ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ SF ] : SJ : SIHAN : INNOCENT Romantic ( Yaoi )

    ลำดับตอนที่ #11 : [ SF ] SIHAN Knock out you ตามติดหัวใจเจ้าชายสุดหล่อ

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 54





    [ SF ] SIHAN Knock out you ตามติดหัวใจเจ้าชายสุดหล่อ





    By : GALAXYRung





    ข้อแนะนำก่อนการอ่าน ถ้ามีคำว่า น่ารักอ่ะ โปรดทำเสียงเหมือนโก๊ะตี๋ จะได้อารมณ์มากยิ่งขึ้น หลายคนถามว่ามันเกี่ยวไรด้วย ไม่เกี่ยวหรอก แต่ไรเตอร์ชอบพี่โก๊ะ My Idol อะ








    โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง มีร่างสูงนักเรียนสุดหล่อนามว่า ชเว ซีวอน รูปหล่อพ่อรวย เรียนเก่งหัวสมองระดับเทพ เดินเข้ามาในบริเวณโรงเรียน ทำเอาสาวๆ หรือแม้แต่หนุ่มๆในบริเวณนั้นถึงกับเหลียวหลังมอง คิดดูสิว่าหล่อขนาดไหน







    “ นี่เธอนั่นรุ่นพี่ซีวอนนี่ อ๊ายหล่อทุกวันเลยอ่า พี่เขายิ้มให้ฉันด้วยอะ ไม่ไหวแล้ว อ๊อก ” น้องนีถึงขั้นน็อคกับสเน่ห์ที่สุดจะทานทน ล้มลงไปกองกับพื้น แต่เบื้องหลังคือ ซีวอนยิ้มให้เพื่อนที่อยู่ด้านหลังน้องนีทั้งสอง






    “ ไอ้ฮันนั่นไงซีวอน แกไปบอกเขาเลยเร็วๆ สิ เดี๋ยวเขาไปก่อนนะแก ”





    “ แปปหนึ่งดิ ให้ฉันทำใจก่อน ” ฮึฮันเกิงสู้ๆ พร้อมละ







    “ ฉันไปก่อนนะ ” ฮันเกิงทำท่าจะวิ่ง แต่เพื่อนๆรู้ทันจับคนที่คิดจะหนีไว้ทัน




    “ จะไปไหน แกไปบอกเขาเดี๋ยวนี้ หรือแกป็อดวะ ” พอโดนยั้วเข้าหน่อยฮันเกิงก็ฮึดสู้ทันที เอาก็เอา น่ารักอ่ะ




    “ เออ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ” ฮันเกิงเดินดุ่มๆไปหาซีวอนก่อนจะทำใจกล้า





    “ อะเอ่อ ชเว ชเวซีวอน ” ในที่สุดก็เรียกออกไปแล้ว








    หือเมื่อกี้รู้สึกเหมือนใครเรียก ร่างสูงหันซ้ายหันขวาแต่ก็ไม่เจอใคร จะเจอได้ไงละ ก็คนเรียกเล่นหลบอยู่หลังต้นไม้ โหแล้วเขาจะเห็นไหมเนี่ย









    “ ฉันอยู่นี่ หลังตั้นไม้ ”




    “ นายเรียกฉันมีอะไรหละ ”





    “ เอ่อ คือว่าฉันชอบนาย ”







    “ แล้วไงอีก ”









    “ ก็ฉันชอบนายไง ”






    “ อืมรู้แล้ว นายจะพูดแค่นี้ใช่ไหมงั้นฉันไปละ ” หะแรงอะผู้ชายคนนี้ ไม่น่ารักอ่ะเลยนะ









    “ หะ ได้ไงอะ ฉันสารภาพกับนายไปแล้วนายตอบกลับแค่เนี่ย ”









    “ อืมก็จะให้พูดอะไรอีกอะ เอางี้แล้วกัน สั้นๆง่ายๆ ฟังดีๆนะ ฉัน ไม่ ชอบ นาย ชัดไหม ” จะ ใจร้ายอะ พูดแรงมากนะเนี่ย ตอนนี้ซีวอนกำลังจะเดินไปแล้ว แต่คนอย่างฮันเกิงไม่ยอมหรอก






    “ เดี๋ยว ”






    “ อะไรของนายอิ ..... ” ฮันเกิงได้ทีวิงมากระโดดจูบซีวอน ฮ่าทำหน้าเหวอเชียวนะเจ้าชาย





    “ ฉันจะจีบนายให้ได้คอยดู ” พูดจบก็วิ่งหนีไป อายอะ








    “ กล้ามากไปไหมเนี่ย นายนี่น่ากลัวยังไงไม่รู้ ”










    ด้านฮันเกิง







    “ โอ๊ยจะเป็นลม ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย น่าอายจริงๆเลย ”






    “ โหย ไอ้ฮันเจ๋งนี่หว่า เพิ่งรู้ว่าแกแรง ”







    “ แรงบ้าอะไร ฉันยังช็อคอยู่เลยเนี่ย ”







    “ แกทำได้เชื่อฉัน ”








    “ อันนั้นฉันรู้ พวกแกเนี่ยช่วยได้มากเลยนะ ” ฮันเกิงประชด ก็แหมเล่นพูดซะขนาดนั้น
    ย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว









     ณ โรงอาหาร ที่โต๊ะแห่งหนึ่ง









    “ ไอ้ฮัน เมื่อไหร่แกจะจีบซีวอนสักที ฉันเห็นแกบ้าหมอนั่นมาตั้งนานแล้วนะ ”







    “ ฉันยังไม่พร้อม ”









    “ ไม่พร้อม แล้วเมื่อไหร่แกจะพร้อม หรือว่า .......... ”






    “ หรือว่าอะไร ”







    “ หรือว่าแกไม่กล้า ”






    “ อะไร ทำไมฉันจะไม่กล้า คนอย่างฮันเกิงซะอย่าง เรื่องหน้าด้านอะที่หนึ่งอยู่แล้ว กล้าเสมอแหละ ” ( กล้าที่ไหนละถ้ากล้าฉันคงไม่แอบมองอยู่อย่างนี้หรอก )






    “ เหรอ แกกล้าจริงอะ ถ้าแกกล้าจริงแกก็จีบซีวอนดิ ”






    “ ทำไมฉันต้องทำอย่างที่แกบอกด้วยหล่ะ ”





    “ เพราะถ้าแกไม่ทำฉันจะถือว่าแกป๊อด ”






    “ ฉันไม่ได้ป๊อด ก็ได้ฉันจะจีบซีวอน แต่ขอเวลาฉันหน่อยได้ไหม คือ ฉันยังไม่พร้อมอะ ”





    “ แกอย่ามาหาข้ออ้าง ไม่กล้าก็บอกมาเหอะ โด่ ”






    “ ฉันกล้าโว๊ย เดี๋ยวจะจีบให้ดู ” อึ๋ยฉัพูดอะไรออกไปเนี่ย ซวยแล้วเรา ฮึ้ยปากพาซวยแท้ๆเลย






    ก๊ากกกกก ไอ้ฮันในที่สุดแกก็ตกหลุมพรางฉันจนได้ เนี่ยแหละจุดอ่อนของฮันเกิง ไม่ชอบให้ใครท้า โชคดีนะเพื่อนฉันช่วยแกได้แค่นี้แหละ








    “ ฉันให้เวลาแก 1 อาทิตย์ในการเตรียมตัว ”







    “ เดือนหนึ่งได้ปะ ”







    “ ไม่ได้ แกต่อนานไปปะ จะเอา 1 อาทิตย์ หรือ 1 วัน ”





    “ โอเค ๆ หนึ่งอาทิตย์ก็หนึ่งอาทิตย์ ”






    ตอนเย็น






    ฮันเกิงเดินกลับบ้านอย่างคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงดี อยู่ๆก็เกิดหิวน้ำ จึงตรงดิ่งเข้าไปในมินิมาท เปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาจ่ายเงินแล้วกระดกน้ำทันที 10 นาทีผ่านไป ฮันเกิงเริ่มเวียนหัว อะไรวะทำโลกมันหมุนอย่างนี้อะ เกิดไรขึ้น แผ่นดินไหวเหรอ ขณะนั้นเอง ฮีซอลที่เดินผ่านมาพอดีจึงเดินเข้ามาทัก เพราะเห็นเพื่อนท่าทางจะไม่ไหวแล้ว






    “ เฮ้ย ไอ้ฮันเป็นไรปะเนี่ย ”








    “ หือ ครายเรียกอ๊า ”






    “ ฉันเองไง ฮีซอลอะ ”





    “ อ๋อฮีซอลโคนจ๋วยนี่เองงะ ”




    “ สวยป้าแกจิ แล้วแกไปทำไรมาเนี่ยเหมือนคนเมาเลย ”




    “ มาว บ้าน แก ดิ ฉานแค่ซื้อน้ำมากินเนี่ยนะมาว ม่ายเชื่อดูขวดเลย เน่ ” หืม โชจู ไหนว่าน้ำ






    “ นี่มันโชจูชัดๆ ”




    “ อ้าว แต่ฉานว่า ฉานซื้อน้ำเปล่าน๊า ”






    “ ไอ้เอ๋อเอ๊ย จะซื้ออะไรก็ดูให้มันดีๆหน่อยสิ หยิบผิดมาขนาดนี้ แถมเวลากินเข้าไปยังไม่รู้อีกว่าเป็นเหล้า แล้วนี่ แกไหวปะเนี่ย ”






    “ หวาย หวาย ฉันไปละ โชดเดเปื้อน ” ตุ๊บ เสียงฮันเกิงล้มลงกระแทกพื้น






    “ มามา ฉันจะพาแกไปส่งบ้าน จริงๆเลย ” ส่ายหัวอย่างระอา อยู่ฮันเกิงก็ชวนคุย






    “ เน่ ฮีซอล ฉันจาทามงายเด ”






    “ ทำไร ”







    “ ก้อ เจบซีวอนงาย ”






    “ ไม่รู้อะ ฉันไม่เคยจีบใครมีแต่คนเข้ามาจีบ แล้วแกก็ดันปากไวไปรับคำท้าพวกมัน ”






    “ ม่ายช่วย อย่าซ้ามฉานด้ายปะ ”





    “ เลิกพร่ามก่อนที่ฉันจะโยนแกลงจากหลังฉัน กินควายมาหรือเปล่าเนี่ย ตัวหนักเป็นบ้าเลย ถึงบ้านแกแล้ว เอ้าลงได้แล้ว ฉันปวดหลัง ”






    ติ่งต่อง ติ่งต่อง ติ่งต่อง  เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น





    “ มาแล้วค่า ” เสียงมาม๊าของฮันมาแต่ไกล








    “ อ้าวฮีซอล นั่นฮันไปทำอะไรมาจ๊ะ ”






    “ สวัสดีครับคุณน้าคือว่าฮันเขาดื่มเหล้ามานิดหน่อยครับ คือเขานึกว่าน้ำเปล่านะครับ ”





    “ จริงๆเลยลูกคนนี้ พลอยทำให้ฮีซอลลำบากไปด้วย ขอโทษด้วยนะจ๊ะ ”





    “ ไม่เป็นไรหรอกครับคุณน้า ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณน้า ”





    “ จ้า ขอบใจมากนะ โชคดีจ๊ะ ”








    “ ครับ ” หลังจากที่ฮีซอลเดินไปแล้วคุณมาม๊าสุดสวยก็ลากลูกชายคนสวยเข้าบ้านเพื่อพาคนเมาไปพักผ่อน ให้มันได้อย่างนี้สิ







    เช้า









    “ โอ๊ยปวดหัวจังเลย ”



    “ ตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้างลูก ดีขึ้นหรือยัง ”





    “ นิดหน่อยฮะม๊า ”







    “ งั้นฮันน้อยของม๊าก็นอนต่อเถอะม๊าไม่กวนแล้ว หายไวไวนะลูก ” คุณม๊าลูบหัวลูกชายก่อนจะเดินออกไป ฮันเกิงนอนจนถึงตอนบ่าย โอ๊ย คราวหลังจะซื้ออะไรจะดูให้ดี ไม่พลาดอีกแล้ว ปวดหัวชะมัด เมื่ออาบน้ำแต่งตังเสร็จฮันเกิงก็เดินไปข้างล่าง






    “ ม๊า มีอะไรกินบ้าง ฮันหิวจังเลย ” บอกเสียงอ้อนๆ





    “ หืม ค่อยยังชั่วแล้วหละสิ อะข้าวต้มร้อนๆ ”








    “ ว้าวน่ากินจังเลย ม๊าฮันมีเรื่องจะปรึกษาม๊า ม๊าจำได้ไหมที่ฮันเคยบอกว่า ฮันชอบผู้ชายคนหนึ่งใช่ไหมละ ทีนี้เพื่อนฮันมันท้าให้ฮันจีบเขา ฮันไม่รู้จะทำยังไง ม๊าก็รู้ใช่ไหมว่าฮันไม่เคยจีบใคร ฮันควรทำยังไงดี ”









    “ จากที่ม๊า ฟังมา ม๊ารู้แล้วว่าฮันจะหาวิธีจีบเขาได้ที่ไหน ฮันรู้จักร้านหนังสือที่ชื่อว่า จะอ่านไหม ไหมที่นั่นแหละที่ฮันจะหาวิธีจีบเขาได้ ”










    “ อ๋อ ร้านที่มีหนังสือเยอะๆหนะเหรอม๊า ”








    “ ใช่แล้วจ๊ะ รีบไปสิลูก ”







    “ ขอบคุณฮะม๊า ”





    ณ ร้าน จะอ่านไหม ( ชื่อร้านเหมือนจะข่มขู่ยังไงไม่รู้ )








    แอด






    ฮันเกิงเปิดประตูเข้าไปเจอลุงเจ้าของร้านนั่งอยู่ หน้าตางี้โหดมาก








    “ อะ เอ่อ คุณลุงฮะ ผมจะอยากได้หนังสือเกี่ยวกับการตื้อฮะ ” ฮันเกิงกระซิบเสียงเบาเพราะกลัวว่าคนในร้านจะรู้ว่าตนกำลังทำอะไร









    “ อ๋อ อาหมวย ลื้อจะหาหนังสือเกี่ยวการตื้อ เดินไปทางซ้ายมือ ” คุณลุงพูดซะเสียงดัง หมดกันความลับ คนทั้งร้านงี้หันมองกันเพียบ






    “ เอ่อ พอดีว่าผมจะซื้อไปฝากเพื่อนหนะฮะ เพื่อนผมฝากซื้อไม่ใช่ของผมจริงๆนะฮะ ” ฮันเกิงยิ้มเจื่อนๆก่อนจะเดินไปตรงที่ลุงเจ้าของร้านบอก








    “ อะไรเนี่ยทำไมมันเยอะอย่างนี้เนี่ย ตื้อผงากฟ้า โหเหมือนจะฝึกกำลังภายใน ไม่ไหวอะเล่มใหม่ๆ ตื้อดิบๆ ไม่ไม่ไม่ ตื้อเกือบตาย อันนี้ท่าจะไม่รอด อ๋า เจอแล้ว อันนี้แหละ คัมภีร์ 103 กระบวนตื้อ น่ารักอ่ะ ชอบเลข 103 อะ อิอิ ”









    “ ลุงฮะผมเอาเล่มนี้ฮะ ”





    “ อืมทั้งหมดก็XXวอน ”





    “ นี่ฮะ ผมไปนะฮะ ”









    “ ขอบใจนะอาหมวย ขอให้สมหวัง ”







    “ ขอบคุณฮะ ”






    “ อ่า แวะไปอ่านหนังสือที่สวนสารธารณะดีกว่า ” เมื่อมาถึงสวนสาธารณะฮันเกิงนั่งลงบนม้านั่งสีขาวก็หยิบหนังสือขึ้นมาตั้งหน้าตั้งตาอ่าน









    “ อืมกระบวนท่าที่ 1 ก่อนอื่น ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นตื้อใครสักคนให้คุณสืบประวัติเขามาก่อน ตัวอย่างเช่น เขาชื่อะไร อันนี้คุณคงรู้แล้ว ครอบครัวเขามีกี่คน ชอบกินอะไร มีเพื่อนสนิทไหม ชอบกีฬาหรือไม่ ถ้าชอบ ชอบกีฬาอะไร เบอร์รองเท้า ชอบสิงอยู่ที่ไหน อะโห ต้องสืบลึกขนาดนี้เลยเหรอ แต่มีอย่างหนึ่งที่อยากรู้ที่สุดคือ ซีวอนใส่กางเกงในไซส์อะไร คิคิ ” นั่งอ่านหนังสือทำหน้าจินตนาการไปด้วย แถมยังหัวเราะแบบโรคจิตอีก ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมามองฮันเกิงอย่างวิตก เด็กคนนี้จะเป็นอะไรมากไหม









    “ หึเรื่องแค่นี้สบายมาก ”







    “ กระบวนท่าที่ 2 เจอกันครั้งแรกต้องสร้างความประหลาดใจให้เขาจดจำเราได้ อืมน่าสน โอเคฉันจะทำตามอย่างเคร่งครัด ”








    กลับมาสู่ปัจจุบัน






    ตอนเลิกเรียน








    ซีวอนเดินออกมาจากห้องเรียน ฟังเพลงและฮัมเพลงอย่างสบายใจ ในที่สุดก็เลิกเรียนสักที หวังว่าเย็นนี้จะไม่เจอหมอนั่นนะ คนอะไรไม่รู้น่ากลัวพิลึก อยู่ๆก็บอกว่าจะจีบ แถมยังมาขโมยจูบอีก





    “ ซีวอน!!! คิดอะไรอยู่ คิดถึงฉันใช่ม๊า ” ฮัน เกิงที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ทำเอาเขาตกใจหมดเลย










    “ นาย มาทำอะไรตรงนี้นาย กองกอง ”






    “ ฉันชื่อฮันเกิง ไม่ใช่กองกอง เมื่อกี้เหม่อนี่นาคิดถึงฉันอยู่ใช่ไหมล๊า ” บอกหน้าทะเล้น ร่างสูงส่ายหัวอย่างระอา ไม่เคยเห็นใครกล้าขนาดนี้เลยนะเนี่ยถึงแม้ว่าจะมีคนมาชอบเขามากมาย แต่ก็ไม่เคยเห็นใครเป็นขนาดนี้








    “ หลงตัวเองไปหรือเปล่า ” ร่างสูงเดินผ่านฮันเกิงไป






    “ นี่ซีวอนรอฉันด้วยสิ ” ฮันเกิงวิ่งไปหาร่างสูง








    “ นายจะตามฉันมาทำไม ”





    “ ฉันกลับบ้านด้วยคนนะ ” ร่างบางทำเสียงอ้อนๆ ซีวอนมองอย่างเหนื่อยหน่ายใจ








    “ ตามใจนายสิ ” ตอบเสียงเย็นชา ใจร้ายอะ อุตส่าห์ทำหน้าด้านสุดๆเลยนะเนี่ย หึ ฉันไม่ยอมปล่อยนายไปหรอก









    “ นายจะมาเกาะฉันทำไม ” ร่างสูงสะบัดแขนฮันเกิงออก







    “ ก็ฉันพอใจอะ ” ตอบหน้ากวน










    “ แต่ฉันอึดอัด ”








    “ ปล่อยก็ได้ ใจร้ายอะ ว่าแต่ตัวนายเนี่ยห๊อมหอมเนาะ อิอิ น่ารักอ่ะ อ่า ซีวอนถึงบ้านฉันแล้วละ ขอบคุณที่เดินมาส่งนะ ” ได้ข่าวว่าทางผ่านนะคะ







    “ อืม ถึงแล้วก็เข้าบ้านสิ ”








    “ ซีวอน จะเข้าบ้านไหม ”






    “ ไม่ละ ” ว่าเสร็จก็เดินต่อไปทันที








    “ กลับบ้านดีๆนะ จุ๊บๆ ” กล่าวลาแถมยังส่งจูบให้อีกด้วย ซีวอนส่ายหัวนิดๆ หมอนี่ตลกดีแฮะ ดูหลอนๆยังไม่รู้








    ภายในบ้านฮันเกิง










    “ วันนี้ทำอะไรมาจ๊ะยิ้มหน้าบานเชียวลูก ” มาม๊าสุดสวยทั้กลูกชายทะนทีที่เห็นหน้า





    “ แหมม๊ารู้ได้ไง คือวันนี้มีคนมาส่งฮันด้วยนะ โอ๊ย น่ารักอ่ะ ” ได้ข่าวว่าทางผ่านนะคะตะเอง






    “ แล้วใครมาส่งหละ อย่าบอกนะว่าสามีในอนาคต ” คุณม๊าแซวลูกชายตัวเอง ทำเอาฮันเกิงเขินหน้าแดง







    “ ม๊าพูดอย่างนี้ ก็ถูกสิ อิอิ ” มือก็เรื่มอยู่ไม่สุกของฮันเกิงขยี้ผมตัวเองซะยุ่ง








    “ เอาหละๆ จะเล่าให้ม๊าฟังได้หรือยัง ”







    “ ก็คนที่ฮันชอบไงม๊า ”







    “ เอ๋ เขามาส่งฮันจริงๆเหรอลูก ”







    “ ก็ไม่เชิงหรอกม๊า คือว่า จริงๆแล้วมันเป็นทางผ่านบ้านเขาเฉยๆ แต่ว่าตอนนี้ฮันกำลังจีบเขาอยู่ ”






    “ งั้นก็ สู้ๆนะม๊าเอาใจช่วย วันหลังพาลูกเขยในอนาคตมาให้ม๊ารู้จักบ้างนะลูก ”












    “ ได้เลยฮะม๊า ^^ งั้นฮันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะม๊า ”









    “ จ๊ะ รีบๆมาหละ มาช่วยม๊าทำอาหารเย็น ”










    “ ฮะม๊า ”









    เวลาประมาณ 2 ทุ่ม







    ฮันเกิงหยิบเครื่องสื่อสารเครื่องบางของตนขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรศัพท์ที่เขาเพิ่งได้มาสดๆร้อนๆ ‘ ชเว ซีวอน ’ กว่าจะได้มาเลือดตาแทบกระเด็น ( เว่อร์ละ ) ร่างบางไม่รอช้ากดโทรออกทันที โอ๊ยตื่นเต้นอะ








    / ยอพอเซโย / เสียงทุ้มของเจ้าชายโรงเรียนดังขึ้น หึ ฮันเกิงสู้ๆ ใส่ความกล้าให้เต็มที่เลยฮันเกิง






    / นั่น ใช่เบอร์ ชเว ซีวอนใช่ไหม /




    / ครับ ผมชเว ซีวอนครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ / พูดอย่างสุภาพ





    / แหม ฉันฮันเกิงไง จำภรรยาตัวเองไม่ได้เหรอจ๊ะ /






    / นายโทรมาทำไม แล้วได้เบอร์ฉันได้ยังไง แล้วนายเป็นภรรยาฉันตอนไหน / น้ำเสียงเปลี่ยนไปทันที






    / โทรมาเพราะคิดถึง เบอร์ได้มาไงช่างมันเถอะน่า แค่รู้ว่าคอดถึงก็พอแล้ว อิอิ /









    / …………….. / ถึงกับเงียบเลย







    / เงียบเนี่ย อ่อนไหวใช่ไหมหละ /






    / หลงตัวเอง ถ้านายจะพูดแค่นี้ งั้นแค่นี้นะ /








    / อืม งั้น ฝันดีนะ / ตู๊ดดดดดดดดดดดด








    “ อะไรวะ คิดจะโทรก็โทรคิดจะวางก็วาง แต่ก็ดีแล้วแหละ จะได้ไม่ต้องทนฟังอะไรเสี่ยวๆ นอนเร็วๆก็ดีนะเรา พรุ่งนี้จะต้องสู้กับความเพี้ยนของหมอนั่นอีก ”







    ทางด้านฮันเกิง










    “ เตรียมตัวก็แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะเริ่มตื้อนายอย่างเป็นทางการแล้วนะ เตรียมตัวเตรียมใจนายให้ดีๆก็แล้วกัน นอนดีกว่าพรุ่งนี้จะได้ดูดีที่สุด ”








    เช้าวันรุ่งขึ้น







    ฮันเกิงตื่นแต่เช้า เพื่อมาดักรอซีวอน ลงทุนมากอะ ปกติถ้าไม่เจ็ดโมงนี่ไม่ตื่นนะ







    “ ฮ้าว ง่วงจังเลยอ่า เมื่อไหร่จะมาเนี่ยชะโงกจนเมื่อยคอแล้วนะเนี่ย หือ นั่นไงบ่นถึงก็มาเลย พรหมลิขิตชัดๆเลยนะเนี่ย ” ฮันเกิงยืนรอซีวอนอยู่หน้าประตู กะเวลาไว้ประมาณสามสิบวิซีวอนคงจะเดินมาถึงหน้าประตูพอดี เอาหละ ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง เอาละ ปัง !!!










    “ ซีว๊อนนนนนนนนนนน อรุณสวัสดิ์ ^^ ”








    เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงฮันเกิงตะโกนทัก ร่างสูงผู้เดินมาถึงกับกระโดดหนีไปตั้งหลัก










    “ เฮ้ย!!!! O_oนายเล่นอะไรของนายเนี่ย บ้าหรือเปล่า ตกใจหมดเลย ”










    “ แหม เซอร์ไพรส์นิดหน่อยทำเป็นขวัญอ่อนไปได้ ^^ ” ใครจะไม่ตกใจหละเช้าๆแบบนี้เล่นตะโกนซะสุดเสียง









    “ นี่ซีวอนอ่า วันนี้ฉันไปโรงเรียนด้วยนะ ”









    “ แล้วแต่นายสิ นี่มันไม่ใช่ถนนของฉันสักหน่อย นายจะเดินไปมันก็เรื่องของนาย ” ตอบอย่างเย็นชา







    “ ทำไมนายพูดจาใจร้ายจังเลยอ่ะ ไม่น่ารักอ่ะเลยนะ ”









    “ แล้วแต่นายจะคิด น่ารำคาญ ” พูดจาทำร้ายจิตใจเสร็จก็เดินนำลิ่วๆไป








    “ แต่ฉันไม่รำคาญ ฉันอยากเห็นหน้านายทุกวันนี่ ”












    “ นายนี่มัน หน้าทนจริงๆเลย นายจะเอาไงกับฉันหะ ”













    “ ฉันอยากเป็นแฟนนาย ”














    “ ให้ตายเถอะ นายไม่เข้าใจที่ฉันพูดบ้างเลยหรือไง ”













    “ เข้าใจแต่ฉันชอบนาย ” ร่างบางเถียง ร่างสูงถึงกับละเหี่ยใจกับคนร่างบางที่มีความกล้าอย่างล้นเหลือ









    “ ฉันเหนื่อยที่จะพูดกับนายแล้วหละ ” ซีวอนหยุดพูดเพียงเท่านั้น พูดไปก็มีแต่เปลืองน้ำลายเปล่าๆ เฮ้อนี่ขนาดไม่กี่วันนะเนี่ย ฉันยังเหนื่อยใจกับนายขนาดนี้เลยฮันเกิง












    “ นายใจแข็งไปเถอะสักวันฉันจะทำให้นายใจอ่อนให้จนได้ ชเว ซีวอน นี่ รอฉันด้วยสิ ” ร่างบางของคนช่างตื้อรีบวิ่งไปขนาบข้างเหยื่อ เอ๊ย เจ้าชายร่างสูง ระหว่างทางที่เดินไปโรงเรียนฮันเกิงพูดไม่หยุดตลอดทั้งทาง จนซีวอนชักจะรำคาญ พูดมากไปไหมเนี่ย







    ในการเดินทางไปโรงเรียนของทั้งคู่ก็มีบรรดานักเรียนมากมายที่พูดถึงเจ้าชายของโรงเรียนและบุคคลที่เดินอยู่ข้างๆซีวอน กันอย่างมากมายหลายประเด็น











    เช่น








    “ นี่เธอ ทำไมเจ้าชายของพวกเราถึงเดินมาโรงเรียนกับรุ่นพี่คนนั้นหละ แถมยังพูดคุยกันเหมือนสนิทสนมด้วยอะ ” สาวน้อยหน้าตาน่ารักเปิดประเด็นขึ้น













    “ สงสัยเป็นแฟนกันหละมั้ง ” เพื่อนสาวของเธอตอบ คำตอบนี้ทำเอาฮันเกิงอมยิ้มจนฟันแทบผุ น่ารักมากเลยลูกสาว พูดถูกใจมี๊มากมาให้มี๊กอดทีสิลุ๊กเอ๊ย













    “ แต่ฉันว่าน่าจะไม่ใช่นะ เขาอาจจจะบังเอิญเจอกันแล้วก็ทักกันก็ได้นะ รุ่นพี่ทั้งสองคนอะต่างกันจะตาย ” บัดนี้ รอยยิ้มของฮันเกิงหุบลงทันที อ้าวเด็กนี่ปากเสีย ต่างกันยังไงแน่จริงพูดมาแดะ














    “ เอ๋ต่างกันยังไงเหรอ ”












    “ ก็รุ่นพี่ซีวอนอะหล่อ เรียนเก่ง ( อันนี้ยอมรับ : ฮันเกิง ) ส่วนพี่ฮันเกิงอะไม่ค่อยเก่ง (อ้าว โกรธนะเนี่ย : ฮันเกิง ) แต่น่ารักดีอะนะ ( ให้อภัยแล้วหล่ะ คิคิ : ฮันเกิง ) ”











    “ ถ้ารุ่นพี่ซีวอนกับรุ่นพี่ฮันเกิงเป็นแฟนกันจริงๆ งั้นสาวๆทั้งโรงเรียนก๊อกหักหนะสิ ” ดีมากอิหนู คนเนี๊ยะพี่จองจ๊ะ ฮี่ๆๆๆๆ ก๊ากๆๆๆ










    ทางด้านซีวอนและฮันเกิง













    “ นี่ซีวอน เที่ยงนี้อ่ะ ไปกินข้าวด้วยกันนะ ”











    “ ไม่!!!! ฉันนัดกับเพื่อนไว้แล้ว”









    “ แต่ฉันจะไป นายห้ามฉันไม่ได้หรอก ”








    “ นายนี่มัน เฮ้อ ตามใจนายแล้วกัน ” เมื่อไหร่จะเลิกตามฉันเนี่ยให้ตายสิ ถ้าฉันใจอ่อนขึ้นมาจะทำยังไงหล่ะเนี่ย









    ซีวอนเดินไปที่ห้องของตน เมื่อเดินเข้ามาในห้อง คังอินเพื่อนในกลุ่มเอ่ยปากสุนัขแซวขึ้น










    “ ฮิ้วว่าไงครับ เจ้าชายสุดหล่อ ได้ข่าวว่านายไม่โสดแล้วหนิ ” พูดแล้วยิ้มกลุ้มกริ่มมาให้ ทำเอาร่างสูงงงพูดอะไร ไม่เห็นรู้เรื่องเลย








    “ ไม่โสดอะไร ”












    “ แหมอย่ามาทำเป็นซื่อ ก็คนทั้งโรงเรียนเขาลือกันว่านายหน่ะเป็นแฟนกับฮันเกิง ”








    “ จริงเหรอ แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับหมอนั่น ”









    “ ก็เป็นซะเลยสิ ฉันว่าเขาน่ารักดีนะ ”










    “ ไม่เอาหรอก หมอนั่นดูเหมือนไม่ค่อยเต็มเท่าไร แถมยังดูหลอนๆอีก ”








    “ ให้มันจริงเถอะ แล้วฉันจะคอยดูว่าแกจะใจแข็งได้สักแค่ไหน น่ารักขนาดนี้ ไม่รักก็บ้าแล้วนะโว๊ย ”









    “ แกพูดอย่างนี้ไปคบหมอนั่นเลยไป ”









    “ ฉันก็อยากอ่ะนะ แต่เผอิญฉันมีคนในดวงใจแล้วหว่ะ แกก็รับๆ รักเขาไปเถอะนะ ”










    “ แกเลิกพูดได้แล้ว ฉันรำคาญแก ถามจริงฮันเกิงจ้างแกเท่าไรเนี่ย ”








    “ 2000 อุ๊บ ” คังอินหลุดปากพูดออกมา จริงๆแล้วฮันเกิงยื่นข้อเสนอว่าจะติดต่อลูกพี่ลูกน้องคนที่คังอินชอบให้ก็เลยรับ ตอนแรกว่าจะไม่รับเพราะให้ 2000 เอ๊ย กลัวไอ้วอนงับหัว แต่เพราะข้อเสนอน้องคยูเนี่ยแหละรีบรับแทบไม่ทัน











    “ ไอ้เห็นแก่ตังค์ ใช่สิฉันไม่ใช่เพื่อนแกหนิ ” ร่างสูงพูดประชดเพื่อนตัวยักษ์













    เวลาเที่ยง













    “ อ้าว ซีวอนนั่นแกจะไปไหนอะ ”












    “ ฉันจะไปกินข้าว แกเร็วๆดิฉันรีบ ”











    “ อ้าวแกไม่รอฮันเกิงก่อนเหรอ ”












    “ รอทำไมไปกันเถอะ เดี๋ยวเจอฮันเกิง ”











    “ ยังไงแกก็หนีฮันเกิงไม่พ้นหรอกเพื่อน ”









    แต่มีเหรอที่ซีวอนจะหนีฮันเกิงผู้ยิ่งใหญ่พ้น ฮันเกิงสามารถติดตามซีวอนไปได้ทุกหนทุกแห่งอยู่แล้ว









    เวลาผ่านไปหลายอาทิตย์ดูเหมือนว่าท่าทีที่ซีวอนต่อต้านร่างบางนั้นจะหายไปบ้างแล้ว วันนี้ก็เช่นเคยซีวอนกับฮันเกิงกลับบ้านด้วยกัน ในเมื่อไม่มีวันไหนที่เขาจะหนีฮันเกิงได้พ้นเลย เขาจึงทำได้แต่ปล่อยเลยตามเลย








    ในระหว่างที่เดินกลับบ้านนั้น มีกลุ่มสาวๆกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาหาซีวอน











    “ อ๊าย!!! รุ่นพี่คะ ขอถ่ายรูปหน่อยคะ ” สาวน้อยคนหนึ่งวิ่งมาแซกระหว่างฮันเกิงกับซีวอน ทำเอาคนเดินยิ้มมาตลอดทางถึงกับหน้าบึ้งเลยทีเดียว หนอยยัยพวกนี้กล้าดียังไงมาแซกระหว่างฉันกับซีวอนเรี่ยมันจะมากไปแล้วนะ ด้านร่างสูงที่โดนสาวๆห้อมล้อมเริ่มเหงื่อตกแล้ว แรกๆก็โอเคนะ แต่นี่มันนานไปแล้วนะครับน้องเมื่อไหร่จะถ่ายรูปเสร็จครับน้อง นี่น้องจะเอารูปพี่ไปทำอนุสรณ์หรือไงครับ









    “ นี่ซีวอนเร็วๆหน่อยได้ไหม ฉันอยากกลับบ้านแล้วนะ ” ฮันเกิงที่ทนและสังเกตอาการของร่างสูงมานานพูดขึ้นอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ








    “ รุ่นพี่อยากกลับก็กลับไปสิคะ ยืนอยู่ตรงนี้แล้วบ้านมันจะเดินมาหาเหรอคะ ” ผู้หญิงนางหนึ่งพูดขึ้น แรงนะเนี่ยยัยนี่กล้ายอกย้อนฉันเหรออ๊ายแรงเชอะไม่น่ารักอ่ะเลยนะ











    “ ฉันพูกับซีวอน ไม่ได้พูดกับเธอสักหน่อย ” ฮันเกิงเถียงอย่างไม่ยอมเหมือนกัน








    “ อ้าวรุ่นพี่ พูดอย่างนี้ก็มีปัญหาสิคะ ” ร่างสูงผู้โดนห้อมล้อมเริ่มมองเห็นสถานการณ์อันไม่ค่อยปลอดภัย










    “ อ่าใช่แล้วพอดีว่าวันนี้พี่มีธุระงั้นพี่ขอตัวก่อนนะครับ ปะฮันเกิงกลับบ้านกันเถอะ ” ร่างสูงฉุดข้อมือฮันเกิงไปจากบริเวณนั้น






    “ นายดึงฉันออกมาทำไมเนี่ย ”











    “ ทำไมถึงพูดกับน้องเขาอย่างนั้นหล่ะ ”





    “ ก็ฉันหึงนายอ่ะ ” ให้ตายสิฮันเกิงนี่พูดอ้อมๆไม่ได้หรือไงเนี่ย ไม่เคยอายเลยใช่ไหม










    “ ไร้สาระ ”









    “ เมื่อกี้นี้ที่นายดึงฉันออกมาเป็นห่วงฉันหละสิ ” ร่างบางนั้นกระโดดเกาะแขนร่างสูงพร้อมทั้งส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้ร่างสูง









    “ หลงตัวเองที่หนึ่งเลยนะนาย ” ว่าพลางดันหัวกลมๆออกจากแขนตน






    ทันใดนั้น ฝนก็สาดลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย










    ซ่า ////////////////////////////////// ทั้งคู่จึงพากันไปหลบฝน










    “ หะฝนตกได้ไงเนี่ย ฉันเกลียดฝนที่สุดเลย เมื่อไหร่จะหยุดตกวะ ” ร่างสูงพึมพำกับตนเอง ในขณะที่ฮันเกิงนั้น








    “ ว้าวฝนตก อิอิ สนุกจังเลย ฉันชอบฝนที่สุดเลย นี่ซีวอนมาเล่นน้ำฝนด้วยกันไหม ” ร่างบางชวนร่างสูงแล้วกระทำการวิ่งออกไปเล่นน้ำฝนอย่างเต็มตัว









    “ นี่ฮันเกิงเข้ามาได้แล้วเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก ”











    “ ระดับฉันแล้วไม่ป่วยง่ายๆหรอกน่า ฉันแข็งแรงจะตาย มาเล่นด้วยกันเถอะนะๆๆ ”





    “ เฮ้อนายนี่มันดื้อจริงๆให้ตายสิ ” ร่างสูงได้แต่ส่ายหัวให้กับความดื้อของร่างบางข้างหน้านี้






    และเมื่อฝนหยุดตกทั้งสองจึงออกเดินทางกลับบ้านกันต่อ ฮันเกิงนั้นได้แต่กอดตนเองอย่างหนาวสั่น








    “ อูย ไม่น่าเล่นน้ำฝนเลยเรา หนาวชะมัด ” พูดไปก็สั่นไป หึสมน้ำหน้านายนี่มันจริงๆเลย








    “ บอกแล้วไม่เชื่อดื้อที่หนึ่งเลยนะนาย เอ้าใส่ไว้ ” ถึงปากจะบ่นแต่ก็ถอดเสื้อให้ร่างบางอยู่ดี









    “ ฉันไม่เป็นอะไรหรอกนายใส่ไปเถอะ ” แหนะยังดื้ออีก












    “ นายจะดื้อไปทำไมฉันให้ใส่ก็ใส่ไปเหอะน่า ” ร่างบางจึงกระชับเสื้อตัวโตให้แน่นขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม วันนี้ใจดีเป็นพิเศษนะเนี่ย










    “ขอบใจที่เป็นห่วงฉัน ”








    “ ใคร ใครห่วงนายกัน หละ.......”









    “ หลงตัวเองอีกละ อิอิ” คราวนี้ฮันเกิงพูดคำที่ร่างสูงกำลังจะพูด






    “ หัวเราะอะไร ”








    “ เปล่าซะหน่อย แสดงออกนอกหน้าขนาดนี้แล้วยังทำเป็นปากแข็งอยู่อีก ” ฮันเกิงบ่นเบาๆกับตัวเอง











    “ เฮ้อแล้วแต่นายจะคิดแล้วกัน ” บ่นอย่างเหนื่อยหน่ายใจ





    “ นี่ ซีวอนถึงบ้านฉันพอดีเลยอะ นายจะเข้าไปข้างในไหม ”







    “ ไม่หล่ะ ” ตอบเพียงสั้นๆ






    แอ๊ดดดดดดดด เหมือนสวรรค์เป็นใจม๊าม๊าของฮันๆเปิดประตูออกมาพร้อมกับส่งกระแสจิตไปให้ลูกสาวตัวเองอย่างรู้ใจกัน








    “ มาแล้วเหรอจ๊ะฮัน นี่ซีวอนใช่ไหมจ๊ะ ”











    “ เอ่อครับสวัสดีครับคุณน้า ” ร่างสูงกล่าวทักทายอย่างสุภาพ ( จะฝากตัวเป็นลูกเขยเหรอจ๊ะ )













    “ แหมน่ารักจังเลยเข้าบ้านก่อนสิจ๊ะ ”








    “ ครับ ”








    หลังจากที่เข้ามาภายในบ้านร่างสูงก็เดินสำรวจบ้านที่ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กนัก ข้างในตกแต่งน่ารักตามรสนิยมคาดว่าน่าจะเป็นของคุณแม่









    “ อะ ซีวอนนายเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ ชุดนี้ของพ่อฉัน ฉันว่านายน่าจะใส่ได้นะ ” ร่างบางยื่นเสื้อผ้ามาให้ร่างสูง






    “ ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวฉันก็จะกลับแล้วหล่ะ ”






    “ นายจะไม่กินอะไรก่อนเหรอ ”





    “ ไม่หล่ะฉันไปก่อนนะ ”






    “ อ้าว ซีวอนจะไปแล้วเหรอจ๊ะ ” ม๊าม๊าถามว่าที่ลูกเขย






    “ ครับนี่ก็ค่ำมากแล้วครับ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ”







    “ จ๊ะกลับบ้านดีๆนะ ” เมื่อฮันเกิงไปส่งซีวอนกลับมาแล้วก็ได้เวลาสองแม่ลูกเมาส์มอยกัน









    “ ม๊า คนนี้เป็นยังไงบ้าง น่ารักอย่างที่ฮันบอกไหม ”






    “ ไม่หรอกจ๊ะ แต่น่ารักกว่าอีก ต๊าย นี่ถ้าม๊าไม่มีป๊าอยู่แล้วนะ ม๊าจะแย่งจีบก่อนฮันเลยคอยดู ”







    “ ม๊าอ่ะ ถ้าม๊าแย่งฮันนะ ฮันจะฟ้องป๊าว่าม๊านอกใจ อิอิ ”







    “ นี่ขู่ม๊าเหรอ อย่าบอกป๊านะเดี๋ยวม๊าจะแย่เอานะฮ่าๆ ” 





    เช้าวันต่อมา





    ซีวอนเดินไปโรงเรียนเหมือนทุกวันแต่วันนี้ ไม่เหมือนกับทุกวัน ( แอ๊ะยังไง ) ก็ฮันเกิงไม่มาดักรอเค้าที่หน้าบ้านเหมือนทุกวันนี่สิ เมื่อวานก็ตากฝนซะขนาดนั้น จะเป็นอะไรไหมนะ ฮึ่มบอกแล้วว่าอย่าตากฝนก็ไม่เชื่อมันน่านัก





    วันนี้ทั้งวันร่างสูงไม่เป็นอันทำอะไร ได้แต่คิดถึงเรื่องของฮันเกิงอยู่ทั้งวัน จนเพื่อนในห้อง แอบสงสัยว่าวันนี้เจ้าชายอย่างซีวอนวันนี้เป็นอะไรไป ทำไมถึงนั่งเหม่อ หรือเป็นเพราะฮันเกิงนะที่ทำให้ซีวอนเป็นอย่างนี้




    “ ซีวอนไปกินข้าวกันเถอะ ” เสียงคังอินดังขึ้นหลังจากที่ออดพักเที่ยงดังขึ้น




    “ ................. ” ไม่มีสัญญาตอบรับจากบุคคลที่ท่านเรียกกรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งคะ





    “ ไอ้ ซีวอนไปกินข้าวกันโว๊ยยยยยยยย ” คังอินตะโกนเสียงดังจนเจ้าชายของโรงเรียน
    สะดุ้งเฮือก






    “ เรียกเบาๆก็ได้ครับคุณเพื่อน ”




    “ ก็แกอยากไม่ตอบเองนี่หว่า ว่าแต่เข้าฌานถึงไหนแล้วครับคุณเพื่อน วันนี้ทำไมไม่เห็นฮันเกิงเลยวะ หรือว่าเขาไม่ได้มาโรงเรียนวะ ”




    “ ฉันจะไปรู้เหรอ ”




    “ ก็ฉันเห็นว่าเขาไม่มานายก็เอาแต่เหม่อลอย นี่แกหลงรักฮันเกิงแล้วใช่ไหมละ ” ไอ้นั่นไม่อยู่ ไอ้นี่พูดแทน





    “ พูดมากเก็บปากไว้กินข้าวเหอะแก ”





    “ เชอะ ล้อเล่นแค่นี้ก็ไม่ได้ ” ทำเป็นงอน คิดว่าตัวเองน่ารักรึไงไอ้วัวทึกเอ๊ย




    วันนี้คนยิ่งอารมณ์เสียอยู่ ไม่รู้เป็นยังไงสับสน โกรธ กังวล เป็น ห่วง คิดถึง ไม่ใช่ๆ คิดอะไรวะเนี่ย เว๊ยปวดหัว





    ตกเย็นร่างสูงเดินกลับบ้านผ่านหน้าบ้านฮันเกิงก็ไม่เห็นมีใครอยู่จึงเดินกลับบ้านของตน ฮันเกิงคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง



    เช้าวันใหม่






    ร่างสูงเดินผ่านบ้านฮันเกิงอีกเช่นเคย และก็ไม่เห็นฮันเกิงอีกเช่นเคย จึงพาขาตัวเองเดินต่อไป แต่เมื่อเดินไปสักพักก็มีเสียงเรียกมาจากด้านหลัง






    “ นี่ ซีวอน ซีวอน แฮ่กๆ รอ รอ รอฉันด้วย ” ร่างสูงชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงร่างบางที่ทำให้เขาคิดมากตั้งแต่เมื่อวาน ก็แสร้งทำหน้าโหดใส่ร่างบาง





    “ ขอโทษทีนะที่เมื่อวานไม่ได้ออกมาหานาย พอดีว่าเมื่อวานฉันป่วยหนะก็เลยไปโรงเรียนกับนายไม่ได้ แค่กๆ ” ร่างบางพูดอย่างกลัวร่างสูงจะโกรธ







    “ เป็นไงหล่ะอยากดื้อดีนัก ฉันบอกนายแล้วว่าอย่าเล่นน้ำฝนเดี๋ยวจะไม่สบาย แต่นายก็ยังดื้อไม่ฟังที่ฉันบอก ” บ่นอยากรู้สึกโมโห






    “ ก็มันสนุกนี่นา แค่กๆ  ทุกทีฉันเล่นก็ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่กๆ ” เถียงอย่างไม่ยอมแพ้






    “ แล้วค่อยยังชั่วหรือยัง ”






    “ ก็ดีขึ้นแล้วหล่ะ ”





    “ แล้วนี่กินยาหรือยัง ”





    “ กินแล้วก็ที่ฉันออกมาสาย ก็เพราะแม่บังคับให้กินยาอยู่ แถมยังให้เอายาไปกินที่โรงเรียนด้วยอ่ะ ฉันจะแอบเอายาไปทิ้ง นายก็อย่าบอกแม่ฉันนะ ” ฮันเกิงแอบกระซิบ
    ร่างสูงลงมือชิงยาจากร่างบางมาใส่ในกระเป๋าของตน







    “ นายจะเอาไปทำไม จะเอาไปทิ้งให้ฉันใช่ไหมหล่ะ ”







    “ ฉันจะเอาไปให้นายกินนั่นแหละ แล้วถ้านายไม่กินฉันจะบอกแม่นาย ”




    “ ใจร้ายอ่ะ ”




    “ ถ้านายไม่กินแล้วเมื่อไหร่จะหายหล่ะ ”





    “ ก็ฉันไม่ชอบนี่มันขมจะตายอี๋ ”





    “ นายกี่ขวบแล้วนี่หา ยาแค่นี้กินไม่ได้ปัญญาอ่อนหรือไง ”





    “ ก็ฉันไม่ชอบ ” คราวนี้ร่างสูงไม่พูดอะไรต่อ เดินหนีฮันเกิงไปเลย สงสัยจะงอน





    “ รอด้วยสิ ”





    “ ใครบอกให้นายขาสั้นหล่ะ ” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ก้าวขาให้ช้าลงให้ร่างบางเดินทันตนได้






    “ ฉันไม่ได้ขาสั้นนะแต่ฉันก้าวขาช้าตะหากหล่ะ ”







    “ เหรอเท่าที่ฉันดูจากขานายน่าจะไม่ใช่นะ ” ฮันเกิงทำหน้างอนๆ แต่ร่างสูงก็ไม่สนใจง้อแต่อย่างไร เชอะไม่งอนล่ะงอนที่ไรไม่เห็นง้อสักที







    “ ถึงห้องนายแล้ว ” ร่างสูงเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบเมื่อเห็นร่างบางยังคงไม่พูดอยู่





    “ อืม ” รับคำแค่นั้นก็เดินเข้าห้องไป







    “ นี่ ไอ้ฮันเป็นไข้อ่ะหายดีหรือยัง ”







    “ อืมก็ดีขึ้นแล้วแหละ แต่ยังไม่หายดีแค่ก ”




    “ แน่ใจว่าดีขึ้น ”






    “ ทำไมแกเป็นห่วงฉันหรือไง แค่กๆ ”







    “ เปล่าฉันกลัวแกตายที่โรงเรียน ”









    ---.---” สีหน้าฮันเกิง








    “ โอ๋ๆ เค้าล้อเล่งน่า ”





    “ เชอะ เชอะ เชอะ ”









    เที่ยง








    “ เฮ้ยไอ้ฮันอย่ามัวแต่นอนตื่นเร็ว ซีวอนมาหาแกแหนะ ”







    “ แกอย่ามาอำซีวอนจะมาได้ไง ไอ้นี่เล่นของสูง ฉันจะนอนล่ะ ”




    “ แล้วแต่แกแล้วกัน ” เชอะฉันพูดความจริงก็หาว่าอำ





    “ นี่ฮันเกิงตื่นได้แล้วถึงเวลากินข้าวแล้วนะ ” ร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าห้องเดินมาสะกิดร่างบาง





    “ อือ ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามากวนคนจะนอน ว่าแต่แกอำแรงนะเนี่ย เสียงเหมือนเชียว ” ก็จะไม่เหมือนได้ยังไงก็นี่มันตัวจริงเลย








    “ นายจะตื่นดีๆหรือจะหลับไปตลอดชีวิตหะ ” ใช่เลยแรงอย่างนี้ต้องชเว ซีวอนคนเดียว พรึ่บ!!! เสียงลุกขึ้นอย่างรีบเร่งของร่างบางทำให้ท้องของฮันเกิงชนเข้าโต๊ะอย่างจัง







    “ ซี ซีวอนนายมาทำอะไรเหรอ ” ฮันเกิงถามหน้าตาสลึมสลือ พร้อมยกมือข้างหนึ่งขึ้นเช็ดน้ำลาย






    “ ก็มาตามนายไปกินข้าว เร็วเข้ารีบไปได้แล้ว ”






    “ ฉันไม่ไปได้ไหมอ่ะ ฉันไม่อยากกิน ฉันง่วงมากเลย ” ตอนนี้แบบฮันเกิงไม่ไหว๊แล้วนะรู้งี้ไม่เล่นน้ำฝนก็ดี






    “ ไม่ได้นายต้องกินข้าวกินยา ” สั่งเสียงเข้มซะขนาดนั้น ใครจะกล้าขัด






    หลังจากที่ร่างสูงมาตามฮันเกิงไปกินข้าวเสร็จแล้ว ก็บังคับให้ร่างบางกินยา และให้ไปนอนที่ห้องพยาบาล




    “ อ่ะยารีบกินซะ ” ร่างสูงแกะยาแก้ไข้ให้ฮันเกิง





    “ อะ ” ฮันเกิงปฏิเสธอย่างดื้อรั้น ยาเม็ดขมจะตาย เปลี่ยนเป็นยาน้ำได้ไหมอ่ะ ร่างบางกัดปากแน่นเมื่อซีวอนพยายามง้างปากร่างบางเพื่อยัดยาเข้าไปในปาก






    “ อ้าปากเดี๋ยวนี้ ” ส่งสายตาเข้มมาให้





    “ หึ ” ส่ายหัวไปมาให้ตายฉันก็ไม่กิน





    “ เฮ้อ นี่ฮันเกิงถ้านายไม่กินยาแล้วนายจะหายได้ยังไง ” เมื่อเห็นว่าร่างบางยังดื้ออยู่ร่างสูงจึงเดินออกไปทันที่เหลือไว้แต่ยาตามจำนวนที่ร่างบางต้องกิน






    “ เฮ้อ กินก็ได้ อี๋ยาอะไรอ่ะ ทำไมมันขมเหมือนยาพิษอย่างนี้เนี่ยอ๊ากไม่ไหวแล้วอ๊า คายดีไหมเนี่ย ไม่ได้สิเดี๋ยวซีวอนโกรธต้องกินเข้าไป ” เมื่อกินยาเสร็จแล้วร่างบางนั่งทำใจสักพักก่อนเดินออกไปหาร่างสูง






    “ นี่ซีวอน ฉันกินยาแล้วนะ ” ฮันเกิงสะกิดให้ร่างสูงหันมาสนใจตนแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะร่างสูงยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย







    “ เหรอ ดีใจด้วยนะ ” ตอบหน้านิ่งๆ นี่ซีวอนโกรธเราเหรอเนี่ย








    “ นี่ ซีวอนนายโกรธฉันเหรอ ” ร่างบางถามด้วยสีหน้าสลด






    “ ฉันไม่โกรธ ทำไมฉันต้องโกรธ ”






    “ ก็นายเป็นห่วงฉันใช่ไหมหล่ะ แล้วฉันยังดื้อไม่กินยาอีก นายก็เลยโกรธฉันใช่ม๊า ”







    “ นี่ขนาดนายป่วยอยู่นะ ยังหลงตัวเองได้อีก ไปนอนได้แล้วนายหน่ะ ” ร่างสูงพูดพร้อมกันเคลื่อนฝ่ามืออันอบอุ่นของตนไปวางลงบนหัวทุยเล็กของร่างบาง ทำให้ฮันเกิงเกิดอาการเขินขึ้นมากระทันหัน ทำให้ร่าบางหน้าแดงไปทั้งหน้า








    “ นี่นายไข้ขึ้นเหรอ ”






    “ อ๋อ ปะเปล่าหรอก ฉันไม่เป็นไรมากหรอกน่า ”





    “ แน่ใจ ”






    “ อืมไม่เป็นไรจริงๆ ”







    “ งั้นฉันไปเรียนก่อนนะ ” ร่างสูงเดินออกจากห้องพยาบาลไป

    ฮันเกิงที่เริ่มรู้สึกเพลียเพราะฤทธิ์ยาจึงทำให้ร่างบางนั้นหลับสนิทเป็นเวลา 1 ชั่วโมงพอดี








    ครืด!!!!! เสียงประตูห้องพยาบาลเปิดขึ้น ทำให้ร่างบางที่เข้าสู่นิทรามาพอสมควรแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมา
     






    “ อ้าวขอโทษทีที่ทำให้นายตื่น เอ๊ะว่าแต่นาย ฮันเกิงนี่นา ”






    “ นายรู้จักฉันได้ไงอ่ะ ”





    “ ก็นายออกจะดังนี่ ”






    “ หาฉันเนี่ยนะดัง ” ร่างบางชี้มาที่ตนเองอย่างงงๆ



    “ อืมก็เขาลือกันทั้งโรงเรียนว่านายเป็นแฟนกับซีวอน เจ้าชายของโรงเรียน น่ารักจริงด้วยแฮะ ” ร่างสูงของผู้มาใหม่สำรวจใบหน้าร่างบางตรงหน้าอย่างละเอียด ชอบตรงนี้แหละพูดถูกใจนะเนี่ยเดี๋ยวก็เลี้ยงพิซซ่าซะเลยนี่








    “ ว่าแต่นายชื่ออะไรอ่ะ หน้าตาคุ้นๆเหมือนเคยเจอที่ไหนสักแห่ง ” ใครอ่ะ คิดยังไงก็คิดไม่ออก








    “ ฉันชื่อลีแทฮุน ” เริ่มจะคุ้นมากขึ้นละ ใครอ่ะ อ๋อ นึกออกแล้ว






    “ อ๋อ นายเป็นนักกีฬาเทควันโดที่ได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ใช่ไหม ฉันเพิ่งเจอก็วันนี้แหละวันนั้นฉันดูนายแข่งด้วยแหละ ฉันปลื้มนายมากเลย ขอลายเซ็นหน่อยสิ ” ร่างบางรีบหยิบปากกกากับกระดาษขึ้นมา ไหนบอกว่าปลื้มไงแล้วทำไมจำหน้าไม่ได้อ่ะ ชอบจริงหรือเปล่าเนี่ย










    “ นายปลื้มฉันขนาดนั้นเลยเหรอ ” พูดพลางก้มหน้าลงเซ็นให้





    “ อืม นายดูเท่มากเลย ”







    “ งั้นนายจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะจีบนาย ”






    “ อะไรนะ นายจะจีบฉัน ” ร่างบางเอ่ยงง อยู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา เสียงนั้นไม่ใช่เสียงใคร เสียงนั้นคือเสียงของเชว ซีวอน




    “ ที่นี่ห้องพยาบาลนะไม่ใช่สถานที่ที่จะให้ใครมาจีบกัน ” พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ








    “ ทำไมหล่ะมีกฎห้ามไว้เหรอว่าห้ามจีบกันที่ห้องพยาบาล ” ลี แทฮุนตอบด้วยน้ำเสียงกวนๆ ร่างบางที่เป็นคนกลางนั้นเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มไม่สู้ดี จึงเอ่ยขึ้น




     พอๆ หยุดๆ ฉันจะนอนพัก เพราะฉะนั้นพวกนายช่วยเงียบหน่อยได้ไหม ”




    “ หยุดก็ได้ ฉันเห็นแก่ฮันเกิงหรอกนะ ” แทฮุนบอกแล้วเดินออกไป ก่อนจะหันมาขยิบตาให้ฮันเกิง ร่างบางยิ้มตอบกลับไป แต่เมื่อหันหน้ากลับมาก็พบกับคนตรงหน้าที่ทำหน้าตาจะกินเลือดกินเนื้อเขา อุ๊ย เราทำอะไรผิดเนี่ย





    “ นายไปทำยังไงให้หมอนั่นมันหลงหละ ” ร่างสูงพูดประชดฮันเกิง อาการแบบนี้เขาเรียกหึงหรือเปล่านะ






    “ ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ เขามาทักฉันเองอ่ะ ทำไม นายหึงเหรอ ” ร่างบางทำหน้าทะเล้นใส่ร่างสูง






    “ ฉันไม่ได้หึง ”




    “ โอเคๆ ไม่ได้หึง ก็ไม่ได้หึง แต่ว่านะ แทฮุนเนี่ยเขาหล่อจริงๆเลย แถมยังเป็นนักกีฬาทีมชาติด้วย คนอะไรทั้งหล่อทั้งเก่ง เพอร์เฟ็กมากเลย ” ฮันเกิงแกล้งยั่วซีวอน




    “ จะพูดถึงมันอีกนานไหม ถ้าชอบมันมากก็ไปหามันเลย ” ร่างสูงพูดด้วยท่าทางหงุดหงิด





    “ ไหนบอกว่าไม่หึงไง ”



    “ ก็ไม่ได้หึง หลงตัวเองไปหรือเปล่า ” พูดพร้อมผลักหัวร่างบางเบาๆ ปากแข็งจริงๆเลย ขอยอมแพ้เลย




    “ แล้วนี่นายไม่เข้าเรียนหรือไง ”



    “ ฉันไม่อยากเรียน ” ตอบหน้านิ่งๆ



    “ อะไรนะ เจ้าชายของโรงเรียนโดดเรียนเหรอเนี่ย ” ฮันเกิงทำหน้าไม่เชื่อ



    “ เขยิบไปสิ ” ร่าสูงสั่งให้ฮันเกิงเถิบไปที่เตียงอีฝั่งก่อนที่ตัวเองจะขึ้นไปนอนด้วย ฮันเกิงมองด้วยสายตางงๆ



    “ มองอะไรหล่ะ นอนสิ ” ว่าพร้อมหลับตา เอ่อ มาอารมณ์ไหนเนี่ย








    “ อืม ” ก็คงจะทำอะไรไม่ได้ นอนด้วยกันก็ดีจะได้เนียนกอดซีวอนด้วยอิอิ









    “ นี่กอดเฉยๆ ไม่ว่านะ อย่าลูบได้ไหมมือหน่ะอยู่เฉยๆบ้างขนาดนายป่วยอยู่นะ ” แหะๆว่าเนียนแล้วนะเนี่ย รู้ตัวอีก






    “ แหมนิดหน่อยเองซีวอนอ๊า ” ร่างบางหลับตาพริ้มสักพักก็หลับไป





    เมื่อลมหายใจสม่ำเสมอของร่างบางดังออกมาให้ร่างสูงได้ยิน ทำให้ร่างสูงที่แกล้งหลับอยู่ลืมตาขึ้นมา สายตาคมสำรวจโครงหน้าของคนป่วยที่นอนหลับพริ้มอยู่ แล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ มือหนาเขี่ยปอยผมที่ปิดหน้าร่างบางเล่น




    “ นาย กำลังทำให้ฉันรักนายอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้วนะฮันเกิง ” ร่างสูงกระชับอ้อมกอดของตนให้แน่นขึ้นก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราตามร่างบางไป







    สองวันต่อมาอาการไข้ของฮันเกิงหายดีเป็นปลิดทิ้ง ทำให้แพนด้าน้อยกลับมาซ่าได้เหมือนเดิมแล้ว





    “ ซีวอน ” ร่างบางวิ่งเข้าไปหาซีวอนด้วยท่าทางกระตือรือร้น




    “ กลับบ้านเถอะไปเร็ว ” เมื่อวิ่งมาถึงก็คล้องแขนร่างสูงจูง? นำร่างสูงไป แต่ระหว่างทางที่ทั้งคู่กำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้น ก็มีร่างของบุคคลที่ซีวอนไม่ค่อยจะชอบหน้าสักเท่าไร ลี แทฮุนที่อยู่แถวนั้นเดินเข้ามาหาทั้งคู่





    “ หวัดดี ฮันเกิง อ้อ นายด้วยซีวอน ” แทฮุนทำหน้าตากวนๆให้ซีวอน





    “ อือ แทฮุน ว่าแต่ทำไมนายยังไม่กลับบ้านอีกหล่ะ นี่ก็จะค่ำแล้วนะ ”



    “ ก็วันนี้วันเกิดฉันหน่ะสิ แต่ดันไม่มีใครว่างเลย ฉันก็เลยต้องมาฉลองคนเดียว ” สายตาของแทฮุนมีแววเศร้า





    “ งั้นเอางี้สิ เดี๋ยวพวกฉันไปฉลองเป็นเพื่อนนายเอง ” ร่างบางพูดขึ้นมาทั้งที่ยังไม่ได้ถามความเห็นจากซีวอน




    “ นายเนี่ยใจดีจังเลยนะ งั้นไปกันเลยนะ ”




    “ ไปกันๆ ” ฮันเกิงยิ้มให้แทฮุนอย่างร่าเริง ทำให้ซีวอนได้แต่ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ ก่อนที่จะเดินตามทั้งสองไป





    “ เฮ้ ซีวอน เรามาเล่นเกมกันไหม ” แทฮุนเอ่ยชวน







    “ ไม่หล่ะ ไร้สาระ ”



    “ ไม่กล้าก็บอกมาเถอะ ” นักเทควันโดพูดยั่ว




    “ เกมอะไร ” ร่างสูงตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ







    “ แข่งกันใครกินเหล้าได้เยอะกว่าชนะ ”








    “ เอาเหล้ามา ” แทฮุนหันมายิ้มให้ฮันเกิง









    “ แล้วฉันหล่ะ ฉันไม่ได้เล่นด้วยเหรอ ” ฮันเกิงถามงงๆ อ้าวฉันก็มาด้วยนะ







    “ ไม่ต้องนายนั่งดูเฉยๆ เป็นกรรมการให้พวกฉัน ” แทฮุนบอก







    สักพักผ่านไปสองชั่วโมงทั้งคู่ยังตั้งหน้าตั้งตาแข่งกันดื่มเหล้าจนหน้าตาทั้งคู่เริ่มแดงก่ำ แต่ดูท่าว่า ลีแทฮุนจะเหนือกว่าเพราะเขาเนี่ยแค่มึนๆ แต่ซีวอนนี่สิ ดวงตาของเขาเหมือนว่ากำลังจะปิดลง แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ยังคงดื่มต่อไป จนซีวอนหลับคาโต๊ะนั่นแหละ สรุปคือแทฮุนชนะ และร่างบางๆของฮันเกิงก็ต้องแบกร่างสูงกลับไปส่งที่บ้าน





    “ โชคดีนะแพนด้า ฉันช่วยนายได้แค่นี้แหละนะ บ๊ายบาย ” แทฮุนบอกลาแล้วเดินกลับบ้านไป









    เมื่อมาถึงบ้านร่างสูง ฮันเกิงพาร่างสูงมานอนที่ห้อง ก่อนจะจัดการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ร่างสูง ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆร่างสูง ด้วยความที่ร่างบางนั้นแบกร่างสูงมาจากร้านเหล้า ทำให้ร่างบางตอนนี้เริ่มเข้าสู่โหมดง่วง ดวงตาหวานกำลังจะปิดลง อยู่ๆ ร่างสูงที่นอนข้างๆก็ลุกขึ้นมาคร่อมและจู่โจมจูบร่างบางอย่างกะทันหัน จมูกโด่งๆของเจ้าชายก็เคลื่อนลงมาที่ลำคอของร่างบาง เอาซะฮันเกิงเคลิ้ม แต่อยู่ๆการกระทำทุกอย่างก็หยุดลง เพราะร่างสูงตอนนี้หลับไปเรียบร้อยแล้ว อ้าวซะงั้น เฮ้อ นอนๆ










            แสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาภายในห้อง บนเตียงมีร่างสองร่างนอนกอดกันเปลือกตาหนากระพริบและเริ่มขยับตัวเหงื่อเม็ดโตพรั่งพรูมาจากใบหน้าหล่อขั้นเทพ ร่างสูงที่เริ่มทนกับความร้อยภายในร่างกายของตน ทำให้ร่างสูงจำต้องตื่นขี้นมา และก็ต้องตกใจเมื่อมีร่างของใครไม่รู้ที่ดูเหมือนฮันเกิง เอ๊ย นี่มันฮันเกิง เขากับฮันเกิงนอนกอดกันอยู่แถมไม่ใส่เสื้อ ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกับเขาเริ่มขยับตัวเข้าหาความอบอุ่นที่อยู่ๆก็หายไป ร่างสูงก้มลงมองคนที่นอนหลับเหมือนเด็กๆ







    “ อืมซีวอนตื่นแล้วเหรอ โอ๊ย เจ็บชะมัดเลย ” ฮันเกิงร้องเสียงดังพลางลูบสะโพกตัวเอง แถมผ้าปูที่นอนยังคราบเลือดติดอยู่ หลักฐานคาตาเลย ( จริงๆแล้วแม่อคืนผมลื่นล้มชนขอบเตียง แต่ไอ้เลือดนี่ไม่รู้มาไง )






    “ ซีวอน ซีวอน ชเว ซีวอน ที่ร๊ากกกกก ” ตะโกนมันซะเลยใส่อยู่ได้








    “ เมื่อคืนเรามีอะไรกันใช่ไหม ฉันขอโทษนะ ” พูดอย่างสำนึกผิด แอ๊ะหรือว่าซีวอนจะคิดว่าเขาปล้ำเรา งั้นดีเลยได้โอกาสหล่ะ






    “ นายขอโทษแค่นี้มันจะหายหรือไง ” ร่างบางแสร้งทำน้ำเสียงโกรธ ร่างสูงจึงรวบคนตัวเล็กมากอดไว้แนบอก







    “ ฉันจะรับผิดชอบนายเอง แต่ฉันว่าเรามาทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืนกันหน่อยไหม ” ร่างสูงคลายอ้อมกอดจากคนตัวเล็ก พร้อมส่งยิ้มให้คนที่ตอนนี้กำลังประมวลผล ก่อนจะค่อยๆโน้มหน้าลงมาจรดริมฝีปากหยักกับริมฝีปากบางหน้าจูบอย่างแผ่วเบาและแปลเปลี่ยนเป็นร้อนแรง ลิ้นใหญ่ค่อยๆไล้เลียสอดแทรกเข้าไป ในโพรงปากเล็กแสนหวานค่อยๆดูดซับความหอมหวาน จนคนที่อยู่ในอ้อมกอดอ่อนปวกเปียก ฮันเกิงเริ่มตั้งสติได้จึงพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของร่างสูง







    “ เดี๋ยวๆ คือว่า ฉันยังไม่พร้อม เอาไว้วันหลังแล้วกันนะ อ่านี่ก็สายแล้ว ป่านนี้แม่ฉันต้องทำกับข้าวไว้แล้วแน่เลย ฉันกลับก่อนดีกว่านะ ” ฮันเกิงรีบลุกพรวดขึ้นจากเตียงเตรียมตัวจะวิ่งหนีไป แต่คนตัวสูงกว่ารู้ทันคว้าตัวร่างบางไว้ทันท่วงที







    “ จะหนีไปไหน ไหนๆ เมื่อคืนเราก็เราก็ทำมาแล้วทบทวนอีกสักรอบสองรอบคงไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ ” ซีวอนยิ้มอย่างเหนือชั้น ก่อนจะล็อคร่างบางไม่ให้ร่างบางหนีไปไหนได้อีก ร่างสูงโน้มหน้าไปหาร่างบางอีกครั้ง แต่ฮันเกิงเอามือมาดันหน้าซีวอนไว้









    “ เดี๋ยว ฉันขอถามอะไรหน่อย ”









    “ จะถามอะไรหล่ะ ” ร่างสูงจ้องตาคนตัวเล็ก







    “ ตอนนี้........ นายรักฉันแล้วหรือยัง ” ร่างบางถามออกไป เฮ้อเตรียมใจไว้แล้วแหละว่าคำตอบมันจะเป็นยังไง คงไม่พ้นอีหรอบเดิมแหละมั่ง







    “ ถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่รัก ฉันจะทำอย่างนี้กับนายเหรอ ถามอะไรซื่อบื้อจังนะ ”








    “ ก็นายยังไม่เคยบอกรักฉันเลย สักครั้งแถมยังชอบ ผลักใส ฉันอีก ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านายรักหรือไม่รักฉัน ฉันไม่มีญาณทิพย์นะจะได้รู้ไปทุกเรื่อง ”







    “ นายรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่รัก นายไม่รู้หรอกว่าฉันต้องทรมานแค่ไหน ที่ต้องทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับนาย ทั้งๆที่จริงแล้วอยากจะจับนายมากอดแทบขาดใจ แล้วที่นายมาคอยป่วนชีวิตฉันให้วุ่นวาย นายจะรับผิดชอบยังไง หืม ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน








    “ อืม เอาไงดีหล่ะ เอางี้แล้วกันฉันจะรับผิดชอบด้วยการเป็นแฟนนาย เป็นไงข้อเสนอโอเคไหม ”







    “ ก็ถือว่าโอเคนะ งั้นเราก็มาต่อจากเมื่อกี้กันเถอะ ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่กรุ้มกริ่ม







    “ อือ อื้ม -///////- ” คนบ้าถามอะไรก็ไม่รู้เขินนะเนี่ย












    จบเหอะ







    Lee Dae hoon part


    ก่อนอื่นต้องขอกราบสวัสดีทุกคนงามๆสักหนึ่งครั้ง ผมสุดหล่อมีนามว่า ลี แทฮุน  เป็นตัวช่วยของฮันเกิงผู้น่ารัก ตรงไหน นี่ถ้าไม่ติดว่าคุณน้า แม่ของฮันเกิงขอร้องนะผมไม่ทำหรอก เสียเวลาซ้อมเทควันโดมากครับ ก็อย่างที่บอกอ่ะนะว่าผมเป็นนักกีฬาทีมชาติของเกาหลีใต้ และสิ่งที่ผมต้องช่วยคือ ต้องแกล้งทำเป็นว่าชอบฮันเกิงลูกพี่ลูกน้องของผม เพื่อให้ไอ้เจ้าชายนั่นหึง หึตลกดีเหมือนกันที่ต้องทำเป็นชอบไอ้หมอนี่แถมยังช่วยฮันเกิงมอมเหล้าไอ้เจ้าชายอีก เฮ้อ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมไม่ค่อยจะมีบทสักเท่าไรงั้นก็คงต้องขอลาไปแค่นี้นะครับ





    Siwon part

    สวัสดีครับผม เชว ซีวอน เป็นเหยื่อ เอ๊ย เป็นแฟนของฮันเกิงผู้ติ๊งต๊อง เอ๊ย น่ารัก(ษา) ผมมีอะไรจะเล่าให้ฟัง คือ ผมรู้นะว่าเมื่อคืนผมไม่ได้ทำอะไรฮันเกิง ถึงผมจะเมาขนาดไหนแต่ผมก็รู้สึกตัวเสมอนะครับว่าผมทำอะไรลงไปบ้าง และที่ผมไม่โวยวายเพราะว่าผมจะเอาคืนฮันเกิงให้แสบเลย โทษฐานที่ทำให้ผมหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แล้วอย่ามาร้องโวยวายทีหลังก็แล้วกันนะที่รัก หึๆ บัดนี้ก็ได้เวลาอันสมควรแล้วที่ผมจะจัดการเจ้าตัวแสบสักที ทีนี้แหละฮันเกิงถึงนายจะหนีฉันไปยังไงนายก็ไม่มีวันหนีฉันพ้นหรอก ไว้พบกันใหม่เมื่อไรเตอร์คิดเรื่องใหม่ออกนะครับ แต่คงอีกนาน ( หมายความว่าไงค่ะคุณพ่อ : คุณไรเตอร์)





    The end 

     

     

     

     

     

     









    ไรเตอร์

    ขอโทษที่หายไปนานม๊ากกกกกกก




    เเหะๆไม่มีอะไรจะแก้ตัวค่า



    ยอมรับผิดทุกอย่างค่ะ (ทำหน้าตาสำนึกผิด)




    ถ้าพิมพ์ผิดตรงไหนก็บอกด้วยนะ




    ขอร้องนิดนึงช่วยโหวตให้หน่อยเถอะนะ




    ถึงมันจะไม่สนุกหรือไรเตอร์จะชอบดอง




    ก็ช่วยโหวตช่วยเม้นหน่อยนะคะ


    ขอบคุณค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×