ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ทีใครทีมัน 2...
         
  ย่ำรุ่งฟ้าใสรู้สึกตัวตื่นขึ้นพร้อมความรู้สึกประหลาดใจเมื่อสิ่งแรกที่เห็นหลังจากลืมตาคือ“มุ้ง”
  หญิงสาวลุกขึ้นมองไปรอบๆตัวอย่างตกใจ  แต่เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไร่ของพ่อเลี้ยง ก็เบาใจล้มตัวลงนอนต่อแต่เพียงครู่เดียวก็ต้องลุกขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงเสียงท้องที่ร้องขึ้นมาอย่างหิวโหย ก็สมควรอยู่หรอกหลังจากผจญกับหลุมมหาภัยพวกนั้นเธอก็หมดเรี่ยวหมดแรงถึงบ้านก็แทบจะคลานขึ้นเตียงอยู่แล้ว   
  เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วหยิบบะหมี่สำเร็จรูปที่อัดแน่นอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สุดออกมา แต่กลิ่นหอมๆ ของกับข้าวจากด้านล่างทำให้เธอเปลี่ยนใจ
“ แต่..มีแม่อยู่ด้วยคงไม่ต้องกินอะไรแปลกๆหรอก ” เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วก็รีบเดินลงไป
“ ตื่นแล้วหรือฟ้า แม่กำลังจะขึ้นไปดูอยู่เชียว  แล้วนี่หายดีแล้วหรือ ” แม่พูดพลางอังมือที่หน้าผากก่อนจูงมือเธอมานั่งที่โต๊ะอาหาร คุณสันต์วางถ้วยกาแฟพลางทักอย่างปราณี
“ หน้าตาดูสดใสขึ้นแล้วนี่  ทานข้าวต้มร้อนๆเสียหน่อยนะ  ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยคงหิวแย่แล้ว”
“ ขอบคุณค่ะ ” พูดพลางสำรวจอาหารบนโต๊ะเมื่อไม่เห็นเมนูแปลกๆอย่างที่กลัวก็โล่งใจ
“ ป้าน้อม  ขอกาแฟแก้วฮะ..” เสียงสุดเขตต์ร้องสั่งแม่ครัวก่อนที่จะเดินเข้ามาถึงโต๊ะ “ อ้าว!.. ว่าไงคนป่วย หายแล้วเหรอ ” หญิงสาวเงยหน้ามองเขาอย่างเอาเรื่องแต่เมื่อนึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ก็เลยได้แต่ฝืนใจตอบไปดีๆ 
“ ค่ะ ” แล้วก็ก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารตรงหน้าต่อ
แต่คนฟังกลับแทบสำลักเพราะไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของเธอ  ชายหนุ่มหรี่ตามองน้องสาวอย่างไม่แน่ใจว่าคราวนี้จะมาไม้ไหน  แต่..ไม่ว่าไม้ไหนเขาก็ไม่หวั่นเพราะมั่นใจว่าสามารถรับมือได้ทุกสถานการณ์อยู่แล้ว
“ ถ้าหายดีแล้ววันนี้ลุงจะพาไปเที่ยวในไร่  จะได้แนะนำให้ทุกคนรู้จักด้วย ” คุณสันต์รีบพูดอย่างกลัวว่าลูกชายจะพูดอะไรออกมาทำให้หญิงสาวหงุดหงิดอีก 
“ ทำไมฟ้าจะต้องรู้จักคนงานในไร่ด้วยล่ะคะ? ”
“ เขาจะได้รู้ว่าหนูเป็นใครยังไงล่ะลูก ” แม่บอก ฟ้าใสเบ้ปาก  สุดเขตต์มองแล้วก็นึกหมั่นไส้ขึ้นมา
“ ก็เอาอย่างนี้สิฮะ  เดี๋ยว 7 โมง พ่อก็ให้คนงานมารวมกันที่ลานหน้าบ้าน  แล้วให้คุณหนูยืนโบกมืออยู่ที่ระเบียง จะได้ไม่ต้องเข้าไปในไร่  ดีไม่ดีเดี๋ยวเป็นลมไปอีก ยิ่งบอบบางอยู่ด้วย..  ผมไปดูงานก่อนนะฮะทิ้งไปนานป่านนี้พี่นพคิดถึงแย่แล้ว ” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นหยิบกุญแจรถเดินออกไปโดยไม่ลืมที่จะหันมายิ้มเยาะเธอ 
คุณสันต์กับคุณนิดาสบตากันอย่างอ่อนใจ  หญิงสาวลุกขึ้นบ้างเชิดหน้าอย่างถือดี  ก่อนพูด
“ขอเวลา 10 นาทีค่ะ..เดี๋ยวลงมา  แล้วก็..ช่วยหาหมวกให้ฟ้าด้วยนะคะ ” เมื่อเข้าไปในห้องได้หญิงสาวก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงพลางทุบหมอนอย่างขัดใจ
“ บ้าๆๆๆๆ บ้าที่สุดเลย  คอยดูนะนายสุดเขตต์  ฉันจะทำให้นายรู้ว่าฉันไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิด..”เมื่อระบายความแค้นแล้ว ความโกรธก็หายไปกลับกลายเป็นความเบื่อหน่ายเข้ามาแทนที่
“..แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากไปนักหรอก  โธ่! ไร่กาแฟมันก็ป่าดีๆนี่แหละไม่เห็นจะมีอะไรน่าดูเลย ..แล้วฉันจะต้องทนอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหนกันเนี่ย.. ”
  แต่ผิดคาด  สิ่งที่เธอนึกดูแคลนกลับทำให้เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง  เพราะนอกจากความกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาแล้วยังเต็มไปด้วยพันธ์ไม้นานาชนิดที่มีการจัดวางแบ่งพื้นที่ได้อย่างกลมกลืน  และจากคำบอกเล่าของนพดล  ผู้จัดการไร่ซึ่งเป็นหลานของคุณสันต์  ทำให้เธอรู้ว่า
“ รายได้หลักของที่นี่มาจากกาแฟ  นอกจากนั้นก็เป็นสละ  มังคุดและลองกอง  แต่น้าสันต์ก็ไม่ลืมที่จะแบ่งเนื้อที่ส่วนหนึ่งไว้เป็นส่วนของบ้านพักคนงานซึ่งด้านหลังยังมีแปลงพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้เพื่อเลี้ยงปากท้องของทุกคนอีกด้วย...หวังว่าคุณฟ้าใสคงชอบที่นี่นะครับ” จู่ๆเขาก็ถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มและสายตาที่แสดงความเป็นมิตรเธอยิ้มตอบ
“ เรียกฟ้าก็พอค่ะ ”
“ ถ้าอย่างนั้น  ก็ต้องเรียกผมว่านพเฉยๆด้วย  ” เขาต่อรอง
“ ตกลงค่ะ  คุณนพ ”
“ คุณฟ้าอยากเข้าไปในโรงเก็บกาแฟไหมครับ ”
“ไปสิคะ ” เธอรีบตอบเพราะแน่ใจว่าคงจะดีกว่าอยู่เป็นส่วนเกินของแม่กับลุงสันต์แน่
เสียงพูดคุยของคนมาใหม่ทำให้คนที่อยู่ในโรงเก็บกาแฟเงยหน้าขึ้นมอง 
“ อ้าว..เขตต์  อยู่นี่เอง  ” นพดลทักพลางเดินเข้าไปหาโดยมีฟ้าใสเดินตามไปอย่างไม่เต็มใจ
“ พี่นึกว่าเราเข้าเมืองเสียอีก ” สุดเขตต์ยิ้มแทนคำตอบก่อนถามกลับบ้าง
   
“ แล้วนี่จะไปไหนกันเหรอฮะ  ” สุดเขตต์ถามกลับบ้าง 
 
“ พี่พาคุณฟ้ามาดูขั้นตอนการเก็บเมล็ดกาแฟน่ะ..นี่ไงครับที่เขตต์ทำอยู่เรียกว่าการตากแห้ง.. ” นพดลอธิบายขั้นตอนและกรรมวิธีการทำอย่างละเอียด  ในขณะเดียวกันผู้ฟังก็มีทีท่าสนใจซักถามอยู่ตลอด  ท่าทางสนิทสนมรวมทั้งรอยยิ้มของทั้งคู่ทำให้สุดเขตต์อดแปลกใจไม่ได้ 
- เออ พี่นพนี่เก่งแฮะ  ทำให้ยายตัวดีเชื่องได้ -
“ คุณนพครับ  คอมพิวเตอร์เป็นอะไรก็ไม่รู้ครับจู่ๆ ก็ดับ ” เสียงคนงานร้องเรียกอยู่ตรงประตู 
“ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ..ขอตัวสักครู่นะครับ ” ชายหนุ่มหันมาบอกเธอก่อนออกไปอย่างรีบร้อนและเมื่อกลับเข้ามาก็ต้องแปลกใจที่สุดเขตต์ยังคงทำงานของตัวเองในขณะที่ฟ้าใสยืนหันหลังให้เหมือนไม่มีการพูดคุยกันเกิดขึ้น
“ ที่นี่ใช้คอมพิวเตอร์ด้วยหรือคะ ?” เธอถาม
“ ครับ  ก็เขตต์นี่แหละครับที่เป็นคนริเริ่ม  ทำให้สบายขึ้นเยอะเลย ”
“ อ๋อ..ค่ะ ฟ้าว่าเราไปกันเถอะค่ะป่านนี้แม่คงรอแล้ว ” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่องพูดก่อนที่จะได้ฟังนพดลสาธยายถึงความดีงามของคู่อริ แล้วเดินนำออกไป 
นพดลหันไปยิ้มกับน้องชายก่อนเดินตามไปบ้าง
“ ถ้าเกิดคุณฟ้าเบื่อไร่  อยากจะไปเที่ยวในเมืองบ้างก็บอกได้นะครับ  ผมยินดีเป็นไกด์จะพาเที่ยวจนทั่วเลยหรือถ้าอยากเที่ยวทะเลที่ชุมพรก็มีเกาะสวยๆ หาดทรายขาวๆ ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนกันเยอะทีเดียว  รับรองว่าคุณฟ้าต้องชอบแน่ๆ ”
  ฟ้าใสยิ้มให้นึกชมชายหนุ่มอยู่ในใจแม้บุคลิคจะดูน่าเกรงขามแต่ความจริงแล้วเป็นคนมีน้ำใจที่เดียวแตกต่างจากชายหนุ่มอีกคนอย่างเห็นได้ชัด
- แบบนี้สิถึงจะคบได้หน่อย -
  หลังกลับจากไร่วันนี้ฟ้าใสอารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  ตอนอาหารเย็นเธอถึงกับออกปากชมทำให้ผู้เป็นพ่อเลี้ยงยิ้มแทบไม่หุบ
“ ..จริงๆ นะคะฟ้าไม่เคยเห็นไร่ที่ไหนสวยเท่านี้มาก่อนเลยนะคะ  คุณลุงเก่งจังเลยค่ะที่ทำให้ที่นี่น่าอยู่ได้ขนาดนี้ ”
“ ลุงดีใจที่หนูชอบ  แต่จะดีใจกว่าถ้าหนูจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ” คุณสันต์รีบวกเข้าเรื่อง  หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆก่อนเงียบไป
“ ไม่เป็นไร  ยังไม่ต้องรีบตัดสินใจก็ได้  ลุงแค่อยากให้หนูรู้ว่าทุกคนที่นี่ยินดีต้อนรับหนูเสมอ ”
“ ทุกคน?..” เธอทวนคำแล้วเหลือบมองไปที่สุดเขตต์ 
“ อ๋อ..ครับ  แน่นอนผมก็..ยินดี ” เขาว่าแล้วจ้องหญิงสาวด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ซึ่งเธอก็มองตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ แต่ที่นี่มือถือไม่มีสัญญาณเลย  ฟ้าอยากติดต่อกับเพื่อนบ้างเผื่อว่าจะได้ถามข่าวคราวของทางมหา’ลัย ”
“ หนูใช้โทรศัพท์ที่บ้านได้เลย  ถือเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของหนูเอง ” คุณสันต์รีบบอกอย่างใจดี
“ ไม่ดีหรอกค่ะ  เพราะบางทีอาจต้องคุยนาน  อืมม์..แต่ถ้าไม่ถือเป็นการรบกวนจนเกินไป  ฟ้าจะขอใช้อินเตอร์เน็ตแทนได้ไม๊คะ ” เธอทำสุ้มเสียงเกรงใจสุดชีวิต
“ ได้สิ  ที่ห้องทำงานนี่ไง  อยากใช้เมื่อไหร่ก็ตามสบายเลย ไม่ต้องเกรงใจ ” พ่อเลี้ยงชี้ไปยังประตูห้องที่อยู่สุดทางเดินของระเบียงบ้าน  แล้วหันมาสั่งลูกชาย
“ ดูแลน้องด้วยนะเจ้าเขตต์  ”
“ ขอบคุณค่ะคุณลุง  แต่อย่ารบกวนพี่เขาเลยค่ะ  แค่นี้..ฟ้าก็เกรงใจจะแย่แล้ว.. ”
  รอยยิ้มที่มีเมื่อครู่หายไปหมดเหลือแต่ความบึ้งตึงอย่างไม่พอใจที่บิดาตกปากรับคำง่ายๆทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวายในห้องทำงาน  แต่หากจะค้านคงไม่ดีแน่ที่ทำได้ก็แค่ดูแลไม่ให้ไปยุ่งกับเอกสารสำคัญ  ก็คงพอล่ะมั๊ง
- เฮ้อ ! วุ่นวายจริงเชียว -
  ย่ำรุ่งฟ้าใสรู้สึกตัวตื่นขึ้นพร้อมความรู้สึกประหลาดใจเมื่อสิ่งแรกที่เห็นหลังจากลืมตาคือ“มุ้ง”
  หญิงสาวลุกขึ้นมองไปรอบๆตัวอย่างตกใจ  แต่เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไร่ของพ่อเลี้ยง ก็เบาใจล้มตัวลงนอนต่อแต่เพียงครู่เดียวก็ต้องลุกขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงเสียงท้องที่ร้องขึ้นมาอย่างหิวโหย ก็สมควรอยู่หรอกหลังจากผจญกับหลุมมหาภัยพวกนั้นเธอก็หมดเรี่ยวหมดแรงถึงบ้านก็แทบจะคลานขึ้นเตียงอยู่แล้ว   
  เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วหยิบบะหมี่สำเร็จรูปที่อัดแน่นอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สุดออกมา แต่กลิ่นหอมๆ ของกับข้าวจากด้านล่างทำให้เธอเปลี่ยนใจ
“ แต่..มีแม่อยู่ด้วยคงไม่ต้องกินอะไรแปลกๆหรอก ” เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วก็รีบเดินลงไป
“ ตื่นแล้วหรือฟ้า แม่กำลังจะขึ้นไปดูอยู่เชียว  แล้วนี่หายดีแล้วหรือ ” แม่พูดพลางอังมือที่หน้าผากก่อนจูงมือเธอมานั่งที่โต๊ะอาหาร คุณสันต์วางถ้วยกาแฟพลางทักอย่างปราณี
“ หน้าตาดูสดใสขึ้นแล้วนี่  ทานข้าวต้มร้อนๆเสียหน่อยนะ  ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยคงหิวแย่แล้ว”
“ ขอบคุณค่ะ ” พูดพลางสำรวจอาหารบนโต๊ะเมื่อไม่เห็นเมนูแปลกๆอย่างที่กลัวก็โล่งใจ
“ ป้าน้อม  ขอกาแฟแก้วฮะ..” เสียงสุดเขตต์ร้องสั่งแม่ครัวก่อนที่จะเดินเข้ามาถึงโต๊ะ “ อ้าว!.. ว่าไงคนป่วย หายแล้วเหรอ ” หญิงสาวเงยหน้ามองเขาอย่างเอาเรื่องแต่เมื่อนึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ก็เลยได้แต่ฝืนใจตอบไปดีๆ 
“ ค่ะ ” แล้วก็ก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารตรงหน้าต่อ
แต่คนฟังกลับแทบสำลักเพราะไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของเธอ  ชายหนุ่มหรี่ตามองน้องสาวอย่างไม่แน่ใจว่าคราวนี้จะมาไม้ไหน  แต่..ไม่ว่าไม้ไหนเขาก็ไม่หวั่นเพราะมั่นใจว่าสามารถรับมือได้ทุกสถานการณ์อยู่แล้ว
“ ถ้าหายดีแล้ววันนี้ลุงจะพาไปเที่ยวในไร่  จะได้แนะนำให้ทุกคนรู้จักด้วย ” คุณสันต์รีบพูดอย่างกลัวว่าลูกชายจะพูดอะไรออกมาทำให้หญิงสาวหงุดหงิดอีก 
“ ทำไมฟ้าจะต้องรู้จักคนงานในไร่ด้วยล่ะคะ? ”
“ เขาจะได้รู้ว่าหนูเป็นใครยังไงล่ะลูก ” แม่บอก ฟ้าใสเบ้ปาก  สุดเขตต์มองแล้วก็นึกหมั่นไส้ขึ้นมา
“ ก็เอาอย่างนี้สิฮะ  เดี๋ยว 7 โมง พ่อก็ให้คนงานมารวมกันที่ลานหน้าบ้าน  แล้วให้คุณหนูยืนโบกมืออยู่ที่ระเบียง จะได้ไม่ต้องเข้าไปในไร่  ดีไม่ดีเดี๋ยวเป็นลมไปอีก ยิ่งบอบบางอยู่ด้วย..  ผมไปดูงานก่อนนะฮะทิ้งไปนานป่านนี้พี่นพคิดถึงแย่แล้ว ” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นหยิบกุญแจรถเดินออกไปโดยไม่ลืมที่จะหันมายิ้มเยาะเธอ 
คุณสันต์กับคุณนิดาสบตากันอย่างอ่อนใจ  หญิงสาวลุกขึ้นบ้างเชิดหน้าอย่างถือดี  ก่อนพูด
“ขอเวลา 10 นาทีค่ะ..เดี๋ยวลงมา  แล้วก็..ช่วยหาหมวกให้ฟ้าด้วยนะคะ ” เมื่อเข้าไปในห้องได้หญิงสาวก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงพลางทุบหมอนอย่างขัดใจ
“ บ้าๆๆๆๆ บ้าที่สุดเลย  คอยดูนะนายสุดเขตต์  ฉันจะทำให้นายรู้ว่าฉันไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิด..”เมื่อระบายความแค้นแล้ว ความโกรธก็หายไปกลับกลายเป็นความเบื่อหน่ายเข้ามาแทนที่
“..แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากไปนักหรอก  โธ่! ไร่กาแฟมันก็ป่าดีๆนี่แหละไม่เห็นจะมีอะไรน่าดูเลย ..แล้วฉันจะต้องทนอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหนกันเนี่ย.. ”
  แต่ผิดคาด  สิ่งที่เธอนึกดูแคลนกลับทำให้เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง  เพราะนอกจากความกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาแล้วยังเต็มไปด้วยพันธ์ไม้นานาชนิดที่มีการจัดวางแบ่งพื้นที่ได้อย่างกลมกลืน  และจากคำบอกเล่าของนพดล  ผู้จัดการไร่ซึ่งเป็นหลานของคุณสันต์  ทำให้เธอรู้ว่า
“ รายได้หลักของที่นี่มาจากกาแฟ  นอกจากนั้นก็เป็นสละ  มังคุดและลองกอง  แต่น้าสันต์ก็ไม่ลืมที่จะแบ่งเนื้อที่ส่วนหนึ่งไว้เป็นส่วนของบ้านพักคนงานซึ่งด้านหลังยังมีแปลงพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้เพื่อเลี้ยงปากท้องของทุกคนอีกด้วย...หวังว่าคุณฟ้าใสคงชอบที่นี่นะครับ” จู่ๆเขาก็ถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มและสายตาที่แสดงความเป็นมิตรเธอยิ้มตอบ
“ เรียกฟ้าก็พอค่ะ ”
“ ถ้าอย่างนั้น  ก็ต้องเรียกผมว่านพเฉยๆด้วย  ” เขาต่อรอง
“ ตกลงค่ะ  คุณนพ ”
“ คุณฟ้าอยากเข้าไปในโรงเก็บกาแฟไหมครับ ”
“ไปสิคะ ” เธอรีบตอบเพราะแน่ใจว่าคงจะดีกว่าอยู่เป็นส่วนเกินของแม่กับลุงสันต์แน่
เสียงพูดคุยของคนมาใหม่ทำให้คนที่อยู่ในโรงเก็บกาแฟเงยหน้าขึ้นมอง 
“ อ้าว..เขตต์  อยู่นี่เอง  ” นพดลทักพลางเดินเข้าไปหาโดยมีฟ้าใสเดินตามไปอย่างไม่เต็มใจ
“ พี่นึกว่าเราเข้าเมืองเสียอีก ” สุดเขตต์ยิ้มแทนคำตอบก่อนถามกลับบ้าง
   
“ แล้วนี่จะไปไหนกันเหรอฮะ  ” สุดเขตต์ถามกลับบ้าง 
 
“ พี่พาคุณฟ้ามาดูขั้นตอนการเก็บเมล็ดกาแฟน่ะ..นี่ไงครับที่เขตต์ทำอยู่เรียกว่าการตากแห้ง.. ” นพดลอธิบายขั้นตอนและกรรมวิธีการทำอย่างละเอียด  ในขณะเดียวกันผู้ฟังก็มีทีท่าสนใจซักถามอยู่ตลอด  ท่าทางสนิทสนมรวมทั้งรอยยิ้มของทั้งคู่ทำให้สุดเขตต์อดแปลกใจไม่ได้ 
- เออ พี่นพนี่เก่งแฮะ  ทำให้ยายตัวดีเชื่องได้ -
“ คุณนพครับ  คอมพิวเตอร์เป็นอะไรก็ไม่รู้ครับจู่ๆ ก็ดับ ” เสียงคนงานร้องเรียกอยู่ตรงประตู 
“ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ..ขอตัวสักครู่นะครับ ” ชายหนุ่มหันมาบอกเธอก่อนออกไปอย่างรีบร้อนและเมื่อกลับเข้ามาก็ต้องแปลกใจที่สุดเขตต์ยังคงทำงานของตัวเองในขณะที่ฟ้าใสยืนหันหลังให้เหมือนไม่มีการพูดคุยกันเกิดขึ้น
“ ที่นี่ใช้คอมพิวเตอร์ด้วยหรือคะ ?” เธอถาม
“ ครับ  ก็เขตต์นี่แหละครับที่เป็นคนริเริ่ม  ทำให้สบายขึ้นเยอะเลย ”
“ อ๋อ..ค่ะ ฟ้าว่าเราไปกันเถอะค่ะป่านนี้แม่คงรอแล้ว ” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่องพูดก่อนที่จะได้ฟังนพดลสาธยายถึงความดีงามของคู่อริ แล้วเดินนำออกไป 
นพดลหันไปยิ้มกับน้องชายก่อนเดินตามไปบ้าง
“ ถ้าเกิดคุณฟ้าเบื่อไร่  อยากจะไปเที่ยวในเมืองบ้างก็บอกได้นะครับ  ผมยินดีเป็นไกด์จะพาเที่ยวจนทั่วเลยหรือถ้าอยากเที่ยวทะเลที่ชุมพรก็มีเกาะสวยๆ หาดทรายขาวๆ ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนกันเยอะทีเดียว  รับรองว่าคุณฟ้าต้องชอบแน่ๆ ”
  ฟ้าใสยิ้มให้นึกชมชายหนุ่มอยู่ในใจแม้บุคลิคจะดูน่าเกรงขามแต่ความจริงแล้วเป็นคนมีน้ำใจที่เดียวแตกต่างจากชายหนุ่มอีกคนอย่างเห็นได้ชัด
- แบบนี้สิถึงจะคบได้หน่อย -
  หลังกลับจากไร่วันนี้ฟ้าใสอารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  ตอนอาหารเย็นเธอถึงกับออกปากชมทำให้ผู้เป็นพ่อเลี้ยงยิ้มแทบไม่หุบ
“ ..จริงๆ นะคะฟ้าไม่เคยเห็นไร่ที่ไหนสวยเท่านี้มาก่อนเลยนะคะ  คุณลุงเก่งจังเลยค่ะที่ทำให้ที่นี่น่าอยู่ได้ขนาดนี้ ”
“ ลุงดีใจที่หนูชอบ  แต่จะดีใจกว่าถ้าหนูจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ” คุณสันต์รีบวกเข้าเรื่อง  หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆก่อนเงียบไป
“ ไม่เป็นไร  ยังไม่ต้องรีบตัดสินใจก็ได้  ลุงแค่อยากให้หนูรู้ว่าทุกคนที่นี่ยินดีต้อนรับหนูเสมอ ”
“ ทุกคน?..” เธอทวนคำแล้วเหลือบมองไปที่สุดเขตต์ 
“ อ๋อ..ครับ  แน่นอนผมก็..ยินดี ” เขาว่าแล้วจ้องหญิงสาวด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ซึ่งเธอก็มองตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ แต่ที่นี่มือถือไม่มีสัญญาณเลย  ฟ้าอยากติดต่อกับเพื่อนบ้างเผื่อว่าจะได้ถามข่าวคราวของทางมหา’ลัย ”
“ หนูใช้โทรศัพท์ที่บ้านได้เลย  ถือเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของหนูเอง ” คุณสันต์รีบบอกอย่างใจดี
“ ไม่ดีหรอกค่ะ  เพราะบางทีอาจต้องคุยนาน  อืมม์..แต่ถ้าไม่ถือเป็นการรบกวนจนเกินไป  ฟ้าจะขอใช้อินเตอร์เน็ตแทนได้ไม๊คะ ” เธอทำสุ้มเสียงเกรงใจสุดชีวิต
“ ได้สิ  ที่ห้องทำงานนี่ไง  อยากใช้เมื่อไหร่ก็ตามสบายเลย ไม่ต้องเกรงใจ ” พ่อเลี้ยงชี้ไปยังประตูห้องที่อยู่สุดทางเดินของระเบียงบ้าน  แล้วหันมาสั่งลูกชาย
“ ดูแลน้องด้วยนะเจ้าเขตต์  ”
“ ขอบคุณค่ะคุณลุง  แต่อย่ารบกวนพี่เขาเลยค่ะ  แค่นี้..ฟ้าก็เกรงใจจะแย่แล้ว.. ”
  รอยยิ้มที่มีเมื่อครู่หายไปหมดเหลือแต่ความบึ้งตึงอย่างไม่พอใจที่บิดาตกปากรับคำง่ายๆทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวายในห้องทำงาน  แต่หากจะค้านคงไม่ดีแน่ที่ทำได้ก็แค่ดูแลไม่ให้ไปยุ่งกับเอกสารสำคัญ  ก็คงพอล่ะมั๊ง
- เฮ้อ ! วุ่นวายจริงเชียว -
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น