ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : High school - 13 [THE END]
13
ตอนนี้พวกเรากำลังเดินทางกลับบ้านครับ เราทั้งสองฝ่ายเงียบใส่กันไม่มีใครเอ่ยประโยคอะไรออกมาเลยแม้แต่คำพูดเดียว เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมจึงยังทำอะไรมากไม่ค่อยได้ ได้แต่พูดกับตัวเองว่ารอเวลาที่ถึงบ้านเสียก่อนแล้วเรื่องทุกอย่างจะต้องจบลง
"ชานยอล" ผมเป็นเอ่ยทักอีกฝ่ายก่อน
"มีอะไร" เค้าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆเหมือนครั้งแรกที่เราคุยกันไม่มีผิด
"คือเรื่องที่นายเห็นที่โรงแรมระหว่างฉันกับจงอิน ไม่ว่าที่นายเห็นคืออะไรได้โปรดฉันอยากให้นายเชื่อใจฉัน"ผมอธิบายให้เค้าฟัง
"ฉันว่าหลักฐานมันคาตาฉันแล้วเพราะฉะนั้นฉันคงต้องเชื่อในสิ่งที่ตาฉันเห็นมากกว่าคำพูดลวงๆหลอกๆอย่างคำพูดของนาย"
"ชานยอล!!! นายเชื่อฉันเถอะ ฉันพูดจริงนายไปถามจงอินก็ได้ ระหว่างฉันกีบจงอินมันไม่มีอะไรกัน มันมีแคคำว่าเพื่อน"
"ต่อให้ฉันไปถามมันถ้ามันเลวเหมือนนาย! มันจะยอมรับทำไมละว่ามันจูบกับนาย!!"
"ชานยอลเชื่อใจฉันสิ ได้โปรดฟังฉันบ้าง"ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบเพื่อหวังว่าเค้าจะฟังผมบ้าง
Baby don't cry tonight~
"ฮัลโหลว" ชานยอบรับโทรศัพท์หลีงจากที่เสียงรอสายจากโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
"อืมได้ เจอกันที่บ้านนายนะ.."
"..." ผมยืนเงียบเพราะไม่รู้ว่าปลายสายที่เค้าคุยด้วยนั้นคือใคร
"แบคฮยอน.."
"ชานยอล ชานยอลเชื่อใจฉันแล้วใช่มั้ย ชานยอล" ผมพูดกับเดินไปกอดเขาทั้งน้ำตาเพราะว่าเค้าหันกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
"ปล่อยฉันแบคฮยอน แล้วเราจะไปบ้านคยองซูกัน.."
"บ้านคยองซู ไป? ไปทำไม ไปทำอะไร" ผมถามคำถามเขาออกไปด้วยความอยากรู้
"โทรศัพท์มือถือคยองซูหายเค้าสงสัยว่านายเอาไป"
"ชานยอล... ฉันไม่ได้เอาไปนายเชื่อฉันนะ..."
"ฉันยังจะไม่เชื่ออะไรจนกว่าจะได้รับรู้ความจริง..."
"..."
แหมะ
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงลงสู่พื้น เค้าไม่เคยมีความเชื่อใจอะไรฉันเลย ถึงเวลาที่เราต้องทำตามที่คุณคยองซูบอกแล้วสินะ ถึงเวลาที่เราควรจะถอยออกมาได้แล้ว
บ้านคยองซู
"อ้าว มาแล้วเหรอชานยอล เข้ามาก่อนสิ"
"คือเราขอโทษที่เรียกมาในเวลาแบบนี้นะแต่คือโทรศัพท์เครื่องนั้นมันสำคัญมากเพราะว่ามันมีงานที่เราทำค้างอยู่เราจำเป็นต้องหาจริงๆ คือ...เราขอค้นกระเป๋าทุกคนหน่อยได้มั้ยแต่! แต่คือฉันำม่ได้หมายความว่าพวกนายสองคนเอาไปนะ คือฉันๆ ฉันแค่อยากเชื่อใจพวกนายเท่านั้นเอง"
"เราก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้วนิ เชิญค้นได้ตามสบายเลยนะ" ชานยอลตอบคยองซูด้วยสีหน้าและน้ำเสียงร่าเริงไม่เหมือนกีบเมื่อกี้นี้เลย
"ของชานยอลไม่มีกะอยู่แล้วต่อไป เหลือแบคฮยอน เนอะ" ผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือป่าวว่าในน้ำเสียงนั้นมันมีอะไรแปลกๆอยู่แต่ผมบอกไม่ถูก
"อืม" ผมตอบรับคำกลับไปสั้นๆ
"อ้ะ !! นี่มันโทรศัพท์เรานิ!!" ผมหันกลับไปหาคยองซูทันทีว่ามันมาอยู่กับผมได้ไงในเมื่อผมยังไม่ได้แต่ของอะไรของเค้าเลย
"แบคฮยอน!! ทำไมนายเป็นคนแบบนี้!!" ผมหันหลับไปมองหน้าชานยอลด้วยสายตาที่ผิดหวังเอามากๆ นี่เค้าไม่คิดจะถามผมหน่อยเลยหรือไง
"ชานยอลใจเย็นๆ นะ นี่ไงเราได้โทรศัพท์คืนแล้ว พอแล้วเนอะ" ชัดเลยในน้ำเสียงนั้นมันมรความสมเพชผมอยู่ เหอะ ว่าแล้วเขียว
"ปล่อยไม่ได้หรอกคยองซู พวกที่ไม่เชื่องไม่ว่าเรื่องอะไรปล่อยไปไม่ได้แล้ว ฉันจะแจ้งความ!"
"!!!" ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจนี่เค้าไม่คิดจะถามผมไม่พอเค้ายังจะแจ้งความเลยเหรอ
"ไม่เอาน่าชานยอล ปล่อยๆไปเถอะนะ" เอาอีกแล้วตีหน้าซื่ออีกแล้ว
"ก็ได้ นี่เห็นแก่คยองซูนะ ไปแบคฮยอนกลับบ้านเรามีเรื่องต้องคุยกัน!!"
"เอ่ออ ชานยอลคือคืนนี้ชานยอลอยู่เป็นเพื่อนเราที่นี่หน่อยได้มั้ย คือเราไม่มีใครอยู่บ้านแล้วเราไม่อยากอยู่คนเดียวอ่ะ" เบื่อคนเสแสร้ง!!
"ได้สิ แบคฮยอนนายคงกลับเองได้นะ"
"ครับ..ผมขอบอกคุณชานยอลไว้หน่อยนะครับว่าถ้าแค่ความเชื่อใจคุณยังให้ผมไม่ได้ เราคงต้องจบกันสักทีครับลาก่อน" ผมไม่อยากเซ้าซี้อะไรผมเลยตอบกลับไปแบบนั้น ผมเดินออกจากบ้านคยองซูด้วยความรู้สึกเสียใจ ที่แค่เรื่องนี้เค้ายังไม่เชื่อใจผมเลยถ้าอยู่ไปคงไปด้วยกันไม่รอดแน่ๆ ลาก่อน ปาร์คชานยอล...
chanyeol's part
ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่านะครับที่คิดว่าคำพูดของแบคฮยอนมันค่อนข้างกำกวมมากๆ ผมรู้สึกมีลางสังหรณ์แปลกๆเกิดขึ้นที่ทำให้ผมอยากกลับไปที่บ้านเร็วๆ หวังว่าลงสังหรณ์ของมันจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ผมคิดนะครับ
"อืม..." ผมบิดขี้เกียจแล้วลืมตาขึ้นมามองคยองซูที่ผมนอนกับเค้าทั้งคืน อ้ะๆๆผมกับเค้าไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันทั้งนั้นนะครับอย่าเพิ่งเ้ขาใจผิดไปซะละ
แกร๊ก เอียด
หลังจากที่ผมอาบน้ำจากที่บ้านคยองซูเสร็จผมก็ขอตัวกลับมาที่บ้านผมทันที ตอนนี้ผมกำลังเดินเข้าที่โต๊ะทานข้าวผมเห็นคุณแม่นั่งทานข้าวกับป้าหัวหน้าแม่บ้านที่ดูซึมๆผิดปกติทำให้ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหารผมจึงถามเข้าไปทันทีว่า
"เป็นอะไรกันหรือป่าวครับ?" ผมถามออกไปด้วยความสงสัย
"..." คุณแม่ไม่ยอมตอบผม
"เอ่อ..ป้าครับมีเรื่องอะไรเหรอครับ ?" ผมถามป้าออกไปเมื่อไม่ได้คำตอบจากผู้เป็นแม่
"คือแบคฮยอนมาที่บ้านหลังใหญ่เมื่อคืนค่ะ แล้วเค้าก็....ฮึก"
"แบคฮยอน แบคฮยอนทำไมครับป้า !?!" ผมถามออกไปอย่างกลัวคำตอบเมื่อเห็นป้าแม่บ้านเริ่มร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
"เค้ามาขอลาออกไปคะ คุณหนูป้ายื้อเค้าไว้แล้วแต่เค้าบอกว่าเค้าตัดสินใจดีแล้วค่ะ ป้าทำใจยังไม่ค่อยได้เลยร้องไห้แบบนี้ละคะ...ฮึก..."
เพล้ง
ช้อนส้อมที่อยู่ในมือผมร่วงลงมาทันทีเพราะว่าผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปเมื่อคืนมันจะเป็นถึงขนาดนี้ แบคฮยอน เค้าไปไหน แล้ว ? ได้โปรดเถอะพระเจ้า ได้โปรดเมตตาขอให้แบคฮยอนยังเรียนอยู่ที่เดิม ได้โปรด...
"แม่รู้เรื่องของลูกกับแบคฮยอนแล้ว..."
"..." ผมตกใจเป็นรอบที่สองเมื่อได้ยินคำพูดจากปากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่
"แม่ไม่ได้ห้ามอะไรลูกหรอกนะ แต่แม่แค่อยากบอกลูกว่าความรัก ถ้าไว้ใจกันไม่ได้มันก็ไปกันไม่รอดหรอกลูก แล้วการที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแม่อยากให้หนูสู้ หวังว่าลูกคงไม่ถึงขั้นกินเหล้าจนติดหรอกนะลูก" เมื่อแม่เอ่ยประโยคนี้ออกมามันทำให้น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาและมันทำให้รู้ว่าผมได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดมากๆลงไปแล้ว
"แม่ครับผมยัง..ฮึก...มีโอกาสเจอเค้าใช่มั้ย" ผมพูดทั้งเสียงสะอื้นพร้อมเดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่
"ถ้าลูกหมายถึงที่โรงเรียนละก็แม่คงต้องบอกลูกละกันนะ แบคฮยอนเค้าลาออกแล้วพร้อมกับสละทุนนั้นทิ้งไป..."
"ฮึก.." ผมร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคนั้น
"คุณผู้หญิงค่ะ!!!!! ๆๆๆๆ!!!"เสียงป้าแม่บ้านถือโทรศัพท์พร้อมวิ่งออกมาหน้าตื่น
"มีอะไรกันป้า ใจเย็นๆ ค่อยๆเล่า" แม่ผมคลายอ้อมกอดแล้วไปถามป้าแม่บ้าน
"คือ..แบคฮยอนโดนรถชนตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลในเครือปาร์คค่ะ !!!"
"ว่าไงนะ! อ้ะ ชานยอล!!" หลังจากที่ผมได้ยินประโยคนั้นขาของผมมันสั่งให้ผมวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็วได้โปรด พระเจ้าโปรดไว้ชีวิตดวงใจของผมด้วย ผมไม่อยากเสียเค้าไปได้โปรด ผมรีบสตาร์ทรถแล้วขับออกไปที่โรงพยาบาลในเครือปาร์คทันที...
ตึกๆๆๆ
ตอนนี้ผมวิ่งมาหยุดอยู่หน้าห้องที่ผ่าตัดด้วยความรวดเร็ว
ปังๆๆๆๆ
ผมพยายามทุบประตูให้เค้าเปิดประตูให้ผมแต่ไม่มีท่าทีว่าเค้าจะมาเปิดผมเลยทุบแล้วทุบอีกทุบๆๆ
"เอ่อ คุณชานยอลดิฉันว่าคุณชานยอลรออยูที่ข้างนอกนี้ดีกว่านะค่ะ ดิฉันคิดว่าถ้าคุณเข้าไปมันอาจทำให้คุณติดเชื้อโรคได้นะค้ะ" มีพยาบาลสาวคนหนึ่งมาพูดปลอบปละโลมให้ผมใจเย็น
"ก็ช่างมันสิว้ะ!!! ฉันจะไปหาแบคฮยอน" ตอนนี้ผมกำลังโวยวายเหมือนคนบ้า ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำอะไรดี สมองผมมันตื้อไปหมดผมรู้แค่ว่าผมอยากเข้าไปข้างในนั้น ห้องที่มีแบคฮยอน ห้องที่ผมทำความผิดกับเค้าเอาไว้เยอะมาก
"ปาร์ค ชานยอล! อยู่ตรงนี้นี่ละ ฉันเข้าใจแก แต่สิ่งที่แกทำได้ในตอนนี้คือรอไม่ใช่มาโวยวายเหมือนคนบ้า!"
"....." ผมหยุดลงเมื่อแม่ขอบผมเข้ามาพูดกับผมให้ใจเย็น ใช่แล้ว สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้มีสิ่ง
เดียวคือรอกับรอผมทำอะไรมากไปกว่านั้นไม่ได้
แอ๊ดด
"หมอ!! หมอครับคนไข้เป็นยังไงบ้างครับ!!" ผมรีบถามออกไปด้วยความร้อนรน ผมกลัว กลัวว่าแบคฮยอนจะเป็นอะไรไป กลัว กลัวไปหมด
"เอ่อ ขอโทษนะครับคนไข้มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 2 ชั่วโมงครับ หมอพยายามเต็มที่แล้วขอโทษด้วยนะครับ"
"ม่าย!!! หมอ!! อย่ามาโกหกผม!! เป็นหมอประสาอะไรทำไมช่วยคนไข้ไม่ได้วะ!!!!" ผมตะโกนด่าหมออกไปอย่างเหลืออด
"ชานยอล!!! แทนที่แกจะเอาเวลามาด่าหมอ แกเอาเวลาไปหาแบคฮยอนดีกว่ามั้ยอีก 2 ชั่วโมงแกก็จะไม่ได้เห็นหน้าเค้าอีกตลอดไป ไม่อยากเข้าไปสำนึกผิดหน่อยเหรอ!!!" ผมตกใจมากเมื่อหันเจอแม่ยืนชี้ด่าผมหน้าดำหน้าแดง แต่ผมไม่โกรธแม่หรอกครับเพราะว่าสอ่งที่แม่พูดมันถูกแทนที่ผมจะเอาเวลาไปด่าหมอผมเอาเวลาที่เหลือยู่ไปหาแบคฮยอนดีกว่า
แกร๊ก
ตอนนี้ผมเดินเข้ามาในห้องที่แบคฮยอนนอนหลับตาอยู่ แบคฮยอนเปลี่ยนชุดเป็นสีฟ้าอ่อนสิ่งเป็นสีประจำเครือตระกูลปาร์ค และมีสายระโยงระยางเต็มไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย ยิ่งผมเดินเข้าไปใกล้แบคฮยอนเมื่อไหร่ ผมยิ่งรู้สึกเหมือนเขาไกลออกไปทุกที ผมกลัวๆ กลัวว่าวันข้างหน้าที่ผมไม่มีแบคฮยอนมันจะเป็นยังไง
"แบคฮยอน...ฮึก... ได้ยินชานยอลมั้ย...ฮึก..." ผมพูดออกไปทั้งที่รู้ว่าเค้าไม่ได้ยิน
"..."
"แบคฮยอน ยอลขอโทษในสิ่งที่ยอลทำลงไป....ฮึก...แบครู้มั้ย....ฮึก...วันแรกที่เราเจอกันยอลโครตไม่ชอบแบคเลยมองว่าแบคเป็นเด็กต่ำต้อย เป็นเด็กทุนมีสิทธิ์อะไรมาเรียนโรงเรียนนี้ หน้าตาก็เฉิ่มตัวก็บางอย่างกับผู้หญิง...ฮึก...คนอะไรไม่รู้ไปตากฝนเพื่อช่วยหมาตัวนึงเนี่ยนะ ตลกสิ้นดี...ฮึก...วันแรกที่แบคเข้ามาทำงานในบ้านยอล ยอลคิดแผนเอาไว้เต็มหัวเลยนะ ว่าถ้ายอลคนนี้ทำให้แบคอับอายไม่ได้อย่าเรียกคนนี้ว่าชานยอล..ฮึก..แต่รู้มั้ยพอผ่านไปนานๆเข้ามันก็เกิดเรื่องร้ายๆกับแบคเยอะขึ้นจากที่เคยผลักไสกลับกลายเป็นห่วง ห่วงมากขึ้นเรื่อย ห่วง กลัวว่าแบคจะเป็นอะไรไป กลัว..ฮึก..ในขณะที่ทุกอย่างมันกำลังไปด้วยดี ยอลกับทำมันพังเพียงแค่เพราะว่ายอลไม่เชื่อใจแบค แต่ตอนนี้ยอลเชื่อใจแบคแล้วนะ ตื่นมาหายอลหน่อยสิแบค..ฮึก..ตื่นมาฟังคำว่ารักจากปากยอลเถอะนะ..." ผมพูดประโยคยาวๆนี้ออกไป ผมอยากให้เค้าตื่น ตื่นขึ้นมาหาผม
"ถ้าตื่นแล้วจะบอกว่ารักจริงๆเหรอ ปาร์คชานยอล.."
"ใช่...อ้ะ!!!.. แบคฮยอน แบคๆ!! แบคฟื้นแล้วๆ!!!!!!!"
"ย่าห์ปาร์คชานยอล เงียบๆหน่อย"
"..." ผมหุบปากทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
"ไหนบอกว่าถ้าตื่นแล้วจะบอกรักไง"
"ยอลรักแบค!!!!" ผมตะโกนออกไปอย่างไม่คิด
"แบคก็รักยอล!!!!!" แล้วเราทั้งคู่ก็หันมาสบตากัน
"นี่หลอกยอลเหรอฮะ" ผมพูดพร้อมบีบเบาๆที่ปลายจมูก
"ฮิๆ ถ้าไม่บอกแล้วจะได้ยินคำว่ารักปะ?"
"บอกทุกวันยังได้เลย...."
"แบครักยอล..."
"แต่งงานกันนะ..."
"ย่าห์!!! นี่ยังเรียนไม่จบเลยนะ !"
"ก็รอเรียนจบก่อนไงตกลงมั้ย?"
"อืม.."
"ห้ะ! ไม่ได้ยิน"
"เอออ!!!!!"
"โหวตะโกนซะตกใจหมดเลย.. แบคไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไงยอลจะเขื่อใจแบคตลอดไปนะ"
"แบคก็เหมือนกัน..." หลังจากนั้นไม่ต้องมีคำพูดที่หวานซึ้งกลีบปากทั้งสองแนบชิดกันด้วยความรักตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป....
END
ตัดฉับมาที่คยองซู
หลังจากที่ผมเห็นเหตุการณ์ภายในห้องแล้วผมก็รู้ดีเลยว่าผมควรหยุดได้แล้วขอให้มีความสุขมากๆนะ ชานยอลแบคฮยอน
#จบแล้วเฮ้ ถ้าไรท์มีฟิคเรื่อง ใหม่อย่าลืมติดตามน้าาาาา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น