ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Ugly - 2 [chanbaek]
Ugly Byun-B [chanbaek]
นายอาจจะลืมไปว่าสิทธิ์ของฉันสิทธิ์เดียวมันมากกว่าสิทธิ์ของทั้งโรงเรียน
2
หลังจากที่ผมตื่นนอนขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในห้องของคุณชานยอล ผมก็ตกใจจนตาแทบจะลักออกมาจากเบ้า จนคุณชานยอลถึงกับหัวเราะบอกว่า ไม่ต้องตกใจแค่เรียกมาทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนเฉยๆ
เขาไม่มีเพื่อนหรือไงกันนะ..
ผมหันไปมองข้างหลังของคุณชานยอลที่เหมือนมีคนยืนมองอยู่ ก็พบว่าเป็นยามคนเดียวกับที่ ห้ามไม่ให้ผมเข้ามาในพระราชวังสีทอง
"ฉันให้เขาเป็นคนไขกุญแจเข้าไปห้องนายเองละ" คุณชานยอลบอกหลังจากที่ผมมองหน้ายามอยู่นาน จนยามก็เริ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูกที่ไล่แขกของคุณชานยอลของตัวเอง
"เขาก็เป็นคนอุ้มผมเหรอครับ?" อ่า รู้สึกขนลุกนิดหน่อยมั้งครับ ให้คนร่างยักษ์สีผิวแทนๆดำๆมาอุ้มเรานะ
"ป่าว ฉันอุ้มนายเข้ารถแล้วก็อุ้มนายขึ้นมาห้องนี้ด้วย เขาแค่เดินตามนะ" คุณชานยอลอธิบายข้อสงสัยให้ผม
"อ่อ.." คุณชานยอลอุ้มผม อ่า อากาศร้อนจัง ให้เดาว่าตอนนี้แก้มของผมต้องขึ้นสีมากแน่ๆ ก็เขินนิดหน่อย ไม่เคยมีใครดูแลผมดีขนาดนี้นี่นา...
"หน้าแดงแล้วฮ่าๆ ไปทานข้าวกัน ฉันให้เมดเตรียมโต๊ะแล้ว" คุณชานยอลเดินนำผมออกจากห้องนอนผ่านห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นลิฟต์ส่วนตัวไปยังห้องอาหารแล้วผายมือเชื้อเชิญให้เข้าไป คุณชานยอล เลื่อนเก้าอี้สีขาวมีลายสีทอง พนักพิงสูง ให้ผมได้นั่ง อ่า รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงจัง
"ขอบคุณครับ" ผมเอ่ยขอบคุณคุณชานยอลหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้
ผมสาบานได้เลยว่าทั้งชีวิตนี้ไม่เคยกินข้าวอะไรหรูเท่าวันนี้มาก่อน มีทั้งกุ้งอบชีส เดาได้เลยว่ากุ้งสี่ห้าตัวนั้นต้องเป็นกุ้งลอบส์เตอร์แน่ๆ สเต๊กเนื้อแกะ เจ้าแกะตัวนั้นคงจะแพงน่าดู ซุปผักโขมสำหรับผมและคุณชานยอลอย่างละที่ แล้วยังมีขนมปังแยมทานเล่นอีก น้ำก็น้ำส้ม ผมกินน้ำเปล่าจนลืมไปแล้วนะครับว่ารสชาติน้ำส้มมันเป็นยังไง
"ทานเลยสิ แบคฮยอน มื้อนี้ฉันเลี้ยงเองฮ่าๆ" คุณชานยอลกล่าวขำๆแล้วลงมือรับประทานอาหาร เมื่อเห็นดังนั้นผมจึงหยิบช้อนส้อมของตัวเองขึ้นมาบ้าง
"แล้วแบคฮยอนเรียนอยู่ห้องไหนเหรอ" คุณชานยอบถามอย่างมีมารยาทเพื่อให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบงันจนเกินไป
"อยู่ห้อง 1-A ครับ แล้วคุณชานยอลละครับ" ถามผมแล้ว ผมก็เลยถือโอกาสถามคุณชานยอลบ้าง
"อ่อ ผมเรียนส่วนตัวนะ เป็นคล้ายๆ โฮมสคูล น่าเบื่อนะ เรียนแต่บริหาร ที่ต้องมารับรอบริหารโรงเรียนต่อจากพ่อ มันไม่สนุกเลยจริงๆ" แววตาของคุณชานยอลดูเศร้าจริงๆ อ่า เขาคงไม่อยากบริหารโรงเรียนสินะ
"แล้วคุณชานยอลโตขึ้นอยากเป็นอะไรเหรอครับ" ผมตัดสันใจถามจี้จุดคุณชานยอล
"ผมอยากเป็นนักดนตรีนะ ผมชอบเล่นกีต้าร์" คุณชานยอลพูดอย่างภูมิใจมากๆ แววตาเขามีความสุขกว่าการพูดเรื่องเรียนเยอะเลย
"ฮ่าๆ อย่างนี้ลูกเจ้าของโรงเรียนก็ไม่ใช่เด็กเรียนสินะ" ผมแกล้งพูดแซวๆ
"หืม? นายพูดเหมือนนายเด็กเรียน?" คุณชานยอลแซวกลับบ้างแต่คุณชานยอลอาจจะไม่รู้ว่ามันจี้จุดเกินไป ผมวางช้อนส้อมลงที่จานด้วยความรู้สึกอยากอาหารน้อยลงแล้วตอบคุณชานยอลกลับไปว่า
"ผมต้องเด็กเรียนอยู่แล้วสิครับ.." ผมตอบเสียงแผ่วเบาแล้วยิ้มๆ แต่แววตาผมมันเศร้าเมื่อคิดถึงเรื่องของตัวเอง
"..." คุณชานยอลเงยหน้ามามองผมที่ตอนนี้กำลังมองจานราวกับว่ามันมีอะไรน่าสนใจมาก
"ถ้าผมไม่เรียน ผมจะยืนในโรงเรียนนี้ได้อย่างไร.."
"ฉัน...ฉันขอโทษคือฉันลืมไปนะ"
"ช่างมันเถอะครับ ความจริงมันก็คือความจริง" หลังจากประโยคนี้จบความเงียบก็เข้าครอบงำอีกครั้ง
"เออนี่ แบคฮยอนนายไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณชานยอลก็ได้นะ เรียกว่าชานยอลเฉยๆก็ได้" คุณชานยอลเริ่มต้นบทสนทนาอีกครั้ง
"ไม่ดีกว่าครับ มันไม่ควรสักเท่าไหร่" ผมเอ่ยปฏิเสธกลับไป
"ใครตัดสินเหรอว่ามันไม่ควร ตอบฉันมาสิ" คุณชานยอลมองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วขึ้น
"คนทั้งโรงเรียนครับ..." ผมตอบกลับไป มันคือเรื่องจริงนี่นาถ้าผมพูดออกไปมันก็โดนเป็นคำครหานินทาว่าผมใช้เส้น อย่างนู้นอย่างนี้ แล้วอีกอย่างชนชั้นฐานะ ระหว่างผมกับเขามันแตกต่างกันเกินไปด้วย
"นายอาจจะลืมไปสินะว่าฉันเป็นลูกเจ้าของโรงเรียน แค่สิทธิ์ชั้นสิทธิ์เดียวมันกว่ามากกว่าเด็กทั้งโรงเรียนรวมกันด้วยซ้ำ" คุณชานยอลกอดอกแล้วพิงพนักพิงด้วยท่าทีสบายๆ
"ไม่ดีกว่าครับ.."
"ฉันสั่งให้นายเรียกฉันว่ายังไง นายก็ต้องเรียก เข้าใจใช่มั้ย? หรือว่านายไม่อยากสนิทกับฉัน..." ชานยอลแกล้งทำหน้าเศร้าใส่แบคฮยอน
"เอ่อ..ไม่ใช่นะครับ!! ไม่ใช่อย่างนั้น" แบคฮยอนตอบปฏิเสธมือตีกันเป็นพัลวัน ก็มันไม่ชินนี่นา..
"งั้นนายก็เรียกฉันว่าชานยอลเฉยๆสิ"
"คะ...ครับ ชะ..ชานยอล.." แบคฮยอนเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก รู้สึกกดดันเล็กน้อยที่ถูกชานยอลบังคับให้พูด
"ดีมาก หมาน้อย อิ่มหรือยัง อยากกลับห้องแล้วไหม?" ชานยอลถามไถ่หลังจากเห็นแบคฮยอนไม่แตะต้องช้อนส้อมมาสักพักแล้ว
"ครับก็ดี กลับเลยก็ได้ครับ" แบคฮยอนค่อยๆลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินตามชานยอลไปยังลิฟต์ตัวเดิม แล้วลงไปยังลานจอดรถส่วนตัว
เป็นเพราะตอนที่แบคฮยอนมายังพระราชวังสีทองแบคฮยอนยังคงอยู่ในนิทราจนไม่รู้ว่ารถที่ตัวเองนั่งมานั้นไม่ใช่รถกระจอกๆธรรมดาแน่ๆ แต่มันเป็น พอร์ชคันละหลายล้าน แบคฮยอนรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองโชคดี ละมั้ง?
"เชิญครับ.." ชานยอลเปิดประตูรถให้แบคฮยอน
"ขอบคุณครับ.." แบคฮยอนก้าวเข้าไปนั่งด้วยความรู้สึกเกร็งไปหมด แหม่รถเขาคันละหลายล้าน เครื่องยนต์ก็นำเข้า ถ้าของเขาพังนี่ชดใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด
"ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ ฮ่าๆ ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก"
"เอ่อ..คุณ เอ้ย ชานยอล ผมกลัวคนอื่นเห็นแล้วเขาว่าไปต่างๆนานา"
"แล้วจะให้ฉันปล่อยนายลงตรงนี้เหรอ? ไม่มีทาง" ชานยอลหักพวงมาลัยรถเลี้ยวขวาหลังจากพูดจบ
แบคฮยอนนั่งเงียบมาตลอดทาง มือขาวที่ตอนนี้ซีดและเย็นเฉียบราวกับแวมไพร์เนื่องจากความเกร็งที่ได้นั่งรถหรูและไม่รู้ว่าควรเอามือวางไว้ส่วนไหนของรถดี
ครืดดด
เสียงรถยนต์ครูดกับถนนเลาลงเป็นสัญญาณว่าตอนนี้ถึงหอพักของแบคฮยอนแล้ว
"โห หอพักสีเทา ฉันว่าคงต้องจ้างช่างมาทำใหม่แล้วละ นี่พ่อไม่เคยดูแลหรือไงกัน" ชานยอลบ่นเบาๆ หลังจากเห็นสภาพหอสีเทา โทรมๆ
"มันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วครับ แล้วพวกเราก็อยู่ได้ด้วย" แบคฮยอนตอบยิ้มๆ เนื่องจากตัวเองก็เริ่มรู้สึกผูกพันธ์กับหอนี้แล้วเหมือนกัน
"ฉันคงส่งนายได้แค่หน้าหอนี่ก็ สองทุ่มกว่าแล้ว เดี่ยวนายจะโดนคนคุมหอด่า เพราะฉะนั้น ฉันกลับก่อนละไม่รบกวนแล้ว" ชานยอลยืนบอกลาแบคฮยอนอยู่หน้าหอสีเทา
"รบกวนอะไรละครับ ผมนี่ละรบกวนคุณ เอ้ย รบกวนชานยอล งั้นผมขอตัวนะครับ" แบคฮยอนหมุนตัวกลับเตรียมเดินเข้าหอ
"เดี๋ยว!!" ชานยอลใช้ความแขนยาวของตัวเองคว้าแบคฮยอนเอาไว้
"ครับ?" แบคฮยอนหันมาทำหน้าสงสัยว่าชานยอลมีเรื่องอะไรกับตน
"ฝันดีนะ.." จบประโยค ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะได้ตอบกลับอะไรชานยอล ก็รีบวิ่งไปที่รถตัวเองแล้วสตาร์ทกลับพระราชวังทันที แต่ไม่รู้สิแบคฮยอนเหมือนเห็นหูชานยอลแดงด้วยละ คิกๆ
"ฝันดีเหมือนกันนะครับ.." แบคฮยอนกล่าวยิ้มมองตามรถที่ขับออกไปจนลับตาแล้วเดินเข้าหอ อ่า คืนนี้แบคฮยอนต้องฝันดีมากแน่ๆ
'ประกาศๆ ขอเชิญ นักเรียนบยอน แบคฮยอน พบคุณครูที่ลานน้ำพุ ที่สวนหลังโรงเรียน ประกาศอีกครั้ง ขอเชิญนักเรียนบยอน แบคฮยอน พบคุณครูที่ลานน้ำพุ ที่สวนหลังโรงเรียน ขอบคุณค่ะ'
หลังจากประกาศนั้นจบคุณครูก็บอกให้แบคฮยอนรีบๆไปเพราะอาจจะมีเรื่องสำคัญแต่ว่า เพื่อนในห้องบางคนก็ตะโกนขึ้นมา บ้างก็ว่า โดนถอนสิทธิ์เด็กทุน บ้างก็ว่าโดนใช้ให้ทำความสะอาด ใครจะไปรู้ผมอาจจะโดนอย่างที่พวกเขาว่าก็ได้นะ
ผมเดินลากเท้ามายังสวนหลังโรงเรียน แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบกับความว่างเปล่า ไม่มีคุณครู มีแต่โต๊ะหินอ่อนกับเก้าอี้ทรงสวยข้างน้ำพุ สูงใหญ่ อันเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ของโรงเรียน
เขาว่ากันว่าใครมาสารภาพรัก ณ ที่แห่งนี้ เขาคนนั้นก็จะมีโชคด้านความรักไปตลอด ไม่เพียงแค่นั้น เด็กบางคนก็มาขอทางด้านการเรียนบ้าง ด้านการดำเนินชีวิตบ้าง ผมก็เคยนะ แต่ผมมาขอให้ตัวเองกลายเป็นคนโชคดีที่สุดในโลก ไม่มีใครชอบหรอกครับการอยู่แบบนี้ สังคมที่ถูกคนรวยกีดกัน
"สวัสดีแบคฮยอน.."
"อ้าวคุณ เอ้ย ชานยอลมาทำอะไรที่นี่ครับ" ผมถามออกไป อ้าว ชานยอลอยู่นี่แล้วครูละไปไหน?
"เอ่อ จริงๆแล้ว ผมเป็นคนประกาศเรียกตัวแบคฮยอน มาเองละ ไม่รู้ว่าจะชวนมากินข้าวด้วยกันยังไงดี มัน..."
"..." ผมทำหน้าสงสัยเมื่อชานยอลลากเสียงยาวช่วงท้ายประโยค
"มันเขินนะครับ..." ชานยอลก้มหน้าก้มตาหน้าแดงจนลามไปถึงใบหู
"ฮ่าๆ คุณ เอ้ย ชานยอลน่ารักจังเลยนะครับ" ผมยังไม่ค่อยชินกับการเรียกคุณชานยอลว่าชานยอลสักเท่าไหร่
"ขอบคุณครับ ว่าแต่ คุณผู้หญิงพร้อมจะทานอาหารกลางวันกับผมหรือยังครับ?"
"..." อากาศแถวนี้ร้อนเนอะ คนบ้า ชวนอะไรโจ้งๆแบบนี้ คุณผู้หญิงอะไรเล่า ฉันเป็นผู้ชายนะ !
"ว่ายังไงครับ?" ชานยอลถามอีกครั้งหลังจากผายมือเชิญอยู่นาน
"ตกลงครับ" แบคฮยอนเลื่อนมือไปสัมผัสกับมือของอีกฝ่ายพร้อมเดินไปยังโต๊ะอาหาร
"..." เมื่อถึงโต๊ะชานยอลก็ทิ้งตัวลงนั่งทันที
"เอ่อ ชานยอล ทำไมมีเก้าอี้ตัวเดียวละ?" แบคฮยอนถามอย่างสงสัยทั้งที่ชวนเขามากินแต่ทำไมกลับมีเก้าอี้ตัวเดียว จะให้เขายืนกินเหรอ?
"อ่อ ลืมไปมานี่มาแบคฮยอน" ชานยอลกวักมือเรียกแบคฮยอนสองสามที
"..." แบคฮยอนชี้หน้าตัวเองทำหน้าสงสัยแล้วเดินไปยังเก้าอี้ตัวที่ชานยอลนั่งอยู่
ฟึบ
"อ้ะ.."
"แค่นี้ก็มีที่นั่งแล้วเนอะ.."
"..." จะให้พูดว่ามีที่นั่ง มันก็มีแต่มี แต่ตรงที่ไม่โอเคก็ตรงที่ ทำไมที่นั่งผมต้องเป็น
หน้าตักชานยอลด้วยละ...
"ทานสิ ไม่อยากกิน เหรอ มีทั้งข้าวผัด ซุปเห็ด เยอะแยะไปหมด" ชานยอลตักข้าวกินหน้าตาเฉยโดยไม่เดือดร้อน
"เอ่อ ผมกินไม่ถนัดนะครับ" ผมตอบตามตรง มันทั้งเขินทั้งกดดันโอ๊ย เขิน!!
"อ่อ ได้สิ"
"ยื่นช้อนมาทำไมครับ" ไอที่อึดอัดนี่ผมหมายถึงอึดอัดที่นั่งตักไม่ใช่ยื่นช้อนมาแบบนี้ อ้อ ยื่นส้อมมาด้วย
"ป้อนหน่อยสิ แล้วนายก็กินของนายได้เลย" ไอยิ้มที่กว้างจนหน้าหมั่นไส้มันกำลังเกิดขึ้นกับคนตรงหน้า
"เอ่อ ไม่ดีกว่าครับ งั้นผมไม่รบกวนแล้วเดี่ยวผมไปทานข้าวที่โรงอาหารก็ได้ สวัสดีครับ" แบคฮยอนพูดรัวเป็นชุดใส่ชานยอลแล้วเตรียมจะลุกหนีถ้าไม่ติดตรงที่ว่า
ชานยอลเอื้อมมือสองข้างของตัวเองพาดรอบช่วงหน้าท้องของแบคฮยอนพร้อมประสานมือทั้งสองไว้อย่างแน่นหนา
เฮือออก
"แค่นี้ตกใจเลยเหรอ หื้ม?" ชานยอลที่เห็นแบคฮยอนสะดุ้งหนักถามออกไป
"ปะ..ปะ..เปล่าครับ" แบคฮยอนยังไม่ยอมรับว่าตัวเองทั้งตกใจและเขินไปพร้อมๆกัน
"ถ้าไม่ตกใจก็ดี งั้นป้อนข้าวหน่อยสิ มือฉันไม่ว่างนะ" ว่าแล้วชานยอลก็กระชับมือรอบเอวแน่นขึ้นอีกหน่อย
" อ้อ! แล้วโรงอาหารนะ ไม่ต้องไปแล้ว เดี่ยวฉันโทรนัดนายมากินข้าวเอง เข้าใจไหม หื้ม?" ชานยอลถามพร้อมยืนหน้าไปตรงไหล่แล้วเอี้ยวหน้าเข้าหาหน้าแบคฮยอน
"มันคงดูไม่เหมาะมั้งครับ..." แบคฮยอนตอบอีกครั้ง
"จะต้องให้ฉันบอกนายอีกกี่รอบว่า 'สิทธิ์ของฉันสิทธิ์เดียวมันมากกว่าสิทธิ์ของคนทั้งโรงเรียน' "
หลังจากวันที่เขาลากผมไปทานอาหารที่สวนน้ำพุหลังโรงเรียนวันนั้น เขาก็พาผมไปทานอาหารมื้อกลางวันและมื้อเย็นด้วยกันอีกตลอดทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน
"ขออนุญาตครับคุณครู คุณชานยอลให้มาตามคุณแบคแบคฮยอนไปพบครับ" เสียงยามหรือการ์ดประจำตัวคุณชานยอลคนเดียวกับที่ไล่แบคฮยอนซึ่งรู้แล้วว่าตอนนี้ชื่อจงอินมาตามตัว
"เชิญค่ะ ไปสิแบคฮยอน"
"คะ...ครับ" นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาตามผมไปทานข้าวด้วยแบบนี้ ทุกคนในห้องโดยเฉพาะคุณครูก็ผลักไสไล่ส่งผมเหลือเกินด้วยเหตุผลที่ว่าเดี๋ยวคุณชานยอลจะโมโหแล้วตัวเองจะมีปัญหา
แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะเรื่องที่น่ากลัวมันคือสายตาของผู้หญิงซึ่งผู้เป็นแฟนคลับชานยอลส่งสายตาอาฆาตมาประมาณว่า 'แก อีแบคฮยอนแกมีสิทธิ์อะไรมากินข้าวกับเจ้าชายในฝันฉัน' สายตาพวกนั้นน่ากลัวมากครับ แบคฮยอนก็เลยรีบเผ่นออกมาหาคุณชานยอล
"เอ่อ..ชานยอลรอนานไหม?" หลังจากผ่านมานานพอสมควรการเรียกชานยอลด้วยชื่อเฉยๆก็ติดปากเป็นที่เรียบร้อย
"ไม่หรอกครับ เพิ่งมาเหมือนกัน" ชานยอลตอบผมยิ้มๆ
"แล้วเราจะไปไหนกันเหรอครับทำไมต้องเอารถมาด้วย?" แบคฮยอนถามเมื่อเห็นแลมโบกินีสีแดงเพลิง อืม วันก่อนดูคาติ วันนี้แลมโบ -____-
"ไปห้างเครือ ปาร์คกรุ้ปกันครับ เราจะไปทานเนื้อย่างกันเป็นมื้อเย็นวันนี้"
"นี่เพิ่งบ่ายสามเองนะครับ ?" แบคฮยอนถามเมื่อก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ
"เราก็ไปเดินเล่นกันก่อนไงครับ ไปกันเถอะ" ชานยอลเปิดประตูให้แบคฮยอนเข้าไปนั่ง
"คาดเบลท์ด้วยครับ วันนี้เราจะออกนอกโรงเรียน"
ตึก ตึก!
"ฮ่าๆ อย่าดึงแรงสิครับ มันดึงไม่ออกนะถ้าดึงแรง" หลังจากเห็นแบคฮยอนดึงอยู่นานชานยอลก็เอ่ยขึ้นมา
"..." แบคฮยอนยู่ปากอยู่นิดหน่อยเรื่องจากโดนหัวเราะใส่
หลังจากยู่ปากอยู่ไม่นานก็ต้องเกิดอาการร้อนผ่าวที่หน้าอีกครั้งเมื่อชานยอลเอี้ยวตัวมาจับสายเบลท์แล้วคาดผ่านตัวจนรู้สึกเหมือนจมูกเฉียดแก้มชานยอล โดยที่เจ้าตัวไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเหมือนคนโดนคาดเบลท์ที่ตอนนี้ลืมวิธีหายใจไปเรียบร้อยแล้ว
"อ่า เรียบร้อยแล้วไปกันเลยนะครับ" ชานยอลพูดกับอีกคนที่ตอนนี้นั่งอึ้งหลังจากผ่านเหตุการณ์อันตรายต่อหัวใจ
"..."
"แบคฮยอน แบคฮยอนครับ!!" เมื่อไม่ได้ยอนเสียงตอบรับชานยอลจึงหันไปหาแบคฮยอนแล้วพบว่าเจ้าตัวนั่งอึ้งอยู่จึงเพิ่มระดับเสียงขึ้นไปอีก
"คะ..ครับๆๆ" แบคฮยอนรีบตอบจนลิ้นพันกันมั่วไปหมด
"ไปกันเลยนะครับ.." ชานยอลบอกประโยคเดิมอีกครั้ง
"ครับๆไปกันเลย" แบคฮยอนตอบแล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
อ่า นี่มันชักอันตรายต่ออัตราการเต้นของหัวใจขึ้นทุกวันแล้วนะ...
#ชานแบคบยอนบี
-talk-
เห่นโล่วววว ตอนนี้ก็ยังไม่มีไรมาก เรื่อยๆ ตอนหน้าทำให้ฟินดีไหมนะ อยากเอาฟินๆ แต่กลัวฟินไม่ออก แล้วเก้อทำไงดี ขอกำลังใจละกันนะ เม้นท์เลยๆๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น