คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ,,, Part 5 ,,, เธอทำให้ฉันหลงเสน่ห์
Type : Long fiction
Author : *..MooKiiE..*
Category : Comedy / Romance
Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
Note : เรื่องนี้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้ต้องการให้บุคคลที่อยู่ในฟิคเรื่องนี้เสียหายแต่อย่างใด เนื้อหาก็จะเกี่ยวกับ Boy’s loveนะค่ะ ถ้าใครไม่ชอบก็กรุณากดปิดลงไปเลยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ ^ ^
*******************************************************
อ่านกันให้สนุกนะค่ะ ><
Part 5
หลังเรียนวิชาการสื่อสารจบแจจุงและยูชอนก็พากันเดินออกมาจากห้องเรียนด้วยกัน เป็นอันว่าวันนี้พวกเขาทั้งสองคนเป็นอันสิ้นสุดการเรียนเพียงเท่านี้ แจจุงหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมากดดูว่ามีใครโทรเข้ามาหรือส่งข้อความมาหาตอนที่เขากำลังเรียนอยู่หรือป่าว ไม่ใช่ว่าเขาตั้งใจเรียนจนไม่รู้ว่ามีใครโทรเข้ามาบ้างหรือเปล่าหรอกนะ แต่เขาหลับเพลิน หลับลึกจนไม่รู้สึกตัวเลยต่างหาก ดีนะที่ไอ้ยูชอนมันปลุกตอนที่อาจารย์บอกเลิกคลาสแล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้นอนอยู่ในห้องนั้นคนเดียวจนแม่บ้านเดินเข้ามาไล่นั่นแหละ ก็มัวแต่นอนคิดเรื่องของยุนโฮจนนอนดึกเกือบทุกวันนี่นา... จะไม่ให้ง่วงได้ยังไงกันเล่า!!
“เอ๊ะ? มีคนส่งข้อความมาด้วย”
แจจุงพูดออกมาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่คนสวยจะกดเข้าไปดูข้อความนั้นว่าใครเป็นคนส่งเข้ามา
“ข้อความเตือนให้ไปจ่ายค่าโทรศัพท์แค่นี้ทำเป็นตื่นเต้นไปได้”
ยูชอนที่เดินอยู่ข้างๆ พูดกวนเพื่อนคนตัวเล็กเล่นด้วยน้ำเสียงทะเล้น
คนสวยตวัดสายตามองไอ้เพื่อนตัวแสบอย่างเคืองๆ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้วีนใส่ยูชอนสิ่งที่กำลังปรากฏอยู่ตรงหน้าก็ทำให้เขารู้สึกดีใจจนลืมเรื่องของยูชอนไปอย่างทันที
แจจุงยื่นโทรศัพท์มือถือที่กำลังแสดงข้อความให้ไปจ่อที่หน้าของยูชอนก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เหนือกว่า
“ขอโทษนะปาร์ค แต่พอดีว่าที่แฟนของฉันเขาส่งข้อความมาว่ะ”
“ทำเป็นตื่นเต้น มันก็แค่ข้อความ อีกอย่างเขายังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับแกเลยนะ ขี้ตู่จริงๆ”
“แล้วไงล่ะ นี่เห็นมั้ยๆ ยุนโฮเขาส่งมาชวนฉันให้กลับบ้านด้วยกันเลยนะ!”
แจจุงอมยิ้มกับข้อความที่ร่างสูงส่งมาให้
แจจุงครับ... เดี๋ยววันนี้เรากลับบ้านพร้อมกันนะ
ผมเลิกเรียนตอนสี่โมง ถ้าแจจุงเลิกเรียนก่อน แจจุงก็นั่งรอผมที่หน้าตึกได้เลย แล้วผมจะรีบไปหา
From : ...ยุนโฮ...
คนสวยพิมพ์ข้อความตอบกลับยุนโฮไปอย่างว่องไว พิมพ์ไปก็ยิ้มไป
“ก็บ้านแกอยู่ข้างๆ บ้านเขาหนิ”
“เขาชวนฉันกลับบ้านด้วยก็เพราะว่าเขาก็เริ่มชอบฉันแล้วต่างหาก”
“โว๊ะ! ว่าแต่ฉันหลงตัวเอง นายก็หลงตัวเองไม่แพ้ฉันหรอก ยัยก้นแฟ้บเอ้ย!”
“เออ ฉันไม่ได้ก้นบวมแบบยัยกลมนั่นหนิ ชิ๊! จะไปไหนก็ไปเลย ฉันจะนั่งรอยุนโฮอยู่ตรงนี้!!”
แจจุงทรุดตัวลงนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนตัวเดิมที่กลุ่มของพวกเขามักจะมานั่งกันอยู่ทุกๆ วัน
“เออ... วันนี้ฉันไปหาคุณนิติฯที่คณะดีกว่า ไหนๆ ไอ้ชางมินมันก็ชิ่งหนีกลับบ้านไปแล้ว”
วันนี้ชางมินมีเรียนวิชาเดียว และก็เลิกก่อนพวกเขาทั้งสองคนด้วย วันนี้มันก็เลยหนีกลับไปนอนพักเอาแรงก่อนคนอื่นๆ แล้ว
“งั้นก็รีบๆ ไปเลย”
“งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะจ๊ะ อ่ะๆ เกือบลืม นั่งเฉยๆ นะคุณแจจุง ไม่ต้องร้องหาผัว เพราะเดี๋ยวอีกสักพักผัวก็มาจะมาแล้ว เข้าใจป่าวน้องชะนีฝึกหัด~”
“ไอปาร์คบ้า!!”
แจจุงตะโกนด่ายูชอนที่เดินจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะที่สามารถแกล้งเขาได้ด้วยใบหน้ายุ่งๆ ก่อนที่คนสวยจะหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมากดเล่นเพื่อเป็นการฆ่าเวลาในระหว่างที่กำลังรอยุนโฮที่กำลังเรียนหนังสืออยู่
‘อ่า... นั่งรอยุนโฮเพื่อที่จะกลับบ้านพร้อมกันแบบนี้.... เหมือนคนเป็นแฟนกันเลยเนอะ’
แจจุงนั่งยิ้มหวานให้กับความคิดของตนเองอยู่เงียบๆ
.
.
.
“ขอโทษนะครับ รู้จักคิมจุนซูที่อยู่ปีหนึ่งหรือเปล่า?”
ยูชอนเอ่ยปากถามกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินผ่านมา เธอทำท่าคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะส่ายหัวและปฏิเสธออกมา
“ไม่รู้จักค่ะ”
“อ่า... ไม่เป็นไร ขอบคุณมากครับ”
ยูชอนกล่าวขอบคุณกับเธอก่อนที่จะเดินจากมาเพื่อที่จะเดินหาคนตัวเล็กต่อ
“หรือว่าจะกลับบ้านไปแล้วว่ะ”
ยูชอนบ่นออกมาเบาๆ ดูท่าจุนซูจะไม่ค่อยป็อปเท่าไหร่แหะ เดินถามมาตั้งหลายคนแล้วแต่ก็ไม่ยักจะเจอใครที่รู้จักคุณนิติฯของเขาเลยสักราย คนพวกนี้นี่ช่างตาถั่วเสียจริงๆ มองข้ามคนหุ่นเอ็กซ์ๆ แบบนั้นไปได้ยังไงกัน แต่ก็ดีแล้วล่ะ จะได้ไม่มีใครเข้ามาแย่งจีบคุณนิติฯกับเขา เขาจะได้สอยยัยกลมมาได้ง่ายๆ หน่อย
“สงสัยจะกลับบ้านไปแล้วจริงๆ”
ยูชอนถอนหายใจออกมา
“งั้นกูก็กลับบ้านบ้างดีกว่า”
ยูชอนเดินทำหน้าเซ็งออกจากตึกคณะนิติศาสตร์ ร่างสูงเดินสะพายกระเป๋าไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน เดินดูนู่นดูนี่ไปเรื่อยเปื่อย มีบ้างที่จะหันมาฉีกยิ้มหวานๆ ให้กับสาวๆ ที่เอ่ยทักทายเขา อ่า... การเดินกลับบ้านคนเดียวแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการเช็คเรทติ้งของปาร์คยูชอนเหมือนกันนะ และที่ดูจากที่มีสาวๆ เข้ามาทักและหันมายิ้มให้ตลอดทางที่เดินผ่าน ปาร์คยูชอนก็สรุปผลได้เลยว่าตนเองยังคงฮอตในหมู่สาวแท้และสาวเทียมอยู่
และในตอนที่เขากำลังจะเดินผ่านสนามฟุตบอลไป เขาก็ได้ยินบทสนทนาของใครบางคนที่เดินอยู่ทางด้านหลังของเขาเสียก่อน ยูชอนจะไม่รู้สึกสนใจเลย ถ้าในบทสนทนาของคนทั้งสองคนนั้นไม่ได้มีชื่อของใครบางคนที่เขาอยากจะพบตัวรวมอยู่ด้วย
“จุนซูนะ จุนซู บอกว่าไม่ให้ไปเตะบอลก็ยังจะไปเตะอีก”
“นั่นซิ กีฬาที่ใช้ความรุนแรงแบบนั้น เล่นไปก็มีแต่เจ็บตัวเปล่าๆ”
ยูชอนยกยิ้ม เขาหันหน้าไปมองทางสนามฟุตบอลที่กำลังมีเหล่านักศึกษาชายเตะบอลกันอย่างสนุกสนานอยู่ที่แห่งนั่น และเขาก็ได้เห็นร่างเล็กๆ ของใครบางคนกำลังวิ่งไปก็ฉีกยิ้มไปอยู่ที่กลางสนาม ร่างสูงไม่รอช้า รีบสาวเท้าเดินไปที่ริมสนามฟุตบอลอย่างทันที
แต่ก่อนที่จะเดินไปถึงสนามฟุตบอล ยูชอนก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อน้ำเกลือแร่จากร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสนามฟุตบอลไปไว้ด้วย
ยูชอนเดินถือถุงร้านสะดวกซื้อที่ภายในเต็มไปด้วยขนมและขวดน้ำไปที่ริมสนามฟุตบอล เขาเลือกนั่งที่แสตนเชียร์ชั้นบนสุดเพื่อที่จะได้ไม่มีอะไรมาบดบังภาพของคนตัวเล็กที่กำลังวิ่งเตะลูกบอลอยู่ในสยามอย่างสนุกสนานนั่น
เนื่องจากสนามฟุตบอลก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรมากนัก ดังนั้นจากมุมที่เขานั่งอยู่เขาก็สามารถมองเห็นคนตัวเล็กได้อย่างชัดเจน
ฝ่ามือหนาหยิบขวดน้ำออกมาจากถุงพร้อมกับขนมอีกหนึ่งห่อ เขาจัดการแกะมันออกก่อนที่จะหยิบขนมขบเคี้ยวเข้าปากไปในขณะที่สายตาก็ยังคงจ้องมองคนตัวเล็กไปด้วย
จุนซูที่อยู่ในชุดนักศึกษา เสื้อเชิ้ตตัวสีขาวนั่นมันเปียกเหงื่อจนแนบไปกับผิวกายของคนตัวเล็ก ตอนนี้สภาพของคุณนิติฯสุดเนี้ยบนั้นเหมือนกับคนที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จอย่างไงอย่างงั้น
ยูชอนก็นั่งดูจุนซูไป หยิบขนมเข้าปากไป ส่วนคนที่อยู่ในสนามก็เตะบอลอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย จริงจังเสียอย่างกับเป็นการแข่งขันระดับประเทศ
“ฮยอนจุงส่งมาลูกมาทางนี้!!”
จุนซูตะโกนบอกเพื่อนร่วมทีมให้เตะลูกบอลมาหาตนเอง และทันทีที่ลูกบอลมาอยู่ตรงหน้าของจุนซู จุนซูก็ไม่รอช้าที่จะรีบเตะมันออกไปข้างหน้าเพื่อที่จะได้เตะมันเข้าประตูไปเสียที
ด้วยทักษะที่มีอยู่มากมายบวกกับประสบการณ์ที่สะสมมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่จุนซูจะสามารถเตะฟุตบอลลูกนี้เข้าโกลไปได้อย่างสวยงาม
และทันทีที่ลูกฟุตบอลที่เตะโดยจุนซูนั้นกลิ้งเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามไป เสียงเหของทีมคนตัวเล็กก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความดีใจ ตอนนี้ทีมของจุนซูกำลังนำอยู่ 3 ต่อ 2 และอีกไม่นานก็จะหมดเวลาแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดทีมของจุนซูก็คงจะเป็นฝ่ายชนะ
คนตัวเล็กวิ่งเข้าไปกระโดดกอดกับเพื่อนที่อยู่ทีมเดียวกัน ก่อนที่จะผละตัวออกมาเพื่อเตรียมตัวเล่นบอลกันต่อ
“ฝีมือไม่ธรรมดาเลยแหะ”
ยูชอนที่นั่งมองทุกการกระทำของคนตัวเล็กพูดออกมาเบาๆ สงสัยเล่นบอลเก่งก็เลยชอบคิดว่าตนเองแมนแหงๆ ไม่ได้ดูรูปร่างกับหน้าตาเลยนะยัยกลมเอ๋ย~
ผิดกับยูชอนที่หน้าตาโคตรแมนคนนี้ แต่กลับไม่เอาอ่าวเรื่องกีฬาเลยสักอย่าง ไม่ใช่ซิ เขามั่นใจว่าเขาเล่นได้ แต่เขาเลือกที่จะไม่เล่นมันเองต่างหาก แบบว่าเขาไม่ค่อยชอบใช้ความรุนแรงในสนามฟุตบอล หรือสนามบาสอะไรพวกนี้สักเท่าไหร่ เพราะคนอย่างปาร์คยูชอนชอบใช้ความรุนแรงบนเตียงนอนมากกว่าที่จะมาใช้ความรุนแรงในที่สาธารณะพวกนี้
เวลาผ่านไปประมาณสิบนาที ในสนามฟุตบอลก็ต้องส่งเสียงเหขึ้นมาอีกรอบเมื่อทีมของจุนซูสามารถทำคะแนนได้ และคนที่เป็นคนเตะลูกบอลเข้าโกลไปนั้นก็คือคิมจุนซู คุณนิติฯสุดเนี๊ยบของยูชอนนั่นเอง
“โว๊ะ! ฝีเท้าน่ากลัวจริงเชียว”
และแล้วเสียงนกหวีดหมดเวลาก็ดังขึ้นมา เป็นอันว่าการแข่งขันนี้ก็ได้จบลงแล้ว โดยที่ทีมของจุนซูเป็นฝ่ายชนะ ด้วยคะแนน 4 ต่อ 2 และสองในสี่คะแนนนั้นก็เป็นฝีมือของคิมจุนซูล้วนๆ
ยูชอนที่เห็นว่าคนตัวเล็กเดินยิ้มเข้าไปกอดกับเพื่อนๆ ที่ร่วมเตะบอลด้วยกันอยู่ก็ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเดินลงมาจากแสตนเชียร์แล้วมุ่งหน้าเข้าไปหาจุนซูที่ยืนพูดคุยและหัวเราะเสียงดังกับเพื่อนๆ อยู่กลางสนาม เขายืนรอให้จุนซูบอกลาเพื่อนๆ และผละตัวออกมาจากกลุ่มเสียก่อน ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาคนตัวเล็ก
แปะ แปะ แปะ!
ยูชอนปรบมือให้กับจุนซู ก่อนที่จะรีบฉีกยิ้มเมื่อจุนซูเงยหน้าขึ้นมามอง
“เล่นเก่งไม่เบาเลยหนิ”
จุนซูทำหน้าเซ็งทันทีที่เห็นว่าใครกันที่บังอาจมายืนขวางทางเขา
“ไม่มีอะไรทำหรือไง”
“ไม่มี แต่ถึงมีก็ยังไม่ทำ เอาเวลามาจีบนายก่อนดีกว่า”
ยูชอนเดินตามจุนซูที่กำลังเดินไปหยิบกระเป๋าของตนเองที่วางเอาไว้ที่โต๊ะข้างสนาม
“นายนี่ท่าทางจะพูดไม่รู้เรื่องนะ ก็บอกแล้วไงว่าฉันแมน แมนมากๆ ดูจากฝีมือการเตะบอลแล้วนายก็น่าจะรู้นะ”
จุนซูหยิบกระเป๋าขึ้นพาดบ่า เขาใช้ฝ่ามือปาดหยาดเหงื่อที่อยู่ตามไรผมของตนเองออกอย่างลวกๆ การกระทำแมนๆ ที่แสนจะขัดกับหน้าตาน่ารักๆ
“ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย ถึงนายจะเตะบอลเก่ง ก็ไม่ได้แปลว่านายจะแมนสักหน่อย”
“งั้นนายลองมาแข่งกับฉันดูสักเกมส์มั้ยล่ะ!”
“ไม่อ่ะ ฉันไม่ชอบเล่นกีฬา”
ยูชอนตอบออกมาอย่างทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดให้ยุ่งยาก
จุนซูมองร่างสูงด้วยสายตาที่เหนือชั้นกว่า
“โหว! ไม่แมนเลยว่ะ”
ยูชอนยกยิ้ม
“ไม่ชอบ ใช่ว่าจะเล่นไม่เป็นนะคุณนิติฯ”
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงซะตอนนี้ฉันก็คิดว่าฉันแมนกว่านาย ดังนั้นนายควรจะเลิกตื้อฉันได้แล้ว!”
“นายคงจะไม่รู้นะ ว่าหน้าตาของนายน่ะมันไม่ได้บ่งบอกเลยว่านายน่ะแมน”
“หน้าฉันแมนจะตาย!”
จุนซูทำหน้าตาจริงจัง แต่มันเป็นการจริงจังที่น่ารักมาก
“สงสัยคุณจะยังไม่รู้... หน้าตาผมนะแมนกว่าคุณเยอะ อย่างคุณนะ... เขาเรียกว่าน่ารัก”
เอาอีกแล้ว โดนชมว่าน่ารักอีกแล้ว และจุนซูคนแมนก็ใจเต้นเพราะคำว่าน่ารักของอีกฝ่ายอีกแล้ว ทำไมถึงเป็นแบบนี้กันนะ จุนซูทำหน้ายุ่ง เขาเตรียมจะอ้าปากเถียงกลับไปแต่ก็โดนคนร่างสูงเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่ต้องเถียงเลย หลักฐานมันปะอยู่บนหน้าแท้ๆ ดูซิเหงื่ออกเต็มเลย”
ว่าแล้วยูชอนหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนเองออกมา อ่า... ถึงเขาอาจจะดูซกมก แต่จริงๆ แล้วปาร์คยูชอนรักสะอาดนะจะบอกให้ และถึงจะทำตัวติดดิน แต่ปาร์คยูชอนคนนี้ก็เป็นคุณชายนะครับ~
ยูชอนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดไปที่ไรผมของคนตัวเล็กที่กำลังยืนนิ่งทำหน้าเหวอๆ มองเขาอยู่ เขายกยิ้มที่มุมปาก และเมื่อเห็นว่าหยาดเหงื่อของคนตัวเล็กถูกเช็ดออกจนหมดแล้ว เขาก็จัดการหยิบขวดน้ำแร่ที่ตนเองซื้อเอาไว้ให้จุนซูออกมาจากถุง
“อ่ะ! กินซะซิ”
ยูชอนส่งขวดน้ำที่ตนเองเปิดเอาไว้ให้แล้ว ให้กับคนตัวเล็ก
จุนซูที่ยังคงมึนงงกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้อยู่ได้แต่รับขวดน้ำนั้นมาดื่มตาปริบๆ เอาอีกแล้ว ความรู้สึกแปลกๆ มันกำลังเกิดขึ้นอีกแล้ว ในตอนที่ยูชอนกำลังเช็ดเหงื่อให้เขา จุนซูไม่อยากยอมรับเลยว่าเขาใจเต้นแรงมาก มากจนคิดว่ามันอาจจะระเบิดออกมาได้
“คิดว่านายคงจะเหนื่อยฉันก็เลยซื้อเอาไว้ ว่าแต่หิวอะไรหรือเปล่า ฉันซื้อแซนวิชมาด้วย จะกินมั้ย?”
“อะเอ่อ... ไม่เป็นไร พอดีฉันยังไม่หิว”
จุนซูตอบออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เขาส่งขวดน้ำคืนคนตัวสูง
“ฉันจะกลับบ้านแล้ว!”
“งั้นก็เดินออกไปพร้อมกันเลยซิ”
จุนซูทำหน้ายุ่ง แต่เขาก็ไม่พูดอะไรออกมา คนตัวเล็กเดินสะพายกระเป๋าไปอย่างเรื่อยๆ โดยที่ข้างๆ กายก็มีคนตัวสูงเดินขนาบข้างไปด้วย ตลอดทางที่คนทั้งคู่เดินผ่านก็มีแต่คนจับตามองดูคนทั้งคู่อยู่ตลอด โดยปกติแล้วจุนซูก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักของใครมากมายนัก แต่คาดว่าหลังจากวันนี้จุนซูคงจะกลายเป็นที่รู้จักของใครหลายๆ คนขึ้นมาได้เลยทีเดียว
ทั้งสองคนเดินมาหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย ที่บริเวณนั้นมีเหล่านักศึกษายืนรอรถเมล์กันอยู่มากมาย
“กลับบ้านไปได้แล้ว”
จุนซูเอ่ยปากไล่คนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ตนเอง
“เดี๋ยวส่งนายขึ้นรถเมล์ก่อน แล้วเดี๋ยวฉันค่อยกลับ”
“รถเมล์ของฉันมานั่นแล้วเห็นมั้ย?”
จุนซูชี้ให้ยูชอนดูว่ารถเมล์ที่เขาจะขึ้นกำลังขับตรงมาจอดอยู่ที่ป้ายรถเมล์
“ต้องส่งนายขึ้นรถก่อนซิ เดี๋ยวนายตกรถฉันจะได้เข้าไปช่วยทัน”
ยูชอนพูดด้วยรอยยิ้ม แต่คนฟังกลับทำหน้ายุ่ง
รถเมล์คันนั้นขับมาจอดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ คนตัวเล็กกำลังจะเดินไปขึ้นรถ แต่ก็ตัดสินใจหันกลับมาเสียก่อน ดวงตาเรียวมองใบหน้าคมของยูชอนก่อนที่จะตัดสินใจพูดบางอย่างออกไป
“ขอบใจที่ซื้อน้ำมาให้นะ กลับบ้านดีๆ ล่ะ”
“ครับผม!”
ยูชอนยิ้มกว้าง
จุนซูหันหน้ากลับไปเตรีมตัวจะก้าวเดิน แต่ก็ถูกยูชอนเรียกเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวจุนซู!!”
จุนซูหันหน้ามาเลิกคิ้วถาม คนยิ่งรีบๆ อยู่ จะเรียกอะไรกันนักกันหนา
ยูชอนวิ่งเข้าไปหาคนตัวเล็ก ก่อนที่จะโน้มหน้าเข้าไปสูดดมความหอมจากแก้มขาวๆ ที่แอบมีกลิ่นเหงื่อหน่อยๆ แต่ไม่เป็นไรปาร์คไม่ถือ ปาร์คว่ากลิ่นมันเร้าใจดี คนตัวสูงหอมคนตัวเล็กสักฟอดหนึ่งแล้วจึงผละออก เขายิ้มให้จุนซูก่อนที่จะพูดออกมา
“เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ผมยังไม่ได้หอมแก้มคุณเลย”
จุนซูอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เขายกมือขึ้นจับแก้มของตนเอง ก่อนที่จะถลึงตามองคนตัวตัวโต
“อะ...ไอ้หน้าด้าน!!”
เมื่อพูดจบจุนซูก็รีบวิ่งขึ้นรถเมล์ไปอย่างทันที เข้าใจมั้ยว่าที่นั่นคือป้ายรถเมล์นะ และก็เป็นป้ายรถเมล์ที่มีคนยืนรอรถอยู่เต็มป้าย อีกทั้งยังมีแต่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยกันทั้งนั้น คราวนี้ล่ะ คิมจุนซูได้ดังไปทั่วทั้งมหา’ลัยยองอินแน่ๆ
ส่วนยูชอนที่ได้หอมแก้มคนน่ารักโชว์กลางป้ายรถเมล์ก็ได้แต่ยืนยิ้มอยู่คนเดียว ก่อนที่เขาจะเริ่มรู้สึกตัวว่ามีสายตาหลายคู่กำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่
คนร่างสูงหันไปยิ้มหวานให้กับทุกๆ คนก่อนที่จะพูดออกมาเสียงดังฟังชัดว่า...
“เขาเป็นแฟนผมเองแหละ... อ่ะ! ใครที่ถ่ายรูปเอาไว้ทัน อย่าลืมแชร์ลงเฟสบุ๊คด้วยนะครับ!”
ประกาศให้โลกรู้ไปเลยว่า... คิมจุนซู คนคนนี้ ปาร์คยูชอนจอง!!
.
.
.
.
.
วิธีที่2 : มอบดอกไม้สวยๆ ให้เขาสักช่อหนึ่ง
แจจุงวางแผนเอาไว้ว่าเขาจะใช้วิธีจีบทั้งห้าวิธีนี้สัปดาห์ละหนึ่งวิธีตามลำดับ ตอนนี้เขาก็ได้ลงมือทำวิธีแรกไปแล้ว นั่นก็คือการมอบจดหมายให้ และในอาทิตย์ที่สองนี้เขาก็จะใช้วิธีจีบลำดับที่สอง นั่นก็คือ... มอบดอกไม้สวยๆ ให้ยุนโฮนั่นเอง อ่า... รู้สึกแปลกๆ อีกแล้วแหะที่ตนเองต้องมาทำอะไรแบบนี้ ทั้งๆ ที่เขาเองควรจะเป็นฝ่ายนั่งรอใหอีกฝ่ายเป็นคนเอามามอบให้แท้ๆ แต่แน่ล่ะ เขาจะมานั่งรอให้ยุนโฮเอาดอกไม้มาให้ก็คงจะไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่ได้คิดจะจีบเขาเลยแม้แต่น้อย เห๊อ~ พูดแล้วก็เศร้า...
แต่ไม่ได้! คิมแจจุงจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด เขาเพิ่งจะเริ่มต้นเกมส์นี้เองนะ จะถอยตอนนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด!!
และนั่นก็เป็นสาเหตุให้คนตัวเล็กต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาเดินดูดอกไม้ในตลาดดอกไม้เหมือนในตอนนี้อย่างไงล่ะ... นี่ถ้าไม่ใช่ชองยุนโฮ ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้รับอะไรพิเศษๆ แบบนี้จากคนที่ชื่อว่าคิมแจจุง
แจจุงเดินดูดอกไม้ไปอย่างเรื่อยๆ ตอนนี้เขายังไม่เจอดอกกุหลาบสวยๆ ที่เขาอยากได้เลยสักดอก บางดอกก็เล็กจนเกินไป บางดอกก็ช้ำซะอย่างกับโดนใครเหยียบมาแล้ว ไม่มีดอกไหนที่ตรงกับความต้องการของเขาเลยสักนิด ในขณะที่กำลังเดินดูดอกไม่อยู่ หัวสมองของเขาก็นึกไปถึงเรื่องราวหลังจากที่เขาได้ให้จดหมายกับยุนโฮไปแล้วว่าระหว่างพวกเขาทั้งสองคนนั้นมันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
.
.
.
หลังจากที่แจจุงมอบจดหมายให้กับยุนโฮแล้ว คนสวยก็รีบเดินหนีคนร่างสูงไปอย่างทันที ช่วงขาเรียวยาวก้าวเดินตรงที่ตึกคณะนิติศาสตร์ตามที่ได้นัดกับชางมินและยูชอนเอาไว้ แจจุงเดินอมยิ้มไปตลอดทาง เขากำลังคิดอยู่ว่าหลังจากที่ยุนโฮได้อ่านจดหมายของเขาแล้ว ร่างสูงจะรู้สึกยังไง จะชอบมันมั้ยนะ ยุนโฮจะสามารถรับรู้ถึงความตั้งใจของเขามั้ย ความตั้งใจที่เขาพยายามจะส่งมันผ่านจดหมายฉบับนั้น... จดหมายฉบับแรกของเขาที่เขียนให้กับยุนโฮ
แจจุงเดินยิ้มเข้ามาในส่วนของคณะนิติฯ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อที่จะโทรหายูชอน และในตอนนั้นเองที่โทรศัพท์ของเขาก็เกิดสั่นขึ้นเมื่อมีข้อความจากใครบางคนส่งเข้ามา
แจจุงมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยหัวใจเต้นแรง เขาภาวนาให้ข้อความที่เพิ่งจะถูกส่งเข้ามานั้นเป็นของชองยุนโฮ คนสวยสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนที่จะกดปุ่มตกลงเพื่อเปิดดูข้อความ
และทันทีที่ข้อความปรากฏ แจจุงก็ต้องฉีกยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อสิ่งที่แจจุงภาวนานั้นได้เป็นจริง
เป็นยุนโฮนั่นเองที่ส่งข้อความเข้ามา
ขอบคุณสำหรับจดหมายที่น่ารักๆ ฉบับนี้นะครับ
ผมจะเก็บเอาไว้อย่างดีเลย
ที่ผมเก็บนี่ไม่ใช่เพราะกระดาษมันน่ารักหรอกนะ
แต่ผมเก็บมันเอาไว้เพราะแจจุง
เพราะมันเป็นจดหมายของคิมแจจุง... คนน่ารักที่ตั้งใจเขียนมันมาให้ผม
แล้วผมจะรอให้แจจุงขนวิธีต่างๆ มาจีบต่อนะ
From : ยุนโฮ
บึ้ม!!
หลังจากที่อ่านข้อความของยุนโฮจบแล้ว แก้มขาวๆ ของแจจุงก็ระเบิดกลายเป็นสีชมพูระเรื่ออย่างทันที
‘อ๊าย~ ยุนโฮชมเขาว่าน่ารักอีกแล้วอ่ะ!’
แจจุงยืนยิ้มเขินบิดไปบิดมาอยู่ตรงทางเข้าตึกนิติฯ ยืนเขินโดยไม่อายคนอื่นๆ ที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่เลยสักนิด
ยืนยิ้มอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถืออย่างกับคนบ้า แต่แจจุงอาจจะบ้าจริงๆ ก็ได้นะ แจจุงกำลังบ้าชองยุนโฮอยู่ยังไงล่ะ คลั่งไคล้ยุนโฮแบบมากๆ เสียด้วย แล้วโรคนี้จะรักษาให้หายได้ยังไงนะ ถ้าไม่ใช่รักษาด้วยการได้ชองยุนโฮมาเป็นคุณสามี~
“อ่ะ! คิดเพ้อเจ้อจริงๆ เลยเรา”
คนสวยหยุดความคิดฟุ้งซ่านของตนเองเอาไว้เพียงเท่านั้น
“โทรหายูชอนๆ ตอนนี้จะต้องโทรหายูชอน!”
แจจุงบ่นกับตนเอง นิ้วเรียวรีบกดต่อสายโทรหาเพื่อรักอย่างทันที แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น บนใบหน้าสวยหวานก็ยังคงมีรอยยิ้มแห่งความสุขประดับเอาไว้อยู่
.
.
.
“เลิกคิดๆ ตอนนี้เราจะต้องรีบหาดอกไม้ที่จะไปให้ยุนโฮก่อนซิ!”
แจจุงสะบัดศีรษะไปมาจนเส้นผมกระจายไม่เป็นทรง ฝ่ามือขาวตบไปที่แก้มขาวๆ ของตนเองเบาๆ เพื่อเป็นการเรียกสติ
“เอาล่ะ! ไปเดินหาดอกไม้สวยๆ สำหรับยุนโฮต่อดีกว่า”
ว่าแล้วคนสวยก็เดินดูดอกไม้ตามร้านค้าต่างๆ ต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ
แจจุงใช้เวลาเดินหาดอกไม้ต่ออีกไม่นานเท่าไหร่ คนสวยก็สามารถหาร้านขายดอกไม้ที่มีดอกไม้สวยๆ และเป็นที่ถูกใจของตนเองได้เสียที แจจุงเดินยิ้มหวานเข้าไปหาคุณน้าคนขายที่กำลังวุ่นอยู่กับการจัดดอกไม้
“ขอโทษนะฮะ คือว่าผมอยากจะได้ดอกกุหลาบสวยๆ สักช่อนะฮะ”
“ช่อใหญ่หรือช่อเล็กค่ะ?”
“ช่อเล็กฮะ อยากได้สักเจ็ดดอก”
“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดให้นะค่ะ ว่าแต่อยากได้ดอกกุหลาบสีอะไรค่ะ? แล้วจะเอาไปมอบให้ใคร น้าจะได้จัดได้ถูกน่ะ”
“อ่า... ผมขอดอกกุหลาบสีแดงก็แล้วกันนะฮะ ส่วนเรื่องที่จะมอบให้ใครนั้น เอ่อ... ผมจะมอบให้คนสำคัญน่ะฮะ”
แจจุงตอบออกไปอย่างเขินๆ คนสวยยืนคิดอะไรอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจพูดมันออกไป
“เอ่อ.... คุณน้าฮะ จะเป็นอะไรหรือเปล่า ถ้าผมจะขอเป็นคนจัดดอกไม้ช่อนี้เอง”
.
.
.
แจจุงก้มหน้าลงมองดอกกุหลาบช่อเล็กที่อยู่ในมือของตนเอง ก่อนที่คนสวยจะฉีกยิ้มกว้างออกมา ดอกไม้ที่แจจุงเป็นคนลงมือจัดมันเองกับมือ ช่อดอกไม้ที่แจจุงใส่ความตั้งใจลงไปอย่างเต็มเปี่ยม... ดอกไม้ที่จะมอบให้ชองยุนโฮ
ดอกกุหลาบสีแดงเจ็ดดอกที่แจจุงตั้งใจเลือกสรรมันเป็นอย่างดี ข้างๆ ดอกกุหลาบถูกแซมด้วยดอกยิปโซสีขาวที่ถูกจัดวางเอาไว้อย่างสวยงาม ดอกไม้ทั้งหมดนั้นถูกห่อเป็นช่อด้วยกระดาษสีขาวและตาข่ายสีแดง พร้อมทั้งมีโบว์สีชมพูผูกเอาไว้เป็นการปิดท้าย
ช่อดอกไม้แสนสวยที่แจจุงเป็นคนลงมือทำเองทั้งหมด เพื่อผู้ชายที่ชื่อว่าชองยุนโฮคนนี้...
ตอนนี้แจจุงกำลังยืนอยู่ที่หน้าบ้านของคนร่างสูง เมื่อสักครู่นี้เขาได้โทรถามยุนโฮแล้วว่าตอนนี้ร่างสูงอยู่ที่ไหน ซึ่งคำตอบที่ได้รับก็คือ ยุนโฮยังคงฝังตัวอยู่บนที่นอนแสนนุ่ม อ่า... คิดแล้วก็อยากจะขึ้นไปช่วยปลุกถึงเตียงนอนเสียจริงเชียว
ยุนโฮบอกว่าเขากำลังจะตื่น และกำลังจะอาบน้ำไปเรียน และถามเขาว่ามีอะไรหรือเปล่าถึงได้โทรมาแบบนี้ แจจุงก็เลยอ้างไปว่าก็แค่อยากจะโทรมาปลุกเพียงเท่านั้น ไม่ได้มีธุระอะไรหรอก คุยกันต่ออีกสักนิดก่อนที่จะวางสายไป และตอนนี้ก็เลยเวลามาเกือบครึ่งชั่วโมงได้แล้วหลังจากที่ได้คุยโทรศัพท์กับยุนโฮ ป่านนี้ร่างสูงก็คงจะอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วมั้ง
แจจุงเดินไปที่ประตูรั้วบ้านของยุนโฮ เขาลองเปิดมันดูว่ามันถูกล็อคเอาไว้หรือเปล่า และดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างเขาเมื่อเขาลองเปิดมันแล้วปรากฏว่ามันไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้แต่อย่างใด
“สงสัยยัยกลมจะลืมล็อคล่ะมั้ง”
แจจุงเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านของคนร่างสูง บ้านของยุนโฮถึงจะไม่ได้ใหญ่โตอย่างกับคฤหาสน์ของคนรวยๆ แต่บ้านของคนร่างสูงก็ใหญ่กว่าบ้านของเขามากอยู่ดี แจจุงยกมือขึ้นลูบเส้นผมก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจ
ปลายนิ้วเรียวยื่นออกไปกดที่ออดหน้าบ้านที่ติดอยู่ข้างๆ ประตูด้วยหัวใจที่เต้นรัวเพราะความตื่นเต้น
หลังจากที่เสียงออดดังขึ้น เขาก็ได้ยินเสียงกุกกักอยู่ที่หน้าประตูบ้านเสียพักหนึ่ง และในตอนนั้นเองที่แจจุงตัดสินใจเบี่ยงตัวเข้าไปหลบอยู่ที่หลังประตู เพื่อให้คนที่เปิดประตูออกมาไม่สามารถเห็นตนเองได้
และแล้วประตูก็ถูกเปิด โดยฝีมือของชองยุนโฮ
“อ้าว? ใครมากดออดเล่นกันล่ะเนี่ย”
ร่างสูงบ่นออกมาเมื่อเขาเปิดประตูออกมาแล้วกลับไม่พบใครเลย ยุนโฮกวาดสายตามองไปรอบๆ บ้านและหน้าบ้านเผื่อว่าเสียงออดที่ได้ยินนั้นจะเป็นออดที่ติดอยู่ที่หน้าประตูรั้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตใดๆ เลยทั้งสิ้น
ยุนโฮย่นคิ้ว เขากำลังจะปิดประตูกลับมาเช่นเดิมอยู่แล้วเชียว และในตอนนั้นเองที่ อยู่ๆ ก็มีช่อดอกกุหลาบมาจ่ออยู่ที่หน้าของเขา พร้อมๆ กับการปรากฏตัวของคนตัวเล็กที่เดินออกมาจากหลังประตู
รอยยิ้มหวานๆ ที่มองดูแล้วมันช่างเข้ากันดีกับช่อดอกไม้แสนสวยที่คนตัวเล็กกำลังถืออยู่เสียเหลือเกิน
“ดอกไม้ที่คนสวยๆ ตั้งใจทำเพื่อที่จะมอบให้คนหล่อๆ”
“อ่า......”
ยุนโฮได้แต่ฉีกยิ้มให้กับความน่ารักของคนตรงหน้า
“อ่ะ!”
แจจุงยื่นช่อดอกไม้ให้ยุนโฮ
“ขอบคุณนะครับคนสวย”
ยุนโฮรับมันมาถือเอาไว้ด้วยรอยยิ้ม เขาก้มหน้าลงไปสูดดมความหอมของมันก่อนที่จะผละหน้าออกมา ดวงตาคมกวาดสายตามองดูช่อดอกไม้ที่ถืออยู่ในมือ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาถามคนตัวเล็ก
“อย่าบอกนะว่าดอกไม้ช่อนี้แจจุงเป็นคนจัดมันเองกับมือ”
แจจุงฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันซี่ขาวๆ
“ใช่แล้วล่ะ ดอกไม้สำหรับจีบยุนโฮ แจจุงก็ต้องเป็นคนลงมือจัดเองซิ”
“อ่า... ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกประทับใจจังเลยแหะ”
“แจจุงตั้งใจทำมากๆ เลยนะ!”
“ดูก็รู้แล้วครับ งั้นเดี๋ยวผมจะเก็บดอกไม้ช่อนี้เอาเป็นอย่างดีเลยละกันนะ”
“เก็บเอาไว้คู่กับจดหมายเลย”
“แต่ดอกไม้มันเก็บเอาไว้ได้ไม่นานนี่นา....”
“นั่นซิ!”
เขาก็ลืมคิดไปเลยว่าดอกไม้มันอยู่ได้ไม่กี่วัน แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีล่ะ
“อ่า... ผมคิดออกล่ะ เดี๋ยวผมจะถ่ายรูปมันเก็บเอาไว้ก่อนแล้วกันนะ ทีนี้ล่ะอยู่ได้เป็นสิบๆ ปีเลย”
“ก็ได้”
แจจุงพยักหน้าเห็นด้วย
“ช่อนี้มีดอกกุหลาบทั้งหมดเจ็ดดอก”
ยุนโฮพูดออกมาหลังจากที่เขาก้มหน้าลงไปนับจำนวนดอกไม้
“มันมีความหมายแอบแฝงอะไรหรือเปล่า?”
ดวงตาคมสบเข้ากับดวงตากลมโตในตอนถาม
แจจุงยิ้มเขิน คนสวยสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนที่จะตอบออกมา
“ดอกกุหลาบเจ็ดดอก มีหมายความว่า...”
แจจุงเว้นช่วงหยุดเอาไว้สักพักหนึ่ง เขามองใบหน้าคมของคนตรงหน้าด้วยสายตามุ่งมั่น ก่อนที่จะพูดประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน
“เธอทำให้ฉันหลงเสน่ห์”
ยุนโฮยกยิ้มที่มุมปากด้วยความพึงพอใจหลังจากที่ได้ฟังความหมายของดอกไม้ช่อนี้
“อ่า... ความหมายร้อนแรง สมกับเป็นคิมแจจุงจริงๆ”
ใบหน้าคมก้มหน้าลงไปมองดอกไม้ที่อยู่ในมือของตนเองอีกครั้ง ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองคนร่างบาง
“ผมเห็นว่าแจจุงมีความตั้งใจที่จะจีบผมเอามากๆ งั้น... วันนี้ผมก็ควรจะให้กำลังใจแจจุงสักหน่อยดีกว่า”
“เอ๋?”
คนสวยทำตาโต สีหน้าบ่งบอกว่ากำลังงงแบบสุดๆ อยู่
แต่ยุนโฮไม่ปล่อยให้แจจุงได้งงนานเสียเท่าไหร่ คนร่างสูงขยับเข้ามาใกล้กับคนร่างบาง ก่อนที่ใบหน้าคมจะโน้มลงไปหาใบหน้าขาวใสอย่างช้าๆ
แจจุงได้แต่เบิกตากว้าง เขาเห็นว่ายุนโฮกำลังจะก้มหน้าลงมาหาเขา ยิ่งเห็นใบหน้านั้นขยับลงมาใกล้มากเท่าไหร่ หัวใจดวงน้อยก็เต้นผิดจังหวะมากขึ้นเท่านั้น
ฟอด~
สัมผัสแรกที่แจจุงสามารถรับรู้ได้คือ สันจมูกโด่งของยุนโฮมันแตะลงที่ผิวแก้มของเขา แช่เอาไว้อยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะผละออกไป
ยุนโฮค่อยๆ ผละใบหน้าออกมา ดวงตาคมจ้องมองคนสวยที่กำลังทำหน้าตาเหรอหราอยู่ด้วยรอยยิ้มขำ
“ของขวัญสำหรับความตั้งใจในครั้งนี้นะครับ”
แจจุงที่เพิ่งจะได้สติกลับคืนมา เขาเบิกตากว้างมองยุนโฮ ฝ่ามือขาวรีบยกขึ้นมาจับแก้มข้างที่โดนขโมยพร้อมกับพูดออกมาว่า
“งั้นถ้าคราวหน้าแจจุงพยายามมากกว่านี้ ยุนโฮจะต้องจูบแจจุงเลยนะ!!”
TBC ^-----------------^*
*******************************************************
Talk ::
กลับมาแล้วๆ
เอาความน่ารักของแจจุงมาเสิร์ฟแล้วค่ะ พาร์ทนี้แอบยาวกว่าตอนอื่นๆ เลยนะ
ตอนนี้น่ารักป่าว ><
เอาไปแหวานๆ แบบเบาๆ ละกันนะค่ะ ส่วนคู่ยูซูก็ยังคงกัดกันแบบน่ารักๆ เหมือนเดิม
ปาร์คยังคงหื่นไม่เสื่อมคลาย >O<
แต่มุกขอถามนิดนึง ว่าหลังอ่านเรื่องนี้แล้ว คิดว่ายุนโฮในเรื่องนี้เป็นคนยังไง
เจ้าชู้ป่ะ หรือว่าเป็นคนดีแสนดี 555555
ตอนนี้มุกมีเวลาแต่งฟิคอีกยาวเลยค่ะ ฮะฮะฮ่า ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีที่มหาลัยเลื่อนเปิดไปปีหน้า TT
รอน้ำลดเมื่อไหร่จะรีบหนีไปเที่ยวเลย ปิดนานเกินไป T^T
นอนอืดจนไม่รู้จะอืดยังไงแล้วตอนนี้
แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะแต่งฟิคมาให้ทุกคนได้อ่านกันนะค่ะ ^-----------------------^*
แวะไปพูดคุยกันได้ที่ มุกไม่กัดค่ะ คุยได้ๆ >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE
หรืออยากสอบถามเรื่องฟิค >>> mookiie_jong@hotmail.com
ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้ค่ะ
แล้วเจอกันในตอนหน้าค่ะ
^-------------------------------^*
*******************************************************
ความคิดเห็น