คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ประลองยุทธ์กับคุณชายไต้
ทั้งสามยืนคุมเชิงกันเทพธิดาหอสองแห่งนั่วติงออกไปยืนด้านหน้าของคุณชายผู้นั้น “โปรดชี้แนะด้วย”เสียงของมู่หลันดังขึ้น
ถังซานตัดสินใจจะไม่ตามลงไปถึงแม้ในใจเขาจะอยากสู้แทนมู่หลันมากแค่ไหนก็ตามก็เพราะเขาเป็นห่วงน้องสาวคนสำคัญนะสิแต่อีกใจก็ยังอยากเห็นทักษะการใช้เรียวขาอันเลื่องชื่อของนางและถังซานยังรู้อีกว่ามู่หลันไม่ชื่นการถูกเขาปกป้องไปซะทุกเรื่อง
มู่หลันเป็นฝ่ายเปิดก่อนนางยกท่อนขาเรียวสวยขึ้นฟาดฟันกับอีกฝ่าย ผู้โดนการโจมตีจากนางนั้นสามารถรับท่วงท่าของนางทั้งหมดได้ด้วยหมัดของเขา ทั้งคู่อัดพลังลงในกระบวนท่าและด้วยมู่หลันนั้นเป็นวิญญาจารย์สายโจมตีว่องไวการเคลื่อนไหวของนางจึงรวดเร็วประดุจภูติพราย
หากโจมตีด้วยลูกเตะทื่อๆนางคงไม่ชนะแน่เพราะด้วยกำลังของสตรีและบุรุษที่ไม่เท่ากัน มู่หลันครุ่นคิดไวเท่าความคิดนางลอบไปโจมตีด้านหลังของเขาเปลื่ยนการโจมตีจากลูกเตะไปเป็นการร่ายมือดูคล้ายร่ายรำที่อัดแน่นไปด้วยสิ่งที่เรียกว่าลมปราณตามที่ถังซานเคยพูดเอาไว้แทน ‘นกกระสาฉกมังกร’ นี้คือการวิธีโจมตีที่ถังซานเคยสอนให้นางดูเมื่อนานมาแล้ว
ราวกับมีลมปริศนาที่รุนแรงดูดร่างของไต้มู่ไป๋เข้ามาหามู่หลัน
นางลอยตัวขึ้นตวัดขาเข้าโจมตีไปที่ช่วงท้องของไต้มู่ไป๋อีกฝ่ายใช้พลังวิญญาณออกมารับการโจมตีจนร่างอีกฝ่ายถูกทำให้กระเดนไป
ในเมื่อเขาใช้พลังวิญญาณนางก็ไม่น้อยหน้ามู่หลันเคลื่อนตัวไปด้านหลังของไต้มู่ไป๋นางรวบรวมพลังวิญญาณอัดไว้ในการโจมตีครั้งต่อไป อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวถูกมู่หลันทำให้ลอยไปทางประตู
ผู้คนในโรงแรกแถวล๊อบบี้หลีกหนีไปแล้วหลายคน ส่วนถังซานนั้นกำลังยืนยิ้มกริ่มราวกับคนบ้าที่คนเป็นน้องสาวใช้ท่วงท่าสำนักถังที่เขาเคยแสดงให้ดูและสอนนางไปแต่นั้นก็ไม่คิดว่ามู่หลันจะจำได้ และเขายังไม่คาดคิดว่ามู่หลันจะเข้าใจเรื่องใจในเรื่องของลมปราณที่อยู่ในท่วงท่า‘นกกระสาฉกมังกร’ที่เคยเพียงแต่แสดงให้นางดูและไม่เคยสอน
นับว่ามู่หลันคืออัจฉริยะในด้านการฝึกยุทธ์จริงๆ
เสี่ยวอู่นะหรือไปรู้ว่าเอาแรงเชียร์มาจากไหนถึงได้ตะโกนร้องเชียร์มู่หลันจนสุดเสียง “หลันเจี่ย ข้าเชื่อว่าท่านจะอัดเจ้าหมอนั้นเหมือนหมูได้แน่ๆ!!”
ดูเสียสิไม่คิดห้ามการวิวาทและยังคล้อยตามอีก
“ยังอยากจะสู้ต่อหรือไม่ล่ะ”มู่หลันยิ้มเย้ยและด้วยท่าทางของนางทำเอาคนโมโหไม่ต่างจากไต้มู่ไป๋ตอนเข้าโรงแรมมาเลย
ไต้มู่ไป๋เผยรอยยิ้มสนุก “ต่อสิ เจ้าบีบให้ข้าใช้พลังวิญญาณได้ในการประลองข้าแพ้แล้วแต่ว่าหากต้องจบไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ลองวัดพลังจริงๆของหญิงงามอย่างเจ้าคงทำให้ข้าอยู่ไม่เป็นสุขแน่”
“ขอบคุณสำหรับคำชมแต่ข้าไม่คล้อยตามหรอกนะ”มู่หลันพูดอย่างนั้นทั้งๆที่ใบหน้าของนางเปลื่ยนจากยิ้มเย้ยกลายเป็นยิ้มอย่างพึงพอใจ
“พยักฆ์ขาวสถิตร่าง ไต้มู่ไป๋ระดับสามสิบเจ็ดโปรดชี้แนะด้วย”ไต้มู่ไป๋ปลดวงแหวนวิญญาณทั้งสามวงออกมา จากใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มของถังซานและเสี่ยวอู่จึงต้องกระตุก วงแหวนพันปี คนเป็นพี่ชายเริ่มที่จะกังวลกับการประลองนี้แต่มู่หลันกลับหันมายกยิ้มให้ทั้งสองว่าให้วางใจ
“จิ้งจอกเก้าหางสถิตร่าง ข้ามู่หลันระดับยี่สิบเก้าโปรดชี้แนะด้วยเช่นกัน”มู่หลันปลดปล่อยวงแหวนวิญญาณทั้งสองวงของนางออกมาตามด้วยจิ้งจอกตัวใหญ่เก้าหางที่อยู่ด้านหลังหูและพวงหางอ่อนนุ่มทั้งเก้าปรากฏขึ้นด้านหลัง
“เจ้าคงเป็นสายโจมตีว่องไวสินะ”
“เดาถูกเพงเลยคุณชาย”
มู่หลันใช้ทักษะวิญญาณที่หนึ่งเข้าโจมตีคุณชายคนนั้นทันที
“ทักษะวิญญาณที่หนึ่ง คมเขี้ยวจิ้งจอก”ร่างระหงของมู่หลันพริ้วไหวแปลเปลี่ยนเป็นเส้นแสงนางลอบไปที่ด้านหลังของไต้มู่ไป๋ก่อนจะสร้างคมมีดไว้ขาเรียวข้างขวาและยกโจมตีอย่างต่อเนื่องแต่อีกฝ่ายหลบได้ทัน
ไต้มู่ไป๋นั้นลุกไล่กลับด้วยการพุ่งเข้ามาพาดฟันกรงเล็บใส่ตัวนางแต่จิ้งจอกเก้าหางสาวนั้นหลบทันอย่างฉิวเฉียด
“ทักษะวิญญาณที่สองอาคมยั่วยวน”มู่หลันนั้นเข้าไปใกล้กับร่างของไต้มู่ไป๋นางวนเวียนราวกับนางปีศาจสาวมืองามเชยคางของอีกฝ่ายขึ้น ทักษะวิญญาณที่สองของมู่หลันนั้นดูคล้ายสายควบคุมนางมักใช้ในการโจมตีหมู่ มันมีฤทธิ์ทำให้ผู้ที่ถูกโดนตกอยู่ในภวังค์จนนิ่งค้างร่างหลุดจากการป้องกัน ยังไม่ทันที่นางจะอัดพลังวิญญาณลงไปในหมัดเพื่อหวังต่อยเข้าไปกลางท้องของเขาก็โดนไต้มู่ไป๋ที่หลุดจากอาคมโจมตีกลับด้วยทักษะของเขา
“คลื่นแสงพยักฆ์ขาว”
ร่างของมู่หลันลอยละลิ่วจนระแทกกับเสาด้านหลัง “ไม่ถนอมสตรีเอาซะเลยนะ” นางลุกขึ้นยืนถังซานและเสี่ยวอู่เข้ามาประคองทันที
ไต้มู่ไป๋ยิ้มอย่างไม่ยี่หระ เขามองทั้งสาม“หากพวกเจ้าไปถึงยังสื่อไหล่เค่อแล้วมีคนมารังแกก็ให้บอกชื่อข้าไปซะ อ่อห้องพักนั้นพวกเจ้าก็เอาไปเถอะ”คุณชายไต้ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนหันหลังกลับไปควงสาวงามก่อนจากไปในทันที
“คนๆนั้นรู้ได้ยังไงว่าเราจะไปที่สื่อไหล่เค่อนะ ประหลาดคนชะมัด”เสี่ยวอู่กอดอกก่ินหันมาถาม
“คนเมื่อครู่ ถึงจะดูเสเพลและประหลาดแต่ก็มีฝีมือการสู้ของเขานั้นทุกๆด้านล้วนมีพื้นฐานที่ดีมาก”มู่หลันว่า นางมองสบกับสายตาของถังซาน
“ถังซานเจ้าคิดว่ายังไง”เสี่ยวอู่ที่ได้ยินคำถามเช่นนั้นของมู่หลันก็ขนลุกซู่ นางรีบหยิบเอากุญแจห้องจากพนักงานหน้าเคาท์เตอร์มาทันทีแล้วชักชวนสองหัวกะทิด้านหลังให้รีบไปห้องพักทันที มู่หลันนะเวลาสนใจอะไรมากๆจะหันไปพูดคุยกับถังซานสองคนนี้ถ้าให้ได้พูดคุยกันเรื่องวิญญาจารย์ละก็ต้องยาวเหยียดแน่ๆ
พวกเขาทั้งสามนั้นอยู่ระหว่างทางเดินมู่หลันนั้นมีถังซานค่อยประคองอยู่ถึงวิญญาจารย์จะบาดเจ็บแล้วหายรวดเร็วแต่เมื่อร่างของมู่หลันกระแทกกับเสาหินเต็มๆจะให้นางกลับมามีร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังอย่างเมื่อก่อนเข้าโรงแรมเลยทันทีก็คงไม่ได้
เสี่ยวอู่เดินนำมาจนถึงห้องพักนางไขประตูก่อนเดินนำเข้าไป กลิ่นดอกกุหลาบประทะเข้ากับโสนประสาทของมู่หลัน นางมองสำรวจทั่วทั้งห้อง ไม่นานนางก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากเสี่ยวอู่ยังไม่ทันได้ถามแม่ตัวดีก็พริ้วตัวเดินออกจากห้องไปแล้ว “เมื่อครู่ข้าสังเกตเห็นใบรายการอาหารของโรงแรมนี้เดี๋ยวข้าไปสั่งของว่างมาสักหน่อยนะ พี่กับหลันเจี่ยก็สำรวจห้องรอข้าไปก่อนล่ะกัน”แม่ตัวดีทิ้งท้ายก่อนปิดประตูและจากไป
ด้วยความอยากรู้ของมู่หลันทำให้นางรีบโคจรพลังวิญญาณรอบตัวแล้วละออกจากอ้อมแขนของถังซานออกไปสำรวจห้องทันที ดวงเนตรดอกท้อหยุดลงที่กุหลาบที่ถูกจัดให้เป็นหัวใจขนาดใหญ่นางก้มลงไปสูดดมกลิ่นถังซานยืนมองแม่ทูลหัวดมกลิ่นดอกไม้อยู่นิ่งๆ
มู่หลันละจากดอกกุหลาบเดินไปทางเตียงขนาดใหญ่ นางทิ้งตัวลงบนเตียงหนานุ่มทันทีพลิกไปมาจนพอใจแล้วจึงลุกขึ้นมามองพี่ชาย
“ถังซาน ถังซาน”เสียงเรียกของมู่หลันยังไม่ทำให้ถังซานตื่นจากภวังค์ นางดีดนิ้วเล็กน้อย
“ถังซานเจ้าเหม่ออะไร”
“ไม่มีนิ”
“น่าสงสัย อ่อ ห้องนี้คงมีเตียงเดียวกระมั้งข้าจะนอนกับเสี่ยวอู่ส่วนเจ้าไปนอนที่นั้นไป”มู่หลันพูดพร้อมชี้ไปที่โซฟาขนาดใหญ่ ถังซานพยักหน้ารับคำของแม่ทูลหัว
ไม่นานเสี่ยวอู่ก็กลับมาพร้อมน้ำปั่นในมือ ถังซานเชิญชวนนางและเสี่ยวอู่ออกไปเดินดูข้าวของในเมืองมู่หลันปฏิเสธไป นางอยากนอนพักผ่อนเต็มทีแล้ว
“เช่นนั้นอย่าลืมอาบน้ำก่อนนอนด้วยนะ”ถังซานพูด
“เจ้าเห็นข้าเป็นเด็กสามขวบรึไงพี่ชาย”มู่หลันเชิดหน้าตอบก่อนถังซานและเสี่ยวอู่จะเดินจากไป
จบตอนแล้วค่ะ ตอนนี้สั้นเพราะมีบทสู้แล้วก็ไรท์จะอธิบายเกร็ดเล็กๆน้อยๆค่ะ
จากตอนแรกเลยมีประโยคหนึ่งที่เกิดการแก้ไขค่ะ ตรงประโยค"มู่หลัน ที่แปลว่าดอกกล้วยไม้" ที่มู่หลันพูดนั้นเกิดจากความผิดพลาดของไรท์ที่คิดว่าแมกโนเลียอยู่ในสกุลเดียวกับกลัวยไม้หรือหลันฮวาค่ะ
จึงขอแก้ไขเป็น “มู่หลัน ตัวเดียวกับมู่หลันฮวา*”แทนค่ะ อันนี้แก้เมื่อวานค่ะเนื้อหาอยู่ในตอนที่หนึ่งค่ะ
ต่อกันด้วยชื่อของมู่หลัน 木兰
ชื่อของน้องเรามีที่มาจากดอกแมกโนเลียและวีรสตรีจีนที่มีชื่อว่ามู่หลานค่ะ
ดอกแมกโนเลีย(Magnolia) เป็นสกุลไม้โบราณที่มีวิวัฒนาการมาช้านาน เกิดก่อนที่จะมีผึ้ง มีหลากหลายสายพันธ์ุลักษณะของแต่ละพันธุ์จะต่างกันไป รูปทรงของดอกมีความสวยงามเพื่อล่อให้ด้วงมาช่วยผสมพันธุ์เกสรตัวเมียของแมกโนเลียจึงมีความแข็งแรงเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับความเสียหายจากด้วง ในภาษาจีนนั้นสามารถเรียกได้หลายชื่อ อวี้หลัน อวี้หลาน มู่หลัน มู่หลาน แมกโนเลียนั้นมีความหมายสื่อถึงหลายอย่างเช่น ความอ่อนหวาน(ที่มู่หลันไม่น่าจะมี) ความมีคุณธรรม ความพยายามอย่างไม่ลดละและความภาคภูมิใจ
((ตอนแรกที่เราเขียนนั้นวางคาร์ของมู่หลันให้เป็นสาวเย็นชาค่ะแต่คิดว่าเขียนไม่ได้เลยเปลื่ยนดีกว่า))
ต่อมาคือชื่อของแม่มู่่หลันค่ะมาจากประโยค “ตามที่เจ้าอาจจะคิดไว้ เด็กคนนั้นหน้าเหมือนมารดาของนางมาก มู่หลันแซ่หลี่และนางเป็นลูกของตู้เจวียนกับชินอ๋องแห่งเทียนซ่าง”เมื่อจบประโยคถังเฮ๋าก็โยนตราของสำนักวิญญาณยุทธ์ให้อีกฝ่ายก่อนจากไป ในตอนที่แล้วค่ะ
ตู้เจวียน 杜鹃 ดอกอซาเลียหรือกุหลาบพันปี
ดอกอซาเลียนั้นเป็นดอกไม้ที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมมากและยังมีตำนานของจีนที่เล่าว่ามีจักรพรรดิองค์หนึ่งในราชวงศ์หมิง ถูกลอบสังหารอย่างทารุณ จนกลับชาติมาเกิดเป็นนกกาเหว่า นกตัวนั้นได้ร้องคร่ำครวญจนเลือดไหลออกจากปาก ย้อมดอกไม้ที่อยู่รอบปราสาทจนกลายเป็นสีแดง
ความหมายของอซาเลียนั้นคือความรู้สึกของมนุษย์ ความโรแมนติก
ผิดพลาดตรงไหนต้องอภัยไว้ลวงหน้าค่ะ
อ่อ ถ้าอยากดูฉากบู๊ของตอนนี้ในอนิเมะมีฉายในตอนที่11ค่ะ เป็นบทของถังซานที่สู้กับมู่ไป๋เพรียวๆเลย
ต่อจากนี้อาจจะไม่ได้อับ่อยๆนะคะน่าจะมาเฉพาะช่วงวันหยุดกับช่วงวันธรรมดาเย็นๆเลยค่ะ
ด้วยรักจากไรท์เตอร์
เจอคำผิดเดี๋ยวกลับมาแก้ค่ะ
ความคิดเห็น