คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ,,, Part 1 ,,, First Kiss
Title : Smartly Boy
Type : Long fiction
Author : *..MooKiiE..*
Category : Comedy / Romance
Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
Part 1
แสงแดดยามเช้าของวันใหม่ค่อยๆ ปลุกสิ่งมีชีวิตต่างๆให้ตื่นขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ตามกิจวัตรประจำวันของตนเองที่เหมือนกับทุกๆวัน เหล่านกกาต่างพากันส่งเสียงต้อนรับอรุณวันใหม่ที่แสนจะสดใสเช่นนี้ ผู้คนมากมายเริ่มพากันออกมาทำกิจวัตรต่างๆของตนเองอย่างเคยชินแบบที่เคยทำอยู่ในทุกๆวัน
แต่ว่าวันนี้ก็คงจะมีบางสิ่งบางอย่างเท่านั้นแหละ ที่ดูจะต้องเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ก็วันนี้มันเป็นวันเปิดภาคเรียนใหม่ของเด็กนักเรียนนี่นา ... . แล้วเวลานี้ก็ควรจะตื่นนอนกันได้แล้ว เพราะวันเปิดภาคเรียนวันแรกเช่นนี้ก็คงจะเป็นวันที่ผู้อำนวยการของโรงเรียนต่างๆอยากจะพูดคุยกับนักเรียนทั้งโรงเรียนเสียเหลือเกิน และนั่นก็หมายความว่าวันนี้จะมีการประชุมเปิดภาคเรียนนั่นเอง
ในขณะที่คนอื่นๆกำลังขะมักเขม้นกับการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆของตนเองอยู่นั้น กลับมีร่างของใครคนหนึ่งที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมพาตัวเองออกจากห้วงนิทราอันแสนหวานนั่นเสียที หรืออาจจะเป็นเพราะที่นอนมันนุ่มกันนะ .. .. แต่คงไม่ใช่หรอก คงจะเป็นเพราะความขี้เกียจของเจ้าตัวเสียมากกว่าที่ทำให้ คิม แจจุง เด็กหนุ่มร่างบางนี้ไม่ยอมตื่นนอนเสียที
“ แจจุง... แจจุงลูก ตื่นได้แล้วนะ มันจะสายแล้ว “
เสียงของ คิม มุนอา เอ่ยเรียกบุตรชายของตนเองหลังจากที่จัดการกับการเตรียมงานที่ร้านอาหารที่อยู่ชั้นล่างของบ้านเรียบร้อยแล้ว แต่บุคคลที่เธอกำลังเอ่ยเรียกอยู่นั้นก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดตอบรับกลับมาเลย มีก็แต่เสียงลมหายใจที่ยังคงผ่อนลมเข้าออกอย่างสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลง ใบหน้าที่สวยหวานไม่แพ้บุตรชายของตนเองค่อยๆก้มลงเข้าไปสูดความหอมจากพวงแก้มขาวของลูกชายอย่างที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน แล้วจึงค่อยๆเอ่ยเสียงเรียกอีกครั้งหนึ่ง
“ แจจุง ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะลูก ไม่อย่างงั้นแม่จะหักค่าขนมของลูกครึ่งนึงนะ “
ทันทีที่ประโยคอันตรายจบลง หนังตาที่กำลังทำหน้าที่ปกปิดดวงตากลมโตก็ค่อยๆลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า พลางส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอสักเล็กน้อยพอเป็นพิธีเพื่อแสดงถึงอารมณ์ขัดใจที่มีคนมารบกวนการนอนของตนเช่นนี้
“ ไม่ต้องมาอิดออดเลยนะลูก ตื่นได้แล้ว หกโมงครึ่งแล้วนะ กว่าหนูจะอาบน้ำเสร็จอีก เดี๋ยวก็สายพอดีหรอก “
คนเป็นแม่เอ่ยเตือนลูกชายด้วยความหวังดี รอยยิ้มอบอุ่นของเธอยังคงส่งมอบให้กับคนตรงหน้าเสมอ ทุกๆอย่างที่ถูกประกอบขึ้นบนใบหน้าของแจจุงนั้น ล้วนแต่จะถอดแบบตนมาทั้งนั้น จึงไม่แปลกเลยที่ยิ่งลูกชายเธอโตขึ้นมากเท่าไหร่ ความสวยงามนั้นก็จะมากขึ้นตามด้วย และดูเหมือนว่ามันจะมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ ไม่แปลกเลยที่ใครๆต่างก็พากันคิดว่าเธอนั้นมีลูกสาว
“ แม่ฮะ แจจุงไม่อยากไปโรงเรียนเลยอ่า.. .. ยังง่วงอยู่เลย “ ดวงตากลมโตมองขอความเห็นใจจากแม่ของตน เผื่อว่าวันนี้ถ้าเขาโชคดีเค้าอาจจะไม่ต้องไปโรงเรียนก็ได้ แต่ดูเหมือนว่าความฝันเค้าคงจะสลายซะแล้วซิ
“ ไม่ต้องเลยนะ วันนี้เปิดเทอมวันแรก อย่าเกเรซิ หนูโตแล้วนะ ลุกเลยๆ “ เสียงอ่อนหวานของคนเป็นแม่เริ่มจะเจืออารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อยซะแล้ว เห็นดังนั้นแจจุงก็รู้ดีว่าตนเองควรจะทำเช่นไร ร่างกายบอบบางที่ดูจะไม่เหมาะกับที่จะเป็นร่างกายของผู้ชายนักค่อยๆพาตัวเองลุกจากที่นอน พลางบ่นอุบอิบกับตัวเองสักเล็กน้อยก่อนจะพาตัวเองเดินลงจากเตียงนอนไปคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่บนไม้แขวนเสื้อแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
มุนอาส่ายหัวกับตัวเองเล็กน้อย ปลงกับอาการของลูกชายตนเองที่แม้จะขึ้นมัธยมปลายปีสองแล้ว ก็ยังคงทำตัวเป็นเด็กประถมงอแงไม่อยากไปโรงเรียนเหมือนเดิม เธอเดินไปจัดเตรียมชุดนักเรียนและของใช้ต่างๆอีกเล็กน้อยแล้วนำออกมาวางให้แจจุงตามปกติที่เคยทำ ก่อนจะพาตัวเองเดินออกจากห้องลูกรักเพื่อที่จะลงไปเตรียมอาหารเช้าให้บุตรของตนที่ชั้นล่าง
หลังจากที่ได้อาหารสุดแสนอร่อยของคุณแม่คนสวยมานอนเกลือกกลิ้งอยู่ในท้องของตนเองเรียบร้อยแล้วนั้น แจจุงก็พร้อมที่จะออกเดินทางไปเรียนหนังสือด้วยอารมณ์เบิกบานนิดๆ เนื่องจากวันนี้ยังไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรมารบกวนจิตใจของเค้าในตอนนี้
เพราะบ้านของแจจุงตั้งอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนมากนัก เดินไปเพียงสองป้ายรถเมล์ก็ถึงแล้ว เขาจึงเลือกที่จะเดินไปมากกว่าการนั่งรถเมล์ที่แสนจะแออัดไปด้วยผู้คน เดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ เผลอแปบเดียวก็มาหยุดอยู่หน้าทางเข้าของโรงเรียนเสียแล้ว
‘ โรงเรียนมัธยมปลายแดยอง ‘ โรงเรียนที่ถือว่ามีชื่อเสียงอยู่พอสมควร เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงที่แสนจะเจริญนี่ด้วยแหละที่เป็นเหตุผลที่ทำให้ใครๆต่างก็พากันอยากจะมาเรียนที่นี่
ที่ทางประตูทางเข้านั้นก็มีอาจารย์ชายและหญิงต่างพากันยืนต้อนรับนักเรียนใหม่และนักเรียนเก่าด้วยรอยยิ้มที่แสนจะใจดี แจจุงกวาดสายตามองไปรอบๆกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะยืนรอเพื่อนรักที่หน้าโรงเรียนนี้ดี หรือ ว่าจะไปนั่งรอที่ห้อง ช่างใจอยู่สักพักก็เลยตัดสินใจว่าจะไปรอที่ห้องน่าจะดีกว่า จะได้ไปจองที่นั่งด้วย ว่าแล้วก็พาตัวเองเดินรวมหายเข้าไปกับฝูงนักเรียนที่กำลังจะเดินเข้าโรงเรียนไป
เรียวขายาวค่อยๆก้าวเดินไปอย่างช้าไม่รีบร้อนนัก ใบหน้าหวานระบายยิ้มเล็กน้อยเมื่อเดินผ่านกับคนที่รู้จักกัน ตลอดทางเดินของตึกเรียนก็ดูจะมีความวุ่นวายเล็กๆก่อตัวขึ้น เสียงพูดคุยดังไม่ขาดสาย เพราะต่างคนก็คงจะมีเรื่องเล่ามากมายว่าตนนั้นไปทำอะไรมาบ้างในช่วงปิดเทอม ใช้เวลาไม่นานนักแจจุงก็มาหยุดอยู่หน้าห้องเรียนของตนเอง มือเรียวบางค่อยๆจับประประตูแล้วเปิดออก สายตากลมโตกวาดมองไปทั่วห้อง เพื่อที่จะหาที่นั่งที่เหมาะสมสำหรับตนเองและเพื่อนรัก แต่สงสัยเค้าคงจะมาช้าไป เพราะมีคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขานั้นกำลังนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่มุมห้องที่ติดอยู่กับที่นั่งข้างหน้าต่างอยู่ แจจุงจึงรีบเดินไปหาเพื่อนของตนเองทันที
เสียงเก้าอี้ที่ถูกลากกับพื้นก็ยังคงไม่สามารถเรียกสติปัญญาของเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆนี่ได้เลย แจจุงย่นคิ้วเล็กน้อยเพราะอยากรู้ว่าทำไมเพื่อนเค้าถึงมีอาการเช่นนี้
“ นี่ จุนซู ชั้นมาแล้วนะ “
เงียบ. ...... ทันทีที่เอ่ยประโยคทักทายจบความเงียบก็ยังคงปกคลุมบริเวณนั้นดั่งเช่นเคย ไม่มีปฏิกิริยาใดตอบกลับ
“ จุนซู โว้ยยยยยยยย ได้ยินชั้นมั้ย “ สิ้นเสียงที่แทบจะเรียกได้ว่าจะตะโกนใส่หูคนฟังอยู่แล้ว ใบหน้ากลมเล็กก็หันกลับมาทำตาเขียวใส่เค้าทันที
“ ทำไมต้องเสียงดังด้วยล่ะแจจุง เรียกดีๆไม่ได้รึไง “
“ ชั้นเรียกนายดีๆแล้วต่างหากล่ะ นายนั่นแหละมัวแต่นั่งหน้าบูดอยู่นั่นแหละ มีเรื่องอะไรรึไง “
พอได้รับคำถามจากเพื่อนรักที่มีนามว่าคิม แจจุงแล้ว อาการฟาดหัวฟาดหางก็เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“ ก็วันนี้น่ะซิ ชั้นเห็นยูชอนเค้ามาโรงเรียนกับผู้หญิงอีกแล้ว คราวนี้เป็นรุ่นน้องปี1ด้วยนะ ไม่รู้ว่าไปรู้จักกันตอนไหน ฮึ่ย!! น่าโมโหที่สุดๆๆ!!!! “
ลมหายใจถูกพ่นออกมาอย่างเบื่อหน่าย หลังจากได้ฟังสาเหตุที่ทำให้เพื่อนของเค้านั้นแทบจะลงไปดิ้นอยู่กับพื้นแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องปกติ ตลอดระยะเวลาที่คบกับจุนซูมานั้น ก็เห็นจะมีแต่เรืองที่เกี่ยวกับรุ่นพี่หน้าหล่อนั่นแหละ ที่จะทำให้จุนซูออกอาการอย่างกับโดนแฟนนอกใจอย่างไงอย่างงั้นออกมา
“ เห๊อ. .... นี่นายยังไม่ชินอีกหรือไงกันนะ นายก็รู้หนิว่าพี่เค้ามีนิสัยยังไง และใช่ว่าวันนี้จะเป็นวันแรกที่เค้าจะมาโรงเรียนกับผู้หญิง แต่นี่มันถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับเลยต่างหาก เลิกบ่นได้แล้วน่า เตรียมตัวไปประชุมกันเถอะ และชั้นก็ได้ข่าวมาว่าปาร์ค ยูชอนของนายเป็นตัวแทนนักเรียนพูดต้อนรับนักเรียนใหม่ด้วยหนิ ไม่อยากไปดูรึไง “
พรึ่บ... .!!
จู่ๆร่างที่กำลังโอดครวญอยู่เมื่อกี้ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วหันมามองหน้าเพื่อนรักด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความมุ่งมั่น ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า ....
“ ชั้นหนะ . .. นะ “
“ ไม่เห็นมีความจำเป็นสักนิดเลย “
เอ๋. ... นี่เราคาดการผิดไปหรอกเหรอ แต่แล้วประโยคที่เอ่ยออกมาหลังจากนั้นก็แถบจะทำให้คิม แจจุงอยากกลับลงไปฟุบหน้าหลับทันที
“ ไม่เห็นมีความจำเป็นสักนิดเลย ที่คนอย่าง คิม จุนซูจะไม่รีบไปดูพี่ยูชอน ไปกันเถอะแจจุง เร็วๆเข้าซิ เดี๋ยวก็ไปหามุมส่องพี่เค้าดีๆไม่ได้หรอก “
ว่าแล้วร่างเล็กๆก็หายจากอาการฟาดหัวฟาดหางทันที กลับมายิ้มหน้าบานเหมือนอย่างเก่า
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
ณ หอประชุมโรงเรียนมัธยมปลายแดยอง
เสียงพูดคุยของเหล่านักเรียนที่อยู่ในหอประชุมนั้นดูเหมือนว่าแทบจะกลบเสียงพูดของเหล่าบรรดาอาจารย์ที่กำลังยืนพูดอยู่บนเวทีได้เสียสนิท แทบจะไม่มีใครให้ความสนใจกับอาจารย์บนเวทีนั้นเลย จนกระทั่ง. ....
“ ต่อไปจะเป็นการพูดต้อนรับนักเรียนทุกคน จากตัวแทนนักเรียนปี3ห้อง A ครับ “ ทันทีที่เสียงอาจารย์พิธีกรบนเวทีเอ่ยจบ ทั่วท้องหอประชุมก็ถูกปกคุมไปด้วยความเงียบทันที เหมือนกลับว่าแทบจะไม่ได้ยินเสียงใดๆทั้งสิ้นนอกเสียจากเสียงการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
ชายหนุ่มคนหนึ่งค่อยๆก้าวออกมาจากด้านมุมขวาของเวที พลางส่งยิ้มละไมไปทั่วทิศทั่วทาง แจจุงหันมามองคนข้างๆตัวเขาตอนนี้ที่กำลังยืนกัดผ้าเช็ดหน้าอย่างลืมตัวเพราะอาการเขิน เขินทั้งๆที่เค้าไม่ได้ยิ้มให้ตัวเองเนี่ยนะ!!
“ แจจุงๆ พี่ยูชอนยิ้มหละ “ พูดอย่างเดียวไม่พอ ยังส่งมือมาตีแขนของเค้าอีก
“ เออ เห็นแล้ว นี่!! อย่าตีชั้นจะได้มั้ย ดูเฉยๆซิ “
แต่ก็ดูเหมือนว่าเสียงของเค้านั้นจะไม่ได้รับการใส่ใจจากคนข้างกายแต่อย่างใด
“ สวัสดีครับ ผม ปาร์ค ยูชอนนะครับ หรือน้องๆจะเรียกว่าพี่ยูชอนเฉยๆก็ได้นะ วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของเทอม และโรงเรียนของเราก็ได้มีน้องๆม.ปลายปี1 ที่น่ารักเข้ามาเพิ่มสีสันให้กับโรงเรียนของเราอีกแล้วด้วย พี่ขอยินดีต้อนรับทุกคนเลยนะครับ “ ว่าแล้วก็ส่งยิ้มละลายหัวใจไปอีกหนึ่งที
‘ เหอะ มีสาวๆมาสร้างสีสันให้โรงเรียน หรือ ว่ามาสร้างสีสันให้ชีวิตแกกันแน่เนี่ย ‘
ความคิดที่กำลังคิดอยู่นี่ แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะเป็นความคิดของคิม จุนซูที่เทิดทูนปาร์ค ยูชอนสุดชีวิตอย่างเด็ดขาด เพราะฉะนั้นแล้วมันก็คงจะเป็นความคิดของคิม แจจุงนี่แหละถูกต้องที่สุดแล้ว
พิธีต้อนรับการศึกษาใหม่ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ชายหนุ่มสุดฮอตก็ยังคงพูดอยู่บนเวทีต่อไป สำหรับคนอื่นๆอาจจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่จะได้ยืนมองปาร์ค ยูชอนพูด แต่สำหรับแจจุงแล้ว มันช่างเป็นอะไรที่น่าเบื่อเสียจริง ว่าแล้วหัวสมองอันชาญฉลาดของแจจุงก็เพียรพยายามหาทางที่จะพาตัวเองออกจากหอประชุมที่น่าเบื่อนี่ และก็ดูเหมือนว่าสวรรค์จะเห็นใจให้แจจุงได้คิดออก . ....
‘ ใช่แล้วหนีไปห้องพยาบาลดีกว่า ‘
คิดได้ดังนั้นแจจุงก็จึงหันไปทางด้านข้างของตนเองหวังว่าจะบอกจุนซูให้ไปห้องพยาบาลด้วยกัน แต่ดูเหมือนว่าเค้าคงจะไม่ต้องบอกแล้วหละมั้ง ก็ตอนนี้เพื่อนของเค้ามันหายตัวไปไหนแล้วนี่ซิ!!
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
เรียวขายาวเดินไปอย่างเชื่องช้า ไม่เร่งรีบตามทางเดินของอาคารเรียนที่ตอนนี้จะดูรกร้างไม่มีผู้คนอยู่เลยแม้แต่น้อย เพราะนักเรียนทุกคนคงจะรวมตัวกันอยู่ที่หอประชุมนานแหละ มือเรียวบางกำลังจะเอื้อมไปเปิดประตูห้องพยาบาลที่ตอนนี้ถูกปิดอยู่แต่ก็ต้องชะงักเพราะดันมีคนเปิดมันออกก่อนเสียนี่ หญิงสาวร่างบาง หน้าตาสะสวยเป็นผู้เปิดประตูออกมา ดวงตากลมโตของเธอดูจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นว่ามีคนมายืนอยู่หน้าห้อง ไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลาเธอรีบจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วรีบเดินหนีออกไปจากตรงนั้นทันที
แจจุงดูจะงงเล็กน้อยที่เห็นผู้หญิงคนนั้นออกมาจากห้องพยาบาลด้วยสภาพที่ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่นัก กำลังจะยืนนึกหาเหตุผลที่หญิงสาวคนนั้นเข้ามาอยู่ที่ห้องพยาบาลในเวลานี้ แต่ก็เพิ่งจะนึกได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องของเค้าเลยสักนิดที่จะต้องมานั่งสนใจกับสาเหตุที่ไม่รู้จะคิดได้มั้ย เค้าจึงตัดสินใจพาตัวเองเข้าไปห้องพยาบาลที่ตอนนี้เงียบสงบ และน่านอนเป็นที่สุด แจจุงยิ้มกว้างกับตัวเองที่เค้าจะได้นอนต่ออีกสักหน่อยเพราะกว่าอาจารย์ห้องพยาบาลจะกลับมาก็อีกสักหนึ่งชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ไม่รอช้าคนตัวบางก็รีบปีนขึ้นไปนอนบนเตียงนอนทันทีหยิบผ้าห่มมาคลุมให้ตัวเองเสร็จสับแล้วก็พาตัวเองเข้าสู่ห้วงนิทราได้โดยง่าย .... .
โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าที่ห้องพยาบาลนั้นไม่ได้มีเค้านอนอยู่คนเดียว
อีกมุมหนึ่งของห้องพยาบาลมีชายหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียนอีกคนที่กำลังนอนหลับอยู่หลังจากที่ได้ออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆไปกับหญิงสาวร่างบางเมื่อสักครู่นี้ แต่ก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาเสียก่อนเมื่อรู้สึกถึงการมีตัวตนของใครอีกคนในห้องพยาบาลแห่งนี้ อาจจะเป็นเพราะว่ามุมที่เค้าอยู่มีผ้าม่านปิดไว้หรือเพราะว่าคนคนนั้นไม่คิดจะสนใจอะไรเลยนอกจากเตียงนอนเลยทำให้คนผู้นั้นไม่รู้ว่าเค้าก็อยู่ในที่แห่งนี้ด้วย
ร่างสูงใหญ่ค่อยๆพาตัวเองลุกจากที่นอนแล้วเดินตรงไปที่เตียงที่ตอนนี้มีร่างของใครบางคนกำลังจับจองอยู่ ดวงตาเรียวดูมีประกายขึ้นมาทันทีเมื่อได้เห็นหน้าตาของคนตรงหน้าชัดๆ หน้าตาสวยหวานของคนที่กำลังหลับตาพริ้มนี่ช่างเชิญชวนเขาเสียเหลือเกิน ปากแดงๆนั่นอีกน่างับชะมัด ไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลาใบหน้าคมก็ก้มโค้งลงเอียงทำมุมให้ได้องศาที่พอเหมาะ กลีบปากหนาค่อยๆทาบทับลงไปที่กลีบปากแดงฉ่ำของอีกคน ไม่รีบร้อนค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่ดูเหมือนว่ามันจะนานเกินไปเสียหละมั้ง จึงทำให้คนที่ถูกกระทำได้รู้สึกตัว ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นกว่าปกติ มือบางรีบผลักคนที่ดูจะสนุกกับปากเค้าเสียเหลือเกินให้ออกห่างจากตัวเองโดยเร็ว พร้อมกับถมึงตาใส่คนไม่มีมารยาท
“ นาย!!!! “ แจจุงชี้หน้าด่า ฝ่ามือบางถูไปตามปลีบปากแดงที่ถูกกระทำเมื่อสักครู่ หมายจะลบร่องลอยแห่งการถูกจูบเสียอย่างนั้น
“ นายกล้าดียังไงมาจูบปากชั้นเนี่ย ห๊า!! “ แต่ดูเหมือนคนที่กำลังโดนคนสวยด่าอยู่นั้นจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ยังคงยืนยิ้มละไมส่งไปให้คนบนเตียงอย่างไม่รู้สึกรู้สา
“ ฮึ่ย!!!!!! ซวยๆ ซวยที่สุด “ แจจุงยังคงสบถกับตัวเองต่อไปโดยไม่ได้รู้เลยว่าคนที่ตนเองด่าอยู่นั้นเดินเข้ามาใกล้ตนเองแล้ว นิ้วเรียวยาวถูกส่งให้ไปจับปลายคางของคนสวยอารมณ์ร้อนให้เงยหน้าขึ้นมามองหน้ากัน
ดวงตากลมโตดูจะนิ่งไปเมื่อได้สบเข้ากับดวงตาที่มีเสน่ห์คู่นั้น ก่อนสติจะถูกเรียกกลับมาก็หลังจากที่ได้ยินประโยคที่น่าจะทำให้ชีวิตของตนเองเปลี่ยนไป
“ ชั้น ... ชักจะถูกใจนายซะแล้วซิ “ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกส่งไปให้คนที่กำลังอึ้งอยู่ ก่อนที่จะพาตัวเองเดินออกจากห้องไป
นิ่ง ... นี่คืออาการของแจจุงหลังจากได้ยินประโยคนั้น แต่พอได้สติ และกำลังจะหันไปด่าคนที่ไม่มีมารยาทก็ต้องพบว่าคนคนนั้นได้เดินออกจากห้องพยาบาลนี่ไปแล้ว
‘ อะไรเนี่ย นี่เค้าโดนผู้ชายด้วยกันจูบหรอ คิม แจจุง อยากตาย!!!! ‘
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
ริมฝีปากหนาระบายยิ้มกับตนเองเล็กน้อย เมื่อนึกถึงกลีบปากนุ่มที่ตนได้ลิ้มลองไปเมื่อสักครู่นี้ ขายาวก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆก่อนจะหยุดอยู่ที่ห้องนักเรียนชั้นปี3ห้อง A เขาส่งยิ้มทักทายคนในห้องอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเดินไปนั่งที่ของตนเองที่ตอนนี้ที่ข้างกันก็มีเพื่อนสนิทเค้านั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ ไปไหนมาว่ะไอ้ยุนโฮ โดดประชุมตั้งแต่วันแรกเชียวนะแก “ ปาร์ค ยูชอนเอ่ยทักเพื่อนรักทันทีที่เห็นมันเดินมานั่งข้างๆตนเอง
“ ก็ไปหาอะไรสนุกๆทำนิดหน่อยนะ “ ใบหน้าคมที่ดูหลอเหล่าพอกันหันมาตอบคำถามของเพื่อนก่อนจะหันไปสนใจกับหนังสือการ์ตูนเล่มใหม่ที่ยังไม่ได้อ่าน
“ เออ กูว่าแล้วเชียว ตั้งแต่วันแรกเชียวนะมึง “ ไม่ต้องเสียเวลามาอธิบายอะไรให้มากความ ก็เพราะเป็นเพื่อนกันมานานแล้วนะซิ รู้ไส้รู้พุงกันมาหมดแล้ว ทำไมจะไม่รู้ว่าเพื่อนตัวดีของเค้านี่มันหายไปไหน ก็นะ... เพื่อนกันมันก็ต้องมีนิสัยที่คล้ายๆกันนั่นแหละ
ใบหน้าที่กำลังถูกหนังสือการ์ตูนปิดบังไว้อยู่นั้น ถ้าดูผ่านๆหลายคนก็คงจะคิดว่ายุนโฮนั้นกำลังสนใจกับหนังสือในมืออยู่แน่แท้ แต่ใครจะรู้ว่าที่จริงแล้วตอนนี้เค้าไม่ได้สนใจหนังสือการ์ตูนเล่มนี้เลยสักนิด เพราะตอนนี้สิ่งที่เค้ากำลังสนใจอยู่ก็คือ ใบหน้าของคนที่โดนเค้าขโมยจูบไปต่างหาก
“ แล้วเจอกันอีกนะคนสวย “
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
Talk ::
เข้ามาอ่านกันได้นะค่ะ . . . อ่าเราเพิ่งจะเอามาลงที่เด็ดดีนี่แหละค่ะ
ไม่รู้ว่าจะมีคนชอบอ่านมั้ย ถ้าอยากอ่านเราก็จะเอามาลงต่อนะ
ช่วยเม้น บอกสักนิดก็ยังดีนะค่ะ ว่าชอบหรือไม่ชอบ
เราจะได้เอาไปแก้ไขได้ ^^
ขอให้มีความสุขกับฟิคไม่รู้เรื่องของเรา 5 5 55 = =
ความคิดเห็น