เรื่องบังเอิญของเธอแต่คือความจริงของฉัน
เรื่องต่างๆเกิดขขึ้นจากความบังเอิญ ที่เราสองคนคิดว่าบังเอิญ แต่ความจริงเราต่างก็รู้ดีแก่ใจว่าเราต่างก็ตั้งใจที่จะสร้างมันขึ้นมา
ผู้เข้าชมรวม
106
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่องบังเอิญของเธอแต่คือความจริงของฉัน
เป็นวันที่น่าเบื่ออีกวันของการทำงาน ฉันทำงานแบบนี้ทุกวันอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีชีวิต พูดไม่ได้ หัวเราะไม่เป็น แต่เวลาทำงานผิดคำสั่งกลับด่าเป็น แปลกดีเหมือนกัน....ความรู้สึกที่เบื่อและเหงายังคงอยู่ในจิตใจ ที่เป็นแบบอาจเป็นเพราะ ว่าอาการของคนที่ ลืมไม่เป็น อาการของคนที่หลอกตัวเองไปวันๆ อาการของคนไม่ยอมรับความจริง อะไรประมาณนั้น...ก่อนหน้านี้ฉันเคยคิดว่าฉันคือคนที่โชคดีที่สุดคนนึง ที่มีคนที่รักมากที่สุด เขาเป็นทุกอย่างที่ฉันอยากให้เป็นและฉันก็เป็นทุกอย่างที่เขาอยากให้เป็น แต่เราไม่เคยก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของกันและกัน เรายอมรับความเป็นตัวตนของกันและกันได้ เราเคยอยู่ด้วยกันในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยหลังจากนั้นเราจะตกลงกันว่าเราจะสร้างอนาคตด้วยกัน...แต่ใครจะเชื่อว่าพอเราต่างก็มีงานทำเรายิ่งห่างกันมากขึ้น แล้วที่ร้ายไปกว่านั้นยังทำงานคนล่ะจังหวัด ก็คงเพราะไว้ใจและเชื่อในการตัดสินใจของเค้าฉันจึงไม่คิดจะรั้งเค้าไว้เพราะถ้านั่นคืออนาคตที่เค้าฝันไว้ และเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปคิดว่าเขาจะมั่นคงกับฉันและไม่เปลี่ยนไปไม่ว่าจะอะไรที่เข้ามาในชีวิตก็ตาม เหมือนที่ฉันเป็นอยู่ในเวลาที่เราห่างกัน...เรายังคงคุยผ่านโทรศัพท์มือถือเหมือนเดิมตามปกติ แต่ผ่านไปไม่นานฉันรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเขา ฉันจึงตัดสินใจถามไปว่า
มีอะไรจะบอกม่อนมั้ย ? ฉันถามด้วยความรู้สึกที่อึดอัด
อย่าทำเฉยชาแบบนี้เลย มีอะไรก็บอกกันตรงๆได้มั้ย ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา ผ่านไปประมาณ 5 นาที
ขอโทษนะ เค้าพลาดไปแล้ว เค้าทิ้งคนนั้นไม่ได้ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แคร์ถึงความรู้สึกของคนฟัง
คนนั้นเค้าไม่ผิดอะไร เค้าต้องดูแล
.................................. แล้วก็เงียบไป ฉันรู้สึกวูบไปพักนึง มือเริ่มเย็น รู้สึกว่าตัวเบาหวิวไร้ความรู้สึก เงียบงันจนน่ากลัว มันเป็นความรู้สึกที่อ้างว้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แล้วม่อนล่ะ ม่อนจะอยู่ยังไง ใครจะดูแลม่อน ฉันพูดไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ฉันร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว
ทำแบบนี้กับม่อนได้ยังไง
ม่อนรักซีนะ รักมากที่สุด ต่อให้ซีทีใครม่อนก็รัก
ได้ยินมั้ย เข้าใจมั้ย
หลังจากที่พูดจบทุกอย่างก็กลับมาเงียบเหมือนเดิมและทำท่าว่าจะเงียบมากกว่าเดิมเพราะต่างคนก็ต่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี จนสุดท้ายฉันจึงพูดขึ้นว่า
ไม่เป็นไร ไปหาเขาเถอะ แต่ม่อนขอยืนยันคำเดิมนะ ม่อนจะรอซีจะรอซีอยู่ที่เดิม
มีอะไรให้ม่อนช่วย บอกมาได้เลยนะ เพราะม่อนคือคนรักซีเสมอถึงแม้ว่าซีจะไม่ใช่คนของม่อนแล้วก็ตาม
ฉันไม่รู้ว่าประโยคที่ฟังดูน้ำเน่าแบบนี้จะออกมาจากปากฉัน ซึ่งมันเป็นประโยคสุดท้ายที่ฉันพูด
ไม่อยากให้ม่อนรอ ไม่ต้องฝากความหวังไว้กับคนเลวอย่างเค้าหรอก นี่คือคำพูดสุดท้ายของเขา
ม่อนขอยืนยันคำเดิม ม่อนรักซี และม่อนก็จะรอซี
หวัดดีค่ะ แล้วฉันก็วางสาย และนั่นก็คือการบอกลาที่แท้จริง
ถามว่าเจ็บมั้ย คงไม่มีใครจะแกล้งฝืนตอบว่า ไม่เป็นไร ไม่รู้สึก ฉันจมอยู่กับความรู้สึกที่เจ็บปวด และทรมานแบบนี้อยู่หลายเดือน ทำงานด้วยร่างกายที่ไร้วิญญาณ และจู่ฉันก็คิดได้ว่า ฉันก็ต้องอยู่ให้ได้ ชีวิตยังมีอะไรต้องทำอีกมาก ฉันยังคงมานั่งทำงานทุกวัน เหลือแต่ความรู้สึกที่มีแต่ภาพความทรงจำที่ดีระหว่างฉันกับซีเท่านั้น เรื่องอื่นก็ไม่อยากนึกถึงให้ปวดใจอีกแล้ว และก็แอบหวังลึกๆว่าเขาจะกลับมา...
วันี้ฉันเลิกงานเร็วกว่าปกติ เพราะเจ้านายไปประชุมสัมมนาต่างจังหวัด วันฟรีเดย์มาแร้ว..ววว. แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่ออยู่ดี เลยต่ออินเตอร์เน็ตแล้วก็เข้าเวป สนุกดอทคอม เพราะก่อนหน้านี้น้องเคยสอนเล่น มันมีอะไรให้ดูเยอะแยะ โดยเฉพาะดูดวง ชอบๆๆๆๆ ชอบเอาชีวิตไปฝากกับดวง หลังจากดูดวงเสร็จก็ลองคลิกเข้าไปที่ห้องสนทนา chatroom ก็ลองเล่นดูท่าทางน่าสนุกแฮะ ฉันใช้เวลาในการเล่นครั้งแรกนานถึง 2 ชั่วโมง ด้วยวิธีการคุยที่จริงๆหลอกๆปนๆกันไป ใช้ก็แอบเล่น chat หลังเลิกงานทุกวัน โดยไม่คิดอะไรกับใครเป็นพิเศษถึงใครคนนั้นจะแสดงอาการหูดำ(หม้อ=เจ้าชู้=จีบ)ให้ฉันสังเกตเห็นก็ตาม มีความสุขกับการหลอกตัวเองไปวันๆ ฉันคุยกับทุกคนที่แอดเข้ามา จนจำไม่ได้วาใครชื่อรัยกันบ้างทักผิดทักถูกก็หลบๆหลีกๆ ดำน้ำไปมันทั้งอย่างงั้นเอง และฉันมักจะจบการสนทนาว่า
พรุ่งนี้จะมาแชทอีกนะ เวลาเดิมนี่แหล่ะ จะรอ....นะ
.....เย็นวันหนึ่งฉันกลับมาที่ทำงานเพราะลืมเก็บของมาพร้อมกับน้องชายอีกคน แล้วก็เห็นว่ามันยังไม่มืด ต่ออินเตอร์เน็ตซักแป๊บนึงคงไม่เป็นไรมั้ง ความคิดชั่วร้ายเกิดขึ้นอีกแล้ว ฉันเล่นคนละเครื่องกับน้องชาย เพราะต่างคนก็ต่างไม่อยากให้เห็นว่าเราคุยกับคนในนั้นว่าไงบ้าง
หวัดดีมดดำตัวน้อย ฉันสังเกตเห็นว่าคนนี้ไม่เหมือนคนอื่น เพราะว่าอ่านชื่อไม่ออกก็เลยทักเค้าไป
หวัดดีค่ะ เธอตอบมาด้วยคำสุภาพ
ชื่อรัย เรียนที่ไหน ม.รัยแล้ว
คำถามปกติที่เริ่มต้นการสนทนา ฉันต้องรีบถามก่อนเพื่อที่จะได้หาความเป็นตัวเองได้ถูกว่าจะใช้ชื่อรัย เรียนที่ไหน อายุเท่าไหร่ จะโกหกคนนั้นยังไงดี (มันเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายๆจริงใช่มั้ย คุณคงคิดอย่างนี้แน่นอน)
น้ำค่ะ เรียนที่รร....มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ม.4 แร้ว (แร้วเป็นภาษาวัยรุ่นน่ะ)
คุยกันแค่ประโยคนี้แล้วเน็ตเจ้ากรรมก็ดันหลุดมาซะอย่างงั้น.........(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ผลงานอื่นๆ ของ ก้อนน้ำกับถ่านแดง ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ก้อนน้ำกับถ่านแดง
ความคิดเห็น