คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ,,, Part 3 ,,, ฝากตัวด้วยนะ ที่รัก
Title : Smartly Boy
Type : Long fiction
Author : *..MooKiiE..*
Category : Comedy / Romance
Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
Part 3
ตลอดระยะทางที่เดินกลับบ้านด้วยกันนั้นแจจุงก็เอาแต่บ่น บ่น บ่น และก็บ่น ถ้าอยากให้ดูพิเศษขึ้นมาหน่อยก็อาจจะมีคำสาปแช่งหลุดออกมาจากริมฝีปากสวยนั่นให้คิม จุนซูได้ยินอยู่เป็นระยะๆ เค้าหละอยากจะถามจริงๆเลยว่าพี่ยุนโฮเพื่อนที่พี่ยูชอนสนิทด้วยที่สุดนั้นไปทำอะไรให้แจจุง เพื่อนของเค้าถึงได้โกรธเป็นฝืนเป็นไฟขนาดนี้ กำลังจะอ้าปากถามก็จะถูกกลบด้วยคำด่าทอที่เพื่อนรักนั่นด่าคู่กรณีของตนเองอยู่ จุนซูเลยตัดสินใจว่าจะรอให้แจจุงอารมณ์เย็นลงกว่านี้สักหน่อยแล้วจึงค่อยถามน่าจะดีกว่า
ใช้เวลาไม่นานมากนักชายหนุ่มทั้งสองคนก็เดินทางมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านอาหารที่มีขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป สถานที่แห่งนี้ก็คือบ้านของแจจุงนั่นเอง บ้านของแจจุงทางด้านชั้นล่างถูกจัดสรรให้เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศที่ดูอบอุ่นให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมานั่งทานข้าวที่บ้านของตนเองอย่างไงอย่างงั้น ด้วยโทนสีที่ดูสบายตา ประกอบกับแสงไฟที่ดูจะออกสีนวลๆ ทุกองค์ประกอบที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีแล้วนั้นก็สามารถทำให้บรรดาลูกค้าหลายคนที่เคยแวะเวียนมาทานอาหารที่นี่ต่างก็พากันติดใจและอยากจะมานั่งทานอาหารที่นี่อีกหลายๆครั้งเป็นแน่แท้
เสียงกรุ้งกริ้งของกระดิ่งหน้าประตูเป็นสัญญาณบ่งบอกให้คนในร้านได้รู้ว่ามีคนเปิดประตูเข้ามา คิม มุนอาที่กำลังจัดการกับรายการอาหารอยู่ที่หน้าเคาเตอร์เงยหน้าขึ้นมามองแขกที่เปิดประตูเข้ามา แต่พอเห็นว่าเป็นใครรอยยิ้มอ่อนหวานก็ถูกส่งมาให้กับลูกรักทันที
“ กลับมาแล้วครับ. .......” เสียงทักทายที่ฟังดูจะเอือยๆอยู่สักเล็กน้อย เอ่ยทักทายกับคนเป็นแม่ที่ตอนนี้กำลังยืนยิ้มอยู่ที่เคาร์เตอร์ แจจุงไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่ทันที ก่อนจะหอมแก้มซ้าย และ แก้มขวาของแม่ตนอย่างที่ทำอยู่ทุกๆวัน มือเรียวบางถูกส่งไปลูบหัวของลูกรักอย่างรักใคร่ ก่อนจะหันไปสนใจกับใครอีกคนที่ดูจะมาบ้านหลังนี้เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะบ้านของจุนซูนั้นก็อยู่ซอยถัดไปจากซอยของบ้านเค้านี่เอง
“ หวัดดีจ๊ะหนูจุนซู วันนี้จะทานอะไรก่อนมั้ย แม่จะได้จัดให้ “ เพราะความที่ว่าทุกครั้งที่จุนซูมาที่นี่ก็มักจะมาทานอาหารเย็นที่บ้านหลังนี้พร้อมกับเค้าแล้วแจจุงด้วยเลย วันนี้ก็คงจะเหมือนกับทุกๆวัน
“ อ๊า....!! วันนี้ผมขอทานเค้กลองท้องก่อนแล้วกันนะครับ. .. รบกวนด้วยครับ ^^ “ จุนซูส่งยิ้มจนดวงตาที่เล็กอยู่แล้วนั้นตอนนี้มันแทบจะปิดจมหายไปกับใบหน้านั่นเลย ให้กับแม่ของแจจุง ก็เค้ามาบ้านของแจจุงออกจะบ่อย คงไม่ต้องมานั่งเกรงใจให้เสียเวลาหรอก เพราะยังไงคุณแม่ของแจจุงก็ต้องให้เค้าทานอะไรสักอย่างอยู่ดีนั่นแหละ
“ ได้จ๊ะ วันนี้แม่ทำเค้กส้มไว้พอดีเลย หนูนั่งรอตรงนี้ก่อนละกันนะ เดี๋ยวแม่จะไปเตรียมมาให้ และส่วนเราแจจุง ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปลูก วันนี้ลูกค้าไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ หนูไม่ต้องมาช่วยแม่หรอก อยู่คุยเล่นกับจุนซูไปก็แล้วกันนะ “ นางมุนอาเอ่ยบอกเพื่อนสนิทของลูกรักด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปสั่งกับลูกของตนเองที่ตอนนี้กำลังทำตัวเป็นปลิงเกาะติดหนึบอยู่ที่เอวบางๆของเธอ
“ ครับแม่ เดี๋ยวผมจะรีบไปทำตัวให้หอมฟุ้งแล้วจะรีบลงมาให้แม่หอมทันทีเลยนะ “ ว่าแล้วก็ผละออกจากร่างของมารดาก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปทางหลังร้านซึ่งมีบันไดเชื่อมต่อขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน
หลังจากที่ทำตัวเองให้หอมฟุ้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว แจจุงก็รีบพาตัวเองลงมาหาเพื่อนรักที่ตอนนี้กำลังนั่งกินเค้กส้มอยู่ในห้องครัวของเค้าอย่างเอร็ดอร่อย
“ แหม๋ๆ กินของฟรีร้านชั้นนี่มันอร่อยมากเลยใช่มั้ย ถึงได้มาฝากท้องไว้ที่นี่เนี่ย ไม่ย้ายมาอยู่ที่บ้านชั้นเลยหละ “ อดไม่ได้ที่จะแกล้งแหย่คนที่กำลังนั่งเอาช้อนจิ้มตักขนมเค้กเข้าปากอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน
“ แจจุงอ่ะ!! ก็เค้าชอบฝีมือการทำอาหารของแม่แจจุงนี่นา . ... แต่ถ้าชั้นย้ายมาอยู่บ้านนายได้จริงก็ดีหนะซิ อิอิ ของกินอร่อยๆๆเพียบเลย “ ว่าจบแล้วก็หันไปสนใจกับเค้กในจานต่อ แจจุงนั่งเท้าแขนมองหน้าเพื่อนรักที่ดูจะมีความสุขเสียเหลือเกิน แต่แล้วอยู่ดีๆจุนซูก็รีบเงยหน้าขึ้นมาแล้วจ้องมองเค้าตาแป๋วก่อนจะเอ่ยปากถามขึ้นมา
“ เออ นี่แจจุงนายกล้าดียังไง ถึงไปต่อยหน้าพี่ยุนโฮเค้าแบบนั้นหนะ “
เออ เค้าก็เกือบจะลืมวีรกรรมของตนเองไปแล้วนะเนี่ย ถ้าจุนซูไม่พูดขึ้นมาเนี่ย แจจุงมองหน้าเพื่อนรักที่ตอนดูจะลุ้นกับคำตอบของเค้าเสียเหลือเกินดวงตาเรียวเล็กจ้องมองมาที่เค้า ส่วนปากเล็กๆนั้นก็มีช้อนที่โดนงับคาไว้อยู่ไม่ยอมเอาออกเสียที แจจุงจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่ห้องพยาบาลนั้นตั้งแต่ตั้นจนจบ อย่างละเอียดให้จุนซูฟัง เมื่อเล่าจบจุนซูก็นั่งนิ่งไปซักพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้ากับตัวเองเบาๆ
“ นายก็เห็นด้วยกับชั้นใช่มั้ยที่ชั้นต่อยอิตานั่นไปหนะ “ แจจุงรีบเอ่ยถามเพื่อนรักทันที เพราะยังไงเค้าก็คิดว่าจุนซูต้องเข้าข้างเค้าอยู่แล้ว
“ พี่เค้าชื่อว่า พี่ยุนโฮ “ จุนซูเอ่ยแก้ชื่อที่ควรจะถูกต้องออกไปให้เพื่อนรักฟัง
“ เออๆๆ นั่นแหละๆๆ มันจะชื่ออะไรมันก็คือไอ้หื่นเหมือนเดิม นายว่าชั้นทำถูกแล้วใช่มั้ยจุนซู นี่ชั้นว่าชั้นน่าจะต่อยมันให้แรงกว่านี้ด้วยนะ น่าเสียดายจริงๆ “ แจจุงอดจะเสียดายกับตัวเองไม่ได้ นี่เค้าน่าจะแก้แค้นไอ้รุ่นพี่นั่นแรงๆกว่านี้สักหน่อยน่าจะดีนะ
“ ถูกบ้าอะไร!! แจจุง แกจะบ้ารึไงเนี่ยห๊า!! ไปต่อยพี่ยุนโฮเค้าแบบนั้น แกไม่รู้รึไงว่าพี่เค้าเป็นใคร ถ้าเกิดเค้าไม่พอใจขึ้นมาเค้าไม่ไปบอกพ่อของเค้าให้ไล่แกออกจากโรงเรียนพอดีรึไงเนี่ย แจจุงนะ แจจุง “ จุนซูเอ่ยบอกเพื่อนรักด้วยอารมณ์ที่เห็นใจเพื่อนรักอย่างถึงที่สุด ถึงพี่ยุนโฮจะเป็นคนที่ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นเท่าไร่นักก็เถอะ แต่ถ้าพี่เค้าเกิดอยากไล่เพื่อนของเค้าออกจากโรงเรียนก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ใครๆก็รู้ว่าครอบครัวของพี่ยุนโฮหนะดังแค่ไหน แต่ก็จะเห็นว่าคงมีแต่เพื่อนเค้าคนนี้หละมั้งที่ไม่รู้ว่าพี่ยุนโฮหนะเป็นใคร
หลังจากที่ได้ฟังเพื่อนพูดแล้ว แจจุงก็แทบจะนิ่งค้างไปในทันที หมอนั่นมันมีอิทธิพลขนาดนั้นเลยหรอ แล้วนี่ เค้าจะต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียนมั้ย!! ตายแล้วๆ!! เค้าต้องทำยังไงล่ะทีเนี้ย โอ๊ย!! ตั้งแต่เจอกับอิตานั่นทำไมชีวิตของเค้านั้นถึงได้ดูว่าจะวุ่นวายแบบสุดๆไปเลยล่ะ ต้องหาวิธีๆ แต่แล้วอยู่ๆเพื่อนรักที่กำลังนั่งแคะเล็บอยู่ฝั่งตรงข้ามก็พูดหาหนทางที่ดูจะช่วยเหลือเค้าได้มากที่สุดแล้วในเวลานี้
“ นายก็แค่ ... ไปขอโทษพี่ยุนโฮเค้าซะซิ “
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
ย่านใจกลางของกรุงโซล ในแหล่งที่มีสถานบันเทิงรายล้อมอยู่ทั่วไปหมด ทั่วท้องถนนเหล่าบรรดาคนชอบแสง สี และเสียงตอนกลางคืนต่างพากันออกมาหาความสุขใส่ตัวกันเต็มที่ เสียงอึกกะทึกครึกโครมของเสียงเพลงของสถานเริงรมย์ของแต่ละร้านที่ถูกเปิดออกมาแข่งขันกันเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านของตนให้มากที่สุด เป็นสิ่งที่ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งที่ไม่เคยหลับใหล
ณ บาร์หรูแห่งหนึ่ง ที่แห่งนี้มักจะมีแต่ผีเสื้อราตรีชั้นสูงเท่านั้นที่จะได้ย่างก้าวเข้ามาเยี่ยมชม เพาะค่าบริการของร้านแห่งนี้ไม่ใช่ถูกๆเลย แถมยังต้องมานั่งเสียค่าสมาชิกที่ถ้าไม่รวยจริงอาจจะไม่มีข้าวจะกินไปทั้งเดือนเลยก็ว่าได้ สถานที่แห่งนี้มักจะเป็นที่ที่ยุนโฮและเพื่อนๆสมาชิกในกลุ่มแวะเวียนมาเที่ยวมากว่าสถานที่อื่นๆ เหตุผลก็เพราะว่าผู้หญิงที่นี่เกรดค่อนข้างที่จะดีกว่าที่อื่นๆนั่นเอง และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนหนึ่งที่กลุ่มคนหล่อกลุ่มนี้ได้มานั่งรวมตัวกัน หลังจากที่ยุนโฮโดนต่อย ทุกๆคนต่างก็ลงเสียงเห็นพ้องต้องกันหมดว่าให้ยุติการแข่งบาสแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านไปอาบน้ำ ก่อนจะมานั่งสังสรรค์ตามประสาคนมีอันจะกินกันที่นี่
“ แกว่าไงนะคิมบอม แกรู้จักแจจุงงั้นหรอ? “ เสียงของยุนโฮที่เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงที่แปลกใจเล็กน้อย เมื่อเพื่อนในกลุ่มของเขาเอ่ยถึงคนสวยที่ต่อยเขาาเมื่อตอนเย็นขึ้นมา
“ ก็ ... ไม่เชิงว่ารู้จักหรอกว่ะ เคยได้ยินดงเฮพูดถึงอยู่เหมือนกัน เพราะดงเฮของชั้นนี่ดูจะปลื้มแจจุงซะเหลือเกิน พอได้เรียนห้องเดียวกันก็เลยมีเรื่องเล่าให้ชั้นฟังเยอะ “
“ เรื่องเล่า ...? “ ยุนโฮเลิกคิ้วขึ้นถามเล็กน้อย มีเรื่องเล่าอะไรกันว่ะ
“ ก็เรื่องเล่าที่นายน่าจะรู้ดีที่สุดไงล่ะไอ้ยุนโฮ ... “ คิบอมพูดพลางยกแก้วที่มีน้ำสีอำพันขึ้นมาดื่ม
“ เรื่องอะไรว่ะไอ้คิบอม แกพูดให้เคลียๆหน่อยซิ พวกกูที่นั่งหัวโด่อยู่เนี่ยรอลุ้นจนจะเลิกลุ้นแล้วนะเว้ย ท่าเยอะเสียจริง “ ไม่ต้องให้ถึงยุนโฮ ปาร์ค ยูชอนผู้ซึ่งกำลังนั่งรอฟังคำตอบของคิบอมอีกคนหนึ่งก็เอ่ยสวนขึ้นมาก่อน
“ ก็เรื่องที่สวย แต่ดุยังไงล่ะ “ คิบอมทำเป็นเมินเฉยต่อเสียงด่าของยูชอน หันมาเฉลยคำตอบให้กับเพื่อนรักอีกคนหนึ่งที่ประสบพบเจอกับเหตุการณ์นี้ด้วยตนเองฟัง
“ หึ!! จะดุได้สักแค่ไหนกัน “ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยขึ้นเมื่อได้ฟังคำตอบของเพื่อน
ชอง ยุนโฮ ถือว่าเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมไปเสียทุกข์อย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่ถูกสรรค์สร้างมาอย่างดี ชาติตระกูลนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถ้าเอ่ยถึงตระกูลชองแล้วจะมีใครสักกี่คนที่จะไม่รู้จัก ตระกูลที่มีทรัพย์สินมากเป็นอันดับต้นๆของเกาหลี ธุรกิจใหญ่ๆมากมายต่างก็ต้องมีชื่อของตระกูลชองเป็นหุ้นส่วนด้วยกันทั้งนั้น และด้วยเหตุผลพวกนี้แหละที่ทำให้ใครๆต่างก็พากันอยากเป็นคู่ควงของยุนโฮ ขอแค่ได้คบกันเพียงวันเดียว พวกเธอก็ยอม แหม๋... ก็อย่างน้อยก็ยังเอาไปอวดคนอื่นๆได้นี่นา ว่าเคยเป็นคนที่ยุนโฮเลือกคบ ความสัมพันธ์ต่างๆที่ยุนโฮเคยมีกับคู่ควงทุกคนนั้นก็แค่ชั่วคราว ไม่ยั่งยืน อย่างมากสุดก็อาจจะ1เดือน น้อยสุดก็ชั่วโมงเดียวก็เกินพอแล้ว ถ้าเค้าไม่อยากจะสานต่อ เพราะสามารถเลือกได้ ยุนโฮเลยไม่จำเป็นต้องง้อให้ใครมาสนใจเค้า ใครๆก็จะพากันวิ่งเข้ามาหาเค้ากันทั้งนั้น แต่ใช่ว่าคนอย่างเค้าจะไม่เคยมีรักจริงๆกับใครเค้านะ เค้าก็เคยมีเหมือนกันนั่นแหละ และอาจจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เค้าจะสามารถรักได้ก็ได้ แต่มันก็จบลงไปแล้ว จะไปนั่งเศร้าให้เสียเวลาไปทำไม ยังคงมีคนรอคอยให้เค้าไปสนใจอีกตั้งมากมาย และในตอนนี้ คนที่เค้าสนใจมากที่สุดก็คือ ‘ แจจุง ‘
หลังจากที่นั่งถามคิบอมว่ารู้อะไรเกี่ยวกับแจจุงบ้าง ตอนนี้ยุนโฮก็ได้ข้อมูลมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่มันก็คงจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเค้าหรอก เพราะว่าพรุ่งนี้เค้าจะบุกไปหาแจจุงถึงห้องเลยนะซิ
“ เอ่อ ขอโทษนะค่ะ ขอชั้นนั่งด้วยคนได้มั้ย “ เสียงของสตรีคนหนึ่งเอ่ยขึ้นทักยุนโฮที่กำลังนั่งคิดอะไรอยู่ให้เงยหน้าขึ้นไปมอง ยุนโฮเพียงส่งยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะตอบตกลงออกไป
“ เชิญเลยครับตักผมยังว่าง “ เห็นมั้ยล่ะ .... ไม่ต้องเข้าไปหาให้เสียเวลา เดี๋ยวก็จะเดินเข้ามาหาเค้าเองกันทั้งนั้น สงสัยคืนนี้เค้าคงจะได้เธอคนนี้กลับไปสร้างประสบการณ์บนเตียงเสียหละมั้ง
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
วันนี้แจจุงมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติทุกวัน เพราะมีเรื่องจะต้องมานั่งคิดให้ปวดสมองอยู่นี่ไงล่ะ เค้าถึงต้องรีบแหกขึ้หูขี้ตางัดตัวเองออกมาจากที่นอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง กันยังไม่ขัน ขนาดมาเช้าแล้วนะดูเหมือนเหตุการณ์ที่เค้าต่อยไอ้หน้าหมีนั่นไปจะกระจายไปทั่งทั้งโรงเรียนแล้วเป็นแน่ เพราะตลอดทางเดินก็จะมีแต่สายตาที่ทิ่มมองมาทางเค้า มันทำให้เค้ารู้สึกว่าตัวเองคงจะทะลุไปแล้วถ้าสายตาพวกนั้นเป็นลูกกระสุน นี่เค้าจะต้องไปขอโทษไอ้บ้านั่นจริงๆหรอเนี่ย ทั้งๆที่เค้าเป็นฝ่ายเสียหายเนี่ยนะ แต่ถ้าเค้าไม่ขอโทษ เค้าก็อาจจะโดนไล่ออกจากโรงเรียนก็ได้ฮึ่ย!! ไม่มีวิธีอื่นรึไงว่ะ คิดมาจนหัวแทบจะระเบิดแล้วเนี่ย ทำไมคนอื่นๆถึงรู้จักตาชอง ยุนโฮนั่น แล้วทำไมมีเค้าคนเดียวที่ไม่รู้ว่าอิตานั่นมันเป็นใคร สงสัยเพราะเค้าไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยแน่เลย มันถึงส่งผลซวยมาหาเค้าเช่นนี้เนี่ย รู้อย่างงี้น่าจะหัดฟังเรื่องที่จุนซูมันพูดไว้บ้างน่าจะดี ฮื่อออออ คิม แจจุงเศร้า!!
ครืด!!!
กำลังนั่งพร่ำเพ้อกับตัวเองอยู่ดีๆ แจจุงก็แทบจะหงายหลังตกเก้าอี้เพราะอยู่ๆประตูห้องก็ถูกเดออกอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง แต่สิ่งที่ทำให้แจจุงค้างนิ่งแทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเองเลยนั่นก็คือ ชอง ยุนโฮ!!! หมอนั่นมันเป็นคนเปิดประตูเข้ามาแถมยังเดินยิ้มหน้าบานมาหาเค้าอีกต่างหาก อะไรกันเนี่ย นี่มันรู้ได้ไงว่าเค้าอยู่ห้องนี้ แถมมาถูกเวลาซะอีก
“ หวัดดีครับ แจจุง “ ยิ้มมีเสน่ห์ถูกส่งไปให้กับคนที่กำลังนุ่งนิ่งไม่ไหวติงเนื่องจากช็อคอยู่
แจจุงรีบเรียกสติของตัวเองให้กลับมาให้เร็วที่สุด ก่อนจะรีบเอ่ยปากถามกับคนตรงหน้า
“ นะ นายมาที่นี่ทำไม!! “
“ ก็ มาหาคุณยังไงล่ะ เมื่อวานคุณต่อยผมจำไม่ได้หรอ ดูซิ ยังเป็นรอยอยู่เลย เห็นมั้ย “ ว่าแล้วก็แกล้งก้มหน้าเข้าไปใกล้คนสวย ทำเป็นว่าจะให้แจจุงดูแผล แต่ที่จิงแล้วก็แค่ยั่วอารมณ์แจจุงเล่นแค่นั้นแหละ
“ ถอยไปเลยนะ ถ้าไม่อยากโดนอีกหมัดหนะ “
“ แจจุงไม่กล้าทำผมหรอก เพราะถ้าทำ ... แจจุงก็จะโดน .. โดนอะไรที่แจจุงน่าจะรู้อยู่แล้วหละนะ “ คำว่าโดนที่ยุนโฮหมายถึงหนะหมายถึงโดนจูบ
แต่แจจุงนี่ซิ กลับคิดไปอีกแบบนึง ในความคิดของแจจุงคำว่าโดนมันก็หมายความว่า .... เค้าจะโดนไล่ออกนะซิ!! ไม่นะๆ!! แจจุงรู้สึกว่าตตอนนี้ในหัวของเค้ามันอื้อไปหมดแล้ว รู้แต่ว่าตอนนี้เค้าคงต้องรีบหาวิธี วิธีไหนดีล่ะๆ เอะ!? จุนซูบอกให้เราขอโทษอีตานี่ ใช่!! ใช่แล้ว ขอโทษแล้วอะไรอาจจะดีขึ้นก็ได้
“ อะ เอ่อ ... นาย นายอย่าไล่ชั้นออกจากโรงเรียนนี้เลยนะ ขอร้องล่ะ “
ยุนโฮเลิกคิ้ว มองอาการของคนสวยที่อยู่ๆก็พูดขอร้องไม่ให้เค้าไล่เจ้าตัวออกจากโรงเรียน เค้ายังไม่ได้บอกเลยว่าจะไล่แจจุงออก เอะ!? นี่แจจุงนึกว่าเค้าจะไล่แจจุงออกงั้นเหรอ คิดได้ไงเนี่ย!! ถึงครอบครัวเค้าจะมีชื่อเสียงแคไหนก็ตาม แต่พวกเค้าก็ไม่ได้คิดจะใช้มันในทางที่ผิดหรอกนะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แล้วยิ่งกับคนสวยตรงหน้านี่ก็แล้วใหญ่ ไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในสมองเลยต่างหาก
“ ชั้น เอ่อ ....... ชั้นขอโทษที่ต่อยนายเมื่อวาน!! “ และในที่สุดแจจุงก็ทำใจกล้าเอ่ยคำขอโทษออกมาจนได้ ขอร้องล่ะ หายโกรธชั้น แล้วก็ไม่เอาเรื่องชั้นทีเถอะ เพี้ยง!!
ยุนโฮมองอาการของคนตรงกน้าแล้วก็แอบขำไม่ได้ คนอะไรน่ารักชะมัด!! อืมมมม. ..ไหนๆ แจจุงก็คิดว่าจะโดนเค้าไล่ออกจากโรงเรียนแล้ว เล่นไปตามบทที่อีกฝ่ายมอบให้สักเล็กน้อยดีกว่า
“ ทำไมชั้นถึงต้องฟังคำขอโทษจากนายด้วยล่ะ ในเมื่อนายก็ต่อยชั้นมาแล้ว แถมเป็นแผลเห็นชัดซะด้วยซิ “
เห็นชัดบ้านแกซิ ชั้นเห็นว่ามันเป็นสีเดียวกับหน้านายนั่นแหละอิตาบ้า!! ถ้าเป็นปกติแจจุงก็คงจะตอบออกไปแบบนั้น แต่ตอนนี้เค้ากำลังตกเป็นรองอยู่ต้องเก็บมันเอาไว้ในใจ ต้องเก็บมันเอาไว้ในใจ ท่องไว้แจจุง ท่องไว้!!
“ ก็ชั้นขอโทษนายแล้วไง หรือถ้านายยังไม่พอใจจะให้ชั้นทำอย่างอื่นก็ได้ แต่อย่าไล่ชั้นออกเลยนะ “
นั่นไง เข้าทางเค้าแล้ว!! ยุนโฮเผลอหลุดยิ้มร้ายออกมาเมื่อแจจุงเอ่ยบอกสิ่งที่ตนกำลังคิดว่าอยากจะให้อีกฝ่ายเผลอพูดมันออกมา
“ นายแน่ใจนะ ว่าจะทำตามที่ชั้นบอกได้หนะ “ ยุนโฮก้าวเท้าเข้ามาหาแจจุงมากยิ่งขึ้น ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่นิ้ว
“ อะ เอ่อ ... ใช่ ชั้นแน่ใจ “ ไม่น่าเลยจริงๆ ไม่น่าเผลอพูดออกไปเลย หวังว่าอิตานี่คงไม่พาเค้าไปปล้ำ หรือ ใช้งานให้เค้าทำอะไรพิลึกๆหรอกนะ สาธุ!! โปรดเห็นใจลูกทีเถอะ
“ งั้น ....สิ่งที่นายต้องทำก็คือ .... .....”
ตึก ตึก ตึก ตึก ตอนนี้เสียงกลัวใจของแจจุงเต้นแรงจนจะระเบิดออกมาจากอกอยู่แล้ว กลัวว่าคนตรงหน้าจะคิดอะไรที่ผิดมนุษย์มนา
“ ไม่ว่าเมื่อไหร่ เวลาไหน หรือนายจะทำอะไรอยู่กับใคร ถ้าเพียงแค่ชั้นโทรตามนาย นายก็ต้องมาทันที แค่นี้..... นายทำได้รึป่าว? “
อ๊ากกกกกกกกก!!!! ไอ้บ้า แกจะไม่ให้ชั้นไปเป็นคนใช้ส่วนตัวแกเลยล่ะ ไม่ว่าชั้นจะทำอะไรที่มันคอขาดบาดตายอยู่ก็ต้องรีบทิ้งงานนั้นแล้วมาหาแกเนี่ยนะ เห็นแก่ตัวที่สุด!!!!!!
เมื่อเห็นว่าคนสวยกำลังลังเลใจที่จะตอบตกลง ยุนโฮก็ยิ่งเพิ่มตัวเร่งเข้าไปให้คนสวยได้วิตกกังวลเล่นๆเข้าไป
“ ไม่เป็นไรนะ ถ้านายลำบากใจ ก็แค่ ... หาที่เรียนใหม่เอง ... อืม งั้นชั้นไปล่ะ “ ว่าแล้วก็แกล้งหันหลังเตรียมตัวกำลังจะก้าวเดินออกไปจากห้อง แต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงเรียกของใครอีกคน และทันทีที่ได้ฟังคำตอบที่หลุดออกมาจากกลีบปากสวยนั่น รอยยิ้มห้ามยากก็ผุดขึ้นมาทันที
“ กะ...ก็ได้ ชั้นตกลง!! “ ในเมื่อไม่มีทางเลือก และไม่อยากหาที่เรียนใหม่ ยังไงก็ต้องอดทนทำ สู้!!โว๊ย คิม แจจุง!!
“ ก็ดีงั้นเอามือถือนายมาซิ “ แจจุงจำใจควักมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วส่งมันให้กับคนตรงหน้า
เรียวนิ้วกดจิ้มเบอร์ของตนเองก่อนจะกดปุ่มโทรออก เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้นิ้วเรียวกดตัดสายทิ้งทันที ก่อนจะจัดเก็บเบอร์ของตนเองลงมือถือของคนร่างบาง เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ยุนโฮก็ส่งเจ้าโทรศัพท์เครื่องน้อยคืนให้กับเจ้าของที่ยืนหน้าเซง เหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ
“ ห้ามคิดจะปิดเครื่องหนี ถ้าชั้นโทรไปอล้วไม่ติด สัญญาของเราถือว่าเป็นโมฆะทันที “ เมื่อพูดจบแล้วก็ก้าวเท้าเดินออกจากห้องทันทีแต่ก็มิวายส่งคำพูดเย้าแหย่คนร่างบางเป็นการทิ้งทาย
“ ฝากตัวด้วยนะ ที่รัก !! “
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
Talk ::
เอามาลงให้ลองอ่านกันดูนะค่ะ ชอบหรือไม่ชอบบอกได้น๊า. . .. ^^
ความคิดเห็น