ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Bird พันธสัญญาวิหคสวรรค์ [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #13 : Tale 10 ก้าวให้ไว ถ้าไม่อยากถูกจับ

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 59


     

    Chapter 10 ก้าวให้ไว ถ้าไม่อยากถูกจับ

     

    ออคต้าร์คิดว่าสิ่งที่ยากกว่าการออกไปรบก็คือการหาที่นั่งกินขนมปังเงียบๆ โดยไม่ถูกรบกวนจากบรรดาทหารในสังกัด นัยน์ตาเรียวจ้องมองขนมปังไส้แฮมอย่างอาวรเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนเย็น วังหลวงแห่งนี้จะทยอยมีแขกต่างอาณาจักรเข้ามาบ้าง แม้ว่าเจ้าภาพอย่างองค์ชายแอสเทียร์จะหนีหายไปหมกตัวอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลพานิค แต่ก็คงไม่มีใครใส่ใจมากนัก เพราะกษัตริย์ไซรัสเองก็ยังมีภารกิจอยู่ที่อาณาจักรของพระองค์เอง

     

    การที่มีงานเลี้ยงนั่นหมายถึง

    เครื่องดื่มเลิศรส

    อาหารหลากหลาย

    แต่สำหรับออคต้าร์แล้ว อาหารเลิศรสอะไรก็สู้ขนมปังไส้แฮมไม่ได้!

     

    “ท่านแม่ทัพขอรับ คุณชายเลโอเน่อยู่ที่ลานฝึก กำลังรอท่านอยู่” ออคต้าร์ลุกขึ้นยืน ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ ประดับทันทีที่ได้ยินว่าน้องชายตนเองมาหา ก็เลโอเน่เข้ามาวังหลวงบ่อยซะที่ไหนกัน ขนมปังในมือถูกวางทิ้งไว้ไม่สำคัญอีกต่อไป มีไม่กี่สิ่งที่ทำให้แม่ทัพใหญ่แห่งเบทริกซ์ให้ความสนใจมากกว่าการฝึก การต่อสู้ หรือขนมปัง แน่นอนว่าอันดับหนึ่งก็คือทายาทคนรองของฟารอสนั่นเอง

     

    “มายังไงเลโอ ให้คนมาส่งที่วังเหรอ”

     

    “เดินมามั้งพี่..” เลโอเน่พูดขึ้นแต่เมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชายตนเองว่าเชื่อที่เขาพูดก็เอ่ยต่อแก้ความเข้าใจผิด “ให้บาร์นนัคมาส่ง” ออคต้าร์จึงร้องเอ๋อในใจ ถ้าหากเลโอเน่เดินจากคฤหาสน์มาจริง เขาคงต้องตำหนิคนขับรถม้าของคฤหาสน์แล้วว่าทำไมถึงปล่อยให้คุณชายของตระกูลเดินมาไกลขนาดนี้

     

    “วันนี้จะมาฝึกดาบในวัง? หรือมีธุระอื่น” เหตุผลที่ทำให้เลโอเน่เข้าวังมามีไม่กี่อย่าง บางครั้งก็เข้ามาฝึกดาบกับทหารในสังกัดหรือให้เขาสอนการใช้อาวุธอื่นให้ เลโอเน่ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะลูบหัวนกน้อยคู่กายเบาๆ วันนี้เขามีจุดประสงค์อื่นที่มาที่นี่

     

    “พี่ องค์ชายแอสเทียร์หายตัวไป” คนอายุน้อยกว่าเอ่ยกับพี่ชายด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ในขณะที่ออคต้าร์ไม่ได้แปลกใจอะไร มือแกร่งเอื้อมไปจะลูบหัวฮาร์วบ้างแต่ก็โดนจิกกลับมาจนต้องยอมแพ้

     

    “องค์ชายอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลพานิค ไม่ได้หายตัวไปไหน”

     

    “เมื่อกี้ผมเจอเนคต้าร์ หมอนั่นบอกตั้งแต่เช้าแล้วองค์ชายไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ ตอนนี้ก็ยังหาตัวไม่เจอ” แม่ทัพหนุ่มเบิกตากว้างก่อนจะจับไหล่เลโอเน่ให้มั่น ภาวนาให้เขาได้ยินผิดเพี้ยนไปเอง

     

    “ว่ายังไงนะเลโอ?! ใครหายไปนะ”

     

    “องค์ชายแอสเทียร์หายตัวไปจากคฤหาสน์พานิค”

     

    ออค์ต้าร์ไม่เคยรู้สึกปวดหัวมากขนาดนี้ เชื้อพระวงศ์ลำดับต้นหายตัวไป ทั้งที่อยู่ใกล้ชิดกับตระกูลหงส์ขาวตลอด คราวนี้ถ้ากษัตริย์ทาทารัสรู้เรื่อง.. ต่อให้ท่านชาเรย์มาพูดด้วยตนเองก็คงไม่พ้นการลงโทษล่ะ

     

    “ได้ยินมาไม่ผิดใช่ไหม เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดเข้าใจไหมเลโอ” ออคต้าร์ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ซึ่งเขาอยากให้เลโอเน่ล้อเล่นกับเขามากกว่า แต่ก็ได้รับการยืนยันกลับมาเช่นเดิมว่าสิ่งที่เขาได้รับรู้มันถูกต้อง

     

    “เนคต้าร์เป็นคนบอกเอง เจ้านั่นตัวอยู่ติดกับองค์ชายเกือบตลอดเวลา จนเช้านี้ก็ไม่เห็นพระองค์แล้ว” นึกย้อนกลับไปตอนที่เขากำลังอยู่ระหว่างทางมาที่วังหลวงเพื่อจะมาช่วยออคต้าร์ดูแลความเรียบร้อยของการเตรียมการรักษาความปลอดภัย บังเอิญเด็กหนุ่มตระกูลพานิควิ่งตัดหน้ารถเสียก่อน ปรากฏว่าเนคต้าร์บอกว่ากำลังหาองค์ชายแอสเทียร์อยู่ ใบหน้าของเด็กคนนั้นเต็มไปด้วยความกังวลก่อนจะปล่อยให้ไปตามหาต่อ เขาถึงมารายงานเรื่องนี้กับออคต้าร์

     

    “พี่จะไปรายงานเกรย์เซียเรื่องนี้โดยด่วน อย่างน้อยคนของโรซาลีนจะได้ช่วยหาอีกแรง ส่วนไอเรสคิดว่าน้องชายบุญธรรมคงจะไปบอกเรียบร้อยแล้ว ระวังอย่าให้คนอื่นรู้ด้วย” ว่าจบก็เดินไปทางห้องทำงานของเกรเซียอย่างเร่งรีบ แต่ก็ไม่ทำให้คนอื่นสงสัยอะไร

     

    “ว่าแล้วว่าวังหลวงต้องวุ่นวาย..” เลโอเน่พึมพัมกับตัวเองแล้วกวาดตามองทหารในสนามฝึกผ่านๆ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เก่งขนาดพี่ออคต้าร์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการจัดการกองทหารเลย ในเมื่อพี่ชายของเขามีสิ่งสำคัญกว่าต้องจัดการ คนที่ต้องดูทหารต่อก็เขาเนี่ยแหละ

     

    “ไหน พี่สั่งไว้ว่ายังไงบ้างนะ ขอดูฝีมือทหารกองใหม่หน่อยแล้วกัน” นัยน์ตาสีเขียวมีประกายสนใจขึ้นมา ก่อนที่จะหยิบดาบข้างกายลงไปยังสนามฝึกเพื่อทดสอบฝีมือของทหารใหม่ตามที่ตั้งใจ

     

    แน่นอน..เลโอเน่ไม่จำเป็นต้องใช้แรงหนึ่งในสี่ด้วยซ้ำ

     

    “อ่อนแอแบบนี้เหรอ ทหารของเบทริกซ์ น่ารำคาญจริงๆ” ในเวลาไม่ถึงห้านาที ทุกคนก็ล้มไปกองอยู่ที่พื้นเสียแล้ว และเขาก็ไม่มีเหตุผลให้อยู่ต่อ

     

    ก็บอกแล้วว่าวังหลวงเป็นที่น่ารำคาญ

     

    “ค..คุณชายเลโอเน่..”

     

    “อะไรอีกคราวนี้”

     

    “คือว่า..มีคนอยากประลองกับคุณชายขอรับ!” เจ้าของเรือนผมสีดำที่ถูกมัดหางม้าไว้หันควับมาทางผู้พูดอย่างสนใจ ทุกคนในอาณาจักรรู้ดีว่าตระกูลฟารอสมีกำลังมากแค่ไหน ไม่ต้องใช้ปีกก็มีกำลังพอที่จะล้มคนทั้งกองทัพแล้ว แต่นี่.. เลโอเน่เลียริมฝีปากตนเองแล้วยื่นแขนให้ฮาร์วไปเกาะต้นไม้ก่อนเพื่อความสะดวก

     

    คนที่อยากประลองกับเขาถือว่าใจกล้ามาก

    ก็ดี วันนี้เขายังไม่ได้ลงมือทรมานใครเลย

    จะเล่นด้วยก็แล้วกัน

     

    .

    .

     

    “เกรเซียครับเกิดเรื่องขึ้นแล้ว” ออคต้าร์เคาะประตูห้องทำงานแพทย์หนุ่มแล้วพบว่าคนที่ควรจะรู้ข่าวอีกคนก็อยู่ในห้องด้วย อย่างน้อยก็ไม่ต้องเล่าหลายครั้ง

     

    “องค์ชายแอสเทียร์หายตัวไปใช่ไหมครับ ผมทราบข่าวนี้จากไอเรสแล้ว คนของโรซารีนกำลังออกช่วยตามหาอีกแรง ถ้าองค์ชายหนีไปจริงก็คงไปได้ไม่ไกลหรอกครับคุณออคต้าร์” เกรเซียจิบชาในมืออย่างใจเย็น แต่สายตาที่บ่งบอกว่าเกรเซียก็กังวลไม่น้อยทำให้ออคต้าร์เดินไปนั่งบนโซฟาที่ว่างข้างไอเรสอย่างเหนื่อยใจ

     

    “ไอเรส คุณส่งคนไปตามหาแล้วใช่ไหม”

     

    “ตั้งแต่เช้า คนของตระกูลพานิคออกตามหาแต่ยังไม่พบร่องรอยอะไร ข้ากลัวว่าจะมีคนพาองค์ชายไป” ไอเรสเองก็ยังคงท่าทางสง่างามเอาไว้ไม่คลาย แต่ทุกคนก็ชินแล้วกับท่าทางแบบนี้ รู้ดีว่าไอเรสเป็นผู้ที่หนักใจที่สุด

     

    เดี๋ยวนะ ถ้ามีคนพาตัวองค์ชายไป..

     

    “เนคต้าร์..” พลันเจ้าของนัยน์ตาสีทองสว่าลุกขึ้นทันทีจนทั้งสองคนในห้องแปลกใจ ไอเรสบังเอิญได้ยินว่าเนคต้าร์ทำพันธสัญญากับองค์ชายแอสเทียร์ด้วย ถ้าหากใช้คำสั่งแล้ว.. ร่างสูงรีบผลักประตูห้องแล้วรีบตามหาน้องชายบุญธรรมทันที

     

    ถ้าหากมันเป็นแค่แผนของแอสเทียร์ที่จะทำให้ทุกคนวุ่นวายแล้วล่ะก็

    ในตอนนี้เจ้าตัวน่าจะยังไปไหนได้ไม่ไกล

     

    “ท่านเกรเซีย ช่วยติดต่อท่านเบเรียสให้คอยดูทางเข้าออกอาณาจักรทุกทาง ไม่เว้นแม้แต่แม่น้ำด้วย!” คนที่หูตากว้างไกลสุดคือเบเรียส ถ้าหากให้เค้าแมวลงมือเอง ไม่มีทางที่จะหาแอสเทียร์ไม่เจอ

     

    “เข้าใจแล้ว ผมจะไปหาเบเรียสเดี๋ยวนี้” เกรเซียแยกตัวออกไปเหลือแค่ไอเรสกับออคต้าร์

     

    “ออคต้าร์ พวกเราต้องไปตามหาน้องชายข้าตอนนี้”

     

    “เลโอเน่บอกผมว่าเนคต้าร์เป็นคนบอกเขาเองเรื่ององค์ชายหายตัวไป” ออคต้าร์ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องตามหาตัวเนคต้าร์ด้วย แทนที่จะไปตามหาตัวแอสเทียร์

     

    อีกอย่างเรื่องนี้เขาไม่สามารถใช้ทหารได้แม้แต่คนเดียว

    เพราะถ้าหากดำเนินการใหญ่ไป ทาทารัสจะรู้เข้าได้

    และถ้าทาทารัสรู้.. ศีรษะบนบ่าของพวกเขาอาจจะหายไปเฉยๆเลยก็ได้

     

    “แม่ทัพคงยังไม่รู้.. เนคต้าร์ไม่ได้รับใช้แค่องค์กษัตริย์ทาทารัส แต่ยังทำพันธสัญญากับองค์ชายแอสเทียร์อีก ถ้าหากองค์ชายใช้คำสั่งให้พาหนี ยังไงน้องข้าก็ต้องทำ”

     

    “อะไรนะ? ทำพันธสัญญาซ้อนเหรอ”

     

    “ใช่ นั่นทำให้พวกเราต้องรีบก่อนที่องค์ชายจะหนีไปจริงๆ” ร่างสูงของชายหนุ่มทั้งสองตวัดตัวขึ้นหลังอาชาคู่ใจแล้วกระตุ้นให้กระโจนไปตามทิศทางที่ต้องการ เมฆฝนกำลังก่อตัว พวกเขาไม่มีเวลาที่จะหยุดรออะไรทั้งสิ้น สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ก็คือ

     

    หาเด็กหนุ่มทั้งสองให้เจอ

     

    .

    .

     

     สวบ

     

    “ไม่ได้ ทางนี้มีคนอยู่ข้างหน้า” ร่างเล็กของเด็กหนุ่มชนชั้นสูงทั้งสองชะงัก เนคต้าร์ส่ายหน้าเล็กน้อย ถ้าส่งคนของตระกูลวิหคมาดักหน้าแบบนี้แสดงว่าพี่ไอเรสรู้ความจริงแล้วแน่ๆ จะให้หันหลังกลับก็ไม่ได้ เดินหน้าก็ยิ่งไม่ได้อีก

     

    “พี่ชายของเจ้ารู้แล้วใช่ไหม”

     

    “อืม เขาถึงส่งคนมาดักพวกเราอยู่ตรงนี้”

     

    “แล้วแม่น้ำล่ะ..” เด็กหนุ่มผมสีทองส่ายหน้าอีกครั้ง เขารู้จักพี่ไอเรสดี และคนรอบคอบอย่างนั้นไม่มีทางที่จะปล่อยอะไรให้เล็ดลอดไปได้ “ไม่ได้ คิดว่าทางแม่น้ำก็มีคนเฝ้าเหมือนกัน”

     

    ตึก ตึก

     

    เด็กหนุ่มทั้งสองได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้จึงหลบอยู่หลังโขดหินใหญ่เงียบๆ เสียงฝีเท้านั้นยังคงเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนทั้งคู่รู้สึกกังวล เนคต้าร์เตรียมซัดพลังใส่คนที่เข้ามาหากจะเข้ามาจับตัวพวกเขาจริง

     

    “ทางนี้ไม่มีใครอยู่ทั้งนั้น! ไปหาตรงอื่น” เสียงหวานใสของเด็กสาวที่คุ้นเคยทำให้ทั้งคู่แปลกใจไม่น้อย โรซาริอามาอยู่ตรงนี้ แสดงว่าพวกเขาอยู่ในเขตความรับผิดชอบของตระกูลคาเลน แต่ก็น่าแปลกที่โรซาริอาจะไม่สงสัยว่ามีคนอยู่ตรงนี้

     

    “ฉันช่วยพวกนายได้แค่นี้แหละ” เด็กสาวผมสีไวน์แดงหันหลังให้แล้วพูดเบาๆ เธอไม่เห็นด้วยกับการคลุมถุงชนของใครก็ตาม โรซาริอารับรู้ได้ตั้งแต่แรกว่ามีคนอยู่ตรงนี้ เพียงแต่เธอต้องรีบมาเพื่อกันไม่ให้คนอื่นเข้ามาเจอเนคต้าร์และแอสเทียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..

     

    ถ้าหากเบเรียสมาเจอ ไม่อยากจะคิดว่าสองคนนี้จะโดนจับกลับไปสภาพแบบไหน

     

    “เธอรู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่..” เนคต้าร์เลิกคิ้ว

     

    “ก้อนหินนี่ใหญ่ก็จริง แต่มันไม่พอกับการเล่นซ่อนแอบของผู้ชายสองคนหรอก”

     

    “ขอบใจ แล้วพวกเราจะไปทางไหนได้บ้าง” องค์ชายแห่งเบทริกซ์เอ่ยขึ้น ในขณะที่โรซาริอามองไปรอบๆ พื้นที่นี้เป็นความดูแลของเธอ แต่การจะช่วยคนสองคนให้หนีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

     

    “ฉันจะลองหาทางดูแล้วกัน แต่ตอนนี้พวกนายต้องหลบไปจากตรงนี้ก่อน พี่เบเรียสกำลังมาที่นี่ พวกนายคงไม่อยากถูกเขาจับใช่ไหม” เด็กหนุ่มทั้งสองมองหน้ากันแล้วรีบหลบไปตามทางที่โรซาริอานำไป พื้นที่ที่พวกเขามาหลบนั้นไม่มีคนของตระกูลวิหค ไม่มีใครอยู่ทั้งสิ้น แต่ก่อนที่เนคต้าร์จะไหวตัวทัน

     

    ร่างของเขาก็ร่วงหล่นไปอยู่ที่พื้นแล้ว

     

    “คิดไม่ผิดที่ให้นกน้อยคอยตามดูโรซี่จริงๆ..” น้ำเสียงนุ่มจากชายหนุ่มด้านหลังบนหลังอาชาสีครีม เบเรียสยิ้มให้กับน้องสาวของตัวเองก่อนจะลงจนหลังม้ามาคุกเข่าให้กับแอสเทียร์เป็นการทำความเคารพ ส่วนคนที่ถูกสะกดรอยตามอย่างโรซาริอาได้แต่เบิกตากว้างอย่างไม่คาดคิด

     

    นี่เธอถูกพี่ชายคอยตามดูตลอดอย่างนั้นหรอ?!

     

    “เอเวล..นี่นายคอยดูฉันตลอดเลยงั้นเหรอ” หันไปถามเด็กหนุ่มหน้าสวยที่ยืนอย่างสงบทั้งที่พึ่งลงมือทำให้เนคต้าร์สลบไปเมื่อครู่ด้วยน้ำเสียงคาดคั้น

     

    “ขออภัย แต่คนที่คอยดูแลคุณหนูไม่ใช่ผม” ร่างโปร่งบางตอบอย่างนอบน้อม คนที่ตามดูแลคุณหนูโรซาริอาคือเหยี่ยวแดงคนอื่น เขาจะไปอยู่ด้วยได้อย่างไร..ในเมื่อนายท่านไม่ให้เขาห่างกายแม้แต่ก้าวเดียว

     

    แต่สำหรับโรซาริอา ไม่ว่าใครจะเป็นคนสะกดรอยเธอ

    ยังไงก็ไม่ชอบทั้งนั้น!

     

    “องค์ชายควรเสด็จกลับไปกับพวกเรา” เบเรียสยังคงคุกเข่าอยู่หน้าแอสเทียร์ที่มีสีหน้าซีด ขาทั้งสองข้างเกือบจะทรุดลงไปกองกับพื้นถ้าไม่มีสติพอ นัยน์ตาสีอมส้มมองไปทางเนคต้าร์ที่สลบอยู่อย่างขอโทษ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาจะไม่โดนอะไรนัก แต่คนที่พาเขาหนีอย่างเนคต้าร์ คงจะโดนลงโทษหนักแน่

     

    “ข้า..ข้าจะกลับไปกับพวกเจ้า” ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ต้องกลับไปอยู่ดี เลยเลือกหนทางที่เบาสุดดีกว่า ร่างเล็กถูกดึงขึ้นหลังม้าตัวเดียวกับเบเรียสแล้วจึงออกเดินทางกลับ เหลือเพียงร่างที่ไม่ได้สติของเนคต้าร์กับเด็กสาววัยเดียวกัน ส่วนเอเวลตามนายเหนือหัวกลับไปโดยไม่ต้องรอให้ออกคำสั่ง

     

    โรซาริอาก้มลงตบหน้าเนคต้าร์เบาๆ เป็นการเรียกสติ เธอไม่คิดว่าพี่ชายของเธอจะลงมือได้ขนาดนี้ ในตอนนี้เธอไม่สงสัยแล้วว่าทำไมเบเรียสถึงกลายมาเป็นผู้นำตระกูลคาเลน เป็นผู้นำที่ควบคุมทุกอย่างได้อย่างอยู่หมัด

     

    แม้แต่เธอเองก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของพี่ชายไปได้

     

    “นาย..ตื่น ไม่งั้นฉันจะทิ้งนายไว้ที่นี่แล้วนะ”

     

    “เฮ้ นี่นายจะไม่ตื่นจริงๆ เหรอ”

     

    เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะตื่น โรซาริอาจึงชูมือขึ้นบนฟ้าแล้วปล่อยลูกไฟขึ้นไปบนอากาศเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตัวเธอเพียงคนเดียวไม่สามารถพาเนคต้าร์ที่แม้จะเป็นเด็กหนุ่มร่างผอมบางแต่ก็ยังเป็นผู้ชายที่ตัวโตกว่าเธออยู่ดี

     

    สัญญาณไฟขอความช่วยเหลือพุ่งสูงขึ้นเหนือต้นไม้ เรียกความสนใจจากไอเรสและออคต้าร์ได้เป็นอย่างดี พวกเขาเปลี่ยนเส้นทางไปตามแสงนั่นทันทีที่เห็น อย่างน้อยต่อให้ไม่เจอเป้าหมาย แต่ก็อาจมีคนต้องการความช่วยเหลือก็เป็นได้

     

    “ไอเรสดู นั่นเบเรียสไม่ใช่เหรอ องค์ชายก็อยู่ด้วย” แม่ทัพหนุ่มเรียกคนที่ขี่ม้าอยู่ข้างๆ ให้หันไปมองเป้าหมาย แล้วเร่งฝีเท้าไปทางผู้นำตระกูลคาเลนทันทีที่เห็นแอสเทียร์ สองคนที่มาใหม่ลงจากหลังม้าแล้วคุกเข่าให้แอสเทียร์แสดงความเคารพเช่นเดียวกับที่เบเรียสทำเมื่อครู่

     

    “พระองค์ปลอดภัย..” ไอเรสถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าคนที่น่าจะอยู่กับแอสเทียร์ไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย

     

    “ถ้ามองหาน้องชายบุญธรรมอยู่ เขาอยู่กับโรซี่ตรงนั้น” เบเรียสพยักหน้าไปทางด้านหลังที่จากมา เจ้าของนัยน์ตาสีทองสว่างจึงรีบขี่ม้าไปตามทางที่คนอายุมากกว่าบอกทันที

     

    ถึงเนคต้าร์จะเป็นฝ่ายผิด แต่ยังไงเขาก็ยังรักน้องชายของเขามากอยู่ดี

     

    “เนคต้าร์!

     

    “นาย เนคต้าร์ตัวร้อนมาก น่าจะเพราะถูกใช้คำสั่งวิหคมากเกินไป” เด็กสาวประคองให้เนคต้าร์พิงตนเองเอาไว้ตะโกนเรียกไอเรสทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มตวัดตัวลงจากหลังม้าโดยเร็วที่สุดแล้ววิ่งไปประคองร่างผอมบางของน้องชายบุญธรรม

     

    “เนคต้าร์..เนคต้าร์ เด็กโง่เอ้ย..” มือแกร่งช้อนร่างของเด็กหนุ่มขึ้นมาแล้วขึ้นม้าเดินทางกลับคฤหาสน์ เขาไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะไปถึงหูทาทารัสไหม แต่หวังว่ากษัตริย์ผู้เด็ดขาดจะไม่รู้เรื่องนี้ ส่วนเนคต้าร์..ถึงเขาจะรักครอบครัวแค่ไหน

     

    แต่ผิดก็คือผิด ต่อให้ถูกบังคับให้ทำตามคำสั่ง

    เขาก็ต้องลงโทษเด็กคนนี้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนอื่น

     

    “พี่ต้องลงโทษเจ้าตามกฎของตระกูล.. พี่ขอโทษ”

     

     

     

    ขายาวก้าวเดินไปยังห้องนอนของตนเองแล้ววางร่างเล็กไว้บนเตียง ไอเรสลูบผมสีทองนุ่มของน้องชายเบาๆ เขาต้องรอให้เนคต้าร์หายดีก่อน ถึงจะลงโทษได้ หมอประจำตระกูลถูกส่งมาโดยเร็วที่สุด เพื่อตรวจอาการของคุณชายสาม 

     

    “คุณชายสามมีไข้เนื่องจากร่างกายฝืนใช้พลังมากเกินไป ข้าฉีดยาระงับอาการเจ็บปวดทางร่างกายให้แล้ว ต้องระวังไม่ให้อุณหภูมิสูงหรือต่ำจนเกินไป”

     

    “ขอบคุณท่านมาก เชิญท่านหมอ ข้าจะให้คนไปส่งท่าน” ไอเรสยิ้มขอบคุณหมอประจำตระกูลอย่างจริงใจ เขาคิดไว้แล้วว่าอาการแบบนี้แสดงว่าเนคต้าร์ต้องใช้พลังของวิหคในการหลบหนีไม่น้อย ไม่อย่างนั้นไม่มีทางหลบหนีสายตาผู้คนไปได้

     

    จะว่าภูมิใจก็ภูมิใจ..

    แต่ก็เสียใจเช่นกัน

     

    “ไอเรสลูก.. แม่ได้ยินว่าเนคต้าร์ได้รับบาดเจ็บ” ไมร่าเดินเข้ามาโดยมีหวางอี้ประคองไว้ สีหน้าของหญิงสูงวัยมีแววความเป็นห่วงเด็กหนุ่มที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงนอนของลูกชายเธอ เธอไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น รู้แค่ว่าเนคต้าร์กับองค์ชายน้อยออกไปข้างนอกแต่เช้าเท่านั้น และแน่นอนว่าไอเรสก็ไม่อยากให้มารดาของเขารู้เช่นกัน

     

    “น้องมีไข้เล็กน้อยครับท่านแม่ ข้าดูแลอยู่คงไม่เป็นอะไร”

     

    “อย่างนั้นแม่ก็วางใจ หวางอี้ เจ้าไปดูน้องกับพี่เจ้าเถอะ ข้าจะไปนั่งเล่นที่สวนเสียหน่อย” น้ำเสียงอ่อนโยนที่เอ่ยกับหวางอี้ทำให้หวางอี้ได้แต่ยิ้มรับ “ถ้าอย่างนั้นข้าจะพาท่านไปนั่งก่อน ค่อยกลับมาหาท่านพี่” ใบหน้างดงามประดับด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ไมร่าไว้วางใจ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าหวางอี้ไม่ถูกกับเนคต้าร์อย่างรุนแรง แต่ในเมื่อสมาชิกครอบครัวไม่สบาย ก็ควรจะอยู่ดูแลกัน

     

    เธอหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น

     

    “ข้าเคยบอกท่านพี่แล้วว่าวันหนึ่งเขาจะนำปัญหามาสู่ตระกูลเรา..” หวางอี้ยืนพิงผนังห้องพลางมองมายังเด็กหนุ่มร่างผอมบาง หวางอี้พอจะเดาเรื่องราวได้บ้างจากอาการของเนคต้าร์ อาการแบบนี้คืออาการของคนใช้พลังวิหค และจะใช้ทำไม.. ถ้าไม่ใช่เพื่อช่วยองค์ชายหนีออกจากเบทริกซ์

     

    “องค์กษัตริย์ยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้นไม่มีอะไรสาวมาจนถึงพานิคได้หรอกหวางอี้”

     

    “แต่เขาก็ทำผิดกฎของตระกูลพานิค” มือเรียวบีบไหล่กว้างของผู้ที่เคารพรักสุดหัวใจเบาๆ แต่สิ่งที่ไอเรสสนใจในเวลานี้คือน้องชายบุญธรรมผู้ไม่มีสายเลือดของพานิคแม้แต่หยดเดียว ความรู้สึกอิจฉาก่อตัวจนไม่สามารถลบล้างได้โดยง่าย

     

    ในตอนที่เขาไม่ได้สติเพราะเกสรดอกไม้ ท่านพี่ก็ติดงานราชการที่วังหลวง

    หากเปลี่ยนผู้ที่นอนอยู่บนเตียงของท่านพี่เป็นเขา ท่านพี่จะใส่ใจได้มากเท่านี้หรือไม่

     

    “ข้าจะพิจารณาโทษของเนคต้าร์ภายหลัง” น้ำเสียงของไอเรสสั่นเล็กน้อย นี่เป็นข้อเสียอีกอย่างที่ชาเรย์กังวลเกี่ยวกับไอเรส ซึ่งหวางอี้เองก็รู้นิสัยนี้เป็นอย่างดี ไอเรสใจอ่อนจนเกินไป การตัดสินใจหลายครั้งต้องการความเด็ดขาด

     

    “ข้าเกรงว่าท่านพี่จะเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง..จนมิอาจลงโทษเนคต้าร์ได้ตามกฎ”

     

    “เจ้าเห็นว่าข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือหวางอี้” รอยยิ้มเย็นบนใบหน้าของไอเรสทำให้คนอายุน้อยกว่าชะงัก ไอเรสจะไม่แสดงนิสัยที่ไม่ดีหรือแม้แต่ดุด่าพวกเขาเลยแม้แต่น้อย แต่นี่รอยยิ้มที่ให้เขา.. บางทีการดุด่าอาจจะดีกว่ารอยยิ้มเย็นชาก็ได้

     

    “ข้าเกรงว่าท่านพี่จะใจอ่อน แต่ในเมื่อหงส์ขาวขึ้นชื่อเรื่องความยุติธรรม ข้าก็เชื่อว่าท่านจะลงโทษอย่างยุติธรรม”

     

    “โทษของเนคต้าร์ข้าบอกแล้วว่าจะตัดสินภายหลัง เจ้าเองก็เถอะหวางอี้ หากเจ้าทำผิดคราต่อไป ข้าคงไม่อาจปกป้องเจ้าได้อีก” ในตอนนั้นหากไม่ได้เกรเซียที่หัวไว บางทีหวางอี้อาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทองค์กษัตริย์แล้ว

     

    ชายหนุ่มหัวเราะเล็กน้อย หวางอี้เอื้อมมือไปกอดพี่ชายแล้วซบไปที่อกกว้าง ท่าทางเหมือนตอนเด็กทำให้ไอเรสอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย มือแกร่งลูบเรือนผมยาวอย่างอ่อนโยน หวางอี้ก็ยังคงเป็นหวางอี้ สำหรับไอเรสแล้ว ต่อให้น้องชายผู้งดงามของเขามีท่าทางภายนอกอย่างไร ยังไงก็ยังคงเป็นเด็กกับเขาอยู่เสมอ

     

    ไม่ต่างจากสมัยสิบปีที่แล้วเลย 

     

     

    “เอเวล เรื่องที่ผมอยากรู้ไปถึงไหนแล้ว” หลังจากส่งแอสเทียร์กลับถึงในวังแล้ว ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนดูยุ่งเหยิงเอ่ยถามคนข้างกาย

     

    “พวกเรายังไม่สามารถสืบหาทายาทที่แท้จริงของอวาลอนได้นายท่าน..” เด็กหนุ่มก้มหัวลงเป็นการขออภัยที่ยังไม่สามารถทำตามคำสั่งของนายเหนือหัวได้ จากข้อมูลของเฟมัสในตอนนี้พวกเขารู้ว่าทายาทของอวาลอนเป็นเพียงตำนานเท่านั้น แล้วการสืบหาข้อมูลจากตำนานมันก็เหมือนการปีนขึ้นไปจับปุยเมฆสีขาว รับรู้ แต่ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนที่แท้จริง

     

    เรื่องนี้ต้องใช้เวลามากกว่าที่คิดไว้มากทีเดียว

     

    “อย่างนั้นหรอกหรือ.. เอาเถอะ ผมไม่รีบร้อนอะไรเรื่องนี้” ถึงจะบอกว่าไม่รีบร้อนแต่คนที่ใกล้ชิดเบเรียสอย่างเอเวลรู้ดี น้ำเสียงแบบนี้แสดงให้เห็นว่าเบเรียสอารมณ์ไม่ค่อยดีนักที่อะไรไม่เป็นไปตามความตั้งใจ มือแกร่งโอบเอวบางเข้าใกล้จนเอเวลถลาเข้าหาอกแกร่งอย่างไม่ทันตั้งตัว

     

    “น..นายท่าน”

     

    “คืนนี้ผมมีงานให้นกน้อยทำ.. มาหาที่ห้องของผมด้วย” เสียงกระซิบนุ่มนวลข้างหูส่งผลให้ใบหน้าสวยขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด และแน่นอนว่าเขาขัดคำสั่งของเบเรียสไม่ได้เด็ดขาด ก็หวังว่า..

     

     

    งานที่เบเรียสให้เขาทำคืนนี้จะไม่โหดร้ายจนเกินไปเท่านั้น

     

     

    ---------------

    Talk

    ตอนนี้เราใบ้อะไรหลายอย่างไว้เลยนะคะ 55555

    ตอนต่อๆไปจะไม่เครียดซักพักนึง สลับโหมดกันดีกว่า

     

    ทุกคอมเม้นต์คือกำลังใจของเรา ขอให้สนุกกับนิยายค่ะ

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×