คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ,,, Part 8 ,,, รับดูแลหัวใจ
Title : Motivation ❤ Love
Type : Long fiction
Author : *..MooKiiE..*
Category : Comedy / Romance
Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
Note : เรื่องนี้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้ต้องการให้บุคคลที่อยู่ในฟิคเรื่องนี้เสียหายแต่อย่างใด เนื้อหาก็จะเกี่ยวกับ Boy’s loveนะค่ะ ถ้าใครไม่ชอบก็กรุณากดปิดลงไปเลยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ ^ ^
*******************************************************
ไม่ได้เป็นฟิคที่ดีนัก แต่ก็อยากให้ได้อ่านกันค่ะ ^^
Part 8
วันจันทร์ที่แสนจะน่าเบื่อ อ่า... ถ้าเป็นเมื่อก่อนแจจุงก็คงจะมีความคิดเช่นนั้นแหละ แต่เดี๋ยวนี้อะไรๆ มันก็ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เปลี่ยนไปตั้งแต่พื้นที่บ้านข้างๆ ที่เคยว่างเปล่ามีคนที่ชื่อชองยุนโฮย้ายเข้ามาอยู่นั่นแหละ
ยุนโฮและแจจุงเดินขนาบข้างมาด้วยกัน วันนี้แจจุงคนสวยมาเรียนพร้อมกับชองยุนโฮคนหล่ออีกแล้ว แบบนี้คงจะได้เป็นหัวข้อสนทนาของคนทั้งหมา’ลัยไปอีกนานเลยกับความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ในตอนที่กำลังจะเดินมาถึงที่หน้าตึกคณะ คนร่างบางแอบเห็นเพื่อนรักสองคนกำลังนั่งเท้าคางมองดูเขาและยุนโฮอยู่
“เดี๋ยวผมไปเรียนก่อนนะครับ”
ยุนโฮเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ตั้งใจเรียนนะ”
“แจจุงก็เหมือนกัน อย่าไปเผลอหลับในห้องอีกล่ะรู้มั้ย?”
แจจุงยู่ปากใส่ยุนโฮ
“เบื่อคนรู้ทันจริงๆ”
คนร่างสูงยิ้มขำ ฝ่ามือหนาวางแหมะลงบนศีรษะกลมก่อนที่จับมันโยกไปมาเบาๆ เป็นการหยอกล้อ ช่างเป็นการหยอกล้อที่แสดงถึงความสนิทสนมกันเอาเสียมากๆ และแจจุงกล้าพูดเลยว่าถ้าคนที่มาโยกหัวเขาเป็นยูชอนหรือไม่ก็ชางมิน ป่านนี้ก็คงจะโดนเขาตบเกรียนแตกไปแล้ว แต่นี่เป็นชองยุนโฮไง เป็นคนที่แจจุงกำลังไล่จีบอยู่ ดังนั้นคนสวยจึงได้แต่ฉีกยิ้มหวานให้กับการกระทำเช่นนั้น
แจจุงไม่ได้ลำเอียง แต่แจจุงเป็นคนที่ชอบเลือกปฏิบัติก็แค่นั้นเอง
“เย็นนี้เจอกันที่ห้องสมุดนะครับ”
ยุนโฮพูดออกมาหลังจากที่เอามือออกจากศีนษะกลมนั่นแล้ว
คนสวยพยักหน้าขึ้นลงพร้อมตอบรับเสียงหวาน
“รีบๆ มาล่ะ”
เมื่อพูดคุยกันจบแล้วคนทั้งคู่ก็เอ่ยลากันก่อนที่จะแยกย้ายไปหาเพื่อนใครเพื่อนมัน ดวงตากลมมองตามแผ่นหลังกว้างที่กำลังเดินขึ้นตึกไปด้วยรอยยิ้ม มองจนแผ่นหลังของคนร่างสูงนั้นหายไปจนลับสายตาถึงได้เดินไปหาเพื่อนแสนกวนของตนเองบ้าง
‘อ่า... อยากให้ถึงตอนเย็นเร็วๆ จัง’
วันนี้หลังเลิกเรียนเขามีนัดกับยุนโฮ มันเป็นเรื่องบังเอิญแบบบังเอิญมากๆ ที่แจจุงและยุนโฮมีรายงานที่จะต้องทำเหมือนกัน แถมยังเป็นวิชาเดียวกันอีกต่างหาก จะต่างก็ตรงที่คนละอาจารย์ที่สอนเนี่ยแหละ ดังนั้นวันนี้เขากัยุนโฮก็เลยวางแผนกันว่าจะรีบไปหาหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการทำรายงานในครั้งนี้ที่ห้องสมุดด้วยกัน และที่สำคัญสุดๆ นั่นก็คือ พวกเขาสองคนจะช่วยกันทำรายงานวิชานี้ด้วยกันอีกด้วย
นี่แหละคือสิ่งที่คิมแจจุงรอคอย เขาหาโอกาสดีๆ ที่จะได้อยู่ใกล้กับยุนโฮได้อีกแล้ว!
คนสวยเดินฉีกยิ้มหวานมาหาเพื่อนรักทั้งสองคนที่กำลังนั่งทำหน้าเซ็งมองเขาอยู่ เขาทรุดตัวลงนั่งโดยที่ไม่สนใจสายตาของยูชอนและชางมินเลยแม้แต่น้อย
“แหม๋~ มาเรียนด้วยกันเกือบทุกวันแบบนี้ ทำไมไม่ย้ายของเข้าไปอยู่บ้านเขาซะเลยล่ะ”
เมื่อแจจุงเอาก้นหย่อนนั่งลงบนเก้าอี้ปุ๊บ ยูชอนก็เอ่ยปากแซวปั๊บ
“มันยังไม่ถึงเวลาน่า...”
คนสวยตอบออกมาด้วยท่าทีสบายๆ มันยังไม่ถึงเวลาในความหมายของแจจุงก็คือ ถ้าเขาได้คบกับยุนโฮเมื่อไหร่เขาก็ไม่พลาดที่จะทำในแบบที่ไอ้ยูชอนมันพูดหรอก
“ที่นายทำแบบนี้ก็เพราะไม่อยากให้คนอื่นมายุ่งกับชองยุนโฮล่ะซิ ถึงได้ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาแบบนี้”
ชางมินพูดออกมาหลังจากที่เขาวางแก้วน้ำที่เพิ่งจะดูดกินไปเมื่อสักครู่ลงบนโต๊ะ
“แน่นอน”
คนสวยยิ้มกว้าง ก่อนที่จะพูดต่อว่า
“แต่ยุนโฮเขาก็ให้ความร่วมมือกับฉันดีหนิ ของแบบนี้มันทำคนเดียวไม่ได้หรอกนะ”
“ลับหลังนายเขาอาจจะไปทำแบบนี้กับคนอื่นด้วยก็ได้นะ”
ยูชอนพูดออกไปด้วยความหวังดีล้วนๆ ก็เขากลัวว่าเพื่อนรักจะโดนหลอกนี่นา ไม่ได้มีเจตนาจะยุให้แจจุงหวาดระแวงยุนโฮเลยจริงๆ นะ!
“ปากหมาอีกล่ะ ขืนนายพูดอีกคำเดียวฉันไม่ให้เบอร์โทรจุนซูกับนายแน่!”
แจจุงมองยูชอนตาขวาง เขายกเอาเรื่องของจุนซูมาขู่ยูชอนอีกแล้ว เพราะเขารู้ไงว่าคำขู่นี้มันจะต้องได้ผลแน่ๆ
ยูชอนตาโต เขาขยับเข้ามานั่งใกล้กับแจจุง ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“นายได้เบอร์โทรของจุนซูมาแล้วหรอ?”
แจจุงยิ้ม แต่ก็ไม่ยอมตอบอะไรกลับไป
ยิ่งเห็นเพื่อนคนสวยเงียบ ยูชอนก็ยิ่งรบเร้าหนักขึ้นไปอีก
“แจจุงอ่า... เอาเบอร์ของจุนซูมาให้ฉันเถอะนะ นะ น๊า....”
ชางมินมองแจจุงที ยูชอนที สลับกันไปมา ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา มีแต่เรื่องผู้ชาย กับผู้ชาย น่าเบื่อจริงๆ
“นายก็รีบๆ เอาเบอร์โทรให้ไอ้ยูชอนมันไปสักทีเถอะ ยิ่งใกล้ถึงฤดูผสมพันธุ์แบบนี้มันก็คงจะรีบหาคู่เหมือนกับนายนั่นแหละแจจุง เข้าใจพวกเดียวกันหน่อยซิว่ะ”
คำพูดของชางมิน ถึงมันจะดูเรียบๆ ไม่มีอะไร แต่ทำไมความหมายมันถึงแอบแรงแบบนี้กันล่ะเนี่ย
ทั้งยูชอนและแจจุงต่างก็หันมาทำหน้าเซ็งใส่ชางมินด้วยกันทั้งคู่ ก่อนที่แจจุงจะเป็นคนพูดออกมาก่อนว่า...
“พูดแบบนี้ฉันเสียหายนะเนี่ย”
และยูชอนก็เสริมต่อว่า...
“พวกกูสองคนไม่ใช่สัตว์นะเว้ย! ให้เกียรติกันหน่อยซิ”
“อ่ะหรอ ก็ฉันเห็นแจจุงมันชอบคึกเวลาเห็นยุนโฮ ส่วนแกก็ชอบหางกระดิกเวลาเห็นจุนซู ฉันก็เลยคิดว่าถึงฤดูผสมพันธุ์ของพวกแกสองคนแล้วนี่หว่า ขอโทษทีนะ”
ชางมินพูดออกมาด้วยรอยยิ้มสะใจ ไม่ได้สนใจสายตาของเพื่อนๆ ที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่เลยแม้แต่น้อย
“ปากหมาแบนี้ใครจะไปเอามันทำผัวว่ะเนี่ย”
แจจุงบ่นออกมา
“ฉันโครตสงสารเมียนายในอนาคตจริงๆ เลย ให้ตายเถอะ!”
“ไม่ต้องมาห่วงฉันหรอก ห่วงเรื่องผัวนายกับเมียนายก่อนเถอะ เอามันให้ได้สักคนก่อนเพื่อนแล้วค่อยมาห่วงคนอื่นเขา”
“ตอนนี้ฉันกับยุนโฮกำลังไปได้สวย”
แจจุงพูดออกมาด้วยท่าทีมั่นใจ
“การที่ไล่จีบเขาทุกวันแบบนั้นนายเรียกว่าไปได้สวยหรอแจจุง เท่าที่เห็นฉันยังไม่เห็นว่าเขาจะหันมาสนใจนายจริงๆ จังๆ เลยนะ”
“จะเอามั้ยเบอร์น่ะ เดี๋ยวก็ไม่ให้ซะเลยหนิ!”
แจจุงหันมามองยูชอนตาขวาง
“ครับๆ ไม่พูดล่ะครับ”
“วันนี้พวกนายกลับบ้านก่อนฉันได้เลยนะ พอดีวันนี้ฉันมีนัดกับยุนโฮน่ะ”
“ถ้านัดไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขนาดนี้ กูว่าลากเข้าโรงแรมเลยเถอะ อย่าเสียเวลาอีกเลย”
“บ้าหรอ!”
แจจุงตีแขนยูชอน ก่อนที่จะพูดต่อว่า...
“ไปทำไมโรงแรม ทำที่บ้านดีกว่า เร้าใจกว่าเยอะ”
ชางมินมองหน้าเพื่อนที่อยากมีผัวมีเมียด้วยสายตาเบื่อหน่าย ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา คนร่างสูงลุกขึ้นยืนเมื่อเขามองนาฬิกาแล้วเห็นว่าเวลานี้พวกเขาควรจะแยกย้ายกันไปเข้าเรียนได้แล้ว
ชางมินมองแจจุงและยูชอนที่กำลังนั่งมองหน้าเขาอยู่ด้วยสายตาสงสัย ก่อนที่จะพูดออกไปว่า...
“ก่อนที่จะเครียดเรื่องหาผัวหาเมีย ฉันว่าพวกนายสองคนควรจะรีบไปเข้าเรียนก่อนดีกว่านะ หรือว่าอยากจะนั่งหาผัวหาเมียในมหา’ลัยนี้ต่ออีกสักแปดปีล่ะ หืม?”
ช่างเป็นคำพูดที่เหมาะสมกับคนที่คงแก่เรียนอย่างชิมชางมินเสียเหลือเกิน และที่สำคัญมันยังคงความฮาร์ดคอร์เอาไว้ด้วยอีกต่างหาก นี่แหละชิมชางมินตัวจริง!!
.
.
.
.
.
ในช่วงพักกลางวัน หลังจากที่กินอาหารกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว จุนซูก็มักจะชักชวนเพื่อนๆ ในกลุ่มให้มานั่งเล่นที่สวนทางด้านหลังตึกคณะมากกว่าที่จะต้องไปนั่งทนฟังเสียงพูดคุยที่แสนจะวุ่นวายในโรงอาหาร เพราะในสวนแห่งนี้มีลมที่คอยพัดผ่านอยู่ตลอดเวลา แถมยังเงียบสงบเหมาะแก่การอ่านหนังสือหรือแอบงีบพักสายตาด้วยอีกต่างหาก
จุนซูที่สวมแว่นสายตากรอบดำกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่อย่างตั้งใจ ในมือเล็กถือปากกาไฮไลท์สีชมพูเพื่อเตรียมเอาไว้ขีดเน้นเมื่อเจอข้อความที่สำคัญ ในขณะที่เพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็กำลังนั่งเล่นไอแพดหรือไม่ก็อ่านหนังสือการ์ตูนเพื่อฆ่าเวลาเล่น
“โอ๊ะ!”
อยู่ๆ ดงเฮที่นั่งเล่นไอแพดของตนเองอยู่ก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา เสียงร้องตกใจของเพื่อนทำให้แทมินที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ กันเงยหน้าขึ้นมามองได้ แต่ไม่ใช่กับคิมจุนซูที่กำลังตั้งอกตั้งใจกับการอ่านหนังสืออยู่
“อะไรหรอ?”
แทมินถามเพื่อนรักด้วยความสงสัย
“ดูนี่ซิ”
ดงเฮยื่นไอแพดที่ในหน้าจอนั้นกำลังแสดงภาพอะไรบางอย่างเอาไว้อยู่ แทมินก้มลงไปมองดูภาพนั้นก่อนที่จะเบิกตากว้างขึ้น
และในตอนนั้นเองที่คนทั้งสองมองไปที่จุนซูที่กำลังนั่งก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมๆ กัน
ด้วยความรู้สึกที่เหมือนกับว่ากำลังมีคนจ้องมองตนเองอยู่ จึงทำให้จุนซูค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเล่มหนา และสิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือภาพของเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังจ้องมองมาที่ตนเองเป็นตาเดียว
คนตัวเล็กเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
“มีอะไรกันหรอ?”
“จุนซู... นายกับยูชอน..... กำลังคบกันอยู่หรอ?”
แทมินเป็นคนเอ่ยปากถามขึ้นมา
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น จุนซูก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเพื่อนของตนเองถึงถามแบบนั้น คนตัวเล็กจึงได้แต่ทำหน้างงตอบกลับเพื่อนทั้งสองคนไป
และเมื่อเห็นว่าจุนซูยังคงงงอยู่ ดังนั้นดงเฮจึงช่วยขยายความประโยคที่แทมินถามจุนซูไปเมื่อสักครู่นี้ให้โดยการหันไอแพดที่ตนเองถืออยู่ไปให้จุนซูได้ดู
ไอแพดที่กำลังจ่ออยู่ตรงหน้าของจุนซูนั้นเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดีเลยละว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงได้ถามเขาออกมาแบบนั้น รวมถึงยังสามารถตอบคำถามที่เขาสงสัยมาตั้งแต่เมื่อตอนพักเที่ยงได้อีกด้วย ว่าไอ้สายตาแปลกๆ ของคนทั้งโรงอาหารนั้นมันเป็นเพราะอะไร
ถ้าภาพในไอแพดนั่นมันไม่ใช่ภาพที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้
ภาพที่เพียงเห็นแค่แวบเดียว จุนซูก็สามารถนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างทันที ภาพที่ยูชอนก้มลงหอมแก้มเขาที่ป้ายรถเมล์ในวันนั้นมันกำลังเป็นหัวข้อที่น่าสนใจของคนในมหา’ลัยอยู่ในตอนนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเห็นหน้าของยูชอนไม่ชัดนัก แต่มันก็ยังดูออกอยู่ดีนั่นแหละว่าคนที่กำลังฝังสันจมูกลงบนแก้มของเขานั้นเป็นใคร และมันคงจะโชคดีกว่านี้ถ้ารูปนั้นมันไม่เห็นหน้าเขาเต็มๆ แบบในตอนนี้!!
หมดกันความมาดแมนของคิมจุนซูที่ปกป้องมาตลอด19ปีเต็ม
พังทลายลงเพราะคนคนเดียวแท้ๆ
‘อ๊ากกกก! ปาร์คยูชอน นายตายแน่!!!!’
.
.
.
หลังเลิกคลาสวิชาสุดท้าย ยูชอนก็เดินลงมาหาชางมินที่ยืนรอเขาอยู่หน้าตึกคณะ ส่วนแจจุงก็หนีไปกับชองยุนโฮตั้งแต่เขายังไม่ทันเดินออกจากห้องเรียนเลยด้วยซ้ำ
“เฮ้ย! เดี๋ยวแวะซื้อน้ำที่หน้าตึกแปบนึงนะ”
ชางมินบอกกับยูชอนในตอนที่พวกเขากำลังจะเดินกลับบ้านด้วยกัน
ยูชอนพยักหน้ารับเบาๆ
“อืมๆ”
ยูชอนเดินไปยืนอยู่ข้างๆ ชางมินที่กำลังยืนซื้อน้ำจากร้านค้าเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ข้างตึกเรียน เขายืนเอามือล้วงกระเป๋าในขณะที่สายตาคมก็กวาดสายตามองนู่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อย
และในตอนนั้นเองที่ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยกลับต้องฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาเมื่อมองเห็นร่างบางๆ ของใครบางคนกำลังเดินตรงมาที่ที่เขากำลังยืนอยู่
ปาร์คยูชอนยืนยิ้มทำหน้าระรื่นรอเอ่ยทักทายคนตัวเล็กที่กำลังเดินเข้ามาหา อ่า... ดูเหมือนว่าคุณนิติฯของเขาจะอารมณ์ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่นะ ดูซิเดินทำหน้ายักษ์เข้ามาเชียว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยังน่ารักอยู่ดีนั่นแหละ คนอะไรน่ารักน่าฟัดได้ทุกสถานการณ์จริงเชียว
“ปาร์คยูชอน!!”
เสียงของคนตัวเล็กแผดดังมาแต่ไกลก่อนที่ตัวจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของคนร่างสูงเสียอีก
และเสียงของจุนซูก็สามารถทำให้ชางมินที่กำลังยืนซื้อน้ำอยู่ข้างๆ ยูชอนต้องหันหน้ามามองอย่างเสียไม่ได้
ส่วนยูชอนเองก็ไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านต่อสีหน้าหรืออารมณ์ของคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อย ยูชอนทำหน้าระรื่นก่อนที่จะตอบกลับจุนซูด้วยน้ำเสียงทะเล้น
“ว่าไงจ๊ะที่รัก มาหาถึงที่แบบนี้แสดงว่าคิดถึงผมมากๆ เลยล่ะซิเนี่ย”
ช่างเล่นไม่รู้จักเวลาเสียจริงเชียว จุนซูที่ถึงแม้จะโกรธมากที่ได้เห็นรูปๆ นั้น แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากรอให้ถึงเวลาเลิกคลาสตอนบ่ายแล้วจึงจะสามารถมาถลกหนังไก่ได้ ตอนแรกก็นึกว่าจะหาไอ้ตัวต้นเหตุไม่ได้เสียแล้ว ดีนะที่โชคยังเข้าข้างเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงจะได้เก็บความแค้นนี้ไปนอนร้องไห้ที่บ้านคนเดียวแหงๆ โหว... วิธีระบายความแค้นอย่างแมนอ่ะ
“นายทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างมั้ย!?”
จุนซูยื่นไอแพดที่ยังคงแสดงรูปของเขากับยูชอนอยู่ไปจ่อที่ใบหน้าของคนร่างสูง ไอแพดนี้เขาขอยืมจากดงเฮมาก่อนแล้ว
ยูชอนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย ก่อนที่ดวงตาคมจะจ้องมองสิ่งที่กำลังปรากฏอยู่ในหน้าจอไอแพดและในตอนนั้นเองที่รอยยิ้มที่แสนจะพึงพอใจได้เกิดขึ้นอีกครั้งบนใบหน้าคม
“อ่า... รูปของพวกเราหนิครับ”
ชางมินที่ยืนดูดน้ำอยู่ข้างๆ กันนั้นนับถือในความหน้าด้านของเพื่อนตนเองเสียเหลือเกิน มันเคยคิดที่จะอายอะไรเป็นเหมือนกับคนอื่นๆ เขาบ้างมั้ยว่ะ ก่อนนอนมันเอาปูนซีเมนต์ทาแล้วโปะทับอีกชั้นด้วยยางมะตอยหรือไงถึงได้หน้าทนหน้าหนาขนาดนี้
“นายทำให้ฉันขายหน้า!!”
จุนซูว่าออกมา ใบหน้าของคนตัวเล็กยังคงแดงกร่ำเพราะความโกรธอยู่
“ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมจะรับผิดชอบคุณเอง”
ยูชอนยังคงตอบด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ได้สนใจอารมณ์โกรธของจุนซูเยสักนิด
“ฉันก็บอกนายหลายรอบแล้วไงว่าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ฉันบอกนายกี่รอบแล้วห๊ะ? ว่าฉันคิมจุนซูคนนี้แมนเต็มร้อย!”
ยูชอนยกยิ้มที่มุมปาก มือทั้งสองข้างยังคงล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง แต่ใบหน้าคมกลับขยับเข้าไปหาใบหน้ากลมของคนตัวเล็กจนใบหน้าของคนทั้งสองอยู่ห่างกันไม่เท่าไหร่
“ถ้าคุณแมนจริง คุณคงไม่หวั่นไหวกับผมหรอก จริงมั้ย.... คุณนิติฯ”
“.....................”
จุนซูยืนถือไอแพดถลึงตามองหน้ายูชอนอยู่นิ่งๆ
“ถ้าคุณแมนจริงๆ คุณคงไม่ปล่อยให้ผมหอมคุณแบบนี้บ่อยๆ หรอก”
จุนซูยังคงนิ่งอยู่ และยิ่งเห็นแบบนั้นยูชอนก็ยิ่งสนุก เขายกมือข้างหนึ่งลูบที่ผิวแก้มของคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มบางๆ
“คุณไม่แมนเลยสักนิด แค่ผมลูบแก้มคุณ คุณก็ใจเต้นแรงขนาดนี้แล้ว”
จุนซูขบกัดริมฝีปากของตนเองแน่น เขาไม่ได้โกรธ ในตอนนี้อารมณ์โกรธมันหายไปแล้ว และมันก็ถูกแทนที่ด้วยอารมณ์ที่เขาพยายามจะปฏิเสธกับตัวเองมาโดยตลอด...
เขากำลังใจเต้นกับท่าทางของยูชอนอยู่จริงๆ แถมเขายังหวั่นไหวกับความอ่อนโยนของคนคนนี้อีกต่างหาก!
“อ่า... รูปนี้ไม่สวยเลยเนอะคุณว่ามั้ย?”
ยูชอนก้มหน้าลงมองรูปที่อยู่ในหน้าจอไอแพด ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมามองคนตัวเล็กอีกครั้ง พร้อมๆ กับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าคมนั่นด้วย
รอยยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว รอยยิ้มที่มาพร้อมกับความหายนะที่จุนซูจะต้องเจอเป็นประจำ
“ผมไม่ชอบเลยอ่ะ!”
ยูชอนทำหน้ายุ่ง
“ละ...แล้ว ใครเขาชอบกันเล่า!!!”
จุนซูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เอาอีกแล้วเขาเสียเปรียบอีกแล้ว บอกว่าจะมาอาละวาดและวีนใส่หมอนี่แท้ๆ แต่ทำไม... ทำไมเขาถึงต้องมายืนใจเต้นเพียงแค่โดนสายตาคมคู่นั้นมองมาด้วยเล่า น่าโมโหที่สุด!!
“เห็นมั้ย คุณก็ยังไม่ชอบมันเลย”
“ใครจะไปทำใจชอบลง”
จุนซูบ่น แต่คำพูดของจุนซูนั้นมันเป็นคำพูดที่เข้าทางยูชอนเสียจริงๆ
“อ่า... ในเมื่อเราสองคนไม่ชอบมันเหมือนกัน”
จุนซูกอดไอแพดแน่น ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองสีหน้าเจ้าเล่ห์นั่นด้วยสายตาหวั่นวิตก เขารู้สึกถึงลางร้ายที่กำลังคืบคลานมาอย่างช้าๆ และประโยคที่ได้ยินต่อมานั้นก็ทำให้จุนซูแทบอยากจะวิ่งหนีไปจากที่ตรงนั้นอย่างเร็วไว
คำพูดที่ว่า...
“งั้นเราสองคนมาถ่ายรูปนั้นกันใหม่ดีกว่าเนอะ”
ถึงจะอยากวิ่งไปให้เร็วแค่ไหน แต่ก็คงจะไม่ทันแล้วล่ะ ก็ในเมื่อริมฝีปากหนานั้นได้ทาบทับลงมาบนกลีบปากของเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มันเป็นแค่การจูบแบบแผ่วเบาและนุ่มนวล ไม่ได้มีการล่วงล้ำอะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น มันก็กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจอย่างประหลาด
หน้าตึกคณะที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมามากยิ่งกว่าที่ป้ายรถเมล์ และยิ่งเป็นเวลาที่เพิ่งจะเลิกเรียนในเวลาเช่นนี้ แถมยังป็นคณะที่มีนักศึกษามากที่สุดในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกต่างหาก ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าในวันพรุ่งนี้ชื่อของคิมจุนซูจะโด่งดังไปทั่วหมา’ลัยมากแค่ไหน
ชีวิตที่สงบสุขของเขาคงจะจบลงแล้วจริงๆ
ยูชอนผละใบหน้าออกมา ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของคนตัวเล็กที่นิ่งแข็งเป็นหินไปแล้วด้วยรอยยิ้มขำ
“ถ้าจะฟ้อง ผมก็พร้อมที่จะจ่ายค่าเสียหายนะครับ”
“..........................”
“ถ้าอยากให้ผมดูแลเมื่อไหร่... ก็เอาหัวใจของคุณมาฝากได้ทุกเวลานะครับ คุณนิติฯ... ของผม”
... ความสงบสุขของเขาคงจะหายไปพร้อมๆ กับความแมนที่เขามั่นใจว่ามันมีอยู่จริงมาตลอด19ปีเต็ม นับตั้งแต่ที่มีผู้ชายที่ชื่อว่าปาร์คยูชอนก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา ฮื่อออออ ...
TBC ^-----------------^*
*******************************************************
Talk ::
สวัสดีค่ะทุกๆ คน ^-----------------------^*
มุกหายหน้าหายตาไปสองอาทิตย์ คิดถึงกันบ้างป่าว ที่หายไปนั้นก็เป็นเพราะอยากพักค่ะ 5555
ไม่ได้มีเหตุผลสำคัญอะไรเลย
แต่พอว่าจะรีบกลับมาอัพฟิควันนี้ มุกก็ดันรู้สึกอึนๆ เหมือนกำลังจะป่วยซะอย่างงั้น = =
แต่ก็ยังมาอัพฟิคให้ทุกคนได้อ่านกันอยู่นะค่ะ
และที่สำคัญมุกได้กำลังใจดีค่ะ นั่นก็คือรูปแจจุงในงานมีทวันนี้นั่นเอง
แบบว่า... มันน่ารักมากอ่ะ น่ารัก น่ากอดสุดๆ เห็นแล้วก็แข็งแรงขึ้นมาทันที ><
มาพูดถึงฟิคบ้างดีกว่า พาร์ทนี้ก็ขอเน้นยูซูบ้างละกันเนอะ พาร์ทหน้าค่อยยุนแจกันใหม่
รับรองว่ามีกรี๊ด อิอิ รอลุ้นๆ
ใครมีอะไร หรืออยากคุยก็ติดต่อมุกได้ที่ >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE
แล้วเจอกันในตอนหน้าค่ะ ช่วยรออ่านกันด้วยน๊า
ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านค่ะ
^---------------------------------^*
*******************************************************
ความคิดเห็น