คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่๑::วันอาทิตย์
"ณัฐ! ณัฐ! ตื่นซะทีสิ ณัฐ!" มือเรียวๆยื่นมาเขย่าร่างที่นอนอย่างสบายอยู่บนเตียง หากเจ้าของชื่อยังคงหลับสนิท
"ณัฐ! อีตาบ้า นี่มันจะเที่ยงแล้วนะ ณัฐ! ตื่น" เสียงหวานนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ มือเรียวย้ายตำแหน่งขึ้นไปอยู่บนคอของเพื่อนชายที่ไม่ยอมตื่นแล้วเขย่าอย่างแรง จนคนถูกเขย่าต้องลืมตาตื่นอย่างช่วยไม่ได้
"อื๊ออออออ เม มีอะไร ปลุกทำไมแต่เช้าล่ะเนี่ย" มือใหญ่กว่าผลักมือเพื่อนสาวออกจากคอ ก่อนส่ายศีรษะขับไล่ความง่วง มุดเข้าใต้โปงผ้าห่มสีเข้มเพื่อหลบมือน่ารำคาญที่ยังคงเขย่าไม่หยุดแล้วแต่ว่าจะจับส่วนไหนได้
"เช้าบ้าอะไร สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วนะ ฉันปลุกนายมาเป็นชั่วโมงแล้ว" สาวน้อยตาคมบ่นพลางดึงแขนเพื่อนให้ลุกขึ้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี "ไหนบอกว่าจะพาไปดูหนังเข้าใหม่วันนี้ไงเล่า คนอุตส่าห์มารอตั้งแต่เช้าดันนอนอยู่ได้ เมื่อคืนทำอะไรอยู่นักหนาฮะ"
"แหม เมื่อวานนี้ฉันมีเดทกับน้องแอน พอดีน้องเค้าอยากไปฟังเพลงด้วยก็เลยดึกนิดนึง มันช่วยไม่ได้นี่นา" คนนอนดึกหาวหวอดใหญ่ แล้วบิดตัวอย่างขี้เกียจ ค่อยๆคืบคลานขึ้นมาเอนกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหัวเตียง ทำให้ร่างบางของอีกคนขยับห่างออกไปนั่งคุกเข่าอยู่ใกล้ๆขอบเตียงซึ่งไม่กว้างมากนัก
"น้องแอน? แอนไหนอีกล่ะ แฟนนายชื่อแนนไม่ใช่รึไง" คิ้วเรียวขมวดมุ่น ลืมเรื่องดูหนังไปชั่วขณะ จ้องอีกฝ่ายผู้ยังทำท่าทองไม่รู้ร้อนอยู่อย่างเอาเรื่อง
"โธ่ นั่นมันแฟนเก่า เลิกกันไปตั้งแต่วันศุ.."
"เลิกกันแล้ว!?" เมธาวีตัดบทโดยไม่รอให้เพื่อนพูดจบ ดวงตาคมล้อมกรอบด้วยขนตาสีเข้มขุ่นขึ้นทันที "นายจะบ้ารึไงกัน หา คนนี้เพิ่งคบกันได้แค่สองอาทิตย์ไม่ใช่เรอะ นี่เลิกกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
"วันศุกร์"
"วันศุกร์! แล้ววันเสาร์ก็เดทคนใหม่เนี่ยนะ" ตาคมที่เบิกกว้างเพราะคำสารภาพก่อนหน้านี้ เบิกกว้างขึ้นอีกจนน่ากลัวจะหลุดออกมา
"ณัฐนนท์ คุณานันท์" ชื่อเต็มของคนเพิ่งเปลี่ยนแฟนถูกเอ่ยลอดไรฟันออกมา จะด้วยอุปาทานหรืออะไรเขาก็ไม่ทราบ แต่ผู้ถูกเรียกชื่อทำคอหดเมื่อเกิดความรู้สึกว่ามีเขี้ยวงอกออกมาจากปากอิ่มๆนั้นพร้อมกับชื่อของเขา "แบบเนี้ยเค้าไม่เรียกผู้ชายเจ้าชู้แล้ว แต่ต้องเติมคำว่าโ - ตรเอาไว้ข้างหน้าด้วย อย่างนายนี่ ขุนแผนบวกพระอภัยยังต้องกราบเป็นอาจารย์เลยล่ะมั้ง ระวังเหอะ ซักวันนึงนายจะซวยเพราะไอ้ความหลายใจของนายนี่แหละ" สาวน้อยหายใจหอบเพราะพูดยาวไปหน่อย แล้วถอนใจเฮือกอย่างเหนื่อยใจมากกว่าจะโกรธ ด้วยรู้ว่าทำอย่างไรชายหนุ่มตรงหน้าก็คงไม่รู้สึกว่าเขาได้ทำผิดอะไรลงไป "แถมนายจะไม่มีวันรู้เลยนะณัฐ ว่าใครที่รักนายจริงๆ ไม่ใช่หลงคารมหรือไอ้หน้าตาหล่อๆของนาย"
"คร้าบบบ คุณแม่" ณัฐนนท์ส่งเสียงตอบอย่างล้อเลียน แถมยักไหล่อย่างไม่แคร์ "ก็มันช่วยไม่ได้ สาวๆเค้ามาหลงเสน่ห์ฉันเอง ไม่ได้ไปไล่ตามจีบใครซะหน่อย ถามประโยคเดียวก็ยอมตกลงแล้ว อย่างว่า คนมันหล่อ"
ประโยคยียวนกับน้ำเสียงกวนอารมณ์นั้นเรียกสายตาเขียวๆของเมธาวีให้ตวัดมาสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของณัฐนนท์ เพียงเพื่อจะค้นพบแววทะลึ่งซุกซนและความมั่นใจเต็มเปี่ยมจนล้นของเพื่อนหนุ่ม หญิงสาวทำได้เพียงถอนหายใจอย่างปลงๆ ก่อนหมุนตัวลงจากเตียง เดินออกจากห้อง
"ช่างเถอะ นายจะเปลี่ยนแฟนซักกี่คนฉันก็ห้ามอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่ขอเหอะ ช่วยเก็บกวาดให้เรียบร้อยด้วยนะ ไอ้เศษซากหัวใจของแฟนเก่านายน่ะ ฉันเบื่อที่จะคอยตามล้างตามเช็ดให้นายแล้ว ฉันน่ะเพื่อนนายนะ ไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่นหรือนักเจรจาสันติภาพ จะได้คอยมาช่วยไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทรถไฟขบวนเก่าชนขบวนใหม่ของนายได้ตลอด" ร่างบางหยุดที่ริมประตูแล้วหันมาทำตาดุใส่เพื่อนที่ยังคงอยู่บนเตียง "ให้เวลาครึ่งชั่วโมงนะ ฉันจะรออยู่ข้างล่าง เร็วๆด้วย"
เมธาวีเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ณัฐนนท์อยู่กับประตูที่ว่างเปล่า และกลิ่นหอมอ่อนๆซึ่งล่องลอยอยู่ในบรรยากาศ
"จะบ่นอะไรนักหนา ก็ยกวันอาทิตย์ให้แล้วไงเล่า ยัยบ้าเอ๊ย"
------------------------------------------------------------------------------------------
ณัฐนนท์ดูภาพยนตร์แอ็คชันฮอลลีวูดเรื่องล่าสุดอย่างสนุกสนาน และ 'อิน' ซะจนลืมเมธาวีที่มาด้วยกันซะสนิท จนกระทั่งออกมาถึงหน้าโรงแล้วนั่นแหละ ถึงนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนสาวไม่ได้เดินอยู่ข้างๆเหมือนทุกที
"เม อยู่ไหนเนี่ย" ชายหนุ่มกรอกเสียงลงในโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดทันทีที่เพื่อนรับสาย
"......"
"อะไรนะ เธอพูดว่าอะไร อยู่ไหน เม"
"อยู่ในโรง" เสียงที่ตอบกลับมาฟังดูอ่อนเปลี้ย แต่เขาไม่ได้สังเกต
"แล้วทำไมไม่ออกมาซะที เป็นอะไร ตื่นเต้นจนแข้งขาอ่อนลุกไม่ขึ้นรึไง รึว่าหาทางออกมาไม่ได้"
"......"
"ออกมาเดี๋ยวนี้เลย อย่าให้ต้องเข้าไปตามนะ ทำสำออยไปได้ เธอนี่.."
"ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด............"
"โธ่เว้ย ยัยเมเอ๊ย" ร่างสูงสบถอย่างอารมณ์เสีย เดินกลับเข้าโรงด้วยหน้าตาบูดบึ้ง หงุดหงิดเหลือเกินกับเพื่อนสาวที่พูดจาไม่รู้เรื่อง แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นร่างบอบบางคุดคู้อยู่บนเบาะนั่งตรงที่เดิม มีพนักงานในเครื่องแบบคนหนึ่งคุกเข่าทำหน้ายุ่งอยู่ข้างๆ
"เม เป็นอะไร" เสียงแข็งๆเมื่อครู่อ่อนลงด้วยความเป็นห่วง
"ปวดท้อง" หญิงสาวขมวดคิ้ว ไม่สามารถแม้แต่จะขยับตัวโดยไม่ให้กระทบกระเทือนความเจ็บปวดในช่องท้อง
"ปวดท้อง? ตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย นี่ท่าทางคงไม่ใช่เพิ่งปวดแน่ๆ เธอนะเธอ ไม่สบายทำไม่ไม่บอก ปล่อยฉันนั่งดูหนังสบายใจเฉิบอยู่ได้" ปากว่า แต่มือก็เอื้อมไปประคองคนป่วยขึ้นจากเก้าอี้นั่งโดยไม่สนใจเสียงครางประท้วงจากเพื่อน ผู้ขดตัวจนเกือบจะกลม
"ก็ไม่อยากกวน.."
"พอ ไม่ต้องแก้ตัวเลย กลับบ้านได้แล้ว เดินไหวมั้ยเนี่ย"
"ไม่ไหว" เมธาวียอมรับกับเพื่อนโดยดุษฎี ด้วยไม่อาจสู้กับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น
"นึกอยู่แล้ว" ร่างสูงกล่าวพร้อมถอนหายใจ "เธอนี่นะ จะเก๊กท่านางเอกหน่อยก็ไม่ได้ น่าจะบอก 'ไหวค่ะ ไม่ต้องห่วง' แล้วค่อยล้มใส่อ้อมแขนพระเอกอย่างฉันก็ได้ น่ารักดีออก ถึงฉันจะรู้ทันก็เถอะ" ณัฐนนท์พูดยิ้มๆ อุ้มคนป่วยขึ้นจากเก้าอี้ ขณะที่คนป่วยส่งสายตาค้อน 'พระเอก' เป็นโหลๆ ข้อหาปากมอม แต่สุดที่จะต่อปากต่อคำด้วย เพราะเรี่ยวแรงมันหายไปหมดตั้งแต่ภาพยนตร์เริ่มฉายได้สักพักแล้ว แต่ใครจะยอมปล่อยวันอาทิตย์แรกของเดือนทิ้งไปเฉยๆเพราะปวดประจำเดือนกันล่ะ ในเมื่อมันเป็น 'วันอาทิตย์' ที่ณัฐนนท์ทำสัญญายกให้เธอคนเดียว
เมธาวีจมอยู่กับความคิดของตัวเองขณะที่เพื่อนชายอุ้มเธอไว้ นึกดีใจที่ไม่ได้ใส่กระโปรงออกมาจากบ้าน ไม่อย่างนั้นคงทุลักทุเลน่าดูกว่าเพื่อนคนนี้จะอุ้มเธอได้ หญิงสาวเริ่มคิดเรื่อยเปื่อย ความเจ็บปวดที่ท้องนั้นยังคงอยู่ แต่ความอบอุ่นในใจมันมีมากกว่า อย่างไรเสีย วันอาทิตย์นี้ก็ยังเป็นของเธออยู่ดีแหละน่า
"พี่ณัฐคะ" เสียงใสๆทำลายความสุขทางใจเล็กๆน้อยๆของคนป่วย ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่า อ้อมแขนที่อุ้มเธอไว้นั้นกระชับยิ่งขึ้น เหมือนเกรงว่าเธอจะร่วงลงไป
"แอน"
ความคิดเห็น