ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic douluo dalu]จิ้งจอกแดงของถังซาน[OC]

    ลำดับตอนที่ #8 : เราเรียกที่แห่งนี้ว่าโรงเรียนได้หรือ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 65


    เนื้อหายังไม่ได้แก้คำผิด ถ้าเจอต้องขอโทษด้วยนะคะ

     

     เสี่ยวอู่และถังซานเดินทางกลับมายังห้องพัก แม่กระต่ายน้อยเดินนำเข้ามาในห้องใบหูได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ซ่า นางหูพึ่งทันทีก่อนไปมองถังซานที่หน้าขึ้นสีและเสตาไปทางอื่น

     

    “ผู้มาคือใคร เสี่ยวอู่หรือถังซาน”มู่หลันร้องตะโกนออกมาจากห้องน้ำ

    “ข้าเองๆ หลันเจี่ยท่านต้องการอะไรหรือ”เสี่ยวอู่ร้องตอบ

    “ข้าลืมหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้ามานะสิ ฝากวานเจ้าหยิบให้ที” มู่หลันถอนหายใจ เสี่ยวอู่ร้องอื้อก่อนจะไปหยิบมาให้ ไม่นานมู่หลันก็ออกมาจากน้ำผมของนางบางส่วนยังคงมีหยดน้ำเกาะอยู่

     

    “ไปเดินเที่ยวได้อะไรน่าสนใจมาบ้างล่ะ”มู่หลันเอ่ยปากถาม 

    “ผลึกแร่สำหรับอาวุธลับนะ”ถังซานตอบพร้อมหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมที่เปียกของมู่หลันให้ เขาสัมผัสเส้นผมที่นุ่มราวสายไหมไปมา

    “ที่เจ้าเปรยกับข้านะหรือ รู้สึกจะชื่อหนวดมังกรหรืออะไรสักอย่างใช่ไหม”แม่สาวจิ้งจอกทำหน้าครุ่นคิด นางยกมือขึ้นมาจับที่ปรายคาง

    “เรียกว่าเข็มหนวดมังกร”

    “อ่าๆ นั้นแหละ” 

    “พี่กับหลันเจี่ยคุยอะไรกันนะ อะไรคือหนวดมังกรและผลึกทองนี้”เสี่ยวอู่ชี้ไปที่ก้อนแร่ ก่อนถังซานจะอธิบายมือของคนแซ่ถังรวบผมที่แห้งแล้วมันรวมกันเป็นทรงง่ายๆให้น้องสาว

    ถังซานละออกจากมู่หลันตรงไปยังก้อนแร่นั้นก้อนจะออกแรงยกค้อนตีมันออกมาเป็นก้อนทองคำเล็กๆลอยเต็มห้องพัก

    “เสี่ยวอู่ มู่หลันเจ้าช่วยข้าเก็บเม็ดทองพวกนี้ให้หมดที”สองสตรีวิ่งเก็บเม็ดทองพวกนั้นให้วุ่น ก่อนจะส่งคืนให้ถังซาน

    “เจ้าของสิ่งนี้เนี่ยนะที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล”เสี่ยวอู่หยิบเม็ดทองขึ้นสอง

    “ใช่แล้วล่ะ เจ้าลองดูนี้นะ”ถังซานหยิบเม็ดทองขึ้นมาไว้กลางมือก่อนจะอัดลังวิญญาณใส่มันจนกลายเป็นเข็มสีทองก่อนจะออกแรงปามันไปที่เตียงนอนขนาดใหญ่ พลังทำลายร้างของเข็มทองเผยออกมาด้วยการทำให้ผ้าปูเตียงขาดเป็นวงกว้าง แถมถังซานยังกล่าวอธิบายกับเสี่ยวอู่เสียหน้ากลัวจนแม่กระต่ายน้อยนั้นเลือกที่จะส่งคืนเม็ดทองคำให้กับถังซาน

    พวกนางทั้งหมดพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนจะอำลากันเข้าห้องนอน เสี่ยวอู่และมู่หลันแน่นอนว่านอนเตียงเดียวกัน ส่วนพี่ชายผู้แสนดีนั้นหรือ โซฟาตัวยาวด้านนอกห้องนอนยังไงล่ะ

     

    ทั้งสามเดินทางออกจากตัวเมืองสั่วทั่วมายังเขตชานเมืองที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียนสื่อไหลเค่อ เสี่ยวอู่ในตอนนี้นั้นเหนื่อยจนทนไม่ไหวแล้ว แม่ตัวดีขี่บนหลังถังซานก่อนให้อีกฝ่ายพาตัวเองไปยังโรงเรียนส่วนมู่หลันนั้นถือร่มสีน้ำมันกางบังแดดให้กับน้องสาวและพี่ชาย

    “ใกล้ถึงโรงเรียนแล้ว เสี่ยวอู่เจ้าลงมาเดินเองเถิด”ถังซาว่าพลางย่อตัวให้แม่คนดีลงจากหลัง

    ทั้งสามมองเห็นแถวยาวของผู้คนที่จูงบุตรหลานมาต่อแถวเพื่อสมัครเข้าเรียน มู่หลันเงยหน้ามองป้ายโรงเรียนและสภาพแวดล้อมโดยรอบ ที่นี้ดูแย่กว่านั่วติงอีกนะเนี่ย

    “ที่นี่เรียกว่าโรงเรียนได้หรือ ไม่เอาน่าพี่ อาจารย์ใหญ่คงไม่ได้จำผิดแล้วส่งเรามาผิดที่หรอกนะ”เสี่ยวอู่แสดงสีหน้าออกมาชัดเจนว่านางกำลังงุนงง มู่หลันนั้นส่ายหน้าไปมาอย่างจนใจ

    “ไหนๆก็มาแล้วพวกเราอยู่ค่อยดูกันอีกสักหน่อยเถอะนะ”ถังซานกล่าว เหล่าผู้ปกครองและนักเรียนต่างพูดคุยกันเสียงดังเนื้อหาก็เหมือนกันที่เสี่ยวอู่พูดไม่มีผิด

    เสียงถกเถียงด้านหน้าทำให้มู่หลันละความสนใจจากตราโรงเรียนสีเขียวยอดแย่นั้นหันมามอง ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้สมัครที่มีปัญหากระมั้ง“มู่ไป๋ มีคนอยากได้ค่าเล่าเรียนคืน”เสียงของอาจารย์ผู้เฝ้าซุ้มคัดเลือกดังขึ้น ด้านบนมีชายรูปงามกระโดดลงมาจากต้นไม้ก่อนจะยืนขึ้นเต็มตัว

    “นั้นเขา”มู่หลันร้อง คนผู้นั้นคือคุณชายชุดม่วงที่พึ่งมีเรื่องกันไปเมื่อไม่นานนี้

    ชายที่ชื่อว่ามู่ไป๋เผยวงแหวนวิญญาณของเขา “อยากได้ค่าสมัครเรียนคืนนะได้แต่อยู่ที่ว่าเจ้าจะมีปัญญามาเอาคืนหรือเปล่านะสิ”ไต้มู่ไป๋ยกยิ้มราวกับพระเจ้า

    คนผู้นั้นถอดใจก่อนจะจากไป อาจารย์ผู้คุมด่านจึงลุกขึ้นเผยถึงที่มาของชื่อโรงเรียนและกฎการสมัครเข้าเรียน โดยเฉพาะประโยค รับเพียงสัตว์ประหลาดไม่รับคนธรรมดาดูท่าคงถูกใจเสี่ยวอู่เข้าจังๆ

    “ข้าคงต้องตัดสินโรงเรียนใหม่แล้วล่ะ”มู่หลันร้องกล่าว ไม่นานด้านหน้าก็มีเสียงร้องฮือฮาอีกครั้ง เด็กสาวผู้งดงามดูราวกับผีเสื้อกำลังพูดคุยอยู่กับอาจารย์ผู้นั้น เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนของนางช่างสะกดสายตาของมู่หลัน เด็กสาวผู้นั้นผ่านการทดสอบนำไปก่อนแล้วก่อนจะวนมาถึงพวกนางทั้งสาม 

    ถังซานหย่อนค่าสมัครลงในกล่อง"พวกเราทั้งสามมาสมัครเข้าเรียน" 

    “ยืนมือของพวกเจ้ามา”ทั้งสามยืนมือออกไป อาจารย์ผู้นั้นเริ่มดูจากมือของเสี่ยวอู่ก่อน 

    “เอิ่ม อายุเหมาะสม”เขาละจากมือของเสี่ยวอู่มายังมู่หลัน“หือ พลังวิญญาณในกายของเจ้าไหลเวียนอย่างบ้าคลั่งมีทั้งข้อดีและเสียในการฝึกยุทธ์ราวกับสัตว์ประหลาดจริงๆ” คนสุดท้ายคือถังซาน เพียงแค่อาจารย์สัมผัสมือของเขาก็แสดงสีหน้าราวกับพบพานของล่ำค่า “มือของเจ้านั้นเคยฝึกทักษะบางอย่างมาก่อนสินะ และกล้ามนเนื้อของเจ้ายังยืดหยุ่นและเหมาะสำหรับการฝึกยุทธ์ด้วย” อาจารย์ผู้นั้นตื่นเต้นก่อนจะบอกให้พวกนางเผยวิญญาณยุทธ์

    มู่หลันเรียกจิ้งจอกแดงมาประทับร่าง ใบหูและหางนุ่มฟู่ปรากฎขึ้นพร้อมทั้งวงแหวนสีเหลืองสองวง 

    “คนหนึ่งเป็นกระต่าย อีกคนเป็นจิ้งจอกชั้นสูง ส่วนเจ้าเป็นหญ้าเงินครามหรือนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าสมกับเป็นสัตว์ประหลาดที่จะเข้าเรียนที่โรงเรียนเราจริงๆ เข้าไปเถิดพวกเจ้าผ่านการทดสอบครั้งนี้แล้วมู่ไป๋จะค่อยดูแลพวกเจ้าถึงด่านต่อไปเอง”

    “ตามมาเถิดข้าจะพาพวกเจ้าไปเอง”ไต้มู่ไป๋เผยมือเชื้อเชิญ ทั้งหมดเดินตรงเข้าไปในโรงเรียน

    ดูเหมือนว่าในโรงเรียนจะดูดีกว่าข้างนอกเยอะเลยสินะ มู่หลันครุ่นคิดเด็กสาวทั้งสองเดินตรงเข้าไปต่อแถวเพื่อไปยังด่านต่อไป

    “หลันเจี่ย ข้าหิวแล้ว”แม่กระต่ายน้อยร้องออกมาก่อนยกมือขึ้นลูบท้องของนางไปมา 

    “เช่นนั้นรอก่อน ข้าจำได้ว่าถังซานเก็บขนมปังมื้อเช้าไว้ในกระเป๋าของเขา”มู่หลันละออกจาแถวเพื่อตรงไปหาถังซานก่อนจะเห็นว่าตรงนั้นมีคนยืนอยู่สี่คนกำลังพูดคุยกันอยู่ มู่หลันตาดีพอจะเห็นไส้กรอกในมือของถังซาน

    “ถังซานไส้กรอกในมือเจ้ากินได้ไหมแม่ทูนหัวของเราบ่นว่าหิวแล้ว”มู่หลันเดินเข้ามาในวงล้อมก่อนจะชี้ไปที่ไส้กรอกสองไม้ในมือของถังซาน คนผมน้ำเงินรีบซ่อนไส้กรอกไว้ด้านหลังทันที

    “เฮอะ ไม่ให้ก็ไม่เป็นไรแต่แม่ทูนหัวเจ้ากำลังหิวอยู่นะ”มู่หลันว่าอีกครั้งก่อนเดินกอดอกแล้วจากไป

    ถังซานยืนมองมู่หลันจากไปอย่างคอตกเล็กน้อย ไต้มู่ไป๋เดินมากอดคอเพื่อนร่วมโรงเรียนในอนาคตทันที “เจ้าดูมีปัญหาเรื่องดวงดอกท้อนะถังซาน”

    “เห้ออ”ถังซานส่ายหัว 

    มู่ไป๋เดินไปหาสาวน้อยทั้งสองก่อนจะบอกว่าให้พวกนางผ่านด่านต่อไปร่วมกับถังซานได้เลย

    “เช่นนั้นจะไม่เป็นการโกงหรือ”เสี่ยวอู่ร้องถาม

    “มันเป็นสิ่งที่พวกเจ้าต้องได้รับอยู่แล้ว”ไต้มู่ไป๋ตอบ 

    นั้นดูเหมือนจะไม่เป็นที่พอใจกับเด็กที่ต่อแถวอยู่ซะเท่าไหร่ งั้นพวกเขาคงไม่ร้องตะโกนว่าไม่ยุติธรรมหรอก

    “เช่นนั้นก็ผ่านไปได้ ถ้าพวกเจ้ามีระดับพลังวิญญาณเกินยี่สิบห้าเหมือนกับพวกเขา”ไต้มู่ไป๋พูดพร้อมกับเรียงของหาของพวกที่ต่่อแถวอยู่ คุณชายไต้โยนลูกแก้ววัดพลังมาทางพวกนาง มู่หลันนั้นเป็นฝ่ายเริ่มก่อนนางย้ายพลังวิญญาณไปไว้ที่ลูกแก้วก่อนลูกแก้วจะเรืองแสงสว่างแสดงถึงพลังระดับยี่สิบเก้า ตามมาด้วยถังซานและเสี่ยวอู่ทั้งสองสร้างเสียงร้องแปลกใจได้ไม่ต่างจากมู่หลัน

    “ถ้าเกิดว่าเกินระดับยี่สิบห้าแล้วผ่านเข้ารอบได้เลย เช่นนั้นข้าก็คิดว่าตัวเองสามารถไปได้เช่นกัน”แม่นางน้อยผมสีน้ำตาลอ่อนขอลูกแก้ววัดพลังมาจากเสี่ยวอู่ ลูกแก้วเรืองแสงแสดงพลังอยู่ลำดับขั้นที่ยี่สิบหก ไม่ทันได้ส่งเสียงร้องอื้ออ้าสาวงามที่เดินตามมาทีหลังก็ฉกฉวยลูกแก้วไปจากมือของแม่นางน้อยเสียแล้ว มู่หลันคิดว่าสตรีชุดคำนั้นคงเป็นสายโจมตีว่องไวเช่นนาง

    “สามคนแรกเป็นถึงระดับยี่สิบเก้าอีกสองคน คนหนึ่งระดับยี่สิบเจ็ด อีกคนยี่สิบหก ดูท่าแล้วสื่อไหล่เค่อเราคงได้โชคหล่นทับจากฝากฟ้าแน่เลย ฮ่าๆๆ”เสียงของไต้มู่ไป๋บอกได้ว่าเขามีความสุขจริงๆ

    “ตามข้ามาที่ด่านต่อไปกันเถิด”เสือขาวตัวนั้นเอ่ยเชื้อเชิญ

    ทั้งหมดพยักหน้ารับก่อนออกเดินต่อ มู่หลันหันขวับไปที่หลังคาทางด้านหลังทันทีพร้อมขมวดคิ้วจนถังซานที่จับจ้องอยู่สะกิดถาม

    “เสี่ยวหลันเป็นอะไร”ถังซานร้องถาม

    แม่สาวจิ้งจอกสายหน้า"ข้างแค่รู้สึกว่ากำลังมีคนจ้องมองดูอยู่ แต่ว่าข้างคงแค่คิดไปเอง"

    ถังซานหลังฟังจบก็นิ่งเงียบก่อนจะหันไปค่อยสอดส่องด้านหลังของมู่หลันตลอดจนคนเป็นน้องสาวบอกให้หยุด


     

    โฮร้ ้ ้ ้ ้ ้ ไม่เจอกันนานนะคะทุกคน เรากลับมาแล้วววววว อยากที่บอกว่าฟิคนี้เกิดจากความอยากอ่านแน่นอนว่ามันมีช่วงที่ไฟหมดภาระส่วนตัวเกี่ยวกับการเรียนโถมใส่ ไหนจะโน็ตบุ๊คเราที่พังอีกอันนี้ร้ายแรงสุดเลยค่ะ ตอนนี้คือกู้ชีพตัวเองกลับมาเขียนได้ตอนต่อไปน่าจะนานอีกแล้วเพราะเป็นฉากบู๊ ส่วนตัวจะพยายามไม่ให้นานเท่าตอนนี้ค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×