ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER 5
ฉันลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกใจ เมื่อภาพที่ฉันเห็นคือภาพไอ้ปากเสียนั่นนอนหลับอยู่ตรงหน้า ที่ห่างกันเพียงไม่ถึงคืบเดียว มิหนำซ้ำ ฉันยังเป็นฝ่ายกอดมันไว้ด้วยซ้ำ ด้วยความตกใจจึงถีบมันตกเตียงไป
"โอ๊ย...อะไรวะเนี่ย" มันร้องเอามือกุมท้องอยู่ข้างล่าง
"แกทำอะไรอ่ะ" ฉันพยายามสำรวจ่างกายตัวเองว่ามีส่วนไหนขาดตกบกพร่องหรือไม่ โชคยังดีที่ยังครบ 32
"แหม...ที่เมื่อคืนละกอดแน่นเชียวนะ" ฉันก็เขิบจนหน้าแดงไปหมด แต่ก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้ เพราะภาพตอนตื่นมามันฟ้องอยู่เต็มๆว่าเราไปกอดเขาเอง ฉันพยายามเลี่ยงไปดูเสื้อผ้าตัวเองที่กองอยู่แถวโซฟา ถ้าใครเดินเข้ามาคงนึกว่าเราทำอะไรกันแน่เลย เพราะสภาพที่มันทำกับชุดทำงานราคาหลายร้อยของฉันช่างเป็นใจให้คิดเช่นนั้น เสื้อแต่ละชิ้นเหมือนถูกเหวี่ยงไปอยู่คนละทิศละทางเต็มไปหมด ฉันพยายามจะรวบๆเก็บมาให้หมด แล้วจะได้กลับบ้านไปช่วยลุงกับป้าที่ร้านอาหารในวันนี้ เพราะทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ฉันจะช่วยลุงกับป้าที่ร้านอาหารตั้งแต่ 09.00-16.00 พอฉันหยิบๆเสื้อเก็บอยู่มันก็กระชากข้อมือฉันอีก
"ทำอะไร"
"เก็บเสื้อผ้าไง" (ถามโง่ๆเนอะ)
"อย่ามากวนประสาทได้มะ ที่ถามเนี่ย คือจะเก็บไปทำไม"
"จะรู้ไปทำไม"
"งานมันเริ่มสามทุ่มไม่ใช่ไง๊" เออ...แล้วมันรู้ได้ไงว่าเราเริ่มงานสามทุ่ม
"แล้วไง"
"ถามดีๆ อย่ายั่วโมโหได้มะ" แล้วมันก็บีบแขนแรงขึ้นจนเจ็บไปหมด
"ไปทำงานที่ร้านอาหาร พอใจยั๊ง" ฉันตอบไปอย่างอารมณ์เสีย แล้วมันจะมายุ่งอะไรนักหนาวะเนี่ย
"ไปทำทำไม"
"ไม่ทำแล้วจะเอาที่ไหนกิน บ้านไม่ได้ปลูกต้อนแบงก์ร้อยแบงก์พันนะ ที่อยากกินอะไรก็ไปเด็ดมาใช้อ่ะ" เบื่อจริง พวกลูกคนรวยเนี่ย
"แล้วพ่อแม่ล่ะ ไม่ให้เงินใช้รึไง"
"..."
"นี่ ถามน่ะตอบสิ หูหนวกรึไง" มันตะคอกใส่ฉันอย่างอารมณ์เสีย
"พ่อแม่ไม่มี พอใจยั๊ง" ฉันตอบไปด้วยความรำคาญ แต่ถึงแม้ฉันจะไม่มีพ่อแม่แต่ก็ไม่รู้สึกอะไรนัก เพราะฉันมีคนที่รักฉันเหมือนพ่อแม่แท้ๆอยู่แล้ว และถึงแม้มันจะถากถางถึงพ่อแม่ฉันเท่าไหร่ ฉันก็ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น เพราะทุกวันนี้ฉันก็เหมือนมีพ่อแม่ที่รักฉันอยู่แล้ว แต่คำตอบของฉันมันกลับทำให้ไอ้ปากเสียสงบคำลง
"ขอโทษ" มันพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
"ช่างมันเหอะ"
"อาบน้ำ เดี๋ยวไปส่ง" เห้ย ! หูฝาดไปรึเปล่าเนี่ยเรา
"ไม่เป็นไร กลับเองได้"
"ก็บอกว่าให้ไปอาบน้ำไง" (แล้วมันก็ลากฉันไปทึ่ห้องน้ำ) "หรือว่าอยากให้อาบให้ ถึงจะเหนื่อย แต่ก็ยังพอไหวนะ" สายตาเจ้าเล่ห์เริ่มคุกคามฉันอีกแล้ว ไม่ชอบเลยจริงๆ
"ไม่ต้อง อาบเองได้" เสียงหัวเราะในลำคอ หึหึ เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้ชนะของมัน
"ก็แค่นั้น"
ด้วยความสบายของเครื่องสุขภัณฑ์ต่างๆในห้องน้ำที่แสนจะหรูหรา ทำให้ฉันเพลินกับการอาบน้ำนานไปหน่อย จนเสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันก็รีบเช็ดตัวแล้วออกมารับโทรศัพท์
"ฮัลโหล เบียร์หรอ มีอะไรโทรมาแต่เช้าเชียว"
"เออ เมานิดหน่อยอ่ะ เลยค้างห้องพี่รหัส แล้วกีตาร์อ่ะ ค้างกับพี่รหัสสุดหล่อรึเปล่า" ไอ้เบียร์มันเหมือนจะแซว
"อ๋อ เปล่าจ๊ะ พี่เค้ามาส่งที่บ้านอ่ะ" พอดีมันก็เข้ามาเห็นพอดี แล้วมันก็เข้ามาโอบกอดตัวฉันไว้ แล้วพรมจูบไปตามซอกคอของฉันในขณะที่ฉันกำลังคุยโทรศัพท์กับเบียร์อยู่ ฉันก็พยายามผลักมันออกไป แต่กลัวจะเกิดพิรุธเลยไม่กล้าเอะอะเสียงดังออกไป
"อืม...งั้นเจอกันที่โรงเรียน วันจันทร์นะ" แล้วการสนทนาก็ถูกตัดไป ฉันจึงรีบผลักไอ้ปากเสียนั่นออกอย่างแรง
"ดูท่าจะห่วงกันเหลือเกินนะ คงเสร็จมันแล้วล่ะสิ" มันพูดทำสีหน้ากวนประสาท
"อย่ามาพูดหมาๆแบบนี้นะ" ฉันพูดพร้อมชี้หน้า
"ไม่ใช่สิๆ คงต้องเป็นมันมากกว่าที่เสร็จเธอ"
"ผัวะ" ฉันฟาดไปหนึ่งฉากแรงๆลงบนหน้าของเขา เขาหันหน้ากลับมาจ้องฉันด้วยความแค้น แขนฉันถูกดึงเข้าไปหาตัวมัน มันโอบรัดฉันไว้ เหมือนงูที่รัดเหยื่อของมัน
"ปล่อย ไอ้สารเลว" ฉันจ้องหน้ามันเขม็ง
"ไอ้สารแลวใช่มั้ย อยากให้เป็นมากใช้มั้ย ได้..." มันจิกผมฉันจนหน้าฉันเชิดไปประทะกับลูกตาอันคมกริบโหดร้ายของมัน มันก้มลงมาบดปากฉันอย่างรวดเร็วจนฉันทำตัวไม่ถูก ทำได้เพียงกัดฟันเอาไว้ มันพยายามเอามันประคองหัวฉันเอาไว้ไม่ให้หลุดไปจากรัศมีของมันได้ มันเริ่มไซร้ลงมาถึงซอกคอก่อนจะเหวี่ยงฉันลงกับที่นอน ถึงแม้เตียงจะนุ่มแค่ไหน แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดีกับแรงเหวี่ยงขนาดนั้น มันตามมาล็อกตัวฉันไว้ไม่ให้ดิ้นไปไหน ฉันพยายามเบือนหน้าหนีมัน มันค่อยๆไซร้ซอกคออย่างคนซาดิสม์ เสีรยงครางของมันเหมือนเสือที่กำลังจะกินเหยื่อ ฉันทั้งร้อง ทั้งดิ้น แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปได้
"พี่ท็อป..." ฉันพูดขึ้นมาด้วยแรงเฮือกสุดท้าย มันหยุดหันมามองหน้าฉัน มือมันค่อยๆปล่อย
"แต่งตัวซะ จะได้ไปกินข้าว แล้วเดี๋ยวจะพอไปส่ง" มันพูดโดยไม่มองหน้าฉัน แล้วมันก็เดินไปจัดจาน ส่วนฉันพอแต่งตัวเสร็จ(ซึ่งเป็นเสื้อมันน่ะแหล่ะ)ก็เดินจะออกจากห้อง
"จะไปไหน"
"ปล่อย จะกลับบ้าน"
"นั่งลง รึอยากโดน" ทำไมชีวิตต้องมาเจอคนบ้าอะไรพรรค์นี้ด้วยเนี่ย แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจมัน เพราะเดี๋ยวมันไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีกเดี๋ยวจะแย่ ก็เลยนั่งๆไป
"กิน" มันตักโจ๊กขึ้นมา ฉันไม่ยอมอ้าปาก มันจึงบีบปากฉันให้อ้าปากแล้วก็กรอกใส่ปาก จนเกือบสำลัก ฉันเลยผลักมือมันออก
"ปล่อย กินเองได้" แล้วฉันก็ลากถ้วยโจ๊กมากิน แต่ก็กินได้ไม่มาก เพราะท้องยังเป็นมวนๆอยู่จากเมื่อคืน พอกินเสร็จก็เอาถ้วยไปเก็บอะไรเรียบร้อย ก็ไปเอาเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับบ้าน พอเดินออกมานอกห้องมันถึงได้รู้ว่านี่มันคอนโดหรูนี่เอง ฉันเดินไปที่ลิฟต์ ซักพักมันก็วิ่งตามมา พอลิฟต์เปิดมันก็วิ่งเข้าไปเลย ทำเอาฉันยืนอึ้งอยู่
"รีบเข้าสิ จะกลับบ้านไม่ใช่รึไง หรืออยาก...ต่อ" ฉันรีบวิ่งเข้าลิฟต์โดยไม่มองหน้ามัน พอลิฟต์เปิดฉันก็จะเดินออกทางประตู แต่กลับถูกมันฉุดแขนไว้ก่อน แล้วมันก็ลากฉันพาไปที่ลานจอดรถ
"ขึ้น หรืออยากให้อุ้ม ติดใจรึไง" มันพูดอะไรของมัน ฉันรีบขึ้นรถ ฉันก็บอกทางไปบ้านลุงกับป้า ไม่นานก็ถึง ฉันเข้าไปเปลี่ยนชุด แล้วก็ออกมา จะเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ แต่ยังเห็นรถของมันจอดอยู่หน้าบ้าน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็เดินผ่านมันไปเฉยๆ
"ขึ้นรถ จะไปส่ง" มันตะโกนออกมาจากรถ
"ไม่เป็นไร ไปเองได้" แล้วฉันก็เดินต่อ แต่มันกลับบีบแตรเสียงดังไปหมด จนคนระแวกนั้นเริ่มออกมาดูกันบ้างแล้ว มันอาจจะไม่อาย แต่ฉันกลับเป็นฝ่รายที่อายแทน จนต้องรีบวิ่งแจ้นขึ้นรถไป มันถึงหยุดบีบแตร และออกเครื่องไป ไม่นานก็ถึงร้นของลุงกับป้า ซึ่งลุงกับป้าก็รออยู่ในร้านตั้งนานแล้ว
"เดี๋ยวตอนกลางวันมารับไปกินข้าวนะ"
"ไม่ต้อ....." พูดยังไม่ทันขาดคำมันก็ขับรถแจ้นหายไปแล้ว
"โอ๊ย...อะไรวะเนี่ย" มันร้องเอามือกุมท้องอยู่ข้างล่าง
"แกทำอะไรอ่ะ" ฉันพยายามสำรวจ่างกายตัวเองว่ามีส่วนไหนขาดตกบกพร่องหรือไม่ โชคยังดีที่ยังครบ 32
"แหม...ที่เมื่อคืนละกอดแน่นเชียวนะ" ฉันก็เขิบจนหน้าแดงไปหมด แต่ก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้ เพราะภาพตอนตื่นมามันฟ้องอยู่เต็มๆว่าเราไปกอดเขาเอง ฉันพยายามเลี่ยงไปดูเสื้อผ้าตัวเองที่กองอยู่แถวโซฟา ถ้าใครเดินเข้ามาคงนึกว่าเราทำอะไรกันแน่เลย เพราะสภาพที่มันทำกับชุดทำงานราคาหลายร้อยของฉันช่างเป็นใจให้คิดเช่นนั้น เสื้อแต่ละชิ้นเหมือนถูกเหวี่ยงไปอยู่คนละทิศละทางเต็มไปหมด ฉันพยายามจะรวบๆเก็บมาให้หมด แล้วจะได้กลับบ้านไปช่วยลุงกับป้าที่ร้านอาหารในวันนี้ เพราะทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ฉันจะช่วยลุงกับป้าที่ร้านอาหารตั้งแต่ 09.00-16.00 พอฉันหยิบๆเสื้อเก็บอยู่มันก็กระชากข้อมือฉันอีก
"ทำอะไร"
"เก็บเสื้อผ้าไง" (ถามโง่ๆเนอะ)
"อย่ามากวนประสาทได้มะ ที่ถามเนี่ย คือจะเก็บไปทำไม"
"จะรู้ไปทำไม"
"งานมันเริ่มสามทุ่มไม่ใช่ไง๊" เออ...แล้วมันรู้ได้ไงว่าเราเริ่มงานสามทุ่ม
"แล้วไง"
"ถามดีๆ อย่ายั่วโมโหได้มะ" แล้วมันก็บีบแขนแรงขึ้นจนเจ็บไปหมด
"ไปทำงานที่ร้านอาหาร พอใจยั๊ง" ฉันตอบไปอย่างอารมณ์เสีย แล้วมันจะมายุ่งอะไรนักหนาวะเนี่ย
"ไปทำทำไม"
"ไม่ทำแล้วจะเอาที่ไหนกิน บ้านไม่ได้ปลูกต้อนแบงก์ร้อยแบงก์พันนะ ที่อยากกินอะไรก็ไปเด็ดมาใช้อ่ะ" เบื่อจริง พวกลูกคนรวยเนี่ย
"แล้วพ่อแม่ล่ะ ไม่ให้เงินใช้รึไง"
"..."
"นี่ ถามน่ะตอบสิ หูหนวกรึไง" มันตะคอกใส่ฉันอย่างอารมณ์เสีย
"พ่อแม่ไม่มี พอใจยั๊ง" ฉันตอบไปด้วยความรำคาญ แต่ถึงแม้ฉันจะไม่มีพ่อแม่แต่ก็ไม่รู้สึกอะไรนัก เพราะฉันมีคนที่รักฉันเหมือนพ่อแม่แท้ๆอยู่แล้ว และถึงแม้มันจะถากถางถึงพ่อแม่ฉันเท่าไหร่ ฉันก็ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น เพราะทุกวันนี้ฉันก็เหมือนมีพ่อแม่ที่รักฉันอยู่แล้ว แต่คำตอบของฉันมันกลับทำให้ไอ้ปากเสียสงบคำลง
"ขอโทษ" มันพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
"ช่างมันเหอะ"
"อาบน้ำ เดี๋ยวไปส่ง" เห้ย ! หูฝาดไปรึเปล่าเนี่ยเรา
"ไม่เป็นไร กลับเองได้"
"ก็บอกว่าให้ไปอาบน้ำไง" (แล้วมันก็ลากฉันไปทึ่ห้องน้ำ) "หรือว่าอยากให้อาบให้ ถึงจะเหนื่อย แต่ก็ยังพอไหวนะ" สายตาเจ้าเล่ห์เริ่มคุกคามฉันอีกแล้ว ไม่ชอบเลยจริงๆ
"ไม่ต้อง อาบเองได้" เสียงหัวเราะในลำคอ หึหึ เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้ชนะของมัน
"ก็แค่นั้น"
ด้วยความสบายของเครื่องสุขภัณฑ์ต่างๆในห้องน้ำที่แสนจะหรูหรา ทำให้ฉันเพลินกับการอาบน้ำนานไปหน่อย จนเสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันก็รีบเช็ดตัวแล้วออกมารับโทรศัพท์
"ฮัลโหล เบียร์หรอ มีอะไรโทรมาแต่เช้าเชียว"
"เออ เมานิดหน่อยอ่ะ เลยค้างห้องพี่รหัส แล้วกีตาร์อ่ะ ค้างกับพี่รหัสสุดหล่อรึเปล่า" ไอ้เบียร์มันเหมือนจะแซว
"อ๋อ เปล่าจ๊ะ พี่เค้ามาส่งที่บ้านอ่ะ" พอดีมันก็เข้ามาเห็นพอดี แล้วมันก็เข้ามาโอบกอดตัวฉันไว้ แล้วพรมจูบไปตามซอกคอของฉันในขณะที่ฉันกำลังคุยโทรศัพท์กับเบียร์อยู่ ฉันก็พยายามผลักมันออกไป แต่กลัวจะเกิดพิรุธเลยไม่กล้าเอะอะเสียงดังออกไป
"อืม...งั้นเจอกันที่โรงเรียน วันจันทร์นะ" แล้วการสนทนาก็ถูกตัดไป ฉันจึงรีบผลักไอ้ปากเสียนั่นออกอย่างแรง
"ดูท่าจะห่วงกันเหลือเกินนะ คงเสร็จมันแล้วล่ะสิ" มันพูดทำสีหน้ากวนประสาท
"อย่ามาพูดหมาๆแบบนี้นะ" ฉันพูดพร้อมชี้หน้า
"ไม่ใช่สิๆ คงต้องเป็นมันมากกว่าที่เสร็จเธอ"
"ผัวะ" ฉันฟาดไปหนึ่งฉากแรงๆลงบนหน้าของเขา เขาหันหน้ากลับมาจ้องฉันด้วยความแค้น แขนฉันถูกดึงเข้าไปหาตัวมัน มันโอบรัดฉันไว้ เหมือนงูที่รัดเหยื่อของมัน
"ปล่อย ไอ้สารเลว" ฉันจ้องหน้ามันเขม็ง
"ไอ้สารแลวใช่มั้ย อยากให้เป็นมากใช้มั้ย ได้..." มันจิกผมฉันจนหน้าฉันเชิดไปประทะกับลูกตาอันคมกริบโหดร้ายของมัน มันก้มลงมาบดปากฉันอย่างรวดเร็วจนฉันทำตัวไม่ถูก ทำได้เพียงกัดฟันเอาไว้ มันพยายามเอามันประคองหัวฉันเอาไว้ไม่ให้หลุดไปจากรัศมีของมันได้ มันเริ่มไซร้ลงมาถึงซอกคอก่อนจะเหวี่ยงฉันลงกับที่นอน ถึงแม้เตียงจะนุ่มแค่ไหน แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดีกับแรงเหวี่ยงขนาดนั้น มันตามมาล็อกตัวฉันไว้ไม่ให้ดิ้นไปไหน ฉันพยายามเบือนหน้าหนีมัน มันค่อยๆไซร้ซอกคออย่างคนซาดิสม์ เสีรยงครางของมันเหมือนเสือที่กำลังจะกินเหยื่อ ฉันทั้งร้อง ทั้งดิ้น แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปได้
"พี่ท็อป..." ฉันพูดขึ้นมาด้วยแรงเฮือกสุดท้าย มันหยุดหันมามองหน้าฉัน มือมันค่อยๆปล่อย
"แต่งตัวซะ จะได้ไปกินข้าว แล้วเดี๋ยวจะพอไปส่ง" มันพูดโดยไม่มองหน้าฉัน แล้วมันก็เดินไปจัดจาน ส่วนฉันพอแต่งตัวเสร็จ(ซึ่งเป็นเสื้อมันน่ะแหล่ะ)ก็เดินจะออกจากห้อง
"จะไปไหน"
"ปล่อย จะกลับบ้าน"
"นั่งลง รึอยากโดน" ทำไมชีวิตต้องมาเจอคนบ้าอะไรพรรค์นี้ด้วยเนี่ย แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจมัน เพราะเดี๋ยวมันไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีกเดี๋ยวจะแย่ ก็เลยนั่งๆไป
"กิน" มันตักโจ๊กขึ้นมา ฉันไม่ยอมอ้าปาก มันจึงบีบปากฉันให้อ้าปากแล้วก็กรอกใส่ปาก จนเกือบสำลัก ฉันเลยผลักมือมันออก
"ปล่อย กินเองได้" แล้วฉันก็ลากถ้วยโจ๊กมากิน แต่ก็กินได้ไม่มาก เพราะท้องยังเป็นมวนๆอยู่จากเมื่อคืน พอกินเสร็จก็เอาถ้วยไปเก็บอะไรเรียบร้อย ก็ไปเอาเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับบ้าน พอเดินออกมานอกห้องมันถึงได้รู้ว่านี่มันคอนโดหรูนี่เอง ฉันเดินไปที่ลิฟต์ ซักพักมันก็วิ่งตามมา พอลิฟต์เปิดมันก็วิ่งเข้าไปเลย ทำเอาฉันยืนอึ้งอยู่
"รีบเข้าสิ จะกลับบ้านไม่ใช่รึไง หรืออยาก...ต่อ" ฉันรีบวิ่งเข้าลิฟต์โดยไม่มองหน้ามัน พอลิฟต์เปิดฉันก็จะเดินออกทางประตู แต่กลับถูกมันฉุดแขนไว้ก่อน แล้วมันก็ลากฉันพาไปที่ลานจอดรถ
"ขึ้น หรืออยากให้อุ้ม ติดใจรึไง" มันพูดอะไรของมัน ฉันรีบขึ้นรถ ฉันก็บอกทางไปบ้านลุงกับป้า ไม่นานก็ถึง ฉันเข้าไปเปลี่ยนชุด แล้วก็ออกมา จะเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ แต่ยังเห็นรถของมันจอดอยู่หน้าบ้าน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็เดินผ่านมันไปเฉยๆ
"ขึ้นรถ จะไปส่ง" มันตะโกนออกมาจากรถ
"ไม่เป็นไร ไปเองได้" แล้วฉันก็เดินต่อ แต่มันกลับบีบแตรเสียงดังไปหมด จนคนระแวกนั้นเริ่มออกมาดูกันบ้างแล้ว มันอาจจะไม่อาย แต่ฉันกลับเป็นฝ่รายที่อายแทน จนต้องรีบวิ่งแจ้นขึ้นรถไป มันถึงหยุดบีบแตร และออกเครื่องไป ไม่นานก็ถึงร้นของลุงกับป้า ซึ่งลุงกับป้าก็รออยู่ในร้านตั้งนานแล้ว
"เดี๋ยวตอนกลางวันมารับไปกินข้าวนะ"
"ไม่ต้อ....." พูดยังไม่ทันขาดคำมันก็ขับรถแจ้นหายไปแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น