คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ,,, Part 2 ,,, แจจุงจะรุกยุนโฮ!
Title : Motivation ❤ Love
Type : Long fiction
Author : *..MooKiiE..*
Category : Comedy / Romance
Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
Note : เรื่องนี้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้ต้องการให้บุคคลที่อยู่ในฟิคเรื่องนี้เสียหายแต่อย่างใด เนื้อหาก็จะเกี่ยวกับ Boy’s loveนะค่ะ ถ้าใครไม่ชอบก็กรุณากดปิดลงไปเลยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ ^ ^
*******************************************************
เรื่องนี้ยังไม่มีเรทติ้งขึ้นเลย ช่วยโหวตหน่อยนะค่ะ ><
Part 2
“จะเป็นอะไรไหมถ้าผมจะขอจีบคุณ ณ ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”
“ตรงมากปาร์ค! ทำอย่างกับว่าถ้าพูดช้าไปกว่านี้สักนิดหนึ่งจะอดลากยัยก้นบวมนี้ไปปล้ำอย่างนั้นแหละ”
แจจุงที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่กับชางมินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มกว้าง อะไรๆ ก็ดูจะเข้าทางเขาไปเสียหมด
“เดี๋ยวก็โดนตอกกลับมาจนหน้าหงาย”
ชางมินส่ายหัวอย่างระอาให้กับความหน้าด้านของเพื่อนตนเอง มันคงจะคิดว่าทุกคนจะต้องหลงความหล่อของมันซินะ ถึงได้กล้าเดินเข้าไปขอจีบเขาโต้งๆ แบบนี้
แจจุงและชางมินยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ โดยที่ไม่คิดจะเดินเข้าไปแทรกบทสนทนาของคนทั้งคู่แต่อย่างใด
ดวงตาเรียวเล็กมองใบหน้าของคนที่เพิ่งจะเดินเข้ามาขอจีบตนเองด้วยสายตามึนงง เขาค่อยๆ กวาดสายตามองดูคนร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะลงมาจรดปลายเท้า ก่อนที่จะวกกลับไปมองใบหน้าของคนที่ยังคงยืนยิ้มให้กับตนเองอยู่ ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดออกมา
“หน้าตาก็ดีนะ แต่ท่าทางจะเป็นบ้า”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของคนตัวเล็ก ปาร์คยูชอนที่กำลังยืนยิ้มหวานอยู่นั้นถึงกับยิ้มค้างกันไปเลยทีเดียว ตั้งแต่เกิดมาจนอยู่รอดเป็นชายหนุ่มที่มีนามว่าปาร์คยูชอนจนถึงตอนนี้ ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เขาจะโดนด่ากลับมาเพราะเดินเข้าไปจีบคนคนนั้น มีแต่รีบนำเสนอตัวเองแบบสุดฤทธิ์ แต่นี่มันอะไรกัน นอกจากจะโดนปฏิเสธแล้วยังโดนด่าว่าเป็นบ้าอีก!!
แต่ถึงจะโดนด่าว่าบ้าเขาก็ต้องทำใจดีสู้เสือต่อไป ถ้าถอดใจง่ายๆ ก็ไม่ใช่ปาร์คยูชอนล่ะซิ
“เอ่อ... ดูเหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดนะครับ ผมปกติดี ไม่ได้เป็นคนบ้าแต่อย่างใด”
“งั้นนายก็คงจะเป็นคนที่ไม่น่าคบและไม่ควรเสวนาด้วยที่สุด!”
“อ้าว? ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ”
งงเลยปาร์ค มีคนที่ไม่อยากจะคุยกับกูด้วยเว้ยเห้ย ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเจอเนี่ยแหละ
“อยู่ๆ ก็เดินเข้ามาขอจีบ นายตาบอดป่ะ ฉันเป็นผู้ชายนะเห็นมั้ย ผู้ชายเหมือนกับนายเข้าใจหรือเปล่า?”
จุนซูพูดด้วยใบหน้ายุ่งๆ เขาเริ่มจะอารมณ์เสียขึ้นมาแล้วนะ อยู่ๆ ก็โดนผู้ชายด้วยกันเดินมาขอจีบ!
“ไม่เห็นจะบ้าตรงไหนเลย ทีฉันยังชอบยุนโฮได้เลย ชิ๊!”
แจจุงแอบบ่นออกมาเบาๆ
“นายควรจะดีใจนะที่เขาพูดแบบนั้น เพราะมันแสดงว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับชองยุนโฮของนาย”
ชางมินที่มีสมองดีสามารถประมวลผลคำพูดของจุนซูออกมาเป็นผลลัพธ์ที่สุดแสนจะน่าพอใจให้แจจุงได้อย่างรวดเร็ว
แจจุงหันมามองชางมินตาวาว นั่นซิ! ถ้ายัยก้นบอลลูนพูดแบบนั้นก็แสดงว่า!!
“โหย!! นายนี่ฉลาดจริงๆเลยชางมิน”
“ฉันไม่ได้ฉลาดหรอก พอดีมีเพื่อนไม่ค่อยมีสมองคิดอะไรเอง มันก็เลยดูฉลาดไง”
ชางมินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม แอบจิกกัดด้วยท่าทีสบายๆ ตามสไตล์ของชิมชางมิน
“ด่าไปเถอะ ตอนนี้ฉันอารมณ์ดี ฉันไม่สนใจคำพูดของนายหรอก”
พูดแล้วก็หันหน้ากลับไปสังเกตเหตุการณ์ตรงหน้าต่อ ทีนี้คิมแจจุงก็จะสามารถรุกชองยุนโฮได้อย่างสบายใจไร้อุปสรรคใดๆ มาขัดขวาง อ๊าย! แค่คิดก็สุขใจแล้วแหะ
“ผมไม่ได้ตาบอด เพราะถ้าตาบอด ผมจะเห็นความน่ารักของคุณได้หรอ?”
ค่อยๆ หยอดทีละนิดๆ เดี๋ยวเหยื่อก็ตายใจเองนั่นแหละ
“บ้า!”
“และมันก็ไม่เห็นแปลกเลยที่ผมจะเดินเข้ามาจีบคุณ”
ยูชอนเดินเข้าไปใกล้จุนซูให้มากขึ้นกว่าเดิม เขาโน้มใบหน้าเข้าไปหาใบหน้ากลม ก่อนที่จะพูดออกมา
“ก็เพราะคุณมันน่ารัก ผมก็เลยต้องจีบ”
ทั้งๆ ที่บอกว่าคนตรงหน้านี้เป็นบ้าที่เดินเข้ามาจีบผู้ชายด้วยกัน แต่ทำไมเขาจะต้องไปใจเต้นกับคำพูดของผู้ชายด้วยกันแบบนี้ด้วยเล่า! สงสัยว่าเขาคงจะบ้าตามนายคนนี้ไปแล้ว ไม่ได้นะคิมจุนซู!! นายออกจะแมน แมนมาตั้งแต่เกิด จะมาหวั่นไหวกับผู้ชายได้ยังไง ไม่ได้ๆ เรียกสติกลับคืนมาเดี๋ยวนี้!
“ดูซิ ขนาดเขินก็ยังน่ารัก แก้มแดงหมดแล้ว น่าหอมจังเลยแหะ”
พูดอย่างเดียวไม่ว่า แต่ยูชอนดันโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มขาวๆ นั่นด้วยเสียนี่
ฟอด!!~
“หะ...เห้ย!!”
จุนซูรีบผลักคนที่บังอาจมาขโมยหอมแก้มให้กระเด็นออกห่างจากตนเองอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือขาวยกขึ้นจับแก้มข้างที่โดนยูชอนขโมยหอม ก่อนที่ดวงตาเรียวเล็กจะตวัดสายตาขึ้นมองคนร่างสูงที่ยังคงยืนยิ้มหน้าบานด้วยสายตาขุ่นเคือง
“อะ...ไอ้บ้า! นายหอมแก้มฉัน”
“อ่าฮะ แค่หอม ยังไม่ได้จูบ”
“นะ...นาย! นายทำผิดตามมาตราที่ 279 นายล่วงละเมิดทางร่างกายฉัน”
คนตัวเล็กโวยวาย
“พูดซะอย่างกับว่าผมไปข่มขืนคุณอย่างนั้นแหละ”
ยูชอนหัวเราะให้กับความน่ารักของคนตรงหน้า
“ฉะ... ฉันจะไปแจ้งความ!!”
“โอเค เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบคุณโดยการให้คุณมาเป็นแฟนผม แบบนี้ดีมั้ย?”
ยูชอนยังคงสนุกกับการแกล้งคนตัวเล็กอยู่ ก็ดูซิ ใบหน้ากลมๆ ที่กำลังแดงกร่ำเพราะความโกรธนั้นมันน่ารักจะตาย ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากแกล้ง
“ฮึ่ย!! นายมันตัวอันตรายจริงๆ ด้วย”
จุนซูยกนิ้วชี้หน้ายูชอน คนตัวเล็กหันหลังและรีบวิ่งไปที่ประตูบ้านของตนเองอย่างทันที แต่ก่อนที่จะได้เปิดประตูเข้าบ้านไป จุนซูก็หันหน้ากลับมาตะโกนบอกกับยูชอนที่ยืนยิ้มบางๆ และมองตนเองอยู่ว่า
“ไอ้โรคจิต! ฉันเป็นผู้ชาย และฉันก็แมนมากๆ ด้วย... อะ.. ไอ้บ้า!!”
แล้วคนตัวเล็กก็หายเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ทิ้งให้ยูชอนได้แต่ยืนยิ้มขำกับท่าทางตลกๆ ของคนตัวเล็กอยู่คนเดียว
“เล่นตัวแบบนี้ซิ มันถึงจะสนุก”
“ถูกใจล่ะซิ~”
แจจุงรีบเดินเข้ามาหายูชอนทันทีเมื่อเห็นว่าจุนซุหนีเข้าบ้านไปแล้ว
“โชคดีเจอเด็กนิติด้วยแหะ ระวังนะไปทำอะไรเขามากๆเข้า เดี๋ยวเขาจะฟ้องนายเอา”
ชางมินพูดขึ้นมาบ้าง
ยูชอนยกยิ้ม ดวงตาคมมองไปที่ประตูบ้านที่คนตัวเล็กเพิ่งจะเดินหายเข้าไป ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“หึ! หมอนั่นไม่มีทางฟ้องฉันหรอก เพราะฉัน... จะทำให้เขาสมยอม ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น”
.
.
.
.
.
เช้าวันจันทร์ที่แสนจะสดใส ที่มหาวิทยาลัยยองอินยังคงคึกคักไปด้วยเหล่านักศึกษาที่พากันเดินมาเป็นกลุ่มๆ และส่วนใครที่ยังไม่ถึงเวลาเรียนก็จะพากันนั่งเล่นพูดคุยกับเพื่อนๆ อยู่ที่หน้าตึกประจำคณะตนเอง แจจุง ยูชอน และชางมินก็เป็นหนึ่งในนั้น
หน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์ อันเป็นที่ประจำของคนทั้งสามคน กำลังมีเสียงหวานๆ ของใครบางคนคอยพูดนู่นพูดนี่ให้เพื่อนรักทั้งสองได้ฟัง แต่ไม่ได้รู้เลยว่าเพื่อนของตนเองนั้นไม่ได้สนใจฟังคำพูดของตนเองเลยแม้แต่น้อย ชางมินยกหนังสือการ์ตูนขึ้นมาอ่าน ส่วนยูชอนก็กำลังวุ่นอยู่กับการตอบเมนชั่นของสาวๆ ในทวิตเตอร์
“นายว่ายุนโฮเขาจะเรียนที่เดียวกับพวกเราหรือเปล่า?”
“แล้วพวกนายคิดว่าเขาจะเรียนคณะไหนอ่ะ ฉันจะได้เดินไปคณะพวกนั้นบ่อยๆ”
“เขาน่าจะเรียนนิเทศฯเนอะ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็จะได้เจอเขาบ่อยๆ”
“แล้วเขาจะไปกินข้าวโรงอาหารไหนกันนะ... นี่! พวกนายสองคนนะช่วยออกความคิดเห็นหน่อยซิ ให้ฉันนั่งพูดคนเดียวอยู่ได้!!”
“ว่าที่ผัวนาย ไม่ใช่ว่าที่เมียฉันซะหน่อย ทำไมฉันต้องช่วยนายคิดด้วยล่ะ”
ยูชอนเงยหน้าขึ้นมาตอบแจจุงสักเล็กน้อย ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปตอบเมนชั่นต่อ
“นายอยากรู้ก็เดินไปถามเขาซิ บ้านอยู่ข้างๆ กันแท้ๆ”
ชางมินพูดออกมาบ้าง
“ใครเขาจะกล้าเข้าไปถามกันเล่า!”
“พอๆ อย่าทำเป็นเขินเลย เห็นแล้วมันขัดลูกกะตาว่ะ”
“เขาออกจะเป็นคนขี้อายนะชางมิน~ ไม่กล้าทำอะไรในที่โจ่งแจ้งแบบนั้นหรอก”
แจจุงแกล้งทำเป็นบิดไปบิดมา เหมือนกับว่าตนเองกำลังเขินอยู่
“แล้วถ้าเป็นที่ลับสายตาคนล่ะ”
“จับมอมเหล้าแล้วก็ลากขึ้นเตียง!”
“โอเค ฉันว่านายคงจะได้ลากชองยุนโฮขึ้นเตียงเร็วๆ นี้แหละ หันไปดูนู่นซิ”
ชางมินพยักเพยิดหน้าให้แจจุงหันไปดูใครบางคนที่กำลังยืนอยู่หน้าตึกคณะนิเทศศาตร์
ใบหน้าขาวใสหันกลับไปมองทางด้านหลังของตนเอง ก่อนที่ดวงตากลมโตจะต้องเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าใครกันที่กำลังยืนหันซ้ายหันขวาอยู่ที่หน้าตึก
“ยุนโฮ!!”
และใครคนนั้นก็คือชองยุนโฮนั่นเอง ดูเหมือนว่าคนร่างสูงกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่
“ไม่ได้การล่ะๆ ฉันต้องรีบเข้าไปทักเขา เดี๋ยวชะนีแถวนี้จะคาบไปกินเสียก่อน ไปก่อนนะชางมิน ยูชอนเจอกันที่ห้องเรียนเลยนะ ฉันไปก่อนล่ะ!”
เมื่อพูดจบคนตัวเล็กก็จัดการถือกระเป๋าขึ้นมาแล้วรีบลุกออกจากเก้าอี้ที่ตนเองนั่งแล้ววิ่งเข้าไปหาคนร่างสูงอย่างทันที
ยูชอนหันไปมองแผ่นหลังบางของแจจุงที่กำลังวิ่งดุ๊กๆ ไปหายุนโฮที่หน้าตึก ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
“เสนอตัวสุดๆ”
“นานๆ จะเจอคนหล่อหลงเข้ามาให้ตอดก็อย่างนี้แหละ ไอ้แจจุงมันกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้สักวิหนึ่งจะอดได้ยุนโฮเป็นผัวน่ะ”
ชางมินมองดูแจจุงที่เดินเข้าไปคุยกับยุนโฮอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปอ่านหนังสือการ์ตูนต่อ
ส่วนทางด้านแจจุงที่รีบวิ่งเข้าไปหาคนร่างสูงนั้นก็รีบส่งเสียงเรียกยุนโฮเอาไว้ทันที เมื่อเห็นว่าคนร่างสูงกำลังจะก้าวขาเดินไปทางอื่น
“คุณยุนโฮ!!”
ร่างสูงชะงักขาไว้ที่เดิม ก่อนที่จะหันหน้ากลับมาเพื่อมองดูคนที่เรียกตนเองเอาไว้ ใบหน้าคมฉีกยิ้มขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่เรียกตนเองนั้นเป็นใคร
“อ้าว? คุณแจจุงนั่นเอง คุณเรียนที่นี่หรือครับ?”
แจจุงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของยุนโฮ คนสวยยิ้มกว้างก่อนที่จะพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ
“ใช่ฮะ แจจุงเรียนที่นี่ และนี่ก็คือคณะที่แจจุงเรียนอยู่”
คนสวยชี้นิ้วไปที่ตึกที่อยู่ตรงด้านหลังของพวกเขา
“จริงหรอ? ผมก็เรียนคณะนิเทศฯเหมือนกัน อ่า... บังเอิญจังเลยแหะ”
ยุนโฮว่าอย่างยิ้มๆ
‘โอ๊ะ!! ยุนโฮเรียนคณะเดียวกับเราด้วย อ๊าย~ พรหมลิขิตชัดๆ นี่แหละเนื้อคู่กันเห็นๆ’
“นั่นซิฮะ พรหมลิขิตชัดๆ เอ้ย! ไม่ใช่ บังเอิญมากๆ เลยเนอะ อ่า... แล้วยุนโฮเรียนอยู่ปีไหนหรอ?”
“ปีหนึ่งน่ะ ที่จริงก็ควรจะรีบมาตั้งแต่เปิดเรียนแล้ว แต่พอดีมีธุระด่วนนิดหน่อย ก็เลยทำให้ต้องมาเรียนช้ากว่าคนอื่นตั้งเดือนหนึ่งแหนะ ไม่รู้ว่าจะตามคนอื่นๆ เขาทันมั้ย”
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้ายุนโฮไม่เข้าใจอะไรตรงไหน ไปถามเพื่อนเราได้นะ เพื่อนเราเรียนเก่งมากๆ เลยล่ะ”
เพื่อนคนที่ว่านั้นแจจุงหมายถึงชางมินนะ ไม่ใช่ยูชอน
“อ่า... ขอบคุณนะ จริงซิ! แล้วแจจุงเรียนอยู่ปีไหนหรอ ปีหนึ่งเหมือกันหรือป่าว?”
“อื้ม! ปีหนึ่งเหมือนกัน แจจุงเรียนอยู่ภาคประชาสัมพันธ์น่ะ แล้วยุนโฮล่ะ?”
“ผมเรียนภาพยนตร์”
“อ้อ~ แล้วนี่ยุนโฮรู้จักตึกนิเทศฯดีหรือยัง ถ้ายังไม่รู้เดี๋ยวแจจุงพาไปทัวร์ก็ได้นะ พอดีแจจุงว่างอยู่ กว่าจะเรียนอีกทีก็ตอนสิบโมงน่ะ”
“ผมกำลังหลงทางอยู่พอดีเลย แหะๆ”
ยุนโฮยกมือเกาท้ายทอยแก้เขิน
ส่วนแจจุงก็มองร่างสูงด้วยสายตาหวานฉ่ำ คนอะไรยิ่งมองก็ยิ่งหล่อ ดีเอ็นเอ โครโมโซมตัวไหนมันทำให้ยุนโฮหล่อได้ขนาดนี้กันว่ะเนี่ย!
“งั้นเราไปเดินดูรอบๆ กันก่อนดีกว่าเนอะ”
“อืม”
ยุนโฮพยักหน้ารับ ก่อนที่ช่วงขายาวจะเดินตามคนร่างบางไปอย่างช้าๆ
แจจุงพายุนโฮเดินดูรอบๆ ตึกก่อนที่จะพาไปยังชั้นเรียนของภาคฟิล์มที่ยุนโฮเรียนอยู่ คนสวยทำตัวเป็นไกด์ที่ดี คอยพูดแนะนำห้องนู้นห้องนี้ไปเรื่อย ทั้งแจจุงและยุนโฮก็ดูเหมือนว่าจะสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น พูดคุยหยอกล้อกันไปตลอดทาง ภาพของคนทั้งคู่ทำให้ใครหลายๆ คนอดที่จะอิจฉาขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ ก็แหม๋~ ได้อยู่กับคนที่หน้าตาดีแบบสุดๆ เลยนะ จะไม่ให้อิจฉาได้ยังไงล่ะ
“อ๊า! พาเดินดูจนครบแล้วล่ะ วันนี้ยุนโฮมีเรียนกี่โมงหรอ?”
“สิบโมงน่ะ”
“อ่า... นี่เพิ่งจะเก้าโมงเอง เหลือเวลาอีกตั้งหนึ่งชั่วโมง จะทำอะไรกันดีน๊า~”
คนสวยขมวดคิ้วน้อยๆ ยามที่กำลังใช้ความคิด
“ไปหาอะไรกินที่โรงอาหารดีมั้ย?”
ยุนโฮเสนอขึ้นมา
แจจุงเงยหน้าขึ้นมามองยุนโฮตาแป๋ว ยุนโฮชวนเขาไปหาอะไรกินที่โรงอาหาร อ๊าย! โอกาสดีๆ แบบนี้ต้องรีบคว้าเอาไว้
“เอาซิ! แจจุงมีร้านขนมที่จะแนะนำให้ยุนโฮกินตั้งเยอะเลย”
แล้วแจจุงก็พายุนโฮเดินไปที่โรงอาหารของคณะนิเทศศาตร์ด้วยอารมณ์ที่เบิกบาน ยุนโฮอาจจะไม่รู้ว่าแจจุงรู้สึกดีแค่ไหนที่ร่างสูงชวนเขาไปที่โรงอาหาร โรงอาหารนั้นเป็นศุนย์รวมของเหล่านักศึกษามากมาย และแจจุงก็มั่นใจด้วยว่าตนเองนั้นดังและเป็นที่รู้จักของคนทั้งหมาวิทยาลัย ดังนั้นถ้ายุนโฮกับเขาเดินไปที่โรงอาหารด้วยกัน เดินอยู่ข้างๆ กัน พูดคุยหยอกล้อกันไปมา รับรองได้เลยว่าคนอื่นๆ จะต้องสนใจมองพวกเขาทั้งสองคนเป็นแน่แท้ ทีนี้ล่ะคิมแจจุงจะได้แสดงความเป็นเจ้าของออกไปให้คนทั้งคณะได้รู้เลยว่า...
‘ผู้ชายคนนี้ โดนแปะป้าย Sold Out โดยคิมแจจุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ห้ามใครเข้ามายุ่งกับว่าที่สามีของเขาอย่างเด็ดขาด!!’
“อ่ะ! ยุนโฮชอบกินเครปญี่ปุ่นมั้ย ที่โรงอาหารนิเทศฯมีร้านเครปร้านหนึ่งอร่อยมากๆ เลยนะ”
แจจุงหันมาถามคนร่างสูงด้วยรอยยิ้ม
“สงสัยคงจะต้องลองกินดูสักหน่อยแล้ว”
“งั้นตามแจจุงมาเลย!”
แจจุงเดินนำยุนโฮไปที่ร้านเครปเจ้าประจำที่ตนเองชื่นชอบเป็นหนักหนา ก่อนที่คนทั้งคู่จะเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านเครปเล็กๆ ร้านหนึ่ง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแป้งลอยขึ้นมาเตะจมูกชวนเรียกน้ำลายของคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี
“แป้งของร้านนี้นะทั้งหอมและก็อร่อย รับรองเลยว่ายุนโฮจะต้องชอบแน่ๆ อ่ะ! แล้วร้านข้างๆ นี้เขาก็ขายไอศกรีมด้วยนะ แจจุงชอบมากๆ เลย และก็คิดว่าถ้ายุนโฮได้ลองกิน ยุนโฮจะต้องชอบด้วยเหมือนกันแน่ๆ”
“แจจุงนี่ท่าทางจะกินเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
ยุนโฮเอ่ยแซวคนตัวเล็กที่กำลังพูดแนะนำของกินไม่หยุดปากด้วยรอยยิ้มขำ
“แจจุงจะอ้วนเป็นหมูก็เพราะของกินที่โรงอาหารนี้นี่แหละ”
“ถ้าแจจุงอ้วนก็คงจะน่ารักดีนะ”
ยุนโฮยังคงพูดด้วยท่าทีสบายๆ แต่คนฟังนี่ซิ คิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
‘มาทำให้หัวใจเขาเต้นแรงแบบนี้ เดี๋ยวก็เรียกร้องให้จ่ายค่าเสียหายด้วยหัวใจหรอก!’
“อ่า... มัวแต่คุยลืมถามไปเลยว่ายุนโฮจะกินเครปไส้อะไร”
ยุนโฮหันหน้าไปอ่านป้ายที่ติดอยู่หน้าร้านอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะหันหน้ากลับมาบอกแจจุงเมื่อเลือกไส้เครปที่ตนเองอยากจะกินได้แล้ว
“เอาไส้ช็อคโกแลตกับกล้วยก็แล้วกัน”
“โอเค เดี๋ยวแจจุงสั่งให้นะ”
ว่าแล้วแจจุงก็หันหน้ากลับไปหาคุณป้าเจ้าของร้านก่อนที่จะเอ่ยปากสั่งเครปทั้งของตนเองและของยุนโฮออกไป
“ป้าฮะเอาไส้ช็อคโกแลตกับกล้วยอันหนึ่ง และก็เอาไส้ครีมวานิลลากับแฮมอันหนึ่งนะฮะ”
พอพูดจบแจจุงก็หันหน้ากลับมาหายุนโฮทันที
“ยุนโฮกินช็อคโกแลตด้วยอ่ะ แจจุงน่ะกินช็อคโกแลตไม่ได้เลย”
“ทำไม แจจุงแพ้หรอ?”
“ก็ไม่ได้แพ้หรอกนะ แต่แจจุงว่ามันขม”
คนตัวเล็กทำหน้ายุ่งขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงรสชาติของช็อคโกแลต ของหวานที่ใครหลายๆ คนชอบ แต่แจจุงกลับไม่ชอบมันเอาเสียมากๆ
“ไม่เห็นจะขมเลย ฉันว่ามันหวานมากๆ เลยนะ”
“ฝังใจน่ะ ตอนเด็กเคยกินดาร์กช็อกโกแลต ก็เลยเกลียดมันมาตั้งแต่ตอนนั้น”
“อ่า... แบบนี้ฉันก็ให้ช็อคโกแลตแจจุงในวันวาเลนไทน์ไม่ได้แล้วซิ”
บึ้ม!!!!
ได้ยินอะไรมั้ย ได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่า แจจุงคิดว่าเขาได้ยินเสียงหัวใจของตนเองระเบิดออกมาเมื่อได้ฟังคำพูดที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรของยุนโฮเมื่อสักครู่นี้นะ
“อะเอ่อ.....”
อ่า... ยุนโฮพูดมาแบบนี้ไปต่อไม่เป็นกันเลยทีเดียว
“เครปได้แล้วจ๊ะ”
เสียงของคุณป้าคนขายดังขึ้นมาเสียก่อนที่แจจุงจะได้ตอบอะไรออกไป คนสวยรีบหันกลับไปรับเครปจากคุณแม่ค้าก่อนที่จะหยิบเงินค่าเครปส่งให้
“ขอบคุณนะฮะ”
คนสวยรับเครปทั้งสองอันมาถือไว้ในมือ ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปหายุนโฮและส่งเครปของยุนโฮไปให้กับคนร่างสูง
“อันนี้แจจุงเลี้ยงนะ ถือว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับ”
“งั้นคราวหน้าฉันจะเลี้ยงไอศกรีมแจจุงบ้างนะ”
ยุนโฮรับเครปมาจากมือคนสวยก่อนที่จะยกมันขึ้นมากัดชิมความอร่อยว่าสมกับที่แจจุงพูดเอาไว้หรือไม่
“เป็นไงอร่อยมั้ย?”
คนสวยถามด้วยสีหน้าลุ้นๆ
ยุนโฮเคี้ยวมันอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะหันกลับมาตอบคนตัวเล็กที่กำลังจ้องมองตนเองตาแป๋ว
“อืม อร่อยเหมือนที่แจจุงบอกเลย”
“เห็นมั้ยล่ะ! บอกแล้วว่ายุนโฮจะต้องชอบ”
แจจุงยิ้ม ก่อนที่จะหันกลับมาจัดการกับเครปที่อยู่ในมือของตนเองบ้าง
ทั้งสองคนเดินกินเครปและคุยกันไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน ตลอดทางที่คนทั้งคู่เดินผ่านก็มีแต่คนเหลียวหลังกลับมามอง คนหนึ่งก็หล่อ ส่วนอีกคนก็สวย และจะไม่ให้เป็นที่สนใจของคนทั้งโรงอาหารได้อย่างไรกัน
”แจจุงยังไม่ตอบผมเลยนะ”
“เรื่องอะไรหรอ?”
“ก็เรื่องช็อคโกแลตที่ถามไปเมื่อกี้นี้ไงล่ะ”
“อ่ะ... เอ่อ ถะ.... ถ้า ยุนโฮจะให้จริงๆ แจจุงก็ขอเป็นไวท์ช็อคโกแลตก็แล้วกันนะ แจจุงกินได้แค่นั้นนะ”
คนสวยตอบออกไปด้วยน้ำเสียงติดขัด เป็นแค่คำถามง่ายๆ แต่ทำไมมันถึงได้ตอบยากขนาดนี้กันนะ
“อ่า... ผมก็ชอบกินไวท์ช็อคโกแลตเหมือนกัน”
“อื้ม”
คนสวยยิ้ม
“เราสองคนนี่บังเอิญใจตรงกันจังเลยเนอะ บ้านก็บังเอิญอยู่ข้างกัน แถมยังบังเอิญเรียนที่เดียวกันด้วยอีกต่างหาก”
“..........................”
ยุนโฮหันหน้ามามองคนตัวเล็ก ดวงตาคมที่แสนจะมีเสน่ห์คู่นั้นกำลังมองสบกับดวงตากลมโต ที่ริมฝีปากหยักกำลังมีรอยยิ้มบางๆ ประดับเอาไว้อยู่
“บังเอิญเยอะแบบนี้ สงสัยแจจุงคงจะบังเอิญเป็นเนื้อคู่ของฉันแล้วล่ะ”
บึ้ม!!!!
แจจุงละเบิดกลายเป็นไอไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ข่าวว่าตอนแรกจะไปรุกยุนโฮไม่ใช่หรือไง ไปๆ มาๆ ทำไมเขาถึงกลับกลายเป็นฝ่ายโดนยุนโฮรุกซะอย่างนั้น
TBC ^-----------------^*
*******************************************************
Talk ::
สวัสดีค่ะ มุกรีบเอาพาร์ทสองมาต่อให้อย่างว่องไว
เนื่องจากตอนนี้ยังว่างอยู่ค่ะ แต่ถ้าเปิดเทอมเมื่อไหร่ก็คงจะไม่มีเวลาว่างขนาดนี้แล้ว
แต่ตอนนี้มุกก็คงจะพอมีเวลาว่างอีกสักพัก เนื่องจากมหา’ลัยจมน้ำไปแล้ว TT
เลื่อนเปิดเทอมเป็นวันที่ 28 พฤศจิกายน มุกนั่งว่างอีกหนึ่งเดือน T----------------------T*
ตอนนี้บ้านน้ำยังไม่ท่วม แต่ก็อยู่ในเขตต้องระวัง ลุ้นมากว่ามันจะมาตอนไหน
ใครที่ตอนนี้กำลังลุ้นหรือเลิกลุ้นเพราะน้ำมาแล้ว มุกเอาใจช่วยนะค่ะ สู้ๆ >O<
ดังนั้นมุกก็เลยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยการนั่งแต่งฟิค = =
พาร์ทนี้คู่ยูซูก็ออกมาอย่างเต็มรูปแบบล่ะนะค่ะ
จุนซูน่ารักป่าว >< ตัวกลมเรียนนิติด้วยนะ 55555
สงสารปาร์คเลยงานนี้
ส่วนคู่ยุนแจ ดูสลับบทกันป่าว แจจุงคนสวยบอกว่าจะไปรุกยุนโฮ
แต่ที่ดูๆ มา เหมือนยุนโฮจะเป็นฝ่ายรุกแจจุงนะ >O<
อยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ ต้องรออ่านตอนหน้าค่ะ
ตอนนี้ฟิค Professional Love ก็ยังเหลือนะค่ะ ใครอยากได้ติดต่อเข้ามาได้น๊า~
แวะไปพูดคุยกันได้ที่ >>> http://twitter.com/@/MMooKiiEE
หรืออยากสอบถามเรื่องฟิค >>> mookiie_jong@hotmail.com
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะค่ะ บ๊ายบายค่ะ
^-------------------------------------^*
*******************************************************
ความคิดเห็น