ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ☆--- Mystery Love ---☆ [TVXQ][YAOI]

    ลำดับตอนที่ #5 : ,,, Part 4 ,,, ไปกับฉัน...

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 57


    Title         :  Mystery Love
    Type        :  Long fiction
    Author      :  *..MooKiiE..*
    Category :  Comedy / Romance
    Paring      :  Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
    Note         :  เรื่องนี้มุกได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง The Master’s Sun นะคะ จึงทำให้เนื้อหาบางอย่างอาจคล้ายคลึงกันบ้าง

                                                                                                                                                                                                                                                              

    *******************************************************

     

    อย่าลืมกดเป็นแฟนพันธุ์แท้ฟิคเรื่องนี้กันนะคะ ^^


    Part 4

     

                    ปริศนา หญิงสาวชุดขาวกลางห้างสรรพสินค้าคิงดอม

                ภาพถ่ายติดวิญญาณกลางห้างชื่อดังคิงดอม

                วิญญาณหญิงสาวกลางห้างชื่อดัง

     

                    และอีกหลายๆ ข้อความที่ถูกเผยแพร่ไปแทบทุกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และสื่อทางโลกออนไลน์ที่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสเป็นอย่างมากหลังจากที่มีใครบางคนโพสต์รูปที่ตัวเองเป็นคนถ่ายลงบนอินเทอร์เน็ต

     

                    ภาพหญิงสาวสามคนที่ยืนฉีกยิ้มให้กับกล้อง ดูๆ แล้วก็เหมือนจะเป็นภาพธรรมดาทั่วๆ ไปที่ไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจ แต่ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ รูปๆ นี้ก็คงจะไม่เป็นประเด็นให้ใครต่อใครได้พูดถึงมากขนาดนี้

     

                    หากรูปนี้ไม่มีหญิงสาวปริศนาถ่ายติดมาด้วย

     

                    พูดแบบนี้บางคนอาจจะยังไม่หายสงสัยว่าแค่มีผู้หญิงอีกคนติดมาด้วยมันจะน่าสนใจตรงไหน งั้นลองเปลี่ยนจากผู้หญิงหนึ่งคนเป็นผีผู้หญิงหนึ่งตนดูล่ะจะน่าสนใจขึ้นบ้างมั้ย?

     

                    นั่นแหละ เพราะผู้หญิงชุดขาวคนนั้นไม่ใช่คน

                    รูปที่ถ่ายติดเธอจึงเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์อยู่ในตอนนี้นั่นเอง

     

                    อย่าถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าเธอไม่ใช่คน

                    เพราะหลักฐานที่อยู่ในภาพนั้นมันช่างชัดเสียเหลือเกิน

     

                    หญิงสาวชุดขาวที่เปื้อนเลือดไปทั้งตัวนั้น ใบหน้าของเธอขาวซีด เส้นผมสีดำยาวที่ดูยุ่งเหยิงปกปิดใบหน้าของเธอไปเกินครึ่งหน้า อีกทั้งจุดที่เธอยืนอยู่นั้นยังเป็นจุดที่มนุษย์ทั่วๆ ไปนั้นไม่น่าจะสามารถยืนได้อีกต่างหากเพราะเธอนั้นยืนอยู่บน…. อากาศ

     

                    เอาล่ะ เพียงแค่นี้ภาพที่ถ่ายติดเธอคนนั้นก็สามารถทำให้คนหลายล้านคนให้ความสนใจได้แล้ว

     

                    และถ้าประชาชนทั่วไปยังสนใจซะขนาดนี้ มีหรือที่นักข่าวที่ต้องการจะหาข่าวไปเป็นประเด็นในแต่ละวันจะไม่ให้ความสนใจ?

     

                    และถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูนักข่าวเมื่อไร ก็ย่อมหมายความว่าคนเกือบทั้งประเทศย่อมรู้เรื่องนี้ด้วยหรือบางทีคนนอกประเทศก็รู้เรื่องนี้แล้วด้วยเหมือนกัน

                   

                    ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมคำค้นหายอดฮิตในเวลานี้จะเป็นคำนี้

     

                    วิญญาณในห้างเดอะคิงดอม

                    คำค้นหาสุดฮิต ณ ช่วงเวลานี้

     

                    และเรื่องนี้ก็ทำเอาว่าที่ประธานของห้างสรรพสินเดอะค้าคิงดอมปวดสมองมากพอสมควรเลยล่ะ

    .

    .

    .

                    ยุนโฮนั่งอ่านรายงานสรุปเรื่องวิญญาณที่มีคนลือว่าอยู่ในห้างของเขาด้วยใบหน้าที่บูดบึ้งซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่า ณ ตอนนี้อารมณ์ของเขากำลังไม่ดีแบบสุดๆ อยู่

     

                    “ใครมันเป็นคนกุเรื่องไร้สาระแบบนี้ ให้ตายเหอะ! นี่มันยุคไหนกันแล้วทำไมเรื่องยังมานั่งเชื่อเรื่องไร้สาระแบบนี้กันอีก!!

                    ยุนโฮปิดรายงานเล่มหนาลงอย่างแรงก่อนที่จะบ่นออกมาอย่างหัวเสีย

     

                    เลขาคิมที่ยืนอยู่ทางด้านหน้าโต๊ะขยับแว่นสายตาของตัวเองเล็กน้อยก่อนที่จะเปิดปากพูดในสิ่งที่ตนเองได้รับรู้มา

                    “จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องที่แต่งขึ้น แต่เรื่องนี้ก็มีผลกระทบกับห้างของเรามากเลยนะครับ”

     

                    “ผมรู้”

                    ยุนโฮพยักหน้ารับอย่างเหนื่อยหน่าย

     

                    “ผู้คนคงแตกออกเป็นสองฝ่าย คือพวกที่อยากมาตามล่าหาวิญญาณกันที่ห้างของเรา กับพวกที่กลัวจนไม่กล้าที่จะมาเหยียบ”

     

                    “ใช่ครับ”

     

                    “แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็ต้องรีบจัดการกับเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ถ้าปล่อยนานไป ลูกค้าของเราอาจจะลดน้อยลงแล้วหันไปช็อปปิ้งที่ห้างคู่แข่งแทน ดีไม่ดีห้างเราอาจเปลี่ยนจากห้างเป็นสถานที่เอาไว้ให้ไล่ล่าผีด้วยซ้ำ”

     

                    เลาขาคิมฟังแล้วก็ได้แต่แอบยิ้มให้กับความคิดของนายน้อย

     

                    “อ้อ! เลขาคิมช่วยเช็คต้นตอของคนที่ปล่อยภาพนี้ให้ผมด้วยนะครับ เช็คให้แน่ใจทีว่าไม่ใช่คนของห้างคู่แข่งที่คิดจะใช้วิธีสกปรกๆ มาโจมตีเรา”

     

                    “ได้ครับนายน้อย”

                    เลขาคิมตอบรับคำก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงานของยุนโฮไปเพื่อไปทำตามงานที่ตนได้รับมอบหมาย

     

                    ยุนโฮที่อยู่ภายในห้องทำงานเพียงคนเดียวได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย เพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้ไม่นานก็เจอปัญหาที่ชวนปวดหัวเสียแล้ว ให้ตายเหอะ! วันนี้นักข่าวจากช่องต่างๆ ทั้งสื่อโทรทัศน์และสื่อหนังสือพิมพ์คงแห่กันมาทำข่าวที่ห้างของเขา ไหนจะพวกที่อยากจะมาตามล่าหาวิญญาณอีก ปิดห้างให้พวกนี้ไปล่าพิสูจน์เลยดีมั้ย?

     

                    ยุนโฮเอนหลังพิงกับพนักพิงของเก้าอี้ทำงานตัวหรู เขาปิดเปลือกตาลงพร้อมกับยกมือขึ้นนวดขมับของตัวเองเบาๆ ในเวลานี้เขาขอพักก่อนสักแปบ ก่อนที่จะต้องลงไปเคลียกับปัญหาที่ชวนปวดหัวนี้เพราะพ่อของเขาต้องการให้เขาได้ฝึกจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในห้างด้วยตนเอง เพื่อในอนาคตจะได้บริหารจัดการกับปัญหาหรือภาวะวิกฤตต่างๆ ได้

     

                    แต่ให้ตายเหอะ! แค่ปัญหาแรกก็เจองานหินเสียแล้ว ปัญหาดันมาจากสิ่งที่มองไม่เห็นเสียด้วยซิ

     

                    เขาควรจะทำอย่างไรกับเรื่องผีในห้างตอนนี้ดี

                    จะให้เขาไปเจรจากับผีอย่างงั้นหรอ?

     

                    “ถ้าฉันเห็นผีได้ฉันคงไปคุยกับเธอให้ออกจากห้างฉันไปแล้ว”

                    แต่พอดีเขาไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านนั้นไง

     

                    “สงสัยคงต้องให้คนที่สามารถมองเห็นผีได้ให้มาช่วยคุยแล้วล่ะมั้ง”

     

                    แล้วเขาจะไปหาคนแบบนั้นได้จากที่ไหนกันล่ะ

                ชองยุนโฮได้แต่คิดแล้วก็สงสัยอยู่กับตนเอง

     

                โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าคนที่ตัวเองต้องการนั้น

                ได้อยู่ใกล้ๆ เขาแล้วในตอนนี้

    .

    .

    .

    .

    .

                    “อย่าเพิ่งกวนได้มั้ย ถ้ายุนโฮมาเห็นจะว่าฉันอู้งานนะ!!

     

                    “ก็บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวถ้าเลิกงานแล้วจะพาไปกินกาแฟ”

     

                    “รอก่อนไม่ได้รึไงเล่า!!

     

                    “พักกลางวัน? นี่ใจคอนายกะไม่ให้ฉันมีเวลาพักบ้างเลยหรอ?

     

                    “เลิกกวนได้แล้ว บอกว่าเลิกงานก็เลิกงานซิ! ถ้าเรื่องมากก็ไม่ต้องกิน!!

     

                    บทสนทนา…. เอ่อ ไม่รู้ว่ามันจะเรียกว่าบทสนทนาได้มั้ยเพราะนอกจากเสียงของแจจุงแล้วก็ไม่มีเสียงของใครอีกคนอยู่เลย หรือจะพูดให้ชัดๆ ก็คือ เหมือนแจจุงกำลังพูดอยู่คนเดียว ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ เขาไม่ได้บ้า! เพียงแต่ว่าบุคคลที่เขาคุยด้วยนั้นคนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ก็แค่นั้นเอง

     

                หรือจะพูดให้เคลียๆ ก็คือเขากำลังคุยอยู่กับผี

     

                    ผีนักเรียนมัธยมปลายที่มักจะโผล่มาให้เขาเห็นอยู่บ่อยๆ จนเขาเริ่มชินไปแล้ว ผีตนนี้ชื่อว่าชิมชางมิน เป็นผีเด็กหนุ่มที่เขาคิดว่าหน้าตาดีที่สุดตั้งแต่เขาเคยพบเจอพวกผีๆ มา และก็กวนเบื้องล่างเก่งที่สุดด้วยเช่นกัน หลายต่อหลายครั้งที่ชางมินหลอกให้เขาคุยด้วยเพราะต้องการทำให้คนอื่นๆ มองเขาว่าเป็น คนบ้า

     

                    แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้น อาจเป็นผีที่ชอบกวนประสาทไปบ้าง

                แต่ชางมินก็เป็นผีที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมาเลยนะ

     

                    นี่ๆ เมื่อกี้นี้ผมเจอผีผู้หญิงที่ชั้นหนึ่งของห้างด้วยล่ะ เธอดูเศร้าๆ ผมควรไปถามเธอมะว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

    ชางมินที่นั่งยองๆ อยูที่พื้นเงยหน้าขึ้นมาถามแจจุงในขณะที่เขานั่งดูแจจุงถูพื้นไปมาอย่างตั้งใจ

     

    “เดี๋ยวก็โดนเธอด่าหรอก ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านไปเรื่อยเลยนะนาย”

     

    “เธอดูเศร้าๆ”

     

    แจจุงมองชางมินด้วยสายตาระเหี่ยใจ

                    “รับรองเลยว่าถ้านายไปชวนเธอคุย เธอจะต้องเครียดแทนเศร้าแน่ๆ”

     

                    ชางมินหัวเราะออกมาเบาๆ

                    “งั้นผมไปหาเธอดีกว่า”

     

                พรึ่บ!!

                    แล้วชางมินก็หายตัวไป แจจุงได้แต่สายหัวอย่างปลงๆ ก่อนที่จะถูพื้นต่อไป น่าเบื่อชะมัด วันนี้เขายังไม่ได้เจอชองยุนโฮเลย ทั้งๆ ที่อยู่ชั้นเดียวกันแท้ๆ เห๊อ

     

                    เพราะมัวแต่สนใจอยู่กับการถูพื้นจนไม่ได้สังเกตว่ามีใครบางคนแอบมองตัวเองอยู่ จนกระทั่งปลายรองเท้าหนังเงางามเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า พร้อมกับประโยคคำถามที่ถูกถามออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ก็ชวนเสียวสันหลังวาบ

     

                    “เมื้อกี้นายคุยกับใครน่ะ?

     

                    แจจุงสะดุ้งเฮือก น้ำเสียงที่แสนคุ้นเคย ก่อนที่ใบหน้าขาวๆ จะค่อยๆ ละสายตาจากปลายรองเท้าแล้วไล่สายตาไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าคม ลมหายใจสะดุดกึกตอนที่ดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาคมที่กำลังจ้องมองมา

     

                    ทันทีที่ได้เห็นใบหน้าของพ่อบ้านคนใหม่ ยุนโฮก็ถึงกับขมวดคิ้วอย่างทันที หน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน

     

                และแล้วเหตุการณ์ในวันที่ฝนตกเมื่อสองวันก่อนก็ย้อนกลับเข้ามาอยู่ในหัวของเขา

     

                    “นี่นาย!!

                    ปลายนิ้วเรียวชี้ใบหน้าของคนที่กำลังฉีกยิ้มแหยๆ ให้กับตนเอง ผู้ชายที่เหมือนจะไม่เต็มบาทคนนั้นนี่นา ให้ตายเหอะ! ใครรับหมอนี่ให้เข้ามาทำงานที่ห้างของเขากันเนี่ย!!

     

                    “แหะๆ สวัสดีครับ”

                    แจจุงได้แต่ยิ้มแหยๆ ใส่คนร่างสูง

     

                    ยุนโฮก้มลงมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง ไม่ได้การล่ะ เขาเสียเวลามามากพอแล้ว เขาต้องรีบลงไปจัดการเรื่องที่กำลังวุ่นวายอยู่ที่ห้างชั้นล่างเสียก่อนแล้วค่อยมาเคลียกับนายคนนี้

     

                    “มานี่เลย ฉันจัดการธุระเสร็จเมื่อไหร่ เรามีเรื่องต้องเคลียกัน”

                    แล้วชองยุนโฮก็ลากคิมแจจุงลงลิฟต์ไปกับตัวเอง ทั้งๆ ที่เขาไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยก็ได้ บอกให้รออยู่ที่นี่ คิมแจจุงก็รอแล้ว ไม่เห็นจะต้องลากเขาไปด้วยเลย แต่ลากเขาไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน โดนยุนโฮจับตัวทีไรเกิดความรู้สึกดีๆ ด้วยทุกครั้งเลยแหะ

     

                    เพราะมัวแต่คิดอะไรเพลินๆ อยู่ จนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง เขาเพียงแค่เดินตามแผ่นหลังของชองยุนโฮไปอย่างเรื่อยเปื่อย ไม่ได้มองดูหรือสนใจผู้คนที่อยู่รอบกายเลยแม้แต่น้อย และกว่าที่เขาจะรู้ตัว แสงแฟลชพร้อมกับเสียงของนักข่าวที่รัวคำถามมาเป็นสิบๆ ก็เกิดขึ้นอยู่ทางด้านหน้าของเขาเสียแล้ว

     

                    แจจุงตกใจจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก เขารีบถอยหลังออกมาจากกองทัพนักข่าวอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ชองยุนโฮที่ดูจะคุ้นชินกับมันเป็นอย่างดีให้ไปเผชิญกับศึกนั้นเพียงลำพัง แต่เพียงไม่นานเลขาคิมที่รู้หน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดีก็เดินมาสมทบพร้อมกับบอดี้การ์ดอีกสามคนที่ยืนประกบชองยุนโฮเอาไว้และกันไม่ให้นักข่าวได้จู่โจมเข้าหาว่าที่ประธานห้างสรรพสินค้าเดอะคิงดอมได้

     

                “คุณยุนโฮครับ สรุปว่าที่ห้างเดอะคิงดอมมีผีอยู่จริงๆ รึป่าวครับ?

                “ผีผู้หญิงที่อยู่ในรูปนั้นเป็นพนักงานที่ห้างนี้รึป่าวคะ?

                “แล้วเรื่องผีที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของห้างบ้างมั้ยคะ?

                “เรื่องนี้ทำให้ลูกค้าลดลงไปมั้ยครับ?

                “คุณยุนโฮคิดว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของคู่แข็งที่ต้องการดิสเครดิตห้างเดอะคิงดอมรึป่าวคะ?

     

                    และอีกหลายๆ คำถามของบรรดานักข่าวที่แย่งกันพูดจนไม่เปิดช่องว่างให้ยุนโฮได้ตอบอะไรกลับไปแม้แต่นิดเดียว ดวงตาคมเพียงแค่จ้องมองบรรดานักข่าวด้วยสายตานิ่งๆ ปล่อยให้พวกสื่อยิงคำถามต่อไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย จนเวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบห้านาที ชองยุนโฮก็ยังคงยืนเงียบดังเดิม จนบรรดานักข่าวหมดคำถามที่จะถาม บรรยากาศกลับมาเงียบสงบ ชองยุนโฮถึงได้ยอมเปิดปากตอบคำถามบรรดาสื่อทั้งหลาย

     

                    ริมฝีปากหยักยกยิ้มเล็กน้อย แต่เพียงแค่นั้นก็ทำเอาบรรดานักข่าวสาวๆ แอบกรี๊ดเบาๆ ได้แล้ว

                    “ก่อนอื่นเลยผมก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ให้ความสนใจกับเรื่องข่าวของห้างเดอะคิงดอมกันอย่างมากมาย”

     

                    เสียงรัวชัตเตอร์พร้อมกับแสงแฟลชที่สะท้อนสาดหน้าของชองยุนโฮแทบทุกวินาทีทำให้คนที่ยืนดูอยู่ห่างๆ อย่างแจจุงถึงกับทึ่งในตัวของคนร่างสูงไปพอสมควร เป็นเพียงแค่ผู้บริหาร ไม่ใช่ดาราหรือนักร้องอะไร แต่กลับได้รับความสนใจจากสื่อตั้งมากมายขนาดนี้

     

                    “เรื่องรูปปริศนาที่กำลังอยู่ในความสนใจของใครหลายคนในขณะนี้ ทางเรากำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่ครับ หากมีความคืบหน้าเมื่อไรผมจะรีบแถลงข่าวให้ทุกคนทราบอย่างทันที”

     

                    “สรุปว่าผู้หญิงที่อยู่ในรูปนั้นเป็นผีจริงๆ ใช่มั้ยคะ?

                    นักข่าวสาวคนหนึ่งโพล่งถามขึ้นมา

     

                    ยุนโฮมองหน้าเธอ ก่อนที่จะยกยิ้มที่มุมปาก ทำเอานักข่าวสาวคนนั้นแทบจะหลุดเสียงกรี๊ดออกมา

                    “ถ้าผมเจอเธอในรูปเมื่อไหร่ ผมจะถามเธอให้นะครับว่าเธอเป็นคนหรือว่าเป็นผี”

     

                    “เอาเป็นว่าตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลหรือหลักฐานที่แน่ชัดอะไร ผมขอจบการให้สัมภาษณ์แต่เพียงเท่านี้นะครับ”

                    แล้วบอดี้การ์ดก็ขอทางให้ยุนโฮได้เดินออกไปจากกลุ่มนักข่าวที่ยังคงรัวคำถามพร้อมกับยิงแสงแฟลชใส่คนร่างสูงไม่ยั้ง

     

                    แจจุงที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของกลุ่มบอดี้การ์ดได้แต่มองตามแผ่นหลังของคนร่างสูงไปด้วยสายตามึนงง

                นี่เขาควรจะเดินตามยุนโฮไปหรือกลับไปรออยู่ข้างบนดีนะ?’

     

                    และในขณะที่แจจุงกำลังยืนตัดสินใจคิดอยู่นั้นนั่นเอง เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็เดินตรงมายังจุดที่ที่คนร่างบางยืนอยู่

     

                    เพราะเสียงฮือฮาของคนรอบข้างบวกกับแสงแฟลชที่พุ่งเข้ามากระทบที่ดวงตาของเขามากกว่าปกติทำให้แจจุงต้องหันไปมองดูที่ด้านข้างของตนเอง

     

                    สิ่งที่เห็นทำเอาคนตัวเล็กถึงกับทำหน้าเหวอ เพราะคนที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขานั้นก็คือชองยุนโฮนั่นเอง บุคคลที่เขาได้เห็นว่าได้เดินออกจากที่ตรงนี้ไปแล้ว

     

                นี่ยุนโฮเดินย้อนกลับมาหาเขาอย่างงั้นหรอ

     

                คะ…. คุณ…… ยุนโฮ

     

                    “ไปกับฉัน”

                    เสียงทุ้มเอ่ยปากบอกกับคนตัวเล็กที่กำลังยืนมองเขาตาปริบๆ ก่อนที่จะเอื้อมมือออกไปดึงให้แจจุงเดินตามตนเองออกไป

     

                แชะ แชะ

                    เสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นพร้อมกับเสียงฮือฮาของกลุ่มนักข่าวที่ต่างก็พากันสงสัยว่าบุคคลที่ยุนโฮเดินมาจูงมือไปนั้นเป็นใครกัน พนักงานทำความสะอาดคนนี้มีความสำคัญกับผู้บริหารคนนี้มากขนาดไหนกัน ทำไมถึงต้องเดินกลับมาหาเองถึงที่แบบนี้

     

                    ดวงตากลมมองดูฝ่ามือหนาที่กอบกุมฝ่ามือของตนเองพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างออกมา หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม ความรู้สึกอบอุ่นแบบประหลาดๆ เกิดขึ้นในใจของเขาอีกแล้ว

     

                    “ไปกับฉัน”

                    คำพูดนั้นของคนร่างสูงที่ทำเอาแจจุงถึงกับต้องแอบกัดปากของตัวเองเบาๆ เพียงแค่คำพูดสั้นๆ แต่มันก็ทำให้แจจุงถึงกับเคลิ้มไปได้เหมือนกัน

     

                    “ฉันพร้อมจะไปกับคุณทุกที่เลย

     

                    แม้จะไม่รู้ว่าชองยุนโฮจะลากเขาไปทำอะไรก็ตาม

    .

    .

    .

                    ภายในห้องทำงานที่แสนจะเงียบเชียบ มีเพียงแค่เสียงการทำงานของเครื่องปรับอากาศเท่านั้นที่ดังพอให้พวกเขาสองคนได้ยินอยู่เบาๆ แจจุงได้แต่ยืนก้มหน้าจับมือประสานกันอยู่ทางด้านหน้าโต๊ะทำงานของชองยุนโฮที่ตอนนี้กำลังนั่งมองเขาอยู่อย่างเงียบๆ ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปอ่านเอกสารอะไรบางอย่างที่เขาถืออยู่ในมือ

     

                    บรรยากาศก็น่ากลัวพออยู่แล้ว นี่ชองยุนโฮยังมาแผ่รังสีน่ากลัวใส่เขาอีก แต่ขอบอกเลยว่าผมไม่กลัวหรอก เพราะระหว่าคุณกับผีผีน่ากลัวกว่านี้ตั้งเยอะ!’

     

                    แจจุงแอบลอบมองยุนโฮพร้อมกับอมยิ้มออกมาบางๆ และเขาก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ๆ คนที่ก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่เงยหน้าขึ้นมามองเขาแบบกะทันหัน

     

                    “คิดยังไงถึงมาทำงานเป็นคนทำความสะอาด”

     

                    “เอ๊ะ?

     

                    ยุนโฮเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาคมจ้องมองใบหน้างงๆ ของคนตรงหน้าด้วยท่าทางนิ่งๆ

     

                    “จากประวัติบอกว่าคุณจบปริญญาตรีคณะมนุษย์ศาสตร์ คนที่เรียนจบมหาลัยส่วนใหญ่เขาไม่น่าจะเลือกมาทำงานแบบนี้กันหรอกว่ามั้ย?

     

                    “ผม….. คงไม่เหมือนคนอื่นล่ะมั้ง”

                    แจจุงตอบกลับมาเบาๆ

     

                แน่ล่ะ ก็นายแตกต่างจากคนปกติทั่วไปหนิ

                    ยุนโฮได้แต่คิดอยู่ในใจหลังจากที่ได้ฟังคำตอบจากคนตรงหน้า

     

                    ยุนโฮเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ              

                    “ผมว่าคุณคงไม่เหมาะกับงานที่นี่”

     

                    “เอ๊ะ!!!?

                    แจจุงถึงกับทำตาโตด้วยความตกใจ นี่เขากำลังจะโดนยุนโฮไล่ออกอย่างงั้นหรือ? ไม่นะ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด!!!

     

                    “ลาออกซะ”

     

                    “ตะแต่ว่า!

     

                    ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าตื่นตระหนกของคนตรงหน้าก่อนที่จะยกยิ้มที่มุมปาก

                    “ไม่งั้นผมก็จะไล่คุณออก”

     

                    คนคนนี้แตกต่างจากคนทั่วไป แม้จะดูไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไรมากนัก แต่ท่าทางแปลกๆ ตื่นตระหนกเหมือนคนประสาทหลอนนั่นก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้เขากำจัดคนคนนี้ออกจากห้างของเขา

     

                    แจจุงยืนทำหน้าเครียด อะไรกัน! เขาเพิ่งทำงานที่นี่ได้แค่สองวันเองนะ อุตส่าห์ได้มาอยู่ข้างๆ ยุนโฮแล้วแท้ๆ แล้วเขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย เขายังไม่ทันได้ทำอะไรให้ยุนโฮไม่สบายใจเลยนะ จะมาไล่เขาออกแบบนี้ได้ไง!

     

                    “ว่าไงคิมแจจุง คุณเลือกทางไหน”

     

                    “…….เลือก……

                   

                    ยุนโฮเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเขาได้ยินคำตอบจากคนตรงหนาไม่ค่อยชัดนัด

                    “ว่าไงนะ?

     

                    แจจุงสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อรวบรวมความกล้าก่อนที่จะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแม้ว่าในดวงตาจะมีแววหวาดหวั่นอยู่ก็ตาม

                    “ผมไม่เลือก!

     

                    “………………..

     

                    “ผมจะทำงานที่นี่ต่อ!!

     

                    “………………..

     

                    “ให้ผมทำงานที่นี่เถอะนะครับ ผมรับรองเลยว่าผมต้องมีประโยชน์กับคุณมากแน่ๆ”

     

                    “อะไรทำให้นายมั่นใจขนาดนั้น”

                    หมอนี่เนี่ยนะจะมามีประโยชน์กับเรา คนเปิ่นๆ แบบนี้มองยังไงก็หาคำว่า ประโยชน์ไม่เจอ

     

                    “คือ……

                    แจจุงเม้มปากแน่น เขาก้มหน้ามองปลายเท้าของตัวเอง นั่นซิคนอย่างเขาจะไปทำอะไรให้ห้างดังแบบนี้ได้นะ การเรียนก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ความสามารถก็คงจะสู้คนอื่นเขาไม่ได้ ทำได้ดีที่สุดก็คือเรื่องการทำอาหารกับงานบ้าน และก็…..

     

                อ๊ะ! จริงซิเขามีอย่างหนึ่งที่แตกต่างจากคนทั่วไปนี่นา

     

                    ใบหน้าขาวใสค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแน่วแน่

     

                    “ผมจะช่วยปราบผีให้คุณ!”           

                    เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่แจจุงคิดว่าตัวเองน่าจะทำได้เป็นอย่างดี เขาจะช่วยเคลียปัญหาต่างๆ กับคุณผีให้กับชองยุนโฮเอง

     

                แต่คนที่ไม่เชื่อเรื่องภูตผีปีศาจอย่างชองยุนโฮนี่จะต้องการคนมาช่วยปราบผีมั้ยนะ?

                   

     

    TBC ^----------^*

     

    *******************************************************

     

    Talk : )

     

    สวัสดีค่ะ
    มุกมาแล้วววววววววววววว
    มีใครรออ่านเรื่องนี้อยู่มั้ยนะ?

    ใกล้จะฝึกงานเสร็จแล้วค่ะ แต่ยังเรียนไม่เสร็จ แต่ก็ใกล้จบแล้ว
    ใกล้ต้องออกไปหางานทำแล้วอ่ะ T^T
    ต้องโตเป็นผู้ใหญ่แล้วซิเนอะ แง……

    พูดถึงฟิคกันดีกว่า
    พาร์ทนี้เป็นตอนของยุนแจค่ะ
    ยุนแจเค้าเจอกันแบบจริงๆ จังๆ แล้วนะ หลังจากที่พี่ยุนก้มหน้ามาหลายตอน 5555 สมใจคนอ่านยังคะ?
    ส่วนคู่ยูซู มาตอนหน้านะ
    และที่สำคัญ พาร์ทนี้ชางมินปรากฏตัวแล้ว เย้!!
    ชางมินผู้ได้รับบทเด่น แปลกตากว่าคนอื่น 55555

    ฝึกงานเสร็จจะรีบมาแต่งอย่างรวดเร็วค่ะ

    ใครที่อยากพูดคุยกับมุก นี่ช่องทางค่ะ สอบถามเรื่องฟิค ทวงฟิค อยากได้ฟิคที่มุกเคยรวมเล่มเอาไว้ก็ทวิตเตอร์เลย
    Twitter >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE  
    E-mail >>> mookiie_jong@hotmail.com

    ขอบคุณทุกๆ คนที่กดเข้ามาอ่านนะคะ
    แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะทุกคน

    ^---------------------------------^*

     

    *******************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×