ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ::: Motivation ❤ Love ::: [TVXQ][YAOI]

    ลำดับตอนที่ #3 : ,,, Part 2 ,,, แจจุงจะรุกยุนโฮ!

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 54


    Title         :  Motivation Love

    Type        :  Long fiction
    Author      :  *..MooKiiE..*
    Category :  Comedy / Romance
    Paring      :  Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu

    Note         :  เรื่องนี้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการล้วนๆ ไม่ได้ต้องการให้บุคคลที่อยู่ในฟิคเรื่องนี้เสียหายแต่อย่างใด เนื้อหาก็จะเกี่ยวกับ Boy’s loveนะค่ะ ถ้าใครไม่ชอบก็กรุณากดปิดลงไปเลยนะค่ะ  ขอบคุณค่ะ ^ ^

     

     

    *******************************************************

                                                                                                                  

     

    เรื่องนี้ยังไม่มีเรทติ้งขึ้นเลย ช่วยโหวตหน่อยนะค่ะ ><

     

     

     

    Part 2

     

                    “จะเป็นอะไรไหมถ้าผมจะขอจีบคุณ ณ ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”

     

                    “ตรงมากปาร์ค! ทำอย่างกับว่าถ้าพูดช้าไปกว่านี้สักนิดหนึ่งจะอดลากยัยก้นบวมนี้ไปปล้ำอย่างนั้นแหละ”

                    แจจุงที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่กับชางมินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มกว้าง อะไรๆ ก็ดูจะเข้าทางเขาไปเสียหมด

     

                    “เดี๋ยวก็โดนตอกกลับมาจนหน้าหงาย”

                    ชางมินส่ายหัวอย่างระอาให้กับความหน้าด้านของเพื่อนตนเอง มันคงจะคิดว่าทุกคนจะต้องหลงความหล่อของมันซินะ ถึงได้กล้าเดินเข้าไปขอจีบเขาโต้งๆ แบบนี้

     

                    แจจุงและชางมินยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ โดยที่ไม่คิดจะเดินเข้าไปแทรกบทสนทนาของคนทั้งคู่แต่อย่างใด

     

                    ดวงตาเรียวเล็กมองใบหน้าของคนที่เพิ่งจะเดินเข้ามาขอจีบตนเองด้วยสายตามึนงง เขาค่อยๆ กวาดสายตามองดูคนร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะลงมาจรดปลายเท้า ก่อนที่จะวกกลับไปมองใบหน้าของคนที่ยังคงยืนยิ้มให้กับตนเองอยู่ ก่อนที่จะเอ่ยปากพูดออกมา

                   

                    “หน้าตาก็ดีนะ แต่ท่าทางจะเป็นบ้า”

     

                    ทันทีที่ได้ยินคำพูดของคนตัวเล็ก ปาร์คยูชอนที่กำลังยืนยิ้มหวานอยู่นั้นถึงกับยิ้มค้างกันไปเลยทีเดียว ตั้งแต่เกิดมาจนอยู่รอดเป็นชายหนุ่มที่มีนามว่าปาร์คยูชอนจนถึงตอนนี้ ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เขาจะโดนด่ากลับมาเพราะเดินเข้าไปจีบคนคนนั้น มีแต่รีบนำเสนอตัวเองแบบสุดฤทธิ์ แต่นี่มันอะไรกัน นอกจากจะโดนปฏิเสธแล้วยังโดนด่าว่าเป็นบ้าอีก!!

     

                    แต่ถึงจะโดนด่าว่าบ้าเขาก็ต้องทำใจดีสู้เสือต่อไป ถ้าถอดใจง่ายๆ ก็ไม่ใช่ปาร์คยูชอนล่ะซิ

                    “เอ่อ... ดูเหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดนะครับ ผมปกติดี ไม่ได้เป็นคนบ้าแต่อย่างใด”

     

                    “งั้นนายก็คงจะเป็นคนที่ไม่น่าคบและไม่ควรเสวนาด้วยที่สุด!

     

                    “อ้าว? ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ”

                    งงเลยปาร์ค มีคนที่ไม่อยากจะคุยกับกูด้วยเว้ยเห้ย ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเจอเนี่ยแหละ

     

                    “อยู่ๆ ก็เดินเข้ามาขอจีบ นายตาบอดป่ะ ฉันเป็นผู้ชายนะเห็นมั้ย ผู้ชายเหมือนกับนายเข้าใจหรือเปล่า?

                    จุนซูพูดด้วยใบหน้ายุ่งๆ เขาเริ่มจะอารมณ์เสียขึ้นมาแล้วนะ อยู่ๆ ก็โดนผู้ชายด้วยกันเดินมาขอจีบ!

     

                    “ไม่เห็นจะบ้าตรงไหนเลย ทีฉันยังชอบยุนโฮได้เลย ชิ๊!

                    แจจุงแอบบ่นออกมาเบาๆ

     

                    “นายควรจะดีใจนะที่เขาพูดแบบนั้น เพราะมันแสดงว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับชองยุนโฮของนาย”

                    ชางมินที่มีสมองดีสามารถประมวลผลคำพูดของจุนซูออกมาเป็นผลลัพธ์ที่สุดแสนจะน่าพอใจให้แจจุงได้อย่างรวดเร็ว

     

                    แจจุงหันมามองชางมินตาวาว นั่นซิ! ถ้ายัยก้นบอลลูนพูดแบบนั้นก็แสดงว่า!!

                    “โหย!! นายนี่ฉลาดจริงๆเลยชางมิน”

     

                    “ฉันไม่ได้ฉลาดหรอก พอดีมีเพื่อนไม่ค่อยมีสมองคิดอะไรเอง มันก็เลยดูฉลาดไง”

                    ชางมินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม แอบจิกกัดด้วยท่าทีสบายๆ ตามสไตล์ของชิมชางมิน

     

                    “ด่าไปเถอะ ตอนนี้ฉันอารมณ์ดี ฉันไม่สนใจคำพูดของนายหรอก”

                    พูดแล้วก็หันหน้ากลับไปสังเกตเหตุการณ์ตรงหน้าต่อ ทีนี้คิมแจจุงก็จะสามารถรุกชองยุนโฮได้อย่างสบายใจไร้อุปสรรคใดๆ มาขัดขวาง อ๊าย! แค่คิดก็สุขใจแล้วแหะ

     

                    “ผมไม่ได้ตาบอด เพราะถ้าตาบอด ผมจะเห็นความน่ารักของคุณได้หรอ?

                    ค่อยๆ หยอดทีละนิดๆ เดี๋ยวเหยื่อก็ตายใจเองนั่นแหละ

     

                    “บ้า!

                   

                    “และมันก็ไม่เห็นแปลกเลยที่ผมจะเดินเข้ามาจีบคุณ”

                    ยูชอนเดินเข้าไปใกล้จุนซูให้มากขึ้นกว่าเดิม เขาโน้มใบหน้าเข้าไปหาใบหน้ากลม ก่อนที่จะพูดออกมา

     

                    “ก็เพราะคุณมันน่ารัก ผมก็เลยต้องจีบ”

                   

                    ทั้งๆ ที่บอกว่าคนตรงหน้านี้เป็นบ้าที่เดินเข้ามาจีบผู้ชายด้วยกัน แต่ทำไมเขาจะต้องไปใจเต้นกับคำพูดของผู้ชายด้วยกันแบบนี้ด้วยเล่า! สงสัยว่าเขาคงจะบ้าตามนายคนนี้ไปแล้ว ไม่ได้นะคิมจุนซู!! นายออกจะแมน แมนมาตั้งแต่เกิด จะมาหวั่นไหวกับผู้ชายได้ยังไง ไม่ได้ๆ เรียกสติกลับคืนมาเดี๋ยวนี้!

     

                    “ดูซิ ขนาดเขินก็ยังน่ารัก แก้มแดงหมดแล้ว น่าหอมจังเลยแหะ”

                    พูดอย่างเดียวไม่ว่า แต่ยูชอนดันโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มขาวๆ นั่นด้วยเสียนี่

     

                    ฟอด!!~

     

                    “หะ...เห้ย!!

                จุนซูรีบผลักคนที่บังอาจมาขโมยหอมแก้มให้กระเด็นออกห่างจากตนเองอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือขาวยกขึ้นจับแก้มข้างที่โดนยูชอนขโมยหอม ก่อนที่ดวงตาเรียวเล็กจะตวัดสายตาขึ้นมองคนร่างสูงที่ยังคงยืนยิ้มหน้าบานด้วยสายตาขุ่นเคือง

     

                    “อะ...ไอ้บ้า! นายหอมแก้มฉัน”

     

                    “อ่าฮะ แค่หอม ยังไม่ได้จูบ”

     

                    “นะ...นาย! นายทำผิดตามมาตราที่ 279 นายล่วงละเมิดทางร่างกายฉัน”

                    คนตัวเล็กโวยวาย

     

                    “พูดซะอย่างกับว่าผมไปข่มขืนคุณอย่างนั้นแหละ”

                    ยูชอนหัวเราะให้กับความน่ารักของคนตรงหน้า

     

                    “ฉะ... ฉันจะไปแจ้งความ!!

     

                    “โอเค เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบคุณโดยการให้คุณมาเป็นแฟนผม แบบนี้ดีมั้ย?

                    ยูชอนยังคงสนุกกับการแกล้งคนตัวเล็กอยู่ ก็ดูซิ ใบหน้ากลมๆ ที่กำลังแดงกร่ำเพราะความโกรธนั้นมันน่ารักจะตาย ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากแกล้ง

     

                    “ฮึ่ย!! นายมันตัวอันตรายจริงๆ ด้วย”

                    จุนซูยกนิ้วชี้หน้ายูชอน คนตัวเล็กหันหลังและรีบวิ่งไปที่ประตูบ้านของตนเองอย่างทันที แต่ก่อนที่จะได้เปิดประตูเข้าบ้านไป จุนซูก็หันหน้ากลับมาตะโกนบอกกับยูชอนที่ยืนยิ้มบางๆ และมองตนเองอยู่ว่า

     

                    “ไอ้โรคจิต! ฉันเป็นผู้ชาย และฉันก็แมนมากๆ ด้วย... อะ.. ไอ้บ้า!!

     

                    แล้วคนตัวเล็กก็หายเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ทิ้งให้ยูชอนได้แต่ยืนยิ้มขำกับท่าทางตลกๆ ของคนตัวเล็กอยู่คนเดียว

                    “เล่นตัวแบบนี้ซิ มันถึงจะสนุก”

     

                    “ถูกใจล่ะซิ~

                    แจจุงรีบเดินเข้ามาหายูชอนทันทีเมื่อเห็นว่าจุนซุหนีเข้าบ้านไปแล้ว

     

                    “โชคดีเจอเด็กนิติด้วยแหะ ระวังนะไปทำอะไรเขามากๆเข้า เดี๋ยวเขาจะฟ้องนายเอา”

                    ชางมินพูดขึ้นมาบ้าง

     

                    ยูชอนยกยิ้ม ดวงตาคมมองไปที่ประตูบ้านที่คนตัวเล็กเพิ่งจะเดินหายเข้าไป ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

                    “หึ! หมอนั่นไม่มีทางฟ้องฉันหรอก เพราะฉัน... จะทำให้เขาสมยอม ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น”

    .

    .

    .

    .

    .

                เช้าวันจันทร์ที่แสนจะสดใส ที่มหาวิทยาลัยยองอินยังคงคึกคักไปด้วยเหล่านักศึกษาที่พากันเดินมาเป็นกลุ่มๆ และส่วนใครที่ยังไม่ถึงเวลาเรียนก็จะพากันนั่งเล่นพูดคุยกับเพื่อนๆ อยู่ที่หน้าตึกประจำคณะตนเอง แจจุง ยูชอน และชางมินก็เป็นหนึ่งในนั้น

     

                    หน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์ อันเป็นที่ประจำของคนทั้งสามคน กำลังมีเสียงหวานๆ ของใครบางคนคอยพูดนู่นพูดนี่ให้เพื่อนรักทั้งสองได้ฟัง แต่ไม่ได้รู้เลยว่าเพื่อนของตนเองนั้นไม่ได้สนใจฟังคำพูดของตนเองเลยแม้แต่น้อย ชางมินยกหนังสือการ์ตูนขึ้นมาอ่าน ส่วนยูชอนก็กำลังวุ่นอยู่กับการตอบเมนชั่นของสาวๆ ในทวิตเตอร์

     

                “นายว่ายุนโฮเขาจะเรียนที่เดียวกับพวกเราหรือเปล่า?

     

                “แล้วพวกนายคิดว่าเขาจะเรียนคณะไหนอ่ะ ฉันจะได้เดินไปคณะพวกนั้นบ่อยๆ”

     

                    “เขาน่าจะเรียนนิเทศฯเนอะ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็จะได้เจอเขาบ่อยๆ”

     

                    “แล้วเขาจะไปกินข้าวโรงอาหารไหนกันนะ...  นี่! พวกนายสองคนนะช่วยออกความคิดเห็นหน่อยซิ ให้ฉันนั่งพูดคนเดียวอยู่ได้!!

     

                    “ว่าที่ผัวนาย ไม่ใช่ว่าที่เมียฉันซะหน่อย ทำไมฉันต้องช่วยนายคิดด้วยล่ะ”

                    ยูชอนเงยหน้าขึ้นมาตอบแจจุงสักเล็กน้อย ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปตอบเมนชั่นต่อ

     

                    “นายอยากรู้ก็เดินไปถามเขาซิ บ้านอยู่ข้างๆ กันแท้ๆ”

                    ชางมินพูดออกมาบ้าง

     

                    “ใครเขาจะกล้าเข้าไปถามกันเล่า!

     

                    “พอๆ อย่าทำเป็นเขินเลย เห็นแล้วมันขัดลูกกะตาว่ะ”

     

                    “เขาออกจะเป็นคนขี้อายนะชางมิน~ ไม่กล้าทำอะไรในที่โจ่งแจ้งแบบนั้นหรอก”

                    แจจุงแกล้งทำเป็นบิดไปบิดมา เหมือนกับว่าตนเองกำลังเขินอยู่

     

                    “แล้วถ้าเป็นที่ลับสายตาคนล่ะ”

     

                    “จับมอมเหล้าแล้วก็ลากขึ้นเตียง!

     

                    “โอเค ฉันว่านายคงจะได้ลากชองยุนโฮขึ้นเตียงเร็วๆ นี้แหละ หันไปดูนู่นซิ”

                    ชางมินพยักเพยิดหน้าให้แจจุงหันไปดูใครบางคนที่กำลังยืนอยู่หน้าตึกคณะนิเทศศาตร์

     

                    ใบหน้าขาวใสหันกลับไปมองทางด้านหลังของตนเอง ก่อนที่ดวงตากลมโตจะต้องเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าใครกันที่กำลังยืนหันซ้ายหันขวาอยู่ที่หน้าตึก

     

                    “ยุนโฮ!!

     

                    และใครคนนั้นก็คือชองยุนโฮนั่นเอง ดูเหมือนว่าคนร่างสูงกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่

     

                    “ไม่ได้การล่ะๆ ฉันต้องรีบเข้าไปทักเขา เดี๋ยวชะนีแถวนี้จะคาบไปกินเสียก่อน ไปก่อนนะชางมิน ยูชอนเจอกันที่ห้องเรียนเลยนะ ฉันไปก่อนล่ะ!

                    เมื่อพูดจบคนตัวเล็กก็จัดการถือกระเป๋าขึ้นมาแล้วรีบลุกออกจากเก้าอี้ที่ตนเองนั่งแล้ววิ่งเข้าไปหาคนร่างสูงอย่างทันที

     

                    ยูชอนหันไปมองแผ่นหลังบางของแจจุงที่กำลังวิ่งดุ๊กๆ ไปหายุนโฮที่หน้าตึก ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย

                    “เสนอตัวสุดๆ”

     

                    “นานๆ จะเจอคนหล่อหลงเข้ามาให้ตอดก็อย่างนี้แหละ ไอ้แจจุงมันกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้สักวิหนึ่งจะอดได้ยุนโฮเป็นผัวน่ะ”

                    ชางมินมองดูแจจุงที่เดินเข้าไปคุยกับยุนโฮอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปอ่านหนังสือการ์ตูนต่อ

     

                    ส่วนทางด้านแจจุงที่รีบวิ่งเข้าไปหาคนร่างสูงนั้นก็รีบส่งเสียงเรียกยุนโฮเอาไว้ทันที เมื่อเห็นว่าคนร่างสูงกำลังจะก้าวขาเดินไปทางอื่น

                    “คุณยุนโฮ!!

     

                    ร่างสูงชะงักขาไว้ที่เดิม ก่อนที่จะหันหน้ากลับมาเพื่อมองดูคนที่เรียกตนเองเอาไว้ ใบหน้าคมฉีกยิ้มขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่เรียกตนเองนั้นเป็นใคร

                    “อ้าว? คุณแจจุงนั่นเอง คุณเรียนที่นี่หรือครับ?

     

                    แจจุงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของยุนโฮ คนสวยยิ้มกว้างก่อนที่จะพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ

                    “ใช่ฮะ แจจุงเรียนที่นี่ และนี่ก็คือคณะที่แจจุงเรียนอยู่”

     

                    คนสวยชี้นิ้วไปที่ตึกที่อยู่ตรงด้านหลังของพวกเขา

     

                    “จริงหรอ? ผมก็เรียนคณะนิเทศฯเหมือนกัน อ่า... บังเอิญจังเลยแหะ”

                    ยุนโฮว่าอย่างยิ้มๆ

     

                    โอ๊ะ!! ยุนโฮเรียนคณะเดียวกับเราด้วย อ๊าย~ พรหมลิขิตชัดๆ นี่แหละเนื้อคู่กันเห็นๆ

     

                    “นั่นซิฮะ พรหมลิขิตชัดๆ เอ้ย! ไม่ใช่ บังเอิญมากๆ เลยเนอะ อ่า... แล้วยุนโฮเรียนอยู่ปีไหนหรอ?

     

                    “ปีหนึ่งน่ะ ที่จริงก็ควรจะรีบมาตั้งแต่เปิดเรียนแล้ว แต่พอดีมีธุระด่วนนิดหน่อย ก็เลยทำให้ต้องมาเรียนช้ากว่าคนอื่นตั้งเดือนหนึ่งแหนะ ไม่รู้ว่าจะตามคนอื่นๆ เขาทันมั้ย”

     

                    “ไม่เป็นไรหรอก ถ้ายุนโฮไม่เข้าใจอะไรตรงไหน ไปถามเพื่อนเราได้นะ เพื่อนเราเรียนเก่งมากๆ เลยล่ะ”

                    เพื่อนคนที่ว่านั้นแจจุงหมายถึงชางมินนะ ไม่ใช่ยูชอน

     

                    “อ่า... ขอบคุณนะ จริงซิ! แล้วแจจุงเรียนอยู่ปีไหนหรอ ปีหนึ่งเหมือกันหรือป่าว?

     

                    “อื้ม! ปีหนึ่งเหมือนกัน แจจุงเรียนอยู่ภาคประชาสัมพันธ์น่ะ แล้วยุนโฮล่ะ?

     

                    “ผมเรียนภาพยนตร์”

                   

                    “อ้อ~ แล้วนี่ยุนโฮรู้จักตึกนิเทศฯดีหรือยัง ถ้ายังไม่รู้เดี๋ยวแจจุงพาไปทัวร์ก็ได้นะ พอดีแจจุงว่างอยู่ กว่าจะเรียนอีกทีก็ตอนสิบโมงน่ะ”

     

                    “ผมกำลังหลงทางอยู่พอดีเลย แหะๆ”

                    ยุนโฮยกมือเกาท้ายทอยแก้เขิน

     

                    ส่วนแจจุงก็มองร่างสูงด้วยสายตาหวานฉ่ำ คนอะไรยิ่งมองก็ยิ่งหล่อ ดีเอ็นเอ โครโมโซมตัวไหนมันทำให้ยุนโฮหล่อได้ขนาดนี้กันว่ะเนี่ย!

                    “งั้นเราไปเดินดูรอบๆ กันก่อนดีกว่าเนอะ”

     

                    “อืม”

                    ยุนโฮพยักหน้ารับ ก่อนที่ช่วงขายาวจะเดินตามคนร่างบางไปอย่างช้าๆ

     

                    แจจุงพายุนโฮเดินดูรอบๆ ตึกก่อนที่จะพาไปยังชั้นเรียนของภาคฟิล์มที่ยุนโฮเรียนอยู่ คนสวยทำตัวเป็นไกด์ที่ดี คอยพูดแนะนำห้องนู้นห้องนี้ไปเรื่อย ทั้งแจจุงและยุนโฮก็ดูเหมือนว่าจะสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น พูดคุยหยอกล้อกันไปตลอดทาง ภาพของคนทั้งคู่ทำให้ใครหลายๆ คนอดที่จะอิจฉาขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ ก็แหม๋~ ได้อยู่กับคนที่หน้าตาดีแบบสุดๆ เลยนะ จะไม่ให้อิจฉาได้ยังไงล่ะ

     

                    “อ๊า! พาเดินดูจนครบแล้วล่ะ วันนี้ยุนโฮมีเรียนกี่โมงหรอ?

     

                    “สิบโมงน่ะ”

     

                    “อ่า... นี่เพิ่งจะเก้าโมงเอง เหลือเวลาอีกตั้งหนึ่งชั่วโมง จะทำอะไรกันดีน๊า~

                    คนสวยขมวดคิ้วน้อยๆ ยามที่กำลังใช้ความคิด

     

                    “ไปหาอะไรกินที่โรงอาหารดีมั้ย?

                    ยุนโฮเสนอขึ้นมา

     

                    แจจุงเงยหน้าขึ้นมามองยุนโฮตาแป๋ว ยุนโฮชวนเขาไปหาอะไรกินที่โรงอาหาร  อ๊าย! โอกาสดีๆ แบบนี้ต้องรีบคว้าเอาไว้

                    “เอาซิ! แจจุงมีร้านขนมที่จะแนะนำให้ยุนโฮกินตั้งเยอะเลย”

     

                    แล้วแจจุงก็พายุนโฮเดินไปที่โรงอาหารของคณะนิเทศศาตร์ด้วยอารมณ์ที่เบิกบาน ยุนโฮอาจจะไม่รู้ว่าแจจุงรู้สึกดีแค่ไหนที่ร่างสูงชวนเขาไปที่โรงอาหาร โรงอาหารนั้นเป็นศุนย์รวมของเหล่านักศึกษามากมาย และแจจุงก็มั่นใจด้วยว่าตนเองนั้นดังและเป็นที่รู้จักของคนทั้งหมาวิทยาลัย ดังนั้นถ้ายุนโฮกับเขาเดินไปที่โรงอาหารด้วยกัน เดินอยู่ข้างๆ กัน พูดคุยหยอกล้อกันไปมา รับรองได้เลยว่าคนอื่นๆ จะต้องสนใจมองพวกเขาทั้งสองคนเป็นแน่แท้ ทีนี้ล่ะคิมแจจุงจะได้แสดงความเป็นเจ้าของออกไปให้คนทั้งคณะได้รู้เลยว่า...

     

                    ผู้ชายคนนี้ โดนแปะป้าย Sold Out โดยคิมแจจุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ห้ามใครเข้ามายุ่งกับว่าที่สามีของเขาอย่างเด็ดขาด!!’

     

                    “อ่ะ! ยุนโฮชอบกินเครปญี่ปุ่นมั้ย ที่โรงอาหารนิเทศฯมีร้านเครปร้านหนึ่งอร่อยมากๆ เลยนะ”

                    แจจุงหันมาถามคนร่างสูงด้วยรอยยิ้ม

     

                    “สงสัยคงจะต้องลองกินดูสักหน่อยแล้ว”

                   

                    “งั้นตามแจจุงมาเลย!

                    แจจุงเดินนำยุนโฮไปที่ร้านเครปเจ้าประจำที่ตนเองชื่นชอบเป็นหนักหนา ก่อนที่คนทั้งคู่จะเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านเครปเล็กๆ ร้านหนึ่ง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแป้งลอยขึ้นมาเตะจมูกชวนเรียกน้ำลายของคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี

     

                    “แป้งของร้านนี้นะทั้งหอมและก็อร่อย รับรองเลยว่ายุนโฮจะต้องชอบแน่ๆ อ่ะ! แล้วร้านข้างๆ นี้เขาก็ขายไอศกรีมด้วยนะ แจจุงชอบมากๆ เลย และก็คิดว่าถ้ายุนโฮได้ลองกิน ยุนโฮจะต้องชอบด้วยเหมือนกันแน่ๆ”

     

                    “แจจุงนี่ท่าทางจะกินเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”

                    ยุนโฮเอ่ยแซวคนตัวเล็กที่กำลังพูดแนะนำของกินไม่หยุดปากด้วยรอยยิ้มขำ

     

                    “แจจุงจะอ้วนเป็นหมูก็เพราะของกินที่โรงอาหารนี้นี่แหละ”

     

                                    “ถ้าแจจุงอ้วนก็คงจะน่ารักดีนะ”

                    ยุนโฮยังคงพูดด้วยท่าทีสบายๆ แต่คนฟังนี่ซิ คิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

     

                    มาทำให้หัวใจเขาเต้นแรงแบบนี้ เดี๋ยวก็เรียกร้องให้จ่ายค่าเสียหายด้วยหัวใจหรอก!’

     

                “อ่า... มัวแต่คุยลืมถามไปเลยว่ายุนโฮจะกินเครปไส้อะไร”

     

                    ยุนโฮหันหน้าไปอ่านป้ายที่ติดอยู่หน้าร้านอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะหันหน้ากลับมาบอกแจจุงเมื่อเลือกไส้เครปที่ตนเองอยากจะกินได้แล้ว

                    “เอาไส้ช็อคโกแลตกับกล้วยก็แล้วกัน”

     

                    “โอเค เดี๋ยวแจจุงสั่งให้นะ”

                    ว่าแล้วแจจุงก็หันหน้ากลับไปหาคุณป้าเจ้าของร้านก่อนที่จะเอ่ยปากสั่งเครปทั้งของตนเองและของยุนโฮออกไป

     

                    “ป้าฮะเอาไส้ช็อคโกแลตกับกล้วยอันหนึ่ง และก็เอาไส้ครีมวานิลลากับแฮมอันหนึ่งนะฮะ”

                    พอพูดจบแจจุงก็หันหน้ากลับมาหายุนโฮทันที

     

                    “ยุนโฮกินช็อคโกแลตด้วยอ่ะ แจจุงน่ะกินช็อคโกแลตไม่ได้เลย”

     

                    “ทำไม แจจุงแพ้หรอ?

     

                    “ก็ไม่ได้แพ้หรอกนะ แต่แจจุงว่ามันขม”

                    คนตัวเล็กทำหน้ายุ่งขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงรสชาติของช็อคโกแลต ของหวานที่ใครหลายๆ คนชอบ แต่แจจุงกลับไม่ชอบมันเอาเสียมากๆ

     

                    “ไม่เห็นจะขมเลย ฉันว่ามันหวานมากๆ เลยนะ”

     

                    “ฝังใจน่ะ ตอนเด็กเคยกินดาร์กช็อกโกแลต ก็เลยเกลียดมันมาตั้งแต่ตอนนั้น”

     

                    “อ่า... แบบนี้ฉันก็ให้ช็อคโกแลตแจจุงในวันวาเลนไทน์ไม่ได้แล้วซิ”

     

                    บึ้ม!!!!

     

                ได้ยินอะไรมั้ย ได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่า แจจุงคิดว่าเขาได้ยินเสียงหัวใจของตนเองระเบิดออกมาเมื่อได้ฟังคำพูดที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรของยุนโฮเมื่อสักครู่นี้นะ

     

                    “อะเอ่อ.....”

                    อ่า... ยุนโฮพูดมาแบบนี้ไปต่อไม่เป็นกันเลยทีเดียว

     

                    “เครปได้แล้วจ๊ะ”

                    เสียงของคุณป้าคนขายดังขึ้นมาเสียก่อนที่แจจุงจะได้ตอบอะไรออกไป คนสวยรีบหันกลับไปรับเครปจากคุณแม่ค้าก่อนที่จะหยิบเงินค่าเครปส่งให้

     

                    “ขอบคุณนะฮะ”

                    คนสวยรับเครปทั้งสองอันมาถือไว้ในมือ ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปหายุนโฮและส่งเครปของยุนโฮไปให้กับคนร่างสูง

     

                    “อันนี้แจจุงเลี้ยงนะ ถือว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับ”

     

                    “งั้นคราวหน้าฉันจะเลี้ยงไอศกรีมแจจุงบ้างนะ”

                    ยุนโฮรับเครปมาจากมือคนสวยก่อนที่จะยกมันขึ้นมากัดชิมความอร่อยว่าสมกับที่แจจุงพูดเอาไว้หรือไม่

     

                    “เป็นไงอร่อยมั้ย?

                    คนสวยถามด้วยสีหน้าลุ้นๆ

     

                    ยุนโฮเคี้ยวมันอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะหันกลับมาตอบคนตัวเล็กที่กำลังจ้องมองตนเองตาแป๋ว

                    “อืม อร่อยเหมือนที่แจจุงบอกเลย”

     

                    “เห็นมั้ยล่ะ! บอกแล้วว่ายุนโฮจะต้องชอบ”

                    แจจุงยิ้ม ก่อนที่จะหันกลับมาจัดการกับเครปที่อยู่ในมือของตนเองบ้าง

     

                    ทั้งสองคนเดินกินเครปและคุยกันไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน ตลอดทางที่คนทั้งคู่เดินผ่านก็มีแต่คนเหลียวหลังกลับมามอง คนหนึ่งก็หล่อ ส่วนอีกคนก็สวย และจะไม่ให้เป็นที่สนใจของคนทั้งโรงอาหารได้อย่างไรกัน

     

                    ”แจจุงยังไม่ตอบผมเลยนะ”

     

                    “เรื่องอะไรหรอ?

     

                    “ก็เรื่องช็อคโกแลตที่ถามไปเมื่อกี้นี้ไงล่ะ”

     

                    “อ่ะ... เอ่อ ถะ.... ถ้า ยุนโฮจะให้จริงๆ แจจุงก็ขอเป็นไวท์ช็อคโกแลตก็แล้วกันนะ แจจุงกินได้แค่นั้นนะ”

                    คนสวยตอบออกไปด้วยน้ำเสียงติดขัด เป็นแค่คำถามง่ายๆ แต่ทำไมมันถึงได้ตอบยากขนาดนี้กันนะ

     

                    “อ่า... ผมก็ชอบกินไวท์ช็อคโกแลตเหมือนกัน”

     

                    “อื้ม”

                    คนสวยยิ้ม

     

                    “เราสองคนนี่บังเอิญใจตรงกันจังเลยเนอะ บ้านก็บังเอิญอยู่ข้างกัน แถมยังบังเอิญเรียนที่เดียวกันด้วยอีกต่างหาก”

     

                    “..........................”

     

                    ยุนโฮหันหน้ามามองคนตัวเล็ก ดวงตาคมที่แสนจะมีเสน่ห์คู่นั้นกำลังมองสบกับดวงตากลมโต ที่ริมฝีปากหยักกำลังมีรอยยิ้มบางๆ ประดับเอาไว้อยู่

     

                    “บังเอิญเยอะแบบนี้ สงสัยแจจุงคงจะบังเอิญเป็นเนื้อคู่ของฉันแล้วล่ะ”

     

                    บึ้ม!!!!

     

                    แจจุงละเบิดกลายเป็นไอไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ข่าวว่าตอนแรกจะไปรุกยุนโฮไม่ใช่หรือไง ไปๆ มาๆ ทำไมเขาถึงกลับกลายเป็นฝ่ายโดนยุนโฮรุกซะอย่างนั้น

     

     

    TBC ^-----------------^*

      

    *******************************************************

     

    Talk ::



    สวัสดีค่ะ มุกรีบเอาพาร์ทสองมาต่อให้อย่างว่องไว

    เนื่องจากตอนนี้ยังว่างอยู่ค่ะ แต่ถ้าเปิดเทอมเมื่อไหร่ก็คงจะไม่มีเวลาว่างขนาดนี้แล้ว

    แต่ตอนนี้มุกก็คงจะพอมีเวลาว่างอีกสักพัก เนื่องจากมหาลัยจมน้ำไปแล้ว TT

    เลื่อนเปิดเทอมเป็นวันที่  28 พฤศจิกายน มุกนั่งว่างอีกหนึ่งเดือน T----------------------T*

     

    ตอนนี้บ้านน้ำยังไม่ท่วม แต่ก็อยู่ในเขตต้องระวัง ลุ้นมากว่ามันจะมาตอนไหน

    ใครที่ตอนนี้กำลังลุ้นหรือเลิกลุ้นเพราะน้ำมาแล้ว มุกเอาใจช่วยนะค่ะ  สู้ๆ >O<

     

    ดังนั้นมุกก็เลยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยการนั่งแต่งฟิค = =

     

    พาร์ทนี้คู่ยูซูก็ออกมาอย่างเต็มรูปแบบล่ะนะค่ะ

    จุนซูน่ารักป่าว >< ตัวกลมเรียนนิติด้วยนะ 55555

    สงสารปาร์คเลยงานนี้

     

    ส่วนคู่ยุนแจ ดูสลับบทกันป่าว แจจุงคนสวยบอกว่าจะไปรุกยุนโฮ

    แต่ที่ดูๆ มา เหมือนยุนโฮจะเป็นฝ่ายรุกแจจุงนะ >O<

     

    อยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ ต้องรออ่านตอนหน้าค่ะ

    ตอนนี้ฟิค Professional Love ก็ยังเหลือนะค่ะ ใครอยากได้ติดต่อเข้ามาได้น๊า~

     

    แวะไปพูดคุยกันได้ที่ >>> http://twitter.com/@/MMooKiiEE

    หรืออยากสอบถามเรื่องฟิค >>> mookiie_jong@hotmail.com

     

    ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะค่ะ บ๊ายบายค่ะ

     

    ^-------------------------------------^*


     

    *******************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×