คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ,,, Part 17 ,,, พอเมาแล้วก็กลายร่างเป็นหมา
Title : Mystery Love
Type : Long fiction
Author : *..MooKiiE..*
Category : Comedy / Romance
Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
Note : เรื่องนี้มุกได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง The Master’s Sun นะคะ จึงทำให้เนื้อหาบางอย่างอาจคล้ายคลึงกันบ้าง
*******************************************************
อย่าลืมกดเป็นแฟนพันธุ์แท้ฟิคเรื่องนี้กันนะคะ ^^
Part 17
เมื่อคิมแจจุงเมา อะไรจะเกิดขึ้น และทำไมจุนซูถึงดูกระวนกระวายใจนักเมื่อรู้ว่าพี่ชายของตนเองนั้นดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้คงจะเป็นคำอธิบายของคำถามเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
ดวงตากลมโตจ้องมองดูน้องชายของตนเองที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่นิ่งๆ และในตอนนั้นนั่นเองที่เขารู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของบางสิ่งบางอย่าง หางตาของเขารับรู้ได้เพียงแค่ว่าสิ่งนั้นมีสีขาว…
แจจุงหันหลังกลับไปมอง เขาเห็นผู้หญิงที่ดูสวยมากๆ ในชุดสีขาว ใบหน้าของเธอเศร้าหมอง ดวงตาของเธอโศกเศร้า และเพราะความสงสัยคนตัวเล็กจึงได้เดินตามร่างของเธอไปโดยลืมเรื่องของน้องชายไปเสียสนิท
แจจุงเดินตามเธอมาเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้รู้หรือสนใจเลยว่าตนเองกำลังจะเดินไปไหน
ภาพที่อยู่ตรงหน้าดูมัวๆ โลกดูเอียงไปเอียงมาเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไป รู้ตัวอีกทีหญิงสาวคนนั้นก็เดินพาเขามาหยุดอยู่ที่ข้างหลังแผ่นหลังกว้างๆ ของใครคนหนึ่งเข้าเสียแล้ว
แผ่นหลังที่แสนจะคุ้นเคย แต่ว่า… แผ่นหลังของใครกันนะ?
แจจุงเอียงคอมองดูแผ่นหลังของชายหนุ่มคนนั้นอย่าครุ่นคิด สะบัดหัวไปมาเพื่อไล่อาการมึนงง เขาละสายตาไปมองร่างของหญิงสาวที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เธอจ้องมองแผ่นหลังของชายคนนั้นด้วยดวงตาที่เศร้าสร้อยจนแจจุงที่ยืนมองอยู่ห่างๆ ยังสามารถรู้สึกถึงความเศร้านั้นได้
อ่า… แผ่นหลังกว้างๆ นั่นเหมือนแผ่นหลังของท่านประธานเลย แจจุงคิดอยู่ในใจ และในตอนที่เขากำลังเพ่งมองแผ่นหลังของคนร่างสูงอยู่นั่นเอง อยู่หญิงสาวคนนั้นก็หันหน้ากลับมามองเขา
แจจุงเลิกคิ้วขึ้นมองอย่างมึนๆ เขาสะบัดหัวไปมาเบาๆ เหมือนเขาจะได้ยินอะไรบางอย่าง ผู้หญิงคนนั้น… เหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างกับเขา
“เธอพูดว่าไงนะ?”
แจจุงบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ และเขาก็ได้ยินเสียงของเธออีกครั้ง มันเหมือนดังขึ้นอยู่ที่ข้างหูของเขา ทั้งๆ ที่ร่างของผู้หญิงคนนั้นยังคงยืนอยู่ห่างจากเขาไปพอสมควร
“ขอโทษนะ…”
แจจุงยืนงงอยู่กับคำพูดของเธอ ขอโทษ? เธอ… ขอโทษอะไรเขากันนะ แต่คนตัวเล็กก็ไม่ได้มีเวลาให้คิดอะไรนานเพราะอยู่ๆ ร่างของผู้หญิงคนนั้นก็พุ่งเข้ามาใส่เขา พร้อมกับสติและการรับรู้ของคิมแจจุงที่ถูกดับวูบลงไป…
หลายคนคงจะไม่รู้ว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นในตอนที่คิมแจจุงเมานั้นคืออะไร ในตอนนี้ก็คงจะได้รู้กันแล้ว
ถ้าคิมแจจุงเมาเมื่อไหร่ ร่างของเขาก็จะสามารถถูกวิญญาณเข้ามาเข้าสิงได้อย่างง่ายดาย นั่นแหละคือปัญหาที่คิมจุนซูพยายามป้องกันไม่ให้มันเกิด แต่ก็สายไปเสียแล้ว
เพราะตอนนี้…
คิมแจจุงโดนผีตนหนึ่งยึดเอาร่างไปเรียบร้อยแล้ว…
.
.
.
ยุนโฮกลับบ้านมาก่อนที่งานเลี้ยงจะเลิกเพราะความหงุดหงิดอะไรบางอย่างที่ทำให้ทั้งเขาและปาร์คยูชอนต้องขอตัวกลับก่อน เขาไม่รู้ว่ายูชอนโมโหเรื่องอะไร เห็นแต่ว่าโทรหาใครสักคนแล้วหลังจากที่โดนอีกฝ่ายวางสายใส่ก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงพอสมควร
ส่วนเรื่องที่ทำให้เขาโมโหนั้น เป็นเรื่องของใครบางคนที่เขาเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงต้องโมโหด้วย แค่คิมแจจุงหายตัวไปโดยไม่บอกไม่กล่าวแค่นั้น เรื่องแค่นี้! ทำไมต้องทำเขาหงุดหงิดด้วยวะ
ยุนโฮเดินออกมาจากห้องนอนหลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาเดินออกมาเพื่อหวังว่าจะออกมาหาน้ำเย็นๆ ดื่มเพื่อดับอารมณ์ แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปในห้องครัว เสียงออดหน้าห้องก็ร้องเตือนว่ามีคนมารอเขาอยู่ทางด้านล่างของคอนโด
ดวงตาคมหันกลับไปมองนาฬิกาที่ข้างฝาผนังพร้อมกับขมวดคิ้มจนหน้ายุ่ง จะเที่ยงคืนอยู่แล้วให้ตายซิ!
“ใครวะ?”
ยุนโฮเดินไปดูที่หน้าจอ และภาพของบุคคลที่ปรากฏอยู่ในจอนั้นก็ทำดวงตาคมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เขาจะไม่แปลกใจเลยถ้าคนที่ยืนอยู่หน้าคอนโดนั้นไม่ใช่…
“คิมแจจุง?”
หมอนั่นรู้จักคอนโดของเขาได้ยังไง? สะกดรอยตามเขามาอย่างงั้นหรอ?
ชองยุนโฮเดินออกมาจากคอนโดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ดวงตาคมจ้องมองคิมแจจุงที่ยืนทำหน้านิ่งๆ ด้วยแววตาสังเกต
“นายมาทำอะไรที่นี่? แล้วรู้จักคอนโดของฉันได้ยังไง?”
“…………………”
ยุนโฮเดินวนไปรอบๆ ตัวของแจจุง
“ตอนแรกก็วิ่งขึ้นมาบนรถของฉัน มาทำงานที่ห้างของฉัน และในตอนนี้ก็ยังบุกมาหาฉันที่คอนโดอีก นี่นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่ห๊ะ?”
“หายตัวออกไปจากงานโดยที่ไม่บอกฉันสักคำ อยากโดนไล่ออกรึไง?”
ยุนโฮยังคงบ่นออกมาอย่างหัวเสีย
คิมแจจุงที่ยืนนิ่งอยู่นาน หันหน้ากลับมามองคนร่างสูงที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง ริมฝีปากอวบอิ่มยกยิ้มบางๆ
“ยุนโฮอ่า…”
ยุนโฮเลิกคิ้วพร้อมกับมองคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจ
“ยุนโฮ? นี่นาย… กล้าเรียกชื่อฉันห้วนๆ อย่างงี้เลยหรอ? ชักจะอาใหญ่แล้วนะ”
ถึงจะโดนคนร่างสูงดุ แต่คิมแจจุงในตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรเลยแม้แต่น้อย ก็แน่ล่ะ… ในเมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่คิมแจจุงจริงๆ นี่นา…
“ยุนโฮ”
ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุ ยุนโฮทำหน้ายุ่ง ในตอนนี้เขาทั้งหัวเสียและหงุดหงิดมาก และคนที่ทำให้เขาอารมณ์เสียได้มากขนาดนี้ก็กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้นั่นเอง คิมแจจุง!
“นี่นายกำลังเล่นอะไรอยู่ ฉันไม่มีอารมณ์มาเล่นอะไรกับนายในตอนนี้หรอกนะ ไปซะ!”
คิมแจจุง หรือจะพูดให้ถูก บุคคลที่กำลังอาศัยร่างของแจจุงอยุ่ในตอนนี้เดินยิ้มบางๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าของคนร่างสูง ไม่ได้รู้สึกกลัวในใบหน้าแสนดุดันของคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“นายกำลังโกรธฉันอยู่ใช่มั้ยล่ะ?”
ยุนโฮขมวดคิ้วจ้องมองคนตรงหน้า ท่าทีและคำพูดแปลกๆ ของแจจุง ทำไมนะ ทั้งๆ ที่คนที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้คือคิมแจจุงแท้ๆ แต่ทำไมเขากลับรู้สึกว่าคนคนนี้ไม่ใช่คิมแจจุง ไม่ใช่คนที่เขารู้จักคนนั้น
“ฉันกำลังโมโห”
คนร่างบางอมยิ้ม
“กลับบ้านของนายไปซะถ้ายังไม่อยากถูกฉันไล่ออก”
ยุนโฮพูดด้วยใบหน้าและน้ำเสียงนิ่งๆ เขากลับหลังหันเตรียมตัวจะเดินกลับเข้าไปในคอนโด แต่ก็โดนเสียงของคิมแจจุงเอ่ยรั้งเอาไว้ ซึ่งคำพูดนั้นสามารถหยุดการก้าวเดินของเขาได้เป็นอย่างดี คำพูดที่สะกิดความทรงจำในอดีตที่เขาอยากจะลืมเลือนให้หวนกลับมาอีกครั้ง
คำพูดของใครบางคนที่ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว…
“ถ้าฉันเรียกชื่อนายครบสามครั้ง นายจะหายโกรธฉันมั้ย?”
ยุนโฮหยุดชะงัก ลมหายใจของเขาหาดห้วง ความทรงจำในอดีตที่ยากจะลบเลือนกลับเข้ามาในหัวให้นึกถึงอีกครั้ง
“ยุน หนึ่ง”
“ยุนโฮ สอง”
“ชองยุนโฮ สาม…”
‘ชองยุนโฮ สาม…….’
เสียงหวานๆ ในอดีตที่เขาเคยได้ยินถูกซ้อนทับกับเสียงเรียกของคิมแจจุง ใบหน้าคมค่อยๆ หันกลับไปมองคนร่างบางที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของเขาอย่างช้าๆ ดวงตาคมจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาดุดัน แต่คิมแจจุงที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับยกยิ้มให้เขาแบบไม่รู้ร้อนรุ้หนาว
“นี่มันไม่ตลกนะ”
“นายไม่ใช่คิมแจจุง”
นั่นคือสิ่งที่ความรู้สึกของชองยุนโฮสามารถรับรู้ได้ ส่วนคนตรงหน้านี้เป็นใครนั้นเขาก็ไม่อยากจะคาดเดา แม้จะรู้คำตอบอยู่ในใจแล้วก็ตาม แต่มันจะเป็นไปได้อย่างงั้นหรอ? คนที่จากไปแล้ว จะกลับมาได้อีกครั้ง
“นาย… เป็นใคร?”
คนร่างบางยกยิ้มบาง ช่วงขาเรียวก้าวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของชองยุนโฮ คนตัวเล็กช้อนสายตาขึ้นมองคนที่สูงกว่าตนเองก่อนที่จะเอ่ยปากตอบ
“ฉันเอง……..”
“ผู้หญิงเลวของนายไง”
ดวงตาคมจ้องมองคนตรงหน้านิ่ง แม้จะรู้อยู่ในใจแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่อยากจะยอมรับว่าคนคนนั้นได้กลับมายืนอยู่ตรงหน้าของเขาอีกครั้ง แต่เพราะคำพูดนั้น คำพูดที่ใช้เรียกชื่อของเขา มีเพียงแค่เธอคนนั้นคนเดียวที่รู้ และนอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครเคยวิธีง้อเขาแบบนี้ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีแล้วว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ใช่คิมแจจุง แม้จะเป็นร่างของคิมแจจุงก็ตาม แต่เป็นใครบางคนที่เคยอยู่ในความทรงจำของเขา เป็นใครบางคนที่เขาพยามที่จะไม่นึกถึง เป็นคนที่เขาอยากจะลืมเลือน และพอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็ทำให้เขาได้รู้ว่าเขายังทำไม่สำเร็จ เขา… ยังลืมเธอไม่ได้
ชเวอินนา…
.
.
.
แสงแดดในยามเช้าที่ส่องผ่านทะลุผ้าม่านเข้ามาในห้องนอนทำให้คิมแจจุงที่กำลังซุกตัวนอนอยู่ในกองผ้าห่มบนเตียงแสนนุ่มต้องทำหน้ายุ่งก่อนที่จะพลิกตัวเพื่อหลบแสงแดดนั้น แต่เขาก็ทนนอนต่อไปได้ไม่เท่าไหร่เปลือกตาบางก็จำใจต้องเปิดออก
แจจุงกระพริบตาปริบๆ เขาฉีกยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ใบหน้ายังคงงัวเงีย แอบบิดขี้เกียจเล็กน้อย เช้านี้ช่างสดใสและสดชื่น เขารู้สึกเหมือนว่าตนเองได้นอนหลับแบบเต็มอิ่ม ได้พักผ่อนแบบจริงๆ จังๆ หลังจากที่ไม่เคยได้นอนหลับแบบเต็มตื่นอย่างนี้มานานหลายปีแล้ว
คนตัวเล็กพลิกตัวไปด้านข้าง เพราะมัวแต่งัวเงียจึงลืมสนใจสิ่งรอบกายที่ดูจะผิดปกติไม่เหมือนกับทุกๆ วันไป แต่เพราะที่ข้างกายของเขานั้นมีร่างของใครบางคนนอนนอนอยู่ ดวงตากลมโตจึงเผลอเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ และก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นปกติเมื่อเขาคิดว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้เป็นความฝัน นั่นซิ.. เขาจะมานอนอยู่บนเตียงเดียวกับท่านประธานแบบนี้ได้ยังไงกัน
“นี่เราอยากนอนกับเขามากขนาดถึงขั้นเก็บเอาไปฝันเลยหรอเนี่ย”
พูดแล้วก็หัวเราะคิกคักออกมา เขายกมือของตนเองที่ถูกฝ่ามือหนาของยุนโฮกอบกุมเอาไว้อยู่ขึ้นมาดูก่อนที่จะยกมันขึ้นมาแนบที่แก้มขาวๆ ของตนเองพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างคนมีความสุข
“ได้นอนจับมือกันด้วย”
“อ่า… ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ฝันว่าได้นอนเตียงเดียวกันแบบนี้…”
ดวงตากลมช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าคมเข้มของคนที่กำลังหลับตาอยู่ด้วยแววตาหยาดเยิ้ม
“ผมปล้ำคุณตอนนี้เลยดีมั้ยนะ?”
แจจุงถูไถใบหน้าของตนเองกับฝ่ามือใหญ่ไปมา เขาฉีกยิ้มพร้อมกับหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว นี่คงจะเป็นฝันดีที่สุดของเขา ฝันดีๆ แบบนี้ทำให้เขาไม่อยากตื่นจากความฝันเลย นอนต่ออีกนิดดีกว่า
แต่ฝันหวานของแจจุงก็ต้องจบลง เมื่อชองยุนโฮลืมตาตื่นขึ้นมา เปลือกตาหนาเปิดออกก่อนที่ใบหน้าคมจะหันกลับมามองคนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ
ซึ่งแจจุงก็ยังคงคิดว่าตัวเองนั้นฝันอยู่ เขาถึงได้ฉีกยิ้มหวานให้กับคนที่นอนทำหน้ายักษ์อยู่ตรงหน้านี้
“ตื่นแล้วหรอฮะยุนโฮ~”
“ยุนโฮ?”
แจจุงฉีกยิ้ม เขายังคงเอาใบหน้าถูไถกับมือของยุนโฮไปมา
“นอนต่ออีกสักนิดเถอะครับผมยังไม่อยากจะตื่นเลย”
ยุนโฮขมวดคิ้วยุ่งก่อนที่เขาจะออกแรงดึงร่างของคนตัวเล็กให้ผลิกตัวขยับมาเกยอยู่บนตัวของเขา แจจุงเบิกตากว้างด้วยความมึนงง
“นาย… เป็นใคร?”
คนตัวเล็กทำหน้าเหวอ
“ฮะ?”
“คิมแจจุงจริงๆ ใช่มั้ย?”
“ครับ? ว่าแต่… นี่ผมไม่ได้ฝันไปหรอ?”
คนตัวเล็กหน้าเหวอ ทำตาใสพร้อมกับหันไปมองรอบๆ ห้องไปมา
พอรู้ว่าคนตรงหน้านี้คือคิมแจจุงตัวจริงชองยุนโฮก็ออกแรงสะบัดมือจนคนตัวเล็กกลิ้งปลิวไปอยู่อีกฟากหนึ่งของเตียงนอนอย่างทันที ชองยุนโฮลุกขึ้นยืนมองคิมแจจุงที่ยังคงอยู่ในสภาพงงงวยด้วยท่าทางนิ่งๆ
แจจุงยันกายลุกขึ้นนั่ง เขาหันกลับมามองท่านประธานพร้อมกับเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ
‘เขาไม่ได้ฝันไป! เขานอนอยู่บนเตียงกับยุนโฮจริงๆ’
“สำหรับนาย นายคงคิดว่าตัวเองฝันไป”
“แต่สำหรับฉันที่ตื่นทั้งคืนจนแทบจะนอนไม่หลับ… มันเรียกว่าฝันร้ายชัดๆ”
“เอ๋?”
“อ้อ… อย่าคิดสร้างเรื่องหรือข่าวลือแปลกๆ จากเหตุการณ์นี้ล่ะ เพราะเมื่อคืน… ฉันกับนาย เราแค่นอนจับมือกันเท่านั้น!”
ยุนโฮเอ่ยปากบอกกับคนตรงหน้าด้วยใบหน้านิ่งๆ
“อ่ะ…. เอ่อ ว่าแต่ตอนนี้ ผมอยู่ที่ไหนหรอฮะ”
แจจุงพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยต้องการสังเกต
“บ้านฉันเอง”
“โอ๊ะ! บ้านท่านประธานหรอฮะ ว้าว! สวยมากๆ เลย”
ยุนโฮขมวดคิ้วพร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดอกและจ้องมองคนตรงหน้า
“มันใช่เวลาที่เธอจะมาเอ่ยปากชื่นชมบ้านของฉันมั้ยคิมแจจุง?”
“เอ่อ……. แหะๆ”
แจจุงได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ไปให้กับเจ้านายตัวเอง
“นายน่าจะตกใจมากกว่านี้นะที่ตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองมานอนอยู่ที่บ้านของคนอื่นเขาน่ะ”
แจจุงยิ้มแห้งก่อนที่จะเอ่ยปากตอบกลับไป
“ผมชินแล้วล่ะฮะ ถึงมันจะเกิดไม่บ่อย แต่ก็มีอยู่หลายครั้ง ก่อนหน้านี้ผมก็เคยตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ข้างทะเล”
ยุนโฮมองคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจ ชีวิตของหมอนี่มีเรื่องอะไรที่ปกติเหมือนคนอื่นเขาบ้างมั้ยนะ?
“การนอนไปทั่วแบบนั้นมันเป็นเรื่องปกติสำหรับนายอย่างงั้นหรอ?”
แจจุงช้อนสายตาขึ้นมองคนร่างสูง พร้อมกับขบกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้
“ท่านประธานเป็นห่วงผมหรอครับ?”
ยุนโฮถึงกับชะงักไปอย่างทันที เป็นห่วงอย่างงั้นหรอ? นั่นซิ… ทำไมเขาถึงพูดอย่างกับว่าเขาเป็นห่วงหมอนี่ด้วยวะ เอาอีกแล้ว ไม่เข้าใจตัวเองอีกแล้ว!
“ฉันแค่ห่วงคนที่นายจะไปทำให้เขาตกใจต่างหาก สภาพน่ากลัวแบบนั้น ไปโผล่ในที่สาธาณะคงทำคนอื่นเขาตกใจแย่”
แจจุงยิ้มแหย ก่อนที่ตากลมๆ จะเบิกกว้างขึ้นเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้
“โอ๊ะ! เมื่อคืนนี้ผมก่อเรื่องอะไรให้กับท่านประธานรึป่าวครับ?”
เพราะเวลาที่เขาเมาหรือไม่มีสติทีไร เขามักจะก่อเรื่องให้จุนซูปวดหัวอยู่เสมอๆ และเมื่อคืนนี้เขาก็ไม่มีสติ ไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย เขา… เผลอสร้างเรื่องอะไรให้ท่านประธานรึป่าวนะ?
ยุนโฮยกยิ้มที่มุมปาก
“เพิ่งรู้ตัวหรอคิมแจจุง”
“เอ๋?”
แจจุงเอียงคอมองยุนโฮอย่างงงๆ พูดแบบนี้ แสดงว่าเขาต้องไปสร้างเรื่องอะไรเอาไว้อย่างแน่นอน ตายแน่แจจุงเอ๋ย จะโดนไล่ออกมั้ยเนี่ย!
“เพราะนาย… เมื่อวานถึงได้มีแขกมาบ้านฉันเต็มเลย”
.
.
.
ผีเด็ก…
“คุณลุงฮะ! คุณลุง! อุ้มหนูหน่อยๆ นะๆ น๊า…”
ร่างเล็กๆ ของคิมแจจุงที่ลงไปนั่งอยู่ที่พื้นห้องดีดดิ้นไปมา คนตัวเล็กชูแขนทั้งสองข้างพร้อมกับตีขาและเบะปากร้องเรียกยุนโฮที่ยืนกอดอกมองคนตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจ
“ฮึก! คุณลุง อุ้มๆๆๆๆ”
ยุนโฮเดินเข้ามาแจจุงที่นั่งเบะปากดิ้นไปมาอยู่ที่พื้น
“ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยคิมแจจุง”
“อุ้มๆๆ อุ้มหนูหน่อยๆ”
ฝ่ามือหนาจับลงไปที่แขนทั้งสองข้างที่ชูขึ้น
“ตั้งสติหน่อยซิคิมแจจุง!”
พรึ่บ!!
ทันทีที่โดนชองยุนโฮสัมผัสร่างกาย วิญญาณผีเด็กก็ออกจากร่างของแจจุงอย่างทันที คนตัวเล็กลืมตาขึ้นในสภาพที่มึนงง ก่อนที่จะบ่นพึมพำอะไรบางอย่างออกมา
“หิวน้ำ…. น้ำ ขอน้ำใหผมหน่อย”
ยุนโฮถอนหายใจออกมาแต่ก็ยอมเดินกลับไปที่ห้องครัวเพื่อไปเอาน้ำมาให้คิมแจจุงดื่ม
ผีนักบัลเล่ต์…
ทันทีที่ยุนโฮเดินถือแก้วน้ำออกมาจากห้องครัว กลับพบว่าพื้นที่เคยมีร่างของคิมแจจุงนั้นกลับว่างเปล่า เขาขมวดคิ้วกวาดสายตามองดูไปรอบๆ ก่อนที่จะเห็นร่างของคนตัวเล็กนั้นกระโดดโหยงเหยงไปมา
“อะไรอีกล่ะนั่น”
ยุนโฮพูดอย่างปลงๆ ก่อนที่จะเดินไปในส่วนของห้องนั่งเล่นที่มีร่างของคิมแจจุงยืนอยู่
คนตัวเล็กชูมือเอาไว้เหนือหัว เขย่งปลายเท้าพร้อมกับเต้นหมุนไปมา
“ฉันอยากจะเต้น… เต้นไปเรื่อยๆ”
แล้วแจจุงก็กระโดดมาเต้นอยู่ตรงหน้าของยุนโฮ
“เต้นๆ”
ยุนโฮขมวดคิ้วมองดูคนตรงหน้า และเพียงแค่เขายื่นมือไปแตะที่แขนของคนตัวเล็ก ร่างของคิมแจจุงก็ล้มลงมาซบที่ไหล่ของเขาอย่างทันที ดวงตาคมจ้องมองกลุ่มผมของคิมแจจุงก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแรงๆ
“นี่ฉันใกล้จะบ้าตามนายไปแล้วนะ!”
ผีสุนัข…
ยุนโฮนั่งกอดอกอยู่ที่โซฟาปลายเตียง ดวงตาคมจ้องมองไปที่ร่างของใครบางคนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนเตียงของเขาพร้อมกับส่งเสียงประหลาดๆ ที่มนุษย์เขาไม่ทำกัน
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!!!
คิมแจจุงที่กำลังคลานสี่ขาอยู่ส่งเสียงเห่าและหอนไปมาสัลบกัน เขาทำกริยาท่าทางต่างเหมือนสุนัข ยกเขาขึ้นมาเกาหัวตัวเอง สะบัดขาไปมา ก่อนที่จะกลับมาส่งเสียงเห่าต่อ ยุนโฮที่นั่งกอดอกมองอยู่ไม่ห่างส่งเสียงหัวเราะออกมา ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะโยนเอาหมอนอิงที่วางอยู่บนโซฟาไปให้คิมแจจุง
ซึ่งคิมแจจุงที่เห็นของเล่นใหม่ก็ไม่รอช้ารีบจู่โจมพุ่งเข้าใส่หมอนใบนั้นและใช้ปากคาบ เขาออกแรงกัด ดึง ทึ้ง และสะบัดมันไปมา จนหมอนใบนั้นขาดวิ่น
ดวงตาคมจ้องมองการกระทำของคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ กำลังจะยื่นมือเข้าไปดึงเอาหมอนใบนั้นออกมาก็เจอดวงตากลมโตของคนตัวเล็กถลึงใส่พร้อมกับส่งเสียงขู่
“แฮ่!!”
“เออ… เอาเลย กัดตามสบายเลย”
แล้วเขาก็ต้องผละตัวกลับมานั่งมองดูหมอนตัวเองถูกคิมแจจุงแทะเล่นอยู่ที่เดิม พร้อมกับมีคำถามที่ผุดขึ้นมาอยู่ในหัว
‘ทำไมเขาต้องเอาหมอนี่มาให้ลำบากตัวเองด้วยวะเนี่ย!’
จริงๆ แล้วชองยุนโฮสามารถทิ้งคิมแจจุงไว้ทางด้านล่างของคอนโดแล้วสั่งให้รปภ.จัดการส่งคนคนนี้กลับบ้านไปเลยก็ได้ แต่เขากลับดันพาตัวปัญหานี้กลับขึ้นมาบนห้องของตัวเองซะอย่างงั้น แล้วเป็นไงล่ะ ก่อปัญหาให้ปวดหัวเพียบ! สมกับเป็นคิมแจจุงจอมสร้างความวุ่นวายเสียจริงเชียว!
แต่จะโทษใครได้ ก็ในเมื่อเขาอยากรับความวุ่นวายนั้นมาอยู่ข้างๆ เองหนิ…
.
.
.
“และนั่นก็คือหมอนที่นายแทะเมื่อคืน”
ยุนโฮเพยิดหน้าไปที่หมอนใบเล็กที่ขาดจนไส้มันทะลักออกมา
แจจุงก้มลงมองพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ กลับไป
“ขอโทษครับ”
“นายน่ะ พอเมาแล้วก็กลายร่างเป็นหมา และถ้าดูจากรอยกัดแล้ว… ต้องไม่ใช่พุดเดิ้ลหรือชิวาว่าแน่ๆ”
“แหะๆ สงสัยจะเป็นบางแก้ว”
“เมื่อคืนฉันถึงได้นอนจับมือนายเอาไว้ทั้งคืน เพราะถ้าปล่อยเมื่อไหร่ นายก็จะพาแขกมาเยี่ยมบ้านฉันทันที”
แจจุงฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มเขิน จินตนาการไปถึงเรื่องเมื่อคืนที่เขาไม่มีโอกาสที่จะจดจำได้ เมื่อคืนนี้เขากับยุนโฮนอนจับมือกันทั้งคืนเลยหรอเนี่ย อ่า… เขินจัง
“แต่ฉันสงสัย”
“ครับ?”
แจจุงเงยหน้าขึ้นมาจ้องยุนโฮตาแป๋ว
“นอกจากเห็นหรือได้ยินพวกผีแล้ว ผียังสามารถสิงร่างนายได้ด้วยอย่างงั้นหรอ?”
แจจุงยิ้มบางก่อนที่จะเอ่ยปากตอบกลับไป
“มันมักจะเป็นแบบนี้ในเวลาที่ผมไม่มีสติ หรือเวลาที่ผมหลับสนิทจนไม่รู้สึกตัวน่ะครับ ผมก็เลยไม่กล้าที่จะหลับสนิท”
ยุนโฮมองดูใต้ตาของคนตัวเล็ก ซึ่งวันนี้มันไม่ได้ดำคล้ำเหมือนกับวันอื่นๆ
“ใต้ตานายก็เลยดำเป็นหมีแพนด้าซินะ”
แจจุงหัวเราะแหะๆ
“แต่เมื่อคืนที่ได้นอนกับคุณ ผมหลับสนิทมากเลยนะครับ”
ยุนโฮขมวดคิ้วในตอนที่ได้ยินคำพูดของแจจุง เมื่อคืนที่ได้นอนกับคุณ… อ่า บางทีคิมแจจุงอาจจะใช้คำผิด ฟังแล้วดูล่อแหลมยังไงชอบกล เหมือนได้เสียกันแล้วยังไงก็ไม่รู้แหะ
แจจุงคลานจากกลางเตียงมาหาชองยุนโฮที่นั่งอยู่ปลายเตียง เขาฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี แก้มขาวๆ ขึ้นสีแดงระเรื่อจนยุนโฮที่ยืนมองอยู่ต้องขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย
“เมื่อคืน… ผมชอบมากเลย”
ยุนโฮทำหน้านิ่ง
“แต่ฉันไม่ชอบ”
“เมื่อคืนนายมันก็แค่หมาตัวนึงเท่านั้นแหละ… เจ้าหมาคิมแจจุง”
แจจุงทำแล้วก็ยู่ปากใส่คนร่างสูง ‘เจ้าหมาคิมแจจุง’ อย่างงั้นหรอ ชิ๊! ท่านประธานใจร้าย!
“แต่ว่า… เมื่อคืน ผมจำได้ลางๆ”
ยุนโฮที่กำลังยกยิ้มอยู่หุบยิ้มลงไปอย่างทันที ดวงตาคมจ้องมองคิมแจจุงด้วยสายตานิ่งๆ
“ก่อนที่ผมจะสลบไป ผม… เหมือนเห็นผู้หญิงคนนึง”
แจจุงหันกลับมาจ้องสบตากับยุนโฮด้วยแววตาสงสัยและครุ่นคิด
“เธอยืนมองท่านประธานอยู่ด้วย อ่า… เธอเป็นใครกันนะ?”
แจจุงช้อนสายตาขึ้นมามองคนที่ยืนกอดอกทำหน้านิ่งก่อนที่จะเอ่ยปากถามออกไป
“ท่านประธาน… รู้จักเธอมั้ยครับ?”
ยุนโฮไม่ตอบ เขายังคงยืนนิ่งอยู่ดังเดิม แต่ภายในหัวกลับนึกถึงใบหน้าของใครบางคนที่ยังคงอยู่ในความทรงจำขึ้นมา
‘รู้ซิ… รู้จักดีเสียด้วย’
TBC ^-----------^*
*******************************************************
Talk : )
สวัสดีค่ะทุกคนนนนนนนน
มุกมาแล้ววววววววว นึกว่าจะไม่ได้อัพซะอีก แต่กลัวคนอ่านค้างอ่ะ เห็นมีแต่คนรออ่านตอนต่อไปอยู่
เลยต้องเข็นร่างพังๆ มาอัพ หลังจากไปเที่ยวและทำงานต่อกันอย่างไม่มีวันหยุด
ตอนนี้ร่างจะแหลกแล้วค่ะ
หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการได้อ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ
คู่ยูซูออกตอนหน้าน๊า
ใครเล่นทวิต ถ้าอยากคุยหรือติดต่อสอบถามเรื่องฟิคก็เมนชั่นมาได้เลยค่ะ ฟิคเก่าๆ พอเหลืออยู่นิดนึง สอบถามมาได้
Twitter >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE
E-mail >>> mookiie_jong@hotmail.com
ขอขอบคุณทุกๆ คนที่กดเข้ามาอ่านนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
^------------------------------^*
*******************************************************
ความคิดเห็น