คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Intro
บทนำ
สงคราม..ความโหดร้ายที่ไม่มีใครต้องการ
มีแต่ความสูญเสียและบ่อนทำลายอาณาจักรต่างๆ สงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกัน
เหตุใดเล่ามนุษย์จึงมีความโลภอย่างไม่สิ้นสุด
เหล่าเทพจึงเลือกชายผู้หนึ่งให้ทำหน้าที่กอบกู้สันติสุขมาสู่มวลประชา..
หลังเสร็จสิ้นสงคราม
ผู้นำชัยชนะได้ตั้งตนเป็นปฐมกษัตริย์ปกครองบ้านเมืองและประชาชน หากแต่ชัยชนะนี้คงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีสหายร่วมรบกับมาด้วยกัน
“ช่วยตามตัวดยุกฟารอส
ดยุกพานิค ดัสเชสโรซาลีนและดยุกคาเรนมาด้วย”
ร่างสูงสง่าของชายหนุ่มเรียกให้เสนาบดีข้างกายไปตามบุคคลทั้งสี่มาที่ห้องทำงานของเขา
นัยน์ตาสีดำสนิทมองออกไปยังหน้าต่างพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
สงครามได้สิ้นสุดมาแล้วเป็นระยะเวลา2ปี
เขาได้ใช้เวลาภายในสองปีนั้นฟื้นฟูบ้านเมือง
ปราบปรามกบฏเล็กๆน้อยๆตามชายแดน
และพึ่งได้รับความสงบสุขอย่างแท้จริงมาเมื่อไม่นานมานี้
แต่เพราะเขาให้ความสำคัญกับการศึกมากเป็นอันดับหนึ่ง
การปกครองจึงกลายเป็นลำดับรองลงมา
และทุกวันนี้อาณาจักรเบทริกซ์มีอาณาเขตเพิ่มมากขึ้นจนเขาไม่สามารถดูแลได้หมดเพียงคนเดียว
และสาเหตุที่เรียกคนอื่นมาก็เพราะ..
“ฝ่าบาท
ทรงเรียกพวกกระหม่อมมา มีอะไรจะรับสั่งพะยะค่ะ” เสียงจากบุคคลที่พึ่งเข้ามาใหม่ทำให้คนที่ถูกเรียกว่าฝ่าบาทหันกลับมามองผู้มาเยือน
ไมคัส ฟารอส
นักรบอันดับหนึ่งควบคู่ตำแหน่งรองแม่ทัพของอาณาจักรโค้งตัวเคารพนายเหนือหัวอย่างสุภาพ
โดยที่ด้านหลังมีชายอีกสองคนและหนึ่งสตรีงามทำเช่นเดียวกันอยู่
“ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ต้องเรียกข้าว่าฝ่าบาท
พวกเจ้าเป็นสหายของข้า”
กษัตริย์หนุ่มส่ายหน้ากับท่าทางของเพื่อนสนิทที่จริงจังแทบทุกครั้งที่เจอกัน
นัยน์ตาสีดำกวาดตามองสี่สหายอย่างพิจารณา ก่อนจะเดินไปหยิบเอกสารบางอย่างให้กับไมคัส
ซึ่งในนั้นเขาเขียนไว้ถึงแผนการปกครองบางอย่าง
“นี่มัน..”
“ใช่
แผนผังอาณาจักร แบ่งเป็นเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตกและมีศูนย์กลางที่วังนี้” อัลซาส
อธิบายเกี่ยวกับแผนผังอาณาจักรให้กับทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ฟังอย่างใจเย็น
มือแกร่งกางแผนที่โดยรวมที่ให้เหล่าเสนาบดีเป็นคนเขียนแผนที่อาณาจักรออก
“ข้าก็ยังไม่เข้าใจว่าท่านจะเรียกพวกเรามาทำไมอัลซาส”
ซิลเน่ โรซาลีน หญิงสาวเพียงคนเดียวของกลุ่มมองแผนที่อย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าในพื้นที่แต่ละส่วนเขียนอะไรไว้
“ข้าจะให้พวกเจ้าแบ่งกันปกครองไปแต่ละส่วน
แต่ต้องขึ้นตรงกับข้าเท่านั้น”
“อัลซาส
ท่านก็รู้ว่าข้ามีภารกิจที่จะต้องฟื้นฟูบ้านเมืองของข้าเช่นกัน” ดีลอสเอ่ยเสียงเครียด
เมื่อรับรู้ว่าเพื่อนตั้งใจจะทำอะไร ตระกูลพานิคของเขาไม่ได้มาจากชนชั้นสามัญปกติ
แต่ตัวเขาเองเป็นถึงอดีตรัชทายาทของอีกอาณาจักร
หากแต่..ตอนนี้อาณาจักรของเขาได้ล่มสลายไปแล้ว
“ข้ารู้
ข้าจึงไม่บังคับเจ้า อยู่ที่ตัวเจ้าจะตัดสินใจเองดีลอส แค่ขอให้เจ้าช่วยเท่านั้น”
ร่างสูงของกษัตริย์หนุ่มยิ้มเล็กน้อยและตบบ่าเพื่อนเบาๆ
เขารู้ว่าดีลอสเคยเป็นเจ้าชาย
เป็นผู้ปกครองที่มีหน้าที่และหยิ่งในศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก
การที่เขาขอให้ปกครองในส่วนทิศใต้อาจจะเป็นการดูหมิ่นเกียรติของเพื่อนก็เป็นได้
แต่เพราะเคยเป็นผู้ปกครอง
เขาจึงมั่นใจว่าถ้าเพื่อนทำหน้าที่นี้ จะยิ่งทำให้ทางทิศใต้สงบสุขได้ไม่ยาก
“ส่วนเจ้าคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม
ลูอิซ?” เจ้าของชื่อลูอิซมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเช่นเดิม
ชายหนุ่มหน้าสวยกวาดตามองแผนที่คราวๆแล้วพยักหน้าเป็นเชิงไม่มีปัญหาอะไร
เพราะสำหรับเขาแล้ว
ถ้าการที่อัลซาสมอบหมายอะไรให้ก็หมายถึงการให้ความไว้วางใจอย่างที่สุด
เพราะฉะนั้นแล้วเขาก็ไม่ปัญหาอะไร
เขาไม่ใช่พวกหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างดีลอส
ไม่ใช่พวกจริงจังเกินไปอย่างไมคัส
ไม่ใช่คนที่ฉลาดเป็นกรดอย่างซิลเน่
แต่..
คนอย่างลูอิซ คาเรน ขอแค่มีเพื่อนอยู่ข้างๆก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
นัยน์ตาสีน้ำเงินสวยมองร่างของคนที่เขาเรียกได้เต็มปากว่าเป็นเพื่อนแท้อย่างครุ่นคิด
พวกเขาทั้งสี่คน
เอาจริงๆก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่ต่างกันอย่างมากนี้รวมกลุ่มกันจนตั้งอาณาจักรได้อย่างไร
รู้แต่ว่าถ้าให้ย้อนเวลากลับไป
เขาก็ยังเลือกที่จะเดินมากับเพื่อนกลุ่มนี้อยู่ดี
เพราะฉะนั้นแล้ว
ในตอนนี้สิ่งที่เขาอยากที่จะปกป้องมันคือ..
“เจ้าคิดอะไรอยู่น่ะลูอิซ”
ฝ่ามือบอบบางแต่แข็งแกร่งจากเพื่อนสาวคนงามทำให้เจ้าของชื่อสะดุ้งจากความคิดของตัวเอง
ซิลเน่เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มของพวกเขา
ความอ่อนโยนและชาญฉลาดของเธอทำให้พวกเขารอดจากความตายมานับไม่ถ้วน
“นั่นซิ
หรือว่าเจ้าใจลอยไปถึงอาหารค่ำของวันนี้อีกแล้ว” ดิลอสที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างๆเมื่อไหร่ยิ้มขำกับนิสัยเห็นแก่กินของเพื่อน
โดยมีไมคัสจับบ่าเขาไม่ให้ไปถือสาคำพูดของดิออน
ซึ่งตามจริงแล้วลูอิซเองก็ไม่ได้คิดมากไปกับคำพูดของดิลอสหรอก
เพราะพวกเขาชินเสียแล้ว อีกอย่างเพื่อนตัวสูงข้างๆก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเสียหน่อย
“แต่นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีอีกเรื่องที่ข้าต้องบอกให้พวกเจ้ารับรู้เช่นกัน”
เสียงจากบุคคลที่มีตำแหน่งสูงสุดในตอนนี้ทำให้ทั้งสี่คนต้องหันกลับมามองคนที่เรียกพวกเขามาอย่างสงสัย
นัยน์ตาสีดำสนิทที่ตอนนี้มีแววตาของความลำบากใจเล็กๆเจือปนอยู่บอกให้ทั้งสี่สหายรู้ว่า
สิ่งที่อัลซาสจะพูดนั้นคงจะเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจแน่ๆ
แต่ในเมื่อถึงขนาดนี้แล้ว
ร่วมหัวจมท้ายจะเป็นไรไป
ทั้งในฐานะกษัตริย์และเพื่อน
“พูดมาเถอะอัลซาส
พวกข้ามั่นใจว่าสิ่งที่ท่านขอ จะไม่เป็นอันตรายถึงตายกับพวกเรา”
“แต่ต่อให้ต้องตาย
พวกเราก็ยินดีถ้าได้ตายเพื่อเพื่อน” ซิลเน่เอ่ยอย่างหนักแน่น
เมื่อเห็นว่าทุกคนพูดอย่างนั้นแล้ว
กษัตริย์หนุ่มจึงคลายความกังวลลงบ้างเล็กน้อย แต่สิ่งที่เขาขอในวันนี้อาจจะทำให้มิตรภาพที่มีมาถึง5ปีแตกสลายลงก็เป็นไปได้
“ข้าอยากทำพันธสัญญากับพวกเจ้า
เพื่อที่ในอนาคตลูกหลานของพวกเจ้าจะไม่ทรยศต่อสายเลือดของข้า..”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันทีที่อัลซาสพูดจบ
เพราะการทำพันธสัญญาหมายถึงการให้ลูกหลานตระกูลตัวเองรับภาระอย่างหนักหน่วง
และถ้าหากในอนาคตเกิดความผิดพลาดขึ้นมา
นั่นอาจจะทำให้อาณาจักรเกิดการล่มสลายลงได้เลยทีเดียว
แต่เหนืออื่นใด..
มันหมายถึงการที่สายเลือดของพวกเขาจะต้องฟังคำสั่งสายเลือดของอัลซาสและไม่สามารถขัดคำสั่งได้
มันหมายถึงเจ้านายกับทาสอย่างแท้จริง
ไม่ใช่เพื่อนอย่างที่พวกเขาเป็นอยู่
“ข้าอาจจะขอพวกเจ้ามากไป
แต่การทำพันธสัญญานี้จะทำให้สายเลือดของพวกเจ้ามีพลังอำนาจมากขึ้น
แลกกับการช่วยทายาทของข้าในการปกครองเบทริกซ์”
มือแกร่งกำแน่นเมื่อรับรู้ถึงความกดดันที่มีอยู่
แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าไมคัสคุกเข่าลงข้างหนึ่งซึ่งถือเป็นการเคารพขั้นสูงสุดของอัศวิน
ในขณะที่ซิลเน่กับลูอิซเองก็ทำความเคารพในแบบของตนเอง
หากแต่..
คนที่น่าลำบากใจมากที่สุดคือดีลอส
ร่างสูงสง่าที่ภาคภูมิใจในสายเลือดของตัวเองจะยินยอมให้สายเลือดของตนเองต้องอยู่ในคำสั่งของคนอื่นงั้นหรือ
นัยน์ตาสีทองของดีลอสเรียบนิ่งจนอัลซาสเองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนคนนี้คิดอะไรอยู่
จนกระทั่งริมฝีปากได้รูปเอ่ยออกมาถึงความต้องการ
“ข้าจะยอมทำพันธสัญญาด้วย..แต่ขอให้ท่านฟังเงื่อนไขของข้าก่อน”
ขายาวก้าวไปหยุดที่บานหน้าต่างและหันกลับมาหาคนทั้งสี่
“ประการแรก
ทายาทของพวกเราคือวิหกสวรรค์ นั่นหมายถึงการมีปีกตั้งแต่กำเนิด” ลูอิซเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของเขาพูดอะไรออกไป
พันธสัญญาวิหก สายเลือดของพวกเขาจะมีปีกและสามารถใช้ปีกนั้นได้อย่างอิสระ
แลกกับการเจ็บปวดจนร่างกายอาจจะรับไม่ไหวถ้าไม่แข็งแกร่งพอ
“ประการที่สอง
ทายาทของพวกเราจะทำพันธสัญญาต่อเมื่ออายุ18ปี บริบูรณ์เท่านั้น
ข้าไม่อยากให้เด็กๆต้องมารับภาระที่หนักเกินไป”
“และประการที่สาม..ข้าขอให้ทายาทของพวกเรามีสิทธิ์ในการปกครองที่เท่าเทียมกัน”
อัลซาสนิ่งไปซักพักก่อนจะพยักหน้ารับเงื่อนไขของชายหนุ่มนัยน์ตาสีทอง
“ข้ายินดีรับเงื่อนไขของเจ้า”
มือหนายกขึ้นมาทาบอกไว้และโค้งตัวลงอย่างสุภาพ
เมื่อเห็นว่าสิ่งที่ตนขอนั้นได้รับการยินยอมจากอัลซาสแล้ว
ดังนั้นสำหรับการทำพันธสัญญา..
เขาเองก็ยินดีที่จะทำตามคำสั่งเช่นกัน
“ถ้าเช่นนั้น..
ข้ายินดีรับใช้ท่านองค์ปฐมกษัตริย์”
กงล้อแห่งโชคชะตาได้เริ่มหมุนขึ้นมาแล้ว
ฟันเฟืองชิ้นเล็กๆก่อเกิดเป็นกงล้อ
ดยุก
ดัสเชสทั้งสี่คนยอมที่จะทำพันธสัญญาและปกครองในแต่ละส่วนของอาณาจักรเบทริกซ์เพื่อช่วยเหลือองค์กษัตริย์หนุ่ม
ตระกูลฟารอสปกครองทางทิศเหนือ ตระกูลพานิคทิศใต้ ตระกูลโรซาลีนทิศตะวันออก
และตระกูลคาเรนทิศตะวันตก..
เงื่อนไขทุกอย่างของพันธสัญญาเป็นไปตามคำขอของดีออน
พานิค หากแต่..สิ่งที่เพื่อนอีกสามคนไม่ได้รับรู้ด้วยนั้น..
“ท่านทำตามคำขออีกอย่างของข้าได้ไหมอัลซาส
ในฐานะเพื่อน”
“ข้าปฏิเสธเจ้าไม่ได้จริงๆซินะดิลอส
ตกลง ข้าจะทำตามคำขอของเจ้า”
----------------------
Talk
บทนำเป็นเรื่องของอดีตค่ะ
ขอให้สนุกกับนิยายของเรานะคะ
ทุกคอมเม้นต์คือกำลังใจของเรา
ความคิดเห็น