คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : พี่น้องร่วมสาบาน
ยามรุ่งอรุณมาเยือนมู่หลันอยู่ในชุดนักเรียนสีฟ้าของโรงเรียนนั่วติง เด็กหญิงมัดผมหางฟ้าสูงพร้อมด้วยเปียน้อยๆที่ปล่อยลู่ตามใบหน้า ในมือถือขนมปังและไม้พายทาแยม
“หลันเจี่ย ข้ามาแล้ว”เสียงเรียกของดรุณีน้อยด้านหลังดังขึ้นมู่หลันไม่ได้หันไปมองเพราะรู้ว่าคนๆนั้นคือใคร
“อรุณสวัสดิ์เสี่ยวอู่”มู่หลันกล่าวกับเสี่ยวอู่ที่เดินไปหยิบแอปเปิ้ลน้อยๆมากัดก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเกาอี้ข้างๆนาง
เสี่ยวอู่สังเกตุมองมู่หลัน เด็กสาวที่ดูจะอายุมากกว่านางที่เมื่อวานยังมีเรี่ยวแรงและความกระตือรือร้นเต็มเปี่ยมอย่างงุนงง“หลันเจี่ยทำไมท่านถึงดูไม่ร่าเริงเลยล่ะ”
“เมื่อคืนหน้าหอหนึ่งและสองมีคนมาตีกันนะสิ เสียงดังวุ่นวายเสียงจนหอแทบแตก ข้าเลยแทบไม่ได้นอนทั้งคืน”มู่หลันว่าพลางยกนมอุ่นขึ้นจิบ
“ยะ..อย่างนั้นเองหรอกหรอ แฮะๆ”เสี่ยวอู่หลุบตาต่ำ นางยกมือขึ้นเกาท้ายทอยเล็กน้อย
สำหรับคนที่ไม่รู้ ในอนิเมะจะมีฉากที่ถังซานและเสี่ยวอู่ท้าประลองกันในช่วงเวลาค่ำคืนเสียงดังมากๆ
“ช่างมันเถอะ รีบไปยังห้องเรียนดีกว่า”มู่หลันกล่าวพร้อมเดินเอาจากใส่ขนมปังและถ้วยนมไปเก็บ จากนั้นทั้งสองนางก็เดินทางตรงไปยังห้องเรียน
เวลาพักมาถึงมู่หลันหมกตัวอยู่ในห้องสมุดถึงแม้มันจะน่าเบื่อไปบ้างแต่ที่นี่อากาศเย็นสบายเหมาะกับการแอบงีบนี่นา เด็กสาวผมหางม้ารีบมองหามุมที่คิดว่าบรรณารักษ์จะมองไม่เห็นตัวนาง เมื่อหาได้แล้วนางเตรียมจะล้มตัวนอนทันที หากแต่ใบหูได้ยินเสียงคุยกันของเด็กนักเรียนในห้องสมุด
“ข้าได้ยินว่าจะมีเหตุวิวาทระหว่างนักเรียนทุนหอเจ็ดกับพวกหอหนึ่งละนะะ”
“หา เด้กนักเรียนเนี่ยนะวิวาทกับเด็กปีหก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกหอหนึ่งชนะแน่ๆ”
น่ารำคาญชะมัด มู่หลันขมวดคิ้ว เอ๊ะ แต่เดี๋ยวสิ พวกนั้นพูดว่าหอเจ็ดไม่ใช่รึไงเช่นนั้นเสี่ยวอู่ก็อยู่ด้วยสิ
มู่หลันกังวลเล็กน้อยเมื่อช่วงเช้านางสวนกับถังซานเห็นว่าเขาจะออกไปล่าวงแหวนวิญญาณกับอาจารย์นี่เวลานี่คงยังไม่กลับมา ดังนั้นหอเจ้ดตอนนี้ก็เหลือเพียงเสี่ยวอู่กระต่ายน้อยกับหวังเซิ่งนะสิ มู่หลันไม่เคยเห็นทักษะต่อสู้ของเสี่ยวอู่และนางก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกหแหนึ่งนั้นจะทำอะไรคนน่ารักแบบนั้นรึเปล่า
ไวเท่าความคิกนางพุ่งทะยานออกจากห้องสมุดไปยังลานกว้างที่ได้ยินแว่วๆมาจากคนในห้องสมุดทันที นับว่านางยังมาทันที่พวกเขากำลังประลองฝีปากกันอยู่
“เสี่ยวอู่ เกิดอะไรขึ้น”มู่หลันเดินตรงเข้าไปหา
“หลันเจี่ย ท่านไปแอบงีบที่ห้องสมุดไม่ใช่หรือทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ”เสี่ยวอู่หันหลังมาตามเสียงเรียก “พวกนั้นมาว่าพวกเราหอเจ็ดว่าเป็นแค่ขอทานยาจกนะ ข้าในลูกพี่หอเจ็ดก็ต้องออกตัวปกป้องอยู่แล้ว”
“หาา พวกเจ้ากลัวสู้ข้าไม่ได้จนไปเรียนเทพธิดาหอสองมาช่วยเลยหรอ”คนที่ดูจะเป็นหัวหอกของกลุ่มชี้มาที่มู่หลันก่อนจะกลั้วหัวเราะใส่พวกหอเจ็ด
มู่หลันขยับข้อมือไปมา “เจ้าอยากให้ข้าช่วยหรือไม่ เสี่ยวอู่”
“ไม่เป็นไรล่ะ หลันเจี่ยท่านไม่ได้อยู่หอเจ็ดแค่ช่วยยืนมองว่าพวกข้าเอาชนะพวกปากดีนั้นได้ก็พอแล้ว”
“เช่นนั้นก็ได้”
เป็นหวังเซิ่งที่อาสาอออกไปสู้กับฝ่ายตรงข้ามก่อนดูคล้ายจะพ่ายแพ้กลับมาแต่ก็ต้องขอบคุณความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆของมู่หลันอย่างการแอบดีดกินไปขัดขาฝ่านตรงข้ามล่ะนะ “หวังเซิ่งวู่วามเกินไป” มู่หลันกล่าว คนอื่นๆเริ่มออกไปสู้บ้างมีแพ้และชนะ(เพราะความช่วยเหลือจากจิ้งจอกแถวนี้) สุดท้ายก็มาถึงคราของเสี่ยวอู่และหัวโจกฝ่ายตรงข้ามแต่ก็ถูกหยุดไว้ด้วยเสียงเรียกของใครบางคน
“ให้ข้าออกโรงแทนเถอะ”มู่หลันและชาวคณะหอเจ็ดหันไปมองถังซานกันเป็นตาเดียว อีกฝ่ายกลับมาแปลว่าย่อมได้วงแหวนแล้ว
“โย้ เสี่ยวซานเจ้ากลับมาแล้ว จัดการพวกมันเลย”เสี่ยวอู่ร้องทัก
สิ้นเสียงเสี่ยวอู่ ถังซานเดินออกไปยืนอยู่ด้านหน้าชาวคณะหอเจ็ดและมู่หลัน เขาปลดวิญญาณยุทธ์และวงแหวนวิญญาณร้อยปีสีเหลืองสดออกมาทำเอาพวกฝ่ายตรงข้ามได้แต่นิ่งอึ้ง
การต่อสู้เด็กเล่นของถังซานและหัวโจกฝั่งตรงข้ามจบลงอย่างง่ายดายราวปอกกล้วย เสี่ยวอู่และชาวคณะร้องเฮกระต่ายน้อยวิ่งเข้าไปตบไหล่ถังซานพลางกล่าวลำบากเจ้าแล้ว
“พวกเจ้าแพ้ถังซานแล้วก็ควรจะทำตามที่ให้สัญญากับเสี่ยวอู่นะ”มู่หลันว่า นางมองเสี่ยวอู่ที่ยกมือเท้าเอวและเชิดใบหน้าน่ารักขึ้น ฝ่ายตรงข้ามอึกอักเล็กน้อยเขาหันไปถามถังซานว่าควรจะเรียนใครว่าลูกพี่เพราะเขาโดนถังซานเอาชนะ ถังซายเอ่ยแถลงย่อมต้องเคารพสี่ยวอู่เป็นลุกพี่เพราะเขาก็ประลองแพ้นาง พวกนั้นร้องหากันยาว
“คงต้องแนะนำตัวก่อนสินะ ข้าเสี่ยวอู่อายุหกขวบปี วิญญาณยุทธ์กระต่ายอรชร ระดับสิบสอง”เสี่ยวอู่ว่าพร้อมยกยิ้มเหี้ยมในสายตาของฝ่ายตรงข้าม“คิดว่าเจ้ามีพลังวิญญาณสมบูรณ์แต่กำเนิดคนเดียวหรือไง”นางหันมาพูดกับถังซาน
“ไม่ใช่แค่ข้าที่มีพลังวิญญาณสมบูรณ์แต่กำเนิด มู่หลันก็ด้วย อีกทั้งตอนนี้นางอยู่ระดับที่สิบสามแล้ว”ถังซานว่า พวกของหัวโจกเมื่อครู่กรีดร้องพวกเขาคิดผิดจริงๆที่มาหาเรื่องหอเจ้ดเช่นนี้
จบการศึกษาในชั้นปีที่หนึ่งบัดนี้มู่หลัน ถังซานและเสี่ยวอู่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่นำพาไปยังหมู่บ้านเซิ่งหุ่น ในหนึ่งปีระดับของมู่หลันขึ้นไปอยู่ที่สิบแปด ถังซานสิบแปด และเสี่ยวอู่สิบเจ็ด ในหนึ่งปีที่ผ่านมามู่หลันนั้นสนิทสนมกับเสี่ยวอู่มากขึ้นจนนับถือกันเป็นพี่น้องแล้ว ส่วนถังซานหมอนั้นก็ปล่อยไปเถอะ มู่หลันและถังซานกลายเป็นลูกรักของอาจารย์ด้วยความฉลาดในการเรียนรู้ การสอบหลายๆอย่างในโรงเรียนนางและถังซานล้วนแข่งขันกันมาตลอดไม่มู่หลันเป็นที่หนึ่งการสอบต่อมาถังซานก็ขึ้นมาแซงนาง
“เสี่ยวอู่ต้องขายหน้าเจ้าแล้ว เพราะที่บ้านของข้าอาจจะไม่มีอะไรรับรองเจ้าได้มาก”ถังซานเริ่มพูด กระต่ายน้อยส่ายหน้าคล้ายไม่เป็นไร
เด็กหญิงใบหูกระต่ายส่ายหน้าคล้ายบอกว่าไม่เป็นไร
"ว่าไปข้าคิดถึงทะเลดอกไม้ตรงบ้านถังซานจัง"มู่หลันว่าพลางยกมือทั้งข้างขึ้นมาคาดศรีษะ ครั้งหนึ่งในตอนที่อยู่อาศัยกับครอบครัวแซ่ถังถังซานเคยพานางไปชมทะเลดอกไม้นั้นอยู่
"หว่า ที่นี่มีทะเลดอกไม้ด้วยงั้นหรอ เสี่ยวซาน หลันเจี่ยพวกเรารีบไปกันเถอะ"เสี่ยวอู่ได้ยินก็หน้าตั้ง รีบจับจูงมือของมู่หลันและถังซานก่อนพาออกวิ่งทันที มู่หลันและเด็กชายมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจ เมื่อถึงยังหมู่บ้านเซิ่งหุ่นมู่หลันเห็นปู่เจี่ยเค่อนั่งรออยู่หน้าหมู่บ้านมู่หลันวิ่งเข้าไปทักทายทันที นางแนะนำเสี่ยวอู่ว่าเป็นเพื่อนที่ถังซานและนางได้รู้จักที่โรงเรียนก่อนถังซานจะขอตัวนำไปที่บ้านของเขาก่อน
มู่หลันจูงมือของเสี่ยวอู่นำนางมาที่บ้านของถังซาน เจ้าของดวงเนตรดอกท้อสอดส่องเข้าไปในบ้านมู่หลันมองเห็นถังซานกำลังทำหน้าหม่นหมองอยู่ในมือของหมอนั่นถือจดหมายฉบับหนึ่งเอาไว้ ไใ่นานถังซานก็รู้สึกตัวเขาหันหน้ามาเจอดวงเนตรดอกท้อของมู่หลันที่ฉายแววเป็นห่วงและเสี่ยวอู่รีบวิ่งเข้าไปหาทันที ถังซานบอกว่าบิดาของเขาจากไปแล้ว
ถังซานเดินนำออกมานั่งอยู่ตรงบันไดบ้าน มู่หลันทิ้งตัวลงนั่งข้างๆนางหยิบผลผิงกั๋ว*ที่ได้รับมาจากคนในหมู่บ้านขึ้นมากัด เสี่ยวอู่นั่งอยู่ข้างๆมู่หลันอีกที
มู่หลันคิดว่านางรู้ว่าถังซานหมองลงเพราะสาเหตุอะไร เหตุการ์ณที่คุ้นเคยราวกับพึ่งเกิดกับนางไปเมื่อครั้งอาจารย์จากไป
苹果 píngguǒ ผิงกั่ว แปลว่าแอปเปิ้ล
“มู่หลันเสี่ยวอู่ ขอบใจพวกเจ้ามาก”ถังซานเป็นคนกล่าวเริ่มต้นบทสนธนา มู่หลันและเสี่ยวอู่เอียงคอ
“ขอบคุณพวกข้าเรื่องอะไรละ”ทั้งคู่ถามกลับ
“ขอบคุณที่พวกเจ้าที่อยู่เป็นเพื่อนข้านะ”ถังซานเผยยิ้มอ่อน
“นั้นเป็นเรื่องที่เพื่อนควรทำให้กันอยู่แล้ว เมื่อตอนอาจารย์ข้าจากไปเจ้าก็ช่วยปลอบข้าไม่ใช่หรือ”มู่หลันแย้มยิ้มนางกระแทกตัวถังซานเบาๆ
“พ่อเจ้าก็แค่จากไปชั่วคราวเท่านั้นเอง อย่างไรก็ต้องกลับมาหาเจ้า”เสี่ยวอู่ร้องกล่าวอีกเสียง “คงเพราะเขาต้องการให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยตัวเอง”
“นั้นก็ใช่แต่ทำไมต้องจากไปเช่นนี้ล่ะ ท่านพ่อเป็นญาติเพียงคนเดียวของข้าเขาจากไปก็เท่ากับว่าข้าไม่มีครอบครัวแล้ว”เสียงกล่าวของถังซานทำให้มู่หลันและเสี่ยวอู่หน้าหมองสหายจากนั่วติงทั้งสามล้วนมีอดีตที่ต้องพลัดพรากจากคนในครอบครัวทั้งนั้น
“เช่นนั้น ก็ให้ข้าและเสี่ยวอู่เป็นครอบครัวของเจ้าสิ”สิ้นเสียงมู่หลัน ถังซานและเสี่ยวอู่หันมาจ้องมองนาง “ข้าเคยมีครอบครัวอยู่เมื่อนานมาแล้วมีข้า บิดาและพี่ชายแต่ก็มีเหตุทำให้ต้องแยกจากกับพวกเขาออกมาอยู่กับอาจารย์พูดตามตรงข้าก็คิดถึงการมีครอบครัวอยู่นะ”
“ข้าเอาด้วย เจ้าว่าอย่างไรล่ะถังซาน”เสี่ยวอู่ร้องว่านางเห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างไรพวกเขาก็รู้จักกันมาปีกว่าแล้ว
“เอาสิ”เด็กชายตอบ
“เช่นนั้นข้าจะเป็นพี่ใหญ่”เด็กหญิงหูกระต่ายว่า
“ไม่สิ ข้าอยากเป็นพีาใหญ่บ้างนะเสี่ยวอู่”มู่หลันว่า เสี่ยวอู่ได้ยินดังนั้นก็หันหน้ามาออดอ้อนนางทันทีเพราะนางรู้ว่าหลันเจี่ยต้องแพ้ลูกอ้อนของนางจนยอมให้นางเป็นพี่ใหญ่แน่
“เช่นนั้นข้าเป็นพี่ใหญ่ ถึงมู่หลันจะปลุกวิญญาณยุทธ์ก่อนข้าแต่นางก็อายุน้อยกวาข้าและเจ้าเสี่ยวอู่ดูแล้วก็คงอายุน้อยกว่าข้าสักสองสามเดือน ถ้าพวกเจ้ายอมเป็นน้องสาวข้าข้าก้ไม่ขัดหรอกนะ”ถังซานว่า
“หาา ได้ยังไงกัน”สองเสียงของมู่หลันและเสี่ยวอู่สอดประสาน มู่หลันเตรียมต่อยถังซานทันทีแต่ก็โดนอีกฝ่ายหยุดไว้ได้ เด็กชายจับข้อมือนางแน่นไม่ยอมปล่อยด้วย
หน่อยย ไม่คิดเลยว่าเด็กที่ไม่รู้แม้แต่เรื่องของวิญญาจารย์ในวันนั้นจะหยุดการต่อยของนางได้
“ข้าจะยอมเป็นแค่น้องสาวของมู่หลันเท่านั้น”เสี่ยวอู่ “ส่วนข้าไม่อยากได้พี่ชายเพิ่มแล้ว”มู่หลัน
ถังซานมองเด็กหญิงทั้งสองนางก่อนชวนพวกนางขึ้นไปดูทะเลดอกไม้ที่มู่หลันเคยกล่าวเมื่อตอนมาถึงที่หมู่บ้านเซิ่งหุน
เสี่ยวอู่มองทิวทัศน์เบื้องหน้าอย่างตื่นตาตื่นใจส่วนมู่หลันที่เห็นจนชินแล้วยืนนิ่งๆ
“มู่หลัน เสี่ยวอู่ พวกเจ้าตอบคำถามของข้าข้อหนึ่งได้หรือไม่”ถังซานเกริ่นด้วยเสียงนิ่งใบหน้าของอีกฝ่ายจริงจังขึ้น สองเด็กหญิงหันไปมองอีกฝ่าย “พวกเจ้าสามารถเป็นน้องสาวของข้าได้หรือไม่ ข้าหวังจริงๆว่าจะสามารถมีคนที่ค่อยห่วงใยได้เพิ่ม ข้านั้นเป็นเพียงสามัญชนจนๆแต่ข้าขอสัญญาว่าข้าจะปกป้องน้องสาวของข้าตลอดไป จะไม่ให้นางต้องร้องไห้หรือเสียน้ำตาเด็ดขาด”
มู่หลันและเสี่ยวอู่นิ่งเงียบ
“ข้า…ถ้าเกิดวันหนึ่งมีคนมากมายต้องการฆ่าข้าล่ะเจ้าเอาชนะพวกนั้นไม่ได้เจ้าจะทำอย่างไร”เสี่ยวอู่ก้มหน้าลงและกล่าวมู่หลันคิดดว่านางคงมีอดีตที่ไม่น่าจดจำเป็นแน่
“เช่นนั้นก็ให้คนพวกนั้นข้ามศพข้าไปก่อน”ถังซานกล่าว
“ข้ามศพของข้าด้วย”มู่หลันกล่าวเสริม
เสี่่ยวอู่มองพวกนางด้วยใบหน้าที่ดูคล้ายกำลังจะร้องไห้ “เช่นนั้น ข้าตกลง” เสี่ยวอู่กล่าวมู่หลันวิ่งเข้าไปหานางทันที
“เสี่ยวอู่ตอบตกลงแล้วและเจ้าล่ะ เสี่ยวหลัน”มู่หลันเงยหน้ามองตามเสียงเรียกของถังซาน ชื่อเสี่ยวหลันนั้้นมันอะไรกันล่ะ นางครุ่นคิด
“ข้านะมีปัญหาจากอดีตของข้า หากพวกเจ้าเข้ามายุ่งเกี่ยวอาจจะไม่ปลอดภัยกับชีวิตของตัวเองนะ”
ถังซานและเสี่ยวอู่ได้ยินดังนั้นก็รีบร้อนกล่าวทันที
“ถ้าข้าเป็นพี่ชายเจ้าไม่ว่ามีปัญหาอะไรก็พร้อมฝ่าเสมอ”ถังซาน “ข้าก็ด้วย ในเมื่อท่านยืนยันว่าจะปกป้องข้า ข้าก็พร้อมจะปกป้องท่านด้วย”
“อย่างนั้นเองหรอ เอาสิให้ข้าเป็นน้องสาวของเจ้าเองถังซานและแน่นอนข้าจะเป็นพี่สาวของเสี่ยวอู่ด้วย”มู่หลันพูดพร้อมถึงถังซานที่อยู่ใกล้และเสี่ยวอู่เข้ามากอด
“ต่อจากนี้พวกเรานับเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว มีปัญหาอะไรต้องบอกกล่าวกันนะ”เสี่ยวอู่พูด เด็กสาวใบหูกระต่ายมองพี่สาวและพี่ชายที่พึ่งได้มาหมาดๆ? ด้วยใบหน้าเอาเรื่อง
“อื้อ สัญญาเลยเสี่ยวอู่/ข้าสัญญา” พี่สาวและพี่ชายที่พึ่งได้มาหมาดๆ?รับคำของน้องสาวคนเล็กด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
สวัสดีมินะซังงงค่ะ เรากลับมาแล้วเอเฮะ ในตอนนี้คือสูบพลังชีวิตมากเพราะในหัวมีแต่คำศัพท์แบบ นางกล่าว,นางพูด,นางว่า ใช้ซ้ำไปหลายคำมากเลยค่ะ ต้องย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ฮาเร็มถังซานรักมู่หลันใจเดียวค่ะ เดี๋ยวเสี่ยวอู่เราจะใส่พระเอกให้น้องด้วย! และถังซานในตอนนี้มองเสี่ยวอู่กับมู่หลันเป็นเด็กน้อยเลยค่ะแทบจะลืมไปแล้วด้วยมั้งว่าทั้งคู่เป็นอิสตรีในหัวพี่แกไม่มีเรื่องรักๆเล่อ แต่เดี๋ยวจะตกหลุ่มรักน้องสมัยเริ่มแตกเนื้อสาวแหละค่ะ โฮะๆ
ตอนหน้าจะเขียนอดีตมู่หลันค่ะ จะเปิดเผยว่าน้องทำไมต้องแยกกับครอบครัวทำไมถึงมาอยู่กับอาจารย์
แล้วก็เราอยากให้นักอ่านช่วยคอมเมนท์หน่อยค่ะว่าวิธีเขียนเราเป็นไงบ้าง เพราะคาร์ของมู่หลันไม่คงที่สักทีและด้วยหายไปนานมากแล้วกลับมาเขียนด้วย
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ด้วยรักจากไรท์เตอร์ค่ะ
เจอคำผิดจ้องขอโทษด้วยค่ะ เดี๋ยวเราจะกลับมาแก้ให้นะคะ@-@
ความคิดเห็น