ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ...ทีใครทีมัน
  เช้าวันนี้มีเหตุการณ์ที่ทำให้คุณสันต์และคุณนิดาออกจะประหลาดใจอยู่ครามครัน เมื่อฟ้าใสที่เคยตั้งแง่กับ “พ่อเลี้ยง”ของเธอมาตลอดระยะเวลา  1  เดือนเต็มที่เธอกับคุณสันต์แต่งงานกัน มาวันนี้กลับยอมพูดคุยด้วยพร้อมกับรอยยิ้มหากแต่ยังไม่สนิทใจนักแต่มันก็คงจะดีกว่าสีหน้าเฉยชารวมถึงอาการถามคำตอบคำที่เคยทำเป็นแน่ 
  คราวนี้ก็คงจะมีแต่กับสุดเขตต์กระมังที่เธอยังไม่ยอมพูดดีด้วยแถมยังทำหน้าบึ้งใส่มากกว่าปกติ  ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ใส่ใจนัก  เพราะถ้ามองในแง่ดีก็ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี 
  และด้วยเหตุนี้เมื่ออยู่กันตามลำพังกับบุตรสาวคุณนิดาเลยถือโอกาศคุยเรื่องการย้ายไปอยู่ที่ไร่ของคุณสันต์ที่ชุมพร  ซึ่งเธอมั่นใจว่าฟ้าใสจะต้องยอม
“ไม่ค่ะแม่  ฟ้าไม่ไป”หญิงสาวหน้างอ  นึกโมโหพ่อเลี้ยงขึ้นมาอีก 
- ฮึ! พอดีด้วยก็เอาใหญ่เชียว - 
“อ้าวทำไมล่ะลูก..ไหนหนูเคยบอกว่าเบื่อความวุ่นวายในกรุงเทพฯไง?”ผู้เป็นแม่พยามหาเหตุผลมาสนับสนุน
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฟ้าจะทิ้งอนาคต  เพื่อไปอยู่ในป่านะคะ”
“ไร่จ๊ะ ไม่ใช่ป่า”แม่ยิ้มอย่างใจเย็นในขณะที่เธอยังคงฮึดฮัด
“แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะคะ  ไม่รู้ล่ะฟ้าจะอยู่ที่นี้ไม่ไปไหนทั้งนั้น และฟ้าก็จะไม่ยอมให้แม่ขายบ้านหลังนี้ด้วย ”คราวนี้คุณนิดาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ใครบอกฟ้าว่าแม่จะขายบ้าน  แม่ไม่เคยคิดจะขายหรือแม้แต่จะให้ใครเช่า  แม่จะเก็บเอาไว้แบบนี้แหละ คราวนี้หนูก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไปแล้วใช่ไม๊”
“มีสิคะ คือฟ้าคิดว่า..ฟ้าโตพอที่จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้แล้ว”
“แล้วหนูรู้เหตุผลที่แม่อยากให้หนูไปหรือเปล่า..เพราะหนูยังไม่โตพอที่จะอยู่คนเดียวได้  การที่ลูกพยายามต่อต้านทุกคนด้วยการไม่พูดไม่คุย มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าลูกยังเด็กมากเลย ดูอย่างสุดเขตต์สิ  เขาไม่เคยแสดงกิริยาแบบนั้นเลย  เขาให้เกียรติในการตัดสินใจของพ่อเขา  ด้วยการยอมรับแม่ เคารพแม่..  แบบนั้นสิถึงจะเรียกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว”
คำพูดของแม่ทำให้หญิงสาวก้มหน้านิ่งอย่างรู้สึกผิด  คนเป็นแม่เลยเสียงอ่อนลง
“แม่รู้นะว่าแม่ทำให้ลูกอึดอัด อย่างเรื่องที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่นแม่ก็รู้ว่ามันออกจะเกินไปหน่อย  แต่หนูเชื่อแม่เถอะว่าแม่จะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกแน่ๆ”
หญิงสาว มองมารดาอย่างชั่งใจก่อนพยักหน้า
“ค่ะแม่  ฟ้าเชื่อแม่แล้วฟ้าก็จะพยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นไม่ให้แม่ลำบากใจ”
คนเป็นแม่ยิ้มออกอย่างดีใจระคนโล่งใจที่ลูกสาวยอมเชื่อฟัง  แต่หากหล่อนได้ล่วงรู้ความคิดของฟ้าใสแล้วคงยิ้มไม่ออกเป็นแน่
- อย่าคิดนะว่าคนอย่างฟ้าใสจะยอมง่ายๆ ที่ผ่านมาแค่เริ่มต้นต่อไปนี้เจอของจริงแน่  -
   
วันออกเดินทางแม่ปลุกเธอตั้งแต่ตี 5 ด้วยเหตุผลที่ว่า
“ออกจากบ้านเร็วก็ถึงเร็วจะได้ไม่ร้อนนะลูก”แม่บอกขณะฉุดเธอขึ้นจากเตียง  เด็กสาวบ่นพึมพัมเบาๆก็เมื่อคืนนี้กว่าจะเก็บของเสร็จปาไปเที่ยงคืนแล้ว ก็แม่นั่นแหละบทจะไปก็เร่งเสียจนเตรียมตัวไม่ทันเลย
“เดี๋ยวเราไปทานอาหารเช้าที่ประจวบฯ นะครับ หรือยังไงฟ้าใสหิวหรือยัง?”ประโยคหลังเขาหันมาถามเธอเพราะรู้ดีว่าทั้งบ้านคนที่กินข้าวแต่เช้าก็มีแต่น้องสาวคนใหม่ของเขาคนเดียวนี่แหละ
“ยังไงก็ได้..ยังไม่หิวหรอก”เธอตอบไม่สนใจกับสายตาดุๆของแม่ที่มองมาอย่างไม่ชอบใจกับคำพูดห้วนๆของหญิงสาว
  แม้จะบอกว่าไม่หิวแต่มื้อเช้าของเธอก็ทำเอาทุกคนตกใจเพราะนอกจากโจ๊ก ปาท่องโก๋ ขนมจีบ ซาลาเปาแล้วยังตบท้ายด้วยนมเย็น ในขณะที่อาหารเช้าของทุกคนมีแค่กาแฟร้อนคนละถ้วยเท่านั้นเอง
  หญิงสาวเมินรอยยิ้มขำๆของสุดเขตต์ก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างยากลำบากในขณะเดียวกันก็บอกกับตัวเองว่า
- กินเสียให้อิ่มไปถึงเย็นเลย  บ้านป่าเมืองเถื่อนแบบนั้นจะมีอะไรให้กินนอกจากกบเขียด  แม่นะแม่หาเรื่องลำบากแท้ๆ -
  หากแต่ทางเข้าไร่ที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อขนาดเล็กใหญ่กลับทำให้หญิงสาวเกิดอาการวิงเวียนแถมคลื่นไส้เสียจนต้องร้องบอกให้หยุดรถ
“ท่าจะเมารถเสียละมั๊ง”  ผู้เป็นพ่อชักกังวล
  เมื่อลงจากรถได้หญิงสาวก็รีบวิ่งไปโก่งคออาเจียนเอาทุกอย่างเพิ่งลงถึงท้องเมื่อชั่วโมงที่แล้วออกมาจนหมด  สุดเขตต์ส่งผ้าเช็ดหน้าที่ชุ่มน้ำให้ก่อนพูด
“ลืมไปเลยว่าถนนมันไม่ค่อยดี  ไม่งั้นคงไม่ให้กินเข้าไปเยอะขนาดนั้นหรอก”ว่าแล้วก็อดขำไม่ได้  แต่ก็ต้องวางหน้าเฉยทำไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาของพ่อที่มองมาเหมือนจะรู้เหตุผลที่เขาเลือกใช้ถนนสายเก่าที่เป็นหลุมเป็นบ่อแทนที่จะใช้สายใหม่ที่สะดวกสบายกว่านี้
  แม้ไม่มีใครบอกแต่เธอก็รับรู้ได้จากสัญชาติญาณว่าเธอโดนเขารับน้องเข้าแล้ว  หญิงสาวมองเขาอย่างแค้นเคือง  นึกอยากจะโวยวายใส่คนขับให้หายเจ็บใจแต่ก็ไม่มีแรงเอาเสียเลย  ที่ทำได้ก็แค่เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ
- หัวเราะให้เต็มที่เถอะ  เพราะตั้งแต่พรุ่งนี้นายจะหัวเราะไม่ออก! -
   
   
 
  คราวนี้ก็คงจะมีแต่กับสุดเขตต์กระมังที่เธอยังไม่ยอมพูดดีด้วยแถมยังทำหน้าบึ้งใส่มากกว่าปกติ  ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ใส่ใจนัก  เพราะถ้ามองในแง่ดีก็ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี 
  และด้วยเหตุนี้เมื่ออยู่กันตามลำพังกับบุตรสาวคุณนิดาเลยถือโอกาศคุยเรื่องการย้ายไปอยู่ที่ไร่ของคุณสันต์ที่ชุมพร  ซึ่งเธอมั่นใจว่าฟ้าใสจะต้องยอม
“ไม่ค่ะแม่  ฟ้าไม่ไป”หญิงสาวหน้างอ  นึกโมโหพ่อเลี้ยงขึ้นมาอีก 
- ฮึ! พอดีด้วยก็เอาใหญ่เชียว - 
“อ้าวทำไมล่ะลูก..ไหนหนูเคยบอกว่าเบื่อความวุ่นวายในกรุงเทพฯไง?”ผู้เป็นแม่พยามหาเหตุผลมาสนับสนุน
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฟ้าจะทิ้งอนาคต  เพื่อไปอยู่ในป่านะคะ”
“ไร่จ๊ะ ไม่ใช่ป่า”แม่ยิ้มอย่างใจเย็นในขณะที่เธอยังคงฮึดฮัด
“แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะคะ  ไม่รู้ล่ะฟ้าจะอยู่ที่นี้ไม่ไปไหนทั้งนั้น และฟ้าก็จะไม่ยอมให้แม่ขายบ้านหลังนี้ด้วย ”คราวนี้คุณนิดาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ใครบอกฟ้าว่าแม่จะขายบ้าน  แม่ไม่เคยคิดจะขายหรือแม้แต่จะให้ใครเช่า  แม่จะเก็บเอาไว้แบบนี้แหละ คราวนี้หนูก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไปแล้วใช่ไม๊”
“มีสิคะ คือฟ้าคิดว่า..ฟ้าโตพอที่จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้แล้ว”
“แล้วหนูรู้เหตุผลที่แม่อยากให้หนูไปหรือเปล่า..เพราะหนูยังไม่โตพอที่จะอยู่คนเดียวได้  การที่ลูกพยายามต่อต้านทุกคนด้วยการไม่พูดไม่คุย มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าลูกยังเด็กมากเลย ดูอย่างสุดเขตต์สิ  เขาไม่เคยแสดงกิริยาแบบนั้นเลย  เขาให้เกียรติในการตัดสินใจของพ่อเขา  ด้วยการยอมรับแม่ เคารพแม่..  แบบนั้นสิถึงจะเรียกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว”
คำพูดของแม่ทำให้หญิงสาวก้มหน้านิ่งอย่างรู้สึกผิด  คนเป็นแม่เลยเสียงอ่อนลง
“แม่รู้นะว่าแม่ทำให้ลูกอึดอัด อย่างเรื่องที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่นแม่ก็รู้ว่ามันออกจะเกินไปหน่อย  แต่หนูเชื่อแม่เถอะว่าแม่จะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกแน่ๆ”
หญิงสาว มองมารดาอย่างชั่งใจก่อนพยักหน้า
“ค่ะแม่  ฟ้าเชื่อแม่แล้วฟ้าก็จะพยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นไม่ให้แม่ลำบากใจ”
คนเป็นแม่ยิ้มออกอย่างดีใจระคนโล่งใจที่ลูกสาวยอมเชื่อฟัง  แต่หากหล่อนได้ล่วงรู้ความคิดของฟ้าใสแล้วคงยิ้มไม่ออกเป็นแน่
- อย่าคิดนะว่าคนอย่างฟ้าใสจะยอมง่ายๆ ที่ผ่านมาแค่เริ่มต้นต่อไปนี้เจอของจริงแน่  -
   
วันออกเดินทางแม่ปลุกเธอตั้งแต่ตี 5 ด้วยเหตุผลที่ว่า
“ออกจากบ้านเร็วก็ถึงเร็วจะได้ไม่ร้อนนะลูก”แม่บอกขณะฉุดเธอขึ้นจากเตียง  เด็กสาวบ่นพึมพัมเบาๆก็เมื่อคืนนี้กว่าจะเก็บของเสร็จปาไปเที่ยงคืนแล้ว ก็แม่นั่นแหละบทจะไปก็เร่งเสียจนเตรียมตัวไม่ทันเลย
“เดี๋ยวเราไปทานอาหารเช้าที่ประจวบฯ นะครับ หรือยังไงฟ้าใสหิวหรือยัง?”ประโยคหลังเขาหันมาถามเธอเพราะรู้ดีว่าทั้งบ้านคนที่กินข้าวแต่เช้าก็มีแต่น้องสาวคนใหม่ของเขาคนเดียวนี่แหละ
“ยังไงก็ได้..ยังไม่หิวหรอก”เธอตอบไม่สนใจกับสายตาดุๆของแม่ที่มองมาอย่างไม่ชอบใจกับคำพูดห้วนๆของหญิงสาว
  แม้จะบอกว่าไม่หิวแต่มื้อเช้าของเธอก็ทำเอาทุกคนตกใจเพราะนอกจากโจ๊ก ปาท่องโก๋ ขนมจีบ ซาลาเปาแล้วยังตบท้ายด้วยนมเย็น ในขณะที่อาหารเช้าของทุกคนมีแค่กาแฟร้อนคนละถ้วยเท่านั้นเอง
  หญิงสาวเมินรอยยิ้มขำๆของสุดเขตต์ก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างยากลำบากในขณะเดียวกันก็บอกกับตัวเองว่า
- กินเสียให้อิ่มไปถึงเย็นเลย  บ้านป่าเมืองเถื่อนแบบนั้นจะมีอะไรให้กินนอกจากกบเขียด  แม่นะแม่หาเรื่องลำบากแท้ๆ -
  หากแต่ทางเข้าไร่ที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อขนาดเล็กใหญ่กลับทำให้หญิงสาวเกิดอาการวิงเวียนแถมคลื่นไส้เสียจนต้องร้องบอกให้หยุดรถ
“ท่าจะเมารถเสียละมั๊ง”  ผู้เป็นพ่อชักกังวล
  เมื่อลงจากรถได้หญิงสาวก็รีบวิ่งไปโก่งคออาเจียนเอาทุกอย่างเพิ่งลงถึงท้องเมื่อชั่วโมงที่แล้วออกมาจนหมด  สุดเขตต์ส่งผ้าเช็ดหน้าที่ชุ่มน้ำให้ก่อนพูด
“ลืมไปเลยว่าถนนมันไม่ค่อยดี  ไม่งั้นคงไม่ให้กินเข้าไปเยอะขนาดนั้นหรอก”ว่าแล้วก็อดขำไม่ได้  แต่ก็ต้องวางหน้าเฉยทำไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาของพ่อที่มองมาเหมือนจะรู้เหตุผลที่เขาเลือกใช้ถนนสายเก่าที่เป็นหลุมเป็นบ่อแทนที่จะใช้สายใหม่ที่สะดวกสบายกว่านี้
  แม้ไม่มีใครบอกแต่เธอก็รับรู้ได้จากสัญชาติญาณว่าเธอโดนเขารับน้องเข้าแล้ว  หญิงสาวมองเขาอย่างแค้นเคือง  นึกอยากจะโวยวายใส่คนขับให้หายเจ็บใจแต่ก็ไม่มีแรงเอาเสียเลย  ที่ทำได้ก็แค่เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ
- หัวเราะให้เต็มที่เถอะ  เพราะตั้งแต่พรุ่งนี้นายจะหัวเราะไม่ออก! -
   
   
 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น