ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ::: Motivation ❤ Love ::: [TVXQ][YAOI]

    ลำดับตอนที่ #8 : ,,, Part 7 ,,, ทดลองทำหน้าที่ภรรยา

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 54


    Type        :  Long fiction
    Author      :  *..MooKiiE..*
    Category :  Comedy / Romance
    Paring      :  Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu

    Note         :  เรื่องนี้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้ต้องการให้บุคคลที่อยู่ในฟิคเรื่องนี้เสียหายแต่อย่างใด เนื้อหาก็จะเกี่ยวกับ Boy’s loveนะค่ะ ถ้าใครไม่ชอบก็กรุณากดปิดลงไปเลยนะค่ะ  ขอบคุณค่ะ ^ ^

     

     *******************************************************

     

    เรื่องนี้มันไม่สนุกหรอค่ะ ไม่ค่อยมีคนเข้ามาอ่านเลย TT


     

    Part 7

     

                    ภายในห้องสรรพสินค้าที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในเมืองซกโช บรรยากาศภายในห้างช่างแสนคึกคักนักเมื่อเป็นเวลาเย็นๆ เช่นนี้ มีทั้งเหล่าคนทำงาน เหล่าแม่บ้านที่พากันมาเดินซื้ออาหาร และเหล่าบรรดานักเรียน นักศึกษาที่พากันมาแวะเดินเล่นก่อนกลับบ้าน

     

                    “ยุนโฮจะมาซื้ออะไรหรอ เดี๋ยวแจจุงจะได้ช่วยหาให้”

                    แจจุงถามออกมาในขณะที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังเดินอยู่ในแผนกของใช้ต่างๆ

     

                    “อ่า... ยาสระผม แปรงสีฟัน สบู่ และก็อะไรอีกน๊า....”

                    ยุนโฮเดินนึกถึงสิ่งที่ตนเองต้องการซื้ออยู่ แต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเสียที

     

                    “ทีหลังก่อนที่จะมาซื้อของ ยุนโฮก็ทำรายการของที่ตนเองต้องการจะซื้อซะซิ จะได้ไม่ต้องเสียเวลานึก แถมมันยังช่วยให้เราได้ของครบตามที่ต้องการอีกต่างหาก”

                    แจจุงเอ่ยปากแนะนำตามประสบการณ์ตรงของตนเอง

     

                    “แจจุงใช้วิธีนี้หรอ?

     

                    “อื้อ! แจจุงทำแบบนี้ทุกครั้งที่จะมาซื้อของเลยล่ะ!

                    คนสวยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

     

                    ยุนโฮยกยิ้มตามคนร่างบาง ดวงตาคมทอดมองใบหน้าสวยหวานก่อนที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา

                    “แม่บ้านแม่เรือนซะขนาดนี้ ผมขอจองตัวเอาไว้ก่อนได้มั้ยเนี่ย...”

     

                    บึ้ม!!!!

                    แค่พูดอย่างเดียวเขาก็หัวใจจะวายตายล่ะ นี่เล่นพูดไปด้วยทำสีหน้าวิ้งวับแบบนั้นไปด้วย คิมแจจุงก็ตายไปเลยซิงานนี้ ระเบิดตัวเองเพราะชองยุนโฮอีกแล้ว!

     

                    “อ่า.... เอ่อ... ยะ... ยุนโฮว่าจะซื้อยาสระผมใช่มั้ย? งะ... งั้นเรา... เราไปซื้อของกันเลยดีกว่าเนอะ”

                    แจจุงเขินจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนสายตาคมที่แสนจะมีเสน่ห์คู่นั้นจ้องมองมา คนสวยรีบเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วเดินนำยุนโฮไปซื้อของใช้ที่ร่างสูงต้องการอย่างทันที

     

                    ยุนโฮมองดูคนตัวเล็กที่เดินนำเขาไปด้วยรอยยิ้มบางๆ ก่อนที่ช่วงขาเรียวจะก้าวเดินตามคนร่างบางไป

     

                    ภายในแผนกของใช้ส่วนตัวต่างๆ มีคนสองคนที่ดูดีเอาเสียมากๆ กำลังเดินเลือกซื้อของอยู่ ยุนโฮที่เดินเข็นรถเข็นที่ภายในมีของใช้ของตนเองอยู่สี่ห้าอย่างวางเอาไว้อยู่ ส่วนทางด้านข้างก็มีร่างบางๆ ของคิมแจจุงคอยเดินมองหาของที่เขาต้องการให้อยู่ ทั้งสองคนเดินขนาบข้างกันไปตามชั้นวางของภายในห้าง อย่างช้าๆ

                   

                    “ยาสระผม สบู่ แปรงสีฟัน กระดาษทิชชู่ ยาสีฟัน อ่า... ขาดอะไรอีกหรือเปล่ายุนโฮ?

                    แจจุงหันมาไล่รายชื่อสินค้าที่อยู่ในรถเข็นก่อนที่จะหันหน้าไปถามคนร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ตนเอง

     

                    “โอ๊ะ! เกือบลืมไปเลย”

                    ยุนโฮทำตาโต

     

                    “อะไรหรอ?

     

                    ยุนโฮยิ้มแหยๆ ก่อนที่จะตอบคนตัวเล็กกลับไป

                    “ขาดครีมโกนหนวดน่ะ เกือบลืมซื้อซะแล้วซิ นี่ผมก็ยืมของจุนซูใช้จนหมดหลอดแล้วนะ ถ้าไม่ซื้อไปคืนมีหวังโดนไอ้ตัวเล็กเอาครีบฟาดหัวแน่ๆ”

     

                    “ยุนโฮนี่จริงๆ เลยน๊า~

                    แจจุงเดินนำยุนโฮไปที่แผนกของใช้ส่วนตัวของผู้ชาย ช่วยกันหาครีมโกนหนวดยี่ห้อประจำที่คนร่างสูงใช้อยู่สักพักหนึ่ง

     

                    “ผมน่ะใช้ครีมโกนหนวดเปลืองมากๆ เลยนะ”

     

                    “งั้นก็ซื้อไปสักสิบกล่องเลยดีมั้ย? จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาซื้ออีก ซื้อไปเผื่อจุนซูด้วย”

                    แจจุงช่วยออกความเห็น ซึ่งคนร่างสูงก็เห็นด้วยกับความคิดนี้

     

                    “จุนซูน่ะชอบบ่นผมประจำเลยว่าเอาครีมโกนหนวดไปกินหรือไง ทำไมถึงหมดเร็วนัก”

     

                    “แจจุงน่ะไม่ค่อยมีหนวด ก็เลยไม่ต้องโกนบ่อยๆ”

     

                    “จุนซูก็เหมือนกัน ไม่เหมือนผม ถ้าปล่อยไว้สามวันนะนึกว่าโจรป่าหลุดออกมา”

     

                    แจจุงหัวเราะให้กับคำพูดของยุนโฮ

                    “อ่า... อยากเห็นจัง ยุนโฮสภาพแบบนั้นคงจะหล่อเร้าใจน่าดู”

     

                    ยุนโฮยิ้ม ก่อนที่จะถามคนร่างบางกลับ

                    “แล้วนี่แจจุงจะซื้อของอะไรหรือป่าว?

     

                    คนสวยพยักหน้า

                    “ยุนโฮรีบไปไหนมั้ย?

     

                    “ไม่ครับ”

     

                    “งั้นไปจ่ายตลาดเป็นเพื่อนแจจุงหน่อยซิ”

                    คนสวยเอ่ยชวนด้วยรอยยิ้มหวาน แล้วมีหรือที่คนอย่างชองยุนโฮจะกล้าปฏิเสธคำเชิญชวนของคนน่ารัก ดังนั้นสิ่งที่ยุนโฮทำได้ก็คือการพยักหน้ารับและเข็นรถตามคนสวยไปเท่านั้น

     

                    ยุนโฮเดินเข็นรถตามคนสวยต้อยๆ อยู่ชั้นซุปเปอร์มาเก็ต โดยปกติแล้วเขาก็ไม่ค่อยจะได้ย่างก้าวเข้ามาเหยียบที่แผนกนี้สักเท่าไหร่หรอกนะ เพราะมันคงจะดูขัดกันสักหน่อยที่คนตัวสูงๆ หน้าตาหล่อๆ และดูท่าคงจะทำอาหารไม่เป็นแบบเขาจะมาเดินเข็นรถอยู่ในแผนกอาหารเช่นนี้

     

                    “แจจุงทำอาหารเป็นด้วยหรอ?

                    ยุนโฮถามออกมาด้วยความสงสัยในขณะที่กำลังมองคนตัวเล็กที่กำลังเลือกผักสดต่างๆ อย่างตั้งอกตั้งใจ

     

                    “บ้านแจจุงเปิดร้านอาหารนะ ถ้าทำอาหารไม่เป็นก็เสียชื่อคุณพ่อคุณแม่หมดซิ”

                    แจจุงตอบออกมาทั้งๆ ที่ยังคงให้ความสนใจอยู่กับผักสดตรงหน้า

     

                    “อ่า... นั่นซิเนอะ”

                    ยุนโฮพยักหน้ารับ เขาเพิ่งจะนึกได้ว่าแจจุงเคยบอกเขาเอาไว้ว่าทางครอบครัวได้เปิดร้านอาหารอยู่ที่โซล ก็คงจะไม่แปลกอะไรที่คนอย่างแจจุงจะทำอาหารเป็น

     

                    “แล้วต้องอยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ แจจุงก็เลยต้องทำอาหารกินเองอยู่บ่อยๆ บางทีซื้อเขากินรสชาติก็ไม่ค่อยจะถูกปากน่ะ”

                    แจจุงยิ้ม เขาวางถุงผักที่ผ่านการเลือกสรรจากตนเองเป็นอย่างดีลงในรถเข็น ก่อนที่จะเดินนำยุนโฮไปมุมขายของอื่นๆ

     

                    “ผมกับจุนซูทำอาหารไม่เป็น ก็เลยต้องซื้ออาหารเข้ามากิน หรือไม่ก็กินอาหารสำเร็จรูปกันแทน”

                   

                    “แบบนั้นก็แย่ล่ะซิ”

                    คนสวยว่าพลางทำหน้ามุ่ย

     

                    “ก็ยังหาแม่บ้านไม่ได้นี่นา... ก็ต้องทนกินอาหารแบบนี้ไปก่อนล่ะนะ”

                    ที่บ้านก็จ้างแค่แม่บ้านชั่วคราวที่มีหน้าที่แค่ทำความสะอาดบ้านและก็กลับไปในตอนเย็นเพียงเท่านั้น ยังหาแม่บ้านที่จะมาช่วยดูแลบ้านจริงๆ ไม่ได้เสียที นี่เขาก็เพิ่งจะโทรไปบอกแม่ให้ส่งแม่บ้านจากบ้านที่โซลมาให้ซักสองคน เพราะขืนปล่อยทิ้งเอาไว้แบบนี้ เขาคงจะต้องกินแต่อาหารสำเร็จรูประทังชีวิตไปตลอดแหงๆ

     

                    “งั้น... ให้แจจุงไปเป็นแม่บ้านให้เอามั้ยล่ะ?

     

                    “อ่า.........”

     

                    “จะดูแลทั้งบ้าน และก็.....”

                    คนสวยยิ้มหวาน ขยับเข้ามาใกล้คนตัวสูงก่อนที่นิ้วเล็กๆ จะจิ้มไปที่แผงอกแกร่งทางด้านซ้ายและพูดต่อว่า...

     

                    “หัวใจของเจ้าของบ้านด้วย ยุนโฮสนใจมั้ย?

                    เงยหน้าถามด้วยรอยยิ้มหวาน

     

                    ยุนโฮยกยิ้มที่มุมปาก อ่า... นี่เขาโดนคิมแจจุงรุกอีกแล้วซินะ คนร่างสูงทำท่าครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะตอบออกมา

                    “แต่ผมคงจะไม่จ้างแจจุงด้วยเงินหรอกนะ”

     

                    คนร่างสูงพูดด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์ เขาโน้มหน้าเข้าใกล้กับคนร่างบางสักเล็กน้อย... ชองยุนโฮไม่ปล่อยให้คิมแจจุงเป็นฝ่ายรุกตนเองอยู่ฝ่ายเดียวอย่างเด็ดขาด!

     

                    นิ้วเรียวยาวของยุนโฮถูกยกขึ้นมาลูบไล้ที่ริมฝีปากอวบอิ่มของคนสวยอย่างแผ่วเบา พร้อมทั้งกระซิบบอกคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงสุดเซ็กซี่ที่ข้างใบหูนิ่มว่า...

                    “เพราะผมจะตอบแทนด้วย บางอย่างที่มันมีค่ามากกว่านั้น”

     

                    ว่าแล้วใบหน้าหล่อคมก็ผละออกมา เขาเห็นคนสวยที่เป็นฝ่ายรุกขาก่อนกำลังเขินแก้มแดงที่คาดว่าน่าจะเกิดจากคำพูดของเขาเมื่อสักครู่นี้

     

                    การรุกในครั้งนี้... ชองยุนโฮเป็นฝ่ายชนะ

     

                    “อะ... เอ่อ ระ... เราไปดูเนื้อกันต่อดีกว่าเนอะ”

                    แจจุงที่เขินจนหน้าแดงอยู่นั้น เอ่ยปากพูดออกมา คนสวยรีบเดินนำยุนโฮไปที่มุมขายเนื้ออย่างทันที

     

                    ยุนโฮมองตามแผ่นหลังเล็กๆ ที่กำลังรีบเดินดุ๊กๆ ไปยังแผนกขายเนื้ออย่างเร่งรีบ ทำอย่างกับว่าที่ขายเนื้อมันจะหนีหายไปก่อนเสียอย่างนั้น

     

                    “คนอะไรแปลกชะมัด”

                    ยุนโฮพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มบางๆ ก่อนที่คนร่างสูงจะเข็นรถตามคนร่างบางไป

     

                    ที่ยุนโฮว่าแจจุงว่าแปลกนั้นก็เป็นเพราะว่าเดี๋ยวคนร่างบางก็ทำตัวใจกล้า เดินหน้ารุกจีบเขาแบบไม่อายต่อสิ่งใด แต่พอโดนเขารุกกลับบ้าง ก็กลับทำตัวไม่ถูก ต้องยืนบิดไปบิดมาเพราะความเขินอยู่เสมอๆ

     

                    เป็นคนที่แปลกจริงๆ แต่ก็แปลกแบบน่ารักเนอะ... ว่ามั้ย?

     

                    ยุนโฮยืนอยู่ข้างๆ แจจุงที่กำลังยืนเลือกเนื้อหมูและเนื้อวัวอยู่ ดวงตาคมจ้องมองท่าทางเอาจริงเอาจังกับการเลือกเนื้อของคนร่างบางและก็อดที่จะชื่นชมขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้

                    “แจจุงดูท่าจะทำอาหารเก่งนะ ดูเป็นมืออาชีพมากๆ เลย”

     

                    แจจุงวางแพ็คเนื้อหมูและเนื้อวัวที่ตนเองเลือกลงในรถเข็น คนร่างบางหันมายิ้มรับกับคำชมนั้น

                    “แจจุงชอบทำอาหารมากๆ เลยล่ะ”

     

                    “ชักอยากลองชิมฝีมือของแจจุงซะแล้วว่าจะอร่อยสักแค่ไหน”

                   

                    แจจุงใจเต้นกับคำพูดที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรของคนร่างสูง คนสวยยืนคิดอะไรอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะพูดในสิ่งที่ตนเองคิดออกไป

                    “ยุนโฮ?

     

                    “หืม?

     

                    “วันนี้แจจุงขอทดลองทำหน้าที่ภรรยาที่ดีก่อนได้มั้ยอ่ะ?

     

                    “เอ๋?

                    หน้าที่ภรรยา? อะไรกัน ยุนโฮได้แต่ยืนงงกับคำพูดของคนตัวเล็ก

     

                    เมื่อกี้นี้เขาปล่อยให้ยุนโฮรุกเขาไปแล้ว คราวนี้เขาควรจะรุกยุนโฮกลับบ้างซินะ เราสองคนจะได้เสมอกัน

                   

                    “วันนี้แจจุงจะขอทดลองทำหน้าที่ภรรยา โดยการทำอาหารเย็นให้ยุนโฮกิน... จะได้มั้ย?

                    คนตัวเล็กจ้องหน้าคนร่างสูงตาแป๋ว ออดอ้อนทั้งน้ำเสียงและหน้าตา สมกับเป็นคิมแจจุงลูกแมวน้อยเสียจริงเชียว

     

                    ในเมื่อคนสวยเขามีน้ำใจมาขนาดนี้แล้ว จะให้ปฏิเสธออกไปก็คงจะเสียมารยาท ดังนั้นเขาก็ควรจะตอบรับน้ำใจนี้เอาไว้ซินะ

                    “ก็เอาซิครับ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแจจุงจะเหมาะกับตำแหน่งนี้มั้ย”

     

                    “แล้วยุนโฮจะได้รู้ว่าไม่มีใครเหมาะกับตำแหน่งนี้เท่ากับแจจุงอีกแล้ว”

     

                    “อ่า... ชักตื่นเต้นซะแล้วซิ”

     

                    แจจุงยิ้มหวาน

                    “ตำแหน่งว่าที่ภรรยาของยุนโฮน่ะ เหมาะกับแจจุงคนนี้คนเดียวเท่านั้นแหละ”

    .

    .

    .

    .

    .

                    ภายในห้องครัวที่ถูกจัดแต่งสไตล์โมเดิร์น ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ยังคงใหม่เอี่ยมเนื่องจากเจ้าของบ้านไม่เคยคิดที่จะหยิบจับมันหรือลงมือเข้าครัวเองเลยสักครั้ง ก็บอกแล้วไงว่าบ้านนี้ไม่มีใครทำอาหารเป็นสักคน มีแต่ซื้ออาหารมาจากข้างนอกและก็เอากลับบ้านมาเทใส่จานและนั่งกินด้วยกันเพียงเท่านั้นแหละ

                   

                    “โหว! ครัวของยุนโฮใหญ่มากเลย แจจุงชอบจัง~

                    คนตัวเล็กตื่นเต้นดีใจที่ได้มีโอกาสเข้ามาเห็นห้องครัวใหญ่ๆ ตามแบบที่ตนเองเคยฝันว่าอยากได้ห้องครัวแบบนี้มาอยู่ในบ้านของตนเอง

     

                    “ทำตัวตามสบายเลยนะครับ คิดซะว่าเป็นบ้านของตนเอง ผมขอแค่อย่างเดียว อย่าระเบิดครัวผมก็พอ”

                    ยุนโฮเอ่ยแซวคนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม เขาวางถุงที่บรรจุอาหารสดต่างๆ ลงบนโต๊ะ

     

                    “แล้วยุนโฮจะต้องขอร้องให้แจจุงทำอาหารให้กินบ่อยๆ คอยดูซิ”

                    คนตัวเล็กพูดออกมาด้วยความมั่นใจ

     

                    “ผมไม่คอยดูหรอก”

     

                    “เอะ?

                    แจจุงทำหน้ายุ่ง

     

                    “แต่ผมจะคอยกินนะครับคนสวย~

                   

                    “ยุนโฮอ่ะ! ชอบทำแจจุงเขินอยู่เรื่อยเลย”

     

                    “ฮะฮะฮ่า งั้นเชิญแจจุงใช้ครัวได้ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวผมขอตัวไปโทรตามจุนซูก่อน”

                                   

                    แจจุงหยักหน้ารับ เขามองตามแผ่นหลังของคนร่างสูงที่เดินออกจากห้องครัวไปจนลับสายตา ก่อนที่จะหันกลับมาให้ความสนใจกับถุงอาหารที่วางอยู่ตรงหน้าของตนเอง ดวงตากลมหันไปมองดูรอบๆ ห้องครัวที่แสนจะใหญ่โตนี้อีกครั้ง และก็อดที่จะพึมพำออกมาเบาๆ กับตนเองเสียไม่ได้ว่า...

                    “แจจุงจะต้องเป็นเจ้าของห้องครัวนี้ให้ได้เลย คอยดูซิ!

     

                    แต่ก่อนที่จะไปเป็นเจ้าของห้องครัวนี้ เป็นเจ้าของชองยุนโฮที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ให้ได้ก่อนจะดีมั้ย คิมแจจุงเอ๋ย~

     

                    เป็นเวลากว่าเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วที่แจจุงจะต้องมาขลุกตัวทำอาหารอยู่ในห้องครัวแห่งนี้ คนตัวเล็กตั้งอกตั้งใจทำอาหารมื้อนี้อย่างกับว่านี่คือการสอบปลายภาคอย่างไงอย่างงั้น แจจุงทำอาหารอย่างพิถีพิถันและก็ไม่ลืมที่จะไม่ทำให้ห้องครัวแห่งนี้สกปรกด้วย ดูแลดียิ่งกว่าห้องครัวบ้านของตัวเองอีกนะจะบอกให้

     

                    ยุนโฮโดนแจจุงสั่งให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย ส่วนตัวเองก็จะเร่งทำอาหารให้เสร็จอย่างเร็วไว

     

                    คนร่างสูงเดินเข้ามาในห้องครัวด้วยชุดลำลองสบายๆ แต่ก็ยังคงความหล่อเอาไว้ได้อย่างเคย ดวงตาคมมองดูแผ่นหลังบอบบางที่ยังคงก้มๆ เงยๆ เดินไปเดินมาอยู่ในส่วนของห้องครัวด้วยรอยยิ้ม กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอาหารลอยฟุ้งกระจายอยู่ทั่วห้อง เรียกให้ช่วงขาเรียวยาวต้องรีบก้าวเดินเข้าไปดูว่าเมนูอาหารที่คนตัวเล็กกำลังทำอยู่นั้นมีอะไรบ้าง

     

                    “โหว! นี่แจจุงทำเองทั้งหมดเลยหรอเนี่ย”

                    ยุนโฮที่เดินมาเห็นอาหารที่คนร่างบางเป็นคนลงมือทำเองทั้งหมด ได้แต่เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ

     

                    แจจุงแอบตกใจเล็กน้อยที่ยุนโฮมาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง แต่อารมณ์ตกใจนั้นก็ถูกแทนที่เข้าด้วยความดีใจอย่างรวดเร็วเมื่อได้เห็นแววตาที่แสดงออกถึงความชื่นชมในตัวเขาผ่านดวงตาคู่คมคู่นั้น

                    “เวลามีน้อย แจจุงก็แค่ทำอะไรที่แจจุงพอจะทำได้ก็แค่นั้นเอง”

     

                    “ฝีมือแบบนี้เชฟกระทำเหล็กมาเองชัดๆ”

                    ยุนโฮเอ่ยแซว

     

                    “ไม่ถึงขนาดนั้นสักหน่อย”

     

                    “อ่า... มีแต่ของโปรดผมทั้งนั้นเลย ทั้งแกงกิมจิ หมูผัดกิมจิ  แล้วไหนจะข้าวยำอีก โหว... ทำแต่ของชอบผมแบบนี้ รู้ใจกันเกินไปแล้วนะ”

     

                    แจจุงตักแกงกิมจิขึ้นมาชิมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเอื้อมมือลงไปปิดเตาแก๊ส เป็นอันว่าการทำอาหารมื้อนี้ได้เสร็จสิ้นลงเรียบร้อย

                    “รู้แบบนี้แล้ว ก็รีบตกลงเป็นแฟนกับแจจุงซะเลยซิ แจจุงจะได้ไม่ต้องเหนื่อยจีบยุนโฮต่อ”

     

                    “แจจุงเห็นว่าผมใจง่ายหรอ ผมไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”

     

                    “ก็แจจุงอยากเป็นแฟนกับยุนโฮแล้วอ่ะ! ยุนโฮก็ช่วยใจง่ายให้แจจุงหน่อยซิ!!

                    คนสวยทำสีหน้าอ้อนๆ เรียวแขนบางคล้องเข้าที่เรียวแขนของคนร่างสูงก่อนที่จะเอนหัวซบลงบนบ่าแกร่งแล้วถูไปถูมา

     

                    “นะ....น๊า”

                    แจจุงเงยหน้าออดอ้อนคนร่างสูง ส่วนยุนโฮก็ได้แต่ฉีกยิ้มมองดูคนตัวเล็กกอย่างเอ็นดู และในตอนนั้นเองที่มีเสียงของบุคคลที่สามดังเข้ามาแทรก

     

                    “พี่ยุนโฮฮะ!

                    เป็นเสียงของจุนซูนั่นเอง

     

                    แจจุงผละออกมาจากยุนโฮ ก่อนที่จะหันหลังกลับไปดูต้นตอของเสียง เช่นเดียวกันกับยุนโฮ

     

                    “อ้าวจุนซู? กลับมาช้านะเรา”

                    ยุนโฮเอ่ยทักน้องชายที่ห่างกันไม่กี่เดือน ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว วันนี้น้องชายของเขากลับบ้านช้ากว่าวันอื่นๆ เล็กน้อย

     

                    “พอดีแวะไปร้านหนังสือก่อนกลับน่ะ”               

                    จุนซูพูดกับยุนโฮ ดวงตาเรียวเล็กกำลังจ้องมองยุนโฮที แจจุงทีด้วยความสงสัย

     

                    ยุนโฮเห็นดังนั้นจึงรีบเอ่ยแนะนำคนข้างตัวให้น้องชายได้รู้จักอย่างทันที

                    “จุนซู คนนี้คือแจจุง คนที่พี่เคยเล่าให้ฟังไงว่าอยู่บ้านข้างๆ เรา”

     

                    จุนซูร้องอ้อขึ้นมาเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ อันที่จริงพี่ยุนโฮก็บอกเขาเอาไว้แล้วนี่นาตอนโทรมาตามว่าวันนี้เพื่อนข้างบ้านจะมาทำอาหารเย็นให้กิน นี่เขาลืมไปได้ยังไงนะ สงสัยเพราะคงจะคิดเรื่องไอ้ไก่โรคจิตนั่นมากไปหน่อยล่ะมั้ง

                    “ยินดีที่ได้รู้จักฮะ ผมคิมจุนซู”

     

                    “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ผมคิมแจจุง”

                    แจจุงเอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ไม่เหมือนกับตอนที่อยู่ลับหลังที่เรียกว่าคนตัวเล็กว่าไอ้ก้นบวมบ้าง ไอ้ก้นบอลลูนบ้างเลยสักนิด

     

                    “ไปล้างหน้าล้างตาซะซิ แล้วจะได้ลงมากินข้าว”

                    ยุนโฮเอ่ยบอกจุนซู

     

                    คนตัวเล็กพยักหน้าเป็นการรับรู้ เขาหันหลังเตรียมจะก้าวเดินออกจากห้องครัว แต่ก็มิวายที่จะหันกลับมามองคนสองคนที่ตอนนี้กลับไปพูดคุยหยอกล้อกันต่อแล้ว ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองคนทั้งคู่ด้วยความสงสัย ก่อนที่ช่วงขาเรียวจะตัดสินใจก้าวเดินออกมาจากที่ตรงนั้น จุนซูขมวดคิ้วสักเล็กน้อย ก่อนที่จะพึมพำบางสิ่งบางอย่างออกมาเบาๆ

                    “สองคนนั้น ดูสนิทกันเกินไปรึป่าวนะ”

     

                    คนตัวเล็กส่ายหัวไปมา ไล่ความคิดบ้าๆ ออกจากหัวของตนเอง สงสัยเขาคงจะคิดมากไป บางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิดก็ได้ เขาคงจะระแวงไปเองจริงๆ ... ล่ะมั้ง

     

                    แจจุงหันมาให้ความสนใจกับหม้อแกงตรงหน้าต่อ เขารับถ้วยที่ที่ยุนโฮส่งมาให้มาถือเอาไว้ก่อนที่จะตักแกงในหม้อนั้นใส่ถ้วยอย่างระมัดระวัง

                    “จุนซูน่ารักดีนะ”

     

                    ยุนโฮที่ยืนเป็นลูกมืออยู่ข้างๆ คอยหยิบนู่นวางนี่ให้คนสวยหันหน้ามามองคนสวยสักเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดตอบกลับมา

                    “อื้อ แต่เจ้าตัวไม่ชอบให้ใครชมว่าน่ารักนะ เพราะจุนซูบอกว่ามันฟังดูไม่ค่อยแมนสักเท่าไหร่น่ะ”              

     

                    “ฮะฮะฮ่า จุนซูคนแมน”

                    แจจุงหัวเราะออกมาหลังจากที่ได้ยินคำพูดของยุนโฮ เขาส่งถ้วยแกงให้คนร่างสูงเอาไปวางบนโต๊ะ ก่อนที่จะเดินไปตักข้าวใส่จานเป็นหน้าที่สุดท้าย

     

                    ยุนโฮเดินนำถ้วยแกงมาวางลงบนโต๊ะ                เขามองดูบรรดาอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนที่จะหันกลับมามองดูคนทำด้วยสายตาชื่นชม

                    “จุนซูเขาบอกว่าเขาแมนมาก ไม่รู้ว่าใครสอนให้คิดแบบนั้นกันนะ เพราะในสายาของผม จุนซูนั้นเหมาะกับคำว่าน่ารักมากกว่าคำว่าแมนเสียอีก”

     

                    แจจุงเดินนำจานข้าวมาวางลงบนโต๊ะ เขาเงยหน้ามองยุนโฮ

                    “เพื่อนของแจจุง คนที่ชื่อยูชอนน่ะ ยุนโฮจำได้มั้ย?

     

                    ยุนโฮยืนนึกอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบกลับไป

                    “อ่าฮะ ทำไมหรอ?

     

                    “ยูชอนมันกำลังจีบจุนซูอยู่ล่ะ”

                    คนสวยว่ายิ้มๆ

     

                    ยุนโฮทำตาโต ก่อนที่จะร้องถามออกมาด้วยความตกใจ

                    “จริงหรอ! ยูชอนกล้าอ่ะ ไม่กลัวโดนจุนซูด่ากลับหรือไงนะ”

     

                    “ไม่เป็นไรไอ้ยูชอนมันหน้าด้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรื่องแค่นี้... จิ๊บๆ”

     

                    “ฮะฮะฮ่า! ก็ดีเหมือนกัน เผื่อยูชอนจะทำให้จุนซูค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตนเองก็ได้นะ”

                    ยุนโฮยิ้ม

     

                    “จุนซูอาจจะยังไม่รู้ตัว แต่แจจุงน่ะ... รู้ตัวมานานแล้วนะ”

                    แจจุงพูดขึ้นมาในขณะที่เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ กายของยุนโฮ

     

                    “หืม?

                    ยุนโฮเลิกคิ้วถาม เขามองคนสวยด้วยรอยยิ้มบางๆ

     

                    “ตั้งแต่เจอยุนโฮแจจุงก็รู้เลยล่ะว่า... คนนี้แหละใช่เลย!

     

                    “อ่า.....”

     

                    คนสวยขยับหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าคมที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่ ใบหน้าของคนทั้งคู่อยู่ห่างจากกันไม่กี่เซน ก่อนที่ริมฝีปากบางจะพูดบางสิ่งบางอย่างออกมา ด้วยสีหน้าและท่าทางเหมือนคนกำลังคิดหนัก

                    “แจจุงแพ้ความหล่อของยุนโฮเข้าอย่างจังเลย ทำไงดีล่ะ”

     

                    ยุนโฮยกยิ้มที่มุมปาก เขาเลียริมฝีปากของตนเองสักเล็กน้อย ก่อนที่ใบหน้าคมขยับเข้าไปใกล้กับใบหน้าสวยหวานจนตอนนี้ปลายจมูกโด่งของคนทั้งคู่แตะกันไปมา

     

                    อ่า... ใกล้กันเกินไปแล้วนะ

     

                    แต่ยังไม่ทันที่ยุนโฮจะได้ทำอะไรหรือพูดอะไรออกมาก็มีเสียงของสมาชิกอีกคนในบ้านหลังนี้แทรกเข้ามาเสียก่อน

     

                    “พี่ยุนโฮ อาหารเย็นเสร็จรึยังไงฮะ”

                    ส่งเสียงมาก่อนที่ตัวจะปรากฏตามออกมาทีหลัง ร่างของคนตัวเล็กยืนอยู่ที่ทางเข้าของห้องครัว

     

                    เสียงของจุนซูทำให้บุคคลทั้งสองคนต้องผละออกจากกันอีกครั้ง ยุนโฮหันกลับไปนั่งที่ของตนเอง เช่นเดียวกับแจจุง

     

                    “เสร็จพอดีเลย”

                    ยุนโฮเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม

     

                    “อ่า... หน้าตาน่ากินจัง ขอบคุณคุณแจจุงมากๆ เลยนะฮะที่อุตส่าห์สละเวลามาทำอาหารเย็นให้พวกเรากิน”

                    คนตัวเล็กเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับยุนโฮและแจจุง

     

                    เมื่อสมาชิกในบ้านมาครบแล้ว ทั้งสามคนก็ลงมือกินข้าวกันอย่างทันที ยุนโฮเอ่ยชมฝีมือการทำอาหารไม่หยุดปาก ส่วนคนถูกชมก็ได้แต่นั่งยิ้มเขินบิดไปบิดมา จุนซูกับแจจุงพูดคุยกันมากขึ้น พวกเขาทั้งสองคนดูจะสนิทกันมากขึ้น แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไปมาตลอดระยะเวลาในการทานอาหารมื้อนี้

     

                    ถึงแม้ว่าภายนอกจุนซูจะทำตัวเป็นปกติไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจใดๆ แต่ว่าภายในนั้น คนตัวเล็กกำลังมีเรื่องที่ให้สงสัยและขบคิดอยู่

     

                    ดวงตาเรียวเล็กจ้องมองบุคคลสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาด้วยดวงตาครุ่นคิด เขายิ้มเล็กน้อยตอนที่แจจุงเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปตักข้าวในจานเข้าปากต่อเหมือนไม่มีอะไร

     

                ... แต่ภายในหัวก็ยังคงมีแต่ความสงสัยที่ยังไม่จบสิ้นเสียที ...

     

     TBC ^-----------------^*

     

    *******************************************************

     

    Talk ::

     

    สวัสดีค่ะ

    มุกมาแล้วๆ เอาฟิคมาเสิร์ฟให้ทุกๆ คนแล้วนะค่ะ
     

    พาร์ทนี้ยุนแจมาเต็ม จัดเต็มตามที่ได้บอกเอาไว้ในตอนที่แล้ว

    แถมมาพร้อมกับปมความสงสัยของจุนซูอีกต่างหาก ><
     

    เรื่องดูน่าลุ้นขึ้นมั้ยค่ะ 55555

    ตอนนี้เริ่มมีคนสงสัยในความเป็นคนดีของชองยุนโฮซะแล้วซิ

    ยุนโฮก็เป็นคนดีน๊า ก็อย่างที่เห็น ยุนโฮทำดีมาตลอดเลย ไม่มีท่าทีตุกติกอะไรเลยสักนิด

    คนสวยรุกมา สุดหล่อก็รุกกลับ เป็นธรรมดาของผู้ชาย
     

    แต่ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ

    ก็รอลุ้นในตอนต่อๆ ไปก็แล้วกันนะค่ะ มุกไม่มีอะไรจะบอก >O<

    อ่า... ขอให้ฟิคมุกช่วยทำให้ทุกคนพอจะยิ้มออกมาได้บ้างนะค่ะ

    แม้ว่าตอนนี้พวกเราจะยังเสียใจ และกินมาม่ากันอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เป็นไร เราต้องสู้ และอยู่เคียงข้างดงบังชินกีที่รักของพวกเราต่อไป
     

    สู้ๆ ไปด้วยกันค่ะ

    ติดต่อมุกได้ที่ >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE
     

    แล้วเจอกันในตอนหน้าค่ะ ซึ่งอาทิตย์หน้ามุกอาจจะไม่ได้มาอัพให้นะค่ะ

    ช่วยรออ่านกันด้วยน๊า
     

    ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านค่ะ 

    ^---------------------------------^* 

    *******************************************************


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×