คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Special : ???
“หยุดโวยวายสักทีได้ไหม ยัยมาริเนะ ขี้หูฉันแทบจะลุกขึ้นมาเต้นอยู่แล้ว!” มิกิพูดด้วยความเซ็งสุดกู่เนื่องจากทนฟังเสียงเอะอะโวยวายตั้งแต่สิบนาทีก่อน
“ก็มันน่าโมโหนี่นา ฉันก็ไม่ได้อยากไปอยู่ชมรมเดียวกับนายหมึกนั่นสักหน่อย!”มาริเนะโต้กลับบ้าง
“เอาน่าอย่าทะเลาะกันเลย ใจเย็นก่อนนะทั้งสองคน”อาอิปรามเพื่อไม่ให้เรื่องราวยืดเยื้อมากกว่านี้
แต่รู้สึกว่าทั้งคู่ไม่ได้ฟังที่อาอิพูดเลยแถมยังจ้องหน้ากันไม่วางตาและพร้อมที่จะตีกันทุกเมื่อถ้าคุณคาซึมิไม่พูดขวางไว้ซะก่อน
“ถ้าไม่หุบปากฉันจะปิดให้เอง” ว่าแล้วก็หยิบพัดอาวุธประจำตัวขึ้นมา
เมื่อได้ยินและเห็นดังนั้นทั้งคู่จึงใจเย็นลงแล้วก็นั่งบนโซฟาโดยไม่ยอมมองหน้ากันแต่น้อย
“จะเอายังไงดีล่ะ”ยาริที่มองดูเหตุการณ์อย่างเงียบๆมาตั้งแต่ต้นได้หันมาถามความคิดเห็นของคนที่เหลือ
“ไม่รู้สิ”เนเวียบอกไปอย่างซื่อๆเพราะในสมองไม่เคยคิดอะไร
“...”ส่วนมิโดกิก็ยังคงเล่นกับเจ้านกฮูกยูคิ
เหลือคนสุดท้ายคือโทมิ ตอนแรกเธอทำท่าเหมือนคิดหนักแล้วต่อมาก็เธอก็ยิ้มกริ่มเหมือนมีแผนในใจไว้แล้ว
“ฉันคิดออกแล้วล่ะว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีน่ะ”โทมิพูดโพล่งออกมา ไม่ทันขาดคำทุกคนในห้องก็หันมามองเธอเป็นตาเดียวไม่เว้นแม้แต่คุณคาซึมิ
“อะไรกันเนี่ย! ฉันจับได้ชมรมจัดดอกไม้ ให้ตายสิ”มาริเนะเริ่มเปิดปากโวยวายเมื่อจับสลากได้ชมรมที่ตัวเองไม่ชอบ
“หรือเธออยากจะไปอยู่ชมรมดนตรีเหมือนเดิมล่ะ”มิกิพูด
“งั้นชมรมทำอาหารก็ยังดีกว่าไปอยู่ชมรมดนตรีนรกนั่น”จากเสียงโวยวายเริ่มเป็นเสียงพูดเบาๆ มันก็จริงแหละ ดีกว่าเจอหน้านายนั่น
“แต่ฉันจับได้ชมรมนรกนั่นน่ะ”เนเวียยิ้มเจื่อนๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
........เอ๋? มันเกิดอะไรขึ้นกันหนอ งั้นเราย้อนเวลาไปดูเมื่อ15นาทีที่แล้วกันเถอะ
.
โทมิได้เสนอว่าให้เพื่อนๆสลับชมรมกันโดยจับสลากที่ได้ทำขึ้นมา ผลปรากฏว่า มาริเนะได้ไปชมรมจัดดอกไม้ มิกิได้ไปชมรมแบตมินตัน อาอิได้ไปชมรมว่ายน้ำ ยาริได้ไปชมรมเทนนิส คาซึมิได้ไปชมรมศิลปะ เนเวียได้ไปชมรมดนตรี มิโดกิได้ไปชมรมประกาศข่าว ส่วนคนสุดท้ายโทมิได้ไปชมรมบาสเกตบอล
.... จึงเป็นที่มาของเสียงคุยเหล่านั้น
.
และเหล่านี้........
“อ่า ทำไงดีฉันว่ายน้ำไม่เป็น”อาอิเริ่มกังวลกับชมรมใหม่
“งั้นก็เป็นโอกาสอันดีที่เธอจะได้หัดว่ายน้ำเป็น ว่าแต่คุณคาซึมิ ไอ้บาสเกตบอลเนี่ยเล่นยากมั้ย”โทมิตอบพร้อมถามคุณคาซึมิไปด้วย
“ไม่ยากหรอก แค่อาจเจ็บตัวนิดหน่อย”เธอตอบเสียงเรียบโดยที่ตาก็ยังคงมองไปที่หนังสือในมือ
...จะ..เจ็บตัวนิดหน่อยงั้นเหรอ = =...โทมิคิดอย่างหวั่นๆ
“ฉันจับได้เทนนิส ยากกว่าบาสเกตบอลอีกนะ”ยาริบอก
“ว้าวดีจังเลยนะ มิโดกิจับได้ชมรมประกาศข่าวแหละ ยูคิก็ดีใจด้วยเหรอ”มิโดกิหันไปคุยกับเจ้านกฮูกยูคิที่ตอนนี้มันกำลังตีปีกพั่บๆเหมือนดีใจด้วยกับมิโดกิ แต่ก็ต้องหยุดเมื่อคาซึมิมองมาทางนี้....
“อ้าว!ไม่ได้ดีใจเหรอเนี่ย” เธอมองยูคิอย่างงงๆที่ตอนนี้มันสงบเสงี่ยมทำตัวแข็งเป็นหินเหมือนรูปปั้น
13.00 PM
@Namomiri School
หลังจากนั้นทุกคนก็เตรียมตัวพร้อมจะไปยังชมรมที่ตนเองจับได้
“เอาล่ะทุกคนขอให้โชคดีนะ....กับชมรมใหม่” โทมิบอกส่งท้ายก่อนจะแยกย้ายกันไป...
.......................................................................
Tomi Mode
..ว่าแต่ไอ้ชมรมบาสเกตบอลมันอยู่ไหนล่ะเนี่ย - -;; ดันลืมถามคุณคาซึมิไว้ซะด้วย ฉันไม่น่าเป็นคนขี้ลืมเลย T^T .....
อืม.งั้นเราลองไปถามคนนั้นดีกว่า น่าจะไว้ใจได้ ...
“ขอโทษนะคะ ชมรมบาสเกตบอลไปทางไหนคะ?”ฉันถามคนตรงหน้าที่ตอนนี้เหมือนกำลังวอร์มร่างกายโดยการวิ่งอยู่กับที่
“อะไรนะ เธอจะมาเข้าชมรมมวยด้วยกันเหรอ ไม่ไหวมั้ง”เขาตอบแต่ไม่ตรงคำถามเนี่ยสิ
...อ่า ฉันไม่ได้จะมาหาชมรมมวยนะคะ...
“ถ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไรค่ะ”ฉันบอกและกำลังจะก้าวขาเดินออกไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเขาคว้าข้อมือฉันไว้
“ล้อเล่นน่า ฉันรับเธอเข้าชมรมมวยแน่นอน” เขาพูด
แอ๋?!? ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไปเข้าชมรมนั่น ใครก็ได้ช่วยหนูที จากไอ้คนโรคจิตคิดไปเอง แงๆ
“อ้าว!พี่ และก็โทมิ มาทำอะไรตรงนี้น่ะ” เสียงใสๆที่คุ้นหูดังขึ้น หรือว่าสวรรค์จะมีตาส่งนางฟ้ามาช่วยฉันจากซาตาน? แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา... “อ้าว!คุณเคียวโกะมาทำอะไรที่นี่ล่ะคะ”
คนที่เข้ามาขัดจังหวะได้พอดิบพอดีไม่ใช่ใครแต่เป็นเคียวโกะนั่นเอง
“อ๋อ ฉันมาหาพี่ชายนะจ้ะ” เธอตอบพร้อมยิ้มมาให้ แล้วไหนพี่ชายของเธอล่ะ -_-?ฉันมองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอใครนอกจากผู้ชายที่อาจจะโรคจิตคนนี้ เอ๊ะ! อย่าบอกนะว่า....
“คนนี้เหรอค่ะ =O=”ฉันชี้ไปทางเขา แล้วเธอก็พยักหน้า “อ้อ! พี่ฉันชื่อซาซางาวะ เรียวเฮนะ”
.......พี่น้องช่างต่างกันราวกับฟ้าและเหวลึก.....
“แล้วโทมิมาทำอะไรล่ะจ้ะ”เธอถาม “อ๋อ พอดีฉันหาชมรมบาสไม่เจอ เลยมาถามคนโรค..เอ้ย! พี่ชายเรียวเฮคนนี้น่ะค่ะ” ฉันตอบ
“ไม่ได้นะ ไหนเธอบอกว่าจะเข้าชมรมมวยไงล่ะ”เขาแย้ง
“พี่คะ อย่าเอาแต่ใจสิคะ”เธอบอกพี่ แล้วก็หันมาบอกกับฉันว่า “งั้นฉันจะพาไปนะจ้ะ”
ดังนั้นฉันจึงได้มาที่ชมรมบาสเกตบอลอย่างปลอดภัย ถ้าไม่มีคุณเคียวโกะล่ะก็ ป่านนี้ฉันคงต้องไปเป็นนักมวยหญิงแน่เลย... =A=; เมื่อมาถึงคุณเคียวโกะก็ขอตัวกลับไป ส่วนตัวฉันก็ยังไม่หมดเวรกรรมต้องมาเจอกับซาตานอันดับสอง ยัยเมรุ - -; ที่อยู่ชมรมเดียวกัน
“เชอะ! เธอเล่นได้แค่นี้เองเหรอ” เธอพูดดูถูกฉัน
“งั้นก็ไปแข่งกับคุณคาซึมิเองสิ!”ฉันประชดจนเธอเงียบไปไม่กล้าพูด เอาแต่ก้มหน้า หรือว่าชื่อคุณคาซึมจะไปแทงใจอดีตอันเลวร้ายของเธอเข้า?
“หยุดพูดถึงแม่นั่นไปเลยนะ” ยัยเมรุงอนตุ๊บป่องซะแล้ว ช่างเถอะ จะว่าไปแล้วบาสเกตบอลก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดแฮะ หัวหน้าทีมอย่างคุณนาโอกิก็ดี แต่แล้ว.....
โป๊ก! เสียงของลูกบาลที่โยนมาจากใครบางคนกระแทกหัวฉันเต็มๆ
พอหลังจากเสียงนั้น ฉันก็รู้สึกว่า จะเห็นดาวเต็มท้องฟ้าเลยแฮะ......................................................................................................................................
Midoki Mode
พอมาชมรมนี้แล้วรู้สึกตาลายจัง มีแต่ตัวหนังสือผ่านเข้ามาในสมองยั้วเยี้ยเต็มไปหมดเลยแฮะ
ไม่รู้ว่าอาอิอยู่ชมรมนี้ได้ยังไง ฉันต้องเร่งทำวารสารโรงเรียนซึ่งจะต้องให้เสร็จภายในเย็นนี้
กระซิกๆ ฉันอยากกลับไปเล่นกับเจ้ายูคิจังเลย คิดแล้วได้แต่เศร้าใจ..
“มัวร้องไห้อยู่นั่นแหละ เมื่อไรงานจะเสร็จน่ะ”พี่ไดกินะ รองกรรมการคุมกฎบอกแกมดุ
“TT” เผลอร้องไห้มาเมื่อไรก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ
“เฮ้อ! ให้ตายสิ ฉันต้องมานั่งปลอบเด็กอายุ 14 อีกเหรอเนี่ย”เขาพูดแบบปลงๆ
......แหงสิ ฉันไม่ใช่อาอิจังสักหน่อย TOT
..
“งั้นฉันช่วยก็ได้”เขาบอกพร้อมกับช่วยเรียบเรียงเอกสาร
...เย้! พี่รองกรรมการคุมกฎคนนี้ใจดีจัง....
และแล้วฉันกับพี่ไดกินะก็ช่วยกันทำวารสารจนเสร็จ ว่าแต่ฉันเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า พวกฝ่ายรับทำเอกสารมันหายไปไหนกันหมดเนี่ย - -;; ทำไมมันไม่มาช่วยกันสักคนนะ
“สงสัยคงไปเอาข้อมูลมาทำเพิ่มล่ะมั้ง เผื่อมีอะไรน่าสนใจมาลง”เขากล่าวอธิบายที่เกือบเป็นหางว่าว
“งั้นฉันจะไปตามนะคะ”ฉันบอกพร้อมกับเดินไปที่ฝ่ายหาข้อมูล แล้วเมื่อไปถึงก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นก็ได้พบคำตอบเมื่อเปิดประตู
.....พวกนั้นกำลังนั่งดูการ์ตูนกันอยู่ พับผ่าสิ! = =.....
“ขะ..ขอโทษนะคะที่มาขัดจังหวะ” ฉันปิดประตูแล้วก็รีบเดินออกไปให้เร็วที่สุด
......ที่แท้ก็แอบอู้งานไปดูการ์ตูน ไม่น่าล่ะหายเงียบไปเลย......
ฉันมารู้ตัวอีกทีก็เดินมาถึงห้องฝ่ายวารสารแล้ว
“เป็นไงบ้าง พวกนั้นหาข้อมูลได้ถึงไหนแล้วล่ะ”เขาถามโดยที่กำลังก้มหน้าก้มตาเย็บวารสารให้เรียบร้อยเป็นเล่มๆ
...จะตอบไงดีเนี่ย ให้ตอบว่า ‘กำลังหาข้อมูลเรื่องการ์ตูนที่แสนจะไร้สาระอย่างสุดใจขาดดิ้น’ก็แปลกๆอยู่นะ.....
“หืม? ว่าไง”เขาถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นฉันยืนนิ่งกำลังคิดหาคำตอบอยู่
“ถ้าอยากรู้ พี่ไดกินะก็เชิญไปหาและได้เห็นด้วยตาของตัวเองสิคะ” อืม คำตอบนี้คงจะดีแล้วล่ะมั้ง
เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ทำไมพี่เขาถึงได้เตรียมอาวุธไว้อย่างนั้นล่ะเจ้าค่ะ -o-;;
แล้วก็เดินออกไปจากห้อง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังสู้กัน ไม่สิ เหมือนคนกำลังถูกรุมยำซะมากกว่า หรือว่า...
ตุ้บตับ! โครม! เพล้ง!
......เมื่อเสียงนั้นหายไป พี่ไดกินะก็เดินกลับมาโดยไร้ร่องรอยและบาดแผลแถมเก็บอาวุธเรียบร้อยซะแล้วด้วย......
..อ้าว!พี่ไดกินะไม่ได้โดนรุมหรอกเรอะ ถ้างั้นก็คงเป็น..
“ไอ้พวกแอบอู้งาน จำไว้นะ ไม่งั้นจะต้องถูกลงโทษแบบนี้” พี่ไดกินะหันไปสั่งพวกที่นั่งดูการ์ตูนอยู่เมื่อสักครู่นี้ซึ่งมีสภาพมอมแมมเหมือนโดนฟัดซะอ่วม....
.....................................................................................................................................
Miki Mode
ว้าว!สนามแบตมินตันของที่นี่ก็ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย เสียอย่างเดียวมีแต่คนเล่นเก่งๆทั้งนั้นเลย ฉันจะเล่นไหวมั้ยเนี่ย
“อ้าว เธอมาแทนโทมิจังชั่วคราวใช่มั้ยจ้ะ”ใครบางคนทักขึ้นจากข้างหลัง เลยก็จะหันไปตอบว่า’ก็ใช่สิย่ะ ตาบอดเรอะ-0-’ แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนคำพูดซะใหม่เมื่อหันไปเหมือนเจอกับนางเทพธิดาบนสวรรค์ ผู้หญิงอะไรสวยจริงๆ หรือว่านี่คือเรกิที่โทมิเคยเล่าให้ฟัง
“อ๋อ ใช่ค่ะ”ฉันตอบกลับไป แอบอิจฉาเรกิจังไม่ได้เลยแฮะ
“ว่าแต่เธอเล่นแบตมินตันเป็นมั้ย” เธอถามฉัน
“เอ่อ...เล่นได้แต่ไม่เก่งอ่ะคะ”ฉันตอบไปตามความจริง
“งั้นเดี๋ยวฉันจะช่วยสอนนะ”ว่าแล้วเธอก็เดินไปหยิบไม้แบตมายื่นให้ฉัน หลังจากนั้นเธอก็สอนการเล่นแบตตั้งแต่ขั้นพื้นฐานยันระดับขั้นเทพ = =;
“แฮ่กๆ” ฉันรู้สึกเหนื่อยมากถึงมากที่สุดแม้ว่าเทนนิสฉันยังรู้สึกเหนื่อยน้อยกว่านี้เลยนะ
“เหนื่อยแล้วเหรอ งั้นไปพักก่อนเถอะ”เธอชวนพร้อมกับลากฉันไปนั่งพักบนเก้าอี้ใกล้สนามอีกทั้งยื่นน้ำเปล่าให้ฉันหนึ่งขวด เธอเหมาะที่จะเป็นเทพธิดา(ในตอนนี้)ที่สุดเลย ทั้งเก่ง ทั้งใจดี แล้วก็สวยอีกต่างหาก
“มะ..มีอะไรเหรอจ้ะ มองฉันตาไม่กระพริบเลย”เธอหันมาถามหลังจากที่เห็นสายตาของฉันมองมา
“อ่า..เปล่าฮะ เอ๊ยย ค่ะ ว่าแต่มีแฟนหรือยังค่ะ?”ฉันโพล่งถามออกไป เธอนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบ “อืม ไม่เชิงแฟนหรอกจ้ะ แค่แอบชอบน่ะ ส่วนเธอล่ะจ้ะ”
...คำถามนี้ถึงกับทำให้ฉันหน้าแดงขึ้นมา..
“อ่า ...ก็ไม่รู้สิ” ฉันก้มหน้าหลบสายตาของเรกิจัง
..ตอนนี้ในหัวมีแต่ยามาโมจจิจังทั้งนั้นเลยอ่ะ... >///<
“เธอไม่สบายเพราะตากแดดแน่เลย วันนี้พอก่อนล่ะกันนะ”เธอเห็นสีหน้าของฉันเลยคิดว่าไม่สบายแต่จริงแล้วมันไม่ใช่เลย
.......................................................................................................................................
Nevia Mode
รู้สึกว่าเข้ามาในชมรมนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายนะ สงสัยมาริเนะคงอคติกับนายหมึกนั่นไปหน่อย
แต่พูดตามตรงชมรมที่นี่มีสีสันกว่าชมรมวาดรูปเยอะแยะเลย ที่นั่นน่ะให้วาดรูปขาวดำอยู่ได้ น่าเบื่อจะตายไป ส่วนที่นี่มีเสียงดนตรีฟังแล้วอารมณ์ดีชะมัด ฟังไปฟังมาเหมือนได้ยินเสียงเปียโนแว่วๆแฮะ เพราะจัง ใครเป็นคนเล่นนะ คิดได้ดังนั้นฉันจึงหันไปมองผู้เล่นเปียโนแล้วก็ต้องทำหน้าแบบนี้.... =[ ]=
..
นะ..นายหัวปลาหมึกนั่นเล่นเปียโนอย่างเทพ ไม่น่าเชื่อ ฉันขยี้ตาเพื่อดูว่าไม่ได้ตาฝาดไป
..มะ..ไม่ได้ตาฝาดจริงๆด้วยแฮะ..
“มองอะไรของเธอน่ะ” เสียงดุๆมาจากนายโกคุนั่นเอง
“นายเล่นเปียโนเพราะจัง”ฉันบอก
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”ว่าแล้วก็ซ้อมเปียโนต่อไป
ส่วนฉันก็นั่งซ้อมไวโอลิน สีไปสีมา สงสัยใช้แรงเยอะไปหน่อย มันเลยหักเป็น2ท่อนจึงทำให้ฉันเป็นจุดสนใจในขณะนี้ แล้วทุกคนในชมรมก็มองมาประมาณว่า ‘เกิดมาเพิ่งเคยเห็นคนสีไวโอลินแล้วหักเป็น2ท่อน’ ก็..ฉันเล่นไม่เป็นแต่อยากเล่นอ่ะ - -;; ใครจะทำไม แต่แล้วก็มีรุ่นพี่เดินมาแล้วก็ยื่นกระดาษสีขาวให้ เอ๋?กระดาษอะไรหว่า พอพลิกมาก็มีแต่ตัวเลข หรือจะให้เอาไปซื้อหวย
“นี่เป็นราคาของไวโอลินตัวนี้ เธอทำพังต้องชดใช้” เสียงเรียบแต่มีอำนาจสำหรับสั่งคนอย่างฉันได้เป็นอย่างดี คำว่าต้องชดใช้ๆๆ มันวนอยู่ในหัว จึงกลับมามองราคาในกระดาษอีกครั้ง...
...แม่เจ้า! 5,000เยน =[ ]=
จะทำไงดีเนี่ยเรา TOT
..
Marine Mode
อ๊ากกกก! ทำไมฉันถึงซวยอย่างนี้ หนีจากหมึกมาเจอการจัดดอกไม้ TT อยากจะบ้าตาย...
แม้ว่าฉันจะชอบดอกไม้ แต่ ฉัน-เกลียด-การ-จัดดอกไม้ เพราะตัวฉันคิดว่าในเมื่อดอกไม้มันสวยอยู่แล้ว จะไปจัดให้เปลืองเวลาทำไม - -
“อุ๊ย!ตายคุณน้อง”รุ่นพี่เพศที่3เดินมาดูพร้อมกับอุทานเมื่อเดินมายังผลงานของมาริเนะ
มาอุ๊ยตายทำไม ฉันยังไม่ตายสักหน่อย - -+
“มีอะไรเหรอคะ” ฉันถาม
“ป่าวหรอกจ้ะ การจัดดอกไม้ของน้องมันเพอร์เฟคที่สุด เท่าที่เจ๊เคยเห็นมา”เขาหรือเธอ?กล่าวอย่างชื่นชมโดยที่ฉันกำลังงงมองตาปริบๆ
...สวย? พี่ใช่ส่วนไหนในร่างกายมองคะพี่ หรือว่าตาปลาบนฝ่าเท้า..... ฉันอดคิดไม่ได้ พร้อมกับมองผลงานของตัวเองสลับกับมองหน้าเจ๊แก
เมื่อเจ๊พูดชมป่าวประกาศจบทุกคนในชมรมก็มองมาที่ฉันและก็ผลงาน.....
..แปลกแฮะ ฉันคิดว่าฉันจัดดอกไม้เละและห่วยบรมที่สุดในบรรดาสามโลกแล้วนะ....
...........................................................................................................................................................
Katsumi Mode
จะว่าไปวาดภาพสีขาวสีดำก็ดีเหมือนกัน ให้ความรู้สึกสงบน่ะ แต่ถึงยังไงฉันก็อดที่จะรอคนรับใช้คนใหม่ของฉันไม่ได้อยู่ดี ...ยัยพระเมรุ... ถ้ากลับไปชมรมเก่าเมื่อไรล่ะก็ เธอเตรียมตัวไว้ก็แล้วกัน
ส่วนในตอนนี้ฉันก็คงต้องนั่งฝนดินสอไปพลางๆก่อนจนกว่าจะหมดเวลาเลิกกิจกรรมชมรม....
.....หรือว่าจะออกไปก่อนเวลาเลิกดีล่ะ.... แต่ฉันคงจะทำอันหลังเสียมากกว่า
แก๊ก! เสียงของบางอย่างที่มันเปราะแต่ถูกใช้ชนหัก ... ใช่แล้ว เสียงดินสอที่ฉันฝนเองแหละ แต่ฉันคงระบายด้วยแรงที่มีทั้งหมด ในตอนนี้มันเลยหักเป็นเสี่ยงๆคามือของฉัน....
...ชิ!ดินสอห่วยแตกชะมัด ไม่ทนมือเอาซะเลย อย่าให้รู้นะว่าใครเป็นคนผลิต.... - -*
ฉันได้แต่บ่นอยู่ในใจ แล้วก็เดินไปหยิบดินสอแท่งใหม่ โดยที่สายตาหลายคู่มองมาทางฉันแทบจะไม่กระพริบเหมือนตุ๊กตาในตู้โชว์หน้าร้านค้า
.....มองทำไม ไม่เคยเห็นคนทำดินสอหักเป็นเสี่ยงๆหรือยังไงกัน.... - -++
เห็นดังนั้นฉันก็เลยส่งสายตากลับไปด้วยความไม่ชอบใจนิดๆที่บังอาจมาจ้องฉันแล้วก็ได้ผลอย่างดีเสียด้วย ทุกคนที่เคยมองมาก็นั่งก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป เมื่อฉันได้ดินสอแท่งใหม่แล้วก็ค่อยบรรจงฝนอีกครั้ง แต่สักพักหนึ่ง....
แคว่ก! คราวนี้มีเสียงแปลกๆให้ได้ยินอีกครั้งซึ่งไม่ใช่เสียงดินสอหัก
ฉันมองไปยังชิ้นงานของตัวเองก็พบว่า... กระดาษขาด...
“............”ตอนนี้ทั้งห้องเงียบสนิทจนแทบจะได้ยินเสียงมดเดิน ไม่สิ มดเต้นบัลเลย์ซะมากกว่า
ในเมื่อกระดาษมันอยากขาดฉันก็จะอนุเคราะห์ให้
คิดแล้วก็จัดแจงฉีกกระดาษตรงหน้าออกเป็นชิ้นๆ อย่างไร้เยื่อไย ชิ้นเล็กชิ้นน้อย ชิ้นแล้วชิ้นเล่าจนไม่เหลือชิ้นดี และก็ไม่มีเค้าโครงความเป็นกระดาษอยู่ให้เห็น - -
...ช่วยไม่ได้ ก็อยากมาขาดตรงหน้าฉันเองนี่...
ทั้งที่เมื่อก่อนเคยเป็นผลงานแสนสวยแต่บัดนี้กลับเป็นเพียงเศษกระดาษอันไร้ค่าที่ปลิวว่อนอยู่ในห้องของชมรมไปซะแล้ว ส่วนตัวฉันก็ไม่อยากอยู่ให้เปลืองเวลาเลยเดินออกจากชมรมไป
.....ฉันยอมรับว่าตัวเองเป็นพวกใจเย็นแต่ความอดทนต่ำ.....
...........................................................................................................................................................
Yari Mode
ก็อย่างที่บอกไป ฉันเล่นเทนนิสไม่ค่อยเก่งหรอกนะ ไม้มันทั้งหนัก แถมก็ต้องตากแดดร้อนๆ ไม่ได้อยู่ในน้ำเย็นๆ อยากกลับไปอยู่ชมรมเก่าจัง ส่วนรุ่นพี่มิโทยะก็ให้ซ้อมอยู่นั่นแหละ น่าเบื่อจะตายไป
เมื่อไรจะได้พักสักที -_-;; ดังนั้นฉันจึงเขวี้ยงไม้ทิ้งไว้บนพื้นแล้วก็เดินไปนั่งพักที่เก้าอี้ไม้หินอ่อนใกล้สนามโดยไม่สนว่าใครจะมองยังไง ...ก็ฉันเหนื่อยนี่นา
..แต่ถ้าได้จิบชาสักหน่อยก็คงจะดีไม่น้อย....
“เหนื่อยแล้วเหรอ ยาริ”รุ่นพี่มิโทยะที่หันมามองฉันได้ถามขึ้น
.....ฉันเหนื่อยมาตั้งนานแล้วรุ่นพี่....
“อืม”ฉันไม่อยากตอบอะไรไปมากกว่านี้ พร้อมกันนั้นฉันก็จิบน้ำในขวดอย่างรวดเร็ว
“ถ้างั้นก็พักก่อนก็ได้ เดี๋ยวมาซ้อมต่อ” รุ่นพี่พูดแล้วก็เดินกลับไปตีเทนนิสต่อ
พรูด!! ค่อกๆ แค่กๆ ! ทันทีที่ได้ยินคำว่าซ้อมต่อ น้ำในปากก็แทบจะสำลัก
“เป็นอะไรอีกล่ะ สำลักน้ำเหรอ”เขาหันกลับมาถามอีกรอบ
..เออสิ ถ้าไม่ใช่สำลักน้ำแล้วจะเป็นอะไรล่ะ โดนไม้เทนนิสตีหัวเหรอ...
“นิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรหรอก”ฉันตอบกลับไปด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
หรือว่าฉันจะแกล้งเป็นลมดีเพื่อหนีซ้อม แต่แล้วความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัว...
ฉันเดินออกไปหยิบไม้ที่คว้างไปเมื่อสักครู่นี้ขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นก็หยิบลูกเทนนิสขึ้นมา กะจังหวะและกะมุมให้โดนใครบางคน... เมื่อเห็นว่าเล็งเป้าหมายได้พอเหมาะก็เริ่มตีออกไป โดยใช้แรงให้มากที่สุด ..เกิดมาฉันเพิ่งจะใช้แรงมากที่สุดก็วันนี้แหละ..
โป๊ก! ตุ้บ! ....แน่นิ่ง.... ร่างรุ่นพี่ที่นอนสลบอยู่กับพื้น ด้วยแรงลูกเทนนิสที่ฉันตีไปสุดแรงเกิดเมื่อกี้...
ทุกคนที่อยู่ในสนามเริ่มวิ่งเข้ามาดูอาการของรุ่นพี่มิโทยะ....
“ฉะ..ฉันขอโทษค่ะ”ฉันแกล้งตีบทหน้าเศร้าปนตกใจว่าไม่ได้ตั้งใจไปตีโดนหัวผู้อื่น..แต่คุณคิดผิดถนัด ฉันเองแหละที่ตั้งใจมากถึงมากที่สุด ฉันสมควรจะได้รางวัลออสก้าร์นะ
ส่วนคนอื่นๆคงไม่ได้มาสนใจฉันนัก ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังชุลมุนกับการแบกร่างรุ่นพี่ไปส่งที่ห้องพยายม เอ้ย! พยาบาล
แต่ในระหว่างที่ในสนามกำลังวุ่น ฉันก็เดินปลีกตัวออกไปเงียบๆ โดยแอบยิ้มในใจ
.....ยัยมิกิน่าจะมาขอบใจฉันนะ ที่ทำให้เธอไม่ต้องไปซ้อมเทนนิสหลายวัน หึๆ...
.........................................................................................................................................................
Ai Mode
หว่า~ มาที่สระว่ายน้ำก็เริ่มกลัวแล้ว จะทำไงดีฉันว่ายน้ำไม่เป็นซะด้วย TOT
“ทุกคน เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วมาเจอกันที่หน้าสระนะ”รุ่นพี่คนหนึ่งออกคำสั่ง มันเหมือนเสียงซาตานที่กำลังรอเก็บวิญญาณของฉันอยู่
...อ่า ใกล้เวลาตายของฉันแล้วสินะ T^T..
ฉันยืนคิดแล้วก็โทษว่าทำไมถึงดวงซวยอย่างนี้ ว่ายน้ำไม่เป็นแต่ดันจับได้ชมรมว่ายน้ำ
มันช่างเหมาะเจาะที่จะซวยอะไรอย่างนี้ TwT
แล้วฉันก็ต้องจำใจเปลี่ยนชุดเพื่อลงน้ำตามคำสั่งของรุ่นพี่ที่ยืนเก๊กท่าน่าหมันไส้อยากจะเอาพระบาทาส่วนล่างถีบให้ตกลงน้ำซะจริง
..แต่เป็นเพราะภาพพจน์อันแสนจะเกือบเรียบร้อยของฉันจึงไม่สามารถทำได้..
“ต่อไป เราจะอบอุ่นร่างกายก่อนลงน้ำนะ”ว่าแล้วรุ่นพี่คนนั้นก็เป็นคนนำในการวอร์มร่างกาย
..1..2..1...2...1..2 .. จนเวลาผ่านไปสักพักประมาณ 15 นาทีได้
..ทำไมตอนนี้รู้สึกร้อนอยากลงน้ำจังแฮะ = =; แฮ่กๆ....
“ตอนนี้ได้เวลาลงน้ำแล้ว ทุกคนกระโดด!”แล้วในที่สุดรุ่นพี่ก็สั่งให้พวกเราทุกคนรวมถึงฉันด้วยกระโดดลงไปในสระน้ำ...
ยิปปี้>< จะได้หายร้อนสักที แต่เดี๋ยวนะ ฉันรู้สึกว่าฉันลืมอะไรบางอย่าง
...ฉันว่ายน้ำไม่เป็นนี่ =A=;;......
“มัวรออะไรอยู่ รีบกระโดดลงไปสิ”รุ่นพี่ตะโกนไล่หลังมาเมื่อเขาเห็นฉันหยุดชะงัก
“...”ไม่มีเสียงตอบรับจากสัญญาณที่ท่านเรียก ก็ฉันไม่กล้าบอกนี่ว่าฉันว่ายน้ำไม่เป็น
“ถ้าไม่มีอะไรก็กระโดดลงไปเลย”เขาทักท้วง แต่ฉันก็ยังไม่ยอมลงไปอยู่ดี จนท้ายที่สุด ฉันก็รู้สึกถึงแรงปะทะจากฝ่าเท้าของรุ่นพี่ที่มันลงมาอย่างหนักหน่วงทางด้านหลัง
กรี๊ดดดด!! ตู้ม! เสียงน้ำสาดกระเซ็นจากแรงที่ฉันโดนถีบลงไปในน้ำ....
ทำไมน้ำในสระมันลึกอย่างนี้นะ
..บุ๋งๆๆๆ หะ..หายใจไม่ออก ช่วยด้วย... หรือว่าวันนี้ฉันจะตายจริงๆซะแล้ว
ภาพตรงหน้าเริ่มเลือนลางพร้อมกับเหมือนมีใครบางคนฉุดมือฉันขึ้นมาจากน้ำ...
พอรู้สึกตัวอีกทีก็ค่อยๆลืมตาเห็นว่ามีแสงสว่างจ้าแวบเข้ามาในโสตประสาท
...ฉันอยู่บนสวรรค์แล้วเหรอเนี่ย...
“ถ้าเธอว่ายน้ำไม่เป็นก็บอกไปสิ”เอ๊ะ! เสียงคุ้นหูจังแฮะ... = =
แล้วพอมองไปทางต้นเสียงก็เจอ....คุณฮิบาริ ที่ตอนนี้เปียกโชกไปทั้งตัว O.,O
งั้นแสดงว่าฉันอยู่ในนรกล่ะสิ =A=
...อีกอย่างตอนนี้ฉันโดนแบกอยู่บนตัวเขา.... *0* หรือว่าเขามาช่วยฉัน - -?
“อ๊ะ!”ฉันหยิกแก้มตัวเองหนึ่งทีเพื่อเตือนสติตัวเอง ..โอ๊ย! เจ็บ แสดงว่าฉันยังไม่ตาย ^O^
“เป็นอะไรของเธอน่ะ - -”เขาถามเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าระรื่นของฉัน
“ก็..ฉันนึกว่าจะจมน้ำตายแล้วซะอีก แฮะๆ”ฉันบอกพร้อมยิ้มเจื่อนๆ
“ยัยโง่เอ๊ย! น้ำตื้นแค่นี้ยังจมได้”พูดไม่ทันขาดคำเขาก็ปล่อยฉันลงตรงข้างขอบสระ เอ่อ.. ขอยอมรับค่ะว่าเตี้ยกว่าคุณเยอะ -__-''
“ว่าแต่คุณฮิบาริมาได้ยังไงคะ?”ฉันถาม
“พอดีฉันเดินตรวจตราแล้วเห็นว่ารุ่นพี่นั่นกำลังถีบเธอลงสระน้ำน่ะ”เขาตอบเสียงเรียบ
อ๊ากกก! ภาพน่าอายชะมัด
=[ ]=
“ส่วนรุ่นพี่คนนั้นฉันตำหนิไปเรียบร้อยแล้วหล่ะ” เขาพูดเสียงเรียบเช่นเคย
ตำหนิหรือว่าอัดซะยับเจ้าค่ะ = =
“ฉันขอตัวนะ”หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกแถมเดินออกไป ฉันก็เลยเดินตามเพื่อจะขอบคุณ
โดยไม่ได้สังเกตรอบตัวเลยว่าเพื่อนในสมาชิกทุกคนหนีหายไปตั้งแต่ตอนท่านฮิบาริโดดลงสระมาช่วยฉันแล้ว
.
........................................................................................................................................
17.00PM
@ห้องรับแขก
เมื่อถึงเวลาเลิกของกิจกรรมชมรม ทุกคนก็เดินกลับมาที่ห้องโดยที่มีคุณคาซึมิกำลังนั่งหลับโดยใช้หนังสือปิดหน้าไว้กับยาริที่กำลังนั่งถักไหมพรมมาอยู่บนห้องกันก่อนแล้ว
บางคนกลับมามีสภาพเหมือนผีดิบตายซาก.. = = ที่เดินมาย่างหมดเรี่ยวแรง เช่น โทมิกับมิโดกิ
บางคนก็หน้าซีดเหมือนแวมไพร์ที่ไม่ได้กินเลือดมาสองชาติกว่า อย่างเนเวีย...
บางคนกลับมาอารมณ์บูดยิ่งกว่าตูดหมึก เช่น มาริเนะ และบางคนที่กลับมาหน้าตาแจ่มใสหัวใจเบิกบานอยู่ดีมีสุขตามหลักโภชนาการอาหาร5หมู่คืออาอิและมิกิ....
“กลับมาแล้วเหรอ”ยาริเงยหน้ามองสภาพแต่ละคนแล้วตกใจเหมือนเห็นผี =A=;
“อืม”ทุกคนตอบพร้อมกันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะด้วยความเหนื่อยนั่นเอง
...และแล้วห้องก็ตกอยู่ในความเงียบสักพัก...
....มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย..ยาริได้แต่คิดอยู่ในใจ จนในที่สุดเธอก็เอ่ยถามขึ้นมา
“เป็นไงมั่งที่ชมรม...”เธอยังพูดได้ไม่จบประโยค ทุกคนในตอนแรกที่ดูเศร้าซึมกลับลุกพรวดขึ้นมาเหมือนว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหวได้แย่งกันพูด โวยวายบ้าง ร้องไห้บ้าง
“พูดทีละคนสิ ฉันฟังไม่รู้เรื่อง”ยาริเห็นดังนั้นจึงตัดสันใจปริปากบอกให้ทุกคนได้ยินดังๆ จนห้องกลับมาเงียบอีกครั้งแล้วเมื่อความสงบเริ่มบังเกิดขึ้นเธอก็เริ่มถามให้ทุกคนเล่าเรื่องของตนเองทีละคน
..ยกเว้นคุณคาซึมิที่ยังนอนหลับอยู่เช่นเดิม....
..
เวลาผ่านไป 10 นาที
.... เมื่อได้รู้เรื่องราวทั้งหมดจากทุกคน....
“ขอบคุณนะยาริที่ทำให้ฉันไม่ต้องไปซ้อมน่ะ”มิกิพูดขอบคุณวีรกรรมสุดแสบของยาริซึ่งเธอพยักหน้าเป็นการรับคำ
“อาอิ ฉันขอยกย่องเธอเลยว่าเธอเก่งมากที่ทำงานอย่างนั้นได้”มิโดกิหันมาชมอาอิซึ่งเจ้าตัวก็กำลังงงว่าตัวเองเก่งยังไง
“แงๆ โทมิ เงินค่าขนมของฉันหายไปหมดเลย ฮือๆ”เนเวียครวญครางเสียดายเงินที่ต้องเสียไปให้โทมิฟัง “ฉันก็เจ็บตัวเพราะโดนลูกบาสกระแทกหัวเหมือนกันนะ”
“ฉันล่ะไม่เข้าใจยัยเจ๊ในชมรมจัดดอกไม้เอาซะเอา”มาริเนะบ่นพึมพำคนเดียว
“....”ส่วนคาซึมิก็นั่งหลับเงียบๆต่อไปและก็ไม่มีใครกล้าปลุกเพื่อถามเรื่องชมรมในวันนี้....
......................................................................................................................................................
ขอพูดอะไรนิดหน่อยว่าตอนพิเศษนี้มีอีกท่านช่วยค่ะ ^ ^' เน่ามั้ยละ 555 >3< พี่เขาก็งี้ละ!! (เผา..)
ความคิดเห็น