ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ☆--- Mystery Love ---☆ [TVXQ][YAOI]

    ลำดับตอนที่ #18 : ,,, Part 17 ,,, พอเมาแล้วก็กลายร่างเป็นหมา

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 57


    Title         :  Mystery Love
    Type        :  Long fiction
    Author      :  *..MooKiiE..*
    Category :  Comedy / Romance
    Paring      :  Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu

    Note         :  เรื่องนี้มุกได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง The Master’s Sun นะคะ จึงทำให้เนื้อหาบางอย่างอาจคล้ายคลึงกันบ้าง

                                                                                                                                                                                                                                                              

    *******************************************************


     

     ขอให้มีความสุขในการอ่านค่ะ และ

    อย่าลืมกดเป็นแฟนพันธุ์แท้ฟิคเรื่องนี้กันนะคะ ^^



     

    Part 17

     
     

                    เมื่อคิมแจจุงเมา อะไรจะเกิดขึ้น และทำไมจุนซูถึงดูกระวนกระวายใจนักเมื่อรู้ว่าพี่ชายของตนเองนั้นดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้คงจะเป็นคำอธิบายของคำถามเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

     

                    ดวงตากลมโตจ้องมองดูน้องชายของตนเองที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่นิ่งๆ และในตอนนั้นนั่นเองที่เขารู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของบางสิ่งบางอย่าง หางตาของเขารับรู้ได้เพียงแค่ว่าสิ่งนั้นมีสีขาว

     

                    แจจุงหันหลังกลับไปมอง เขาเห็นผู้หญิงที่ดูสวยมากๆ ในชุดสีขาว ใบหน้าของเธอเศร้าหมอง ดวงตาของเธอโศกเศร้า และเพราะความสงสัยคนตัวเล็กจึงได้เดินตามร่างของเธอไปโดยลืมเรื่องของน้องชายไปเสียสนิท

     

                    แจจุงเดินตามเธอมาเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้รู้หรือสนใจเลยว่าตนเองกำลังจะเดินไปไหน

     

                    ภาพที่อยู่ตรงหน้าดูมัวๆ โลกดูเอียงไปเอียงมาเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไป รู้ตัวอีกทีหญิงสาวคนนั้นก็เดินพาเขามาหยุดอยู่ที่ข้างหลังแผ่นหลังกว้างๆ ของใครคนหนึ่งเข้าเสียแล้ว

     

                    แผ่นหลังที่แสนจะคุ้นเคย แต่ว่าแผ่นหลังของใครกันนะ?

     

                    แจจุงเอียงคอมองดูแผ่นหลังของชายหนุ่มคนนั้นอย่าครุ่นคิด สะบัดหัวไปมาเพื่อไล่อาการมึนงง เขาละสายตาไปมองร่างของหญิงสาวที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เธอจ้องมองแผ่นหลังของชายคนนั้นด้วยดวงตาที่เศร้าสร้อยจนแจจุงที่ยืนมองอยู่ห่างๆ ยังสามารถรู้สึกถึงความเศร้านั้นได้

     

                    อ่าแผ่นหลังกว้างๆ นั่นเหมือนแผ่นหลังของท่านประธานเลย แจจุงคิดอยู่ในใจ และในตอนที่เขากำลังเพ่งมองแผ่นหลังของคนร่างสูงอยู่นั่นเอง อยู่หญิงสาวคนนั้นก็หันหน้ากลับมามองเขา

     

                    แจจุงเลิกคิ้วขึ้นมองอย่างมึนๆ เขาสะบัดหัวไปมาเบาๆ เหมือนเขาจะได้ยินอะไรบางอย่าง ผู้หญิงคนนั้นเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างกับเขา

     

                    “เธอพูดว่าไงนะ?

                    แจจุงบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ และเขาก็ได้ยินเสียงของเธออีกครั้ง มันเหมือนดังขึ้นอยู่ที่ข้างหูของเขา ทั้งๆ ที่ร่างของผู้หญิงคนนั้นยังคงยืนอยู่ห่างจากเขาไปพอสมควร

     

                “ขอโทษนะ

     

                    แจจุงยืนงงอยู่กับคำพูดของเธอ ขอโทษ? เธอขอโทษอะไรเขากันนะ แต่คนตัวเล็กก็ไม่ได้มีเวลาให้คิดอะไรนานเพราะอยู่ๆ ร่างของผู้หญิงคนนั้นก็พุ่งเข้ามาใส่เขา พร้อมกับสติและการรับรู้ของคิมแจจุงที่ถูกดับวูบลงไป

     

                    หลายคนคงจะไม่รู้ว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นในตอนที่คิมแจจุงเมานั้นคืออะไร ในตอนนี้ก็คงจะได้รู้กันแล้ว

     

                    ถ้าคิมแจจุงเมาเมื่อไหร่ ร่างของเขาก็จะสามารถถูกวิญญาณเข้ามาเข้าสิงได้อย่างง่ายดาย นั่นแหละคือปัญหาที่คิมจุนซูพยายามป้องกันไม่ให้มันเกิด แต่ก็สายไปเสียแล้ว

     

                เพราะตอนนี้

                คิมแจจุงโดนผีตนหนึ่งยึดเอาร่างไปเรียบร้อยแล้ว

    .

    .

    .

                    ยุนโฮกลับบ้านมาก่อนที่งานเลี้ยงจะเลิกเพราะความหงุดหงิดอะไรบางอย่างที่ทำให้ทั้งเขาและปาร์คยูชอนต้องขอตัวกลับก่อน เขาไม่รู้ว่ายูชอนโมโหเรื่องอะไร เห็นแต่ว่าโทรหาใครสักคนแล้วหลังจากที่โดนอีกฝ่ายวางสายใส่ก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงพอสมควร

     

                    ส่วนเรื่องที่ทำให้เขาโมโหนั้น เป็นเรื่องของใครบางคนที่เขาเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงต้องโมโหด้วย แค่คิมแจจุงหายตัวไปโดยไม่บอกไม่กล่าวแค่นั้น เรื่องแค่นี้! ทำไมต้องทำเขาหงุดหงิดด้วยวะ

     

                    ยุนโฮเดินออกมาจากห้องนอนหลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาเดินออกมาเพื่อหวังว่าจะออกมาหาน้ำเย็นๆ ดื่มเพื่อดับอารมณ์ แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปในห้องครัว เสียงออดหน้าห้องก็ร้องเตือนว่ามีคนมารอเขาอยู่ทางด้านล่างของคอนโด

     

                    ดวงตาคมหันกลับไปมองนาฬิกาที่ข้างฝาผนังพร้อมกับขมวดคิ้มจนหน้ายุ่ง จะเที่ยงคืนอยู่แล้วให้ตายซิ!

                    “ใครวะ?

     

                    ยุนโฮเดินไปดูที่หน้าจอ และภาพของบุคคลที่ปรากฏอยู่ในจอนั้นก็ทำดวงตาคมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เขาจะไม่แปลกใจเลยถ้าคนที่ยืนอยู่หน้าคอนโดนั้นไม่ใช่

                    “คิมแจจุง?

     

                    หมอนั่นรู้จักคอนโดของเขาได้ยังไง? สะกดรอยตามเขามาอย่างงั้นหรอ?

     

                    ชองยุนโฮเดินออกมาจากคอนโดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ดวงตาคมจ้องมองคิมแจจุงที่ยืนทำหน้านิ่งๆ ด้วยแววตาสังเกต

                    “นายมาทำอะไรที่นี่? แล้วรู้จักคอนโดของฉันได้ยังไง?

     

                    “…………………

     

                    ยุนโฮเดินวนไปรอบๆ ตัวของแจจุง

                    “ตอนแรกก็วิ่งขึ้นมาบนรถของฉัน มาทำงานที่ห้างของฉัน และในตอนนี้ก็ยังบุกมาหาฉันที่คอนโดอีก นี่นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่ห๊ะ?

     

                    “หายตัวออกไปจากงานโดยที่ไม่บอกฉันสักคำ อยากโดนไล่ออกรึไง?

                    ยุนโฮยังคงบ่นออกมาอย่างหัวเสีย

     

                    คิมแจจุงที่ยืนนิ่งอยู่นาน หันหน้ากลับมามองคนร่างสูงที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง ริมฝีปากอวบอิ่มยกยิ้มบางๆ

                    “ยุนโฮอ่า

     

                    ยุนโฮเลิกคิ้วพร้อมกับมองคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจ

                    “ยุนโฮ? นี่นายกล้าเรียกชื่อฉันห้วนๆ อย่างงี้เลยหรอ? ชักจะอาใหญ่แล้วนะ”

     

                    ถึงจะโดนคนร่างสูงดุ แต่คิมแจจุงในตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรเลยแม้แต่น้อย ก็แน่ล่ะในเมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่คิมแจจุงจริงๆ นี่นา

                    “ยุนโฮ”

     

                    ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุ ยุนโฮทำหน้ายุ่ง ในตอนนี้เขาทั้งหัวเสียและหงุดหงิดมาก และคนที่ทำให้เขาอารมณ์เสียได้มากขนาดนี้ก็กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้นั่นเอง คิมแจจุง!

                    “นี่นายกำลังเล่นอะไรอยู่ ฉันไม่มีอารมณ์มาเล่นอะไรกับนายในตอนนี้หรอกนะ ไปซะ!

     

                    คิมแจจุง หรือจะพูดให้ถูก บุคคลที่กำลังอาศัยร่างของแจจุงอยุ่ในตอนนี้เดินยิ้มบางๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าของคนร่างสูง ไม่ได้รู้สึกกลัวในใบหน้าแสนดุดันของคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

                    “นายกำลังโกรธฉันอยู่ใช่มั้ยล่ะ?

     

                    ยุนโฮขมวดคิ้วจ้องมองคนตรงหน้า ท่าทีและคำพูดแปลกๆ ของแจจุง ทำไมนะ ทั้งๆ ที่คนที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้คือคิมแจจุงแท้ๆ แต่ทำไมเขากลับรู้สึกว่าคนคนนี้ไม่ใช่คิมแจจุง ไม่ใช่คนที่เขารู้จักคนนั้น

                    “ฉันกำลังโมโห”

     

                    คนร่างบางอมยิ้ม

     

                    “กลับบ้านของนายไปซะถ้ายังไม่อยากถูกฉันไล่ออก”

                    ยุนโฮพูดด้วยใบหน้าและน้ำเสียงนิ่งๆ เขากลับหลังหันเตรียมตัวจะเดินกลับเข้าไปในคอนโด แต่ก็โดนเสียงของคิมแจจุงเอ่ยรั้งเอาไว้ ซึ่งคำพูดนั้นสามารถหยุดการก้าวเดินของเขาได้เป็นอย่างดี คำพูดที่สะกิดความทรงจำในอดีตที่เขาอยากจะลืมเลือนให้หวนกลับมาอีกครั้ง

     

                    คำพูดของใครบางคนที่ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว

     

                    “ถ้าฉันเรียกชื่อนายครบสามครั้ง นายจะหายโกรธฉันมั้ย?

     

                    ยุนโฮหยุดชะงัก ลมหายใจของเขาหาดห้วง ความทรงจำในอดีตที่ยากจะลบเลือนกลับเข้ามาในหัวให้นึกถึงอีกครั้ง

     

                    “ยุน หนึ่ง”

     

                    “ยุนโฮ สอง”

     

                    “ชองยุนโฮ สาม

     

                ชองยุนโฮ สาม…….’

                    เสียงหวานๆ ในอดีตที่เขาเคยได้ยินถูกซ้อนทับกับเสียงเรียกของคิมแจจุง ใบหน้าคมค่อยๆ หันกลับไปมองคนร่างบางที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของเขาอย่างช้าๆ ดวงตาคมจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาดุดัน แต่คิมแจจุงที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับยกยิ้มให้เขาแบบไม่รู้ร้อนรุ้หนาว

     

                    “นี่มันไม่ตลกนะ”

     

                    “นายไม่ใช่คิมแจจุง”

                    นั่นคือสิ่งที่ความรู้สึกของชองยุนโฮสามารถรับรู้ได้ ส่วนคนตรงหน้านี้เป็นใครนั้นเขาก็ไม่อยากจะคาดเดา แม้จะรู้คำตอบอยู่ในใจแล้วก็ตาม แต่มันจะเป็นไปได้อย่างงั้นหรอ? คนที่จากไปแล้ว จะกลับมาได้อีกครั้ง

     

                    “นายเป็นใคร?

     

                    คนร่างบางยกยิ้มบาง ช่วงขาเรียวก้าวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของชองยุนโฮ คนตัวเล็กช้อนสายตาขึ้นมองคนที่สูงกว่าตนเองก่อนที่จะเอ่ยปากตอบ

                    “ฉันเอง……..

     

                    “ผู้หญิงเลวของนายไง”

                   

                    ดวงตาคมจ้องมองคนตรงหน้านิ่ง แม้จะรู้อยู่ในใจแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่อยากจะยอมรับว่าคนคนนั้นได้กลับมายืนอยู่ตรงหน้าของเขาอีกครั้ง แต่เพราะคำพูดนั้น คำพูดที่ใช้เรียกชื่อของเขา มีเพียงแค่เธอคนนั้นคนเดียวที่รู้ และนอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครเคยวิธีง้อเขาแบบนี้ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีแล้วว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ใช่คิมแจจุง แม้จะเป็นร่างของคิมแจจุงก็ตาม แต่เป็นใครบางคนที่เคยอยู่ในความทรงจำของเขา เป็นใครบางคนที่เขาพยามที่จะไม่นึกถึง เป็นคนที่เขาอยากจะลืมเลือน และพอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็ทำให้เขาได้รู้ว่าเขายังทำไม่สำเร็จ เขายังลืมเธอไม่ได้

     

                    ชเวอินนา

    .

    .

    .

                แสงแดดในยามเช้าที่ส่องผ่านทะลุผ้าม่านเข้ามาในห้องนอนทำให้คิมแจจุงที่กำลังซุกตัวนอนอยู่ในกองผ้าห่มบนเตียงแสนนุ่มต้องทำหน้ายุ่งก่อนที่จะพลิกตัวเพื่อหลบแสงแดดนั้น แต่เขาก็ทนนอนต่อไปได้ไม่เท่าไหร่เปลือกตาบางก็จำใจต้องเปิดออก

     

                    แจจุงกระพริบตาปริบๆ เขาฉีกยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ใบหน้ายังคงงัวเงีย แอบบิดขี้เกียจเล็กน้อย เช้านี้ช่างสดใสและสดชื่น เขารู้สึกเหมือนว่าตนเองได้นอนหลับแบบเต็มอิ่ม ได้พักผ่อนแบบจริงๆ จังๆ หลังจากที่ไม่เคยได้นอนหลับแบบเต็มตื่นอย่างนี้มานานหลายปีแล้ว

     

                    คนตัวเล็กพลิกตัวไปด้านข้าง เพราะมัวแต่งัวเงียจึงลืมสนใจสิ่งรอบกายที่ดูจะผิดปกติไม่เหมือนกับทุกๆ วันไป แต่เพราะที่ข้างกายของเขานั้นมีร่างของใครบางคนนอนนอนอยู่ ดวงตากลมโตจึงเผลอเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ และก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นปกติเมื่อเขาคิดว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้เป็นความฝัน นั่นซิ.. เขาจะมานอนอยู่บนเตียงเดียวกับท่านประธานแบบนี้ได้ยังไงกัน 

                    “นี่เราอยากนอนกับเขามากขนาดถึงขั้นเก็บเอาไปฝันเลยหรอเนี่ย”

     

                    พูดแล้วก็หัวเราะคิกคักออกมา เขายกมือของตนเองที่ถูกฝ่ามือหนาของยุนโฮกอบกุมเอาไว้อยู่ขึ้นมาดูก่อนที่จะยกมันขึ้นมาแนบที่แก้มขาวๆ ของตนเองพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างคนมีความสุข

                    “ได้นอนจับมือกันด้วย”

     

                    “อ่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ฝันว่าได้นอนเตียงเดียวกันแบบนี้

     

                    ดวงตากลมช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าคมเข้มของคนที่กำลังหลับตาอยู่ด้วยแววตาหยาดเยิ้ม

                    “ผมปล้ำคุณตอนนี้เลยดีมั้ยนะ?

     

                    แจจุงถูไถใบหน้าของตนเองกับฝ่ามือใหญ่ไปมา เขาฉีกยิ้มพร้อมกับหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว นี่คงจะเป็นฝันดีที่สุดของเขา ฝันดีๆ แบบนี้ทำให้เขาไม่อยากตื่นจากความฝันเลย นอนต่ออีกนิดดีกว่า

     

                    แต่ฝันหวานของแจจุงก็ต้องจบลง เมื่อชองยุนโฮลืมตาตื่นขึ้นมา เปลือกตาหนาเปิดออกก่อนที่ใบหน้าคมจะหันกลับมามองคนตัวเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ

     

                    ซึ่งแจจุงก็ยังคงคิดว่าตัวเองนั้นฝันอยู่ เขาถึงได้ฉีกยิ้มหวานให้กับคนที่นอนทำหน้ายักษ์อยู่ตรงหน้านี้

                    “ตื่นแล้วหรอฮะยุนโฮ~

     

                    “ยุนโฮ?

     

                    แจจุงฉีกยิ้ม เขายังคงเอาใบหน้าถูไถกับมือของยุนโฮไปมา

                    “นอนต่ออีกสักนิดเถอะครับผมยังไม่อยากจะตื่นเลย”

     

                    ยุนโฮขมวดคิ้วยุ่งก่อนที่เขาจะออกแรงดึงร่างของคนตัวเล็กให้ผลิกตัวขยับมาเกยอยู่บนตัวของเขา แจจุงเบิกตากว้างด้วยความมึนงง

                    “นายเป็นใคร?

     

                    คนตัวเล็กทำหน้าเหวอ

                    “ฮะ?

     

                    “คิมแจจุงจริงๆ ใช่มั้ย?

     

                    “ครับ? ว่าแต่นี่ผมไม่ได้ฝันไปหรอ?

                    คนตัวเล็กหน้าเหวอ ทำตาใสพร้อมกับหันไปมองรอบๆ ห้องไปมา

     

                    พอรู้ว่าคนตรงหน้านี้คือคิมแจจุงตัวจริงชองยุนโฮก็ออกแรงสะบัดมือจนคนตัวเล็กกลิ้งปลิวไปอยู่อีกฟากหนึ่งของเตียงนอนอย่างทันที ชองยุนโฮลุกขึ้นยืนมองคิมแจจุงที่ยังคงอยู่ในสภาพงงงวยด้วยท่าทางนิ่งๆ

     

                    แจจุงยันกายลุกขึ้นนั่ง เขาหันกลับมามองท่านประธานพร้อมกับเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ

                    เขาไม่ได้ฝันไป! เขานอนอยู่บนเตียงกับยุนโฮจริงๆ

     

                    “สำหรับนาย นายคงคิดว่าตัวเองฝันไป”

     

                    “แต่สำหรับฉันที่ตื่นทั้งคืนจนแทบจะนอนไม่หลับมันเรียกว่าฝันร้ายชัดๆ”

     

                    “เอ๋?”

     

                    “อ้ออย่าคิดสร้างเรื่องหรือข่าวลือแปลกๆ จากเหตุการณ์นี้ล่ะ เพราะเมื่อคืนฉันกับนาย เราแค่นอนจับมือกันเท่านั้น!

                    ยุนโฮเอ่ยปากบอกกับคนตรงหน้าด้วยใบหน้านิ่งๆ

     

                    “อ่ะ…. เอ่อ ว่าแต่ตอนนี้ ผมอยู่ที่ไหนหรอฮะ”

                    แจจุงพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยต้องการสังเกต

     

                    “บ้านฉันเอง”

     

                    “โอ๊ะ! บ้านท่านประธานหรอฮะ ว้าว! สวยมากๆ เลย”

     

                    ยุนโฮขมวดคิ้วพร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดอกและจ้องมองคนตรงหน้า

                    “มันใช่เวลาที่เธอจะมาเอ่ยปากชื่นชมบ้านของฉันมั้ยคิมแจจุง?

     

                    “เอ่อ……. แหะๆ”

                    แจจุงได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ไปให้กับเจ้านายตัวเอง

     

                    “นายน่าจะตกใจมากกว่านี้นะที่ตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองมานอนอยู่ที่บ้านของคนอื่นเขาน่ะ”

     

                    แจจุงยิ้มแห้งก่อนที่จะเอ่ยปากตอบกลับไป

                    “ผมชินแล้วล่ะฮะ ถึงมันจะเกิดไม่บ่อย แต่ก็มีอยู่หลายครั้ง ก่อนหน้านี้ผมก็เคยตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ข้างทะเล”

     

                    ยุนโฮมองคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจ ชีวิตของหมอนี่มีเรื่องอะไรที่ปกติเหมือนคนอื่นเขาบ้างมั้ยนะ?

                    “การนอนไปทั่วแบบนั้นมันเป็นเรื่องปกติสำหรับนายอย่างงั้นหรอ?

     

                    แจจุงช้อนสายตาขึ้นมองคนร่างสูง พร้อมกับขบกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้

                    “ท่านประธานเป็นห่วงผมหรอครับ?

     

                    ยุนโฮถึงกับชะงักไปอย่างทันที เป็นห่วงอย่างงั้นหรอ? นั่นซิทำไมเขาถึงพูดอย่างกับว่าเขาเป็นห่วงหมอนี่ด้วยวะ เอาอีกแล้ว ไม่เข้าใจตัวเองอีกแล้ว!

                    “ฉันแค่ห่วงคนที่นายจะไปทำให้เขาตกใจต่างหาก สภาพน่ากลัวแบบนั้น ไปโผล่ในที่สาธาณะคงทำคนอื่นเขาตกใจแย่”

     

                    แจจุงยิ้มแหย ก่อนที่ตากลมๆ จะเบิกกว้างขึ้นเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้

                    “โอ๊ะ! เมื่อคืนนี้ผมก่อเรื่องอะไรให้กับท่านประธานรึป่าวครับ?

     

                    เพราะเวลาที่เขาเมาหรือไม่มีสติทีไร เขามักจะก่อเรื่องให้จุนซูปวดหัวอยู่เสมอๆ และเมื่อคืนนี้เขาก็ไม่มีสติ ไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย เขาเผลอสร้างเรื่องอะไรให้ท่านประธานรึป่าวนะ?

     

                    ยุนโฮยกยิ้มที่มุมปาก

                    “เพิ่งรู้ตัวหรอคิมแจจุง”

     

                    “เอ๋?

                    แจจุงเอียงคอมองยุนโฮอย่างงงๆ พูดแบบนี้ แสดงว่าเขาต้องไปสร้างเรื่องอะไรเอาไว้อย่างแน่นอน ตายแน่แจจุงเอ๋ย จะโดนไล่ออกมั้ยเนี่ย!

     

                    “เพราะนายเมื่อวานถึงได้มีแขกมาบ้านฉันเต็มเลย”

    .

    .

    .

                ผีเด็ก

     

                    “คุณลุงฮะ! คุณลุง! อุ้มหนูหน่อยๆ นะๆ น๊า

                    ร่างเล็กๆ ของคิมแจจุงที่ลงไปนั่งอยู่ที่พื้นห้องดีดดิ้นไปมา คนตัวเล็กชูแขนทั้งสองข้างพร้อมกับตีขาและเบะปากร้องเรียกยุนโฮที่ยืนกอดอกมองคนตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจ

     

                    “ฮึก! คุณลุง อุ้มๆๆๆๆ”

     

                    ยุนโฮเดินเข้ามาแจจุงที่นั่งเบะปากดิ้นไปมาอยู่ที่พื้น

                    “ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยคิมแจจุง”

     

                    “อุ้มๆๆ อุ้มหนูหน่อยๆ”

     

                    ฝ่ามือหนาจับลงไปที่แขนทั้งสองข้างที่ชูขึ้น

                    “ตั้งสติหน่อยซิคิมแจจุง!

     

                พรึ่บ!!

               

                    ทันทีที่โดนชองยุนโฮสัมผัสร่างกาย วิญญาณผีเด็กก็ออกจากร่างของแจจุงอย่างทันที คนตัวเล็กลืมตาขึ้นในสภาพที่มึนงง ก่อนที่จะบ่นพึมพำอะไรบางอย่างออกมา

                    “หิวน้ำ…. น้ำ ขอน้ำใหผมหน่อย”

     

                    ยุนโฮถอนหายใจออกมาแต่ก็ยอมเดินกลับไปที่ห้องครัวเพื่อไปเอาน้ำมาให้คิมแจจุงดื่ม

     

                    ผีนักบัลเล่ต์

     

                    ทันทีที่ยุนโฮเดินถือแก้วน้ำออกมาจากห้องครัว กลับพบว่าพื้นที่เคยมีร่างของคิมแจจุงนั้นกลับว่างเปล่า เขาขมวดคิ้วกวาดสายตามองดูไปรอบๆ ก่อนที่จะเห็นร่างของคนตัวเล็กนั้นกระโดดโหยงเหยงไปมา

     

                    “อะไรอีกล่ะนั่น”

                    ยุนโฮพูดอย่างปลงๆ ก่อนที่จะเดินไปในส่วนของห้องนั่งเล่นที่มีร่างของคิมแจจุงยืนอยู่

     

                    คนตัวเล็กชูมือเอาไว้เหนือหัว เขย่งปลายเท้าพร้อมกับเต้นหมุนไปมา

                    “ฉันอยากจะเต้นเต้นไปเรื่อยๆ”

     

                    แล้วแจจุงก็กระโดดมาเต้นอยู่ตรงหน้าของยุนโฮ

                    “เต้นๆ”

     

                    ยุนโฮขมวดคิ้วมองดูคนตรงหน้า และเพียงแค่เขายื่นมือไปแตะที่แขนของคนตัวเล็ก ร่างของคิมแจจุงก็ล้มลงมาซบที่ไหล่ของเขาอย่างทันที ดวงตาคมจ้องมองกลุ่มผมของคิมแจจุงก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแรงๆ

                    “นี่ฉันใกล้จะบ้าตามนายไปแล้วนะ!

     

                    ผีสุนัข

               

                    ยุนโฮนั่งกอดอกอยู่ที่โซฟาปลายเตียง ดวงตาคมจ้องมองไปที่ร่างของใครบางคนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนเตียงของเขาพร้อมกับส่งเสียงประหลาดๆ ที่มนุษย์เขาไม่ทำกัน

                   

                โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!!!

     

                คิมแจจุงที่กำลังคลานสี่ขาอยู่ส่งเสียงเห่าและหอนไปมาสัลบกัน เขาทำกริยาท่าทางต่างเหมือนสุนัข ยกเขาขึ้นมาเกาหัวตัวเอง สะบัดขาไปมา ก่อนที่จะกลับมาส่งเสียงเห่าต่อ ยุนโฮที่นั่งกอดอกมองอยู่ไม่ห่างส่งเสียงหัวเราะออกมา ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะโยนเอาหมอนอิงที่วางอยู่บนโซฟาไปให้คิมแจจุง

     

                    ซึ่งคิมแจจุงที่เห็นของเล่นใหม่ก็ไม่รอช้ารีบจู่โจมพุ่งเข้าใส่หมอนใบนั้นและใช้ปากคาบ เขาออกแรงกัด ดึง ทึ้ง และสะบัดมันไปมา จนหมอนใบนั้นขาดวิ่น

     

                    ดวงตาคมจ้องมองการกระทำของคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ กำลังจะยื่นมือเข้าไปดึงเอาหมอนใบนั้นออกมาก็เจอดวงตากลมโตของคนตัวเล็กถลึงใส่พร้อมกับส่งเสียงขู่

     

                    “แฮ่!!

     

                    “เออเอาเลย กัดตามสบายเลย”

                    แล้วเขาก็ต้องผละตัวกลับมานั่งมองดูหมอนตัวเองถูกคิมแจจุงแทะเล่นอยู่ที่เดิม พร้อมกับมีคำถามที่ผุดขึ้นมาอยู่ในหัว

                ทำไมเขาต้องเอาหมอนี่มาให้ลำบากตัวเองด้วยวะเนี่ย!’

     

                    จริงๆ แล้วชองยุนโฮสามารถทิ้งคิมแจจุงไว้ทางด้านล่างของคอนโดแล้วสั่งให้รปภ.จัดการส่งคนคนนี้กลับบ้านไปเลยก็ได้ แต่เขากลับดันพาตัวปัญหานี้กลับขึ้นมาบนห้องของตัวเองซะอย่างงั้น แล้วเป็นไงล่ะ ก่อปัญหาให้ปวดหัวเพียบ! สมกับเป็นคิมแจจุงจอมสร้างความวุ่นวายเสียจริงเชียว!

     

                แต่จะโทษใครได้ ก็ในเมื่อเขาอยากรับความวุ่นวายนั้นมาอยู่ข้างๆ เองหนิ

    .

    .

    .

                    “และนั่นก็คือหมอนที่นายแทะเมื่อคืน”

                    ยุนโฮเพยิดหน้าไปที่หมอนใบเล็กที่ขาดจนไส้มันทะลักออกมา

     

                    แจจุงก้มลงมองพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ กลับไป

                    “ขอโทษครับ”

     

                    “นายน่ะ พอเมาแล้วก็กลายร่างเป็นหมา และถ้าดูจากรอยกัดแล้วต้องไม่ใช่พุดเดิ้ลหรือชิวาว่าแน่ๆ”

     

                    “แหะๆ สงสัยจะเป็นบางแก้ว”

     

                    “เมื่อคืนฉันถึงได้นอนจับมือนายเอาไว้ทั้งคืน เพราะถ้าปล่อยเมื่อไหร่ นายก็จะพาแขกมาเยี่ยมบ้านฉันทันที”

     

                    แจจุงฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มเขิน จินตนาการไปถึงเรื่องเมื่อคืนที่เขาไม่มีโอกาสที่จะจดจำได้ เมื่อคืนนี้เขากับยุนโฮนอนจับมือกันทั้งคืนเลยหรอเนี่ย อ่าเขินจัง

     

                    “แต่ฉันสงสัย”

     

                    “ครับ?

                    แจจุงเงยหน้าขึ้นมาจ้องยุนโฮตาแป๋ว

     

                    “นอกจากเห็นหรือได้ยินพวกผีแล้ว ผียังสามารถสิงร่างนายได้ด้วยอย่างงั้นหรอ?

     

                    แจจุงยิ้มบางก่อนที่จะเอ่ยปากตอบกลับไป

                    “มันมักจะเป็นแบบนี้ในเวลาที่ผมไม่มีสติ หรือเวลาที่ผมหลับสนิทจนไม่รู้สึกตัวน่ะครับ ผมก็เลยไม่กล้าที่จะหลับสนิท”

     

                    ยุนโฮมองดูใต้ตาของคนตัวเล็ก ซึ่งวันนี้มันไม่ได้ดำคล้ำเหมือนกับวันอื่นๆ

                    “ใต้ตานายก็เลยดำเป็นหมีแพนด้าซินะ”

     

                    แจจุงหัวเราะแหะๆ

                    แต่เมื่อคืนที่ได้นอนกับคุณ ผมหลับสนิทมากเลยนะครับ”

                   

                    ยุนโฮขมวดคิ้วในตอนที่ได้ยินคำพูดของแจจุง เมื่อคืนที่ได้นอนกับคุณอ่า บางทีคิมแจจุงอาจจะใช้คำผิด ฟังแล้วดูล่อแหลมยังไงชอบกล เหมือนได้เสียกันแล้วยังไงก็ไม่รู้แหะ

     

                    แจจุงคลานจากกลางเตียงมาหาชองยุนโฮที่นั่งอยู่ปลายเตียง เขาฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี แก้มขาวๆ ขึ้นสีแดงระเรื่อจนยุนโฮที่ยืนมองอยู่ต้องขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย

                   

                    “เมื่อคืนผมชอบมากเลย”

                   

                    ยุนโฮทำหน้านิ่ง

                    “แต่ฉันไม่ชอบ”

     

                    “เมื่อคืนนายมันก็แค่หมาตัวนึงเท่านั้นแหละเจ้าหมาคิมแจจุง”

     

                    แจจุงทำแล้วก็ยู่ปากใส่คนร่างสูง เจ้าหมาคิมแจจุง อย่างงั้นหรอ ชิ๊! ท่านประธานใจร้าย!

                    “แต่ว่าเมื่อคืน ผมจำได้ลางๆ”

     

                    ยุนโฮที่กำลังยกยิ้มอยู่หุบยิ้มลงไปอย่างทันที ดวงตาคมจ้องมองคิมแจจุงด้วยสายตานิ่งๆ

     

                    “ก่อนที่ผมจะสลบไป ผมเหมือนเห็นผู้หญิงคนนึง”

                    แจจุงหันกลับมาจ้องสบตากับยุนโฮด้วยแววตาสงสัยและครุ่นคิด

     

                    “เธอยืนมองท่านประธานอยู่ด้วย อ่าเธอเป็นใครกันนะ?

     

                    แจจุงช้อนสายตาขึ้นมามองคนที่ยืนกอดอกทำหน้านิ่งก่อนที่จะเอ่ยปากถามออกไป  

                    “ท่านประธานรู้จักเธอมั้ยครับ?

     

                    ยุนโฮไม่ตอบ เขายังคงยืนนิ่งอยู่ดังเดิม แต่ภายในหัวกลับนึกถึงใบหน้าของใครบางคนที่ยังคงอยู่ในความทรงจำขึ้นมา

                รู้ซิรู้จักดีเสียด้วย

     

     

    TBC ^-----------^*

     

     

    *******************************************************

     

    Talk : )

     

    สวัสดีค่ะทุกคนนนนนนนน
    มุกมาแล้ววววววววว นึกว่าจะไม่ได้อัพซะอีก แต่กลัวคนอ่านค้างอ่ะ เห็นมีแต่คนรออ่านตอนต่อไปอยู่
    เลยต้องเข็นร่างพังๆ มาอัพ หลังจากไปเที่ยวและทำงานต่อกันอย่างไม่มีวันหยุด
    ตอนนี้ร่างจะแหลกแล้วค่ะ
    หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการได้อ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ
    คู่ยูซูออกตอนหน้าน๊า

    ใครเล่นทวิต ถ้าอยากคุยหรือติดต่อสอบถามเรื่องฟิคก็เมนชั่นมาได้เลยค่ะ ฟิคเก่าๆ พอเหลืออยู่นิดนึง สอบถามมาได้
    Twitter >>> http://twitter.com/@MMooKiiEE  
    E-mail >>> mookiie_jong@hotmail.com

    ขอขอบคุณทุกๆ คนที่กดเข้ามาอ่านนะคะ
    แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

    ^------------------------------^*

     

    *******************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×