หลักฐานทางประวัติศาสตร์

ลำดับตอนที่ #9 : หลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยโบราณ ( ตะวันตก )

        

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ตะวันตกสมัยโบราณ (3500ปีก่อนค.ศ.-ค.ศ.476)

       มีพัฒนาการตั้งแต่อารยธรรมเมโสโปเตเมีย อียิปต์ กรีก และโรมัน รวมระยะเวลา 4000ปีเศษ 

ชาวอียิปต์โบราณ

1.บันทึกกระดาษปาปิรัส

       -ชาวอียิปต์โบราณประมาณ 3000ปีก่อนค.ศ. บันทึกเรื่องราวเป็นภาพแสดงความหมาย  ตัวอักษรภาพของอียิปต์ แบ่งออกเป็น 2ชนิด  คือ  อักษรทางศาสนา เรียก อักษรเฮียโรกลิฟฟิก (ให้ความรู้เรื่องการแพทย์ ดาราศาสตร์ โหราศาสตร์)  กับ อักษรตัวหวัดเรียกอักษรไฮราติก

       -กระดาษปาปิรัส บันทึกความรู้ของชาวอียิปต์ทุกด้าน เช่น รู้การค้นพบวิธีทำกระดาษ  ตำราแพทย์  โหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ โดยโหราจารย์ และ นักบวชบันทึกทางศาสนา เช่น คัมภีร์แห่งความตาย เกี่ยวกับโลกหลังความตาย จะถูกเก็บรักษา ในหลุมฝังศพของชาวอียิปต์
ศิลปะสะท้อนความคิดและความเชื่อของคนในสังคม เช่น การสร้างพีระมิด สฟิงซ์ วิหารเทพเจ้า เสาโอเบลิสก์ คัมภีร์มรณะ (Book of the  Dead)

  
อักษรเฮียโรกลิฟฟิก

2.พีระมิด  
      ชาวอียิปต์โบราณเชื่อเรื่องวิญญาณและเชื่อเรื่องโลกหน้า  จึงทำให้มีการทำมัมมี่ เพื่อรักษาร่างผู้ตายไม่ให้เน่าเปื่อย สร้างพีระมิดไว้เก็บศพฟาโรห์  พีระมิดที่สร้างในสมัยโบราณ เช่น พีระมิดคูฟู นิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า มหาพีระมิดแห่งกีซา เป็น พีระมิดในประเทศอียิปต์ที่มีความใหญ่โตและเก่าแก่ที่สุด ในหมู่พีระมิดทั้งสามแห่งกีซา เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัย ฟาโรห์คูฟู ซึ่งปกครองอียิปต์โบราณ เมื่อ4,600 ปีมาแล้ว เป็นหนึ่งเดียว ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ ที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

  

ภาพการสร้างพิระมิด
 

    
         
    

พีระมิดคูฟู และ พีระมิดแห่งกีซา ในสมัย คริสต์ศตวรรษที่ 19

3.สฟิงซ์อียิปต์
       สฟิงซ์เป็นการผสมกันระหว่างมนุษย์กับสิงโต ส่วนหัวที่เหมือนมนุษย์นั้น มีสัญลักษณ์ของฟาโรห์อียิปต์แสดงไว้คือมีเคราที่คาง ตรงหน้าผากมีงูแผ่แม่เบี้ยและมีเครื่องประดับ รัดเกล้าแบบ กษัตริย์ 

       รูปสลักสฟิงซ์ของอียิปต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ มหาสฟิงซ์ บริเวณใกล้กับพีระมิดคาเฟร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ หมู่พีระมิดแห่งกิซ่า
      หน้าที่ของสฟิงซ์ : สฟิงซ์เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของกษัตริย์ หรือเป็นสัตว์ที่มีชาญฉลาดและมีพลังเพื่อปกป้องพระศพและทรัพย์สมบัติภายในพีรามิด

 

     สฟิงซ์เฝ้าพีระมิด 

เมโสโปเตเมีย

1. ประมวลกฎหมายของพระเจ้าฮัมบูราบี 

        แห่งอาณาจักร บาบิโลเนีย ใช้บทลงโทษที่รุนแรง  " ตาต่อตา ฟันต่อฟัน "  เพื่อสร้างระเบียบและความยุติธรรมให้แก่ดินแดน ถือเป็นกฎหมายฉบับแรกของโลก

 

อักษรที่โบราณบันทึกเป็น

ลงบนแผ่นดินเหนียว 

 2.นับถือเทพเจ้าหลายองค์ วิหารบูชาเทพเจ้า คือ ซิกกูแรท (Ziggura)

        

3.สวนลอยบาบิโลน

       จัดเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกตั้งอยู่บนแม่น้ำยูเฟรติสประเทศอิรักในปัจจุบัน สร้างโดยกษัตริย์เนบูคัสเนสซาร์ที่3 แห่งกรุงบาบิโลเนีย แก่มเหสีของพระองค์เมื่อ 600 ปีก่อนค.ศ. ระเบียงทุกชั้นได้รับการตกแต่งด้วยไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ยืนพุ่มชนิดต่างๆ มีระบบชลประทานชักน้ำจากแม่น้ำไทกิสไปทำเป็นน้ำตกและนำไปเลี้ยงต้นไม้ตลอดปี สวนนี้ได้พังทลายลงจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อหลังศตวรรษที่ 2 ก่อนค.ศ.

  

สวนลอยบาบิโลน

 

    กรีก

1.ตัวอย่างงานเขียนประวัติศาสตร์กรีก
- ประวัติศาสตร์สงครามเพโลพอนนีเชียน ของ ทูซิดีดิส เป็นงานบันทึกประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามระหว่างนครรัฐเอเธนส์ กับ นครรัฐสปาร์ตา ในช่วงระหว่าง 431-404 ปีก่อนคริสต์ศักราช

2. สถาปัตยกรรม

            - เน้นความยิ่งใหญ่  เรียบง่าย  กลมกลืน 

            - เสาแบบ โดริค      

                         

วิหารพาร์เธนอน   
       คือวิหารโบราณในกรุงเอเธนส์ประเทศกรีซ สร้างเพื่อบูชาเทพีเอเธนาหรือเทพีแห่งปัญญา ความรอบรู้ ในศตวรรษที่ 5 ก่อนค.ศ. คำว่า พาร์เธนอน นั้นน่าจะมาจากประติมากรรมที่เคยตั้งอยู่ภายในวิหาร คือ Athena Parthenos ซึ่งมีความหมายว่า เทพีอันบริสุทธิ์

      

                               วิหารพาร์เธนอน                                                Athena Parthenos  

ประติมากรรม

           - เป็นการปั้นที่เป็นสัดส่วนและสรีระที่เป็นมนุษย์จริง การเปลือยกายเป็นการแสดงออกถึงความงามของมนุษย์ตามธรรมชาติเช่น นักขว้างจักร

              
นักขว้างจักร

    

วรรณกรรม

           - มหากาพย์ลีเลียดและโอเดสซีของโฮมเมอร์

           - นิทานอีสปและงานด้านปรัชญาของเพลโต โสเกรตีส อริสโตเติล

โรมัน

1.ตัวอย่างหลักฐานงานเขียนประวัติศาสตร์โรมัน

          - บันทึกสงครามโกล ของจูเลียส ซีซาร์ เป็นบันทึกเรื่องราวการทำสงครามในแคว้นโกล ของซีซ่าในช่วง 50 ปีก่อน คริสต์ศักราช  มีเนื้อหาเชิดชูวีรกรรมของโรมัน เพื่อสร้างชื่อเสียงทางการเมืองของตน

2.สถาปัตยกรรม

           -โรมันฟอรัม  เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่างในสมัยโรมันเรือง

อำนาจ เป็นที่ประกอบศาสนกิจ  ที่ชุมนุมทางการเมืองแต่เมื่อจักรวรรดิโรมันเสื่อมโรมันฟอรัมก็ถูกทิ้งร้าง จนกระทั่งเข้ายุคเรอเนสซองส์ 

โรมันฟอรัมก็ได้กลายเป็นแหล่งค้นคว้าหาความรู้และเป็น แรงบันดาลใจให้กับศิลปินหลายต่อหลายคน   

          -วิหารแพนธีออน   สิ่งก่อสร้างอย่างเดียวที่หลงเหลืออยู่โดยสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดจากอาณาจักรโรมัน สร้างเมื่อ 27 ปีก่อนค.ศ.

        

         -โคลอสเซียม เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรมอัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายสามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบัน