ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ☆,, Smartly Boy ,,☆ [TVXQ][YAOI]

    ลำดับตอนที่ #8 : ,,, Part 7 ,,, อยากจูบพี่ยูชอน ^ ^

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 52


    Title : Smartly Boy

    Type : Long fiction
    Author : *..MooKiiE..*
    Category : Comedy / Romance
    Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu

     

     

    Part 7

     

     

              เวลานี้เป็นเวลาอันแสนสุขของเหล่าบรรดานักเรียนที่อดทนรอให้เวลาเลิกเรียนมาถึงเสียที  ทั้งนักเรียนชายและนักเรียนหญิงต่างก็พากันจับกลุ่มเป็นก้อนๆก่อนจะพากันเดินออกไปจากโรงเรียน เสียงพูดคุยก็ดังขึ้นไปทั่วทั้งบริเวณนั้น

     

           วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่จุนซูขอห้อยตัวติดไปกินข้าวที่บ้านแจจุงด้วย   ร่างบางทั้งสองคนยังคงอยู่ในห้องเรียน สาเหตุก็เพราะว่าวันนี้ทั้งแจจุงและจุนซูต่างก็เป็นเวณทำความสะอาดห้องทั้งสองคน

     

    แจจุงเดี๋ยวนายช่วยเอาขยะไปทิ้งให้หน่อยนะ วางอยู่หน้าห้องนั่นนะ

    เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นเวณวันเดียวกันกับแจจุงตะโกนบอกคนร่างบางที่ยืนลบกระดานอยู่หน้าห้องเพื่อบอกหน้าที่อีกอย่างให้ร่างบางฟัง

    อื้อ ได้ มีอะไรอีกรึป่าวโพมี? ถ้าไม่มีชั้นกับจุนซูจะได้กลับบ้านเลย

    แจจุงที่กำลังเช็ดกระดานอยู่ตะโกนถามหญิงสาวที่ยืนอยู่นอกห้อง  เค้าอยากกลับบ้านจะแย่แล้ว คิดถึงฝีมืออาหารของแม่สุดๆไปเลยตอนนี้   เมื่อตอนกลางวันก็กินข้าวไปได้นิดเดียวเอง หมีหื่นแย่งกินไปตั้งเยอะ

    อืม... คงไม่มีอะไรแล้วหละ นายกับจุนซูกลับบ้านได้เลย

    ทันทีที่ได้ยินคำตอบจากเพื่อนแจจุงก็ยิ้มร่าทันที

     

     

    โอ้วววว!!~  ข้าวจ๋า รอแจจุงก่อนน้า......

     

    แจจุงรีบผละมืออกจากกระดานหน้าห้อง ก่อนจะรีบวิ่งไปคว้าเอาถังขยะขึ้นมา แล้วรีบยกไปทิ้งทันที

    และเมื่อปฏิบัติภารกิจของตนเองเรียบร้อยแล้ว แจจุงก็รีบตะโกนเรียกเพื่อนรักสายพันธุ์โลมาที่กำลังยืนกวาดห้องอยู่ทันที

     

    จุนซู กลับบ้าน...!!!~ “

    โอ้ว!! เยส!!~ ประโยคนี้แหละที่คิม จุนซูอยากได้ยิน อุว่ะฮะฮ่า !!

     

    แต่ขณะที่แจจุงรอจุนซูเก็บของลงกระเป๋าอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของตัวเองก็เรียกความสนใจให้หยิบขึ้นมาดูเสียไม่ได้ เอะๆ!! ตาขวากระตุก จะมีเรื่องซวยมาหาหรือไร แต่พอได้เห็นชื่อผู้โทรเข้าเท่านั้นแหละ แจจุงก็ทราบสาเหตุที่ตาขวากระตุกขึ้นมาได้ทันที

     

    อิหมีหื่นกาม

     

    เหอะๆ  นี่แหละสาเหตุที่ตาขวากระตุก  ตั้งแต่เจอกันมานี่หาเรื่องดีๆได้มั้ย!!!~

    ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะกดรับสาย

     

    [ แจจุงจ๋า....!!~  วันนี้ไม่ต้องรอกลับบ้านพร้อมผมนะ แบบว่าติดประชุมสภานักเรียนอ่ะครับ ]

    เห่ย..... หลงตัวเองชะมัดเลยหวะ ใครเค้ารอแกว่ะ ห๊า!!!

    เลิกหลงตัวเองเถอะ ใครเค้าจะไปรอนาย ชั้นกำลังจะกลับบ้านกับจุนซูแล้วเนี่ย

    [ แหม๋ๆ ผมรู้นะว่าแจจุงหนะก็อยากกลับบ้านกับผม แต่มันติดงานจริงๆ งั้นเดี๋ยวคืนนี้ผมโทรหาเป็นการไถ่โทษละกัน ดีมั้ยครับ? ]

    ไม่ดีทั้งนั้นแหละ แค่นี้นะ จะกลับบ้านแล้ว

    [ โอเคครับ กลับบ้านดีๆนะ ผมเป็นห่วง ระวังตัวด้วย แล้วจะโทรหานะที่รัก ]

     

    ติ๊ด

    เสียงวางสายดังขึ้น พร้อมๆกับอาการร้อนผ่าวที่แผ่กระจายไปทั่วใบหน้าของแจจุง โอ๊ย!!~ อิตาบ้า ชั้นโตแล้วนะ มาทำเป็นห่วงเป็นเด็กๆอยู่ได้ ชิ!!~

     

    แจจุงเป็นอะไรรึป่าวอ่ะ? หน้าแดงๆนะ

    เสียงของจุนซูพูดขึ้นมาด้วยความสงสัย  แจจุงรีบคว้ากระเป๋านักเรียนที่วางอยู่บนโต๊ะของตนเองขึ้นมาสะพายทันที

    ไม่เป็นอะไรหรอก กลับบ้านได้แล้ว เร็ว!!~ “

    เมื่อว่าจบก็เดินออกจากห้องเรียนทันที ร้อนให้โลมาน้อยต้องรีบคว้ากระเป๋าของตนเองขึ้นมาแล้ววิ่งตามไปออกไป

     

     

     

    * … + … + …+ …+ …+ …+… + … + …+ … + …+ …+ …+ …+… + … + …+ …+ …+ …+… + … *

     

     

    กลับมาแล้วครับ... อ๊ะ!!!~ ขอโทษฮะๆ

    แจจุงที่เปิดประตูเข้ามาโดยไม่ทันได้มองว่ามีคนยืนอยู่ รีบเอ่ยขอโทษขอโพยคนที่ตนเองเปิดประตูชนเข้าอย่างจัง

    ทันที แผ่นหลังโค้งลงเล็กน้อยเป็นการขอโทษ

     

    ไม่เป็นไรหรอกครับพี่แจจุง

    เสียงทุ้มนุ่มๆของคนที่ร่างบางเปิดประตูชนเอ่ยขึ้นมาเรียกให้ใบหน้าที่กำลังก้มลงขอโทษอยู่นั้นเงยขึ้นมามองผู้พูดได้อย่างไม่ยาก

     

    รู้จักเค้าด้วยหรอ..?

     

     

    เอ่อ ... เรารู้จักกันด้วยหรอ? “

    แจจุงส่งยิ้มแห้งๆไปให้กับคนร่างสูงที่ยืนยิ้มหล่ออยู่ข้างหน้าตนเอง ใครกันว่ะ? ไม่เห็นจะคุ้นหน้าเลย ตัวก็สูง คุยด้วยแล้วเมื่อยคอชะมัด แต่หน้าตาเข้มๆแบบนี้  ไม่เห็นจะรู้จักเลย แล้วเค้าคนนี้เป็นใครกัน?

    พี่แจจุงก็นี่ผม ชางมินไง ชิมชางมินไงครับ จำผมไม่ได้จริงๆหรอเนี่ย

    หนุ่มร่างสูงตรงหน้าเอ่ยอย่างยิ้มๆกับอาการขี้หลงขี้ลืมของคนตรงหน้า

     

    ชิม ชางมิน.... อืม ชางมินนั่นเอง ว่าแต่ ….ใครกันว่ะ ชางมินเนี่ย? แจจุงงง

    แต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรคนตรงหน้ามากนัก เสียงหวานๆของมารดาตนก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

     

    อ้าว!! แจจุงกลับมาแล้วหรอลูก หนูจุนซูก็มาด้วย มานั่งในนี้ก่อนเร็วลูก

    ฮะแม่

    เสียงของแจจุงตอบรับมารดาตนเองก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โต๊ะที่ตัวเองใช้กินข้าวทุกวันตรงบริเวณหลังเคาเตอร์ที่ใช้คิดเงิน

    สวัสดีฮะคุณแม่ จุนซูน้อยมาฝากท้องด้วยคนนะฮะ

    เสียงแหลมๆของจุนซูเอ่ยทักทายผู้เป็นแม่ของแจจุงอย่างร่าเริง เรียกรอยยิ้มอ่อนหวานของคนถูกทักได้อย่างไม่ยาก...

    จ๊ะ... ชางมิน มานั่งนี่ซิจ๊ะ ป้าจะได้แนะนำให้รู้จักกับพี่ๆเค้าไว้หนะ

    เสียงของคนที่มีอายุมากที่สุดในที่นี้เอ่ยเรียกคนตัวสูงที่ยังคงยืนอยู่ที่เก่าให้มานั่งที่โต๊ะเดียวกัน

    หลังจากที่ชางมินนั่งลงที่เก้าอี้เรียบร้อยแล้วนั้น แม่ของแจจุงก็เริ่มพูดขึ้นมาทันทีด้วยรอยยิ้ม

     

    แจจุงแม่ว่าลูกจะต้องจำชางมินไม่ได้แน่ๆเลยใช่มั้ย เพราะแม่เองก็แทบจะจำไม่ได้เลยเหมือนกัน

    แจจุงมองหน้าของคนแม่สลับไปมากับใบหน้าของคนที่ชื่อชางมินก่อนจะพยักหน้าตอบ

    ฮะ ผมว่าผมไม่เห็นจะคุ้นหน้าเลย แต่ชื่อผมก็พอคุ้นๆอยู่นะ

    ลูกจำเด็กน้อยตัวเล็กๆ ลูกของน้าจินจูได้มั้ยจ๊ะ? “

    น้าจินจู อืม... อ๋อ คุณน้าที่เคยอยู่บ้านข้างๆเราแต่ก่อนนี่เอง แต่ก็ย้ายไปอยู่ที่เชจูตั้งนานแล้วนี่นา

    อ๋อ .. ฮะผมจำน้าจินจูได้

    แล้วเด็กตัวเล็กๆ ที่คอยวิ่งมาเล่นกับเราตอนเรายังอยู่ประถมอยู่หนะจำได้มั้ย

     

    ถึงตอนนี้คิม แจจุงก็ต้องมานางระลึกชาติกันเลยทีเดียว อืม...

    ตอนประถมงั้นหรอ .... .

     

     

    พี่แจจู๊งงงงงงงงงงงง!!!~ “

    เสียงเล็กๆของเด็กน้อยคนหนึ่งตะโกนเรียกพี่ชายหน้าสวยที่กำลังนั่งทำการบ้านให้หันมามองได้อย่างง่ายดาย

    มีอะไรล่ะเจ้าเตี้ย

    คนที่สูงกว่าเอ่ยแกล้งคนที่เตี้ยกว่าตนอย่างขำๆ

    ผมป่าวเตี้ยน๊า... ฮึ่ย!!~ พี่แจจูงงงงง ไปเล่นกันนะ ไปเล่นกัน

    ไม่ว่าเปล่า มือเล็กๆนั่นก็คว้ามือของพี่ชายไปกุมไว้ แล้วออกแรงดึงทันที

    อย่าเพิ่งซิ ให้พี่ทำการบ้านก่อน อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว

    อะหรอ ก็ได้ๆ รอก่อนก็ได้ แล้วเดี๋ยวพี่ต้องไปเล่นกับผมนะ

    แน่นอน เจ้าเตี้ยรอพี่ก่อนนะ

    คนที่สูงกว่าอดที่จะแกล้งคนที่เตี้ยกว่าเสียไม่ได้ ทันทีที่ได้ยินคำว่าเตี้ย คนที่อายุน้อยกว่าก็หน้างอทันทีก่อนจุเถียงกลับไป

     

    เค้าเปล่าเตี้ยน๊า....  แค่สูงช้าเฉยๆ!!~ “

     

     

    เจ้าเตี้ย

    แจจุงอดที่จะพึมพำกับตนเองอย่างเสียไม่ดาย แต่มันก็ดังพอที่จะให้ทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นได้ยิน

    ใช่แล้วจ๊ะ เจ้าเตี้ย

    แจจุงเลิกคิ้วขึ้นมามองแม่ของตนเองด้วยความสงสัย เอ๋!!? อย่าบอกนะว่า. ....

     

    ชางมิน เค้าก็คือเจ้าเตี้ยคนนั้นไง

    ห๊า.....!!!!~ “

    แจจุงอดที่จะตะโกนออกมาเสียงดังอย่างเสียไม่ได้ ไม่จริงมั้ง นี่หรอเจ้าเตี้ย เด็กที่เคยวิ่งเล่นกับเค้าตอนประถม จริงหรอเนี่ย!!~

     

     

    ตอนนี้ผมสูงแล้วนะพี่แจจุง ใครเตี้ยกว่ากันก็น่าจะรู้นะ

     

    ชางมินพูดกับพี่ที่เคยสนิทสมัยเด็กด้วยรอยยิ้มล้อๆ ร่างบางที่ถูกกล่าวถึงรีบหันมาค้อนตาเขียวใส่คนที่สูงกว่าตนทันที

     

     

    ฮึ่ย!!~ ชั้นไม่ได้เตี้ยสักหน่อย นายสูงเร็วเองต่างหาก

    คำพูดของแจจุงสามารถเรียกเสียงหัวเราะของคนได้ทั้งโต๊ะ เสียงพูดคุยถามนู่นถามนี่ยังคงดังอยู่ต่อเนื่องไปทั่วทั้งบริเวณเล็กๆหลังเคาเตอร์นั่นก่อนคนเป็นแม่จะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกบางสิ่งบางอย่างกับลูกของตน

     

    อ้อ!! จริงซิ แจจุง แม่ลืมบอกลูกไปเรื่องนึง

    อะไรหรอครับแม่? “

    แจจุงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เป็นการสงสัย

     

     

    ต่อไปนี้ชางมินเค้าจะมาอยู่กับเราด้วยนะลูก

    ห๊า...!!!!~ “

     

    ชางมินเค้าสอบเทียบได้ที่โรงเรียนแดยองหนะลูก น้าจินจูเค้าก็เลยมาฝากให้ชางมินมาอยู่ที่นี่กับเรา ชางมินก็จะมาช่วยแม่ดูแลร้านด้วย ลูกจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมากนัก

    คนเป็นแม่เอ่ยบอกถึงสาเหตุให้ลูกรักของตนฟัง ซึ่งแจจุงก็ไม่ได้ค้านอะไร  ออกจะชอบเสียด้วยซ้ำ

     

    อ๊า!!!~  มีคนมาช่วยอีกแรง จะได้มีเวลานอนและกินมากยิ่งขึ้น หึหึ สุขใจจริงๆ

    อ้อฮะ ว่าแต่จะให้ชางมินนอนไหนหละครับ

    แม่ไปจัดห้องเล็กของเราไว้ให้ชางมินนอนแล้วแหละจ๊ะ อาจจะเล็กไปหน่อยนะจ๊ะชางมิน

    ประโยคแรกเอ่ยขึ้นกับลูกของตนเอง ก่อนจะหันไปบอกกับสมาชิกใหม่ของบ้านหลังนี้

    ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ได้ คนที่อยู่ที่ไหนก็ได้ ชีวิตติดดินเอ่ยตอบกลับไปอย่างนอบน้อม พูดคุยกันอีกสักนิด ก่อนที่แม่ของแจจุงจะขอตัวไปดูแลร้านต่อ เพราะปล่อยให้เด็กในร้านดูร้านนานพอสมควรแล้ว

     

    แจจุงนั่งเท้าแขนมองหน้าคนตรงหน้าตาปริบๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง ก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อนรักของตนเองที่นั่งอยู่ข้างๆ

    ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหมอนี่เป็นเจ้าเตี้ยหนะ

    ก็ชางมินที่เค้ารู้จักอะนะ ตัวเล็กๆน่ารักน่ากอด  แต่ว่าคนตรงหน้านี้ เอ่อ ... สูงอย่างกับเสาไฟฟ้า  ชางมินที่เค้ารู้จักนั้นหน้าตาน่ารัก ตาใสๆ พอหันมามองหน้าคนตรงหน้า... เอิ่ม.. ไหนว่ะที่ว่าน่ารักอ่ะ หน้ากวนโอ๊ยสุดๆ ดูแล้วมันช่างไกลจากคำว่าน่ารักหลายหลุมเลยนะ และไหนว่ะที่ตาใสๆ  ดวงตาแบบนี้มันมองแบบหาเรื่องกันชัดๆ

     

     ฮื่อ...  เอาเด็กน้อยชิม ชางมินของชั้นกลับมาน๊า.....!!!~

     

    เมื่อได้ฟังคำพูดของแจจุง  จุนซูก็จำใจสละเวลากินขนมตรงหน้าหันมามองเพื่อนรักทันที เบิกตาเล็กๆใส่เพื่อนรักเป็นการสงสัย

    นี่นายคือชางมินจริงๆหรอเนี่ย แจจุงหันไปถามคนตรงหน้าทันทีด้วยความสงสัย

    ก็จริงซิ พี่แจจุงนี่ถามแปลกๆ ผมไม่เหมือนชางมินที่พี่รู้จักตรงไหน

    รอยยิ้มกวนๆถูกส่งมาให้คนถามทันทีพูดจบ

     

    ไม่ใช่แค่ไม่เหมือน!! แต่มันไม่ใช่ชางมินน้อยของชั้นเลยต่างหาก แกเป็นใครว่ะ!!!~ ตัวก็สูง หน้าตาก็หล่อ       ชางมินน้อยที่ชั้นรู้จักหน้าตาน่ารักจะตาย แถมไม่สูงแบบนี้ด้วย  ใครก็ได้บอกทีไอ้สูงนี่มันปลอมตัวมาเป็นชางมินน้อยของเค้าใช่มั้ย!!~ ‘

     

    พี่แจจุง

    เสียงเรียกตรงหน้าเรียกให้คนที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดให้เงยหน้าขึ้นมามองได้ทันที

     

    ต่อไปนี้พี่คือ... เจ้าเตี้ยแทนผมแล้วนะ

    ว๊ากกกกก!! ใครก็ได้เอาหมอนี่ไปเก็บที ฮึ่ย!!~

    .

    .

    .

    เค้ากลับแล้วนะแจจุง พรุ่งนี้เจอกัน บ๊าย บาย

    เสียงเอ่ยลาเพื่อนร่างบางที่ออกมาส่งอยู่หน้าบ้านดังขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินจากไป เพื่อกลับบ้านของตนเอง

    พอกินอิ่มก็กลับ อยากรู้นักที่บ้านไม่มีข้าวกินรึไงว่ะจุนซู!! คนร่างบางที่เพิ่งจะส่งเพื่อนเสร็จเดินกลับขึ้นมาที่ห้องของตนเองทันที  หยิบหนังสือออกมาอ่าน เพื่อทบทวนความรู้สักเล็กน้อย เห็นคิม แจจุงเปิ่นๆแบบนี้  เค้าก็เรียนเก่งเหมือนกันนะ ถึงจะไม่มากก็เถอะ อ่านไปได้สักพักเสียงโทรศัพท์มือถือของตนเองก็ดังขึ้นขัดสมาธิทันที

     

    เหอะๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องเป็นอิหมีหื่นแน่ๆเลย

    แจจุงพึมพำกับตนเองก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

     

    นั่นไง!!  ถ้าเป็นหวยนี่สงสัยเค้าคงรวยไปแล้ว

     

    ทันทีที่แจจุงกดรับสาย  เสียงหวานๆ ที่ฟังดูแล้วไม่ค่อยจะเข้ากับร่างหมีๆนั่นเสียเท่าไหร่นักก็ลอยออกมากระทบเข้ากับรูหูของเค้าทันที

    [ แจจุงครับ...!!!~ ผมโทรมาตามสัญญาแล้วน้า.. ]

    ใครเค้าจะไป...

    ยังไม่ทันที่ร่างบางจะพูดจบอีกฝ่ายก็รีบพูดสวนขึ้นมาทันที

    [ แหม๋ๆ ผมรู้นะ ว่ารอสายผมอยู่หนะ  ทีหลังถ้าอยากคุยกับผมก็โทรมาเลยซิครับ ]

    อะ เอ่อ.. ...

    [ ไม่ต้องพูดครับแจจุง ผมรู้ๆ นี่คุณคงจะบอกว่า จะเป็นการรบกวนผมใช่มั้ยล่ะ โอ๊ย... เรื่องนั้นไม่ต้องคิดเลยนะ เพราะถ้าเป็นแจจุงหนะ โทรมาเมื่อไหร่ก็ได้ ผมพร้อมรับเสมอ ... และถ้าแจจุงกลัวเปลืองเงินนะ งั้นยิงมาก็ได้ แล้วผมจะโทรกลับเองดีมั้ยครับ? ]

    ฝ่ายคนที่ต้องทนฟังคู่ปลายสายนั้นพล่ามอยู่นาน กำโทรศัพท์เครื่องเล็กของตนเองแน่น เพื่อเป็นการระงับอารมณ์ร้อนที่ค่อยๆปะทุขึ้นทีละนิดๆ

    [ นิ่งไปเลยนะครับ ดีใจที่ผมโทรมาหรอ? ]

    ดีใจบ้านนายซิ!! เลิกพล่ามอะไรไร้สาระสักทีเถอะ!! “

    คนสวยที่ต้องกัดฟันฟังอีกฝ่ายพล่ามมานาน ถึงกับฟิวส์ขาดทันที ฮึ่ย!!~ พูดมากจริงนะอิตาบ้า สงสารคนฟังบ้างเถอะ ชิชิ ใครเค้าจะหน้าหนาเหมือนนายกัน

    แล้วนี่โทรมามีอะไรคนเค้าจะอ่านหนังสือ ว่างมากนักหรอ

    [ ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะโทรมาก็ต้องโทรมาซิ วันนี้คิดถึงแจจุงจะตาย ไม่ได้เจอกันตั้ง 6 ชั่วโมงแล้วน๊า... ]

    อี๋!!!~  ฟังแล้วอยากอ้วกจริงๆ ... แหวะ

    ชั้นไม่เห็นจะคิดถึงนายเลย ออกจะสบายใจ  รู้สึกดีชะมัดที่ไม่มีนายมาคอยกวน

    [ โห่... พูดแบบนี้ผมก็น้อยใจเป็นนะครับ  งอนแจจุงแล้ว!!~]

    อิหมีนี่แกทำอะไรเนี่ย  ไม่ดูตัวเองสักนิด ตัวก็โต มาทำเป็นงอนเป็นเด็กๆ เหอะๆ

    เออดี งั้นแค่นี้นะ งอนแล้วหนิ บะ...

    ยังไม่ทันที่คนร่างบางจะได้พูดประโยคอำลา คนที่เพิ่งบอกว่า งอนเล้ว ก็รีบเอ่ยสวนกลับขึ้นมาเสียก่อน

    [ เฮ้ยๆ!! ผมเลิกงอนแล้ว อย่าเพิ่งวางซิครับ คุยกันก่อน น้าๆๆ .... ]

    อ้าว เลิกงอนแล้วหรอ ทำไมไม่งอนชั้นไปนานๆเลยล่ะ จะได้ไม่ต้องมาเจอกันอีก

    แจจุงพูดด้วยน้ำเสียงที่อีกฝ่ายก็ต้องฟังออกอย่างแน่นอนว่านี่คือการพูดแบบประชดประชัน

    [ ไม่เอาหรอก แค่ไม่ได้เจอแจจุง 6 ชั่วโมงยังคิดถึงขนาดนี้เลย และนี่ถ้าไม่ต้องเจอกันเลยนี่ พี่ยุนโฮไม่คิดถึงน้องแจจุงจนใจจะขาดตายเลยหรอครับ ]

    ประโยคหลังที่เปลี่ยนสรรพนามในการเรียกใช้แทนตัวเองและผู้ที่กำลังคุยอยู่ด้วยนั้น ทำให้คนฟังแทบอยากจะตีลังกาแล้วกลิ้งๆหนีไปอ้วกในห้องน้ำทันที

    แจจุงรู้สึกเหมือนว่าตอนนี้ทั้งหน้า และ ตัวของเค้านั้นจะรู้สึกร้อนๆไปทั่วทั้งตัวแล้ว โดยเฉพาะบริเวณแก้มของตนเองนั้น มันรู้สึกว่าร้อนผ่าวๆขึ้นมาอย่างกะทันหัน

    แหวะ นะ... นายพูดจาได้น่าชวนอ้วกมากๆเลยรู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ย

    ร่างบางพูดไปก็แอบบิดผ้าห่มที่ไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในมือของตนเองไป

    [ ก็พูดออกมาจากใจจริงหนิ แจจุงมาเปิดอก แล้วถอดเสื้อผ้าคุยกับพี่ยุนโฮดูเลยก็ได้น้า... ว่าจริงมั้ย ]

    ยังไงเสียคนลามกก็ยังคงจะเป็นคนลามกอยู่วันยังค่ำ เหอะๆ

    อะ... ไอ้บ้า!!~ ไปถอดเสื้อผ้าคุยคนเดียวเถอะ

    [ แหม๋ๆ ถอดคนเดียวมันจะสนุกอะไรล่ะครับ เราต้องมาถอดด้วยกันซิ ฮะ ฮะ ฮ่า ]

    เสียงพูดคุยโทรศัพท์ของร่างบางก็ยังคงดังต่อเนื่องไปเรื่อยๆ  เสียงใสๆที่พูดเจี้ยวจ้าวไปเรื่อยๆ   ปะปนไปกับคำด่าทอคู่กรณีที่คุยด้วยอยู่นั้นดำเนินไปเรื่อยๆจนนี่เวลาก็ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว  ร่างบางรู้สึกว่าตนเองเริ่มจะง่วงแล้ว ขืนถ่างตาคุยอีกสักพักคงได้หลับคาโทรศัพท์เป็นแน่แท้ รีบเอ่ยบอกคำลากลับคู่ปลายสายทันที

    นี่... นาย ชั้นง่วงแล้วอ่ะ แค่นี้ละกันนะ

    [ โอ๊ะ!! แจจุงง่วงแล้วหรอ อ่า... นี่ก็ดึกมากแล้วนี่นา เราคุยกันเพลินเลยแหะ ]

    คุยบ้าอะไร ชั้นนั่งด่านายชัดๆ แค่นี้นะๆ จะนอนแล้ว ง่วง.....

    [ อ่ะครับ ... นี่แจจุง ]

    หืม... มีอะไรอีกล่ะ รีบๆพูดจะวางแล้ว

    [ ฟังดีๆนะ ... ที่รักของยุนโฮ ฝันดีนะครับ จุ๊ฟๆ อย่าลืมนะ เรามีนัดกันหนะ ... ]

    นัดบ้าอะไรของนาย!!!~ “

    [ เดี๋ยวแจจุงก็รู้เองแหละ พอแจจุงหลับปุ๊บ .... ผมกับแจจุงก็จะไปเจอกันในฝันมันที  ]

    เห่ย... งั้นชั้นคงจะฝันร้าย

    [ อะไรกัน ที่รักไปนอนเร็ว ฝันดีครับๆ จุ๊ฟๆ ]

     

    ปิ๊บ!!~

     

    หลังจากที่อีกฝ่ายวางสายไป แจจุงก็ล้มตัวลงนอนทันที ตอนนี้เค้าง่วงสุดๆแล้ว  นี่เค้าไม่ได้อยากคุยกับยุนโฮเลยจริงๆนะ จริง จริ๊ง!!!~ ก็แค่คุยแล้วเพลิน ลืมเวลาเอง แหะๆ

    คนร่างบางนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยสักพักหนึ่งก่อนจะเริ่มต้านทานความง่วงของตนเองเอาไว้ไม่ไหว เปลือกตาค่อยๆปิดกั้นดวงตากลมโตไว้อย่างเชื่องช้า ก่อนสติจะค่อยๆเลือนหายไปทีละนิด ทีละนิด  ก่อนที่สติจะถูกห้วงแห่งนิทราครอบงำ เสียงกระซิบที่ฟังดูจะเอือยๆสักเล็กน้อยก็หลุดออมาจากกลีบปากบาง

    .

    .

    .

     

    แล้วเจอกันในฝันนะเจ้าหมี.... !!~ ‘

     

     

    * … + … + …+ …+ …+ …+… + … + …+ … + …+ …+ …+ …+… + … + …+ …+ …+ …+… + … *

     

     

    ลั่ล ลั่ล  ล้า ล๊า ลา ลา . . ..

    เสียงใสๆ ของคนร่างเล็กที่ฮัมเพลงอยู่นั้น ทำให้บริเวณที่คนร่างเล็กนั้นเดินผ่านสดใสขึ้นมาทันตาเห็น แต่ด้วยความที่มัวแต่ฮัมเพลงไปเบาๆ จนลืมดูทางนั้น จึงทำให้ใบหน้ากลมๆของคนร่างบางจมหายไปซุกดมกลิ่นกายของใครบางคนเข้าอย่างจัง

     

    โอ๊ะ!!~ อูย..... เจ็บชะมัดเลยอ่า.....

     

    คนตัวเล็กที่ถอยออกมาจากอกอุ่นๆของคนที่ตนเดินชนแล้วนั้น ยกมือเล็กๆของตนเองขึ้นมาถูจมูกป้อยๆ

    อ้าว!? จุนซูเองหรอเนี่ย พี่ก็นึกว่าใคร

    เอ๋? … เสียงหล่อๆแบบนี้ คุ้นจังเลยแหะ หืม.. หรือว่าจะเป็น. … ..

    พะ .. พี่.. พี่ยูชอน!! “

    เป็นอะไรไปเรา ก็พี่เองล่ะซิ อารมณ์ดีมาจากไหนเนี่ย ถึงเดินไม่ดูทางเลย

    คนตัวโตเอ่ยแซวร่างเล็กด้วยรอยยิ้มนิดๆ แต่ถึงจะนิดมันก็ทำให้เลือดในกายของจุนซูนั้นวิ่งพล่านได้อย่างทันที

    แหะๆ นิดหน่อยฮะ

    จะให้เค้าบอกไปได้ไงเล่า... ว่าหลังจากที่ได้จูบทางอ้อมกับพี่ยูชอนแล้ว พอกลับถึงบ้านเค้าก็รีบไปหาข้อมูลการจูบแบบ Deep Kiss มาเลยนะซิ เคยได้ยินสาวๆที่เคยคบกับพี่ยูชอนพูดกันว่า  โอ้ว!!~ ยูชอนนะหนะ จูบเก่งสุดๆไปเลยหละ แค่นั้นแหละ สปิริตอันแรงกล้าก็ถูกส่งมาให้จุนซูคนนี้ทันที ไม่ได้หรอก ถ้าได้จูบกับพี่ยูชอนแล้ว เราจะต้องทำให้พี่เค้าประทับใจสุดๆไปเลย ... แหะๆ เมื่อคืนก็เลยนั่งดูคลิปสอนวิธีการจูบมันทั้งคืนเลยเนี่ยแหละ ทั้งหมดที่ทำลงไปเนี่ย เพื่อพี่ยูชอนเลยน้า...

     

    พี่ยูชอนฮะ ผมพร้อมจูบ และ ดูดปาก จ๊วบๆ กับพี่แล้วนะฮะ!!!~

     

    เอ่อ น้องจุนซูมองหน้าพี่แบบนั้นทำไมครับ?

    คนร่างสูงที่เห็นอีกฝ่ายมองตนเองด้วยสายตาระยิบระยับ ดวงตาเรียวเล็กนั้นดูมีประกายบางอย่างเคลือบอยู่ เอ่ยถามขึ้นทันทีที่เห็นคนตรงหน้าเอาแต่มองตนเองด้วยสายตาแบบนั้น

    อะ ..เอ่อ ปะ เปล่าครับ

    อืม.... นี่เรากำลังจะขึ้นห้องเรียนใช่มั้ย งั้นเดินไปพร้อมพี่เลยละกัน 

    อะครับ

     

     

    ฮู่เล่ๆๆ  ถึงตอนนี้เราจะยังไม่ได้จูบกัน แต่พี่ยูชอนครับ!!~ ผมว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องได้จูบปากกันแน่นอนเลย!!~

     

    .

    .

    .

    คนตัวเล็กเดินมานั่งที่ของตนเองด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปสะกิดเพื่อนรักของตนที่กำลังนอนฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะทันที่ที่ก้นถึงเก้าอี้

     

    แจจุงนายหลับรึป่าวอ่ะ? “

    นิ้วเล็กๆ สะกิดลงบนไหล่ของคนที่กำลังฟุบอยู่กับโต๊ะไปด้วยขณะเรียก

     

    คนที่ถูกรบกวนการนอนขยับตัวไปมาสักเล็กน้อยก่อนที่ใบหน้าของตนเองนั้นจะค่อยๆเผยออกมาทีละนิด แล้วจึงหันไปหาคนที่มาสะกิดเรียกตนเองทันที

     

     

    ทันทีที่จุนซูเห็นหน้าตาของเพื่อนตนเองชัดๆ ริมฝีปากแดงๆนั่นก็ถึงกับอ้าขึ้นด้วยความตกใจทันที

     

    จะ ... แจ.. .แจจุง ทำไมหน้านายถึงเป็นหมีแพนด้าแบบนี้ล่ะ!!~ “

     

    คนตัวเล็กพูดออกมาด้วยอาการตกใจอย่างสุดขีด จะไม่ให้เค้าตกใจได้ยังไงกัน ก็ตอนนี้ใบหน้าที่เคยสวยสดใส กลับถูกความง่วงงุนเข้าครอบงำเสียแล้ว แถมขอบใต้ตาที่ดูดำคล้ำเป็นวงๆนั่นอีกล่ะ นี่เพื่อนเค้าไปอดหลับอดนอนมาจากที่ไหนกันนี่....!!~

     

    .

    .

    .

    คนร่างบางที่ถูกหาว่าเป็นหมีแพนด้า ยกยิ้มขึ้นมาแบบฝืดๆ ก่อนจะเอ่ยปากตอบเพื่อนรัก

     

     

    เหอะๆ บังเอิญเมื่อคืนนี้.... ชั้นวิ่งหนีหมีหื่นเพลินไปหน่อยหนะ

     

     

     

     

    TBC…. ^ ^

     

    * … + … + …+ …+ …+ …+… + … + …+ … + …+ …+ …+ …+… + … + …+ …+ …+ …+… + … *

     

     

    Talk ::

     

    อิอิ

     

    สวัสดีค่ะ มุกกลับมาแล้วน๊า.... 5555  มาอัพฟิคให้คลายเครียดกัน สำหรับบางคนที่นั่งจิ้มบัตรกันอย่างสนุกสนานกันเลยทีเดียว .....

     

    อ่า... ตอนนี้ใครที่รอคอยชางมิน ก็คงจะได้สมใจกันเล็กๆน้อยๆ และนะค่ะ ^ ^

    ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง อ่านไปแล้วไม่ชอบก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ = =

    เราแต่งเองยังมึนเองเลย  ขอโทษจริงๆนะค่ะ ^ ^

     

    อ่า.... มุกขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และ ก็เม้นให้กำลังใจอยู่ตลอดเลยนะค่ะ  ดีใจจนซึ้งเลยนะเนี่ย

    T------------------------T*

    ทุกๆเม้นมีความหมายกับมุกมากเลยน๊า.....ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เข้ามาอ่านและบอกว่าชอบเรื่องนี้ อิอิ

     

    อ่า.... จะเปิดเทอมแล้ว  แต่ยังไงมุกก็จะต้องมาอัพให้คนอ่านได้อ่านบ่อยๆเหมือนเดิม 5555

    อย่าห่วงไปเลยค่ะ 

     

    เจอกันตอนหน้านะค่ะ   
    ขอให้สนุกกับการอ่านฟิคไร้สาระเรื่องนี้ต่อไปค่ะ อ่านไปเรื่อยๆ เดี๋ยวสาระมันก็จะมา... จริงหรือ?

     

    รักคนอ่าน&และคนเม้นนะค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×