ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ::: Motivation ❤ Love ::: [TVXQ][YAOI]

    ลำดับตอนที่ #9 : ,,, Part 8 ,,, รับดูแลหัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 54


    Title         :  Motivation Love
    Type        :  Long fiction
    Author      :  *..MooKiiE..*
    Category :  Comedy / Romance
    Paring      :  Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu

    Note         :  เรื่องนี้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้ต้องการให้บุคคลที่อยู่ในฟิคเรื่องนี้เสียหายแต่อย่างใด เนื้อหาก็จะเกี่ยวกับ Boy’s loveนะค่ะ ถ้าใครไม่ชอบก็กรุณากดปิดลงไปเลยนะค่ะ  ขอบคุณค่ะ ^ ^

      

    *******************************************************

     

    ไม่ได้เป็นฟิคที่ดีนัก แต่ก็อยากให้ได้อ่านกันค่ะ ^^

     

    Part 8


                     วันจันทร์ที่แสนจะน่าเบื่อ อ่า... ถ้าเป็นเมื่อก่อนแจจุงก็คงจะมีความคิดเช่นนั้นแหละ แต่เดี๋ยวนี้อะไรๆ มันก็ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เปลี่ยนไปตั้งแต่พื้นที่บ้านข้างๆ ที่เคยว่างเปล่ามีคนที่ชื่อชองยุนโฮย้ายเข้ามาอยู่นั่นแหละ

     

                    ยุนโฮและแจจุงเดินขนาบข้างมาด้วยกัน วันนี้แจจุงคนสวยมาเรียนพร้อมกับชองยุนโฮคนหล่ออีกแล้ว แบบนี้คงจะได้เป็นหัวข้อสนทนาของคนทั้งหมาลัยไปอีกนานเลยกับความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ในตอนที่กำลังจะเดินมาถึงที่หน้าตึกคณะ คนร่างบางแอบเห็นเพื่อนรักสองคนกำลังนั่งเท้าคางมองดูเขาและยุนโฮอยู่

     

                    “เดี๋ยวผมไปเรียนก่อนนะครับ”

                    ยุนโฮเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มบางๆ

     

                    “ตั้งใจเรียนนะ”

     

                    “แจจุงก็เหมือนกัน อย่าไปเผลอหลับในห้องอีกล่ะรู้มั้ย?

     

                    แจจุงยู่ปากใส่ยุนโฮ

                    “เบื่อคนรู้ทันจริงๆ”

     

                    คนร่างสูงยิ้มขำ ฝ่ามือหนาวางแหมะลงบนศีรษะกลมก่อนที่จับมันโยกไปมาเบาๆ เป็นการหยอกล้อ ช่างเป็นการหยอกล้อที่แสดงถึงความสนิทสนมกันเอาเสียมากๆ และแจจุงกล้าพูดเลยว่าถ้าคนที่มาโยกหัวเขาเป็นยูชอนหรือไม่ก็ชางมิน ป่านนี้ก็คงจะโดนเขาตบเกรียนแตกไปแล้ว แต่นี่เป็นชองยุนโฮไง เป็นคนที่แจจุงกำลังไล่จีบอยู่ ดังนั้นคนสวยจึงได้แต่ฉีกยิ้มหวานให้กับการกระทำเช่นนั้น

     

                    แจจุงไม่ได้ลำเอียง แต่แจจุงเป็นคนที่ชอบเลือกปฏิบัติก็แค่นั้นเอง

     

                    “เย็นนี้เจอกันที่ห้องสมุดนะครับ”

                    ยุนโฮพูดออกมาหลังจากที่เอามือออกจากศีนษะกลมนั่นแล้ว

     

                    คนสวยพยักหน้าขึ้นลงพร้อมตอบรับเสียงหวาน

                    “รีบๆ มาล่ะ”

     

                    เมื่อพูดคุยกันจบแล้วคนทั้งคู่ก็เอ่ยลากันก่อนที่จะแยกย้ายไปหาเพื่อนใครเพื่อนมัน ดวงตากลมมองตามแผ่นหลังกว้างที่กำลังเดินขึ้นตึกไปด้วยรอยยิ้ม มองจนแผ่นหลังของคนร่างสูงนั้นหายไปจนลับสายตาถึงได้เดินไปหาเพื่อนแสนกวนของตนเองบ้าง

     

                อ่า... อยากให้ถึงตอนเย็นเร็วๆ จัง

     

                    วันนี้หลังเลิกเรียนเขามีนัดกับยุนโฮ มันเป็นเรื่องบังเอิญแบบบังเอิญมากๆ ที่แจจุงและยุนโฮมีรายงานที่จะต้องทำเหมือนกัน แถมยังเป็นวิชาเดียวกันอีกต่างหาก จะต่างก็ตรงที่คนละอาจารย์ที่สอนเนี่ยแหละ ดังนั้นวันนี้เขากัยุนโฮก็เลยวางแผนกันว่าจะรีบไปหาหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการทำรายงานในครั้งนี้ที่ห้องสมุดด้วยกัน และที่สำคัญสุดๆ นั่นก็คือ พวกเขาสองคนจะช่วยกันทำรายงานวิชานี้ด้วยกันอีกด้วย

     

                    นี่แหละคือสิ่งที่คิมแจจุงรอคอย เขาหาโอกาสดีๆ ที่จะได้อยู่ใกล้กับยุนโฮได้อีกแล้ว!

     

                    คนสวยเดินฉีกยิ้มหวานมาหาเพื่อนรักทั้งสองคนที่กำลังนั่งทำหน้าเซ็งมองเขาอยู่ เขาทรุดตัวลงนั่งโดยที่ไม่สนใจสายตาของยูชอนและชางมินเลยแม้แต่น้อย

     

                    “แหม๋~ มาเรียนด้วยกันเกือบทุกวันแบบนี้ ทำไมไม่ย้ายของเข้าไปอยู่บ้านเขาซะเลยล่ะ”

                    เมื่อแจจุงเอาก้นหย่อนนั่งลงบนเก้าอี้ปุ๊บ ยูชอนก็เอ่ยปากแซวปั๊บ

     

                    “มันยังไม่ถึงเวลาน่า...”

                    คนสวยตอบออกมาด้วยท่าทีสบายๆ มันยังไม่ถึงเวลาในความหมายของแจจุงก็คือ ถ้าเขาได้คบกับยุนโฮเมื่อไหร่เขาก็ไม่พลาดที่จะทำในแบบที่ไอ้ยูชอนมันพูดหรอก

     

                    “ที่นายทำแบบนี้ก็เพราะไม่อยากให้คนอื่นมายุ่งกับชองยุนโฮล่ะซิ ถึงได้ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาแบบนี้”

                    ชางมินพูดออกมาหลังจากที่เขาวางแก้วน้ำที่เพิ่งจะดูดกินไปเมื่อสักครู่ลงบนโต๊ะ

     

                    “แน่นอน”

                    คนสวยยิ้มกว้าง ก่อนที่จะพูดต่อว่า

                   

                    “แต่ยุนโฮเขาก็ให้ความร่วมมือกับฉันดีหนิ ของแบบนี้มันทำคนเดียวไม่ได้หรอกนะ”

     

                    “ลับหลังนายเขาอาจจะไปทำแบบนี้กับคนอื่นด้วยก็ได้นะ”

                    ยูชอนพูดออกไปด้วยความหวังดีล้วนๆ ก็เขากลัวว่าเพื่อนรักจะโดนหลอกนี่นา ไม่ได้มีเจตนาจะยุให้แจจุงหวาดระแวงยุนโฮเลยจริงๆ นะ!

     

                    “ปากหมาอีกล่ะ ขืนนายพูดอีกคำเดียวฉันไม่ให้เบอร์โทรจุนซูกับนายแน่!

                    แจจุงมองยูชอนตาขวาง เขายกเอาเรื่องของจุนซูมาขู่ยูชอนอีกแล้ว เพราะเขารู้ไงว่าคำขู่นี้มันจะต้องได้ผลแน่ๆ

     

                    ยูชอนตาโต เขาขยับเข้ามานั่งใกล้กับแจจุง ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

                    “นายได้เบอร์โทรของจุนซูมาแล้วหรอ?

     

                    แจจุงยิ้ม แต่ก็ไม่ยอมตอบอะไรกลับไป

     

                    ยิ่งเห็นเพื่อนคนสวยเงียบ ยูชอนก็ยิ่งรบเร้าหนักขึ้นไปอีก

                    “แจจุงอ่า... เอาเบอร์ของจุนซูมาให้ฉันเถอะนะ นะ น๊า....”

     

                    ชางมินมองแจจุงที ยูชอนที สลับกันไปมา ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา มีแต่เรื่องผู้ชาย กับผู้ชาย น่าเบื่อจริงๆ

     

                    “นายก็รีบๆ เอาเบอร์โทรให้ไอ้ยูชอนมันไปสักทีเถอะ ยิ่งใกล้ถึงฤดูผสมพันธุ์แบบนี้มันก็คงจะรีบหาคู่เหมือนกับนายนั่นแหละแจจุง เข้าใจพวกเดียวกันหน่อยซิว่ะ”

                    คำพูดของชางมิน ถึงมันจะดูเรียบๆ ไม่มีอะไร แต่ทำไมความหมายมันถึงแอบแรงแบบนี้กันล่ะเนี่ย

     

                    ทั้งยูชอนและแจจุงต่างก็หันมาทำหน้าเซ็งใส่ชางมินด้วยกันทั้งคู่ ก่อนที่แจจุงจะเป็นคนพูดออกมาก่อนว่า...

                    “พูดแบบนี้ฉันเสียหายนะเนี่ย”

     

                    และยูชอนก็เสริมต่อว่า...

                    “พวกกูสองคนไม่ใช่สัตว์นะเว้ย! ให้เกียรติกันหน่อยซิ”

     

                    “อ่ะหรอ ก็ฉันเห็นแจจุงมันชอบคึกเวลาเห็นยุนโฮ ส่วนแกก็ชอบหางกระดิกเวลาเห็นจุนซู ฉันก็เลยคิดว่าถึงฤดูผสมพันธุ์ของพวกแกสองคนแล้วนี่หว่า ขอโทษทีนะ”

                    ชางมินพูดออกมาด้วยรอยยิ้มสะใจ ไม่ได้สนใจสายตาของเพื่อนๆ ที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่เลยแม้แต่น้อย

     

                    “ปากหมาแบนี้ใครจะไปเอามันทำผัวว่ะเนี่ย”

                    แจจุงบ่นออกมา

     

                    “ฉันโครตสงสารเมียนายในอนาคตจริงๆ เลย ให้ตายเถอะ!

     

                    “ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอก ห่วงเรื่องผัวนายกับเมียนายก่อนเถอะ เอามันให้ได้สักคนก่อนเพื่อนแล้วค่อยมาห่วงคนอื่นเขา”

     

                    “ตอนนี้ฉันกับยุนโฮกำลังไปได้สวย”

                    แจจุงพูดออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ

     

                    “การที่ไล่จีบเขาทุกวันแบบนั้นนายเรียกว่าไปได้สวยหรอแจจุง เท่าที่เห็นฉันยังไม่เห็นว่าเขาจะหันมาสนใจนายจริงๆ จังๆ เลยนะ”

     

                    “จะเอามั้ยเบอร์น่ะ เดี๋ยวก็ไม่ให้ซะเลยหนิ!

                    แจจุงหันมามองยูชอนตาขวาง

     

                    “ครับๆ ไม่พูดล่ะครับ”

     

                    “วันนี้พวกนายกลับบ้านก่อนฉันได้เลยนะ พอดีวันนี้ฉันมีนัดกับยุนโฮน่ะ”

     

                    “ถ้านัดไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขนาดนี้ กูว่าลากเข้าโรงแรมเลยเถอะ อย่าเสียเวลาอีกเลย”

     

                    “บ้าหรอ!

                    แจจุงตีแขนยูชอน ก่อนที่จะพูดต่อว่า...

     

                    “ไปทำไมโรงแรม ทำที่บ้านดีกว่า เร้าใจกว่าเยอะ”

     

                    ชางมินมองหน้าเพื่อนที่อยากมีผัวมีเมียด้วยสายตาเบื่อหน่าย ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา คนร่างสูงลุกขึ้นยืนเมื่อเขามองนาฬิกาแล้วเห็นว่าเวลานี้พวกเขาควรจะแยกย้ายกันไปเข้าเรียนได้แล้ว

     

                    ชางมินมองแจจุงและยูชอนที่กำลังนั่งมองหน้าเขาอยู่ด้วยสายตาสงสัย ก่อนที่จะพูดออกไปว่า...

     

                    “ก่อนที่จะเครียดเรื่องหาผัวหาเมีย ฉันว่าพวกนายสองคนควรจะรีบไปเข้าเรียนก่อนดีกว่านะ หรือว่าอยากจะนั่งหาผัวหาเมียในมหาลัยนี้ต่ออีกสักแปดปีล่ะ หืม?

     

                    ช่างเป็นคำพูดที่เหมาะสมกับคนที่คงแก่เรียนอย่างชิมชางมินเสียเหลือเกิน และที่สำคัญมันยังคงความฮาร์ดคอร์เอาไว้ด้วยอีกต่างหาก นี่แหละชิมชางมินตัวจริง!!

    .

    .

    .

    .

    .

                    ในช่วงพักกลางวัน หลังจากที่กินอาหารกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว จุนซูก็มักจะชักชวนเพื่อนๆ ในกลุ่มให้มานั่งเล่นที่สวนทางด้านหลังตึกคณะมากกว่าที่จะต้องไปนั่งทนฟังเสียงพูดคุยที่แสนจะวุ่นวายในโรงอาหาร เพราะในสวนแห่งนี้มีลมที่คอยพัดผ่านอยู่ตลอดเวลา แถมยังเงียบสงบเหมาะแก่การอ่านหนังสือหรือแอบงีบพักสายตาด้วยอีกต่างหาก

     

                    จุนซูที่สวมแว่นสายตากรอบดำกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่อย่างตั้งใจ ในมือเล็กถือปากกาไฮไลท์สีชมพูเพื่อเตรียมเอาไว้ขีดเน้นเมื่อเจอข้อความที่สำคัญ ในขณะที่เพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็กำลังนั่งเล่นไอแพดหรือไม่ก็อ่านหนังสือการ์ตูนเพื่อฆ่าเวลาเล่น

     

                    “โอ๊ะ!

                    อยู่ๆ ดงเฮที่นั่งเล่นไอแพดของตนเองอยู่ก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา เสียงร้องตกใจของเพื่อนทำให้แทมินที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ กันเงยหน้าขึ้นมามองได้ แต่ไม่ใช่กับคิมจุนซูที่กำลังตั้งอกตั้งใจกับการอ่านหนังสืออยู่

     

                    “อะไรหรอ?

                    แทมินถามเพื่อนรักด้วยความสงสัย

     

                    “ดูนี่ซิ”

                    ดงเฮยื่นไอแพดที่ในหน้าจอนั้นกำลังแสดงภาพอะไรบางอย่างเอาไว้อยู่ แทมินก้มลงไปมองดูภาพนั้นก่อนที่จะเบิกตากว้างขึ้น

     

                    และในตอนนั้นเองที่คนทั้งสองมองไปที่จุนซูที่กำลังนั่งก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมๆ กัน

     

                    ด้วยความรู้สึกที่เหมือนกับว่ากำลังมีคนจ้องมองตนเองอยู่ จึงทำให้จุนซูค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเล่มหนา และสิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือภาพของเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังจ้องมองมาที่ตนเองเป็นตาเดียว

     

                    คนตัวเล็กเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

                    “มีอะไรกันหรอ?

     

                    “จุนซู... นายกับยูชอน..... กำลังคบกันอยู่หรอ?

                    แทมินเป็นคนเอ่ยปากถามขึ้นมา

     

                    แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น จุนซูก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเพื่อนของตนเองถึงถามแบบนั้น คนตัวเล็กจึงได้แต่ทำหน้างงตอบกลับเพื่อนทั้งสองคนไป

     

                    และเมื่อเห็นว่าจุนซูยังคงงงอยู่ ดังนั้นดงเฮจึงช่วยขยายความประโยคที่แทมินถามจุนซูไปเมื่อสักครู่นี้ให้โดยการหันไอแพดที่ตนเองถืออยู่ไปให้จุนซูได้ดู

     

                    ไอแพดที่กำลังจ่ออยู่ตรงหน้าของจุนซูนั้นเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดีเลยละว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงได้ถามเขาออกมาแบบนั้น รวมถึงยังสามารถตอบคำถามที่เขาสงสัยมาตั้งแต่เมื่อตอนพักเที่ยงได้อีกด้วย ว่าไอ้สายตาแปลกๆ ของคนทั้งโรงอาหารนั้นมันเป็นเพราะอะไร

     

                    ถ้าภาพในไอแพดนั่นมันไม่ใช่ภาพที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้

     

                    ภาพที่เพียงเห็นแค่แวบเดียว จุนซูก็สามารถนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างทันที ภาพที่ยูชอนก้มลงหอมแก้มเขาที่ป้ายรถเมล์ในวันนั้นมันกำลังเป็นหัวข้อที่น่าสนใจของคนในมหาลัยอยู่ในตอนนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเห็นหน้าของยูชอนไม่ชัดนัก แต่มันก็ยังดูออกอยู่ดีนั่นแหละว่าคนที่กำลังฝังสันจมูกลงบนแก้มของเขานั้นเป็นใคร และมันคงจะโชคดีกว่านี้ถ้ารูปนั้นมันไม่เห็นหน้าเขาเต็มๆ แบบในตอนนี้!!

     

                    หมดกันความมาดแมนของคิมจุนซูที่ปกป้องมาตลอด19ปีเต็ม

     

                พังทลายลงเพราะคนคนเดียวแท้ๆ

               

                อ๊ากกกก! ปาร์คยูชอน นายตายแน่!!!!’

    .

    .

    .

                    หลังเลิกคลาสวิชาสุดท้าย ยูชอนก็เดินลงมาหาชางมินที่ยืนรอเขาอยู่หน้าตึกคณะ ส่วนแจจุงก็หนีไปกับชองยุนโฮตั้งแต่เขายังไม่ทันเดินออกจากห้องเรียนเลยด้วยซ้ำ

     

                    “เฮ้ย! เดี๋ยวแวะซื้อน้ำที่หน้าตึกแปบนึงนะ”

                    ชางมินบอกกับยูชอนในตอนที่พวกเขากำลังจะเดินกลับบ้านด้วยกัน

     

                    ยูชอนพยักหน้ารับเบาๆ

                    “อืมๆ”

     

                    ยูชอนเดินไปยืนอยู่ข้างๆ ชางมินที่กำลังยืนซื้อน้ำจากร้านค้าเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ข้างตึกเรียน เขายืนเอามือล้วงกระเป๋าในขณะที่สายตาคมก็กวาดสายตามองนู่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อย

     

                    และในตอนนั้นเองที่ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยกลับต้องฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาเมื่อมองเห็นร่างบางๆ ของใครบางคนกำลังเดินตรงมาที่ที่เขากำลังยืนอยู่

     

                    ปาร์คยูชอนยืนยิ้มทำหน้าระรื่นรอเอ่ยทักทายคนตัวเล็กที่กำลังเดินเข้ามาหา อ่า... ดูเหมือนว่าคุณนิติฯของเขาจะอารมณ์ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่นะ ดูซิเดินทำหน้ายักษ์เข้ามาเชียว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยังน่ารักอยู่ดีนั่นแหละ คนอะไรน่ารักน่าฟัดได้ทุกสถานการณ์จริงเชียว

     

                    “ปาร์คยูชอน!!

                    เสียงของคนตัวเล็กแผดดังมาแต่ไกลก่อนที่ตัวจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของคนร่างสูงเสียอีก

     

                    และเสียงของจุนซูก็สามารถทำให้ชางมินที่กำลังยืนซื้อน้ำอยู่ข้างๆ ยูชอนต้องหันหน้ามามองอย่างเสียไม่ได้           

     

                    ส่วนยูชอนเองก็ไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านต่อสีหน้าหรืออารมณ์ของคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อย ยูชอนทำหน้าระรื่นก่อนที่จะตอบกลับจุนซูด้วยน้ำเสียงทะเล้น

                    “ว่าไงจ๊ะที่รัก มาหาถึงที่แบบนี้แสดงว่าคิดถึงผมมากๆ เลยล่ะซิเนี่ย”

     

                    ช่างเล่นไม่รู้จักเวลาเสียจริงเชียว จุนซูที่ถึงแม้จะโกรธมากที่ได้เห็นรูปๆ นั้น แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากรอให้ถึงเวลาเลิกคลาสตอนบ่ายแล้วจึงจะสามารถมาถลกหนังไก่ได้ ตอนแรกก็นึกว่าจะหาไอ้ตัวต้นเหตุไม่ได้เสียแล้ว ดีนะที่โชคยังเข้าข้างเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงจะได้เก็บความแค้นนี้ไปนอนร้องไห้ที่บ้านคนเดียวแหงๆ โหว... วิธีระบายความแค้นอย่างแมนอ่ะ

     

                    “นายทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างมั้ย!?

                    จุนซูยื่นไอแพดที่ยังคงแสดงรูปของเขากับยูชอนอยู่ไปจ่อที่ใบหน้าของคนร่างสูง ไอแพดนี้เขาขอยืมจากดงเฮมาก่อนแล้ว

     

                    ยูชอนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย ก่อนที่ดวงตาคมจะจ้องมองสิ่งที่กำลังปรากฏอยู่ในหน้าจอไอแพดและในตอนนั้นเองที่รอยยิ้มที่แสนจะพึงพอใจได้เกิดขึ้นอีกครั้งบนใบหน้าคม

                    “อ่า... รูปของพวกเราหนิครับ”

     

                    ชางมินที่ยืนดูดน้ำอยู่ข้างๆ กันนั้นนับถือในความหน้าด้านของเพื่อนตนเองเสียเหลือเกิน มันเคยคิดที่จะอายอะไรเป็นเหมือนกับคนอื่นๆ เขาบ้างมั้ยว่ะ ก่อนนอนมันเอาปูนซีเมนต์ทาแล้วโปะทับอีกชั้นด้วยยางมะตอยหรือไงถึงได้หน้าทนหน้าหนาขนาดนี้

     

                    “นายทำให้ฉันขายหน้า!!

                    จุนซูว่าออกมา ใบหน้าของคนตัวเล็กยังคงแดงกร่ำเพราะความโกรธอยู่

     

                    “ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมจะรับผิดชอบคุณเอง”

                    ยูชอนยังคงตอบด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ได้สนใจอารมณ์โกรธของจุนซูเยสักนิด

     

                    “ฉันก็บอกนายหลายรอบแล้วไงว่าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ฉันบอกนายกี่รอบแล้วห๊ะ? ว่าฉันคิมจุนซูคนนี้แมนเต็มร้อย!

     

                    ยูชอนยกยิ้มที่มุมปาก มือทั้งสองข้างยังคงล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง แต่ใบหน้าคมกลับขยับเข้าไปหาใบหน้ากลมของคนตัวเล็กจนใบหน้าของคนทั้งสองอยู่ห่างกันไม่เท่าไหร่

                    “ถ้าคุณแมนจริง คุณคงไม่หวั่นไหวกับผมหรอก จริงมั้ย.... คุณนิติฯ”

     

                    “.....................”

                    จุนซูยืนถือไอแพดถลึงตามองหน้ายูชอนอยู่นิ่งๆ

     

                    “ถ้าคุณแมนจริงๆ คุณคงไม่ปล่อยให้ผมหอมคุณแบบนี้บ่อยๆ หรอก”

     

                    จุนซูยังคงนิ่งอยู่ และยิ่งเห็นแบบนั้นยูชอนก็ยิ่งสนุก เขายกมือข้างหนึ่งลูบที่ผิวแก้มของคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มบางๆ

                    “คุณไม่แมนเลยสักนิด แค่ผมลูบแก้มคุณ คุณก็ใจเต้นแรงขนาดนี้แล้ว”

     

                    จุนซูขบกัดริมฝีปากของตนเองแน่น เขาไม่ได้โกรธ ในตอนนี้อารมณ์โกรธมันหายไปแล้ว และมันก็ถูกแทนที่ด้วยอารมณ์ที่เขาพยายามจะปฏิเสธกับตัวเองมาโดยตลอด...

     

                    เขากำลังใจเต้นกับท่าทางของยูชอนอยู่จริงๆ แถมเขายังหวั่นไหวกับความอ่อนโยนของคนคนนี้อีกต่างหาก!

     

                    “อ่า... รูปนี้ไม่สวยเลยเนอะคุณว่ามั้ย?

                    ยูชอนก้มหน้าลงมองรูปที่อยู่ในหน้าจอไอแพด ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมามองคนตัวเล็กอีกครั้ง พร้อมๆ กับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าคมนั่นด้วย

     

                    รอยยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว รอยยิ้มที่มาพร้อมกับความหายนะที่จุนซูจะต้องเจอเป็นประจำ

     

                    “ผมไม่ชอบเลยอ่ะ!

                    ยูชอนทำหน้ายุ่ง

     

                    “ละ...แล้ว ใครเขาชอบกันเล่า!!!

                    จุนซูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เอาอีกแล้วเขาเสียเปรียบอีกแล้ว บอกว่าจะมาอาละวาดและวีนใส่หมอนี่แท้ๆ แต่ทำไม... ทำไมเขาถึงต้องมายืนใจเต้นเพียงแค่โดนสายตาคมคู่นั้นมองมาด้วยเล่า น่าโมโหที่สุด!!

     

                    “เห็นมั้ย คุณก็ยังไม่ชอบมันเลย”

     

                    “ใครจะไปทำใจชอบลง”

                    จุนซูบ่น แต่คำพูดของจุนซูนั้นมันเป็นคำพูดที่เข้าทางยูชอนเสียจริงๆ

     

                    “อ่า... ในเมื่อเราสองคนไม่ชอบมันเหมือนกัน”

                   

                    จุนซูกอดไอแพดแน่น ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองสีหน้าเจ้าเล่ห์นั่นด้วยสายตาหวั่นวิตก เขารู้สึกถึงลางร้ายที่กำลังคืบคลานมาอย่างช้าๆ และประโยคที่ได้ยินต่อมานั้นก็ทำให้จุนซูแทบอยากจะวิ่งหนีไปจากที่ตรงนั้นอย่างเร็วไว

     

                    คำพูดที่ว่า...

     

                    “งั้นเราสองคนมาถ่ายรูปนั้นกันใหม่ดีกว่าเนอะ”

     

                    ถึงจะอยากวิ่งไปให้เร็วแค่ไหน แต่ก็คงจะไม่ทันแล้วล่ะ ก็ในเมื่อริมฝีปากหนานั้นได้ทาบทับลงมาบนกลีบปากของเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

                    มันเป็นแค่การจูบแบบแผ่วเบาและนุ่มนวล ไม่ได้มีการล่วงล้ำอะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น มันก็กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจอย่างประหลาด

     

                                    หน้าตึกคณะที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมามากยิ่งกว่าที่ป้ายรถเมล์ และยิ่งเป็นเวลาที่เพิ่งจะเลิกเรียนในเวลาเช่นนี้ แถมยังป็นคณะที่มีนักศึกษามากที่สุดในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกต่างหาก ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าในวันพรุ่งนี้ชื่อของคิมจุนซูจะโด่งดังไปทั่วหมาลัยมากแค่ไหน

     

                    ชีวิตที่สงบสุขของเขาคงจะจบลงแล้วจริงๆ

     

                    ยูชอนผละใบหน้าออกมา ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของคนตัวเล็กที่นิ่งแข็งเป็นหินไปแล้วด้วยรอยยิ้มขำ 

                    “ถ้าจะฟ้อง ผมก็พร้อมที่จะจ่ายค่าเสียหายนะครับ”

     

                    “..........................”

     

                    “ถ้าอยากให้ผมดูแลเมื่อไหร่... ก็เอาหัวใจของคุณมาฝากได้ทุกเวลานะครับ คุณนิติฯ... ของผม”

     

                ... ความสงบสุขของเขาคงจะหายไปพร้อมๆ กับความแมนที่เขามั่นใจว่ามันมีอยู่จริงมาตลอด19ปีเต็ม นับตั้งแต่ที่มีผู้ชายที่ชื่อว่าปาร์คยูชอนก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา ฮื่อออออ ...

     

     

    TBC ^-----------------^*

     

    *******************************************************

     

    Talk ::

     

    สวัสดีค่ะทุกๆ คน ^-----------------------^*

    มุกหายหน้าหายตาไปสองอาทิตย์ คิดถึงกันบ้างป่าว ที่หายไปนั้นก็เป็นเพราะอยากพักค่ะ 5555

    ไม่ได้มีเหตุผลสำคัญอะไรเลย

     
    แต่พอว่าจะรีบกลับมาอัพฟิควันนี้ มุกก็ดันรู้สึกอึนๆ เหมือนกำลังจะป่วยซะอย่างงั้น = =

    แต่ก็ยังมาอัพฟิคให้ทุกคนได้อ่านกันอยู่นะค่ะ

     
    และที่สำคัญมุกได้กำลังใจดีค่ะ นั่นก็คือรูปแจจุงในงานมีทวันนี้นั่นเอง

    แบบว่า... มันน่ารักมากอ่ะ น่ารัก น่ากอดสุดๆ เห็นแล้วก็แข็งแรงขึ้นมาทันที ><

     
    มาพูดถึงฟิคบ้างดีกว่า พาร์ทนี้ก็ขอเน้นยูซูบ้างละกันเนอะ พาร์ทหน้าค่อยยุนแจกันใหม่

    รับรองว่ามีกรี๊ด อิอิ รอลุ้นๆ

     
    ใครมีอะไร หรืออยากคุยก็ติดต่อมุกได้ที่ >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE

     
    แล้วเจอกันในตอนหน้าค่ะ ช่วยรออ่านกันด้วยน๊า

     
    ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านค่ะ

     ^---------------------------------^*

      

    *******************************************************


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×