ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Bird พันธสัญญาวิหคสวรรค์ [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #14 : tale 11 การพบกันของโชคชะตา [50%]

    • อัปเดตล่าสุด 23 ธ.ค. 59



    Chapter 11 การพบกันของโชคชะตา



    กล่องไม้ใบเล็กถูกหยิบขึ้นมาสำรวจอีกครั้งในรอบหลายวัน นัยน์ตาสีทองสว่างจ้องมองมันอย่างครุ่นคิด ไอเรสยังไม่รู้ว่าเขาควรจะเปิดกล่องใบนี้เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างในกล่องใบนี้ แต่เขาความรู้สึกส่วนลึกในจิตใจของเขาร้องเตือนให้เปิดมันบ่อยครั้ง เพียงแต่ทุกครั้งที่เขาจะลองเปิดมันออกมา ก็จะมีอะไรมาขวางเขาตลอด


    ครั้งแรก มีแมวที่ไม่รู้มาจากไหนหลุดเข้ามาในห้องทำงานของเขา

    ครั้งที่สอง โดนเรียกตัวกระทันหันจากผู้ใต้บังคับบัญชา

    ครั้งที่สาม เกิดปัญหาขึ้นที่เมืองในปกครองของพานิค ทำให้เขาต้องรีบรุดไปตรวจสอบ


    บางทีเขาก็คิดว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่มีอะไรมาขวางการเปิดกล่องนี้ แต่ยังไงก็ตาม มันอาจจะยังไม่ถึงเวลา เสียงประหลาดที่เขาเคยได้ยินในหัว ตอนนี้ก็เงียบหายไปได้พักใหญ่แล้ว เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเขาคือทำงานแทนท่านพ่อให้ดีที่สุด ตราบใดที่ชาเรย์ยังมีลมหายใจอยู่ ฐานะของไอเรสยังคงเป็น ว่าที่ผู้นำตระกูลพานิคแต่ทุกคนในคฤหาสน์จะเริ่มเรียกเขาว่า นายท่าน แทนคำว่าคุณชายแล้ว


    นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่คุณชายตระกูลพานิคแล้ว


    “ท่านพี่ จวนจะได้เวลาแล้วท่านควรจะเตรียมตัวได้แล้ว” น้ำเสียงนุ่มนวลจากผู้ที่เข้ามาทำให้คนที่ถูกเรียกหันกลับไปให้ความสนใจกับร่างโปร่งบาง  หวางอี้ในชุดเรียบง่ายทว่าหรูหราและเหมาะสมกับโอกาส ผมยาวสีขาวพิสุทธิ์ถูกรวบขึ้นแล้วใช้ปิ่นทองประดับไว้ งดงามแต่ไม่โดดเด่นจนเกินควร.. น้องชายของเขารู้ดีว่าควรวางตัวอย่างไรในแต่ละงาน


    “พี่ให้คนเตรียมของขวัญสำหรับงานวิวาห์แล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก” ไอเรสยังคงรู้หน้าที่ดี วันนี้เป็นวันเข้าพิธีวิวาห์ขององค์ชายแอสเทียร์กับกษัตริย์ไซรัสจากอบิโทร ดังนั้นสองข้างทางในเมืองจึงประดับไปด้วยช่อดอกไม้ ผู้คนในเมืองหลวงต่างพากันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส นอกจากนี้ในยามนี้อาณาจักรยังเปิดให้คนเข้ามาแสดงความยินดีกับงานมงคลในครั้งนี้ด้วย


    ถือเป็นแผนกระตุ้นการเดินทางค้าขายของเขาไปได้ดี


    ถึงแม้ว่าจะไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในงานพิธีวิวาห์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะว่างงานจนไม่มีอะไรทำ หงส์ขาวอยู่ข้างกษัตริย์มายาวนานในฐานะที่ปรึกษาส่วนพระองค์จนปลูกฝังเป็นธรรมเนียมยาวนานกว่าที่ใครคิด แน่นอน รวมทั้งเขาด้วย


    ไอเรสสวมเสื้อนอกสีเทาก่อนจะติดตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลไว้ที่อกเสื้อข้างซ้าย

    ตราที่บ่งบอกว่าเขาเป็นคนของตระกูลพานิค


    หงส์ขาวขององค์ราชัน


    “ไปเถอะหวางอี้ ตระกูลพานิคไปช้ากว่านี้คงไม่ดีเท่าไหร่” ร่างสูงสง่าตวัดตัวขึ้นบนอาชาคู่ใจก่อนจะนำขบวนรถม้าที่มีนายหญิงแห่งตระกูลพานิคและคุณชายรองนั่งอยู่ด้วย ในขณะที่บุตรชายบุญธรรมอย่างเนคต้าร์ถูกลงโทษโดยการกักบริเวณ ไม่เว้นแม้แต่งานพิธีสำคัญอย่างพิธีวิวาห์ขององค์ชาย


    .

    .


    นัยน์ตาสีทองสว่างกวาดตามองไปทั่วลานพิธีอย่างสำรวจ ก่อนที่จะสบเข้ากับร่างของเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างผู้นำตระกูลจึงรีบสาวเท้าเข้าไป


    กึก!


    ขายาวหยุดชะงักทันทีที่รับรู้ได้ถึงกระแสแรงกดดันที่พวยพุ่งเข้ามายังลานพิธีอย่างไม่มีสาเหตุ และไม่ใช่แค่ไอเรสที่รู้สึกเท่านั้น


    “พลังแบบนี้หาได้ยากเหมือนกันนะ ว่าไหม” นัยน์ตาสีดำฉายประกายสนใจแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เบเรียสถอดถุงมือหนังออกก่อนที่จะขยับนิ้วเพียงเล็กน้อย เปลวเพลิงพลันลุกจากโคมทันที ชายหนุ่มขยับกลับมายืนข้างไอเรสราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


    “ข้าจะออกไปหาต้นเหตุ ก่อนจะเกิดเหตุอะไรเกิดขึ้น” ไอเรสตั้งสติแล้วหันหลังพลางมองหาทิศทางที่แรงกดดันนั้นออกมา แต่กลับถูกรั้งไว้ด้วยสัมผัสหนักๆ บนไหล่ก่อน


    “นั่นไม่ใช่หน้าที่ของนาย..อีกอย่าง” ไม่มีคำพูดต่อจากริมฝีปากผู้นำตระกูลคาเลน สายตาของชายหนุ่มตระกูลพานิคถูกหยุดด้วยร่างของเด็กหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับน้องชายบุญธรรมที่เดินผ่านเข้าไปในตรอกเล็กๆพร้อมกับแรงกดดันที่หายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน


    แรงกดดันหายไปแล้ว หายไปพร้อมกับร่างของไอเรส วีคาร์ส พานิค


    “เบเรียส คุณเห็นไอเรสหรือเปล่า ผมนึกว่าคุณไอเรสอยู่กับคุณ” หมอหลวงหนุ่มเดินเข้ามาทันทีที่เห็นว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นและหายไปในเวลาไม่นาน ยิ่งในเวลาแบบนี้ตระกูลวิหคควรจะอยู่เพื่อจัดการความเรียบร้อยของพิธี


    “นายเชื่อเรื่องโชคชะตาหรือเปล่าเกรย์เซีย..” มือแกร่งวางลงข้างลำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สายตาที่บ่งบอกว่าผู้นำเหยี่ยวแดงคนนี้รู้สึกสนใจอะไรบางอย่างก็ทำให้เกรย์เซียรู้ว่ามันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ “ท่านเรอาตริสพูดอะไรมาหรอครับ?


    “เปล่าหรอก นายก็รู้ว่าไม่มีใครได้พบท่านเรอาตริสเป็นการส่วนตัวบ่อยๆ” เบเรียสยิ้มแล้วพาดแขนไปที่ไหล่หมอหนุ่มให้เดินกลับไปดูความเรียบร้อยเหมือนเดิม ในขณะที่เกรย์เซียยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และคำถามของเบเรียสคืออะไร แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมพูด เขาก็จะรอทุกอย่างเฉลยออกมาเองก็ไม่สาย


    คนที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่น่ะ ไม่มีวันปฏิเสธสิ่งที่ต้องทำได้หรอก


    รวมทั้งตัวตนของเกรย์เซีย ฟลอเรนซ์ ที่ไม่มีตระกูลโรซาลีนมาต่อท้าย.. “เบเรียส ถ้าคุณเป็นแค่เบเรียส ไอม์ คุณจะทำอะไร”


    “ทำสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้น่ะสิ”


    “อยู่ข้างองค์กษัตริย์?” แวบหนึ่งที่เกรย์เซียเห็นรอยยิ้มของเบเรียสกระตุกก่อนจะกลับมาเป็นปกติ


    “เปล่า” ชายหนุ่มที่สูงกว่าผ่อนฝีเท้าเล็กน้อย


    “ปกป้องคนสำคัญต่างหากเกรย์เซีย” 


    .

    .

    .


    วังหลวง เบทริกซ์


    ปัง!


    เสียงตบโต๊ะอย่างแรงจนเหล่านางกำนัลสะดุ้งพร้อมกับรีบถอดกรูดไปด้านหลัง แอสเทียร์ไม่สนใจแขกแปลกหน้าที่นั่งจิบชาอยู่ด้วยท่วงท่าสง่างามจนน่าหมั่นไส้สำหรับเขา


    กษัตริย์ไซรัส ผู้ปกครองอาณาจักรอบิโทร


    ถึงจะบอกว่าใบหน้าหล่อเหลานั่นดูสุขุม เยือกเย็นและสุภาพก็เถอะ แต่สำหรับเขามันไม่ใช่เลยสักนิดเดียว! แอสเทียร์ขอยืนยันว่าลุงนี่ไร้มารยาทอย่างรุนแรง หรือจะให้บอกอีกอย่างก็คือ สิ่งที่ทุกคนเห็นกับสิ่งที่เขาเห็นมันต่างกันราวฟ้าเหว!


    “ข้าจะไม่มีวันเข้าพิธีวิวาห์กับลุ...” “แอสเทียร์!!” เสียงตวาดจากกษัตริย์แห่งเบทริกซ์หยุดคำพูดขององค์ชายหนุ่มไว้ แอสเทียร์สูดหายใจลึกๆ ก่อนจะยอมนั่งลงตามคำสั่งของทาทารัส โดยมีสายตาของนางกำนัลทั้งหมดมองตามด้วยความโล่งอก


    อย่างน้อยพวกเธอก็ไม่ต้องมาเก็บกวาดถ้วยชาในวันนี้


    “เจ้าย่อมรู้ดีแก่ใจว่าสายเลือดของปฐมกษัตริย์มีหน้าที่อันใด” ไม่ใช่ว่าทาทารัสเกรงใจกษัตริย์จากอบิโทรมากเสียจนต้องห้ามปรามน้องชาย เพียงแต่สิ่งที่พวกเขาต้องยึดถือคือเกียรติและศักดิ์ศรีของเบทริกซ์รวมทั้งหน้าที่ของสายเลือดที่ต้องปกป้องเกียรติของปฐมกษัตริย์


    สิ่งที่ทาทารัสเอ่ยยิ่งทำให้แอสเทียร์เถียงไม่ออก ฟันคมขบลงบนริมฝีปากนิ่มแรงๆ จนรับรู้ได้ถึงความแสบและของเหลวอุ่นไหลซึมออกมาตามบาดแผล เด็กหนุ่มลุกขึ้นโค้งเล็กน้อยเป็นการขออภัยตามมารยาทให้กับแขกผู้มาเยือน ซึ่งนั่นเรียกรอยยิ้มมุมปากจากอีกฝ่ายได้ก่อนจะเลือนหายไปเป็นรอยยิ้มสุขุมดังเดิม


    “ข้าเข้าใจว่าองค์ชายคงจะไม่คุ้นเคยกับข้า จึงแสดงอาการต่อต้านเช่นนั้น” น้ำเสียงนุ่มทุ้มวนเคลิบเคล้มของกษัตริย์ไซรัสทำให้นางกำนัลบางส่วนอดที่จะหน้าแดงด้วยความเขินไม่ได้ บางทีพวกเธอก็ไม่เข้าใจองค์ชายเลยว่าทำไมถึงแสดงอาการต่อต้านการวิวาห์ขนาดนี้ ทั้งที่ว่าที่พระสวามีออกจะเป็นคนที่สุขุม ดูพึ่งพาได้แท้ๆ


    แต่ก็นั่นล่ะ คนมีตำแหน่งในวังเบทริกซ์ ดูจะเข้าใจยากเกือบทุกคน


    “ข้าขอตัวก่อนท่านพี่ทาทารัส ข้ายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก” แอสเทียร์รู้สึกคิ้วกระตุกกับคำพูดของไซรัส ยิ่งพอพูดแบบนั้นเขาก็จะยิ่งกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจที่ไม่รู้หน้าที่ต่อหน้าทุกคน แล้วต่อให้พูดว่าจะไม่เข้าพิธียังไงมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว หน้าที่ของเขาคืออะไรย่อมรู้ดีแก่ใจ ร่างเล็กลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปโดยมีสายตาของสองกษัตริย์มองตามไป


    “แอสเทียร์ถึงจะเอาแต่ใจไป แต่น้องชายของข้าย่อมรู้หน้าที่ดี” ทาทารัสเอ่ยเสียงเรียบเมื่อเห็นว่าในห้องเหลือเพียงแค่ตนเองกับกษัตริย์ไซรัส “และอย่างน้อยเป็นองค์ชายของเบทริกซ์ หวังว่าท่านจะไม่กระทำการใดที่หักหาญน้ำใจน้องข้าเกินไปนัก”


    “ไม่ต้องกังวลหรอกกษัตริย์ทาทารัส ข้าไม่เคยหักหาญน้ำใจของผู้ใด..” นัยน์ตาสีอเมทิสต์มองกลับมายังคู่สนทนา กษัตริย์ทาทารัสมีอายุน้อยกว่าแต่กลับวางตัวและพูดจาได้ตรงไปตรงมา ดูท่าว่าองค์ชายของเบทริกซ์เองก็ได้นิสัยส่วนนี้มาไม่น้อย หรืออาจจะมากกว่าเนื่องจากวุฒิภาวะที่น้อยกว่ากษัตริย์


    ในตอนแรกไซรัสเองก็ยังแปลกใจที่กษัตริย์ทาทารัสให้คนส่งราชสาสน์มาถึงอบิโทร ขอเจริญสัมพันธไมตรีด้วยการวิวาห์ แทนที่จะทำสงครามอย่างที่คิดไว้ แต่ในเมื่อไม่มีสงครามก็ย่อมดีกับทั้งฝ่ายอบิโทรและเบทริกซ์ ดังนั้นการปฏิเสธข้อเสนอชั้นเยี่ยมนี้ดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่


    ส่วนเรื่องที่องค์ชายแอสเทียร์ไม่ชอบเขา มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ในเมื่ออะไรที่เขาถูกใจแล้ว..สิ่งนั้นจะต้องกลายเป็นของเขาอยู่ดี


    ใช่


    ไซรัสค่อนข้างถูกใจรูปลักษณ์ของแอสเทียร์ไม่น้อย ถึงจะเป็นบุรุษ แต่มีใบหน้าที่น่ารักและสายเลือดของภูตน้ำแข็งที่น่าสนใจมาทดแทน และนั่นก็เพียงพอที่ทำให้เขาสนใจได้แล้ว ส่วนเรื่องนิสัยดื้อรั้น นั่นก็ยิ่งทำให้เขาอยากปราบเด็กคนนั้นให้อยู่ใต้คำสั่งเขาให้ได้


    เขาเป็นพวกชอบทำให้สัตว์เลี้ยงเชื่องเองด้วยสิ..

    เพียงแต่ครั้งนี้คงต้องเบามือลงหน่อย

    ว่าที่พระชายาของเขาไม่ใช่คนต่ำต้อยที่ไหน


    ไซรัสขอตัวออกจากห้องรับรองในวังเพื่อเตรียมตัวในการเข้าพิธี แต่ทันทีที่เดินผ่านห้องหนึ่ง กษัตริย์หนุ่มกลับได้ยินเสียงกรีดร้องจากนางกำนัล พร้อมเสียงเอะอะวุ่นวายข้างในห้อง จากที่คิดว่าจะเดินผ่านไปเฉยๆก็ต้องหยุดแล้วมองลอดผ่านประตูแทน


    สิ่งที่เกิดขึ้นในนั้นทำให้ไซรัสต้องรีบก้าวเข้าไปในห้องเพื่อมองสิ่งที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนอีกครั้ง นางกำนัลข้างกายองค์ชายแห่งเบทริกซ์ต่างถอยให้แขกสูงศักดิ์เข้าไปใกล้นายเหนือหัวของพวกเธออย่างกังวล จนเด็กหนุ่มส่งสัญญาณว่าให้ออกจากห้องได้ เหลือเพียงแค่สองคนในห้องเท่านั้น


    “ตาเจ้า..” ดวงตาสีส้มอ่อนกลายเป็นสีเงินอย่างน่าประหลาด


    “กษัตริย์ไซรัส ถ้าท่านยังมองด้วยสายตาแบบนี้ข้าจะถือว่าท่านไม่ให้เกียรติข้า” แอสเทียร์เอ่ยเสียงเรียบก่อนจะหลับตาลง นัยน์ตาคู่สวยจึงกลับมาเป็นสีดังเดิม นี่เป็นผลมาจากสายเลือดภูตน้ำแข็งในตัวของเขา คิดว่าอีกฝ่ายก็คงหาข้อมูลมาอย่างดี ซึ่งแอสเทียร์เองก็ไม่ได้สนใจตรงนั้นอยู่แล้ว


    “อีกอย่าง ข้าทำเพื่อเบทริกซ์ ไม่ได้หมายความว่าข้าจะกลายเป็นคนของอบิโทร” มือบางจัดการผูกผ้าพันคอให้เรียบร้อย ซึ่งนั่นทำให้ไซรัสยิ่งสนใจความหยิ่งในศักดิ์ศรีของแอสเทียร์ เดิมทีเขาคิดว่าแอสเทียร์คงจะเป็นเด็กเอาแต่ใจธรรมดา ไม่คิดว่าจะคิดถึงอาณาจักรมากขนาดนั้น


    เด็กคนนี้น่าสนใจกว่าที่คิด..

    แต่อย่างไรก็ตาม..


    ร่างสูงเดินเข้าประชิดตัวแอสเทียร์โดยไม่ทันรู้ตัว มือแกร่งเชยคางว่าที่พระชายาขึ้นมา นัยน์ตาสีส้มอ่อนดุจอัญมณีดึงดูดเขาอย่างน่าประหลาด หรือแม้แต่ตอนที่ตาเปลี่ยนเป็นสีเงินก็ดูเข้ากับเด็กหนุ่มคนนี้ดี ผิวนิ่มละเอียดจนเขาไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นองค์ชาย ช่างต่างจากกษัตริย์ทาทารัสมากเสียเหลือเกิน.. นี่คงเป็นผลมาจากมารดาที่เป็นภูต 


    ใบหน้าคมคายก้มลงจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายก่อนจะประกบริมฝีปากร้อนเข้าด้วยกัน


    กษัตริย์ไซรัสกำลังหลงใหลว่าที่พระชายา

    อีกหนึ่งคำสาปของภูตน้ำแข็งที่มีต่อบุตรชายของตนเอง



    -------------
    Talk

    เรากลับมาแล้ววววววววค่ะ!! สัญญาว่าจะแต่งให้จบเรื่องนี้ แต่งไปเรื่อยๆ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ
    โอเคเข้าเรื่อง เรากลับมาแล้ว แต่ไอเรสหายไปไหน??? 
    ส่วนแอสเทียร์ก็เจอกษัตริย์ไซรัสแล้ว ที่ตอนแรกจะเรียกว่าลุงเพราะมีเหตุผลค่ะ
    อายุแอสเทียร์คือ19ปี ส่วนไซรัส มากกว่าเกือบ1รอบ! เพราะงั้นเรียกลุงก็ไม่ผิด #ผิด!![เสียงจากแถวนั้น]
    เราจะรีบมาต่อให้อีก50%นะคะ

    ปล.ทำไมถึงโฟกัสไปที่เชื้อพระวงศ์ด้วย ไม่โฟกัสที่4วิหคอย่างเดียว อย่าพึ่งเบื่อนะคะ ถ้าใครอ่านดีๆเราจะซ่อนอะไรไว้ในนี้อีกนะ 

    ทุกคอมเม้นต์คือกำลังใจ ขอให้สนุกกับนิยายของเราค่ะ!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×