คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ,,, Part 9 ,,, Deep Kiss >
Title : Smartly Boy
Type : Long fiction
Author : *..MooKiiE..*
Category : Comedy / Romance
Paring : Yunho x Jaejoong / YooChun x JunSu
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
* เม้นกันด้วยนะค่ะ ^ ^ *
Part 9
“ นี่แจจุง ... นายชอบพี่ยุนโฮใช่มั้ย? ”
ชอบพี่ยุนโฮใช่มั้ย?
นาย... ชอบพี่ยุนโฮใช่มั้ย?
ชอบยุนโฮ...ใช่มั้ย
แจจุง ชอบ ยุนโฮใช่มั้ย?
นี่เรา ... ชอบ ยุนโฮหรอกหรอ?
อ๊ากกกกกกกกก!!!~ ไอ้ความคิดบ้า!! ออกไปจากหัวชั้นซะทีซิ!!!!
โอ๊ย...จุนซูนะจุนซู ไม่น่ามาถามคำถามแบบนั้นกับเค้าเลย ดูซินี่เค้าต้องมานั่งเครียด นอนเครียดกับคำถามบ้าๆเดิมๆแบบนี้เนี่ย
ตั้งแต่ที่กินข้าวกับคุณ
เห๊อ...
ลมหายใจถูกปล่อยพ่นออกมาจากโพรงจมูกโด่งรั้นเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันก็ไม่อาจทราบได้ และนี่ก็ล่วงเลยเวลาเข้าวันใหม่มาสองชั่วโมงแล้ว แต่เปลือกตาบางนี่ก็ไม่มีทีท่าเลยว่าจะเคลื่อนที่ลงมาปิดบังดวงตากลมใส ที่ตอนนี้มันก็ยังคงเปิดค้างไว้อยู่แบบนั้น ร่างบางนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงนอนอันแสนนุ่มของตนเอง พยายามข่มตาของตนเองให้หลับ แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงออกมาเหมือนเดิม คือ ไม่สามารถหลับได้ แจจุงยังคงนอนคิดถึงบทสนทนาที่เค้าและจุนซูได้คุยกันเมื่อช่วงเย็นนั้นอยู่ตลอดเวลา เสียงคำถามของเพื่อนสนิทยังคงได้ยินซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในรูหูของคนร่างบางจนดูเหมือนว่าจะมีใครอัดเสียงคำถามนั้นเอาไว้ แล้วนำมาเปิดจ่ออยู่ข้างๆใบหูของเค้าซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ กว่าที่คนร่างบางจะข่มตานอนได้เป็นผลสำเร็จ ก็กินเวลาของวันใหม่ไปแล้วถึงสี่ชั่วโมง
เสียงของนาฬิกาปลุกดังขึ้นเมื่อถึงเวลาที่มันจะต้องทำหน้าที่ของตัวเอง นั่นก็คือปลุกให้คนขี้เซานั้นตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทราอันแสนหวานนั่นให้ตื่นขึ้นมาดั่งที่เคยทำเป็นประจำทุกวัน แต่คนร่างบางที่กำลังนอนคุดคู้อยู่บนเตียงนี่ซิ ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมากดปิดให้มันเงียบเสียงลงเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังยกหมอนใบโตที่สามารถควานหามาได้ยกขึ้นมาปิดหูของตัวเองเสียอย่างนั้น ร้อนให้คุณแม่คนสวยที่กำลังยืนเก็บของอยู่หน้าห้องต้องเปิดประตูเข้ามาดูลูกชายสุดที่รัก
เธอเปิดประตูห้องนอนของลูกชายออกก่อนจะเดินเข้าไปกดปิดหยุดการทำงานของนาฬิกาเครื่องเล็กที่วางอยู่โต๊ะหัวเตียง แล้วจึงหย่อนตัวลงนั่งที่ว่างข้างๆกายของคนที่กำลังนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา จนดูเหมือนว่าผ้าห่มผืนนั้นจะกลืนกินลูกชายของเธอให้จมลึกลงไปเสียอย่างนั้น
“ แจจุงค่ะ เช้าแล้วนะลูก ถึงเวลาที่หนูจะต้องตื่นแล้วนะ ”
เสียงหวานใสที่แจจุงชอบ เอื้อนเอ่ยปลุกคนที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งนิทราให้รู้สึกตัวเสียที มือบางของเธอก็จับลงไปที่ตัวของลูกชายแล้วเขย่าเรียกเบาๆ
“ อื้อ.... แม่ฮะ วันนี้แจจุงปวดหัวจังเลยครับ ”
ทันทีที่ตื่นจากห้วงนิทรา ความรู้สึกปวดแบบตึบๆที่หัวก็เข้าเกาะกินคนร่างบางทันที แจจุงเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนล้า ก่อนที่หนังตาที่เปิดออกมาเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วจะปิดลงอีกครั้ง
ดวงตากลมโตที่เหมือนกับลูกชายเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยพร้อมๆกับสีหน้าที่ดูตกใจ ฝ่ามือบางวางทาบลงไปกับหน้าผากขาวเนียนของคนเป็นไข้เพื่อวัดดูอุณหภูมิ และก็เป็นดังคาด หน้าผากของแจจุงมีความร้อนแผ่ออกมา ถึงจะไม่มากนักแต่มันก็ทำให้คนที่สัมผัสสามารถรับรู้ได้ว่าความร้อนนั่นคือความผิดปกติของร่างกาย ฝ่ามือบางละออกจากการวางอยู่ที่หน้าผากขาวเนียน ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนย้ายลงไปทาบทับตามผิวกายของลูกรักเพื่อทดสอบความร้อน เธอนิ่งคิดอยู่สักพักหนึ่งก่อนจะก้มลงพูดข้างๆใบหูของคนที่ป่วยกะทันหัน
“ งั้นวันนี้นี้หยุดเรียนสักวันนะลูก เดี๋ยวแม่โทรไปบอกให้จุนซูลาอาจารย์ให้ ... นอนพักซะ แล้วเดี๋ยวแม่จะลงไปทำข้าวต้มให้ กินแล้วจะได้กินยา ”
แจจุงพยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อย เพื่อเป็นการบอกว่าได้ยินสิ่งที่แม่ของตนพูดแล้ว
คุณแม่ยังสวยก้มลงไปหอมแก้มลูกชายด้วยความรักใคร่ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วก้าวออกจากห้องไป
.
.
.
.
“ อ้อ ... ฮะ เดี๋ยวผมบอกอาจารย์ให้เองฮะ บอกแจจุงด้วยนะฮะ ว่าตอนเย็นผมจะปหา ฮะ สวัสดีฮะ ”
นิ้วเล็กกดวางสายจากการสนทนาของคนที่เจอหน้าบ่อย พอๆกับหน้าพ่อและแม่ที่บ้านของตนเอง นั่นก็คือแม่ของแจจุงนั่นเอง ก่อนจะถอนหายใจออกมา
เห๊อ...!!!~ วันนี้เค้าก็ต้องนั่งเหงาคนเดียวล่ะซิ แจจุงนะ แจจุง จะหยุดก็ไม่โทรมาบอกกันเลย คุณน้าก็น่าจะโทรมาเร็วกว่านี้ เค้าจะได้หยุดบ้าง ... ไม่ใช่เด็กขี้เกียจนะ แต่แบบว่า ... มันเหงานะ เวลาที่ไม่มีแจจุงอยู่ด้วย ชิชิ แจจุงอ่ะงอนๆ แล้วอยู่ๆทำไมถึงไม่สบายขึ้นมาล่ะเนี่ย เมื่อวานก็ยังดีๆอยู่เลย หรือว่าจะนอนคิดถึงพี่ยุนโฮจนเพ้อ อิยะฮะฮ่า. .. ต้องใช่แน่ๆเลย แหม๋ๆ คนเรานะคนเรา
คิดแล้วก็เดินไปยิ้มไปอย่างกับคนมีคนมาบอกรัก แล้วก็ไม่สามารถรู้ได้ว่ามันเป็นเหตุบังเอิญหรือเปล่าที่พอเดินมาถึงตรงหัวมุมเลี้ยวเข้าตึก หน้ากลมๆของคนตัวเล็กก็ไปปะทะเข้ากับอกแมนๆของร่างสูงคนหนึ่งทันที
จมูกเล็กสูดดมกลิ่นกายที่เหมือนจะเคยคุ้นเคยสักเล็กน้อย ก่อนจะเอาหน้าถูๆเบาๆเพื่อเป็นการทดสอบกิน อืม... กลิ่นคุ้นจังแหะ... ใครนะ? เมื่อถูจนพอใจแล้ว ใบหน้ากลมก็ละออกมาจากอกอุ่นๆอย่างรู้สึกนึกเสียดาย ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองคนตรงหน้า
หวา... พรหมลิขิตชัดๆ!!~
ใช่แล้ว คนที่จุนซูซบอกไปเมื่อสักครู่นั่นก็คือยูชอนนั่นเอง
ร่างสูงมองคนตรงหน้าแบบงงๆปนขำๆ ก่อนจะเอ่ยทักทายคนตัวเล็กที่กำลังจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ
“ บังเอิญจังเลยนะครับจุนซู เดินมาชนกันอีกล่ะ ”
พรหมลิขิตต่างหากฮะ พี่ยูชอน ถึงจุนซูจะอยากตอบออกไปแบบนั้น แต่ก็ต้องยั้งปากไว้ก่อน ไม่ได้ๆ เราต้องรู้จักรักงวนสงวนตัว เดี๋ยวเค้าหาว่าเราเป็นคนไวไฟ ...
“ อ้อ ฮะ...ผมว่าละเชียวว่าต้องเป็นพี่ยูชอนแน่ๆเลยที่ผมเดินชน เพราะกลิ่นน้ำหอมของพี่นี่มันช่างเป็นเอกลักษณ์จริงๆเลย “
พูดออกมาด้วยรอยยิ้มกว้างๆ จนคนที่กำลังพูดด้วยนั้นต้องยิ้มออกมา อย่างนึกเอ็นดู
“ แหม๋... จำได้ด้วยหรอเนี่ย เป็นคนความจำดีจังเลยนะเรา ”
เอ่อ .... เพราะมันเป็นเรื่องของพี่ยูชอนต่างหาก ผมถึงจำได้ ความจำผมดีที่ไหนกัน ชื่อหมาสามตัวที่บ้านของผม ผมยังจำมันไม่ได้เลยครับ!!!~
“ อ้าว... แล้วนี่แจจุงไม่มาด้วยหรอ? “
ร่างสูงที่ไม่เห็นคนสวยที่เพื่อนของตนเองเล็งไว้อยู่ถามขึ้นมาทันทีด้วยความสงสัย
“ อ้อ พอดีแจจุงเค้าไม่สบายนะฮะ วันนี้ผมเลยต้องอยู่คนเดียว ต้องเหงาแน่ๆเลย เพราะทุกทีผมต้องกินข้าวกับแจจุง พอแจจุงไม่มาแบบนี้ ... ผมก็ต้องกินข้าวคนเดียว เห๊อ.. ..”
จุนซูรีบตอบออกมาทันทีที่คนร่างสูงตรงหน้าถามพร้อมกับคำพูดที่ดูเหงาหงอยของตนเอง ที่พูดให้พี่ยูชอนฟังน่ะ ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลยนะ ไม่มีเลย จริง จริ๊งงงงง!!!~
ยูชอนนิ่งคิดอะไรอยู่สักพักหนึ่งเพื่อประมวลผล เห็นทีวันนี้เค้าคงจะมีข่าวร้อนต้องรีบไปบอกเพื่อรักซะแล้ว คิดได้ดังนั้นก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างคนอารมณ์ดี ก่อนจะส่งยิ้มให้กับคนตรงหน้า
“ งั้น. .. วันนี้จุนซูก็ไปกินข้าวกับพี่ละกัน จะได้ไม่เหงา ”
ร่างเล็กรีบส่งยิ้มกว้างไปให้กับคนที่เอ่ยชวนกันที โอ้ววววว!!~ นี่เค้าแค่พูดให้ยูชอนฟังเฉยๆเองนะ แต่สิ่งที่เค้าแอบหวังก็เป็นจริง สงสัยผลบุญที่ไปปล่อยปลาจะส่งผลซะแล้ว อิอิ อย่างงี้แหละ ทำบุญกับเพื่อนร่วมสายพันธุ์ ผลบุญเลยส่งผลมาเร็ว
“ งั้นป่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่ห้อง แล้วตอนกลางวันพี่จะมารับจุนซูไปกินข้าวด้วยกัน ”
เมื่อพูดจบก็คว้าข้อมือของคนตัวเล็กไปกุมไว้ทันที ก่อนจะพากันออกเดินไปตามทางเรียนของตึก
.
.
.
.
แจจุงลุกขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอนด้วยฝีมือการประคองของคุณแม่คนสวย ร่างบางส่งยิ้มบางๆไปให้เป็นการขอบคุณ
คุณแม่แสนดีที่ยอมสละเวลาการดูร้านมาเฝ้าลูกชายส่งยิ้มอบอุ่นกลับไปให้ ก่อนที่เธอจะลากเอาเก้าอี้จากโต๊ะเขียนหนังสือมาวางไว้ข้างเตียง แล้วจึงหย่อนก้นนั่งลงไป กลิ่นข้าวต้มหอมๆลอยขึ้นเตะจมูกของคนป่วย จนคนที่ปวยอยู่นั้นเริ่มจะรู้สึกหิวขึ้นมานิดๆ
“ กินข้าวต้มนี่ซะนะลูก แม่โทรไปบอกจุนซูให้ล่ะว่าให้ลาอาจารย์ให้ลูกด้วย... แล้วนี่ทำไมอยู่ๆ ถึงป่วยขึ้นมาล่ะ เมื่อวานก็ยังดีๆอยู่เลย ”
คุณแม่ลูบหัวของร่างบางนั่นด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่สงสัยออกมา
‘ เหอะๆ เพราะไอ้หมีนั่นคนเดียวเลยที่ทำให้เค้าต้องคิดมาก ‘
แจจุงยิ้มบางๆไปให้มารดาของตนเอง ก่อนจะเอ่ยปากตอบออกมา
“ สงสัยผมคงพักผ่อนน้อยนะฮะ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ ”
ร่างบางตอบออกไปตามความเป็นจริง แต่ก็เลือกที่จะไม่บอกสาเหตุที่ทำให้ตนต้องคิดมาก จนนอนไม่หลับออกไป
“ เรานี่นะ... กินข้าวต้มให้หมดถ้วยล่ะ เดี๋ยวแม่ต้องลงไปดูร้านแล้ว ทานยาแล้วก็นอนซะนะ จุนซูบอกว่าตอนเย็นๆจะมาหา... แม่ไปล่ะ ”
เมื่อเห็นว่าแม่ของตนนั้นออกจากห้องไปแล้ว แจจุงก็ยกถ้วยข้าวต้มขึ้นมาตักกินอย่างช้าๆ ถึงจะหอม แต่เค้าก็รู้สึกว่าไม่ค่อยจะอยากกินอะไรเท่าไหร่ แต่ก็ต้องฝืนทาน เพื่อจะได้ทานยา
พอจัดการกับข้าวต้มเสร็จ ร่างบางก็คว้ายาที่แม่เตรียมไว้ให้ขึ้นมากินทันที ดื่มน้ำลงไปสักอึกใหญ่ ก่อนจะล้มตัวลงนอน ใช้เวลาไม่นาน ยาที่ทานลงไปก็เริ่มออกฤทธิ์ทันที ร่างบางค่อยๆเข้าสู่ห้วงนิทราทีละน้อยๆ
.
.
.
.
.
“ แกว่าอะไรนะ!!~ แจจุงไม่สบายงั้นหรอ? ”
เสียงทุ้มของยุนโฮตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ๆเพื่อนรักของตนเองก็เดินเข้ามาหาในห้องประธานนักเรียน ก่อนจะเอ่ยปากเล่าให้ฟังว่าวันนี้คนสวยของเค้าไม่สบายกะทันหัน
“ อื้อ... จุนซูบอกชั้นมาแบบนี้ ”
ยูชอนที่นั่งไขว้ห้างสบายอารมณ์อยู่บนโซฟาเอ่ยปากพูดออกมา
ยุนโฮล้มตัวลงนั่งบนเก้าอี้หนังที่ประจำของตนเอง ใบหน้าคมเข้มมีความเครียดประทับไว้อยู่อย่างเห็นได้ชัด
‘ เป็นอะไรนะ ทำไมถึงป่วย ออกจะดูแข็งแรงขนาดนั้น. ... นี่แค่เค้าไม่ได้โทรคุยกับร่างบางนั่นคืนเดียว ถึงกับป่วยเลยหรอ ‘
ยุนโฮนั่งนิ่งๆ คิดอะไรไปเรื่อยๆอยู่สักพัก ก่อนจะลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเก้าอี้ กะทันหันจนเกือบจะทำให้ปาร์ค ยูชอนกลิ้งตกจากโซฟาซะแล้ว แต่ก็ต้องตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อเห็นว่าร่างสูงตรงหน้าเก็บอุปกรณ์ต่างๆของตนเองลงกระเป๋านักเรียน
“ เห้ย!!! นั่นแกจะไปไหนว่ะ? ”
ยูชอนที่เพิ่งจะหลุดออกมาจากความงงปนตกใจเอ่ยปากถามคนร่างสูงที่เตรียมจะก้าวเดินออกจากห้องทันที
ยุนโฮหันหน้ามาตอบคำถามของเพื่อนรักก่อนเล็กน้อยก่อนจะก้าวขาออกจากห้องนั้นไปทันที
“ ไปดูใจเมีย!!!~ ”
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
รถยนต์คันหรูจอดเทียบท่ากับฟุตบาทข้างทาง ก่อนที่เจ้าของร่างสูงจะก้าวเท้าลงมาเหยียบที่พื้นดิน ร่างสูงมองไปที่ร้านอาหารขนาดย่อมที่เค้าเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง มองรอดเข้าไปอยู่สักพัก ก่อนสายตาคมจะไปสะดุดเข้ากับร่างของใครคนหนึ่ง ที่คนสวยบอกว่าเป็นแม่ ไม่ต้องยืนคิดให้เสียเวลา เรียวขายาวก็ก้าวเดินเข้าไปในตัวร้าอาหารนั้นทันที
กรุ๊ง กริ๊ง .. !!~
เสียงกระดิ่งที่แขวนไว้ตรงหน้าประตูทางเข้าดังขึ้น เรียกให้สายตาของคิม มุนอาเงยหน้าละออกมาจากรายการอาหารได้อย่างไม่ยาก
“ อ้าว รุ่นพี่ของแจจุงนั่นเอง ”
เธอเอ่ยทักออกมาด้วยรอยยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาในร้านอาหารของตนเองนั้นเป็นใคร
“ อ่ะครับ ผมยุนโฮครับ คือ... ผมได้ยินมาว่าแจจุงไม่สบายก็เลยมาเยี่ยมนะครับ ”
ยุนโฮพูดคุยกับแม่ของคนร่างบางด้วยความนอบน้อม
“ อ้อจ๊ะ ตอนนี้แจจุงหลับอยู่ ยุนโฮจะขึ้นไปรอบนห้องหรือจะนั่งรอยู่ข้างล่างดีล่ะจ๊ะ ”
“ อืม... งั้นผมไปนั่งรอแจจุงตื่นที่ห้องดีกว่าครับ ”
ยุนโฮเอ่ยตอบคำตอบที่ดูจะเข้าทางเค้าเสียเหลือเกิน พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ก็แหม๋... จะได้บุกห้องนอนคนสวยทั้งที มีใครบ้างล่ะที่จะไม่ยินดี
“ จ๊ะ... งั้นเดี๋ยวยุนโฮเดินขึ้นบันไดไปเลยนะ ห้องนอนของแจจุงมีป้ายชื่อติดอยู่น่ะจ๊ะ แล้วเดี๋ยวน้าจะยกขนมขึ้นไปให้ที่ห้องล่ะกัน ”
“ ครับ... รบกวนด้วยนะครับ ”
ยุนโฮเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินหายเข้าไปทางหลังร้าน เพื่อขึ้นไปปลุก(ปล้ำ)คนสวยถึงบนห้องนอน ร่างสูงเดินตามทางเดินไปเรื่อยๆจนมาสะดุดตาเข้ากับป้ายชื่อห้องนอนของใครบางคน
“ คนสวยนี่น่ารักจริงๆ ”
สิ่งที่ยุนโฮนั้นพูดถึงก็คงจะหมายถึงป้ายหน้าห้องของร่างบางที่ทำมาจากแผ่นไม้สีน้ำตาลอ่อน ข้างๆประกอบไปด้วยรูปหมีสองตัวนั่งกอดกันอยู่ ส่วนตรงกลางก็เขียนกำกับไว้ว่า
ห้องนอนของแจจุง!!~
ยุนโฮตัดสินใจที่จะไม่เคาะประตูก่อนจะเข้าไป เพราะเดี๋ยวจะเป็นการบกวนการนอนของร่างบาง ร่างสูงค่อยๆเปิดประตูเข้าไปแบบให้เงียบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วจึงสาวเท้าเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงของคนร่างบาง ดวงตาคมไล่ตามองไปตามโครงหน้าหวานที่เค้ารู้สึกชอบมันตั้งแต่ได้เห็นครั้งแรก ริมฝีปากแดงที่เผยอขึ้นสักเล็กน้อยตอนที่เจ้าตัวหลับ ความนุ่มที่เหมือนกับมาชเมลโล่ตอนที่เค้าได้ทาบริมฝีปากของตนเองลงไปนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในใจไม่จางหาย แก้มนุ่มนิ่มทั้งสองข้างที่เค้าเคยสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากเจ้าตัว ดวงตากลมโตที่ตอนนี้ถูกเปลือกตาบังปิดทับอยู่ ดวงตาที่คอยจ้องมองเค้าแบบค้อนๆยามที่ตนเองถูกขัดใจ ไม่น่าเชื่อเลย .... ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เค้าพูดมานั้นจะอยู่บนใบหน้าของคนที่เป็นเพศเดียวกันกับเค้า แต่เค้าก็เป็นคนหัวสมัยใหม่พอ เค้าพอจะเข้าใจว่าถ้าเกิดชอบหรือรักใครสักคนไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นหญิงหรือชายก็คงจะไม่สน เพราะสิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือ ...ขอแค่ให้เราสองคนรักกันก็พอแล้ว การที่เราสองคนอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข สามารถหัวเราะ พูดคุยกันได้อย่างสบายใจ เหตุผลเพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เค้ารักใครสักคนได้
แต่มันอาจจะไม่ใช่ตอนนี้ก็ได้ ... คงอาจจะต้องรอเวลาอีกสักนิด ... ล่ะมั้ง
ไม่รู้ว่าตนเองปล่อยใจให้คิดถึงอะไรต่ออะไรไปมากนานแค่ไหน รู้สึกตัวอีกทีคุณแม่ของแจจุงก็ยกขนมขึ้นมาให้เค้าเสียแล้ว เธอยิ้มให้ยุนโฮ ก่อนจะขอตัวลงไปดูแลร้านต่อ เมื่อความเงียบเข้าปกคลุมห้องนอนของร่างบางอีกครั้ง ยุนโฮก็ได้แต่นั่งมองหน้าคนที่นอนหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอยู่บนเตียง จนเวลาผ่านไปนานเข้า ความง่วงของร่างบางก็แผ่กระจายมาให้คนร่างสูงบ้าง ยุนโฮจึงค่อยๆก้มหน้าแล้วฟุบลงไปกับท่อนแขนของตนเองที่ตอนนี้ทำหน้าที่ต่างหมอนไปแล้ว
ฟุบหลับข้างๆแจจุง
.
.
.
เวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมงแล้ว แสงแดดที่เคยสว่างจ้าตอนนี้ก็ค่อยๆอ่อนแสงลง เหลือแต่เพียงแสงแดดอ่อนๆที่ไม่ได้ทำให้ผิวกายของคนแสบร้อนมากนัก ...
คนที่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา เปลือกตาบางค่อยๆเปิดออก ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งเพื่อปรับโฟกัสของภาพตรงหน้าให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ฝ่ามือเล็กยกขึ้นมาขยี้ตาเสียเล็กน้อยพอเป็นพิธี การได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นี่มันช่วยให้หายป่วยได้ทันทีเหมือนกันแหะ ดวงตากลมโตค่อยๆหันไปมองทางด้านข้างของตนเอง ก่อนที่จะ....
“ เฮ้ย!!!~ ”
ทันทีที่ดวงตากลมมองเห็นบุคคลอีกหนึ่งคนมาอยู่ข้างที่นอนของตนเอง ริมฝีปากก็อ้าออกเปล่งเสียงตะโกนออกมาทันที
คนที่ได้ยินเสียงตะโกนเสียงดังก็เริ่มรู้สึกตัวก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจากท่อนแขนของตนเอง แล้วจึงจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตางัวเงียนิดๆ
ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นกว่าเก่าเมื่อเห็นว่าคนที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้ามาในห้องนอนของตนเองนั้นเป็นใคร ก่อนจะยกหมอนที่อยู่ข้างๆกายขึ้นมาฟาดใส่คนไม่มีมารยาททันที
“ อีตาบ้าชอง ยุนโฮ ใครใช้ให้นายเข้ามาในห้องนอนชั้นห๊า....!!!~ ”
ถึงปากจะพูดแต่มือนั้นก็ไม่ได้หยุดการทำงานของมันแต่อย่างใด ยังคงส่งแรงฟาดต่อไปเรื่อยๆไม่ยั้งมือ
“ เห้ย!!! หยุดเลยนะๆ ผมไม่ได้ขึ้นมาเองสักหน่อย ก็แม่ของแจจุงบอกให้ผมขึ้นมาหนิ ”
เมื่อได้ฟังคำตอบของคนร่างสูง มือที่ทำหน้าที่อยู่เมื่อสักครู่ก็หยุดการทำงานทันที
“ แม่ชั้นบอกให้นายขึ้นมาได้หรอ? ”
“ ก็ใช่นะซิ อูย... ฟาดมาได้ ถึงจะเป็นหมอนมันก็ระคายเคืองต่อผิวผู้ดีอย่างผมนะครับ ”
ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ ก่อนจะยกฝ่ามือของตนเองขึ้นมาถูตามแขนที่ถูกคนร่างบางกระหน่ำฟาดใส่
แจจุงมองผลงานของตนเองอย่างนึกสะใจ
“ สมน้ำหน้า อยากไม่มีมารยาทก่อนเองหนิ!!~”
ยุนโฮแกล้งพองลมที่แก้มแบบที่เด็กๆเค้าชอมทำกันก่อนจะปล่อยลมในปากนั้นออกมา พร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงแผนการอะไรบางอย่างได้
“ โอ๊ะ!!~ ผมนึกได้ว่าจุนซูบอกว่าแจจุงไม่สบาย ไหนๆดูซิๆ ”
ถึงจะเป็นประโยคธรรมดาๆที่เอ่ยออกมา แต่การกระทำนี่ซิที่มันดูจะไม่ธรรมดาเอาเสียเลย เพราะแทนที่จะส่งแค่ฝ่ามือเท่านั้นมาทาบทับดูความร้อนที่หน้าผาก ... ถ้าทำอย่างนั้น ก็ไม่ใช่ ชอง ยุนโฮแล้ว
เพราะตอนนี้ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะปีนขึ้นไปบนเตียงที่ร่างบางนั่งอยู่นั่นทันที โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร เพราะได้อนุญาตตนเองไปเสียเรียบร้อยแล้ว ส่วนร่างบางที่กำลังอยู่ในอาการอึ้งก็ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ปล่อยให้คนร่างสูงจับไหล่ของตนเองแล้วกดลงกับที่นอน สภาพของร่างบางในตอนนี้ก็คือนอนราบไปกับที่นอนเรียบร้อยแล้ว แถมสิ่งที่วิเศษที่สุดก็คือ
ตอนนี้แจจุงอยู่ภายใต้ร่างกายของยุนโฮในสภาพล่อแหลม
ยุนโฮที่เห็นว่าแจจุงดูจะไม่มีท่าทีขัดขืนอะไรออกมาก็ยกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าของตนเองลงไปเรื่อยๆ จนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากคนร่างบาง
แจจุงที่ตอนนี้กำลังทำอะไรไม่ถูกได้แต่หลับตาหนีภาพของคนร่างสูงที่ดูจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เค้ารู้สึกได้ว่าแรงที่จะผลักให้ยุนโฮนั้นออกไปจากการคล่อมตนเองได้หายไปหมดตั้งแต่เห็นดวงตาคมคู่นั้นแบบใกล้ๆ เพียงแค่นั้นเค้าก็ไม่มีแรงพอที่จะผลักยุนโฮแล้ว แจจุงหลับตาปี๋ด้วยใจที่ระทึก ก่อนที่ความระทึกนั้นจะหายไปทันทีที่เมื่อหน้าผากของตนเองนั้นถูกใครอีกคนวางหน้าผากของฝ่ายนั้นทาบทับลงมา แจจุงค่อยๆลืมตากลมโตขึ้นทีละนิดๆ แล้วภาพที่เค้าเห็นตรงหน้านั้นก็คือ รอยยิ้มทะเล้นของอีกฝ่าย กับดวงตาเรียวที่ดูจะมีเสน่ห์เหลือเกินพอได้มาจ้องในระยะประชิดเสียขนาดนี้
“ อืม... ตัวไม่ค่อยจะร้อนแล้วนะเนี่ย สงสัยได้คนดูและดี ”
ยุนโฮที่ยังคงไม่ละออกไปจากหน้าผากบางนั่นเอ่ยออกมาอย่างยิ้มๆ
“ นายเนี่ยนะดูและดี แหวะ ชั้นเห็นแต่นายมานอนข้างๆชั้นเฉยๆดูแลดีตรงไหน ”
แจจุงที่ยังคงปล่อยให้อีกฝ่ายวางหัวทาบกับหน้าผากของตนเองพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประชดๆ
“ ผมก็ไม่ได้หมายถึงผมเสียหน่อย หมายถึงแม่ของแจจุงต่างหาก ”
แจจุงที่รู้ตัวว่าเผลอปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อออกไปรีบเงยหน้าขึ้นมองคนด้านบน ก่อนที่ริมฝีปากทั้งสองนั้นจะอ้าออกกว้างเตรียมพร้อมที่จะด่าหรือพูดก็ไม่อาจทราบได้ แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไรออกไปเลยแม้แต่น้อย แค่เสียงเดียวก็ยังไม่มีเล็ดรอดออกมาให้ได้ยิน เพราะตอนนี้ริมฝีปากบางอวบอิ่มนั่นกำลังถูกครอบครองโดยริมฝีปากหนาของร่างสูงที่อยู่ตรงหน้า
แจจุงที่ถูกจูบแบบไม่ทันได้ตั้งตัวได้แต่เบิกตากลมโตของตนเองกว้างขึ้นเพราะอาการตกใจ มือบางค่อยๆทุบลงไปที่ลาดไหล่ของร่างสูง แต่ก็ดูจะไม่มีผลอะไรเลย เพราะตอนนี้ยุนโฮก็ยังคงมัวเมากับริมฝีปากของเค้าเช่นเคย เมื่อรู้ว่าตนเองไม่อาจจะต้านทานแรงของร่างสูงได้ก็ได้แต่ปล่อยให้เลยตามเลย
ยุนโฮที่เห็นว่าคนตรงหน้าหยุดการขัดขืนลงไปแล้วก็ยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ ฝ่ามือหนาช้อนเข้าที่ท้ายทอยของคนร่างบางให้ขึ้นมารับจูบของตนเองให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น ก่อนจะหันมุมปรับองศาเอียงศีรษะสักเล็กน้อยเพื่อให้การจูบในครั้งนี้ลึกซึ้งมากกว่าเดิม ลิ้นหนาค่อยๆชอนไชเข้าไปในปากของคนร่างบาง ก่อนจะลัดเลาะไปตามไรฟันซี่สวยของคนตรงหน้า อาจจะมีบ้างที่ลิ้นเล็กมีการตอบสนองกลับมา แต่นั่นก็ดูจะเป็นการตอบสนองในแบบที่ดูยังไงก็รู้ว่าไร้เดียงสา สายน้ำใสที่ไม่อาจจะทราบได้ว่าเป็นของใครเริ่มจะไหลเปื้อนลงมาตามมุมปากของคนทั้งคู่
แต่ก็ไม่มีใครสนใจที่จะสละเวลานั้นออกมาเช็ดมันเลยสักคน
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ การจูบในครั้งนี้ก็ดูจะร้อนแรงขึ้นมากเท่านั้น เสียงเปียกแฉะของการแลกน้ำลายนั้นยังคงดังอยู่อย่างสม่ำเสมอ และเสียงนั้นก็ยิ่งทำให้ร่างบางอดที่จะเขินขึ้นมาเสียไม่ได้
แจจุงไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงยอมให้ยุนโฮจูบแบบลึกซึ้งขนาดนี้ เค้ารู้แต่ว่าไม่สามารถที่จะขัดขืนคนตรงหน้านี้ได้เลย และแทนที่จะรู้สึกรังเกียจเหมือนครั้งก่อนๆที่โดนจูบ แต่ความรู้สึกของเค้าในตอนนี้มีแต่คำว่า ‘ รู้สึกดี ’ ไม่มีความรู้สึกเกลียดหรือขยะแขยงอยู่เลยแม้แต่น้อย รู้แต่ว่า อยากสัมผัสกันให้มากกว่านี้ เพียงแค่นั้น ...
การจูบที่แสนยาวนานนี่ผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่มีใครทราบ และก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย อาจจะมีบ้างที่ยุนโฮผละออกมาให้คนตรงหน้านั้นได้หายใจ แต่ก็ไม่ถึงเสี้ยวนาทีก็ก้มลงไปประกบริมฝีปากนั่นอีกครั้ง
ยุนโฮก็ไม่รู้เหมือกันว่าทำไมแค่จูบกับคนตรงหน้านี้เท่านั้น แค่จูบกันเฉยๆ มันก็ทำให้เค้ารู้สึกดีได้แล้ว เค้าไม่สามารถควบคุมตนเองให้หยุดการจูบนี้ได้ ตอนนี้ในหัวของเค้ามันมีแต่คำว่า ‘ ไม่พอ ยังอยากได้มากกว่านี้ ’
และมันก็คงจะเป็นเช่นนั้น ถ้าไม่มี .....
ปัง!!~
“ แจจูงงงงงงง!!!~ ชั้นมาเยี่ยมแล้ว .... ปะ . .. .. เป็น... ไงมั้ง ”
มันก็คงจะเป็นเช่นนั้น ....
ถ้าไม่มีโลมามาขัดจังหวะเสียก่อน อ๊ากกกกกกก!!!~ ปาร์ค ยูชอน มาลากเอาโลมาของแกไปปล่อยทะเลเดี๋ยวนี้!!~
TBC
. ^ ^
*
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
+
*
Talk ::
อ่า .. .. หายไปนานสักเล็กน้อย ^ ^
แบบว่าช่วงนี้คอมเม้นน้อยไปมั้ยค่ะ มุกรู้สึกท้อเหมือนกันนะ แบบว่าคอมเม้นมันลดลงไป ยิ่งทำให้มุกรู้สึกว่า เราแต่งไม่ดีหรอ ถึงไม่มีคนอ่านอ่ะ T T เค้าเศร้าจริงๆนะ
T----------------------------------T*
มันเลยทำให้จิตใจห่อเหี่ยวมาลงฟิคช้าเลย . ...
แต่เราก็ยังคงแต่งต่อละนะ แต่ขอร้องทีเถอะนะค่ะ อ่านแล้วก็ช่วยเม้นบอกมุกหน่อยก็ดี ว่าแต่งดีหรือไม่ดี ชอบหรือไม่ชอบ สั้นๆก็ได้ ขอแค่คุณเม้น คนแต่งก็มีกำลังใจแล้ว ^ ^ ขอบคุณคนที่คอยเข้ามาอ่านและเม้นอย่างต่อเนื่งด้วยนะค่ะ รักมากเลย ><
อ่า... วันนี้มุกมาลงก่อนเปิดเทอม เพราะคาดว่าถ้าเปิดเทอมแล้วจะต้องยุ่งมาก ไหนจะอ่านหนังสืออีก
ขอให้เข้าใจกันด้วยนะถ้ามาต่อช้านะค่ะ จะมีคนรออ่านของเค้ามั้ย T T”
แต่ก็จะเอามาลงทุกๆอาทิตย์แน่นอนค่ะ ถ้ามีเหตุอะไร เราจะมาแจ้งให้ทราบก่อน อิอิ
พูดถึงฟิคๆ อยากได้ฉากของใครบอกมาได้เลยนะค่ะ จะพยายามจัดให้ เรื่องของชางมินนั้น ไม่ได้โผล่มาเป็นมือที่สามของยุนแจเค้าหรอกค่ะ สบายใจได้ โผล่ออกมาเพื่อสร้างสีสันเท่านั้น แต่ถ้าอยากให้น้องมินมีคู่ก็บอกกันได้นะ ^ ^
แบบว่ามุกจะบอกว่าแต่งฉากจูบแบบดูดดื่มไม่เก่ง 555 ก็เลยออกมาเป็นแบบนั่นล่ะค่ะ แต่งไม่เก่งเลย อาจจะอ่านไปแล้วก็ไร้อารมณ์ จินตนาการตามไม่ถูกก็ต้องขอโทษด้วยน๊า.... ><
อ่า ... จะเปิดเทอมแล้ว ตั้งใจเรียนกันนะค่ะ เพราะมุกก็จะตั้งใจเรียน ม.ปลายปสุดท้ายให้ดีที่สุด ขอให้ช่วยกันติดตามฟิคเรื่องนี้กันต่อไปน๊า... อย่าเพิ่งทิ้งเค้าล่ะ ยังคงยืนยันคำเดิม อ่านๆไปเดี๋ยวก็มีสาระ ^ ^
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและเม้น.ให้นะค่ะ ^ ^
ความคิดเห็น