ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic douluo dalu]จิ้งจอกแดงของถังซาน[OC]

    ลำดับตอนที่ #2 : ยินดีด้วยเจ้าถังซาน

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ค. 65


    ตอนนี้ผ่านมาหลายวันตั้งแต่ฝูเจินเดินทางจากมู่บ้านแห่งนี้ ถังซานคิดว่ามู่หลันเริ่มที่จะทำใจได้แล้วกับการจากไปของอาจารย์นาง นางถึงได้ตามป่วนเขาตลอดเวลาที่ฝึกใช้วิชาเทียนเสวียน ออกไปตัดฝืนและตักน้ำ

    “ถังซาน ปู่มารับเจ้าแล้ว”เสียงเรียกของหัวหน้าหมู่บ้านดังขึ้น มู่หลันรู้ว่าวันนี้คือวันที่เจ้าถังซานจะได้ปลุกวิญญายุทธ์ของตัวเองถังซานหันมองหน้าบิดาของต้นก่อนจะเดินออกจากบ้านตามเสียงเรียกของท่านปู่เจี่ยเค่อ  เด็กสาววางชามข้าวต้มลงบนโต๊ะไม้ก่อนจะออกวิ่งตามไป

    “มู่หลันเจ้ามาทำไมเนี่ย”ถังซานร้องถาม

    “ไปชมวิญญายุทธ์เจ้าไง อย่างน้อยมันก็ดีกว่าให้ข้าอยู่กับพ่อเจ้าที่ทำหน้าน่ากลัวตลอดเวลาที่เจ้าไปปลุกวิญญาณยุทธ์”มู่หลันว่าก่อนจะออกเดินนำ ท่านปู่เจี่ยเค่อหัวเราะเล็กน้อย ก็จะพาเราสองคนไปรับเด็กๆบ้านอื่นด้วย 

    เพียงพริบตาเดียวมู่หลันนางก็รู้จักกับคนทั้งหมู่บ้านและต้องขอบคุณที่นางมีใบหน้าที่น่ารักมักเป็นที่ถูกใจของผู้ใหญ่ที่เห็นผ่านตา บ้านของพ่อลูกแซ่ถังถึงได้รับของฝากจากผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเวลาเด็กหญิงออกเดินเที่ยวเสมอกลับมาเสมอ

     

    มู่หลันและถังซานเดินตามท่านปู่เจี่ยเค่อไปยังลานพิธีที่มีรูปปั้นเสาที่ถูกทำลาย ท่านปู่เล่าถึงประวัติความเป็นมาของมัน มู่หลันหันมองรอบด้านทันทีนางรับรู้ได้ถึงผู้มาเยือนและนางคิดว่าถังซานก็รับรู้มันเช่น

    “ท่านผู้นี้คือมหาวิญญาจารย์ศึกจากเมืองนั่วติง เขาจะแนะนำการเปิดรับวิญญาณยุทธ์ของพวกเจ้า ปู่จะคอยดูว่ามีใครในหมู่พวกเจ้าที่สามารถเป็นวิญญาจารย์ได้บ้าง”ท่าานปู่กล่าว

    “ปีที่แล้วข้าก็เห็นท่านพูดเช่นนี้ ข้าผ่านมาหกหมู่บ้านไม่เจอเด็กคนไหนสักคนที่มีคุณสมบัติเป็นวิญญาจารย์ได้”คนผู้นั้นกล่าวก่อนทำการเรียกวิญญายุทธ์ขึ้นมาประดับร่างก่อนจะทำการเปิดประตูโบสถ์นั้น

    “ข้าจะรอเจ้าตรงนี้ ได้วิญญาณยุทธ์อะไรอย่าลืมบอกข้าล่ะ แต่ขอเดาว่ามันต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้วบิดาเจ้าเป็นถึงเจ้าของวิญญายุทธ์อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดเลยนี่”มู่หลันดันหลังถังซานให้เข้าไปในโบสถ์ ถังซานหันมาพยักหน้าให้นางก่อนเขาจะเดินตามหลังมหาวิญญาจารย์ผู้นั้นเข้าไป 

    มู่หลันนางถอยมายืนอยู่กับปู่เจี่ยเค่อ ตอนที่ท่านปู่เจี่ยเค่อรู้ว่านางเป็นวิญญาจารย์โดยบังเอิญเพราะนางโชว์ทักษะวิญญาณที่หนึ่งให้ถังซานดูเขาตกอกตกใจเสียยกใหญ่ ก่อนจะเผยใบหน้าเสียดายออกมาเมื่อพบว่ามู่หลันในเวลานั้นมีถังเฮ่าเป็นผู้ปกครองชั่วคราว ปู่เจี่ยเค่อถามนางถึงการไปเรียนที่โรงเรียนนั่วติงเพื่อฝึกฝนต่อเขายินดีจะส่งเสียทำเรื่องให้นางได้เรียนที่นั้น มู่หลันยังไม่ได้ตอบตกลงทันปู่ไปทันทีเพราะนางต้องการฟังการตัดสินใจจากท่านเฮ่าเทียนเสียก่อน

    ผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วยามถังซานเดินตามหลังมหาวิญญาจารย์ผู้นั้นออกมา ถังซานเดินตรงมาหานางด้วยใบหน้ามุ่งมั่น “มู่หลัน เจ้ารู้จักวงแหวนวิญญาณหรือไม่”ถังซานเอ่ยถาม

    “รู้จักสิ ไว้กลับบ้านแล้วจะบอกให้เจ้าฟัง”มู่หลันตอบ ไม่รู้ว่าท่านปู่เจี่ยเค่อคุยอะไรอยู่กับมหาวิญญาจารย์ถึงได้มีสีหน้าราวแก่ชราไปอีกสิบปี

    “เสี่ยวซาน คนที่พลังวิญญาณสมบูรณ์แต่กำเนิดที่ท่านมหาวิญญาจารย์กล่าวไว้คงจะเป็นเจ้าสินะ”ถังซานพยักหน้ารับคำท่านปู่เจี่ยเค่อ มู่หลัันไม่ค่อยแปลกใจนักถังซานคือลูกชายของคนที่ท่านอาจารย์นักถือเลยนะ!

    “เสียดายที่เจ้ามีพ่อแบบนั้นไม่มีวิญญายุทธ์ดีๆ ส่งให้เจ้า หากเป็นเช่นนั้นเจ้าก็อาจจะได้เป็นปราชญ์วิญญาณคนที่สองของหมู่บ้านเราแล้ว”ท่านปู่เจี่ยเค่อกล่าวพลางส่ายหน้า “เสี่ยวซาน เจ้าตอบคำถามของปู่สักข้อ เจ้าอยากจะไปเรียนยังโรงเรียนฝึกสอนสำหรับวิญญาจารย์หรือไม่ ที่นั้นคือแหล่งรวบรวมความรู้สำหรับวิญญาจารย์ที่แม่นยำที่สุด”ท่านปู่เจี่ยเค่อเอ่ยถามถังซานด้วยคำถามที่เขาเคยถามนางเมื่อไม่กี่วันก่อน

    “เรื่องนั้นเกรงว่าข้าคงต้องถามท่านพ่อก่อน”

    “ถามพ่อเจ้านะดีแล้ว มาปู่จะส่งพวกเจ้าสองคนกลับบ้านเอง”ท่านปู่กล่าวก่อนจะพาเราทั้งคู่เดินกลับไปยังบ้านของพ่อลูกแซ่ถัง มู่หลันลอบมองใบหน้าของถังซานอีกฝ่ายคงกำลังคิดหนักเกี่ยวกับคำพูดของปู่เจี่ยเค่ออยู่

     

    “ถังซานวิญญาณยุทธ์ของเจ้าคืออะไร”มู่หลันร้องถามระหว่างทางกลับ

    “หญ้าเงินครามนะ คนๆนั้นบอกว่าวิญญายุทธ์ของข้ามันคือขยะ”ถังซานว่าพลางเรียกหญ้าเงินครามออกมากลางฝ่ามือขวา

    “เจ้าอย่าไปฟังเขาพูดเชียว โลกนี้ไม่มีวิญญาณยุทธ์ที่เป็นขยะเขานะพูดผิด”มู่หลันกล่าว ถังซานยิ้มให้นางพลางร้องขอบคุณ

     สองเด็กชายหญิงและผู้เฒ่ากลับมาถึงยังบ้านของพ่อลูกแซ่ถัง

    "ปู่เจี่ยเค่อต้องพยายามส่งเจ้าไปเรียนที่โรงเรียนนั่วติงนั้นแน่ๆมู่หลันเอ่ยบอก "เจ้าอยากไปรึเปล่าละถังซาน"

     "ข้าหรอ แน่นอนว่าอยากไปแต่ข้าไม่อยากให้ทิ้งให้ท่านพ่อต้องคนเดียวนะ"

    "เฮ้อ นั้นสินะ"มู่หลันถอนหายใจเงียบๆ

    "อ่า ข้าเกือบลืมเรื่องที่เจ้าถามไปเลย เรื่องวงแหวนวิญญาณนะ"มู่หลันกว่าวขึ้น ถังซานละความสนใจจากหญ้าเงินครามในมือหันกลับมามองที่เด็กสาวแทน

    "วงแหวนวิญญาณคือสิ่งที่ได้มาจากสัตว์วิญญาณ โดยวิญญาจารย์จำต้องฆ่าสัตว์วิญญาณเพื่อนำวงแหวนมาใช้ในการเลื่อนขั้นทุกครั้งที่ฝึกพลังวิญญาณลงท้ายด้วยเลขศูนย์ นี่คือของข้า เป็นวงแหวนร้อยปีจากจิ้งจอกรัตติกาลที่ได้อาจารย์ช่วยล่าให้" มู่หลันลุกขึ้นพลางโชว์วงแหวนวิญญาณให้ถังซานดู

    "โดยเมื่อเจ้าได้วงแหวนวิญญาณ เจ้าจะได้รับทักษะวิญญาณติดมาด้วยอย่างที่ข้าเคยให้เจ้าดูเมื่อหลายวันก่อน หรือหากเจ้าดวงดีก็จะได้รับกระดูกวิญญาณ โดยวงแหวนจะแบ่งสีแบบคราวๆ สีขาวคือสิบปี สีเหลืองร้อยปี สีม่วงพันปี สีดำหมื่นปี และสีแดงแสนปี"

    "ดังนั้นข้าที่พลังวิญญาณสมบูรณ์แต่กำเนิดต้องใช้วงแหวนวิญญาณมาเลื่อนขั้นสินะ"ถังซานว่าพลางทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย

    "ใช่แล้ว"มู่หลันดีดนิ้ว

    พวกเขาได้ยินเสียงโวยวายของถังเฮ่าและปู่เจี่ยเค่อที่เดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นก่อน เสียงตะโกนเรียนถังซานดังลั่นเด็กหนุ่มออกวิ่งไปหาเจ้าของเสียงเรียกนั้นทันที มู่หลันเดินตามเด็กหนุ่มมาด้วย

    “เจ้าเป็นพ่อประสาอะไรถังเฮ่า ความเจริญของลุกชายกำลังวางอยู่ตรงหน้านะ”ปู่เจี่ยเค่อตวาดลั่น มู่หลันยืนมอง นางเห็นแล้วนี้ไม่ใช่เรื่องของตน ขอถอยออกมาดีกว่า

     

    มู่หลันไปนั่งแกว่งเท้าอยู่ตรงลำธารเล็กๆข้างบ้านของพ่อลูกแซ่ถัง หากถังซานไปเข้าเรียนที่นั่วติงแล้วนางเล่า นางต้องทำอย่างไรดีให้อยู่กับท่านเฮ่าเทียนก็ผวาว่าเขาจะกระโดดมาฆ่านางเข้าสักวันหรือ เปล่าอาจารย์ก็ยังไม่มีข่าวคราวติดต่อกลับมา เด็กสาวครุ่นคิด

    “หลัน..”

    “มู่หลัน”

    เด็กสาวสะดุ้งเฮือก นางหันไปด้านข้างตามทิศทางของเสียงก่อนใบหน้าเกลี้ยงเกลาของถังซานจะปรากฏสู่สายตา

    “เรียกเจ้าตั้งนานแล้วไม่ยอมหัน เป็นอะไรรึเปล่า”เขาเผยสีหน้าเป็นห่วง เด็กสาวรีบสายหน้านางพบว่าฟ้าเริ่มืดเสียแล้วเวลานี้

    “รีบกลับบ้านกันเถอะ”ถังซานกล่าวพรางยืนมือให้เด็กสาว มู่หลันคว้ามือนั้นก่อนดันตัวเองขึ้นเด็กทั้งคู่เดินกลับบ้านด้วยกัน

     

    มู่หลันอยู่ในชุดนอนสีแดงสดผมของนางผมถูกมัดรวมเป็นหางม้าทรงต่ำ นางมองถังซานที่พึ่งเดินเข้าห้องนอนมาก่อนจะจับมานั่งคู่กันบนเตียง กล่าวได้ว่าตอนนี้เด็กน้อยวัยหกขวบทั้งคู่กำลังนั่งจ้องหน้ากันอยู่บนเตียงนอนในห้องของถังซาน ฟังไม่ผิด ห้อง ของ ถัง ซาน

    คงต้องโทษที่บ้านพ่อลูกแซ่ถังมีแค่สองห้องห้องของถังซานและบิดา นางจึงโดนโยนเข้ามาให้นอนในห้องถังซานโดนนางนอนบนเตียงเขานอนฟูกบนพื้น อย่างไรก็เด็กหกขวบทั้งคู่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

    “เรื่องโรงเรียนนิั่วติงพ่อเจ้าว่าอย่างไร”มู่หลันเปิดประโยคสนธนา

    “ท่านอนุญาตแล้ว”

    “อย่างนี้นี่เอง ข้าตัดสินใจแล้วข้าจะให้ท่านปู่เจี่ยเค่อพาไปสมัครที่นั้นด้วย”มู่หลันดีดนิ้วพลางยกยิ้มอย่างที่ถังซานเห็นเป็นประจำ

    “หาา”เด็กชายทำหน้าตกใจ

    “หาอะไรของเจ้า ท่านปู่เจี่ยเค่อเขานะมาคุยกับข้าไว้หลายครั้งแล้วเรื่องโรงเรียนนั้นคงเพราะเห็นว่าข้าเป็นวิญญาจารย์ด้วย แต่ข้ายังไม่ตอบตกลงไปสักที และก็เพราะพ่อเจ้าน่ากลัวด้วยหากเจ้าหนีไปเรียนแล้วทิ้งข้าไว้กับพ่อเจ้าวันใดเขาลุกขึ้นมาฆ่าข้าจะทำอย่างไรเล่า เจ้าก็เห็นครั้งแรกที่เขาพบข้ากับอาจารย์นี้”มู่หลันร่ายยาว นางมองถังซานที่กำลังอ้าปากจะพูดไวเท่าความคิดมือน้อยรีบเอื้อมไปปิดปากเขา

    “นอนได้แล้ว พรุ่งนี้เจ้าต้องพาข้าไปเที่ยวเล่นอีกนะ”

     


    อันดับแรกเลยนะคะ 

    ต้องกราบขออภัยที่ห่างหายไปนานมากๆเลยค่ะ //กรีดร้อง

    ปัญหาหลายร้อยอย่างมันเข้ามาปะทะใส่ตัวเราแบบจังๆเลยต้องหนีหายไป 

    เราอยากให้มองถังซานกับมู่หลันตอนนี้เป็นเพื่อนรักกันค่ะ น้องๆยังเด้กอยู่เลยไม่อยากให้คิดเกินเลยแค่เป็นเพื่อนที่นานๆทีจะมีดีกว่าค่ะ เพราะด้วยถังซานที่โตกว่าวัยเราเดาว่าเด้กน้อยในหมู่บ้านไม่นานมาคบกับเขาแน่ มู่หลันที่ระหกระเหินตามอาจารย์มาตั้งแต่เด็กด้วย ดังนั้นทั้งคู่เลยเป็นเพื่อนคนแรกของกันและกันค่ะ

    สุดท้ายนี้ขอให้นักอ่านอ่านอย่างมีความสุขนะคะ 

    ด้วยรัก ไรท์เตอร์

    เจอคำผิดต้องขออภัย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×