คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ,,, Part 1 ,,, คุณเป็นใครกันนะ?
Title : Mystery Love
Type : Long fiction
Author : *..MooKiiE..*
Category : Comedy / Romance
Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
Note : เรื่องนี้มุกได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง The Master’s Sun นะคะ จึงทำให้เนื้อหาบางอย่างอาจคล้ายคลึงกันบ้าง
*******************************************************
ขอให้มีความสุขในการอ่านค่ะ ^^
Part 1
สายผนที่กำลังตกอยู่เริ่มเบาลงหลังจากที่มันตกจากฟากฟ้าไปได้เกือบสองชั่วโมง การจราจรบนท้องถนนไม่ได้ติดขนัดเหมือนช่วงหัวค่ำเพราะนี่ก็เป็นเวลาเกือบจะห้าทุ่มเสียแล้ว อีกทั้งยังเป็นวันที่ฝนตก ผู้คนจึงรีบพากันกลับบ้านไปตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ตามท้องถนนจึงมีเพียงรถไม่กี่คันที่แล่นผ่านไปผ่านมา ผู้คนเริ่มบางตาลง หรือบางจุดที่ค่อนข้างเปลี่ยวก็ไร้ผู้คนเลยก็ว่าได้
รถยนต์สีดำคันหรูแล่นไปตามท้องถนนด้วยความเร็วตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ บรรยากาศภายในรถนั้นเงียบสงบไร้เสียงพูดคุยหรือเสียงเพลงใดๆ ทั้งสิ้น
“เลขาคิม พรุ่งนี้ผมต้องเข้าบริษัทกี่โมง”
เสียงทุ้มๆ ของคนที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังเอ่ยถามบุคคลที่กำลังทำหน้าที่ขับรถให้เขาอยู่ด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ร่างสูงใหญ่นั่งเอนหลังพิงกับเบาะ เขาเอนหัวไปทางด้านหลังพร้อมกับปิดเปลือกตาลงเพื่อพักสายตาหลังจากที่ต้องเหนื่อยล้ากับงานมาหลายชั่วโมง
“จริงๆ นายท่านอยากให้คุณเข้าบริษัทตั้งแต่เช้าเลยครับ แต่ถ้าคุณมีธุระด่วนอะไรก็เข้าช้ากว่านั้นก็ได้”
คนฟังฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา
“พรุ่งนี้ผมจะแวะไปมหา’ลัยก่อน”
“แล้วบริษัท?”
“ผมจะแวะเข้าไปตอนบ่าย ได้ใช่มั้ย?”
ดวงตาคมเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง เขายกมือขึ้นนวดขมับของตนเองเมื่อรู้สึกว่าหัวของเขาในตอนนี้มันกำลังตื้อๆ ยังไงชอบกล
“ได้ครับ”
เลขคิมยิ้มบางพร้อมกับตอบรับกลับไป
ดวงตาของผู้ที่สูงวัยกว่าทั้งอายุและหน้าที่การทำงานมองดูใบหน้าคมของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายของตัวเองด้วยสายตาเอ็นดู นายน้อยที่เขาเห็นตั้งแต่ยังเป็นทารก ได้เห็นเขาค่อยๆ เติบโตขึ้นในแต่ละปี ในตอนนี้… คนคนนี้กำลังจะได้ขึ้นเป็นผู้บริหารที่ต้องปกครองใครอีกหลายร้อยคน
“เหนื่อยหน่อยนะครับ คุณอาจจะยังไม่ชิน แต่เวลาคุณทำงานจริงมันอาจจะเหนื่อยมากกว่านี้อีกสิบเท่า”
“ผมน่าจะหนีไปเรียนต่ออีกสักสองปี”
เขาบ่นออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
“จะเร็วจะช้าคุณก็ต้องรับหน้าที่นี้อยู่ดีนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าผมจะช่วยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน”
“ขอบคุณครับเลขาคิม”
“ยินดีครับ… นายน้อยชองยุนโฮ”
“เรียกผมว่าชองยุนโฮก็พอ ตัดไอ้คำว่านายน้อยนั่นออกไปเถอะ ผมเป็นเป็นผู้ใหญ่จนจะขึ้นเป็นประธานอยู่แล้วนะครับเลขาคิม”
คนร่างสูงพูดตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เขาขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งๆ ในตอนที่ได้ยินคำว่า “นายน้อย” คำที่ใครต่อใครคนมักใช้เรียกเขามาตั้งแต่เด็กๆ นายน้อยของตระกูลชอง ทายาทเพียงคนเดียวของชองยองโฮ เจ้าของห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่และดังที่สุดของเกาหลีใต้อีกทั้งยังมีธุรกิจในเครือต่างๆ อีกมากมาย และเพราะมีสิ่งที่ต้องดูแลอยู่มากมายอย่างงี้นี่เองที่ทำให้ชองยุนโฮที่ยังไม่ทันจะได้รับใบปริญญาต้องรีบออกมาฝึกงานที่ห้างก่อนที่จะต้องออกไปบริหารงานจริงๆ ในเร็วๆ นี้
ชองยุนโฮ… ชื่อนี้ที่ใครหลายๆ คนต่างก็รู้จัก ไม่ใช่เพราะเขาเป็นทายาทของเศรษฐีชื่อดังแต่เพียงเท่านั้น แต่ด้วยใบหน้าและรูปร่างของเขา ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยที่จะทำให้คนคนนี้โด่งดัง หลายต่อหลายครั้งที่ชื่อและรูปภาพของชองยุนโฮถูกตีพิมพ์ในหนังสือและนิตยสารชื่อดัง ทั้งภาพข่าว บทสัมภาษณ์ การถ่ายภาพแฟชั่น งานอดิเรกต่างๆ เรื่องกอสซิป หรือแม้แต่ภาพที่เห็นแค่ด้านข้างหรือแค่แผ่นหลังกว้างๆ ของคนคนนี้ก็ยังเป็นข่าวได้เลยให้ตายซิ!
ดวงตาคมปิดลงอย่างเหนื่อยล้า เขาต้องการจะพักสายตาอีกสักนิดเพราะอีกนานพอสมควรเลยกว่าจะถึงคอนโดของเขา แต่ยังไม่ทันจะได้พักผ่อนอย่างใจหวัง อยู่ๆ รถที่เคลื่อนที่ไปตามท้องถนนอย่างราบรื่นก็เกิดเบรกกะทันหันขึ้นมาซะอย่างงั้น
เอี๊ยด!!!!
ยุนโฮเอนตัวไปทางด้านหน้าตามแรงเบรกของรถ เรียกได้ว่าหัวแทบทิ่มกับเบาะรถเลยก็ว่าได้ ใบหน้าคมดูจะหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบเท่า อาการเหนื่อยล้าจากการทำงานยิ่งทำให้ชองยุนโฮกลายเป็นคนขี้หงุดหงิดมากขึ้นไปอีก
“เกิดอะไรขึ้น”
เลขาคิมหันใบหน้าที่ดูจะตกใจนิดๆ กลับมามองยุนโฮที่นั่งอยู่ทางด้านหลังพร้อมกับเอ่ยปากตอบกลับไป
“มีคนโบกรถอยู่ทางด้านหน้าครับ”
ยุนโฮขมวดคิ้วทันทีหลังจากที่ได้ฟัง ดวงตาคมมองออกไปที่ด้านหน้ารถสิ่งที่เขาเห็นคือร่างของใครบางคนที่ใส่เสื้อกันฝนยืนตากฝนอยู่ข้างทาง
“เราควรจะจอดรับเธอ….”
ยังไม่ทันทีเลขาคิมจะได้พูดจบ ยุนโฮก็พูดสวนขึ้นมาเสียก่อน
“ขับต่อไป รถคันนี้ไม่ใช่แท็กซี่ที่จะต้องมาจอดรับคนแปลกหน้าขึ้นมาร่วมทางด้วย”
เลขาคิมมีสีหน้าลังเลใจอยู่เล็กน้อยก่อนที่เขาจะหันไปปรับเกียร์และจับพวงมาลัยเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์อีกครั้ง ในตอนที่รถกำลังจะขับผ่านตรงจุดที่คนคนนั้นยืนอยู่ คนร่างบางที่ยืนอยู่ข้างทางก็รีบโบกมือพร้อมกับมองดูรถยนต์คันหรูด้วยสายตาแห่งความคาดหวัง แต่แล้ว… รถยนต์คันนั้นก็ขับเลยเขาไป
เลขาคิมมองดูร่างของคนในชุดกันฝนด้วยสายตาเป็นห่วง ก่อนที่จะละสายตากลับมาจ้องมองท้องถนนอีกครั้ง แต่อยู่ๆ ท้องถนนที่มีเพียงแค่แสงไฟคอยให้แสงสว่างอยู่ตามข้างทางก็เกิดมีแสงสว่างประหลาดอะไรบางอย่างวาบขึ้นมาซะอย่างงั้น และด้วยความตกใจจึงทำให้เขาเผลอเหยียบเบรกรถลงไป
เพียงไม่นานประตูทางด้านหลังคนขับก็ถูกเปิดออก พร้อมกับร่างของใครบางคนที่อยู่ภายใต้ชุดกันฝนที่แทรกตัวเข้ามาอยู่ภายในรถท่ามกลางความมึนงงของคนทั้งสอง
คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่จัดการถอดฮู้ดของเสื้อกันฝนออก เส้นผมที่ยังคงเปียกหมาดๆ ลู่ลงแนบเข้ากับแก้มขาวซีด คนร่างบางหันใบหน้าขาวๆ ของตนเองไปมองสบตากับคนทั้งสอง เขายิ้มแหยๆ พร้อมกับพูดออกมาเบาๆ
“ผม… ผม นึกว่าพวกคุณจะไม่เห็นผมซะแล้ว”
ดวงตาคมมองดูคนมาใหม่ด้วยสายตาหงุดหงิด
“แต่เพราะคุณป้าคนนั้นบอกผมว่าพวกคุณจะรับผมขึ้นรถมาด้วย ผมก็เลยลองโบกรถคุณดู”
ทั้งสองคนไม่มีใครพูดตอบอะไรกลับไป ยุนโฮขมวดคิ้วในตอนที่ได้ยินคำว่าคุณป้า? คุณป้าคนไหน? ทั้งๆ ที่ตรงนั้นก็มีนายคนนี้ยืนอยู่แค่คนเดียว ท่าทางเขาจะรับคนสติไม่ดีขึ้นมาบนรถแล้วล่ะมั้งงานนี้ ให้ตายเถอะ!
แต่เพราะสายตาที่กำลังจ้องมองมาที่ตนเองอย่างนิ่งๆ นั้นยิ่งทำให้แจจุงรู้สึกประหม่าขึ้นไปอีก
“เอ่อ… ไม่ทราบว่ารถของพวกคุณจะวิ่งผ่านแถวย่าน….”
“ออกรถ”
ยุนโฮไม่รอให้คนแปลกหน้าพูดจบ เขาหันไปสั่งให้เลขาคิมออกรถต่ออย่างทันทีด้วยความหัวเสีย ใจจริงเขาอยากจะไล่คนคนนี้ลงจากรถไปเลยด้วยซ้ำ แต่คิดว่านายคนนี้คงจะไม่ยอมลงจากรถเขาไปง่ายๆ แน่ ไล่ไปก็เสียเวลาเปล่า รีบพาไปปล่อยที่ไหนสักที่แล้วรีบกลับไปนอนน่าจะดีกว่า
“ครับ”
เลขาคิมขับเคลื่อนรถไปตามท้องถนนอีกครั้ง เขาหันมองดูใบหน้าอันแสนจะหงุดหงิดของชองยุนโฮผ่านกระจกมองรถทางด้านหลัง
“แล้วจะให้ผมส่งคุณคนนี้ที่ไหนครับ?”
“ปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด”
น้ำเสียงนิ่งๆ ที่ตอบกลับมาทำให้คิมแจจุงที่กำลังจะเอ่ยปากพูดต้องรีบหุบปากและนั่งนิ่งๆ อยู่กับที่ดังเดิม
“ครับ”
เลขาคิมตอบรับกลับมาสั้นๆ
รถยนต์คันหรูแล่นไปตามท้องถนนไปเรื่อยๆ ดวงตากลมของแจจุงก็นั่งมองนู่นมองนี่ไปเรื่อย เขาแอบเหลือบสายตามองดูคนร่างสูงที่นั่งอ่านอะไรสักอย่างอยู่ข้างกายบ่อยๆ
‘อ่า… เขาช่างดูดีเสียจริง’
นั่นคือความคิดที่อยู่ในหัวของแจจุง สันจมูกโด่งๆ ริมฝีปากเป็นกระจับ ขนตาที่ยาวตรง อีกทั้งดวงตาคมคู่นั้นที่มีโอกาสได้จ้องมองเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้เขาจดจำได้เป็นอย่างดี คนคนนี้… เขาเป็นใครกันนะ
“โอ๊ะ! แฟ้มของคุณกำลังจะล่วง”
แจจุงพูดพร้อมกับเอื้อมมือออกไปหยิบแฟ้มที่กำลังจะตกลงจากเบาะรถ แต่ยังไม่ทันที่มือของเขาจะได้แตะกับแฟ้ม ฝ่ามือหนาของใครบางคนก็พุ่งเข้ามาหยิบมันไปเสียก่อน และในจังหวะนั้นนั่นเอง มือของเขา ก็มีโอกาสได้สัมผัสกับฝ่ามือของคนข้างๆ เข้า
แปล๊บ!
กระแสไฟอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นในตอนที่มือของพวกเขาสัมผัสกันมันทำให้แจจุงรู้สึกตกใจและประหลาดใจไปในเวลาเดียวกันจนเผลอร้องออกมา
“อ๊ะ!?”
ยุนโฮทำหน้ายุ่ง เขาขมวดคิ้วพร้อมกับหยิบเอาแฟ้มเล่มนั้นมาวางข้างตัว
“คะ… คุณ? เมือกี้คุณรู้สึกมั้ย ตอนที่มือของพวกเราแตะกัน ผมรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตเลย คุณรู้สึกมั้ย? คุณก็รู้สึกเหมือนผมใช่มั้ย?”
แจจุงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ไม่เคยมีใครที่เขาโดนตัวด้วยแล้วจะเกิดกระแสไฟประหลาดๆ แบบนี้
“ไม่”
แต่คำตอบของชองยุนโฮนั้นช่างราบเรียบและแตกต่างจากอารมณ์ของคิมแจจุงเสียเหลือเกิน คนร่างบางได้แต่นั่งกุมมือของตัวเองพร้อมกับยิ้มแหยๆ
คนตัวเล็กเปลี่ยนเป้าหมายไปคุยกับคุณลุงที่ท่าทางใจดีและน่าจะเป็นมิตรมากกว่าคนร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน
“ไม่ทราบว่าคุณลุงจะขับรถผ่านหน้าห้างเดอะคิงดอมมั้ยครับ? บ้านผมอยู่แถวนั้น ถ้ายังไง…..”
เสียงพูดของแจจุงถูกแทรกด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ของคนข้างตัว
“ปั๊มข้างหน้า”
แจจุงหันหน้ามามองยุนโฮ
“ฉันจะส่งนายแค่ที่ตรงนั้นเท่านั้น”
คนตัวเล็กหน้าเจื่อนพร้อมกับพยักหน้ารับเบาๆ
“ครับ… ผมลงตรงนั้นก็ได้”
และหลังจากนั้นทั่วทั้งรถก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบอีกครั้ง แจจุงนั่งหันหน้าออกไปมองดูสายฝนทางด้านนอกหน้าต่างไปเรื่อยๆ และในตอนนั้นนั่นเองที่ดวงตากลมโตของเขาดันสบเข้ากับร่างบอบบางของหญิงสาวที่ยืนใส่ชุดขาวที่เปื้อนเลือดโชกไปทั้งตัวเข้า ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ หัวใจดวงน้อยเต้นถี่รัว ไม่ชิน… จะอีกกี่สิบปีเขาก็คงจะไม่มีวันชินกับพรสวรรค์แปลกๆ แบบนี้เป็นอันขาด!
และดูเหมือนว่าเธอจะรู้ว่าเขานั้นมองเห็นเธอ เพราะใบหน้าของเธอเองก็กำลังจ้องมองมาที่เขาเช่นเดียวกัน ดวงตาที่แสนจะน่ากลัวคู่นั้น้องมองมาที่เขาอย่างไม่ลดละ ก่อนที่ร่างของเธอจะพุ่งตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“อย่าเข้ามานะ!!!!!”
คนร่างบางหลับตาปี๋ ยกมือทั้งสองข้างปิดตาพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาอย่างดัง ทั้งยุนโฮและเลขาคิมต่างก็พากันตกใจกับอาการแปลกๆ ของคนคนนี้ เลขาคิมหยุดรถพร้อมกับหันหน้ามาเรียกคนร่างบางที่ยังคงหลับตาปี๋อยู่
“คุณครับ คุณ… เป็นอะไรรึป่าว?”
แจจุงค่อยๆ ถ่างนิ้วออกเพื่อให้เกิดช่องว่างระหว่างดวงตาก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง และสิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือ ใบหน้าของหญิงสาวที่ไร้ตาดำ เธอนั่งอยู่บนเบาะที่นั่งข้างคนขับ หันหน้ามาทางเขา ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดง ใบหน้าของเธออยู่ห่างจากใบหน้าของเขาเพียงไม่กี่เซนติเมตร คนตัวเล็กตกใจสุดขีน เขาหวีดร้องออกมาอีกครั้ง
“ไม่!!!!!!!”
และที่พึ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดก็คือชายหนุ่มนิรนามที่นั่งอยู่ข้างๆ แจจุงโผเข้าเกาะแขนชองยุนโฮอย่างรวดเร็ว
พรึ่บ!!!!
และร่างของผีสาวตนนั้นก็หายไปอย่างทันที
แจจุงค่อยๆ หันหน้ากลับไปมองตรงที่ที่เคยมีร่างของผีสาวนั้นนั่งอยู่ แต่ในตอนนี้กลับไม่มีร่างของผีตนนั้นนั่งอยู่อีกต่อไปแล้ว คนตัวเล็กขมวดคิ้ว ดวงตากลมกวาดสายตามองไปรอบๆ รถก่อนที่สายตาของเขาจะวกกลับมาสบตากับดวงตาคมที่กำลังก้มหน้าลงมามองเขาด้วยสายตาไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่นัก
“ช่วยออกไปจากตัวผมด้วย”
แจจุงหน้าเจื่อน เขาค่อยๆ ขยับกายออกมานั่งที่เดิมของตัวเอง รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกเดินทางอีกครั้ง ตลอดระยะเวลาที่นั่งอยู่ในรถแจจุงก็เอาแต่นั่งคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้อยู่ตลอด
ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผีพวกนี้จะหายไปง่ายๆ และรวดเร็วถึงขนาดนี้ ทุกครั้งที่เขาเจอผีพวกนี้มักจะคอยตามติดเขาและขอร้องให้เขาช่วย และจะยอมสลายตัวหายไปเมื่อได้รับความช่วยเหลือจากเขาแล้ว หรือถ้าเป็นพวกผีที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องอะไร ก็มักจะคอยหลอกหลอนให้เขากลัวด้วยหน้าตาที่น่าเกลียดต่างๆ นานา พอแกล้งเขาเสร็จถึงจะจากไป แต่ผีผู้หญิงเมื่อสักครู่นี้ ยังไม่ทันจะได้แกล้งอะไรเขาหรือขอให้เขาช่วยอะไรเลยสักนิด
‘เพียงแค่เขาแตะตัวของผู้ชายคนนี้… ผีตนนั้นก็หายไป’
“ถึงแล้วครับ”
เลขาคิมหันมาบอกคนทั้งคู่ รถยนต์คันหรูจอดอยู่ที่หน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้ยังพอมีรถยนต์และผู้คนให้เห็นมากขึ้นกว่าที่อื่นๆ
ดวงตาคมปรายสายตามองคนร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นเชิงบอกให้แจจุงนั้นลงจากรถของเขาไปสักที
ดวงตากลมหันไปมองดูบรรยากาศทางด้านนอกรถ เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ปั๊มน้ำมันนี้ห่างจากบ้านของเขาเพียงไม่มากนัก เดินไปไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย เห๊อ…
แจจุงยิ้มแหยๆ หัวยุ่งๆ ของเขาก้มลงเล็กน้อยในตอนที่เขากล่าวขอบคุณคนทั้งสอง
“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่มาส่ง”
ยุนโฮพยักหน้ารับไปแบบส่งๆ
“ลงไปได้แล้ว ฉันจะรีบกลับบ้าน”
แจจุงพยักหน้าก่อนที่จะส่งยิ้มกว้างไปให้กับคุณลุงที่ดูใจดีคนนั้นเป็นการบอกลา แต่ก่อนที่จะเปิดประตูลงจากรถไปคนตัวเล็กก็ทำใจกล้ายื่นมือออกไปแตะแขนของคนร่างสูงที่นั่งหน้ายุ่งอยู่อีกครั้ง ก่อนที่จะรีบลงจากรถไปเพราะกลัวโดนคนคนนั้นเขมือบหัว
ทันทีที่คนแปลกหน้าและแปลกประหลาดได้ลงจากรถของตัวเองไปแล้ว ชองยุนโฮก็สั่งให้เลขาคิมออกรถอย่างทันที เขาไม่ได้หันกลับไปมองดูคนคนนั้นและไม่มีความคิดที่จะต้องหันไปมองด้วย คิดว่านี่คงจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่จะได้พบกัน คนแปลกๆ แบบนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้ชองยุนโฮเจอเป็นครั้งที่สองหรอก
ทางด้านของแจจุงนั้นกลับคิดในสิ่งที่ตรงข้ามกัน ดวงตากลมมองดูรถยนต์สีดำคันหรูที่วิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ จนลับสายตาพร้อมกับฉีกยิ้มออกมาบางๆ
เขาก้มหน้าลงมองฝ่ามือของตนเอง นึกถึงกระแสไฟบางอย่างในตอนที่มือของเขาและมือของผู้ชายคนนั้นสัมผัสกันแล้วก็ได้แต่ฉีกยิ้มออกมา
‘คุณเป็นใครกันนะ…’
TBC ^----------^*
*******************************************************
Talk : )
สวัสดีค่ะทุกคนนนนนนน
มุกนี่ชอบมาดึกๆ ตอนที่เค้านอนแล้วเสมอเลยเนอะ 55555
วันนี้เป็นวันดี เป็นวันเกิดของคนสวย มายเมนของมุก คิมแจจุงนั่นเอง
ก็เลยได้ฤกษ์งามยามดีมาอัพฟิคซะเลย ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดของแจจุงที่มุกได้เอามามอบให้กับทุกๆ คนก็แล้วกันเนอะ
ช่วงนี้กำลังนอยด์อยู่ค่ะ สาเหตุเพราะทงบังไม่ได้ขึ้นไลฟ์ อดเจอหน้าหล่อๆ ของสองหนุ่ม อดแซวพี่ยุนเรื่องเชือกเลย
เค้าเสียใจ T^T
จริงๆ ช่วงนี้มุกกำลังฝึกงานอยู่ค่ะ จันทร์ถึงศุกร์ฝึกงาน วันเสาร์มีเรียน ตารางแน่นมากชีวิต
เหนื่อยค่ะ งานก็เยอะ รายงานก็ต้องส่ง ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย
ฟิคเรื่องนี้ก็พยายามจะเอามาลงให้ได้ทุกอาทิตย์นะคะ จะพยายาม…
เป็นไงกันบ้างคะ ได้ลองอ่านสองตอนแล้ว ชอบกันมั้ย?
ถ้าใครที่ดูซีรีส์เรื่องนี้เหมือนกันน่าจะโอเคอยู่เนอะ มุกชอบคาแรคเตอร์ของพระเอกและนางเอกเรื่องนี้มาก
งงๆ มึนๆ แต่ก็น่ารักกันทั้งคู่
ถ้าใครว่างๆ ลองไปหาเรื่องนี้ดูกันนะคะ สนุกมากค่ะ!
เอาล่ะ ขอแวะไปปั่นวิวสักนิดก่อนนอนก่อนนะคะ
ขอจบทอล์คแต่เพียงเท่านี้ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
^-------------------^*
Twitter >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE
E-mail >>> mookiie_jong@hotmail.com
*******************************************************
ความคิดเห็น