ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ☆--- Mystery Love ---☆ [TVXQ][YAOI]

    ลำดับตอนที่ #3 : ,,, Part 2 ,,, ชองยุนโฮ… หลุมหลบภัยชั้นดีของฉัน

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 57


    Title         :  Mystery Love
    Type        :  Long fiction
    Author      :  *..MooKiiE..*
    Category :  Comedy / Romance
    Paring      :  Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu

    Note         :  เรื่องนี้มุกได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง The Master’s Sun นะคะ จึงทำให้เนื้อหาบางอย่างอาจคล้ายคลึงกันบ้าง

                                                                                                                                                                                                                                                              

    *******************************************************

     

    ขอให้มีความสุขในการอ่านค่ะ ^^


     

    Part 2

     

                    เสียงพูดคุยของนักศึกษาดังขึ้นไปทั่วทุกทิศที่คนร่างบางเดินผ่าน เหล่าบรรดานักศึกษาเดินจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ ด้วยกันอย่างสนุกสนาน ดวงตากลมโตมองดูภาพเหล่านั้นพร้อมกับฉีกยิ้มบางๆ ออกมา

                   

                เพื่อน

                    คำคำนี้ห่างหายจากชีวิตของเขาไปนานมากแค่ไหนแล้วนะ

     

                    จะว่าหดหู่มันก็หดหูอยู่พอสมควร หลังจากประสบอุบัติเหตุและฟื้นคืนกลับขึ้นมาเป็นคิมแจจุงที่ ไม่ใช่คนปกติ อีกต่อไป อาการแปลกๆ ท่าทีประหลาดๆ ของเขาก็ทำให้ใครหลายๆ คนเริ่มตีตัวออกห่าง หลายๆ คนต่างก็คิดว่าอาการแปลกๆ ที่เขาเป็นอยู่นั้น เรียกว่าอาการของ คนบ้า

     

                    จากคนที่เคยมีเพื่อนเหมือนกับคนอื่นๆ

                ก็กลับกลายเป็นบุคคลที่ใช้ชีวิตอย่างโด่ดเดี่ยวในมหาลัย

     

                    แจจุงถอนหายใจออกมา เขาควรจะชินกับเรื่องแบบนี้ได้แล้ว เรื่องมันไม่ใช่เพิ่งเกิดสักหน่อย เลิกโอดครวญแล้วก้าวเดินต่อไปเสียเถอะ

     

                    ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเรียนจบแล้ว แต่เพราะยังไม่มีงานทำ คิมแจจุงก็เลยมารับจ็อบทำงานพิเศษที่มหาลัยไปพลางๆ ก่อนที่จะได้หางานประจำทำ

     

                    แจจุงทำงานอยู่ที่ห้องสมุด เพราะเขาชอบการอ่าน หนังสือเป็นสิ่งเดียวที่เขาอาจจะเรียกมันได้ว่า เพื่อน เขาไปที่นั่นแทบทุกวัน ใช้เวลาอยู่ที่นั่นตั้งหลายชั่วโมง ห้องสมุดทำให้เขารู้สึกปลอดภัย น้อยครั้งนักที่เขาจะเห็นวิญญาณ ณ ที่แห่งนั้น อย่างมากก็เป็นวิญญาณของอาจารย์ท่านก่อนๆ ที่มักจะแวะเวียนมาใช้บริการที่ห้องสมุดอยู่เป็นประจำ หรือนักศึกษาจอมขยันที่มีความผูกพันธ์กับที่แห่งนี้ แต่พวกเขาก็เป็นวิญญาณที่รักสงบ ไม่มีใครเข้ามารบกวนหรือแกล้งหลอกเขาเล่นเลย ดังนั้นแจจุงจึงชอบมาขลุกตัวอยู่ที่นี่เป็นประจำ จนอาจารย์ที่ทำหน้าที่ดูแลห้องสมุดเอ็นดูเขา พอเขาเรียนจบท่านก็เลยเรียกให้เขามาช่วยงานที่นี่ไปพลางๆ ก่อน

     

                    ในระหว่างทางที่กำลังจะเดินไปที่ห้องสมุด เสียงพูดคุยของนักศึกษาหญิงกลุ่มหนึ่งที่เดินผ่านมาก็ลอยเข้ามากระทบกับโสตประสาทของเขา

     

                    “วันนี้ฉันได้ข่าวมาว่ารุ่นพี่ยุนโฮจะแวะมาที่มหาลัยด้วยนะ ไปนั่งรอพี่เขาที่หน้าตึกบริหารกันมั้ย?

     

                    “ไปซิๆ โหย ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอพี่เขาอีกแล้วนะเนี่ย ดีใจจังที่เขายังแวะมา”

     

                    “วันนี้ตึกหน้าคณะบริหารคงจะแตกแน่ๆ เพราะฉันได้ข่าวว่าวันนี้พี่ยูชอนก็แวะมาด้วย”

     

                    “งั้นพวกเราก็ต้องรีบไปเดี๋ยวนี้เลย”

     

                    แล้วผู้หญิงกลุ่มนั้นก็ออกตัววิ่ง แจจุงมองตามด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยจะเข้าใจ ใครกันนะชองยุนโฮ ปาร์คยูชอน ชื่อของบุคคลสองคนนี้เขามักจะได้ยินอยู่เสมอๆ ตั้งแต่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้เจอตัวจริงของพวกเขาเลยสักครั้ง รู้แต่ว่าผู้ชายสองคนนั้นดังมาก ผู้หญิงและผู้ชายหลายๆ คนต่างก็พากันชื่นชอบพวกเขา เพื่อนๆ ในเซคของเขาก็ชอบพวกเขาเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ชื่อชองยุนโฮ คนนี้เขาได้ยินชื่อบ่อยที่สุดและ

     

                    “สงสัยพวกเขาคงจะเป็นดาราล่ะมั้ง”

                    แจจุงพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะก้าวขาเดินไปทางด้านหน้าต่อ

    .

    .

    .

                    บรรยากาศภายในห้องสมุดนั้นเงียบสงบ มีนักศึกษาเพียงไม่กี่คนที่เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ความรู้แห่งนี้ แจจุงนั่งก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ที่เคาน์เตอร์ เส้นผมสีดำที่แลดูจะยุ่งเหยิงลู่ลงปกปิดใบหน้าขาวๆ นั่นแทบจะทั้งหมด ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็แอบมองบุคคลที่ดูลึกลับคนนี้ด้วยสายตาที่แตกต่างกันออกไป ทั้งสงสัยและหวาดกลัว

     

                    คิมแจจุงไม่ใช่คนดัง มีเพียงไม่กี่คนที่รู้จักหรือจดจำชื่อของเขาได้ แต่ถ้าถามถึงคนที่น่ากลัวประจำมหาลัย บุคคลที่ใครหลายๆ คนต่างนึกถึงก็คงจะไม่พ้นผู้ชายร่างบางคนนี้อย่างแน่นอน

     

                    ฝ่ามือขาวซีดปิดหนังสือที่ตัวเองเพิ่งอ่านจบลง ใบหน้าขาวๆ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามองดูบรรยากาศรอบๆ ห้องสมุด

     

                    “คนน้อยจังแหะ”

                    แจจุงบ่นพึมพำกับตนเองออกมาเบาๆ

     

                    คนตัวเล็กลุกออกจากเก้าอี้เพื่อที่จะไปหาหนังสือเล่มใหม่มาอ่านฆ่าเวลาเล่น ช่วงขาเรียวก้าวเดินไปอย่างช้าๆ ภายในหัวก็คิดถึงนิยายที่ตัวเองอยากอ่านไปด้วยพลางๆ และในขณะนั้นเองที่หูของเขาบังเอิญไปได้ยินบทสนทนาของใครบางคนเข้า

     

                    “ทำไมไอ้ซีวอนมันต้องมาขลุกตัวอยู่ในห้องสมุดอยู่เรื่อยเลยวะ”

                    เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา แม้จะไม่ได้ใช้น้ำเสียงที่ดังมากนัก แต่ภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบพวกนี้คิมแจจุงก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน และมีสิ่งที่น่าแปลกใจก็คือเขารู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงของคนคนนี้ยังไงก็ไม่รู้

     

                    “ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจสักนิด สาวๆ สวยๆ ก็ไม่มี มีแต่ผู้ชายน่ากลัวๆ ที่นั่งเฝ้าอยู่ตรงทางเข้านั่น”             

                    เสียงของผู้ชายอีกคนพูดต่อ

     

                    ช่วงขาเรียวของแจจุงหยุดชะงัก เขาพึมพำออกมาเบาๆ

                    “ผู้ชายที่น่ากลัวอย่างงั้นหรอ? หึ!

     

                    แจจุงหัวเราะในลำคอ ไม่ต้องอธิบายให้มากความ ผู้ชายน่ากลัวที่คนคนนั้นพูดถึงก็คือเขาอย่างแน่นอน อ่าเขาชินกับคำพูดพวกนี้แล้วล่ะ แจจุงถอนหายใจพร้อมกับกำลังจะก้าวขาออกเดินต่อถ้าหากไม่ได้ยินคำพูดต่อมาของผู้ชายสองคนนั่นเสียก่อน

     

                    “รีบไปหาตัวมันให้เจอดีกว่าว่ะยุนโฮ

     

                ‘ยุนโฮ? ชองยุนโฮ? น่ะหรอ อ่าอยากรู้จังว่าคนคนนี้หน้าตาเป็นยังไงกันนะ ทำไมใครหลายๆ คนถึงพากันชื่นชอบและพูดถึงเขาอยู่บ่อยๆ

                    ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบสนใจเรื่องของคนอื่น แต่แจจุงก็เป็นมนูษย์ทั่วๆ ไปที่มีความอยากรู้อยากเห็นฝังอยู่ในตัว ก็แค่อยากรู้ว่าเขาคนนั้นหน้าตาเป็นยังไงก็แค่นั้นเอง

     

                    ช่วงขาเรียวค่อยๆ ก้าวเดินไปตามทางเสียงพูดคุยของบุคคลทั้งสอง จนดวงตากลมโตของเขามาพบเข้ากับแผ่นหลังกว้างของคนทั้งสองเข้า

                   

                อ่าถ้าหันหลังให้เขาแบบนี้เขาก็ไม่มีทางได้เห็นหน้าของสองคนนั้นแน่ๆ

                ดวงตากลมโตพยายามสอดส่ายสายตาหามุมดีๆ ที่จะทำให้เขาสามารถมองเห็นใบหน้าของผู้ชายสองคนนั้นได้ และในตอนนั้นเองที่ผู้ชายคนหนึ่งหันใบหน้ากลับมา เขาจึงได้เห็นใบหน้าของผู้ชายคนนั้นเข้า และโชคดีตรงที่ที่เขายืนอยู่นั้นเป็นมุมอับที่อยู่ไกลจากพวกเขาพอสมควร

     

                    ผู้ชายคนนั้นมีเส้นผมสีน้ำตาลซึ่งคาดว่าคงไม่ใช่สีธรรมชาติมาตั้งแต่เกิด ทรงผมของเขาถูกเซ็ตมาอย่างดี ดวงตาคมของเขาดูขี้เล่นและเป็นประกาย เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากๆ ในความคิดของแจจุง

                    “คนนี้จะใช่ชองยุนโฮมั้ยนะ?

     

                    และในตอนที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ผู้ชายอีกคนที่หันหลังให้เขาอยู่ก็เปลี่ยนที่ยืน เขาเอนตัวพิงเข้ากับชั้นวางหนังสือด้วยท่าทีสบายๆ จากจุดที่แจจุงยืน เขาเห็นเพียงแค่ใบหน้าด้านข้างของผู้ชายคนนั้นเท่านั้น แต่เพียงแค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว เพียงพอแล้วจริงๆ

     

                    เห็นแค่แว๊บเดียว แม้จะเป็นแค่ใบหน้าด้านข้างของเขาคนนั้น แจจุงก็จำได้อย่างทันทีเลยว่าบุคคลนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร

     

                    แจจุงจดจำใบหน้าของผู้ชายคนนี้ได้เป็นอย่างดีผู้ชายที่เขาเจอเมื่อวานนี้

                    ผู้ชายที่เป็นเหมือนหลุมหลบภัยของเขา

                   

                    “ลองโทรตามมันอีกรอบซิยูชอนเผื่อมันจะเปิดเครื่องแล้ว”

                   

                    เขาคนนั้นเอ่ยปากบอกกับผู้ชายอีกคน ถ้าคนนั้นชื่อยูชอน ผู้ชายคนที่เขาเจอเมื่อวานก็คงจะชื่อยุนโฮซินะชองยุนโฮ

     

                    และเหมือนว่ายุนโฮจะเริ่มรู้สึกถึงสายตาของใครบางคนที่กำลังจ้องมองตนเองอยู่ เขาจึงหันหน้ากลับไปมองตรงที่ที่แจจุงยืนอยู่ โชคดีที่แจจุงไหวตัวทัน เขารีบเบี่ยงตัวเข้าไปหลบที่หลังตู้หนังสือด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็วเพราะความตื่นเต้นและรู้สึกกลัว กลัวว่าตัวเองจะโดนจับได้ว่าแอบมองเขาคนนั้น

     

                    ยุนโฮมองไปตรงที่ที่แจจุงเคยยืนอยู่พร้อมกับขมวดคิ้ว เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังมองเขา ยูชอนที่เห็นเพื่อนมองไปอีกทางก็หันไปมองตามด้วยความสงสัย

                    “มองอะไรวะ?

     

                    ยุนโฮส่ายหน้า

                    “ไม่มีอะไร รีบไปหาไอ้ซีวอนมันเหอะ”

     

                    เสียงฝีก้าวที่ค่อยๆ ห่างออกไปเรื่อยๆ ทำให้แจจุงต้องถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งออกอีกครั้ง ก่อนที่รอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากจะปรากฏขึ้น

                    “หลุมหลบภัยของเราชื่อว่าชองยุนโฮอย่างงั้นหรอ”

     

                    แจจุงฉีกยิ้มกับตนเอง ก่อนที่เขาจะพึมพำอะไรบางอย่างออกมา

                    “เราจะต้องได้เจอกันอีกแน่ๆ ชองยุนโฮ”

    .

    .

    .

                    แจจุงกลับมาบ้านทันทีที่หน้าที่ของตนเองจบลง เขาไม่มีเวลามาสนใจวิญญาณที่คอยป้วนเปี้ยนปรากฏตัวมาให้เขาเห็นอยู่ตามทาง เพราะในตอนนี้มีเรื่องของใครบางคนที่ดูงดึดความสนใจของเขาได้มากกว่า

     

                เรื่องของชองยุนโฮ

                   

                    โน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าที่ทั้งเขาและจุนซูเก็บเงินช่วยกันซื้อถูกนำมาใช้ในเวลาที่จำเป็นเช่นนี้ มือขาวซีดเลื่อนเม้าส์ไปมาก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นพิมพ์ข้อความบางอย่างลงไปและกดปุ่มค้นหา

     

                    ชื่อของบุคคลที่เขาต้องการปรากฏให้เห็นอยู่ในเว็บไซต์ต่างๆ มากมาย คนตัวเล็กนั่งอมยิ้มกับตัวเองน้อยๆ เขากำลังหาหนทาง หาวิธีที่จะทำให้เขาได้พบกับยุนโฮอีกครั้ง

     

                    เว็บไซต์ของห้างสรรพสินเดอะค้าคิงดอม ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเกาหลี ธุรกิจอีกหนึ่งอย่างของตระกูลชอง เป็นเว็บไซต์แรกที่แจจุงเลือกที่จะกดคลิกเข้าไป เขาเลือกหัวข้อที่เกี่ยวกับประวัติและความเป็นมา กดเข้าดูหัวข้อนู้นนี้ไปเรื่อย เลื่อนอ่านข้อมูลต่างๆ ไปสักพัก เลื่อนเม้าส์ไปมา และอยู่ๆ ลมหายใจของเขาก็เหมือนจะติดขัด หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วเมื่อเขาเลื่อนเม้าส์ลงมาพบกับรูปว่าที่ผู้บริหารของเดอะคิงดอมที่กำลังจะรับหน้าที่ต่อท่านประธานคนเดิมในเร็วๆ นี้

     

                รูปของชองยุนโฮ

                   

                    ดวงตากลมโตไล่สายตาอ่านข้อความนั้นอยู่หลายรอบ เขาฉีมยิ้มกับตัวเองทุกครั้งที่สายตาเลื่อนไปเห็นรูปของชองยุนโฮ ยิ่งคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้คิมแจจุงก็ยิ่งรู้สึกอยากเจอคนคนนี้มากขึ้น อยากอยู่ใกล้ๆ อยากแอบมองคนคนนี้ บุคคลที่เปรียบเสมือนเป็นแสงสว่างให้แก่เขา

     

                    และเมื่อคิดได้ดังนั้น คิมแจจุงก็ไม่รอช้า เขาจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ เขาจะไม่ยอมให้การพบกันระหว่างเขากับชองยุนโฮจะต้องจบลงเพียงแค่นี้ ในเมื่อเขาไม่เคยเจอใครที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยเท่านี้มาก่อนทั้งๆ ที่เราเพิ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกแท้ๆ ไม่มีอะไรรับประกันเขาได้ว่าเขาจะสามารถหาผู้ชายแบบนี้ได้อีก เขาจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปอย่างงั้นหรือ?

     

                    ในเวลานี้แจจุงเหมือนกำลังเดินอยู่กลางทะเลทราย ที่ไม่มีอะไรเลย และอยู่ๆ เขาก็พบเข้ากับบ่อน้ำ แม้จะเป็นคนโง่แค่ไหน ใครๆ ก็ย่อมต้องเลือกพุ่งเข้าหาบ่อน้ำนั้นอย่างแน่นอน และถ้าหากชองยุนโฮเป็นบ่อน้ำที่อยู่กลางทะเลทรายนั่น เขาก็ควรจะพุ่งเข้าใส่ชองยุนโฮด้วยเช่นกัน

     

                    “พรุ่งนี้ฉันจะต้องไปสมัครงานที่ห้างเดอะคิงดอมให้ได้!

    .

    .

    .

    .

    .

                    ตึกสูงใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าทำให้คิมแจจุงถึงกับหายใจติดขัด มือของเขาชื้นเหงื่อเพราะความตื่นเต้น ผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมา ความวุ่นวายเล็กๆ เกิดขึ้นในบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง

     

                    คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจ เขากระชับแฟ้มเอกสารที่อยู่ในอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจก้าวเดินออกไปทางด้านหน้า ทุกๆ ฝีก้าวที่ก้าวเดินออกไปนั้นล้วนเต็มไปด้วยความประหม่าและความตื่นเต้นทั้งสิ้น

     

                    ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาภายในห้างเอดะคิงดอม คิมแจจุงก็สัมผัสได้ถึงความวุ่นวายที่มีมากขึ้นกว่าทางด้านนอกอีกหลายสิบเท่า ผู้คนมากมายที่แต่งตัวดูดีเดินพูดคุยและช็อปปิ้งกันอย่างสนุกสนาน ทุกร้านค้าต่างเต็มไปด้วยลูกค้าที่ดูมีระดับ การตกแต่งของห้างสรรพสินค้านั้นถูกแต่งอย่างหรูหรา ดูดีเสียไปซะทุกๆ ส่วน ดูดีมากซะจนทำให้แจจุงรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่ก้าวขาเหยียบเข้ามาในที่แห่งนี้ คิมแจจุงกลายเป็นสิ่งที่ไม่เข้าพวกของห้างนี้ไปเสียซะแล้วซิ

     

                    “อย่าเพิ่งถอดใจซิคิมแจจุง!

                    แจจุงพูดให้กำลังใจตัวเองเบาๆ

     

                    เพื่อชองยุนโฮท่องเอาไว้

     

                    ดวงตากลมกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อหาจุดลูกค้าสัมพันธ์หรือใครสักคนก็ได้ที่พอจะให้ข้อมูลเขาได้ว่าถ้าต้องการมาสมัครงานที่นี่ต้องทำอย่างไรบ้าง เขาสะดุดตาเข้ากับคุณรปภ.ที่กำลังเดินอยู่ไม่ห่างจากจุดที่เขายืนอยู่มากนัก แจจุงไม่รอช้า เขารีบเดินตรงเข้าไปหาคุณยามคนนั้นอย่างทันที

     

                    “ขอโทษนะฮะ คุณรปภ.ครับ”

     

                    รปภ.คนนั้นยังคงเดินต่อไปทางด้านหน้า ไม่สนใจเสียงเรียกของแจจุงเลยแม้แต่น้อย

     

                    “คุณรปภ.ครับ!

                    แจจุงเอ่ยเรียกพร้อมกับเอื้อมมืออกไปแตะที่ไหล่ของคนคนนั้น และก็ดูเหมือนว่าจะได้ผล รปภ.คนนั้นหยุดเดิน เขายืนนิ่งไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะค่อยๆ หันหน้ากลับมามองทางด้านหลังอย่างช้าๆ

     

                    และทันทีที่แจจุงเห็นใบหน้าของคุณรปภ.ที่ตัวเองเอ่ยเรียก ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ เขาอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นว่าคุณรปภ.คนนั้น มีใบหน้าที่เปื้อนเลือดเต็มไปหมด

     

                    “ขะ…… ขอโษฮะ!!!

                    กว่าจะหาเสียงและตั้งสติได้ก็นานพอสมควร แจจุงรีบพูดขอโทษวิญญาณคุณรปภ.ที่รักหน้าที่ของตัวเองเสียเหลือเกินอย่างรวดเร็วก่อนที่จะรีบกลับหลังหันและวิ่งหนีออกจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุดเมื่อเขาเห็นว่าดวงตาของคุณรปภ.ยังจ้องมองมาที่เขาไม่เลิก

     

                    และเพราะกลัวว่าวิญาณของคุณรปภ.ตนนั้นจะตามตัวเองมา ช่วงขาเรียวจึงเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น ให้ตายซิ! ยังไงเขาก็ไม่ชิน ไม่มีทางชินจริงๆ กับเรื่องที่ผิดปกติเช่นนี้ ทำไมโชคชะตาต้องกลั่นแกล้งให้เขาเห็นผีได้ด้วย เขาไม่เข้าใจจริงๆ

     

                    เพราะมัวแต่กลัวและไม่ได้มองทาง ร่างเล็กๆ ของแจจุงจึงวิ่งไปชนเข้ากับร่างของใครบางคนเข้าอย่างจัง

                ปึก!

     

                    “ขะ! ขอโทษฮะ ผมไม่ทันมอง ขอโทษจริงๆ ฮะ!

                    แจจุงพูดออกมาด้วยความตกใจ เขาเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่ตัวเองวิ่งชนก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิกกว้างขึ้นเมื่อคนที่เขาโดนชนนั้นคือคนที่เป็นต้นเหตุให้เขามาที่ห้างแห่งนี้

     

                ชองยุนโฮ

     

                    แต่ดูเหมือนว่าคนคนนั้นจะไม่ได้สนใจคำพูดและการมีตัวตนของเขาเลยสักนิด ชองยุนโฮกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ดูท่าจะเป็นเรื่องสำคัญเสียด้วย เขาดูจะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยที่โดนแจจุงวิ่งชนเพราะเรียวคิ้วของเขาขมวดชนกันจนเกิดเป็นปมขนาดย่อมๆ

     

                    “ไม่มีอะไรครับ แค่คนซุ่มซ่ามวิ่งชนก็แค่นั้นเอง เชิญคุณคังพูดเรื่องงานของคุณต่อได้เลย”

                    ยุนโฮพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความหงุดหงิดก่อนที่จะเดินผละหนีจากที่ที่แจจุงยืนอยู่ไปอย่างรวดเร็ว

     

                    แม้แต่หางตา ชองยุนโฮก็ไม่ได้มองมาที่เขา

     

                    มีเพียงแค่เลขาคิมเท่านั้นที่จำเขาได้ ดวงตาของคนที่สูงอายุกว่ามองมาที่แจจุงเล็กน้อยด้วยความสงสัยก่อนที่จะรีบเดินตามชองยุนโฮไป ทิ้งให้แจจุงได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไปจนลับสายตาอยู่คนเดียว

     

                    “ยุนโฮ”

                    แจจุงพึมพำกับตนเองออกมาเบาๆ ดวงตากลมโตมองไปที่จุดๆ เดิมที่เคยมีวิญญาณของคุณยามยืนอยู่ ซึ่งตอนนี้มีเพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่เดินผ่านไปผ่านมา และสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นนี่เองยิ่งเป็นตัวตอกย้ำให้แจจุงคิดว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด

     

                ชองยุนโฮหลุมหลบภัยชั้นดีของฉัน

                   

                    “เอาล่ะ! รีบไปสมัครงานที่นี่กันเถอะ!

                    แจจุงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตากลมโตกับมามีประกายอีกครั้ง

     

                    ชองยุนโฮ ฉันจะต้องอยู่ใกล้คุณให้ได้

    .

    .

    .

                แม้ว่าจะตั้งความหวังเอาไว้มากมาย แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างคิมแจจุงเอาเสียเลย เมื่อคำตอบที่ได้รับจากฝ่ายบุคคลช่างทำลายความฝันของเขาซะย่อยยับ

     

                    “ขอโทษนะคะ ในตอนนี้ตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับคุณยังไม่มีว่างเลยค่ะ”

                    นั่นคือคำตอบที่เขาได้รับหลังจากที่ไปติดต่อขอสมัครงานกับฝ่ายบุคคลของห้างสรรพสินค้าเดอะคิงดอม

     

                    ความหวังที่จะอยู่ใกล้ชองยุนโฮ พังลงไปต่อหน้าต่อตา

     

                    “ตำแหน่งอะไรก็ได้ ไม่ต้องตรงกับสาขาที่ผมจบมาก็ได้นะครับ ไม่มีว่างเลยหรอฮะ?

                    แจจุงจบคณะมนุษย์ศาตร์ เอกวรรณคดี ซึ่งถ้าจะหางานให้ตรงกับสาขาที่ตัวเองจบก็คงจะเป็นไปได้ยาก ซึ่งตอนนี้เขาไม่สนแล้ว จะงานอะไร ตำแหน่งไหนเขาก็พร้อมจะทำ ขอให้ได้เป็นส่วนหนึ่งของหางนี้ก็พอ เขาขอแค่นี้จริงๆ

     

                    หญิงสาวคนนั้นยิ้มเจื่อนก่อนที่จะตอบกลับมา

                    “ขอโทษด้วยนะคะ ทางห้างของเราไม่มีนโยบายรับพนักงานที่จบมาในสาขาที่ไม่ตรงกับตำแหน่งงาน ยิ่งเป็นนักศึกษาที่เพิ่งจบและยังไม่มีประสบการณ์ด้วยแล้ว ก็คงจะยากต่อการพิจารณา”

     

                    คนร่างบางฟังแล้วก็ได้แต่ก้มหน้านิ่งด้วยใบหน้าหงอยๆ

                หมดหวังแล้วซินะ

     

                    โชคชะตาคงจะกำหนดให้เขาและชองยุนโฮได้พบกันเพียงแค่นั้น พบเพื่อเพียงผ่าน

     

                    แจจุงเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวที่ยังคงมองเขาด้วยแววตาขอโทษปนสงสารแล้วก็ได้แต่ฝืนฉีกยิ้มบางๆ ออกมา

                    “ไม่เป็นไรฮะ”

     

                    คนตัวเล็กก้มห้วให้เธอเล้กน้อยก่อนที่จะกลับหลังหันเพื่อที่จะเดินออกจากที่แห่งนี้ด้วยท่าทางที่ซึมเศร้า และในตอนที่เขากำลังจะผลักประตูออกจากห้องฝ่ายบุคคลนั่นเอง ที่ดวงตากลมโตของเขาเผลอสบเข้ากับอะไรบ้างอย่าง

     

                    อยู่ๆ ความคิดนี้ก็พุ่งเข้ามาในหัวของเขาหลังจากที่ได้เห็นข้อความที่อยู่บนกระดาษที่แปะอยู่ที่ข้างประตู

     

                    ดวงตากลมโตที่เคยมีแววหม่นหมองกลับมาเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่นได้อีกครั้ง แจจุงฉีกยิ้มกว้าง เขาหันตัวกลับพร้อมกับเดินเข้าไปหาหญิงสาวคนเดิมที่กำลังยืนมองท่าทางของเขาด้วยสายตางงๆ อย่างรวดเร็ว

     

                    “ตำแหน่งพนักงานทำความสะอาด”

     

                    “เอ๋?

     

                    “ผมผมสมัครเป็นพนักงานทำความสะอาดได้ใช่มั้ยฮะ?

     

                งานตำแหน่งนี้เขาคงไม่ดูสาขาที่จบมาหรอกเนอะ

                ขอแค่ได้อยู่ใกล้ชองยุนโฮ

     

                ไม่ว่าจำต้องทำงานตำแหน่งอะไร

                แจจุงก็ยอม

     

     

    TBC ^----------^*

     

     

    *******************************************************

     

    Talk : )

     

    สวัสดีค่ะ
    มุกมาแล้วววววววววววววว
    มาตามที่สัญญาเอาไว้ว่าจะพยายามมาอัพให้อาทิตย์ละครั้ง
    แต่คงมาอัพได้ในวันอาทิตย์นะคะ เพราะจันทร์ถึงศุกร์ฝึกงาน วันเสาร์มีเรียน ว่างแค่วันเดียวค่ะ เหนื่อย TT
    ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วยน๊า

    เอาล่ะมาพูดถึงฟิคกันหน่อย อยากรู้ว่าทุกคนที่อ่านชอบแนวแบบนี้มั้ย
    เพราะตอนที่ตัดสินใจเลือกเรื่องที่จะแต่งนี่ก็คิดนานอยู่นะคะ เพราะน่าจะมีคนเคยดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว
    เลยอาจจะไม่ค่อยชอบฟิค
    แต่เราก็ดันอยากแต่ง 55555555
    ไม่เป็นไร แต่งไปแล้ว หวังว่าจะมีคนชอบอ่ะเนอะ

    หลายคนบอกพี่ยุนเย็นชา ก็แค่ตอนแรกๆ นี้แหละค่ะที่จะเย็นชา
    หลังๆ ก็……… ไปคิดเอาเอง ><

    ส่วนคู่ยูซูและชางมิน รอกันสักครู่นะคะ เดี๋ยวก็จะออกมาแล้ว
    ใครที่อยากพูดคุยกับมุก นี่ช่องทางค่ะ สอบถามเรื่องฟิค ทวงฟิค อยากได้ฟิคที่มุกเคยรวมเล่มเอาไว้ก็ทวิตเตอร์เลย

    Twitter >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE  
    E-mail >>> mookiie_jong@hotmail.com

    แล้วเจอกันตอนหน้านะคะทุกคน
    ^---------------------------------^*

      

    *******************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×