คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter III : วันอลหม่านในโรงเรียนนามิโมริ
GG ..
.............................................
4 December
6.00 AM
@ Namimori School : ห้องรับแขก
“ทุกคน ตื่นได้แล้ว!!~” เสียงของเนเวียทำให้ทุกคนเริ่มได้สติหลังจากการหลับใหลอันแสนยาวนาน
“ฮ้าว~ มิโดกิอยากหลับต่อจังเลย” มิโดกิพูดพลางเอามือทั้งสองข้างขยี้ตา
“นั่นสิเน้อ~” มิกิพูดและเริ่มเอามือขึ้นมาแคะขี้มูก -.,-
“อาบน้ำได้แล้วนะทั้งสองคน..!!” โทมิพูดไล่ให้มิโดกิกับมิกิไปอาบน้ำ
“อย่าทำตัวปัญญาอ่อนเป็นเด็กอนุบาลไป! ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ” มาริเนะพูดเหมือนเป็นเจ้านายสั่งงาน
ป๊อกๆๆ!!
“อู๊ยย มิโดกิเจ็บจังเลยย ”
“จ.. เจ็บ!! T^T”
“โอ๊ยย!!”
“พวกเธอควรหุบปากซะบ้างนะ!!” เสียงที่ดูกราดเกรี้ยวของคาซึมิทำให้ทุกคนต้องสยบและทำตามทันที
ยาริกำลังนั่งถักไหมพรมคร่าเวลาอยู่บนโซฟา ถ้าทางจะถักเป็นผ้าพันคอละนะ ส่วนอาอิก็นั่งดูวิวตรงหน้าต่างไปเพลินๆพร้อมกับอ่านหนังสือไปด้วย เป็นงานอดิเรกของเธอเลยละ!
“ว้าว! อาอิจังใส่เครื่องแบบแล้วน่ารักจังเลยนะ!” เนเวียพูดขึ้นอย่างผิดสังเกตุเมื่อมองไปที่อาอิ
“..อ๊ะ.. เอ่อ.. ขอบคุณค่ะ” อาอิหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อได้ยินเนเวียกล่าวอย่างนั้น
“ฉันก็คิดอย่างนั้นนะ! ว่าไหมคะคุณคาซึมิ!” โทมิพูดแล้วหันไปถามความเห็นกับคาซึมิ
“ก็น่ารักดี ” คาซึมิพูดเรียบๆตามเคย แต่ก็แอบยิ้มอยู่บ้าง แต่แค่เพื่อนๆชมอย่างนี้อาอิคงจะมีความสุขมากแล้วละ!
หลังจากรออยู่ไม่นานนักต่อจากนั้น มิโดกิกับมิกิก็แต่งตัวและจัดกระเป๋าเสร็จสรรพเรียบร้อย ยาริเห็นอย่างนั้นจึงวางไหมพรมที่ถักไว้แค่ครึ่งหนึ่งไว้บนโต๊ะและเดินออกจากห้องโดยมีเพื่อนๆคนอื่นๆตามหลังมาติดๆ
6.50 AM
@ Namimori School : โรงอาหาร
“ข้าวปูผัดผงกะหรี่อร่อยจังเลยย ” มิโดกิพูดขึ้นขณะเลียช้อนที่เปื้อน
“อร่อยจังเลยเนอะข้าวที่นี่เนี่ย >//<” มิกิพูดและเรอออกมา =_=;;
“ฉันว่ามันจืดไปหน่อยละ” ยาริเอ่ยออกมาเมื่อกินแกงจืดหมด
“ยาริจัง.. ฉันว่าฉันทำน้ำหกลงไปในถ้วยแกงจืดเธอละ =()=;;” โทมิพูดต่อ
“นี่นะ พวกเธอ ถ้าเสร็จแล้วก็ขึ้นห้องกันไปเลย” คาซึมิพูดอย่างเบื่อๆแล้วยกเอาจานไปไว้ที่บริเวณที่จัดไว้เพื่อวางจานใช้แล้ว
“...” เนเวียเริ่มสังเกตุอาอิที่เอาแต่อ่านหนังสือ
“เฮ้ อาอิจัง”
“..อะ..? คะ!” อาอิตอบอย่างงงๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ??” เนเวียถาม
“อ่า.. ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ งั้นฉันขอตัวขึ้นห้องก่อนนะคะ ^ ^” อาอิยิ้มอย่างเป็นมิตรและลุกเดินขึ้นไปชั้นบน ตามด้วยมิกิ มิโดกิ ยาริ มาริเนะ และโทมิ
“หึ.. เด็กๆก็ยังงี้ละ..” คาซึมิรำพึงเบาๆก่อนจะเดินตามหลังขึ้นไป เหลือเพียงแต่เนเวียที่ยังคงเดินเล่นอยู่แถวๆนั้น
7.50 AM
@ Namimori School : ห้องปี2 B
อาอินั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้มุมห้อง ขณะที่คนอื่นๆยังเล่นกันอย่างสนุกสนานเฮฮา ..
“สวัสดีจ้ะ” เสียงใสๆพูดขึ้นทักอาอิ
“อ๊ะ.. สวัสดีค่ะ..” อาอิทักตอบ
“เป็นนักเรียนใหม่งั้นเหรอ? ” อาอิพยักหน้ารับ
“งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ ฉันชื่อซาซางาวะ เคียวโกะ แล้วเธอชื่ออะไรเหรอจ๊ะ?” เคียวโกะพูดอย่างแจ่มใส.. เธอดูน่ารักมากเลยละ จริงไหม?
“อาคาเนะ อาอิ..”
“ชื่อน่ารักจัง! ยินดีที่ได้รู้จักนะ ^ ^” พูดเหมือนเคียวยะเลยแฮะ เธอคนนี้ =3=;;
“แฮ่กๆๆๆๆๆ ..!! ถึงจนได้ ” เสียงสึนะดังมาจากประตูห้อง
“สึนะคุง สวัสดีจ้ะ” เคียวโกะทักทายสึนะอย่างสดใสเช่นเคย
“สวัสดีค่ะคุณซาวาดะ”
“อื้ม สวัสดีทั้งสองคน อาอิ เรียกฉันว่าสึนะก็ได้นะ ^ ^;;” อาอิพยักหน้ารับอีก
กริ๊งงงงงงงง..........
เสียงกริ่งนี้เป็นเสียงกริ่งที่ทำให้รู้ว่า.. ถึงเวลาเข้าเรียนแล้วนะ เป็นสัญญาณอย่างดีที่บอกให้รู้ว่าคุณครูกำลังจะเข้ามาโฮมรูม
“เอ้า นักเรียน เงียบกันได้แล้ว วันนี้มีเด็กใหม่หลายคนนะ!” นั่นไง เสียงคุณครูสาวคนนั้นป่าวประกาศขึ้นซะแล้ว แต่ดูทั้งห้องกลับฮือฮากับเหล่านักเรียนใหม่
“ดูเธอคนนั้นสิ คนผมสีเงินยาวๆอะ สเปกชั้นเลย”
“ไม่ละ ฉันว่าฉันชอบผู้หญิงผมฟ้าคนนั้นมากกว่า”
“ไม่เว้ย น่ารักที่สุดต้องผู้หญิงผมสีเงินสั้นๆคนนั้นน่ะ”
“คนผมสั้นน่ะ น่ารักสุดแล้วละว่ะ”
มีเสียงคล้ายๆแบบนี้ดังขึ้นอยู่ทุกส่วนของห้อง
“สวัสดีค่ะ! ฟุกิเมะ มิโดกิ ค่า ^0^//” มิโดกิแนะนำตัวอย่างสดใส
“หวัดดีฮะ เอ๊ยย จ้า โมโมโระ มิกิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ!”
“ทาคาฮาตะ มาริเนะ ฉันคิดว่าคงไม่ต้องแนะนำมากกว่านี้นะ -__-”
“อาคาเนะ อาอิค่ะ ”
“เนเวีย! อาโอยาม่า เนเวียจ้ะ!”
“ยาหิงาวะ ยาริกะ หรือจะเรียกว่ายาริก็ได้”
“มามินาริ โทมิ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“งั้นทุกคนแยกย้ายไปนั่งตามที่ตัวเองชอบเลยละกันนะ” สิ้นเสียงอาจารย์ อาอิตัดสินใจไปนั่งริมหน้าต่างโดยมีเคียวโกะนั่งอยู่ข้างๆ มิกิกับมิโดกิก็นั่งข้างกันตรงแถวหน้าของแถวที่ยาริกับอาอินั่ง มาริเนะและโทมิ ก็นั่งข้างหน้าแถวของแถวที่มิกิกับมิโดกินั่งอีก ส่วนเนเวียก็นั่งอยู่กับยาริ
.
12.00 AM
@ Namimori School : ห้องปี2 B
“พักกลางวันซะที! ไปกินข้าวบนดาดฟ้ากันนะ!” เนเวียพูดขึ้นชวน
“เย้ กินข้าวๆ >0<” มิโดกิพูดพลางโยนกล่องข้าวเป็นเหมือนลูกบอล
“เดี๋ยวเถอะมิโดกิ เดี๋ยวข้าวมันก็หกหรอกนะ!” มาริเนะร้องเตือน แต่คงไม่ทันซะแล้ว..
แผละ
“ แง้ ข..ข้าวกล่องของเค้า T^T” มิโดกิร้อง
“นั่นไง ฉันเตือนแล้วนะ -_-”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะมิโดกิจัง เดี๋ยวมาแบ่งข้าวกับฉันก็ได้ ” อาอิพูดปลอบใจ
“กระซิกๆ”
“งั้นฉันรอบนดาดฟ้านะ..” คาซึมิเดินนำขึ้นไป ขณะนั้น คนอื่นๆก็เริ่มลดความเร็วในการขึ้นบันได(เพื่ออะไรฟะ?)แล้วก็สนทนากัน
“ใช่แล้วๆ มิโดกิฝันว่า มิโดกิเจอเจ้าชายรูปงามมากๆเลยละ~ > <” มิโดกิตอบอย่างกระตือรือร้นเต็มที
“ ต้องใจดี ใจเย็น ไม่ใจร้อนเกินไป นี่แหละ ชายในฝันของเค้า โอ๊ะ หน้าตาต้องดีด้วยนา” มิกิพูดต่อ ดูท่าทางชอบคนใจดีนะ มิกิจังง
“สอบได้คะแนนดีหน่อย หน้าตาขอเอาหล่อๆ ฉลาด สมองไม่ตัน ” มาริเนะเริ่มพูดต่อจากมิกิ
“ใจดี น่ารัก อ่อนโยน เข้ากับคนง่าย นี่ละสเปกฉันเลย~” เนเวียพูดขึ้นอย่างเคลิบเคลิ้ม หวังว่าจะมีสักคนนะ ที่นิสัยเหมือนเธอน่ะ =w=;;
“ยังไงก็ได้ละ พูดรู้เรื่องแล้วหน้าตาโอเคก็พอ” ยาริพูดอย่างเซ็งๆ เหมือนเธอไม่เคยคิดเรื่องนี้
“ฉันก็.. ขอน่ารักๆ หล่อๆหน่อย >///< แล้วอาอิจังละ?” โทมิหันหน้าไปถามอาอิทันที
“เอ่อ.. ฉันก็.. ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้” อาอิไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร เลยตอบไปอย่างนั้น
“งั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าเจอแล้วแต่ไม่อยากบอกหรอกนะ -_-” มาริเนะพูดเหมือนอ่านใจออก
“ม..ไม่ใช่นะ =()=ll” อาอิหันมาตอบทันที
“ช่างเถอะเรื่องนั้นน่ะ มิโดกิหิวข้าวจะตายอยู่แล้ว -3-” สิ้นเสียงมิโดกิ ทุกคนก็โผล่มาบนดาดฟ้า แล้วก็ได้ยินเสียงโวยวายเสียงดัง
“ดีแล้วที่โผล่มา” คาซึมิพูด และเริ่มพูดต่อ “พวกเธอช่วยคุยกับนายนี่ให้หน่อยแล้วกัน ฉันคุยแล้วประสาทเสีย -__-++”คาซึมิพูดและเดินหลีกไปหยิบกล่องข้าวมานั่งกิน
“คงคุยกับคนสติไม่เต็มมาละมั้ง” ยาริเอ่ย
“เอ๊.. อะไรของเขาน้า..”
อาอิมองไปรอบๆ แล้วก็พบว่ารั้วเหล็กได้ล้มลงมาเป็นแถบๆ นอกจากนั้นเธอยังสังเกตเห็นชายผมบลอนด์ที่น่าจะไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นอยู่กับพวกสึนะ เห็นพวกคนกลุ่มนั้นกำลังคุยอะไรกันอยู่ อาอิจึงเงี่ยหูฟังขณะแบ่งข้าวให้มิโดกิเงียบๆ
“? ผู้หญิงคนเมื่อกี๊นั่นใครน่ะสึนะ ดูเย็นชาจัง =_=;; เหมือนเคียวยะไม่มีผิด” ชายคนนั้นพูด
“คงเป็นนักเรียนใหม่มั้งครับ เห็นว่าวันนี้นักเรียนใหม่เยอะ ห้องผมประมาณ7คนได้ละครับ” สึนะตอบเขา
“แถมมีเด็กสติไม่ครบที่มีหัวสีเขียวๆอยู่ด้วย -__-”
“อย่าไปว่าเขาเลยน่า โกคุเดระคุง”
“นั่นสิโกคุเดระ ที่จริงมิโดกิอาจสติครบกว่านายก็ได้”
“หุบปากไปเลยนะเจ้าบ้าเบสบอล!”
ยัยหัวเขียว? มิโดกินี่โดนประจำเลยนะ สงสัยจะเป็นฉายาของเธอไปแล้วมั้ง อาอิคิดแล้วฟังต่อ
“แล้วนายคิดว่าคาซึมิเป็นยังไงบ้าง ดีโน่?” รีบอร์นถาม
“ก็ท่าทางอึดพอดู สัญชาตญาณการต่อสู้ไม่แพ้ใครเลย ออกแนวน่ากลัวรับมือยากเหมือนกันแฮะ สังเกตได้จากลูกเตะเมื่อกี๊เลยละ = =;;” คนที่รีบอร์นเรียกว่าดีโน่พูดเชิงคำตอบ
“นั่นแหละ ลูกศิษย์อีกคนของนาย ยินดีด้วยที่จะมีลูกศิษย์ถึงสองคน” รีบอร์นพูดเสริม แอ๊ะ! นั่นมันตอกย้ำกันรึเปล่า??!!
“ห๊ะ! =[]=! มันเหมือนกับฉันแบกอเวจีมหานรกสองขุมเอาไว้บนบ่าเลยนะ!!” พูดเปรียบเทียบได้จี๊ดมากเพ่ !! ไรต์เตอร์ขอลอกนะก๊ะ =w=!
“ถือเป็นการฝึกครั้งสุดท้ายของนายละกัน ดีโน่” รีบอร์นพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ..โอ้ว.. ดีโน่ผู้น่าสงสาร..
“เฮ้! อาอิจังกินหมดแล้วเหรอ! ไวจัง!!” เสียงโทมิทำให้สติของอาอิกลับคืนมา เอ๊ะ?กินไปตั้งแต่เมื่อไรน่ะเทอว์ =A=;;
“อ๊ะ .. อืม..” อาอิพูดอะไรไม่ได้เพราะเธอก็แทบไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าเธอกินเข้าไปหมดแล้ว
“อ๊ะ นั่นพวกนักเรียนใหม่นี่! ” สึนะพูดขึ้นขัดต่อ
“โอ้! สวัสดีจ้าสึนะคุง! เอ๊ะ สึนะใช่มั้ย!?” เนเวียพูดกลับอย่างร่าเริง
“อ๊ะ นั่นคนที่อยู่ที่ร้านซุชินี่” มิกิร้องขึ้นเตือนสติเพื่อนๆ
“อ๊ะ! จริงด้วยแฮะ!” มาริเนะทักต่อ
“ อ้าว พวกเธอเองเหรอ สวัสดี!” ยามาโมโตะ ทาเคชิ ลูกของเจ้าของร้านซูชิที่ทางคณะทัวร์ได้ไปมาพูดทักพวกเธอ แต่ช่วงเวลานี้เองที่อาอิลงจากดาดฟ้าไปโดยไม่บอกกล่าว
อาอิวิ่งลงบันไดไป ระวังสะดุดขาตัวเองล้มนะจ๊ะตัวเองง~~ >w<
“อ๊ะ!!” อาอิร้องเสียงหลง.. นั่นไงล่ะ พูดยังไม่ทันขาดคำ ซาโยนาระนะจ๊ะตะเองงง -w-//
ผลั่ก!!~
>[]< มันต้องเจ็บแน่ๆเลย ฉันคงมีแผลสักที่สองที่ ไม่สิ สักสี่ที่เลยดีกว่า..!! เอ.. แปลกจัง ทำไมไม่เจ็บเลยซักแอะ..? อาอิคิด คิดว่าทำไมละ เทพบุตรมารับตัวเธอเหรอ -__- แต่ฉันว่าอาจจะเป็นยมบาลมากกว่า (//โดนตบ)
“นี่ คุณน่ะ.. ลุกได้รึยัง?” เสียงเย็นๆพูดถาม โอ้วแม่จ้าวว ยมบาลจริงๆด้วยย (//โดนกระทืบ) ช..ใช่แล้ว ยมบาลคนนั้นคือ .... ฮิบาริ เคียวยะ นั่นเอ๊งง..ง..!! ที่เขาถามน่ะ ไม่มีอะไรหรอก เพราะสภาพในตอนนี้อาอินอนทับเขาอยู่น่ะสิ ดีจังเลยเนอะได้นอนทับยมบาล เป็นประสบการณ์หายากเหลือเกิ๊น..
“ขอโทษค่ะ!!” อาอิรีบลุกขึ้นออกจากร่างเคียวยะทันที ..ดีแล้วละ เหอะๆ
“....” เขาไม่พูดอะไร พร้อมกับลุกขึ้นยืนจากการล้มทับของเธอเมื่อกี้
..อ่า ทำไงดี เค้าคงโกรธแน่เลย อาอิคิดอย่างซึมๆ
“...” และเขาก็ยังไม่พูดอะไรเช่นเดิม แล้วเขาก็เดินกลับไปยังห้องกรรมการคุมกฏ
..แต่ว่า.. อาอิคิดอีก เมื่อกี้ ฉันได้นอนทับคุณฮิบาริด้วยยย >//< อาอิคิดอย่างสดใส.. มันดีอยู่แค่นั้นสินะ อาอิเอ๋ย..
อ้อ! จริงสิ ฉันควรต้องขอโทษเค้านี่ -__-ll ..ใช่แล้วจ้ะ =_= เมื่อคิดดังนั้นอาอิจึงเดินไปเปิดประตูเสนอหน้าที่ห้องกรรมการคุมกฎ
“เอ่อ..คุณฮิบะ...ริ = =;;” บรรยากาศในห้องช่างวังเวงซะเหลือเกิน ..
“....” เคียวยะนั้นยังนั่งบนเก้าอี้โดยหันหลังให้เธออยู่แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
“คะ..คือว่าเรื่องเมื้อกี้ ขอโทษด้วยนะค่ะ ฉะ..ฉันไม่ได้ตั้งใจ.” อาอิพูดขอโทษไปเพื่อทำลายความเงียบในห้อง
“...” เคียวยะยังไม่ตอบเช่นเคย.. เฮ้อ.. ที่ไม่ตอบเพราะอะไรกันน้า.. หรือไรต์เตอร์สมองตันเลยใช้มุขเงียบติดต่อกันแปดบรรทัด?
..สงสัยเค้าคงโกรธฉันแน่เลย... อาอิคิดในใจ
“ถ้ายังโกรธฉันอยู่ก็ไม่เป็นไรค่ะ”... อาอิเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
“..ยัยโง่เอ๊ย! ..” เคียวยะสบถพูดออกมาหลังจากอาอิเดินออกจากห้อง ใครจะไปรู้ละ! ถ้าสังเกตดีๆแล้วก็จะเห็นว่าเคียวยะกำลังหน้าแดงและที่ไม่พูดอะไรก็เพราะเขินนั่นเองละ! ซึนเหมือนกันนะนายเนี่ย.. =()=
..อาอิเดินออกไปนั่งเล่นตรงม้านั่งใต้ร่มต้นไม้ใหญ่ บริเวณนั้นก็ไม่ค่อยมีคนมากมาย นี่ละที่ๆอาอิชอบ คือไม่ค่อยมีคน จะได้มีสมาธิอ่านหนังสือและทำใจ(?)..
“อ้าว อาอิ ฉันตามหาเธออยู่แน่ะ..” คาซึมิที่เพิ่งเดินมาเดินเข้ามาหาอาอิ
“เอ๋? คุณคาซึมิทานข้าวเสร็จแล้วเหรอคะ??” อาอิถามขึ้น
“กินไม่ลงน่ะ.. พอดีมีคนมากวนใจอยู่..” คาซึมิพูดทั้งๆที่หลบสายตา
..อยากรู้จัง.. ใครมากวนใจคุณคาซึมิ..? อาอิคิด
“ว่าแต่ เธอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้” คาซึมิถามกลับ
“เอ่อ..คือ..ว่า.เรื่องมันยาวนะค่ะ แฮะๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง..”
“หมอนั่นอีกแล้วสิ ใช่มั้ย..?
...ฉึกๆๆๆๆ...เสียงมีดทิ่มทะลุหัวใจพวกนี้มาจากไหนกันมากมาย...
“เขาโกรธเธอแน่เลย”
โอ้วว..มันช่างตรงมากค่ะ คุณคาซึมิ TT ยิ่งพี่แกพูดมันตอกย้ำ
"เขาอาจจะไม่พูดกับเธออีก ไม่ก็..”
คาซึมิยังพูดไม่จบอาอิก็ชิงพูดซะก่อน
"พอเถอะค่า แค่นี้ก็เข้าใจแล้ว มะ..ไม่ต้องย้ำก็ได้นะค่ะ"
"เฮ่อ! คงใช่สินะ" เธอกล่าวขึ้นเมื่อเหนอาอิมีสีหน้าเจ็บปวด.. ก็เพราะคำพูดของเธอนั่นละ..
..แล้วความเงียบก็เข้าปกคลุมบริเวณที่อาอิกับคาซึมินั่ง....
“วะ..ว่าแต่คุณคาซึมิ ถูกใครกวนใจมาเหรอค่ะ” อาอิถามก่อนเพื่อทำลายบรรยากาศมาคุ..ยิ่งเวลาอยู่กับคาซึมิแล้ว เค้าเรียกว่า ป่าช้าเรียกทวด!
เธอปรายตามองมานิดๆอย่างไม่เต็มใจที่จะเล่านัก....
“อ่า ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องก็ได้ค่ะ” เมื่ออาอิเห็นสายตานั้นก็เลยไม่รบกวนที่เซ้าซี้ต่อให้เสียเวลา
“เฮ้อ! งั้นฉันจะเล่าให้ฟังก็ได้” คาซึมิพูดขึ้น
......อะ...อะไรนะ.?!? ฉันหูฝาดไปรึป่าวเนี่ย! ทุกทีถ้าถามแบบนั้นไปจะไม่เคยได้คำตอบนี่นาแถมได้สายตาไม่พอใจส่งมาด้วยอีกต่างหาก
.หรือว่าวันนี้หิมะจะถล่มมมมม!!! =[]=
. อาอิคิดอย่างตื้นเต้น..
“ถ้าเธอยังทำหน้าแบบนั้น ฉันก็ไม่เล่า” เธอพูดตัดบทเมื่อเห็นหน้าตาของอาอิที่ตอนนี้มีแต่ความอึ้ง?
“ฟะ..ฟังสิคะ” อาอิรีบพูดเพราะกลัวจะอดฟัง
...............................
o “เฮ้อ! เบื่อจังเลย” สิ่งมีชีวิตที่เป็นคนและชื่อว่าดีโน่กำลังบ่นด้วยความเซ็งกับพวกสึนะ
ตึก...ตึก...ตึก
เสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นมา...ทำให้ดีโน่ที่กำลังเบื่อมองไปด้วยความสนใจ
“ใครน่ะ”เขาถาม..แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ
หรือว่าจะเป็นเคียวยะ... ดีโน่คิดในใจ คงต้องเซอร์ไพรส์สักหน่อยหล่ะ
3...2.....1!!
ดีโน่รีบวิ่งไปเหมือนกับวิ่งมาราธอน แล้วกระโดดเทคตัวตีลังกาสองรอบ เสร็จแล้วก็ลงมายืนอย่างสวยงาม แต่โชคร้ายที่หินเจ้ากรรมดันมาอยู่ซะได้ ทำให้ ดีโน่เซถลาไปกอดกับใครบางคนที่ขึ้นบันไดมา....
“เคียวยะ เอ่อ..นั่นนายใช่มั้ยล่ะ” ดีโน่ถาม
“นะ...นายเป็นใครกัน แล้วใครอนุญาตให้แตะต้องตัวฉัน!!!” ..เสียงนั้นตอบกลับมาแต่ไม่ได้ตอบคำถามของเขานี่สิ...
เอ๋? เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของเคียวยะนี่! = = ..เอ่อ..แล้วมันเป็นใคร
คิดได้ยังงั้นก็เลยเงยขึ้นไป..ปรากฏว่า... ..
... คนนั้นไม่ใช่เคียวยะแต่เป็นคาซึมิ..
....ซวยแน่ ดีโน่เอ๋ย.....
ผึง! เสียงความอดทนในเส้นสมองของคาซึมิขาดผึง
พลึ่ก! เฟี้ยว! ตึง! โครม!
เราจะอธิบายความหมายของแต่เสียงที่เป็นลำดับขั้นได้ดังนี้
1.พลั่ก! >> คาซึมิหวดลูกเตะไซด์คิกใส่ดีโน่
2.เฟี้ยว! >> ดีโน่ที่โดนลูกเตะเข้าเต็มเปาปลิวไปตามแรงถีบ
3.ตึง! >> เสียงดีโน่ที่ชนเข้ากับผนังอย่างจัง
4.โครม! >> เสียงของรั้วเหล็กที่อยู่บนดาดฟ้าถล่มลงมาเป็นแถบเหมือนโดมิโนที่เรียงตัวล้มลงมาอย่างสวยงาม..
"อืมม..หน่วยก้านดีใช้ได้เลยแฮะ" รีบอร์นที่นั่งดูอยู่พูดเบาๆ
"คุณดีโน่!!!!! เป็นอะไรรึป่าวครับ" สึนะที่ได้สติรีบวิ่งไปดูอาการของดีโน่ที่เกือบเป็นศพถูกฝังใต้ผนังกำแพงซะแล้ว =A=;;
"ม..ไม่เป็นไร แค่ปางตาย" เขาตอบสึนะ
ส่วนคาซึมิเมื่อเหตุการณ์นั้นผ่านไป สติของพี่แกก็กลับมาสงบดังเดิม
"จำไว้นะ อย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก ไม่งั้นต้องโดนแบบนี้" เธอพูดทิ้งท้ายไว้
..เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่พวกสาวๆขึ้นมาบนดาดฟ้าพอดี...
.......................................................
...เพราะเหตุนี้นี่เอง ที่กำแพงมันถึงล้มระเนระนาดราบเป็นหน้ากลอง = = ;; อาอิคิด
·
· “ฉันเล่าจบแล้ว ทีนี้ถึงตาเธอบ้างหล่ะ” พอคาซึมิเล่าจบ เธอก็ย้อนถามเรื่องของอาอิทันที
....อาอิที่กำลังฟังเรื่องอย่างเคลิ้มๆ? ก็แทบตั้งตัวไม่ทันกับคำถาม...
“หะ..ให้เล่าตอนนี้เลยเหรอคะ?” เธอถาม
“ก็ใช่น่ะสิ” คาซึมิตอบ
“..เอ่อ..เรื่องมีอยู่ว่า..” แต่ยังไม่ทันที่อาอิจะได้เล่า เสียงกริ่งเข้าเรียนก็ดังขึ้น
......เฮ้อ! รอดตัวไป ......
“งั้นก็ไม่เป็นไร เข้าห้องเรียนก็เถอะ” คาซึมิบอกพร้อมกับลุกขึ้นแล้วก็เดินไปโดยไม่สนอาอิ
“ดะ..เดี๋ยวสิค่ะคุณคาซึมิ! รอก่อน”อาอิที่เพิ่งลุกจากเก้าอี้ก็รีบวิ่งตามไป
ความคิดเห็น