ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไม่ผิดใช่ไหม ที่จะรักเธอ

    ลำดับตอนที่ #1 : CHAPTER 1

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 52


     ชีวิตหลายคนก็แตกต่างกันออกไป อาจมีทั้งความสุข และความทุกข์ปะปนกันไปบ้าง ไม่เท่ากัน แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกในจุดนี้  เพราะทุกวันนี้ที่ฉันอยู่ก็มีความสุขพออยู่แล้ว ฉันอาจจะไม่มีพ่อแม่เหมือนคนอื่น แต่ฉันก็มีตาและยายที่รักฉันดังชีวิตของฉันอยู่ทั้งคน แต่สิ่งที่ฉันหนักใจอยู่ในตอนนี้คือ  ฉันจะต้องทิ้งตาและยายไปอยู่กรุงเทพ เนื่องจากทางลุงและป้าขอให้ฉันไปอยู่เป็นเพื่อนลูกชายเขา ลุงกับป้าเสนอตัวที่จะจ่ายค่าเล่าเรียนให้ด้วย ฉันเห็นว่าดีเพราะจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายของตาและยาย จึงตกลงไป
     "ตาร์ลูก" เสียงนุ่มนวลของยายเรียกฉัน
     "จ๋า ยาย"
     "ไปอยู่ที่นั่นก็ทำตัวดีๆนะลูก อย่าให้เขาตำหนิมาได้"
     "จ้า ยาย"
     ใจจริงฉันไม่อยากทิ้งตากับยายมาอย่างนี้เลย แต่ในเมื่อเรื่องราวเป็นอย่างนี้ ฉันก็คงต้องไป ฉันนั่งรถจากบ้านนอกเขาสู่เมืองกรุง พอรถจอดที่สถานี ฉันก็โทรศัพท์หาลุงทันที ไม่นานลุงก็มาถึงสถานี แต่ไม่รู้ว่าจะจำฉันได้หรือเปล่า
     "ลุง ป้า สวัสดีจ๊ะ" ฉันยกมือไหว้ลุงและป้า
     "เอ่อ...สวัสดีจ่ะ" ดูท่าทางเหมือนท่านจะยังจำฉันไม่ได้
     "ต้าร์ไงคะ คุณลุงคุณป้า" ดูท่านเหมือนจะนึกออกแล้ว
     "อ้าว...ไหงโตเป็นสาวสวยวอย่างนี้ล่ะ จำไม่ได้เลยนะเนี่ย สวยขึ้นเยอะ" ดูท่าทางท่านจะดีใจมากที่เห็นฉัน
     ฉันเขินนิดหน่อย เพราะคิดว่าตามจริงฉันก็ไม่ได้สวยอะไรมากมาย ก็แค่กะเทยภูธรคนนึง คงไม่ได้วิเศษวิโสอะไรมากมาย ลุงกับป้าให้ฉันเรียนที่วิทยาลัยเดียวกับลูกชายของลุงกับป้า ซึ่งอายุมากกว่าฉันไม่กี่ปี ตอนนี้พี่เค้าก็อยู่ปี 3 แล้ว มีอะไรเค้าก็จะได้ดูแลเราด้วย
     "ตาร์เอาของมาเก็บห้องพี่เลยนะ ห้องพี่รกหน่อย ไม่เป็นไรนะ"
     "ค่ะ" ฉันตอบไปพร้อมกับขนของออกจากกระเป๋า จัดข้าวจัดของ
     "ถ้ารู้ว่าจะมีสาวสวยมานอนด้วยอย่างนี้ ไม่เสียแรงขนเตียงมาอีกเตียงดีกว่า นอนเตียงเดียวกันซะเลยน่าจะดีกว่าเนอะ" มีแซวบ้าง อะไรบ้างนะพี่ปอ
     "ว่าไป พี่ปอ" แล้วเราก็หัวเราะกันร่วน
     ซักพักป้าก็ขึ้นมาเรียกเราสองคนลงไปทานข้าวข้างล่าง  ดูท่าทางลุงกับป้าเป็นคนใจดี ดูจะเอ็นดูฉันมากเลยทีเดียว
     "ปอ ดูแลน้องให้ดีๆนะ อย่าทำอะไรน้องล่ะ" ลุงพูดกำชับขึ้นกลางโต๊ะอาหาร
     "ถ้ารู้ว่าตาร์จะเป็นสาวสวยขนาดนี้จะไล่ให้ไอปอไปนอนห้องเก็บของ แล้วให้ตาร์มานอนห้องไอ้ปอมันแล้วนะเนี่ย" ป้ามีสมทบเล็กน้อย
     "โห...แม่อ่ะ" พี่ปอทำท่าทางงอน
     "อะไรของแก น้องเค้าเป็นผู้หญิงจะให้มานอนห้องเก็บของรึไง"
     "เออ...แล้วเรื่องไปโรงเรียนน่ะ เดี๋ยวไปกับพี่ปอเค้าก็ได้นะลูก ยังไงก็โรงเรียนเดียวกัน" ลุงหันมากำชับกับฉัน
     "อ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูหาทางไปเองก็ได้ค่ะ แค่รู้ว่านั่งรถสายไหนไปก็ได้แล้วล่ะค่ะ" 
     "ไม่ได้นะ พี่กะว่าจะควงตาร์ไปโชว์เพื่อนที่โรงเรียนซะหน่อย ไปกับพี่นี่แหล่ะ รถพี่ก็มี จะไปยืนเบียดคนอื่นทำไม" พี่ปอหันมาทำสีหน้าจริงจังใส่ ดูแล้วตลกดี
     "ค่ะๆ ก็ได้ๆ"
     แล้วทุกคนก็หัวเราะร่วนกันกลางโต๊ะอาหาร เหลือเวลาอีกสัปดาห์นึงก่อนจะเปิดเทอม ฉันเลยขออนุญาตลุงกับป้าไปหางานพิเศษทำ ตอนแรกลุงกับป้าจะไม่อนุญาต แต่สุดท้ายก็ยอม ฉันเลยกะว่าจะไปทำที่ผับของเพื่อนพี่ปอ เพราะได้ข่าวว่าผับของเพื่อนพี่ปอกำลังขาดพนักงานเต้น(coyote)อยู่พอดี ตอนแรกทุกคนก็กังวลว่าจะทำได้หรือเปล่า เพราะมันดึก แล้วมันเสี่ยงมาก แต่ฉันบอกกับทุกคนว่าเคยทำมาก่อน สุดท้ายทุกคนก็อนุญาต พี่ปอพาฉันไปฝากงาน ฉันเริ่มงานสามทุ่ม เลิกตีสาม รายได้ก็ถือว่าดีพอสมควร
     คืนก่อนวันเปิดเทอมฉันตื่นเต้นไปหน่อยเลยนอนดึก จึงทำให้ตื่นสายนิดหน่อย แต่ก็พยายามรีบที่สุด พอได้ใส่ชุดเครื่องแบบของโรงเรียนแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองไฮโซดีนะ อิอิ
     "เฮ้ย แม่ง มาสายแล้วยังช้าอีก"
     "โห...คนกรุงเทพเค้าพูดกันยังงี้หรอเนี่ย" ฉันคิดในใจ ฉีนพยายามไม่มองหน้ามัน และเดินผ่านไป
     "เฮ้ย อีนี่ กรูพูดนี่ได้ยินหรือเปล่า"
     "กรูไม่ได้ชื่ออีนี่"
     "ใครอยากรู้ เอาบัตรนักศึกษามานี่" ฉันก็ควานหาบัตรนักศึกษาในกระเป๋าก่อนยื่นให้มัน มันก็กระชากออกไปจากมือเลย น่าต่อยให้เลือดกบปากจริงๆ
     "เฮ้ย...ใช้นายว่ะ กะเทยนี่หว่า" ในช่วงเสี้ยววินาทีนั้นฉันเตรียมพร้อมรับเสียงหัวเราะและคำครหาต่างๆนานาที่จะตามมาหลังคำดูถูกนั่น แต่มันกลับเงียบกริบ ทุกคนเงียบกันหมด ฉันพยายามหันไปดูภาพเบื้องหลัง ทุกคนทำท่าอึ้งค้างกันหมด ฉันเลยหันกลับไปหาไอ้ปากเสียนั่น ก่อนจะดึงบัตรนักศึกษาคืนพร้อมกับทำหน้าอย่างผู้มีชัย ก่อนจะเดินไปนั่ง แต่ใจระหว่างนั้น ฉันก็เผลอไปเดินชนนายคนหนึง่เข้า
     "โอ๊ะ!!! ขอโทษนะ"
     "เออ...ไม่เป็๋นไร ทีหลังก็เดินดูบ้างละกัน"
     "แล้วเธอชื่ออะไรอ่ะ"
     "กีตาร์"
     "เราเบียร์นะ"
     เสร็จเราก็นั่งฟังพวกรุ่นพี่พูดถึงกิจกรรมตต่างๆกันต่อ แล้วก็ทำกิจกรรมต่างๆนานาที่รุ่นพี่เตรียมไว้ให้เรา  อยากจะบอกว่าโคตรเหนื่อยเลย ไม่รู้ว่ารุ่นพี่เค้าเอาแรงมาจากไหนนักหนา ถึงได้มีแรงทั้งวันขนาดนี้  แต่ดูเหมือนว่าไอ้ปากเสียนั่นจะชอบแกล้งฉันมากที่สุดเลย เซ็งมาก!!!
     หลังจากเสร็จกิจกรรมแล้ว รถเบนซ์คันหรูก็ขับเทียบมาจอดบริเวณกิจกรรมของเรา แล้วผู้หญิงร่างสูงเพรียว ขาว สวยก็เดินลงมาจากรถ ผู้ชายทุกคนถึงกับมองกันเป็นตาเดียวด้วยกระโปีงที่สั้น เสื้อที่ฟิต ต้นขาขาวเรียว หน้าอกอันอวบอั๋น
     "จง ไปกันเหอะ" แล้วไอ้ปากหมามันก็เดินขึ้นรถคันนั้นไป แต่ก่อนจะขึ้นมันก็ยังอุตส่าห์ส่งสายตามาแขวะฉันอีก ก่อนที่จะหันหน้าไปคุยกับแฟนมัน และออกรถออกไป
     "รอนานมั้ยตาร์" พี่ปอเอง
     "อ๋อ ไม่ค่ะ"
     "ป่ะ งั้นรีบกลับบ้านไปนอนก่อนป่ะ จะได้รีบตื่นขึ้นมาทำงาน จะได้มีแรง" แล้วเราก็กลับบ้านกัน  พอถึงบ้านฉันพยายามที่จะช่วยงานบ้าน แต่พี่ปอก็บอกให้รีบไปนอน จะได้รีบตื่นไปทำงาน
     "งั่นหนูหลับก่อนนะพี่ปอ" แล้วพี่ปอก็เอามือมาลูบหน้าผากเบาๆเหมือนกล่อมเด็ก ก่อนที่ฉันจะหลับไป
     พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็รีบเลือกชุดที่จะใช้เต้นในวันนี้ใส่กระเป๋า แล้วรีบออกไปขึ้นรถไฟฟ้า เพราะทำงานหลายวันแล้วจึงรู้ทาง ไม่ต้องให้พี่ปอไปส่งแล้ว
     "สวัสดีค่ะ พี่เช่ร์" พี่เช่ร์เพื่อนพี่ปอ เจ้าของผับ
     "อ้าว...สวัสดีจ๊ะ กีตาร์ แล้วปอล่ะ"
     "อ๋อ วันนี้หนูมาเองอ่ะค่ะ"
     "อ๋อ งั้นก็รีบไปแต่งตัวได้เลยนะ เดี๋ยวไม่ทัน นี่ก็ใกล้เวลาเต้นแล้ว"
     ฉันเดินเข้าไปห้องเปลี่ยนชุดแล้วก็ออกมาที่สำหรับเตรียมขึ้นวอ(เวทีสำหรับเต้น) แขกเริ่มเข้ามาเยอะแล้ว เพราะมันก็เริ่มดึกพอสมควรแล้ว  ฉันเหลือบดูที่นาฬิกา อีกไม่ถึงสิบห้านาทีก็จะถึงเวลาเต้นแล้ว ดูท่าทางเด็กเสิร์ฝวุ่นวายกันไปหมด เดินบ้าง วิ่งบ้าง จนเกือบชนกันหลายรอบ เห็นแล้วอยากเข้าไปช่วยจริงๆ แต่ว่าเราไม่มีหน้าที่วิ่งเอาของนี่นา 555+
     "ขอเชิญโคโยตี้ขึ้นวอด้วยครับ" เสียงจากดีเจประจำผับ ตามจริงก็คือพี่เช่ร์เองน่ะแหล่ะ
     ฉันก็เต้นๆไปเรื่อยๆตามประสาที่พอจะเต้นเป็นน่ะแหล่ะ ซักพักก็มีแขกมาให้ทิปบ้าง มาชนแก้วบ้าง เราก็สนองแขกไปจนหมดเวลา เราก็ลงมาหาดริงก์ข้างล่าง พอถึงเวลาเต้นเราก็ขึ้นไปใหม่ พอหมดเวลาเราก็ลงมาอีก เป็นอยู่อย่างนี้ทั้งคืน
     "กีตาร์ ไปดูแขกโต๊ะหกให้หน่อยดิ พี่ไม่ว่าง" พี่รถเมล์ โคโยตี้ที่ฮอตที่สุดขอบผับในขณะนี้หาทรัพย์มาให้แล้ว
     "ค่ะ" แล้วฉันก็เดินไปที่โต๊ะหก
     "พี่คะ ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยคะ" ดูจากเครื่องแบบคุ้นๆแล้ว น่าจะเป็นเด็กโรงเรียนเดียวกันนี่แหล่ะ มากับผู้หญิงซะด้วย สงสัยเป็นแฟนกัน
     "เอาสิ" ดูท่าทางไม่ค่อยสนใจอะไรเลยนอกจากแฟนมัน ก็ดี จะได้สั่งกระจายเลย
     "พี่คะ หนูขอดริงก์หน่อยนะคะ"
     "เอาสิ" แน่ะ ไม่สนใจเลย
     "ห้าดริงก์นะคะ" อืม... จะเอาก็เอามาเหอะ ฉันเลยรีบวิ่งไปเอาดริงก์พร้อมบิลมาทันที
     "750 บาทค่ะ"
     "อ่ะ เอาไปเลย ไม่ต้องทอน" มันยื่นแบงก์พันมาให้ ฉันขอบคุณก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้ามัน
     "เฮ้ย...ไอ้ปากหมานั่นนี่หว่า"
     "เฮ้ย...อีตุ๊ดนี่"
     "จงรู้จักมันด้วยหรอคะ" แฟนมันคงสงสัย
     "อ่อ เด็กสาขาเดียวกับจงอ่ะ" มันก็ทำหน้างงๆ
     "เต้นเก่งนะหนู อ่ะ พี่ให้อีก เก็บไว้เป็นค่าเล่าเรียนนะ" แล้วเจ๊แกก็ควักมาให้เพิ่มอีกสองพัน เราก็รับไว้เลยดิ เป็นใครจะไม่เอา ไม่ได้เป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรีอะไรหรอก ใครให้อะไรก็เก็บๆไว้
     "จง เราไปห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา" แล้วแฟนไอ้ปากเสียก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ส่วนไอ้ปากหมานั่นก็กวักมือเรียกให้ฉันเข้าไปหามัน
     "ไหน เป็นโคโยตี้หรอ งั้นก็ลูบ คลำ บีบ เค้น ได้ใช่มะ" แล้วมันก็หันมาทำหน้าหื่นใส่ เห็นแล้วสยดสยองอ่ะ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ก็พับๆเงินยัดใส่นม(มันเป็นธรรมเนียม)
     "เดี๋ยวขอเอาเงินไปจ่ายค่าดริงก์ก่อนนะคะ" แล้วฉันก็พยายามเดินหนี แต่มันกลับกอดเอวฉันไว้แล้วดึงเข้าไปหาตัวมัน แล้วก็กระซิบข้างหูเบาๆ
     "โคโยตี้ตุ๊ดนี่.... อ๊อฟเท่าไหร่จ๊ะ"
     "ขอโทษค่ะ โคโยตี้ที่นี่ไม่บริการนอกเวลาค่ะ"
     "หรอ...." มือมันเริ่มเลื้อยขึ้นมาเรื่อยๆจนปิดชุดชั้นในเกือบหมด
     "งั้นก็แสดงว่าให้ฟรีน่ะสิ" แล้วมันก็บีบยกทรงฟองน้ำนั่นของฉัน
     "คงต้องเป็นซ่องกะหรี่แล้วแหล่ะค่ะ คุณพี่" ฉันพยายามจะเอาตัวออกมาจากอ้อมแขนนั่น
     "นมก็ฟองน้ำทั้งนั้น ยังจะเรื่องมากอีกนะ หึหึ" มันพูดพร้อมหัวเราะในลำคอเบาๆ
     "ก็มีฟองน้ำไว้ให้หมามันบีบเล่นอ่ะค่ะคุณพี่" ดูมันอึ้งๆไปพักนึง ฉันก็ผละตัวออกทันทีแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจ่ายค่าดริงก์
     รอบสุดท้ายของการเต้น ฉันก็ขึ้นไปเต้นตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือไอ้ปากหมานั่นมันเดินเข้ามาหาฉํนที่วอพร้อมกับยื่นแบงก์ร้อยให้ ตอนแรกฉันก็ก้มลงไปรับดีๆ แต่มันกลับชักเงินกลับ แล้วก็ยัดเข้าไปในเป้ากางเกงมัน ตอนแรกฉันก็ตัดใจกะว่าจะไม่เอา แต่ปากมันก็ชวนให้ฉันต้องเอาจนได้ แล้วคนทั้งผับก็ส่งเสียงเชียร์กันใหญ่ ฉันเลยต้องจำใจเอา ดีที่ล้วงลงไปไม่เจอหนอนน้อย  แต่ฉันก็ไม่สนอะไรหรอก มันเป็นคนรวย เงินแค่นี้มันทำอะไรก็ได้ แต่สำหรับฉัน มันสามารถต่อชีวิตฉํนได้ไปอีกหลายวันทีเดียวเชียว
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×