล็บจิกเข้าไปที่เนื้อนั่นเบาๆ จุนซูสะดุ้งเล็กน้อยเขาหันกลับมาเตรียมจะอ้าปากด่าคนตรงหน้าแต่ก็โดนปาร์คยูชอนเอ่ยปากพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“เวลาที่นายเครียดนายคงจะเผลอจิกมือตัวเองแบบนี้บ่อยๆ ซินะ”
ยูชอนจับฝ่ามือที่กำแน่นของจุนซูให้แบออก รอยเล็บที่ถูกจิกลงไปบนผิวมือปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดก่อนที่ฝ่ามือหนาจะลูบและนวดลงไปที่มือข้างนั้นเบาๆ
“ถ้ารู้ว่าตัวเองมีนิสัยแบบนี้ เวลาที่โกรธหรือเครียดก็ให้หาผ้ามากำเอาไว้แทนจะได้ไม่จิกเล็บลงไปที่มือตัวเองแบบนี้อีก”
จุนซูนั่งฟังคนร่างสูงพูดอย่างนิ่งๆ เขาไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืนฝ่ามือหนาที่กำลังกอบอุมฝ่ามือของเขาเอาไว้ ดวงตาเรียวเล็กก้มลงมองที่ฝ่ามือของตัวเอง
‘เขาก็เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่าตัวเองมีนิสัยแบบนี้’
ยูชอนนวดฝ่ามือของจุนซูไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับฉีกยิ้มบางๆ ไปให้กับคนที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่
“ฉันเองก็เคยมีคนรู้จักที่ชอบจิกมือตัวเองเวลาโกรธหรือเครียดเหมือนนาย”
“แล้วเขามีวิธีแก้ยังไง?”
จุนซูถามออกไปด้วยความสงสัย
ยูชอนยกยิ้มก่อนที่จะเอ่ยปากตอบกลับไป
“เวลาที่เขาโกรธและถ้าฉันอยู่ด้วย ฉันก็จะทำแบบนี้”
ยูชอนยื่นมือออกไปกอบกุมฝ่ามือของจุนซูเอาไว้อีกครั้ง
“แล้วก็บอกกับเขาว่า…”
“จิกมือฉันแทนจิกมือตัวเองเถอะ”
ทั้งๆ ที่ประโยคนั้นไม่ได้พูดกับเขา แต่ทำไมเขาถึงกลับรู้สึกใจสั่นแปลกๆ แหะ แล้วไหนจะดวงตาคมที่จ้องมองมานั่นอีก ทำไมมันมีประกายประหลาดๆ สงสัยเราจะเพลียเพราะไม่ได้นอนซินะคิมจุนซู!
‘อยู่ๆ ก็มองว่าปาร์คยูชอนหล่อขึ้นมาซะอย่างงั้น!’
“เอ่อ……”
จุนซูเป็นฝ่ายหันหน้าหลบสายตาที่จ้องมองมา เขาดึงมือของตัวเองออกมาจากฝ่ามือหนาซึ่งยูชอนก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรตอบกลับมา เขายังคงนั่งนิ่งๆ อยู่ที่เดิม
“นายอยู่กับพี่ชายแค่สองคนหรอ?”
“ครับ… เรามีกันแค่สองคน”
ยูชอนพยักหน้ารับเบาๆ เป็นการรับรู้ ก่อนหน้านี้หมอนี่บอกกับเขาว่าพี่ชายตัวเองไม่เหมือนคนปกติทั่วๆ ไปนี่นา… แต่ที่เขาดูก็ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก และถ้าแปลกจริงๆ ไอ้ยุนโฮมันจะรับเข้ามาทำงานด้วยได้ไง?
“นายบอกว่าพี่ชายตัวเองไม่เหมือนคนอื่นๆ”
“ครับ… พี่ชายผมเขาเห็นผีได้”
“เห็นผีได้?”
แว๊บแรกที่ได้ยินยูชอนยอมรัยเลยว่าเขาไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เอาไว้ไปถามยุนโฮเอาอีกทีก็แล้วกัน เผื่อเพื่อนเขามันพอจะรู้อะไรดีๆ บ้าง
จุนซูพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ เขาถอนหายใจออกมา
“และถ้าเขาเมาหรือไม่มีสติ ผีพวกนั้นก็จะเข้าสิงร่างของพี่แจจุงได้”
“และเรื่องแบบนี้มันก็เคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว พี่แจจุงเคยหายตัวไปและไปโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้มาหลายครั้ง ผมไม่ชอบเหตุการณ์แบบนั้นเลยจริงๆ”
เพียงแค่คิดถึงเหตุการณ์เก่าๆ ที่เคยเกิดขึ้นใจของเขาก็สั่นไหวแปลกๆ เสียแล้ว เพราะในตอนนี้พี่แจจุงคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา เป็นพี่ชายที่แสนดี เป็นที่พึ่ง เป็นเหมือนพ่อแม่ที่คอยดูแล เป็นโลกทั้งใบของเขา…
“ถ้าพี่แจจุงเป็นอะไรไป…….”
จุนซูพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ดวงตาเรียวเล็กแดงก่ำและเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสๆ และก็เป็นอีกครั้งที่จุนซูเผลอจิกเล็บเข้ากับมือของตัวเอง
ยูชอนแทรกฝ่ามือของตัวเองเข้าไปกอบกุมฝ่ามือของจุนซูที่กำลังกำมือแน่น จุนซูหันหน้ากลับไปมองสบสายตากับดวงตาคม ใบหน้าของพวกเขาอยู่ห่างกันไม่กี่คืบ
“ถ้าอยากจะจิก ก็จิกลงที่มือของฉันเลย”
“อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก พี่นายยังไงก็ต้องปลอดภัยและกลับมาหานายอย่างแน่นอน”
“ถ้าพี่แจจุงไม่กลับมาล่ะ?”
“พี่ชายนายรักนายมากมั้ย?”
“มากที่สุด”
“และพี่นายเคยทิ้งนายรึป่าว?”
ยูชอนไม่ตอบแต่เป็นฝ่ายเอ่ยปากถามกลับไปแทน
จุนซูส่วยหน้าไปมา
“ไม่เคย”
ยูชอนยกยิ้ม
“อย่ากลัวไปเลย พี่นายจะต้องกลับมาหานายแน่ๆ”
จุนซูเม้มปากแน่น ถึงจะเป็นอย่างงั้น เขาก็ยังอดกลัวไม่ได้อยู่ดี โทรศัพท์พี่แจจุงติดต่อไม่ได้ หายตัวไปไหนเขาก็ไม่รู้! ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่แจจุงจะเป็นยังไงบ้าง พี่จะได้กินข้าวรึยัง? ไม่ได้โดนใครแกล้งอะไรใช่มั้ย?
“แต่ผม….. ก็…. ยังกลัว”
จุนซูในตอนนี้ช่างดูอ่อนแอเหมือนเด็กๆ หวาดกลัวและหวั่นวิตกไปหมด ไม่เหมือนคิมจุนซูเจ้าเด็กแสบที่คอยแกล้งเขาเลยแม้แต่น้อย และถ้าเลือกได้ เขาอยากเห็นคิมจุนซูเจ้าเด็กแสบคนนั้นมากกว่า
แต่เพราะความกลัวที่คนตรงหน้าแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้ยูชอนที่นั่งอยู่ข้างๆ อดที่จะสงสารและเห็นใจอย่างไม่ได้ เขาจึงกระทำบางสิ่งบางอย่างลงไป
หมับ!
เรียวแขนของยูชอนเอื้อมออกไปรั้งเอาร่างเล็กๆ ของคิมจุนซูที่กำลังสั่นเพราะความกลัวให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร้อมกับยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังเล็กๆ ที่สั่นไหวนั้นไปมาเป็นการปลอบประโลม ถ้าคิมจุนซูอยู่ในโหมดเจ้าเด็กแสบคงจะไม่ยอมให้เขาทำอะไรแบบนี้อย่างแน่นอน! แต่เพราะในตอนนี้คนตัวเล็กกำลังอยู่ในช่วงอ่อนแอ ถึงยอมให้เขาโอบกอดอย่างง่ายๆ โดยที่ไม่ลุกขึ้นมาด่าและเอาเท้าเหยีบหน้าเขาเหมือนอย่างที่เคยทำ
จุนซูสั่นไหวอยู่ในอ้อมกอดของคนร่างสูง เขาแทบจะร้องไห้ออกมาในตอนที่ถูกโอบกอด เขา… คิดถึงอ้อมกอดของพี่แจจุงเหลือเกิน
ยูชอนลูบแผ่นหลังเล็กนั้นไปมาอย่างแผ่วเบา ในขณะที่ปากก็คอยพูดปลอบไปด้วย
“ไม่เป็นไรนะเด็กน้อย พี่นายจะต้องปลอดภัย”
“เขาจะต้องกลับมาหานายอย่างแน่นอน”
“ฉันจะอยู่ข้างๆ นายเอง”
ประโยคนี้ทำเอาจุนซูรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด
และทั่วทั้งห้องก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบ แต่แล้วอยู่ๆ เสียงของบานประตูที่ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงของบุคคลที่สามและสี่ที่ดังมาจากทางด้านหน้าประตูก็ทำให้คนทั้งคู่ต้องหันหน้ากลับไปมอง
คนที่เปิดเข้ามาใหม่ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคิมแจจุงเจ้าของห้องอีกคนที่มาพร้อมกับชองยุนโฮที่ยืนขมวดคิ้วจ้องมองเพื่อนสนิทของตัวเองที่ไม่คิดว่าจะมาเห็นอยู่ที่ห้องพักเล็กๆ แบบนี้ได้
แจจุงจ้องมองน้องชายตัวเองตาปริบๆ
“จุนซู… นั่นน้องกำลังนั่งกอดใครอยู่น่ะ?”
ยุนโฮเองก็เช่นกัน
“ปาร์คยูชอน… ทำไมถึงมานั่งกอดน้องชายชาวบ้านเขาอยู่ที่นี่?”
และเพราะคำพูดนั้นของคนทั้งสอง จึงทำให้จุนซูเพิ่งรู้สึกตัวว่าในตอนนี้… ตัวเองกำลังโดนคนร่างสูงโอบกอดเอาไว้อยู่
“อ๊าก!!! ไอ้หน้าหนู! กล้าดียังไงมากอดฉันเอาไว้แบบนี้น่ะห๊ะ!?”
เพราะความโกรธ…
จึงทำให้คิมจุนซูลืมดีใจที่พี่ชายของตัวเองกลับมาถึงห้องแล้วไปซะสนิท…
สองคนนี้ไม่น่ารีบโผล่เข้ามาเลย ให้ตายซิ!
‘นั่งให้ฉันกอดอยู่ได้ตั้งนาน ยอมรับมาเหอะว่านายเองก็เคลิ้มอยู่เหมือนกันแหละน่า… ไอ้เด็กแสบ’
TBC ^-----------^*
*******************************************************
Talk : )
สวัสดีค่ะทุกคนนนนนนนน
มุกมาแล้ววววววววว
มาดึกๆ เป็นประจำ 5555555
พาร์ทที่แล้วมีแม่ยกยูซูเมนชั่นไปถามถึงคู่รักตัวแสบ พาร์ทนี้ก็จัดให้แล้วนะคะ
ฟินกันพอมั้ยนะ ><
คู่ยุนแจเราก็มา
รู้อดีตของพี่ยุนกันแล้ว คู่แข่งของแจจุงปรากฏตัวและ นี่เรียกว่าคู่แข่งได้ป่ะเนี่ย 55555
เหนื่อย ไม่รู้จะคุยอะไรและ ทำงานสามวันติดร่างจะแตก TT
ขอไปพักก่อนนะคะ
ใครเล่นทวิต ถ้าอยากคุยหรือติดต่อสอบถามเรื่องฟิคก็เมนชั่นมาได้เลยค่ะ ฟิคเก่าๆ พอเหลืออยู่นิดนึง สอบถามมาได้
Twitter >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE
E-mail >>> mookiie_jong@hotmail.com
ขอขอบคุณทุกๆ คนที่กดเข้ามาอ่านนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
^------------------------------^*
*******************************************************
ความคิดเห็น