ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Saint Seiya Omega] Open heart little angel

    ลำดับตอนที่ #4 : ปลดล็อคที่2 เดินเล่น 100%

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 58


    ปลดล็อคที่2 เดินเล่น

     

     

    สิ่งที่ฉันจำได้ดีมาโดยตลอดกลิ่นคาวเลือด กลิ่นของความตาย

    กลิ่นของกุหลาบสีแดง ความบ้าคลั้ง บ้างครั้งอาจจะเป็นเพราะความอ่อนแอของฉัน

    ความอ่อนแอของฉันที่ทำให้คุณแม่ต้องตายต้องเสียคุณพ่อไป

    เพราะเหตุนี้..ฉันถึงต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้อีกฉันควรทิ้งความอ่อนแอไปพร้อมกับนิสัยของฉันจะไม่มีอีกแล้วความอ่อนแอ..แต่บางทีความตายอาจไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหากเปรียบเทียบกับการมีชีวิตอยู่

     

    เด็กสาวตัวน้อยกำลังนอนหลับอย่างมีความสุขบนเตียงนอนนุ่ม แต่เสียงข้าวของแตกกระจายและบานหน้าต่างที่ถูกทำลายก็ปลุกเธอให้ตื่นจากห้วงนิทรา

    ตึง! โครม! เพล้ง!!

    นัยน์ตาสีเขียวมรกตเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจ และเด้งตัวขึ้นจากเตียงทันที เกิดอะไรขึ้น?” เธอรู้สึกได้ถึงพื้นห้องที่สั่นสะเทือนไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน เด็กน้อยจึงกระโดดลงจากเตียงและวิ่งออกไปห้องอย่างรวดเร็ว

     

    ใบหน้าหันซ้ายหันขวาเพื่อหาที่มาของต้นเสียง แล้วก็พบว่าที่มาของเสียงนั้นอยู่ไม่ห่างจากห้องของเธอมากนักและที่สำคัญมันคือห้องนอนของพ่อแม่ของเธอ

    ท่านพ่อ ท่านแม่เด็กสาววิ่งตรงไปยังห้องนั้นโดยไม่ต้องคิด

           

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ต้องมีการต่อสู้เกิดขึ้นในห้องนั้นแน่ๆ!!!

     

    ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ อย่าเป็นอะไรนะค่ะ!!

     

    แต่แล้วภาพที่เธอเห็นเมื่อไปถึงกลับทำให้ร่างของเด็กน้อยถูกแช่แข็ง สภาพห้องที่เคยโอ่โถง งดงามและเป็นระเบียบเรียบร้อยกลับกลายเป็นสภาพของสมรภูมิขนาดย่อมๆ หน้าต่างถูกทำลาย เตียงนอนและหมอนถูกฉีกกระชากและกลางห้องนั้นก็มีร่างคุ้นเคยสองร่างและบุคคลในผ้าคลุมสีดำสี่คนในมือมีดาบเล่มยาวและส่องแสงวาบเมื่อกระทบแสงจันทร์ภายนอก

     

    พี่ล่ะ!! พี่หายไปไหน!!

    เด็กน้อยหันซ้ายหันขวามองหาบุคคลอีกคนหนึ่ง หันกลับมามองผู้เป็นพ่อ ชายหนุ่มสร้างลูกไฟสีเหลืองทองขึ้นที่ฝ่ามือขวา เขาจึงส่งพลังมือขวาไปที่ชายในผ้าคลุมที่ใกล้ที่สุดอย่างไม่เกรงกลัว

     

    ตูม!!

     

    ร่างของนักล่ารับจ้างคนนั้นกระเด็นไปตามแรงและกระแทกเข้ากับผนังอย่างแรงจนไหม้เกรียมกลายเป็นขี้เถ้า

     

    พลังแห่งเพลิงงั้นหรอ?” เสียงแหบห้าวจากหนึ่งในนักล่าพึมพำแผ่วเบา

     

    ผู้เป็นพ่อกวาดสายตามองร่างที่เหลือ เจ้าพวกนี้ประมาทไม่ได้ ฉันถามว่าใครจ้างพวกแกมา!! นักล่า!!!” ไม่ว่าเปล่าเขาส่งก้อนพลังไปที่ชายในผ้าคลุมที่เปิดปากพูดเป็นแรก แต่อีกฝ่ายก็หลบได้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของชายหนุ่ม ตอนนี้ เพรย์!!”

     

    สิ้นคำ วงแหวนเวทย์สีแดงเพลิงก็พลันปรากฏขึ้นใต้เท้าของนักล่าอีกสามคนที่เหลือและเพียงแค่กะพริบตา เปลวเพลิงสีแดงสดก็ปะทุจากความว่างเปล่าและเผาร่างในผ้าคลุมให้มอดไหม้ หากแต่ก็มีสองคนที่หลุดรอดจากวงแหวนเวทย์ได้ ส่วนอีกคนนั้นก็กลายเป็นตอตะโกและสลายหายไปทันที

     

    นักล่าที่เอ่ยขึ้นเป็นคนแรกซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าของการปฏิบัติงานครั้งนี้กัดฟันกรอดด้วยความหัวเสีย หนอย…” ดวงตาใต้ผ้าคลุมสีดำวาวโรจน์อย่างโกรธแค้น

     

    เดอแคลร์สินะ…”ชายหนุ่มพึมพำแผ่วเบาก่อนจะเรียกดาบยาวออกมาจากความว่างเปล่าข้างกาย        เจ้าน้อยชายมันกล้าทำถึงขนาดนี้เลยเรอะ!!

     

    ในเมื่อพี่เขยรู้อยู่แล้วก็ไม่น่าถามเลยนะครับหัวหน้านักล่าตอบพร้อมกับตั้งดาบขึ้น

     

    ชายหนุ่มผู้เป็นพี่เขยแค่นหัวเราะเบาๆ หึสี่คนยังทำอะไรฉันไม่ได้ แล้วคิดเหรอว่าเหลือแค่สองจำทำอะไรฉันได้?”

    ฉัวะ!!

     

    กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งโดยที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว ร่างในผ้าคลุมดำอีกคนหนึ่งก็ทรุดฮวบลงพร้อมกับดาบสั้นที่ปักคาหัวใจและศีรษะก็ขาดสะบั้นจากคอและกลิ้งขลุกๆ มาใกล้เท้าของหัวหน้านักล่าที่ดวงตาวตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ

     

    "แล้วอย่าคิดว่าผู้หญิงจะอ่อนแอนะ" เสียงหวานแต่เย็นเยียบดังขึ้นจากข้างกายของผู้เป็นสามี เพรย์ควงดาบสั้นในมืออย่างคล่องแคล่วก่อนจะชี้คมดาบไปที่ผู้บุกรุก "เมื่อคิดจะบุกเข้ามาแล้ว ก็จงเตรียมใจเอาไว้ด้วย"

     

    "ตั้งแต่...เมื่อไหร่..." หัวหน้านักล่าพึมพำเสียงสั่นระริกด้วยความตระหนก ไม่นึกเลยว่าหญิงสาวร่างบางและเรียบร้อยจะมีฝีมือกล้าแกร่งเช่นนี้ ไม่สิ...อาจเป็นเขาเองที่ประเมินผิดไป เพราะหญิงสาวตรงหน้านั้นเป็นถึงพี่สาวของเขาเอง...เรื่องฝีมือการต่อสู้ และความเยือกเย็นย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว

     

    "แล้ว...แบบนี้ล่ะ?" เสียงราบเรียบและเย็นชาที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นจากความเงียบเบื้องหลัง และ...

     

    ฉึก!

    เสียงชำแรกแทรกผ่านผิวกาย ทะลุก้อนเนื้อที่อกซ้ายอย่างพอเหมาะพอดีก่อนที่เลือดสีแดงเข้มจะไหลทะลักจากบาดแผล เนตรสีแดงอ่อนเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อความเจ็บปวดจากบาดแผลวิ่งผ่านเข้าสู่สมอง

     

    เจ็บปวด...แต่ไม่อาจส่งเสียงร้องได้...

     

    "เพรย์!!" ผู้เป็นสามีร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างของหญิงสาวผู้เป็นที่รักถูกเงาปริศนาแทงทะลุอก เพียงแค่กะพริบตาเงานั้นก็หายไปพร้อมกับร่างบางที่ค่อย ๆ ทรุดกายลงกับพื้น ดอกกุหลาบสีแดงสดโปรยปรายลงมา กลิ่นของกุหลาบสีแดงอบอวลไปทั่วห้อง

     

    หากแต่ยังมีอีกคนหนึ่งที่ตกใจยิ่งกว่า...

     

    ดวงตาสีเขียวมรกตของเด็กสาวเบิกโพลงด้วยความตกใจสุดขีด ภาพในดวงตาสะท้อนภาพของมารดาที่มีของเหลวสีแดงข้นไหลทะลักออกจากบาดแผล และร่างนั้นกำลังจะร่วงลงบนพื้นพร้อมกับดอกกุหลาบที่ถูกโปรยปรายลงมา ท่านแม่…” เสียงเล็กพึมพำแผ่วเบาอย่างเหม่อลอย "ท่าน...แม่..."

     

    ราวกับเสียงที่แผ่วเบานั้นส่งไปถึงหญิงสาวที่ใกล้สิ้นลม "แพนเตอร์…” เสียงหวานกระซิบ เบาหวิวราวกับเสียงสายลมหวีดหวิว

     

    "ท่านแม่..." ขาที่สั่นระริกของครอสกำลังจะก้าวไปหามารดา แต่ถูกอ้อมแขนของใครคนหนึ่งโอบกอดไว้จากข้างหลัง

     

    ไม่ได้ครับแพน…” เสียงทุ้ม แต่คุ้นเคยของพี่ชายของเด็กสาวที่คุ้นเคยดังขึ้นจากข้างหลัง

     

    "แต่...แต่ท่านแม่..." แพนเตอร์ดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนของพี่ชาย ดวงตาเริ่มปริ่มด้วยหยาดน้ำใส "...ปล่อยฉันพี่คีส! ฉันจะไปหาท่านแม่!!”

     

    เสียงหวีดร้องของเด็กสาวตัวน้อยเรียกความสนใจจากคนที่เหลือได้เป็นอย่างดี ผู้เป็นพ่อหันขวับมาที่ประตูอย่างรวดเร็ว แล้วดวงตาสีเขียวมรตกก็เบิกกว้าด้วยความตกใจ "คีส!! แพนเตอร์!!” เขาอุทานลั่น เพราะไม่นึกว่าบุตรชายและบุตรสาวของตนจะมาอยู่ที่นี่...และในเวลาแบบนี้!!

     

    "ท่านพ่อ...ท่านพ่อ ท่าน....!!!!!!" แต่แล้วคำพูดที่เหลือก็ไหลลงลำคอจนหมดสิ้น เมื่อประกายวับของคมดาบแทงทะลุหน้าอกด้านซ้ายของคนตรงหน้า เลือดสีแดงค่อย ๆ ไหลออกจากปากแผลก่อนที่ร่างนั้นจะกระตุกเมื่อดาบเล่มนั้นถูกดึงออกอย่างรวดเร็ว

     

    หนอยคีส แพนพ่อรักลูก…” เสียงของผู้เป็นพ่อกระซิบ เบาหวิวราวกับเสียงสายลม ใบหน้าคมคายกระตุกยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลงไปกองกับพื้น กองเลือดสีแดงข้นแผ่ขยายเป็นวงกว้าง และส่งกลิ่นเหม็นคาวตลบอบอวลไปทั่วห้องพร้อมด้วยกลิ่นของดอกกุหลาบ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เตอร์แพนเตอร์แพนเตอร์!!” เสียงทุ้มเรียกชื่อเด็กสาวร่างบางที่หลับอยู่ทำให้ร่างบางสะดุ้งตื่น ก่อนจะลุกนั่ง หยาดเหงื่อไหลรินจนชุ่มลำคอและใบหน้า  เธอหายใจหอบถี่อย่างหยุดไม่ได้  ร่างบางสั่นระริกด้วยความกลัว

     

    ฝันร้าย? คำถามแรกที่แล่นวาบเข้ามาในหัวของร่างสูง

     

    เป็นอะไรรึป่าว แพนเตอร์?” คำถามแรกจากปากของร่างสูง

     

    แพนเตอร์ชะงักเล็กน้อย ร่างบางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะสายหน้าเป็นคำตอบ

     

    ไม่เป็นไรก็ดี ไหนๆเจ้าก่อนตื่นแล้ว ออกไปเดินเล่นด้วยกันเถอะ เจ้าจะได้เดินดูรอบๆที่นี่ไปด้วย…” ร่างสูงวางมือบนหัวของร่างบางก่อนจะลูบไปมา

           

            ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่มันก็ปาไป2วันเต็มๆ ถ้าไม่นับช่วงที่เธอหลับไป เธออยู่แต่ในวิหารไม่ได้ออกไปไหน มันก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะออกไปสูดอากาศข้างนอกและเดินเล่น

     

    ร่างบางปัดมือของร่างสูงที่ลูบหัวเธอเล่นก่อนจะลุกจากที่นอน บิดตัวเล็กน้อย มองไปข้างนอกวิหาร

     

    ตามมาสิร่างสูงเดินนำออกจากวิหาร ร่างบางมองร่างสูงเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ เธอถอนหายใจก่อนจะเดินตามร่างสูงอย่างช่วยไม่ได้

     

    ตลอดทางร่างสูงอธิบายเกี่ยวกับวิหารตั้งแต่วิหารแรกยันวิหารสุดท้าย เรียงตาม12ราศี

    วิหารแรก วิหารแอเรียส แอเรียส กิกิ วิหารที่เธอพักอยู่

    วิหารที่2 วิหารทอรัส ทอรัส ฮาร์บินเจอร์ 

    วิหารที่3 วิหารเจมินี่  เจมินี่ อินทิกรา วิหารที่คุณอินทิกราช่วยรักษาเธอ

    วิหารที่4 วิหารแคนเซอร์ แคนเซอร์ ชีลเลอร์

    วิหารที่5 วิหารลีโอ ลีโอ มิเซเน่

    วิหารที่6 วิหารเวอร์โก้ เวอร์โก้ ฟุโด

    วิหารที่7 วิหารไลบร้า ไลบร้า เกนบุ

    วิหารที่8 วิหารสกอร์เปี้ยน สกอร์เปี้ยน โซเนีย

    วิหารที่9 วิหารซาจิทาเรียส ซาจิทาเรียส เซย์ย่า

    วิหารที่10 วิหารแคปริคอร์น แคปริคอร์น อีโอเนีย

    วิหารที่11 วิหารอควอเรียส อควอเรียส โทคิซาดะ ไอขี้เก๊กน่ารำคาญ

    วิหารที่12 วิหารพิสเซส พิสเซส อามอร์ ตัวน่ารำคาญ

    ถ้าจะถามว่าตอนนี้เธออยู่วิหารไหนหรอ? ง่ายๆตอนนี้เธอหยุดอยู่ที่4 ตั้งแต่มาถึงวิหารที่4เธอแถบจะไม่ได้ขยับไปไหนเลย วันนี้เป็นวันรวมญาติรึไง? เซนต์ทั้ง12ราศีมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายเพื่อมามุงดูเด็กสาวร่างบางข้างแอเรียส กิกิ

     

    นี่รึ เด็กที่กิกิช่วยเอาไว้…” โกลด์เซนต์แห่งทอรัส ฮาร์บินเจอร์หยุดมองเด็กสาวข้างแอเรียส กิกิ

     

    เจอกันอีกแล้ว ยัยเปี๊ยกโทคิซาดะเดินเข้ามาขยี้หัวเด็กสาวร่างบาง แต่โดยร่างบางปัดมือทิ้งอย่างไม่มีเยื่อใย

     

    โทคิซาดะ รู้สึกยังไงโดนยัยเตี้ยปัดมือแคปริคอร์น อีโอเนียถาม เด็กสาวร่างบางหันไปมองอีโอเนียด้วยใบหน้านิ่ง ร่างบางได้แต่โวยวายในใจเท่านั้น โทคิซาดะยักไหล่แบบไม่แคร์

     

    ข้าว่าควรแนะนำตัวให้เธอรู้จัก ข้าสกอร์เปี้ยน โซเนียโกลด์เซนต์หญิงอีกคนหนึ่ง

     

    ข้าทอรัส ฮาร์บินเจอร์

    ข้าแคนเซอร์ ชีลเลอร์

    ข้าลีโอ มิเซเน่

    ข้าเวอร์โก้ ฟุโด

    ข้าไลบร้า เกนบุ

    ข้าแคปริคอร์น อีโอเนีย

     

    ส่วนข้าซาจิทาเรียส เซย์ย่าเหมือนข้าจะเคยเห็นเจ้านะ…” โกลด์เซนต์แห่งซาจิทาเรียสเดินเข้ามาในวงสนทนา ร่างบางหันไปมองผู้มาใหม่ถ้าข้าคำไม่ผิดเจ้าอยู่กับเด็กหนุ่มอีกคนนิ

     

    ร่างบางพยักหน้าแต่ยังไม่ยอมพูดอะไรอยู่ดู เธอมองไปข้างหน้า ทางที่เธอมองออกไปคือเส้นทางที่จะไปวิหารที่5 วิหารลีโอ ร่างสูงที่ยืนเงียบอยู่นานมองตามร่างบางก่อนจะเอ๋ย แพนเตอร์ เจ้าอยากไปเดินเล่นต่อรึ?”

     

    อืม…”เสียงหวานน่าหลงใหลหลุดออกจากปากของเธอ ดูเหมือนเจ้าของเสียงจะไม่รู้ตัว ร่างบางยังคงมองไปข้างล่าง เสียงหวานของเธอทำให้หลายๆคนถึงกับเคลิ้มไป

     

    “’งั้นไปกันต่อ…” ร่างสูงจับมือของร่างบางเดินฝาวงรอบไปต่อ การกระทำนั้นทำให้โกลด์เซนต์หลายๆคนถึงกับอึ้ง มีเพียงโกลด์เซนต์แห่งซาจิทาเรียสอย่างเซย่าคนเดียวที่ถอนหายใจ เขามองตามร่างสูงกับร่างบางไป ได้แต่คิดว่า

    แอเรียส กิกิ เจ้าเจอศึกนักแน่…’

    .

    .

    .

    หึหึหึ เวลาในการหาน้องสาวผมเหลืออีกหนึ่งวัน รีบๆหาให้เจอนะครับ ก่อนที่ทุกอย่างจะถึงจุดจบเสียงทุ้มของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลสั้นระดับต้นคอหล่อเหลา ริมฝีปากที่คลี่ยิ้ม รอยยิ้มของเทพบุตร รอบๆเขาที่ยืนอยู่มีกลุ่มคนมากหน้าหลายตานับร้อยๆนอนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดอยู่ ก่อนเขาจะเลือนหายไปพร้อมสายลม

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    จบแล้วจ้าา
    เปิดตัวคุณพ่อคุณแม่ของนู๋แพนกับคุณชายคีสค่าา
    แคนซัส ฟิชิส์เจอรัลด์ 



    เพรย์ ฟิชิส์เจอรัลด์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×