ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KHR Special Fic] What Love!? ทัศนศึกษาอลหม่าน

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter III : วันอลหม่านในโรงเรียนนามิโมริ

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 54


     

    GG ..
    .............................................

    4 December



    6.00 AM

    @ Namimori School : ห้องรับแขก


     

          ทุกคน ตื่นได้แล้ว!!~” เสียงของเนเวียทำให้ทุกคนเริ่มได้สติหลังจากการหลับใหลอันแสนยาวนาน

          ฮ้าว~ มิโดกิอยากหลับต่อจังเลย มิโดกิพูดพลางเอามือทั้งสองข้างขยี้ตา

          “นั่นสิเน้อ~” มิกิพูดและเริ่มเอามือขึ้นมาแคะขี้มูก -.,-

          “อาบน้ำได้แล้วนะทั้งสองคน..!!” โทมิพูดไล่ให้มิโดกิกับมิกิไปอาบน้ำ

           “อย่าทำตัวปัญญาอ่อนเป็นเด็กอนุบาลไป! ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ มาริเนะพูดเหมือนเป็นเจ้านายสั่งงาน

      ป๊อกๆๆ!!

             “อู๊ยย มิโดกิเจ็บจังเลยย

             “จ.. เจ็บ!! T^T”

             โอ๊ยย!!”

             พวกเธอควรหุบปากซะบ้างนะ!!” เสียงที่ดูกราดเกรี้ยวของคาซึมิทำให้ทุกคนต้องสยบและทำตามทันที

     

      ยาริกำลังนั่งถักไหมพรมคร่าเวลาอยู่บนโซฟา ถ้าทางจะถักเป็นผ้าพันคอละนะ ส่วนอาอิก็นั่งดูวิวตรงหน้าต่างไปเพลินๆพร้อมกับอ่านหนังสือไปด้วย เป็นงานอดิเรกของเธอเลยละ!

          “ว้าว! อาอิจังใส่เครื่องแบบแล้วน่ารักจังเลยนะ!” เนเวียพูดขึ้นอย่างผิดสังเกตุเมื่อมองไปที่อาอิ 

          ..อ๊ะ.. เอ่อ.. ขอบคุณค่ะ อาอิหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อได้ยินเนเวียกล่าวอย่างนั้น

          ฉันก็คิดอย่างนั้นนะ! ว่าไหมคะคุณคาซึมิ!” โทมิพูดแล้วหันไปถามความเห็นกับคาซึมิ

          ก็น่ารักดี คาซึมิพูดเรียบๆตามเคย แต่ก็แอบยิ้มอยู่บ้าง แต่แค่เพื่อนๆชมอย่างนี้อาอิคงจะมีความสุขมากแล้วละ!

        หลังจากรออยู่ไม่นานนักต่อจากนั้น มิโดกิกับมิกิก็แต่งตัวและจัดกระเป๋าเสร็จสรรพเรียบร้อย ยาริเห็นอย่างนั้นจึงวางไหมพรมที่ถักไว้แค่ครึ่งหนึ่งไว้บนโต๊ะและเดินออกจากห้องโดยมีเพื่อนๆคนอื่นๆตามหลังมาติดๆ

      6.50 AM

     @ Namimori School : โรงอาหาร

        ข้าวปูผัดผงกะหรี่อร่อยจังเลยย มิโดกิพูดขึ้นขณะเลียช้อนที่เปื้อน

        อร่อยจังเลยเนอะข้าวที่นี่เนี่ย >//<” มิกิพูดและเรอออกมา   =_=;;

        “ฉันว่ามันจืดไปหน่อยละยาริเอ่ยออกมาเมื่อกินแกงจืดหมด

        ยาริจัง.. ฉันว่าฉันทำน้ำหกลงไปในถ้วยแกงจืดเธอละ =()=;;” โทมิพูดต่อ

        “นี่นะ พวกเธอ ถ้าเสร็จแล้วก็ขึ้นห้องกันไปเลยคาซึมิพูดอย่างเบื่อๆแล้วยกเอาจานไปไว้ที่บริเวณที่จัดไว้เพื่อวางจานใช้แล้ว

        ...เนเวียเริ่มสังเกตุอาอิที่เอาแต่อ่านหนังสือ

        “เฮ้ อาอิจัง

        ..อะ..? คะ!” อาอิตอบอย่างงงๆ

        เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?? เนเวียถาม

        อ่า.. ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ งั้นฉันขอตัวขึ้นห้องก่อนนะคะ ^ ^” อาอิยิ้มอย่างเป็นมิตรและลุกเดินขึ้นไปชั้นบน ตามด้วยมิกิ มิโดกิ ยาริ มาริเนะ และโทมิ

        หึ.. เด็กๆก็ยังงี้ละ..คาซึมิรำพึงเบาๆก่อนจะเดินตามหลังขึ้นไป เหลือเพียงแต่เนเวียที่ยังคงเดินเล่นอยู่แถวๆนั้น

        7.50 AM

    @ Namimori School : ห้องปี2 B

           อาอินั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้มุมห้อง ขณะที่คนอื่นๆยังเล่นกันอย่างสนุกสนานเฮฮา ..

            “สวัสดีจ้ะ เสียงใสๆพูดขึ้นทักอาอิ

            อ๊ะ.. สวัสดีค่ะ..อาอิทักตอบ

            “เป็นนักเรียนใหม่งั้นเหรอ?  อาอิพยักหน้ารับ

            งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ ฉันชื่อซาซางาวะ เคียวโกะ แล้วเธอชื่ออะไรเหรอจ๊ะ? เคียวโกะพูดอย่างแจ่มใส.. เธอดูน่ารักมากเลยละ จริงไหม?

             อาคาเนะ อาอิ..

             ชื่อน่ารักจัง! ยินดีที่ได้รู้จักนะ ^ ^” พูดเหมือนเคียวยะเลยแฮะ เธอคนนี้ =3=;;

              “แฮ่กๆๆๆๆๆ ..!! ถึงจนได้ เสียงสึนะดังมาจากประตูห้อง

              สึนะคุง สวัสดีจ้ะ เคียวโกะทักทายสึนะอย่างสดใสเช่นเคย

              สวัสดีค่ะคุณซาวาดะ

              อื้ม สวัสดีทั้งสองคน อาอิ เรียกฉันว่าสึนะก็ได้นะ ^ ^;;” อาอิพยักหน้ารับอีก

        กริ๊งงงงงงงง..........

        เสียงกริ่งนี้เป็นเสียงกริ่งที่ทำให้รู้ว่า.. ถึงเวลาเข้าเรียนแล้วนะ เป็นสัญญาณอย่างดีที่บอกให้รู้ว่าคุณครูกำลังจะเข้ามาโฮมรูม

              เอ้า นักเรียน เงียบกันได้แล้ว วันนี้มีเด็กใหม่หลายคนนะ!” นั่นไง เสียงคุณครูสาวคนนั้นป่าวประกาศขึ้นซะแล้ว แต่ดูทั้งห้องกลับฮือฮากับเหล่านักเรียนใหม่

              ดูเธอคนนั้นสิ คนผมสีเงินยาวๆอะ สเปกชั้นเลย

              ไม่ละ ฉันว่าฉันชอบผู้หญิงผมฟ้าคนนั้นมากกว่า

              ไม่เว้ย น่ารักที่สุดต้องผู้หญิงผมสีเงินสั้นๆคนนั้นน่ะ

              คนผมสั้นน่ะ น่ารักสุดแล้วละว่ะ

    มีเสียงคล้ายๆแบบนี้ดังขึ้นอยู่ทุกส่วนของห้อง

               สวัสดีค่ะ! ฟุกิเมะ มิโดกิ ค่า ^0^//” มิโดกิแนะนำตัวอย่างสดใส

               หวัดดีฮะ เอ๊ยย จ้า โมโมโระ มิกิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ!”

               “ทาคาฮาตะ มาริเนะ ฉันคิดว่าคงไม่ต้องแนะนำมากกว่านี้นะ -__-”

               “อาคาเนะ อาอิค่ะ

               “เนเวีย! อาโอยาม่า เนเวียจ้ะ!”

                “ยาหิงาวะ ยาริกะ หรือจะเรียกว่ายาริก็ได้

                “มามินาริ โทมิ ยินดีที่ได้รู้จัก

                งั้นทุกคนแยกย้ายไปนั่งตามที่ตัวเองชอบเลยละกันนะ สิ้นเสียงอาจารย์ อาอิตัดสินใจไปนั่งริมหน้าต่างโดยมีเคียวโกะนั่งอยู่ข้างๆ มิกิกับมิโดกิก็นั่งข้างกันตรงแถวหน้าของแถวที่ยาริกับอาอินั่ง มาริเนะและโทมิ ก็นั่งข้างหน้าแถวของแถวที่มิกิกับมิโดกินั่งอีก ส่วนเนเวียก็นั่งอยู่กับยาริ

       ……………………………………………………………….

    12.00 AM

    @ Namimori School : ห้องปี2 B

                    “พักกลางวันซะที! ไปกินข้าวบนดาดฟ้ากันนะ!” เนเวียพูดขึ้นชวน

                    เย้ กินข้าวๆ >0<” มิโดกิพูดพลางโยนกล่องข้าวเป็นเหมือนลูกบอล

                    “เดี๋ยวเถอะมิโดกิ เดี๋ยวข้าวมันก็หกหรอกนะ!” มาริเนะร้องเตือน แต่คงไม่ทันซะแล้ว..

       แผละ

                    แง้ ข..ข้าวกล่องของเค้า T^T” มิโดกิร้อง

                    นั่นไง ฉันเตือนแล้วนะ -_-”

                    ไม่เป็นไรหรอกค่ะมิโดกิจัง เดี๋ยวมาแบ่งข้าวกับฉันก็ได้ อาอิพูดปลอบใจ

                    กระซิกๆ

                    งั้นฉันรอบนดาดฟ้านะ.. คาซึมิเดินนำขึ้นไป ขณะนั้น คนอื่นๆก็เริ่มลดความเร็วในการขึ้นบันได(เพื่ออะไรฟะ?)แล้วก็สนทนากัน

                    โทมิว่า แต่ละคนคงมีชายในฝันแน่เลยใช่ม้า..?? โทมิพูดเพื่อสร้างสีสันขึ้นในความเงียบ

                     “ใช่แล้วๆ มิโดกิฝันว่า มิโดกิเจอเจ้าชายรูปงามมากๆเลยละ~ > <” มิโดกิตอบอย่างกระตือรือร้นเต็มที

                      “ ต้องใจดี ใจเย็น ไม่ใจร้อนเกินไป นี่แหละ ชายในฝันของเค้า โอ๊ะ หน้าตาต้องดีด้วยนามิกิพูดต่อ ดูท่าทางชอบคนใจดีนะ มิกิจังง

                      สอบได้คะแนนดีหน่อย หน้าตาขอเอาหล่อๆ ฉลาด สมองไม่ตัน มาริเนะเริ่มพูดต่อจากมิกิ

                      ใจดี น่ารัก อ่อนโยน เข้ากับคนง่าย นี่ละสเปกฉันเลย~” เนเวียพูดขึ้นอย่างเคลิบเคลิ้ม หวังว่าจะมีสักคนนะ ที่นิสัยเหมือนเธอน่ะ =w=;;

                       “ยังไงก็ได้ละ พูดรู้เรื่องแล้วหน้าตาโอเคก็พอยาริพูดอย่างเซ็งๆ เหมือนเธอไม่เคยคิดเรื่องนี้

                       ฉันก็.. ขอน่ารักๆ หล่อๆหน่อย >///< แล้วอาอิจังละ? โทมิหันหน้าไปถามอาอิทันที

                        เอ่อ.. ฉันก็.. ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ อาอิไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร เลยตอบไปอย่างนั้น

                         “งั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าเจอแล้วแต่ไม่อยากบอกหรอกนะ -_-” มาริเนะพูดเหมือนอ่านใจออก

                          “ม..ไม่ใช่นะ =()=ll” อาอิหันมาตอบทันที

                          ช่างเถอะเรื่องนั้นน่ะ มิโดกิหิวข้าวจะตายอยู่แล้ว -3-” สิ้นเสียงมิโดกิ ทุกคนก็โผล่มาบนดาดฟ้า แล้วก็ได้ยินเสียงโวยวายเสียงดัง

                          
    ดีแล้วที่โผล่มา คาซึมิพูด และเริ่มพูดต่อ พวกเธอช่วยคุยกับนายนี่ให้หน่อยแล้วกัน ฉันคุยแล้วประสาทเสีย -__-++”คาซึมิพูดและเดินหลีกไปหยิบกล่องข้าวมานั่งกิน

                            ????? อะไรอ่า?มิโดกิพูดและเริ่มเกาหัว

                            คงคุยกับคนสติไม่เต็มมาละมั้งยาริเอ่ย

                            เอ๊.. อะไรของเขาน้า..

         อาอิมองไปรอบๆ แล้วก็พบว่ารั้วเหล็กได้ล้มลงมาเป็นแถบๆ นอกจากนั้นเธอยังสังเกตเห็นชายผมบลอนด์ที่น่าจะไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นอยู่กับพวกสึนะ เห็นพวกคนกลุ่มนั้นกำลังคุยอะไรกันอยู่ อาอิจึงเงี่ยหูฟังขณะแบ่งข้าวให้มิโดกิเงียบๆ

                         ? ผู้หญิงคนเมื่อกี๊นั่นใครน่ะสึนะ ดูเย็นชาจัง =_=;; เหมือนเคียวยะไม่มีผิดชายคนนั้นพูด

                         คงเป็นนักเรียนใหม่มั้งครับ เห็นว่าวันนี้นักเรียนใหม่เยอะ ห้องผมประมาณ7คนได้ละครับสึนะตอบเขา      

                         แถมมีเด็กสติไม่ครบที่มีหัวสีเขียวๆอยู่ด้วย -__-”

                         อย่าไปว่าเขาเลยน่า โกคุเดระคุง       

                         นั่นสิโกคุเดระ ที่จริงมิโดกิอาจสติครบกว่านายก็ได้ 

                         หุบปากไปเลยนะเจ้าบ้าเบสบอล!”   

              ยัยหัวเขียว? มิโดกินี่โดนประจำเลยนะ สงสัยจะเป็นฉายาของเธอไปแล้วมั้ง อาอิคิดแล้วฟังต่อ

                          “แล้วนายคิดว่าคาซึมิเป็นยังไงบ้าง ดีโน่? รีบอร์นถาม

                          ก็ท่าทางอึดพอดู สัญชาตญาณการต่อสู้ไม่แพ้ใครเลย ออกแนวน่ากลัวรับมือยากเหมือนกันแฮะ สังเกตได้จากลูกเตะเมื่อกี๊เลยละ = =;;” คนที่รีบอร์นเรียกว่าดีโน่พูดเชิงคำตอบ

                           นั่นแหละ ลูกศิษย์อีกคนของนาย ยินดีด้วยที่จะมีลูกศิษย์ถึงสองคนรีบอร์นพูดเสริม แอ๊ะ! นั่นมันตอกย้ำกันรึเปล่า??!!

                            ห๊ะ! =[]=! มันเหมือนกับฉันแบกอเวจีมหานรกสองขุมเอาไว้บนบ่าเลยนะ!!” พูดเปรียบเทียบได้จี๊ดมากเพ่ !! ไรต์เตอร์ขอลอกนะก๊ะ =w=!

                            ถือเป็นการฝึกครั้งสุดท้ายของนายละกัน ดีโน่รีบอร์นพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ..โอ้ว.. ดีโน่ผู้น่าสงสาร..

                             เฮ้! อาอิจังกินหมดแล้วเหรอ! ไวจัง!!” เสียงโทมิทำให้สติของอาอิกลับคืนมา เอ๊ะ?กินไปตั้งแต่เมื่อไรน่ะเทอว์ =A=;;

                              “อ๊ะ .. อืม..อาอิพูดอะไรไม่ได้เพราะเธอก็แทบไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าเธอกินเข้าไปหมดแล้ว

                            อ๊ะ นั่นพวกนักเรียนใหม่นี่! ” สึนะพูดขึ้นขัดต่อ

                            โอ้! สวัสดีจ้าสึนะคุง! เอ๊ะ สึนะใช่มั้ย!?” เนเวียพูดกลับอย่างร่าเริง

                            อ๊ะ นั่นคนที่อยู่ที่ร้านซุชินี่ มิกิร้องขึ้นเตือนสติเพื่อนๆ

                            อ๊ะ! จริงด้วยแฮะ!” มาริเนะทักต่อ

                           อ้าว พวกเธอเองเหรอ สวัสดี!” ยามาโมโตะ  ทาเคชิ ลูกของเจ้าของร้านซูชิที่ทางคณะทัวร์ได้ไปมาพูดทักพวกเธอ แต่ช่วงเวลานี้เองที่อาอิลงจากดาดฟ้าไปโดยไม่บอกกล่าว

                อาอิวิ่งลงบันไดไป ระวังสะดุดขาตัวเองล้มนะจ๊ะตัวเองง~~ >w<

                         อ๊ะ!!” อาอิร้องเสียงหลง.. นั่นไงล่ะ พูดยังไม่ทันขาดคำ ซาโยนาระนะจ๊ะตะเองงง -w-//

            ผลั่ก!!~

                   >[]< มันต้องเจ็บแน่ๆเลย ฉันคงมีแผลสักที่สองที่ ไม่สิ สักสี่ที่เลยดีกว่า..!! เอ.. แปลกจัง ทำไมไม่เจ็บเลยซักแอะ..? อาอิคิด คิดว่าทำไมละ เทพบุตรมารับตัวเธอเหรอ -__- แต่ฉันว่าอาจจะเป็นยมบาลมากกว่า (//โดนตบ)

                       นี่ คุณน่ะ.. ลุกได้รึยัง? เสียงเย็นๆพูดถาม โอ้วแม่จ้าวว ยมบาลจริงๆด้วยย (//โดนกระทืบ) ช..ใช่แล้ว ยมบาลคนนั้นคือ .... ฮิบาริ เคียวยะ นั่นเอ๊งง..ง..!! ที่เขาถามน่ะ ไม่มีอะไรหรอก เพราะสภาพในตอนนี้อาอินอนทับเขาอยู่น่ะสิ ดีจังเลยเนอะได้นอนทับยมบาล เป็นประสบการณ์หายากเหลือเกิ๊น..

                         ขอโทษค่ะ!!” อาอิรีบลุกขึ้นออกจากร่างเคียวยะทันที ..ดีแล้วละ เหอะๆ

                             “....” เขาไม่พูดอะไร พร้อมกับลุกขึ้นยืนจากการล้มทับของเธอเมื่อกี้

           ..อ่า ทำไงดี เค้าคงโกรธแน่เลย อาอิคิดอย่างซึมๆ

                            “...” และเขาก็ยังไม่พูดอะไรเช่นเดิม แล้วเขาก็เดินกลับไปยังห้องกรรมการคุมกฏ

           ..แต่ว่า.. อาอิคิดอีก เมื่อกี้ ฉันได้นอนทับคุณฮิบาริด้วยยย >//< อาอิคิดอย่างสดใส.. มันดีอยู่แค่นั้นสินะ อาอิเอ๋ย..

           อ้อ! จริงสิ ฉันควรต้องขอโทษเค้านี่ -__-ll ..ใช่แล้วจ้ะ =_=  เมื่อคิดดังนั้นอาอิจึงเดินไปเปิดประตูเสนอหน้าที่ห้องกรรมการคุมกฎ

                       เอ่อ..คุณฮิบะ...ริ = =;;”   บรรยากาศในห้องช่างวังเวงซะเหลือเกิน ..

                        “....” เคียวยะนั้นยังนั่งบนเก้าอี้โดยหันหลังให้เธออยู่แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

                        “คะ..คือว่าเรื่องเมื้อกี้ ขอโทษด้วยนะค่ะ ฉะ..ฉันไม่ได้ตั้งใจ. อาอิพูดขอโทษไปเพื่อทำลายความเงียบในห้อง

                         “...เคียวยะยังไม่ตอบเช่นเคย.. เฮ้อ.. ที่ไม่ตอบเพราะอะไรกันน้า.. หรือไรต์เตอร์สมองตันเลยใช้มุขเงียบติดต่อกันแปดบรรทัด?

               ..สงสัยเค้าคงโกรธฉันแน่เลย... อาอิคิดในใจ

                           “ถ้ายังโกรธฉันอยู่ก็ไม่เป็นไรค่ะ... อาอิเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

                              “..ยัยโง่เอ๊ย! ..เคียวยะสบถพูดออกมาหลังจากอาอิเดินออกจากห้อง ใครจะไปรู้ละ! ถ้าสังเกตดีๆแล้วก็จะเห็นว่าเคียวยะกำลังหน้าแดงและที่ไม่พูดอะไรก็เพราะเขินนั่นเองละ! ซึนเหมือนกันนะนายเนี่ย.. =()=

               ..อาอิเดินออกไปนั่งเล่นตรงม้านั่งใต้ร่มต้นไม้ใหญ่ บริเวณนั้นก็ไม่ค่อยมีคนมากมาย นี่ละที่ๆอาอิชอบ คือไม่ค่อยมีคน จะได้มีสมาธิอ่านหนังสือและทำใจ(?)..

                              อ้าว อาอิ ฉันตามหาเธออยู่แน่ะ.. คาซึมิที่เพิ่งเดินมาเดินเข้ามาหาอาอิ

                               เอ๋? คุณคาซึมิทานข้าวเสร็จแล้วเหรอคะ??อาอิถามขึ้น

                               กินไม่ลงน่ะ.. พอดีมีคนมากวนใจอยู่..คาซึมิพูดทั้งๆที่หลบสายตา

            ..อยากรู้จัง.. ใครมากวนใจคุณคาซึมิ..? อาอิคิด

                                ว่าแต่ เธอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คาซึมิถามกลับ

                                เอ่อ..คือ..ว่า.เรื่องมันยาวนะค่ะ แฮะๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง..

                                 หมอนั่นอีกแล้วสิ ใช่มั้ย..?

           ...ฉึกๆๆๆๆ...เสียงมีดทิ่มทะลุหัวใจพวกนี้มาจากไหนกันมากมาย...

                 เขาโกรธเธอแน่เลย

                โอ้วว..มันช่างตรงมากค่ะ คุณคาซึมิ TT ยิ่งพี่แกพูดมันตอกย้ำ  

                "เขาอาจจะไม่พูดกับเธออีก ไม่ก็..

    คาซึมิยังพูดไม่จบอาอิก็ชิงพูดซะก่อน

                "พอเถอะค่า แค่นี้ก็เข้าใจแล้ว มะ..ไม่ต้องย้ำก็ได้นะค่ะ" 

                          "เฮ่อ! คงใช่สินะ" เธอกล่าวขึ้นเมื่อเหนอาอิมีสีหน้าเจ็บปวด.. ก็เพราะคำพูดของเธอนั่นละ..

               
    ..แล้วความเงียบก็เข้าปกคลุมบริเวณที่อาอิกับคาซึมินั่ง....

                           “วะ..ว่าแต่คุณคาซึมิ ถูกใครกวนใจมาเหรอค่ะอาอิถามก่อนเพื่อทำลายบรรยากาศมาคุ..ยิ่งเวลาอยู่กับคาซึมิแล้ว เค้าเรียกว่า ป่าช้าเรียกทวด!

    เธอปรายตามองมานิดๆอย่างไม่เต็มใจที่จะเล่านัก....

                           “อ่า ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องก็ได้ค่ะเมื่ออาอิเห็นสายตานั้นก็เลยไม่รบกวนที่เซ้าซี้ต่อให้เสียเวลา 

                           “เฮ้อ! งั้นฉันจะเล่าให้ฟังก็ได้คาซึมิพูดขึ้น

    ......อะ...อะไรนะ.?!? ฉันหูฝาดไปรึป่าวเนี่ย! ทุกทีถ้าถามแบบนั้นไปจะไม่เคยได้คำตอบนี่นาแถมได้สายตาไม่พอใจส่งมาด้วยอีกต่างหาก 
    …….หรือว่าวันนี้หิมะจะถล่มมมมม!!! =[]=…………. อาอิคิดอย่างตื้นเต้น..

                           “ถ้าเธอยังทำหน้าแบบนั้น ฉันก็ไม่เล่าเธอพูดตัดบทเมื่อเห็นหน้าตาของอาอิที่ตอนนี้มีแต่ความอึ้ง?

                           “ฟะ..ฟังสิคะอาอิรีบพูดเพราะกลัวจะอดฟัง

    ...............................

                   

    o                                            เฮ้อ! เบื่อจังเลยสิ่งมีชีวิตที่เป็นคนและชื่อว่าดีโน่กำลังบ่นด้วยความเซ็งกับพวกสึนะ

    ตึก...ตึก...ตึก

         เสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังก้าวเท้าขึ้นมา...ทำให้ดีโน่ที่กำลังเบื่อมองไปด้วยความสนใจ
                             “ใครน่ะเขาถาม..แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ
    หรือว่าจะเป็นเคียวยะ... ดีโน่คิดในใจ คงต้องเซอร์ไพรส์สักหน่อยหล่ะ

    3...2.....1!!

         ดีโน่รีบวิ่งไปเหมือนกับวิ่งมาราธอน แล้วกระโดดเทคตัวตีลังกาสองรอบ เสร็จแล้วก็ลงมายืนอย่างสวยงาม แต่โชคร้ายที่หินเจ้ากรรมดันมาอยู่ซะได้ ทำให้ ดีโน่เซถลาไปกอดกับใครบางคนที่ขึ้นบันไดมา....

                “เคียวยะ เอ่อ..นั่นนายใช่มั้ยล่ะดีโน่ถาม

                 “นะ...นายเป็นใครกัน แล้วใครอนุญาตให้แตะต้องตัวฉัน!!!” ..เสียงนั้นตอบกลับมาแต่ไม่ได้ตอบคำถามของเขานี่สิ...

            เอ๋
    ? เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของเคียวยะนี่! = = ..เอ่อ..แล้วมันเป็นใคร
    คิดได้ยังงั้นก็เลยเงยขึ้นไป..ปรากฏว่า... ..

       ... คนนั้นไม่ใช่เคียวยะแต่เป็นคาซึมิ..

    ....ซวยแน่ ดีโน่เอ๋ย.....

     ผึง! เสียงความอดทนในเส้นสมองของคาซึมิขาดผึง
     

    .    ..เพราะไม่เคยมีใครมาแตะต้องตัวเธอแบบนี้ ..ยิ่งเป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักซะด้วย...
    พลึ่ก! เฟี้ยว! ตึง! โครม!

    เราจะอธิบายความหมายของแต่เสียงที่เป็นลำดับขั้นได้ดังนี้
    1.พลั่ก! >> คาซึมิหวดลูกเตะไซด์คิกใส่ดีโน่
    2.เฟี้ยว! >> ดีโน่ที่โดนลูกเตะเข้าเต็มเปาปลิวไปตามแรงถีบ
    3.ตึง! >> เสียงดีโน่ที่ชนเข้ากับผนังอย่างจัง
    4.โครม! >> เสียงของรั้วเหล็กที่อยู่บนดาดฟ้าถล่มลงมาเป็นแถบเหมือนโดมิโนที่เรียงตัวล้มลงมาอย่างสวยงาม..

                       
    "อืมม..หน่วยก้านดีใช้ได้เลยแฮะ" รีบอร์นที่นั่งดูอยู่พูดเบาๆ

                       "คุณดีโน่!!!!! เป็นอะไรรึป่าวครับ" สึนะที่ได้สติรีบวิ่งไปดูอาการของดีโน่ที่เกือบเป็นศพถูกฝังใต้ผนังกำแพงซะแล้ว =A=;;…

                       "ม..ไม่เป็นไร แค่ปางตาย" เขาตอบสึนะ

    ส่วนคาซึมิเมื่อเหตุการณ์นั้นผ่านไป สติของพี่แกก็กลับมาสงบดังเดิม

                       "จำไว้นะ อย่ามาแตะต้องตัวฉันอีก ไม่งั้นต้องโดนแบบนี้" เธอพูดทิ้งท้ายไว้

    ..เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่พวกสาวๆขึ้นมาบนดาดฟ้าพอดี...
    .......................................................

        ...เพราะเหตุนี้นี่เอง ที่กำแพงมันถึงล้มระเนระนาดราบเป็นหน้ากลอง = = ;; อาอิคิด

    ·        

    ·                                ฉันเล่าจบแล้ว ทีนี้ถึงตาเธอบ้างหล่ะพอคาซึมิเล่าจบ เธอก็ย้อนถามเรื่องของอาอิทันที

    ....อาอิที่กำลังฟังเรื่องอย่างเคลิ้มๆ? ก็แทบตั้งตัวไม่ทันกับคำถาม...
    หะ..ให้เล่าตอนนี้เลยเหรอคะ?” เธอถาม
    ก็ใช่น่ะสิคาซึมิตอบ
                      “..เอ่อ..เรื่องมีอยู่ว่า..แต่ยังไม่ทันที่อาอิจะได้เล่า เสียงกริ่งเข้าเรียนก็ดังขึ้น

    ......เฮ้อ! รอดตัวไป ......

                       “งั้นก็ไม่เป็นไร เข้าห้องเรียนก็เถอะคาซึมิบอกพร้อมกับลุกขึ้นแล้วก็เดินไปโดยไม่สนอาอิ

                        “ดะ..เดี๋ยวสิค่ะคุณคาซึมิ! รอก่อนอาอิที่เพิ่งลุกจากเก้าอี้ก็รีบวิ่งตามไป
    ……………………………………………………………

     


                 
       

                          











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×