ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : HOPE LOVE 1
It's like you're screaming but no one can hear.
You almost feel ashamed that someone could that be that important,
that without them you feel like nothing.
มันเหมือนว่าเธอกำลังกรีดร้อง แต่กลับไม่มีใครได้ยิน
เธอรู้สึกละอายที่ใครคนนั้นคือคนที่สำคัญขนาดนั้น
ขนาดที่ว่าถ้าขาดเขาไป แล้วเธอจะรู้สึกเหมือนตัวไม่มีอะไรเลย
ไม่มีใครเข้าใจว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน
HOPE LOVE 1
เมื่ออดัมกับอีฟถูกไล่ออกมาจากสวนอีเด็น อีฟก็เฝ้าแต่ร้องไห้ เวลาก็ล่วงผ่านไปสู่ฤดูใบไม้ร่วง ไม่มีดอกไม้ผลิบานเลยสักดอก แล้วก็ผ่านไปถึงฤดูหนาว หิมะก็ตกไม่ยอมหยุด เหล่าเทวดาที่มาปลอบโยนอีฟ จึงกอบหิมะใส่มือแล้วเป่าลงไป เมื่อเกล็ดหิมะตกต้องผืนดิน ก็กลายเป็น Snowdrop ดอกไม้จึงเริ่มบานอีกครั้ง
Snowdrop จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง เพราะไม่ว่าอากาศจะเลวร้ายสักแค่ไหน แต่ Snowdrop ก็ยังคงแย้มบาน อันเป็นการบอกว่า วันพรุ่งนี้จะต้องดีกว่าเดิม
ผ่านมาหนึ่งปีแล้วสินะ
ที่ความอ่อนโยนหายไปจากตัวของฉันเด็กผู้หญิงคนนั้นตายไปนานแล้วใช่ไหม
ตั้งแต่วันนั้นวันที่เขาคนนั้นได้ทำร้ายหัวใจฉันต้องย่อยยับไม่มีชิ้นดี
ตั้งแต่วันนั้นทั้งเขาและฉันก็เหมือนบุคคลที่ต้องใส่หน้ากากหลอกลวงกันอยู่เสมอ
ทุกวันและทุกวัน
‘เฮอร์มิล อาซาริซะ โฮปลี่’ ผู้หญิงสุดฮอตอันดับท๊อปเท็นของโรงเรียน
รอยยิ้มของฉัน
รอยยิ้มอันชั่วร้ายของนางฟ้า
“โฮปครับ
ได้โปรดรับรักผมด้วยนะครับ!!”
เหตการ์ณแบบนี้มันก็เป็นเรื่องธรรมดาตลอดเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาของฉันอยู่แล้วแต่มันก็เป็นแบบเดิมฉันแค่หันกลับแล้วโปรยรอยยิ้มใส่ท่ามกลางสายตาของนักเรียนที่เดินผ่านไปผ่านมาแล้วหยุดมองที่ฉัน
“แล้วโฮปจะรับไว้พิจารณานะค่ะ”
จากนั้นก็สะบัดแล้วเดินขึ้นตึกเรียน
ถึงจะสวยฮอต
แค่ไหนแต่การไม่สร้างศัตรูให้มากเกินไปก็ถือเป็นเรื่องที่ดีอีกอย่าง..
ฉันไม่นิยมนิสัยทำร้ายเหยียบย่ำหัวใจของคนอื่นสักเท่าไหร่
เพียงแต่
ชอบที่จะทำให้ลุ่มหลงมากๆแล้วค่อยเขี่ยทิ้งทีหลังต่างหากJ
“วันนี้มีคนมาสารภาพรักกับโฮปอีกแล้วแหละเธอดูซิ
คนอะไรไม่รู้สวยจริงๆเลยว่าไหม”
“แต่โฮปก็ยังไม่ได้รับรักใครสักคนเลยนี่นา
ทำไมกันนะ”
“แต่โฮปเขาก็สนิทกับรุ่นพี่เบียคุรันคนนั้นนี่นา”
“นี่เธออย่าพูดจาเสียงดังสิเดี๋ยวถ้าคนอื่นเขาได้ยิน..”
ไม่ทันแล้วล่ะนะพวกเธอ
“เอ่อ
”
คงเพิ่งเห็นสินะว่าฉันมายืนอยู่ข้างหลังได้ประมานเกือบสิบนาทีที่แล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
โฮปทีแผลใจน่ะ”
ฉันพูดใส่หน้าพวกผู้หญิงพวกนั้นพร้อมกับทำหน้าเศร้าเล็กน้อย
แต่ยังไงความเศร้าแบบนั้นมันหายไปตั้งนานแล้วแหละ
พร้อมกับเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับนั่งลงข้างๆผู้ชายผมสีเขียวยาวที่นั่งมองหน้าเซ็งใส่ฉันอย่างคิเคียว
“ว่าไงล่ะ”
“โฮปเธอนี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”
“แล้วมันดีขึ้นหรือเปล่าล่ะคิกจัง:)”
“เลิกเปลี่ยนชื่อให้ฉันสักทีเถอะโฮป”
“เย็นนี้ไปแว๊นกันน้าคิกจัง
”
“เดี๋ยวก็โดนเบียคุรันจัดการหรอก”
“จะไปกลัวคนแบบนั้นทำไมกันล่ะ
จริงไหมคิกจัง”
คนแบบนั้น
ฉันไม่สนใจหรอก
“นี่เธอยังไม่เลิก
”
“อย่าพูดประโยคนั้นออกมาเด็ดขาดเลยนะ!”
“ฉันไม่คิดว่าเบียคุรันจะโง่ขนาดดูไม่ออกว่าเธอรักเขาแบบนี้เลยนะเฮ้อ”
นี่ไงนายก็จะได้รู้แล้วคิกจัง!!
“ฉันไม่ได้รักพี่เบียคุรัน
นั่นมันก็นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากแล้ว”
“หรอออออออออออออ”
“นายน่ะเงียบไปเลยนะคิกจังไม่อย่างงั้นฉันจะหาเรื่องใส่ตัวนาย”
“ปกติเธอก็หาเรื่องให้ฉันอยู่แล้วนี่”
“เหอะ!!!”
เย็นวันนี้ฉันเลยต้องแวะขึ้นไปรอคิเคียวที่ห้องประธานชั้นบน
เอี๊ยด
และฉันก็ต้องพบเจอกับบุคคลที่ฉันพยายามหลบหน้ามาตลอดอย่างเขา’เบียคุรัน’ที่กำลังอยู่บนโต๊ะยาวพร้อมกับไข้วขา
เส้นผมที่นุ่มอย่างกับปุยเมฆสีขาวพวกนั้นกับรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแบบนั้นพร้อมกับถ้วยที่ใส่มาชเมโล่สีขาวพวกนั้น
มันทำให้ฉันนึกถึง
สมัยก่อน
“ว่าไงครับ
เด็กน้อย”
“โฮปไม่ใช่เด็กน้อยค่ะ
คิกจังล่ะ”
“เดี๋ยวนี้ดื้อแล้วก็เถียงเก่งจริงๆเลยนะครับ”
“รุ่นพี่หยุดยิ้มแบบนั้นได้แล้ว
ฉันไม่ชอบ”
ฉันรู้ได้ทันทีเลยล่ะว่าเขากำลังไม่พอใจฉันอยู่
แล้วยังไงล่ะจะทำไรฉันจะสั่งให้ลูกน้องเอาฉันไปโยนลงหน้าต่างตึกสิบชั้นหรอไงก็เอาเลยฉันไม่มีอะไรที่จะต้องไปกลัวอีกแล้ว
“เฮอร์มิล
มานี่”
“ฉันมาหาคิกจัง
คนเดียว”
“มานี่ครับ”
น้ำเสียงของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนไปราวคนละคนนี่เขากำลังไม่พอใจฉันอยู่สินะ
เพียงแต่ฉันไม่เข้าใจร่างกายของตัวที่มันกำลังสั่งให้ขาทั้งสองข้างของฉันเดินไปหาเขาอีกแล่วสินะที่ฉันใจอ่อนที่ฉันยังมีความรู้สึกดีๆให้กับเขาอยู่พร้อมๆกับความเกลียด
ตกลงฉันสินะที่บ้า
“มีอะไรค่ะ
อ๊ะ..”
เพียงเวลาไม่กี่วินาทีตัวของฉันก็ลงไปนั่งอยู่บนตักของเขา
อย่างรวดเร็วลมหายของเรามันใกล้กันมาก
มากเสียจนเหมือนกับว่าเราใช้ลมหายใจของกันและกัน
น้องสาว
พี่กำลังทำเหมือนกับว่าฉันเป็นน้องสาวพี่ใช่ไหมถึงได้คิดจะอะไรก็ได้
พี่เบียคุรันมองหน้าฉัน
“ทำไมเดี๋ยวนี้เราดื้อจังเลยนะ
เถียงก็เก่ง”
เขาพูดออกมาโดยที่คางของเขาเกยอยู่ไหล่ฉันลมหายใจร้อนระอุที่คอยรดต้นคอ
“ฉันก็เป็นแบบนี้มานานแล้วนี่ค่ะ”
“เถียงก็เก่ง”
“ถ้าพี่อยากได้น้องสาวที่ดีแบบนั้นก็ไปหาจากที่อื่นสิค่ะ”
“แล้วถ้าพี่ไม่อยากได้น้องสาวล่ะครับ”
“
!!”
ไม่นะ
ฉันจะหลงไปกับคำโกหกหรอกลวงของเขาไม่ได้อีกแล้ว
นี่มันแค่เรื่องจอมปลอมเท่านั้นฉันไม่ใช่ตุ๊กตาหุ่นเชิดของใคร
เขาใช้คนเป็นเครื่องมือตลอดเวลาฉันจะไม่มีวันเป็นแบบนั้นแน่นอน
“ฉันไม่ใช่เครื่องมือของพี่ซะหน่อย
”
ฉันก็ลุกออกจากตักของเขาพร้อมกับคิกจังที่เดินออกมาพอดี
“เป็นตุ๊กตาต่างหาก
ล่ะครับ”
ฮึก
!
ฉันเดินออกไปพร้อมกับคิกจังที่เดินมาอย่างงงงวย
พี่หลอกฉันอีกแล้วสินะ
ฉันจะไม่เป็นเครื่องมือของพี่อีกต่อไปแล้ว
พี่มันคนไม่มีหัวใจ
พี่มันใจร้าย
ฉันไม่น่ารักคนอย่างพี่เลยจริงๆ
“โฮป
เบียคุรันเขาไม่ได้ใช้เธอเป็นเครื่องมือหรอกน่า
ฉันเคยเห็นพวกที่โดนใช้จริงๆ”
“เหอะ
นายมันก็เข้าข้างพวกตัวเอง!”
“ถ้าเธอเป็นเครื่องมือเขาจริงๆป่านนี้คงไม่ได้มายืนสวยอยู่ทุกวันแบบนี้หรอกจะบอกให้”
“งั้นฉันจะเดินไปให้รถชนตายตอนนี้เลยล่ะกัน!!!!”
“เห้ย!!ยัยคนสวยเธอใจเย็นๆหน่อยสิ”
“นายไม่เข้าใจฉันหรอกคิกจัง”
“นี่
”
“นายไม่เคยรักใครนายไม่เข้าใจหรอก”
“
.”
“ไม่เข้าใจถึงหัวใจของคนที่แตกสลายจนไม่เหลือที่ให้ความรักอาศัยอยู่ในนั้นอีกต่อไป”
“
”
“นายรักฉันไหมคิเคียว”
“ฉันรักเธอ”
“ถ้าเขาอ่อนโยนได้เท่านายแบบนี้ฉันในตอนนี้ก็คงเหมือนกับเมื่อก่อน
ว่าไหม”
“เธอก็เหมือนเดิมนั่นแหละน่ายัยคนสวย
นั่งแอ๊บอยู่นั่นล่ะไม่เหนื่อยหรอไง”
“อะไรของนาย!!”
“เฮ้อ~ไม่ลองไปอ่อยเบียคุรันดูบ้างล่ะ
เพื่อเขาจะติดใจ”
“คิเคียว!!!!!!!!!!!!!”
“อะไร
คำแนะนำไง”
“นายเก็บไปทำกับเลวี่เถอะยะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น