ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [NCT x YOU] Become Stranger #เหมือนเคยรักกัน [END]​

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.33K
      123
      30 เม.ย. 64

     

     

    6

     

     

     

     

    นายลากฉันออกมานอกห้องทำไม”

     

     

    คนที่เพิ่งโดนลากแขนออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ยกแขนขึ้นกอดอกมองลูกน้องคนสนิทที่ทำหน้าตาเหรอหราใส่

     

     

    นายไม่เห็นหรอครับว่าคุณมีโซหลับอยู่ ถ้าเราคุยกันเสียงจะรบกวนเธอ”

     

    เดี๋ยวนี้กล้าพูดจาแบบนี้กับฉันแล้วหรอ”

     

    แหะ ๆ ขอโทษครับ” พูดขอโทษ แต่กลับยิ้มยิงฟันใส่ ดวงตาที่กำลังยกยิ้มเหมือนกับริมฝีปาก ทำให้คนที่มองอยู่ต้องถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา

     

    “….”

     

    จริง ๆ ก็มีอีกเรื่องที่ผมจะบอก..เกี่ยวกับคุณมีโซ” แจมินหลบตาพูดด้วยท่าทางลังเล

     

    อะไร”

     

    ผมเจอยาในกระเป๋าของเธอ”

     

    “….”

     

    “Paroxetine”

     

    “….”

     

    มันคือยารักษาโรคซึมเศร้าครับ”

     

    โรคซึมเศร้า?”

     

    นายครับ เธอจะทำงานให้นายไหวหรอ”

     

    “….”

     

    จำงานประกาศรางวัลเมื่อเดือนก่อนได้มั้ยครับ”

     

    “….”

     

    ผมว่า..เธอดูควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้นะครับ”

     

    “….”

     

    ตอนที่ผมเจอเธอเป็นลมอยู่ น้ำตาก็นองหน้าอยู่เลย”

     

    “….”

     

    เธอน่าจะร้องไห้ง่าย ผมว่าอาการไม่น่าใช่น้อย ๆ แล้ว”

     

    “….”

     

    นายจะจ้างเธอจริง ๆ หรอครับ”

     

     

    เดโอนิ่งคิดไปตามคำพูดของแจมิน เรื่องที่คุณดูอ่อนไหวมากกว่าปกติและควบคุมอารมณ์เศร้าของตัวเองไม่ค่อยได้ มันทำให้ภาพของตอนที่คุณเดินร้องไห้ฝ่าถนนสามเลนอย่างไม่กลัวตายย้อนกลับเข้ามาในหัว ถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงรอสัญญาณไฟ หรือข้ามถนนด้วยความระมัดระวัง แต่คุณกลับไม่สนใจรถของเขาที่บีบแตรลากยาวมาตั้งแต่ไกล

     

     

    ภาพของคุณเวลาที่พูดกับเขาด้วยท่าทางนิ่งสงบ แต่ในแววตามีความอ้างว้างและโดดเดี่ยวอยู่ในนั้นเสมอ คุณกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยเผยความรู้สึกให้เห็น คุณไม่สดใสเหมือนคราวที่เคยได้เจอกัน คุณผอมลง ดวงตาที่ยิ้มได้เหมือนกับความหมายของชื่อ ในตอนนี้มีแต่ความเศร้า เขาเพิ่งมานึกสังเกตคุณ ก็เมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากนาแจมิน

     


     

    นายเข้าไปสำนักอัยการหน่อยได้มั้ย”

     

    ครับ?”

     

    ไปคุยกับอัยการซอ ฉันขี้เกียจไปแล้ว”

     

    ห๊ะ” นาแจมินสับสนและมึนงงกับนายของตัวเอง เรื่องที่นัดคุยกับอัยการเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นประเด็นหลักที่ทำให้เดโอคิมกลับมาที่เกาหลี แต่ในตอนนี้กลับพูดว่าตัวเองขี้เกียจ?


     

    นายไม่ไปคุยเองหรอครับ”

     

    ต้องให้พูดซ้ำ?”

     

    ก็ได้ครับ…แล้วนัดกี่โมงนะครับ”

     

    อีกครึ่งชั่วโมง รีบไปได้แล้ว”

     

    โห ทำไมนายไม่บอกผมก่อนเนี่ย”

     

    พูดมากนะแจมิน รีบไปเดี๋ยวเขารอนาน”

     

    ครับ ๆ”

     

     

    แจมินรับคำอย่างงุนงง ก่อนจะหมุนตัวเดินมาตามทาง แต่ก็มิวายเอี้ยวใบหน้าหันกลับไปมอง แล้วก็เห็นว่าเจ้านายเปิดประตูเดินเข้าห้องผู้ป่วยไป แน่นอนว่าเขารู้สึกตะหงิดตั้งแต่ที่ได้เจอคุณวันนี้ นี่หรออินทีเรียที่นายของเขากำชับนักหนาว่าให้ติดต่อไปจ้างงาน ทำไมถึงเป็นคนเดียวกันกับที่เข้ามากอดนายของเขาร้องห่มร้องไห้ที่งานประกาศรางวัลไปซะได้ แถมวันนั้นยังเรียกชื่อ โดยอง อีกต่างหาก เรื่องนี้มันมีซัมธิงแน่ ๆ

     


     

    ว่าแล้วก็คงต้องโทรไปถามไถ่ลูกพี่สุดรักซะหน่อย พี่มุนแทอิล


     

     

     

    ร่างสูงยืนทอดมองทิวทัศน์ภายนอกหน้าต่าง เรื่องที่เพิ่งได้รู้มันทำให้เขาปรับอารมณ์ไม่ถูก ความคิดในหัวชนกันยุ่งจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ใบหน้าเรียวผินมองคนที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียง ก่อนที่จะเบือนหน้ากลับมามองบานกระจกใสอย่างเดิม

     

     

    ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง

     

     

    ขายาวถอยกลับมานั่งบนโซฟาเดี่ยวด้านข้าง สายตาเหม่อมองไปยังใบหน้ายามหลับของคุณ หลากหลายความรู้สึกผสมปนเปอยู่ในใจ ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้คุณควรจะมีความสุข แต่มันกลับไม่ใช่อย่างภาพที่เห็น

     

     

    เป็นเวลาเกือบชั่วโมงที่เขาเอาแต่นั่งมองหน้าของคุณ ไม่เคยรู้สึกสับสนกับตัวเองมากเท่านี้มาก่อน เขาไม่ควรมานั่งเสียเวลาอยู่ตรงนี้ แต่ก็เป็นคุณที่ดึงเขากลับเข้ามาในวังวน

     

     

     

    แต่แล้วยังไง ในเมื่อก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

     

     

     

     

    เดโอลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สองขาที่ตั้งใจจะเดินไปทางประตู เปลี่ยนทิศทางเป็นพาตัวเองมายืนอยู่ข้างเตียง สายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ทอดมองคุณราวกับเป็นโอกาสสุดท้าย ยิ่งรู้ว่าคุณกำลังป่วย ห่วงของคุณที่คล้องเขาเอาไว้มันก็แน่นหนาเสียยิ่งกว่าเดิม แต่มันก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องพาตัวเองออกมาและปล่อยคุณไปสักที

     

     

    คนตัวสูงเดินไปยังประตูห้อง แต่จังหวะที่กำลังจะคว้ามือไปจับลูกบิด ประตูกลับถูกเปิดออกโดยบุคคลที่มาใหม่ ดวงตาสีนิลจดจ้องใบหน้าของคนในห้อง คิ้วเข้มเลิกขึ้นราวกับสงสัยว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เดโอจ้องตาอีกฝ่ายกลับอย่างไม่เป็นมิตร คนสองคนยืนปะทะหน้ากัน จนทำให้เลขาสาวที่ยืนอยู่หลังร่างสมส่วนกลัวว่าจะมีการเปิดสังเวียนขึ้นในโรงพยาบาล

     

     

     

    คุณมาทำอะไรที่นี่” แทยงเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา สายตาสงสัยสบกับดวงตาคมของเดโอราวกับพยายามอ่านใจ

     

    มาเยี่ยมอินทีเรียที่ผมจ้างงาน ผิดหรือไง”

     

    จ้างงาน?”

     

    ไม่รู้หรอว่าคนของคุณรับงานรีโนเวทบ้านผม แล้ววันนี้เธอก็เป็นลมระหว่างที่เข้าไปดูบ้านของผม”

     

    “….”

     

    เคยรู้อะไรบ้าง” เดโอพูดค่อนแคะ ก่อนจะแทรกตัวเดินออกจากห้อง แต่แทยงก็เขยิบตัวมาขวางเอาไว้ ทำให้คนที่เลี่ยงสายตามองไปทางอื่น ต้องมองกลับมาที่ใบหน้าคล้ายรูปปั้นอย่างรำคาญ

     

     

    ผมฟังไม่ผิดใช่มั้ยว่าคุณจ้างงานมีโซ”

     

    “….”

     

    คุณทำแบบนั้นทำไม”

     

    แล้วทำไมผมจะจ้างงานเธอไม่ได้”

     

    อินทีเรียมีเป็นร้อยเป็นพันคน ทำไมต้องมีโซ”

     

    ไม่ใช่ธุระของคุณ”

     

    คุณต้องการอะไร”

     

     

    แทยงถามคนที่ตอบกวนประสาทใส่อย่างใจเย็น ความจริงจังของเขา ทำให้เดโอเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาขุ่นมัวจ้องมองหน้าแทยงนิ่ง ก่อนจะถามกลับ


     

     

    กลัวหรอ”

     

    ผมต้องกลัวอะไร”

     

    นั่นสิ ต้องกลัวอะไรนะ”

     

    อย่ายุ่งกับมีโซ”

     

    “….” เดโอจ้องหน้าแทยงนิ่ง อารมณ์ร้อนถูกจุดประกายขึ้นเพราะคำพูดระคายหู อยากจะแจกไปสักหมัด แต่เห็นแก่ร่างบางที่คว้าแขนห้ามแทยงที่กำลังเดือดไม่ต่างกัน จึงข่มอารมณ์พูดตัดบท แล้วเดินแทรกตัวออกไปจากห้อง

     

     

     

    ถ้าเป็นห่วงมากขนาดนั้น ก็ดูแลให้ดีหน่อยเถอะ”

     

     

     

    คำพูดประชดประชันลอยจางอยู่ในความคิด ถึงแม้คนพูดจะไม่อยู่แล้วก็ตาม แทยงกลอกตา ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน สัมผัสที่แขนถูกปล่อยเป็นอิสระ พร้อมกับที่ร่างเพรียวบางก้าวเข้ามายืนด้านข้าง เพื่อประเมินสีหน้าของคนเป็นนาย

     

     

    ท่านรองโอเคมั้ยคะ”

     

    อืม”

     

    โลกกลมจังเลยนะคะ”

     

    ไม่ใช่หรอก เขาตั้งใจ”

     

     

    แทยงพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินนำเข้าไปในห้อง ทำให้เลขาประจำตัวต้องรีบหิ้วถุงผลไม้เดินตามเข้ามา พร้อมกับปิดประตูให้เสร็จสรรพ และมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คุณเริ่มสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาจากพิษไข้

     

     

     

    ฟื้นแล้วหรอมีโซ”

     

     

    เสียงของแทยงทำให้ภาพที่เบลอฟุ้งราวกับความฝันชัดเจนขึ้นจนกลายเป็นโลกของความจริง คุณเลื่อนสายตามองคนสองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงคนละฝั่งอย่างสงสัยปนตกใจ คุณมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้ยังไง

     

     

    มีโซอยากจิบน้ำมั้ย เดี๋ยวพี่รินให้”

     

    “..ไม่เป็นไรค่ะ…มีโซมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” คุณถามพลางมองใบหน้าใจดีของคนสองคนสลับไปมา

     

    เราเป็นลมที่บ้านลูกค้า เขาก็เลยพามาส่งโรงบาล”

     

    “..คุณแจมินเป็นคนมาส่งมีโซหรอ แล้วพี่รู้ได้ไง”

     

    ก็พี่โทรหาเราแล้วเขารับสายน่ะสิ”

     

    อ่า..”

     

    ไม่สบายทำไมไม่บอกพี่”

     

    “..ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนี่นา”

     

    ไม่ได้เป็นอะไรมากแต่เป็นไข้จนวูบ”

     

    แหะ ๆ”

     

    ดื้อมากเลยนะเรา”

     

    ท่านรองคะ อย่าดุน้องสิ น้องเพิ่งฟื้นนะ” เลขาคังปรามคนที่กำลังดุคุณด้วยสายตาอย่างไม่จริงจัง คุณหัวเราะออกมาเบา ๆ เป็นอย่างนี้ตลอด เวลาที่แทยงบ่นคุณ ถ้าเลขาคังอยู่ด้วยก็จะเป็นคนที่คอยห้ามและประคบประหงมคุณ

     

     

    กินส้มมั้ย พี่ซื้อมาฝาก” เลขาคังถาม

     

    “..โห…ขอบคุณนะคะ อยากกินอะไรเปรี้ยว ๆ อยู่เหมือนกัน”

     

    เดี๋ยวฉันจัดการเอง เธอลงไปซื้อกาแฟข้างล่างให้หน่อย” แทยงพูดขัดอีกคนที่กำลังทำท่าจะเดินไปหาถุงผลไม้บนเคาน์เตอร์ข้างตู้เย็น ทำให้เจ้าของร่างเพรียวบางต้องหันกลับมารับคำ


     

    ได้ค่ะ อเมริกาโน่ไม่ใส่ไซรัปนะคะ”

     

    อืม”

     

    มีโซเอาโกโก้ร้อนมั้ย”

     

    ไม่ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่”

     

     

    เลขาสาวยิ้มรับคำขอบคุณของคุณ ก่อนจะเดินจิกส้นสูงออกไปจากห้องด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง คุณหันกลับมามองแทยงที่เดินไปหยิบส้ม แล้วนั่งปลอกเปลือกให้คุณอยู่ที่โซฟาด้วยรอยยิ้ม จนคนที่เงียบใช้สมาธิต้องเลื่อนสายตาขึ้นมามองตอบ


     

     

    มีอะไร”

     

    พี่ซึลกิน่ารักดีนะคะ”

     

    แล้ว?”

     

    มีโซพูดกับพี่หลายรอบแล้วนะ”

     

    พอ”

     

    ทั้งสวย เก่ง ฉลาด มีน้ำใจ จะหาผู้หญิงแบบนี้ได้ที่ไหนอีกกันนะ”

     

    พี่ยังไม่อยากมีใครทั้งนั้น” แทยงตอบ พลางหลุบตาแกะเปลือกส้มต่อ

     

    เป็นเพราะมีโซรึเปล่า”

     

    ไม่ใช่”

     

    เรื่องที่เราทำกันอยู่ พอแล้วก็ได้นะคะ” คุณพูดด้วยสายตาจริงจัง มาถึงตอนนี้คุณคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับแทยงมันเอาไว้หลอกคนที่คิดจะปองร้ายไม่ได้อีกแล้ว ในเมื่อเขาลั่นประกาศิตเอาไว้ ว่ายังไงก็ต้องมีคนเจ็บ



     

    กินซะ แล้วเลิกคิดมาก” แทยงเดินเข้ามายื่นส้มให้กับคุณที่ดันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่เพราะแขนข้างหนึ่งของคุณเจาะสายน้ำเกลืออยู่ อีกฝ่ายเลยเปลี่ยนเป็นช่วยป้อนแทน


     

    มีโซไม่ได้คิดมาก แค่คิดว่าพี่ทำเพื่อมีโซมามากพอแล้ว”

     

    นี่แหละคิดมาก”

     

    พี่ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองนะคะ”

     

    โตขึ้นเยอะเลยนะ”

     

    ฟังที่มีโซพูดรึเปล่า”

     

    จอห์นเล่าให้พี่ฟังแล้ว”

     

    ห๊ะ”

     

    เรื่องที่ไอชางกลับมาหาเรา”

     

    “……….”

     

     

    คุณหลบสายตาคนที่ยืนค้ำหัว แล้วก็เอาแต่คาดโทษจอห์นอยู่ในใจที่เอาเรื่องที่ต้องการเก็บเป็นความลับไปบอกแทยง ถึงจะรับปากไปแล้วว่าจะเล่าให้แทยงฟัง แต่คุณก็ไม่ได้คิดที่จะพูดว่าลุงของคุณได้กลับมาหาและข่มขู่คุณ


     

     

    ถ้าถอนหมั้นตอนนี้ เราจะอันตรายกว่าเดิม”

     

    แต่ลุงไม่ได้กลัวแล้วนะคะ”

     

    “….”

     

    เขาไม่สนแล้วว่ามีโซหมั้นอยู่กับหลานชายของเจ้านายเขา เขาสนแค่ว่าใครที่ทำให้เขาต้องเข้าคุก”

     

    “….”

     

    ลุงไม่มีอะไรจะเสียแล้ว จะหมั้นหรือไม่หมั้น มันก็ไม่มีผลกับเขาหรอกค่ะ”



     

    มีอีกเรื่องที่พี่อยากจะถาม”

     

    อะไรหรอคะ”

     

    เดโอจ้างงานเราหรอมีโซ”

     

    “……..” คุณเหล่มองหน้าแทยงอย่างไม่รู้จะตอบยังไง เพราะนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่คุณไม่ได้บอกเขา

     

    แล้วบ้านที่เข้าไปดูวันนี้ก็บ้านเขาใช่มั้ย”

     

    “..คุณแจมินบอกพี่หรอ”

     

    เปล่า พี่รู้ เพราะพี่เจอเดโอเมื่อกี้”

     

    เจอ?”

     

    เขามาเยี่ยมเราที่นี่”

     

    “..มาหามีโซหรอคะ” คุณเบิกตาถามอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน คนที่ทำท่าจงเกลียดจงชังคุณเนี่ยนะจะมาเยี่ยมคุณ??

     

    ที่ป่วยแต่ดันทุรังเข้าไปดูบ้านเขานี่เพราะอยากเจอเขารึเปล่า”

     

    “..ไม่ใช่สักหน่อย”

     

    มีโซพี่พูดตามตรงนะ”

     

    “….”

     

    พี่ไม่ไว้ใจเดโอ”

     

    “….”

     

    มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเลือกจ้างงานเรา ถ้าไม่ได้คิดที่จะทำอะไรอยู่”

     

    “….” นั่นมันก็เป็นสิ่งที่คุณคิดอยู่เหมือนกัน

     

    เขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่เป็นมิตรกับเราสองคน แล้วจะพยายามดึงเราเข้าไปเกี่ยวทำไม”

     

    “….”

     

    พี่ไม่รู้เจตนาเขา แต่พี่ว่าอย่าเพิ่งถอนหมั้นเลย”

     

    “….”

     

    ตอนนี้มีทั้งเรื่องเขา เรื่องลุงเรา พี่สังหรณ์ใจไม่ดี”

     

     

     

     

     

     

    บานประตูของห้องทำงานที่เฝ้ารอมากว่าสิบนาทีถูกเปิดออก นั่นทำให้ร่างหนาที่กำลังยืนกดโทรศัพท์ฆ่าเวลาต้องหันไปมองอย่างให้ความสนใจ แต่แล้วสายตาของเขาก็ชะงักไปเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เดินออกมาจากห้อง เขาสองคนสบตากัน แต่เป็นเจโน่ฝ่ายเดียวที่รู้สึกคุ้นหน้าของอีกคน

     

     

    ชายร่างผอมสูงเดินผ่านหน้าจากไป แต่ยังคงทิ้งความสงสัยให้กับคนที่ยืนอยู่ เจโน่พยายามนึกว่าเคยเห็นอีกฝ่ายที่ไหน แต่ก็นึกไม่ออก จึงเลือกที่จะหยุดความคิดของตัวเอง ก่อนจะก้าวเข้าไปเคาะประตูห้องที่เพิ่งถูกปิดไปสองสามที รอจนได้ยินเสียงขานรับถึงเปิดออก

     

     

    คนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานท่ามกลางปึกเอกสารและแฟ้มกองพะเนินจนเกือบจะไม่มีพื้นที่ให้หายใจ เงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มละไม จอห์นนิ่งไปทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเจโน่ที่มาหา สายตาตื่นกวาดมองน้องชายที่ไม่เห็นหน้ามาแรมปี ก่อนจะเอ่ยปากทัก


     

     

    มึง..กลับมาทำไมเนี่ย”


     

    โห พี่พูดงี้ผมไปต่อไม่ถูกเลย” เจโน่หัวเราะและยังคงส่งยิ้มมาให้เขา จอห์นตกอยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไอดีใจก็คงดีใจอยู่หรอก แต่เจโน่กลับมาเกาหลีตอนนี้ ช่างเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย


     

     

    ทำไมพี่กับพี่มีโซทำเหมือนไม่อยากให้ผมกลับมากัน มีอะไรรึเปล่า” คนอายุน้อยกว่าพูดแหย่ พลางเดินเข้าไปวางกล่องยาวที่หยิบออกมาจากถุงผ้าลงบนโต๊ะทำงานของเจ้าของห้อง แล้วขยับตัวนั่งลงบนเก้าอี้


     

    “..ไม่มีอะไรหรอก แล้วนี่อะไร”

     

    เหล้าจากอังกฤษ ผมรู้ว่าพี่ต้องชอบ”

     

    พูดซะภาพลักษณ์กูกลายเป็นพวกขี้เมา”

     

    แล้วไม่ใช่หรอ”

     

    เบา ๆ หน่อยพ่อหนุ่ม”

     

    “55555 แล้วพี่สบายดีมั้ย งานหนักป่ะ”

     

    ดูสภาพห้องแล้วคิดว่าไงอ่ะ”

     

    ชิลด์มั้ง”

     

    เหอะ แล้วนี่จะกลับมาอยู่กี่วัน”

     

    น่าจะเป็นเดือน”

     

    ทำไมอยู่นานวะ”

     

    พูดเหมือนพี่มีโซอีกแล้ว”

     

    “….” จอห์นชะงักท่าทางของตัวเอง ก่อนจะพูดกลบเกลื่อน “แล้วงานที่นู่นอ่ะ”

     

    เนี่ย ถอดคำพูดกันมาเลยรู้ป่ะ”

     

    แล้วตกลงยังไง”

     

    ก็มาทำงานที่นี่นั่นแหละพี่ ผมยังมีงานทำอยู่ไม่ได้โดนไล่ออก”

     

    อ่อหรอ”

     

    แล้วพี่มีโซเป็นไงบ้างอ่ะ”

     

    ตลกละ มาถามเรื่องพี่สาวตัวเองกับคนอื่น ทำไมไม่ถามเขาเองล่ะ”

     

    ก็ต่อหน้าผมพี่ก็ทำเหมือนโอเคตลอด”

     

    จะเอาความจริงหรือโกหก”

     

    เอาความจริงดิ”

     

    กูก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่คิดว่าไม่ค่อยดี” จอห์นตอบพลางส่ายหัว

     

    ไม่ค่อยดียังไง แล้วทำไมพี่ผมถึงไม่ค่อยดีอีกแล้วอ่ะ”

     

    เรื่องนี้มึงคงต้องถามมีโซเอง”

     

    ผมโตแล้วนะ ทำไมมีอะไรถึงไม่บอกผมกัน”

     

    เออ มึงโตจนกูหงอกขึ้น ปวดหลังรายวันแล้วนี่ไง แต่กูคนนอก จะให้พูดหรอ”

     

    พี่จอห์น พี่ไม่ใช่คนนอกสำหรับผม”

     

    ไปถามพี่มึงเองเถอะ”

     

    ตัดบทกันแบบนี้เลยนะ”

     

    เผื่อยังไม่รู้ กูกำลังลำบากใจ”

     

    ก็ได้ งั้นผมขอถามอีกอย่าง”

     

    อะไร”

     

    พี่ผมสบายดีรึเปล่า…หมายถึงอาการที่พี่เคยเป็น..มันไม่ได้กลับมาใช่ไหม”

     

    อันนี้ไม่รู้ มึงเป็นน้องก็ต้องคอยถามไถ่พี่ คอยสังเกตพี่ดู”


     

     

     

    “..พี่มีโซยังคิดถึงพี่โดยองอยู่หรอ”


     

    “…….” จอห์นเงียบมองหน้าเจโน่ เรื่องของโดยองเป็นเรื่องที่เปราะบางสำหรับทุกคน และมันก็เป็นเรื่องที่ทำให้คุณเสียศูนย์มากที่สุด



     

     

    ถามแปลก ก็ต้องคิดถึงมั้ยวะ”

     

    “….”

     

    “..ขนาดกูยังคิดถึง”

     

    รู้ป่ะ มันมีอะไรที่แปลกกว่าคำถามของผมอีก”

     

    อะไร”

     

    เมื่อประมาณสองปีที่แล้ว ผมเจอคนหน้าเหมือนพี่โดยองที่อังกฤษ”

     

    “…….”

     

    บอกพี่มีโซ พี่มีโซก็ไม่เชื่อ”

     

    ตอนนี้ก็คงเชื่อแล้ว ที่มึงเจอคงเป็นแฝดโดยอง ชื่อเดโอ”

     

    ห๊ะ พี่โดยองมีแฝดด้วยหรอ”

     

    เออ”

     

    แต่พี่มีโซไม่รู้เนี่ยนะ”

     

    กูเป็นเพื่อนมาสิบกว่าปียังไม่รู้เลย”

     

    “….”

     

    แล้วไปเจอเขาที่ไหน”

     

    โรงพยาบาล Kingston ที่ลอนดอน”

     

    หืม..โรงบาลหรอ”

     

    วันนั้นผมไปเยี่ยมเพื่อน แล้วก็เห็นเขาเดินอยู่ไกล ๆ อ่ะ”

     

    แล้วแน่ใจได้ยังไงว่ามองไม่ผิด”

     

    โหพี่…ผมตาดี แล้วก็ความจำดีด้วย เดี๋ยวนะ…”

     

    อะไร”

     

    คนเมื่อกี้” เจโน่ถลึงตา เมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้

     

    อะไร ใคร”

     

    คนเมื่อกี้ที่มาหาพี่อ่ะ ผมจำได้แล้ว!”

     

    จำอะไรได้”

     

    เขาคือคนที่เดินอยู่กับคนที่ผมบอกว่าหน้าเหมือนพี่โดยอง”

     

    “….”

     

    ที่โรงพยาบาลวันนั้น!”

     

    จำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ”

     

    แล้วเขามาหาพี่ทำไม”

     

    ไหนบอกจะถามอีกแค่อย่างเดียว”

     

    พี่จอห์น”

     

    มันเป็นเรื่องงาน กูบอกได้ที่ไหน”

     

    “….”

     

    นี่เจโน่ เล่ามาให้ละเอียดหน่อย เห็นสองคนนั้นที่โรงบาล แล้วรู้มั้ยว่าไปทำอะไร” จอห์นซักต่อด้วยความสงสัย มันมีบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกติดใจกับประเด็นนี้

     

    ผมจะรู้ได้ไงอ่ะ ไม่ได้คุยกับเขา”

     

    เดาดิ”

     

    ถ้าเขาไม่ได้มาหาหมอก็คงมาเยี่ยมใครสักคน”

     

    “….”

     

    เพราะก็ไม่ได้ใส่ชุดผู้ป่วยกันทั้งคู่ แต่งตัวธรรมดา”

     

    “….”

     

    พี่สงสัยอะไรอยู่อ่อ”

     

    รู้ได้ไงว่ากูสงสัย”

     

    หน้าพี่มันบอก”

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

    TBC

     

    พี่จอห์นสงสัยอัลไล?? // ว่าแต่ แทยงไม่ไว้ใจเดโอ ส่วนเดโอก็ไม่ไว้ใจแทยงเหมือนกัน เรื่องนี้จะไปจบตรงไหนกันน้อ แต่มันต้องมีสักฝั่งแหละที่พลาดจริง กลิ่นมาม่าหอมฉุยเลยวุ้ย

     

    ตอนหน้าจะพักเรื่องปมไว้ แล้วให้ซีนพระนางก่อนนะคะ ความหวานที่หาแทบไม่ได้ เดี๋ยวเอาแบบจำเลยรักไปก่อนแล้วกัน ใครอ่านอยู่ก็เม้นเถอะน้าาา T-T

     

     

    #เหมือนเคยรักกัน

     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×