ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KHR Special Fic] What Love!? ทัศนศึกษาอลหม่าน

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter VI : Special Day

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 54


    4 December

    7.00 PM
    @ Namimori School

    หลังจากนั้นทุกคนก็ออกจากชมรมมาเจอกันที่ห้อง....
    .............สภาพแต่ละคนเหมือนไปออกสนามรบ ยกเว้นคุณคาซึมิที่พี่แกยังเหมือนเดิมตั้งแต่เช้าจดเย็น = =……
           “เป็นไงบ้าง ทุกคน ที่ชมรมน่ะ.. ฉันมัวแต่นั่งมองหนุ่ม เอ้ย! นั่งซ้อมเทนนิสจนเมื่อยไปหมดเลยมิกิกล่าวเสียงเอื่อย ด้วยความเหนื่อย เพราะอีตารุ่นพี่มิโทยะนั่นแหละ ให้ซ้อมจนหมดแรง
           “ก็ดีนะ แต่เหนื่อยชะมัดยาริบ่นบ้าง
           “ไม่เห็นจะดีเลย ได้วาดแต่รูป ขาวๆดำๆ อย่างกับรูปในทีวีสมัยโบราณยังงั้นแหละเนเวียก็บ่นด้วย
           “แล้วโทมิล่ะ?” มิกิถาม
           “ก็เหนื่อยดีนะโทมิตอบ
    ......เหนื่อยดี?.......... ทุกคนคิด
           “ส่วนฉันจัดดอกไม้จนมึนเลยมิโดกิกล่าวแทรกขึ้นมา
           “ฉันเองก็หมดแรงกับการทำวารสารโรงเรียนเหมือนกันค่ะแม้แต่อาอิยังไม่เว้น
            “.....ก็ดี ได้มีคนรับใช้เพิ่ม หึ! ..คาซึมิแสยะยิ้มนิดๆ 
    เหลือแต่ มาริเนะ ที่เข้าห้องมาก็ไม่ยอมพูดจาอะไรอีก นั่งทำหน้าบูดอยู่บนเก้าอี้...
             “เป็นอะไรไปเหรอ มาริเนะอาอิถามด้วยความเป็นห่วง
    มะ..ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย!เธอตอบ แต่อาการก็บอกว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ
            “มัวแต่ทำหน้าเป็นตูดหมึกอยู่นั่นแหละมิกิแซว
            “อย่าพูดถึงหมึกได้ไหม พูดแล้วอารมณ์เสียชะมัด อ้อ! อีกอย่างฉันไม่ได้ทำหน้าเป็นตูดหมึกด้วย ยัยเพี้ยน! 
    ว่าแล้วมาริเนะก็เดินปึงปังออกไป 
    .......ปะ..เป็นอะไรของเค้านะ = =?.........

    …………………………………………………………………………

        5 December
     


       เช้าวันต่อมา.....
             “อะ..อืม เช้าแล้วเหรอเนี่ย..อาอิตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ทุกคน ตื่นได้แล้วล่ะอาอิเริ่มปลุกเพื่อนๆ
     
             “หาว~” ง่วงจัง อยากนอนต่อ" เนเวียพูดแบบสลึมสลือ
             “นั่นสิเนอะ ขอเวลา 5 นาทีมิโดกิบอกแล้วก็ทิ้งตัวลงไปบนที่นอนใหม่เพื่อขอเวลา 5 นาทีที่จะนอนต่อ

             “เฮ้อ! ไม่อยากตื่นเลยมิกิบ่น สงสัยเมื่อวายเธอคงจะซ้อมมากไปหน่อย
             “เดี๋ยวฉันจะไม่ให้เธอตื่นไปตลอดกาลมาริเนะแขวะ
             “เบื่อจริง……..” ยาริไม่พูดอะไรมาก
     
             “...............”ส่วนคาซึมิเองก็ไม่พูดอะไรเหมือนกัน

    แล้วเมื่อทุกคนแต่งตัวเสร็จกำลังจะออกไปทานอาหารเช้า...


    กริ๊งๆๆ..กริ๊งๆๆ

    มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซึ่งเป็นของคาซึมิ
    เธอหยิบมือถือขึ้นมาแล้วดูที่หน้าจอ.....
                 “ขอตัวก่อนนะ เดี๋ยวตามไปคาซึมิพูดแค่นี้แล้วก็เดินเลี่ยงไปอีกทาง...

    .................................
    กริ๊งๆๆ ...กริ๊งๆๆ
    เสียงโทรศัพท์ดังไปตลอดทางจนถึงทางที่ไม่มีคน
    ...คาซึมิลังเลว่าจะรับสายนั้นดีหรือไม่...
    แต่แล้วก็ตัดสินใจรับ....
                “ฮัลโหลเธอพูด
                [นั่นใช่คาซึมิหรือเปล่า?]
                “ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นใคร
                [นั่นสินะ แล้วตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน]
                  “ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกค่ะ แล้วบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าโทรมา แค่นี้นะคะพูดจบเธอก็ตัดสายทิ้งทันที

    แล้วเมื่อเธอกำลังจะเดินกลับไปยังทางโรงอาหารก็มีเสียงคนทักขึ้นมาทางด้านหลัง
                  “ไง จำฉันได้มั้ย
    .....เธอจำเสียงนั้นได้ แม้ไม่ต้องเห็นหน้า ...ไอ้ผู้ชายหัวเหลืองในวันนั้นนั่นเอง.. ดีโน่..
                 “อยากโดนอีกใช่มั้ยเธอพูด
                 “ไม่ล่ะ เกรงใจเขาพูดพลางคิดย้อนไปถึงอดีต
                 “แล้วนายต้องการอะไรเธอรีบถามเพราะไม่อยากอยู่กับหมอนี่ให้หงุดหงิดเปล่าๆ
                 “ก็...เอ่อ...เขาอึกอัก
                 “ก็ต้องการมาหาลูกศิษย์คนใหม่ไงเสียงใหม่แทรกเข้ามา เธอจึงหันไปดู
                 “รีบอร์น! ดีโน่เรียกชื่อผู้มาเยือนคนใหม่ 
                 “ลูกศิษย์?ของหมอเนี่ยนะ ! ไม่มีทางหรอก เธอบอกกับพลางชี้หน้าดีโน่
                 “แต่มันเป็นไปแล้ว หรือเธอไม่กล้า?” รีบอร์นท้า
                 “.........”เธอนิ่งเงียบไปชั่วครู่ หรือว่าเธอจะไม่กล้าจริง 
                “ฉันมีข้อเสนอ ถ้าเธอยอมเป็นลูกศิษย์ ฉันจะอนุญาตให้เธอใช้เจ้าหมอนี่ให้เต็มที่ ตามสบาย รีบอร์นกล่าว
                “เฮ้ยย! ไหงมาลงที่ฉันอ่ะ =[]=!! แค่นายบังคับให้ฉันรับยัยนี่เป็นศิษย์มันก็แสนสาหัสพอแล้วว~” เขาโอดครวญ
    แต่ดูเหมือนคาซึมิจะถูกใจข้อเสนอของรีบอร์น…..
    ตกลง ฉันจะยอมเป็นศิษย์  
    ………………………………………………………………………

     

    ทางด้านโรงอาหาร 
            “เมื่อไรคาซึมิจะมาสักทีเนเวียบอกในขณะทานข้าว
            “นั่นสินะ เห็นบอกว่าจะตามมา งั้นเอาอย่างนี้ล่ะกัน เดี๋ยวฉันไปดูให้ว่าแล้วยาริก็พูดตัดบทพร้อมกันนั้นก็เดินออกไป แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว คาซึมิก็เดินสวนกลับมา 
            “อ๊ะ! มาแล้วเหรอ พวกเรารอตั้งนานแน่ะโทมิบ่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าบ่นไปมากกว่านี้

            “โทษที พอดีมีเรื่องนิดหน่อยคาซึมิบอก หิวแล้ว ทานข้าวดีกว่าแล้วเธอก็เดินไปสั่งอาหารโดยไม่สนใจใครในขณะที่ยาริกลับมานั่งที่


    ทุกคนมองหน้ากันแล้วก็คิดว่าคงไม่มีอะไร เลยก้มหน้าก้มตาทานอาหารของตนเองต่อ
              “นี่ๆ มาริเนะมิกิทัก เรื่องเมื่อวานโกรธอะไรมาเหรอ
    ปึ้ดๆๆๆๆ ...เสียงอาการเส้นเลือดในสมองแตกของมาริเนะได้กำเริบขึ้นแล้ว
    ...อุตสาห์ลืมไปแล้วแท้ๆเชียวนะ ชิ! ยังมาขุดซะได้...
    แล้วมาริเนะก็ไม่พูดอะไร เธอวางช้อนส้อมลง แล้วนำจานไปเก็บ ทั้งๆที่ยังทานไม่หมดด้วยซ้ำ
              “อิ่มแล้วเหรอจ้ะ?”อาอิถามอย่างหวาดๆ
             “ไม่อยากกินมันแล้ว อารมณ์ไม่ดี ขอตัวก่อนนะหลังจากนั้นก็เดินขึ้นบันได้ไป แต่ระหว่างนั่น พลั่ก! เธอเดินชนเข้ากับใครเต็มๆจนเกือบล้มจากบันได

             “เธอนี่มัน..จริงๆเลย เดินไม่เคยดูทางโกคุพูดอย่างโมโหเล็กน้อย
             “แล้วนายล่ะ มีตาไว้ทำอะไรเธอย้อน
             “หน็อยแน่! ..โกคุเดือด 
             “จะ..ใจเย็นก่อนนะ ทั้งสองคนสึนะที่เดินตามลงมาได้ห้ามเอาไว้
    ส่วนพวกสาวๆได้ยินเสียงทะเลาะก็หันมามองมาริเนะกับโกคุที่ตอนนี้เหมือนจะกัดกันตายไปข้าง
             “มีอะไรกันเหรอยามาโมโตะที่เดินมากับสึนะถามขึ้นโดยไม่รู้เรื่องราวเช่นเคย
             “ก็ยัยนี่เดินมาชนฉันแล้วไม่ขอโทษโกคุแย้ง
             “นายต่างหากที่ว่าฉันไม่ดูตามาตาเรือ
    แต่แล้วทุกคนก็ต้องเงียบเมื่อพวกกรรมการคุมกฎเดินเข้ามา...
             “รีบๆไปซะ บอกแล้วใช่มั้ย ว่าฉันเกลียดการสุมหัว ฮิบาริบอกเสียงเรียบ
             “ค.. ครับ ครับ ไปกันเถอะนะสึนะรีบบอกโกคุเดระและยามาโมโตะ
    ส่วนมาริเนะก็เดินกลับไปหาพวกเพื่อนๆ
    แต่ในขณะเดียวกัน ทั้งยาริและคาซึมิสังเกตว่าตอนนี้หน้าของอาอิกำลังแดงเพราะอะไรกันหนอ?   
    .....คงรู้นะ.....
      

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×