ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [NCT X You] Love Phobia

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 12

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 161
      11
      11 ก.ย. 65

     

     12





     

     

     

     

    ไอหมอ!!!?”

     

     

     

    สภาพผู้เคราะห์ร้ายที่กำลังเปียกปอนไปด้วยน้ำจากถังม็อบ ทำเอาตัวต้นเหตุอย่างฉันถึงกับร้องเสียงหลง สมองคิดอะไรไม่ออกนอกจากรีบคว้าผ้าจากมือจีซอง แล้ววิ่งปรี่เข้าไปหา

     

     

     


    ..เป็น..เป็นอะไรมั้ย”

     

     

    ….

     

     

    ขอโทษนะดงยอง”

     

     

    ….

     

     

    “หน้านายแย่มากอ่ะ T^T

     

     


    จับประคองหน้าเรียวหันซ้ายหันขวาพิจารณา ก่อนจะใช้ผ้าถูเช็ดทำความสะอาดอย่างขะมักเขม้น ตาคมของผู้ถูกกระทำจ้องมองมาอย่างไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง

     

     

     



     

    เอ่อ…พี่ครับ…”

     

     

    “….”

     

     

    คือว่า…..ใช้ผืนนี้ดีกว่านะครับ”

     

     


    เสียงเบาหวิวของจีซองลอยแทรกเข้าภวังค์ พร้อมกับผ้าผืนใหม่ที่ยื่นส่งมา แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ เพราะจุดโฟกัสเดียวในตอนนี้ คือ คราบสกปรกบนหน้าไอหมอ

     

     

     


    "พี่มินรี.."

     

     

    เออน่า ไม่เป็นไร ๆ” เซ้าซี้จัง

     

     

    แต่ว่า…นั่นมัน.…”

     

     

    “….”

     

     

    ผ้าเช็ดโต๊ะนะครับ

     

     

     


     

    'ผ้าเช็ดโต๊ะ' นะ ครับ

     

     


     

    เสียงสะท้อนในหัว และรอยยิ้มแห้งของเด็กชายผู้หวังดี เปรียบเสมือนระฆังตีแสกหน้า

     

     


     

    ดวงตาเบิกโตหมุนกลับไปมองหน้าคนโคตรซวย แล้วก็สบเข้ากับสายตาอาฆาตที่พร้อมจะสาปส่งกันไปอีกสิบชาติ…...

     

     



     

    “..แฮ่….”

     

     

    “….”

     

     


    ไอหมอหน้าบึ้งมาก...

     

     

     


     

    “…ห้องน้ำชั้นบนยังใช้ได้อยู่รึเปล่า”

     


     

    เอี้ยวตัวไปถามจีซองด้วยระดับเสียงที่ให้ได้ยินกันแค่สองคน แต่จากระยะห่าง ไอหมอก็น่าจะได้ยินด้วยนั่นแหละ...

     

     

               


    ฝักบัวยังใช้ได้อยู่นะครับ แต่เครื่องทำน้ำอุ่นผมไม่แน่ใจ”

     

     

    เอ่อ...งั้น…งั้นนายขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวหาเสื้อเปลี่ยนให้”

     

     


     

    รีบเปลี่ยนเรื่อง แล้วฉุดแขนไอหมอให้เดินตาม แต่เจ้าตัวก็ทำยึกยักจนต้องกระตุกแขนกึ่งบังคับอีกรอบ ผลสุดท้ายคนเล่นองค์ก็ยอมตามมาอย่างไม่มีทางเลือก

     

     

     

     


     

    มาร์ค”

     

     

    “….”

     

     

    มาร์ค!”

     

     



    ค..ครับพี่”

     

     

     

    ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในร้าน ก็ส่งเสียงเรียกลูกจ้างคนใหม่ที่ยืนทำหน้าเหมือนวิญญาณหลุดอยู่ข้างประตู มาร์คเอาแต่เหม่อมองออกไปข้างนอก ไม่รู้มัวแต่สนใจอะไรอยู่

     

     


     

    ไปดูห้องน้ำข้างบนให้หน่อย เครื่องทำน้ำอุ่นยังใช้ได้อยู่มั้ย”

     

     

    “..ได้พี่แต่

     

     

    “….”

     

     

    คือ…..คุณ...คุณ....” พูดติดอ่าง ยกนิ้วชี้ไปทางนอกร้าน

     

     

    อะไร”

     

     

    เอ่อ..ผม..ผมไปก็ได้…จะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

     

     


    มาร์คทำท่าเหมือนอยากจะถามอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ตัดบทรีบวิ่งหายไปตามคำสั่งซะอย่างนั้น ฉันมองออกไปนอกประตูด้วยความสงสัย แต่ก็เห็นมีแค่จีซองที่กำลังวุ่นวายอยู่กับกระถางต้นไม้

     

     

     


    แล้วมาร์คต้องการจะสื่ออะไร..?

     

     


     


     

    "ไม่สนใจพ่อเลยรึไง"

     

     

    ห้ะ”

     



     

    อะไรนะ ใครวะพ่อ

     

     

     

    หรือว่าพ่อฉันมาที่ร้าน???

     

     


     

     

    ไหน ไม่เห็นมีเลยนี่

     

     

     

     

     


    ก็ไอขี้ตื๊อนั่นไง”

     

     

    “..ใคร”

     


     

    ถามด้วยความมึนงงสุดชีวิตจนโดนถอนหายใจใส่ เอ้า ก็นายหมายถึงใครวะ

     

     


     

    เดี๋ยวนะ…

     

     


     

    สติมารึยัง”

     

     


     

    จริงด้วย โรอุน!!

     

     

     


    ข..เขายังอยู่หรอ!?”

     

     


    มือที่ยังจับแขนดงยองอยู่ ล็อคแน่นขึ้นเพราะอาการแพนิคที่เพิ่งเกิด ลืมไปเลย ลืมแบบต้องใช้คำว่าลืมสิ้น! โรอุนกลายเป็นคนที่ถูกลืม เพราะฉันมัวแต่ห่วงไอหมอ…

     

     

     


     

    ไปแล้ว”

     

     

    ไป..ไปแล้วหรอ”

     

     

    เดินคอตกไปตั้งแต่ก่อนที่เธอจะลากฉันเข้ามาในร้าน”

     

     

    “….….”

     

     

    เหมือนจะรับไม่ได้ที่ไม่ได้รับความสนใจจากเธอ”

     

     

     

    วาจาคมกริบที่บาดลึกไปถึงหัวใจกลายเป็นเพียงเสียงนกเสียงกา เพราะตอนนี้ในหัวของฉันกำลังไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

     

     


     

    ตอนแรก..ฉันฝากจีซองบอกโรอุนให้ออกไปรอนอกร้าน

     

     


    ต่อมา ฉันยกถังม็อบขึ้นไปชั้นบน แล้วเทน้ำลงมา

     


     

    สุดท้าย ฉันวิ่งตกใจออกไปหาไอหมอ…

     

     

     


    เรียงทามไลน์แล้ว….โรอุนก็ต้องยังยืนอยู่หน้าร้านด้วยสิ

     

     

     


    แล้วฉันไม่เห็นได้ไงก่อน??

     

     

     


     

    เลิกจิตใจว้าวุ่นถึงหมอนั่น แล้วบอกมาว่าจะรับผิดชอบยังไง”

     

     

     

    ภาพและความคิดทั้งหมดในหัวถูกตัดฉับกลับมาที่หน้ายักษ์ของคิมโดยอง

     


     

    พูดเลย ศักดิ์สิทธิ์มาก แค่ประโยคเดียวกับสายตาเชือดเฉือน ก็ทำเอาอาการโฟเบียและความคิดฟุ้งซ่านหายเป็นปลิดทิ้ง แล้วก็เพิ่งรู้ตัวด้วยว่ามือของฉันยังเกาะแขนอีกฝ่ายเอาไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว ถึงกับต้องรีบปล่อยมือออกประหนึ่งโดนสิ่งต้องห้าม

     

     

     


     

    “…รับผิดชอบอะไร”

     

     

    ฉันไง”

     

     

    "..อ๋อ...ก็….

     

     

    “….”

     

     

    เดี๋ยวฉันพานายขึ้นไปใช้ห้องน้ำชั้นบน แต่รอน้องมาร์คเช็คเครื่องทำน้ำอุ่นแป๊บนึง"

     

     

    "...."

     

     

    "แล้วก็จีซอง…น้องที่อยู่หน้าร้าน….น่าจะมีชุดให้นายเปลี่ยน ตัวนายกับน้องน่าจะพอ ๆ กันอยู่"

     

     

    "...."

     

     

    "..ส่วนเสื้อผ้านาย ฉันจะส่งร้านซักรีดให้นะ"

     

     

    “….”

     

     

    “….”

     

     

    "แค่นี้?"

     

     


    ถามเย็นชามาก

     

     

     


    เครื่องดื่ม ขนมในร้าน อยากได้อะไรก็บอก ฉันจะจัดการให้”

     

     

    “….”

     

     

    ยังไม่พออีกหรอ

     

     

     

    "แล้ว..แล้วก็..."

     

     

    "...."

     

     

    "เดี๋ยวฉันยืมรถแม่ขับไปส่งนาย โอเคมั้ย"

     

     

     

    "เค"

     

     

     



     

     

     

     

     




    จะให้ไปส่งที่ไหน”

     

     

    คอนโด”

     


     

    รถเก๋งสี่ประตูที่อายุอานามเกือบเท่าครึ่งชีวิตของฉัน ออกตัวสู่ถนนใหญ่ด้วยสภาพออด ๆ แอด ๆ ภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูถลอกปอกเปิกเหมือนผ่านอะไรมานักต่อนัก ทำเอาผู้โดยสารจำเป็นมีสีหน้าไร้ความมั่นใจตั้งแต่ย่างก้าวขึ้นมา กระทั่งตอนนี้…

     

     

     

    ดงยองในชุดเสื้อยืดสีนีออนและกางเกงยีนส์ซีด (ของจีซอง) นั่งนิ่งคอเกร็งมองรอบทางเหมือนแมวตื่นถนน

     

     


     

    นี่”

     

     

    “….”

     

     

    ช่วยดูซ้ายแยกหน้าหน่อยได้มั้ย ฉันจะดูทางขวา”

     

     

    เธอขับรถเป็นจริงรึเปล่า”

     

     

    แล้วที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่เรียกว่าขับรึไง”

     

     


     

    อย่ามาดูถูกดูแคลนกันแบบนี้นะไอหมอ

     

     

     

    ไม่ได้ขับไม่เป็นโว้ย…………..แค่ขับไม่แข็ง

     

     

     

     


     

    ว้าย!”

     


     


    ปิ๊นนนนน!!!

     

     

     

     

                   ทั้ง ๆ ที่อุตส่าห์เตรียมไว้แล้วว่าให้ไอหมอมองซ้าย ฉันมองขวา แต่พอถึงแยกจริงฉันกลับเผลอมองซ้ายตามไอหมอ และสิ่งที่เกิดขึ้น คือ รถของฉันเกือบได้ปะทะกับเบนซ์ที่ขับผ่านมาจากอีกแยก…

     

     

     


    ไหนบอกจะดูทางขวาไง!”

     

               


    เสียงโวยของผู้โดยสารเรียกให้สติที่แตกกระเจิงกลับคืนมา และตระหนักรู้ว่าในตอนนี้เบนซ์คู่กรณีได้ขับจากไปไม่ทิ้งฝุ่นแล้ว เหลือแต่อีแก่คร่ำครึที่จอดเคว้งอยู่กลางสองแยกเพียงลำพัง

     


     

    หน้าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อค่อย ๆ หันมองคนนั่งข้างอย่างเลื่อนลอย แล้วก็พบว่าไอคนด่านั้นสภาพไม่ได้ดูดีไปกว่ากันเลย นายดงยองหน้าโคตรซีด ซีดเป็นไก่ต้ม ซีดแบบที่ว่าอาจจะต้องเปลี่ยนสถานะจากหมอมาเป็นคนไข้เสียเอง

     

     


     

    “…ขอโทษ”

     

     

    “….”

     

     

    มันลืมอ่ะ”

     

     

     

    เหตุผลสั้น ๆ อันแสนจริงใจทำคนฟังเหวอหนักกว่าเดิม ก็ลองคิดว่าตัวเองเป็นคนนั่งแล้วคนขับมันพูดแบบนี้ดู จะรู้สึกว่าชีวิตยังปลอดภัยอยู่มั้ย…

     

     

     

     

     

    หลังจากผ่านแยกมรณะมา นายหมอก็เอาแต่กวาดสายตามองรอบทางด้วยความหวาดระแวง ไม่เหลือแล้วความไว้ใจ ถ้าเอื้อมมือมาหมุนพวงมาลัยให้ได้ก็คงทำไปแล้ว

     

     

     

    ตกลงที่ฉันขับรถมาส่ง จะนับเป็นการชดเชยความผิดได้มั้ย หรือฉันกำลังทำให้ไอหมอรู้สึกเหมือนโดนลงโทษมากกว่า

     

     

     


     

    หมอ”

     

     

    “….”

     

     

    เรื่องที่ร้านอ่ะ ฉันขอโทษจริง ๆ นะ”

     

     

     

    ท่ามกลางบรรยากาศความเงียบ ฉันโพล่งคำขอโทษออกไปอย่างไม่สนจังหวะเวลา ก็พอนึกถึงเรื่องที่ร้าน มันก็นึกขึ้นมาได้ว่าฉันยังไม่ได้พูดขอโทษดี ๆ เลย

     

     

     

     

    ตั้งใจขับรถไปเถอะ”

     

     

    เดี๋ยว ฟังก่อนดิ”

     

     

    “….”

     

     

    คือว่าที่จริงแล้วอ่ะ”

     

     

    “….”

     

     

    ฉันตั้งใจจะเทน้ำใส่หมอนั่น แต่มันพลาดไปโดนนาย”

     

     

    ..อ่อ”

     

     

    ….

     

     

    “….

     

     

    “….”

     

     

    แล้วไง”

     

     

     


    เย็นชามาก

     

     

     

    เย็นชาจนหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจเลยพี่จ๋า T^T

     

     


     

    ที่พูดไป มันไม่ทำให้นายตัดสินโทษฉันน้อยลงบ้างเลยหรอหมอ!

     

     

     

     

     

     

    มีอาการรึเปล่า”

     

     

    “ห..ห้ะ?” อะไรนะ อยู่ ๆ ก็ถาม

     

     

    ตอนที่เจอหมอนั่น แพนิคไหม”

     

     

    “..อ๋อ…ก็นิดหน่อย”

     

     

    “….”

     

     

    ไม่หนักมาก เพราะฉันหลบอยู่หลังเคาน์เตอร์…แล้วก็หนีไปหลังร้าน”

     

     

    “….”

     

     

    “..ไม่ได้เจอกันตัวต่อตัว”

     

     

    แต่ตอนที่เธอออกมาหาฉันหน้าร้าน หมอนั่นก็ยังยืนอยู่”

     

     

    “….”

     

     

    แล้วทำไมไม่มีอาการ”

     

     


     

    เออ นั่นสิ

     

     


     

    “…ไม่รู้อ่ะ”

     

     

    ลองเดามา”

     

     

     

     

    ถ้ารู้ก็คงรักษาตัวเองจนหายแล้วมั้ง

     

     

     

    คนอะไรพูดทีเหมือนมีออร่าขู่กรรโชกคู่สนทนาตลอดเวลา

     

     

     


     

     

    “…คงเพราะฉันตกใจที่ทำพลาดใส่นาย เลยลืมว่าเขายังอยู่มั้ง”

     

     


    คิดว่าเหตุผลนี้แหละ ตอนนั้นหัวสมองฉันมันว่างเปล่ามาก

     

     


     

    ลืม?”

     

     

    “..อือ”

     

     

    ตัวสูงเป็นเสาไฟ ไม่อยู่ในสายตาเธอได้ไง”

     

     

    ก็ตอนนั้นฉันสนใจแค่นายนี่”

     

     

    “….”

     

     

    ฉันมองแต่นาย..”

     

     

    “….”

     

     

    มัวแต่ห่วงนายจนไม่ได้โฟกัสอะไรเลย”

     

     

    “………..”

     

     

     

    ตอบไปตามที่ใจนึก โดยไม่ได้หันไปมองว่าคนฟังทำหน้ายังไงอยู่ ไอหมอเงียบมาก เงียบจนงงว่าฉันพูดอะไรผิดไปรึเปล่า แต่ครั้นจะชำเลืองมองหน้าหาคำตอบ กลับเกิดเหตุการณ์วายป่วงขึ้นอีกครั้ง

     

     

     


     

    เฮ้ย! ไฟแดง!!

     

     

     

    เอี๊ยดดดดดด!!!

     

     

     

     

    ไฟแดงที่ไม่รู้ว่ามีอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ เล่นเอาขยับเท้าเหยียบเบรกแทบจะไม่ทัน โชคยังดีที่รถหยุดหน้าสี่แยกได้อย่างฉิวเฉียด

     

     

     


     

    แต่มีอย่างนึงที่หยุดไม่ทัน

     

     

     

     

    โป๊ก!

     

     


    โอ๊ย!”

     

     


     

    นั่นคือ หัวของไอหมอ

     

     

     


    หมอ…ฉันขอโทษ!”

     

     

     

    คนซวย 2022 เงยหน้าขึ้นจากคอนโซลรถ ไม่รู้ว่าสมองอันชาญฉลาดได้ไหลออกมาแล้วรึยัง ฉันรีบยื่นมือไปทาบหน้าผากที่เป็นรอยแดง หวังจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดด้วยความหวังดี

     

     

     

     

    เจ็บมั้ยอ่ะ ฉันไม่ทันมอง”

     

     

     

                ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่คนที่น่าจะเจ็บกลับชะงักมองหน้าฉันอย่างอ้ำอึ้ง ก่อนจะหลบสายตาไปทางอื่น ไม่เท่านั้นนิ้วเรียวยังค่อย ๆ ยกขึ้นดันข้อมือของฉันออก แล้วแทนที่ด้วยมือของตัวเอง

     

     

     

    เออ เอาสิ หวงเนื้อหวงตัวเป็นสาวแรกแย้ม ตัวเลี่ยมทองรึไงพูด

     

     

     


     

    แต่ว่านะ

     

     

     

     


    ทำไมแก้มไอหมอแดงจังวะ แดงจะแข่งกับหน้าผากที่เป็นรอยได้แล้ว

     

     

     

     


     

    เจ็บจนแก้มแดงเลยหรอ”

     

     

    “….”

     

     

    ให้พาไปโรงพยาบาลมั้ย”

     

     

    “..ไม่ต้อง”

     

     

    ….

     

     

    “ขับให้ถึงคอนโดก่อนเถอะ”

     

     

    อ้าว นี่พูดด้วยความหวังดีนะ”

     

     

    ไฟเขียวแล้ว เลิกมองหน้าสักที”

     

     

     

     

    อะไรวะ

     

     

     

    ฉันสะบัดหัว เลิกสนใจกับพฤติกรรมที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ แล้วตั้งใจขับรถในระยะทางสุดท้าย เพื่อไม่ให้โดนด่าอีก

     

     

     


    ผ่านไปสิบนาที ฉันก็พาไอหมอมาถึงหน้าคอนโดได้อย่างปลอดภัย และทันทีที่รถจอดสนิท เจ้าตัวก็ทำเพียงพึมพำขอบคุณสั้น ๆ ก่อนจะรีบปลดเบลท์ทำท่าจะหนีลงจากรถ แต่ก็ไม่ทันฉันที่เอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อยื้อเอาไว้

     

     

     

     

    หมับ!

     

     

     

     

    เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป”

     

     

    ..อะไร”

     

     

     

    นายหมอที่เซกลับมาตามแรงดึงหันมาถามด้วยความเลิกลั่ก จากแววตาที่เคยเฉยชา ตอนนี้มีความตื่นตระหนกซ่อนอยู่จนดูผิดวิสัย แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะคิดว่าคงเป็นเพราะตกใจที่ถูกดึงตัวกลับมากระทันหัน

     

     

     

     

     

    ยังโกรธอยู่หรอ”

     

     


                ถามอย่างข้องใจ ก็บรรยากาศแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นมาสักพัก มันทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากว่าไอหมอกำลังเคืองกันอยู่

     

     


     

     

    “..โกรธอะไร”

     

     

    ก็ทุกเรื่องวันนี้”

     

     

    “…เปล่า”

     

     

    “โกรธก็บอกว่าโกรธสิ”

     

     

    “ก็ไม่ได้โกรธ”

     

     

    “จะไม่โกรธได้ยังไง หน้าฉันนายยังไม่มองเลย”

     

     

     

                พูดไปตามความจริง และฉันก็รู้สึกได้ว่าไอหมอกำลังเลี่ยงฉันอยู่! แต่ยิ่งจ้อง ยิ่งซักไซ้ ก็เหมือนจะทำให้เจ้าตัวอึดอัด ฉันเลยต้องเบือนหน้ากลับมามองหน้าต่าง แล้วถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อ

     

     

     

    ฉันไม่ชอบให้ใครโกรธ ยิ่งเป็นไอหมอฉันยิ่งไม่สบายใจ ถ้าไม่เคลียร์กันให้จบ คืนนี้ฉันนอนไม่หลับแน่

     

     

     


     

    “ขอโทษนะ”

     

     

    “….”

     

     

    ขอโทษที่ขับรถห่วย”

     

     

    ….

     

     

    “ขอโทษที่เทน้ำไม่ดูตาม้าตาเรือ”

     

     

    ….

     

     

    “วันนี้มันกลายเป็นวันที่แย่ของนายเพราะฉันเลยอ่ะ ฉันขอโทษจริง ๆ นะ”

     

     

    ….

     

     

    “ฉันต้องทำยังไงนายถึงจะหายโกรธ T^T

     

     

    ….

     

     

    “ต้องลงไปนั่งคุกเข่าสำนึกผิดหน้าคอนโดเลยมั้ย ฉันทำได้นะ”

     

     

    "ไม่ต้อง"

     

     

    "มีอะไรก็พูดมาตรง ๆ สิหมอ"

     

     

    “ก็บอกว่าไม่ได้โกรธไง”

     

     

    “ไม่ได้โกรธ แล้วที่เป็นอยู่ตอนนี้มันคืออะไรอ่ะ”

     

     

    “งั้นฉันโกรธก็ได้”

     

     

    ..ห้ะ”

     

     

    “เธอจะได้ปล่อยฉันไปสักที”

     

     

    “ไม่ ไม่เอาแบบนี้ดิ!

     

     

     

                ฉันรีบคว้าแขนคนที่ทำท่าจะคว้าประตูหนี ไอหมอมันเป็นอะไร คนที่ต้องกลัวคือฉันต่างหาก! ฉันสิต้องกลัวแก เพราะแกโกรธอยู่นะโว้ย แต่ทำไมแกทำเหมือนจะเป็นฝ่ายหนีฉันไปอ่ะ

     

     


     

    “อะไรของเธอ ปล่อยฉัน!

     

     

    “ฮืออ ขอร้อง นายอย่าเป็นแบบนี้สิ T^T”

     

     

     

                สองมือล็อคแขนไอหมอแน่นไม่ยอมปล่อย คนที่ทำท่าเลี่ยงสุดชีวิตก็พยายามจะดึงสู้

     

     


     

    “ฉันจะไม่ปล่อยจนกว่าเราจะคุยกันให้จบ”

     

     

    แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอแล้ว..

     

     

    “อย่างน้อยก็ให้ฉันทำอะไรให้นายสักอย่างสิ”

     

     

    ….

     

     

    “อะไรก็ได้ที่จะทำให้นายยกโทษให้ฉันอ่ะ”

     

     

    ….

     

     

    “นะ ๆ T^T ให้ฉันได้ชดใช้ความผิดที่ทำกับนายในวันนี้”

     

     

     

                คนฟังถอนหายใจ ตาคมที่เลี่ยงตลอดการสนทนาเลื่อนมาสบสายตาอย่างสิ้นจนหนทาง

     

     

     

     

    “ถ้าฉันพูด เธอจะปล่อยฉันลงจากรถใช่ไหม”

     

     

    ...ใช่”

     

     

    “ก็ได้”

     

     

    ….

     

     

    งั้นก็เลิกขับรถซะ

     

                                          

    ..ห้ะ”

     

     

    “การขับรถของเธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต”

     

     

    ……………….

     

     

    “แค่นี้ ไปนะ”

     

     

     

    ไม่ทันที่จะตั้งสติกับคำพูดของไอหมอ เจ้าตัวที่ทิ้งคำสั่งเสียเอาไว้ก็รีบหนีลงจากรถ แล้วเดินเร็วเข้าคอนโดไปอย่างไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้รั้งเอาไว้อีก

     

     



     

    ขอโทษนะ

     

     

     


    แต่เมื่อกี้ขอหรือด่าอ่ะ

     

     

     


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    TBC


    ทุกคน...เรามาแล้ว / หลบสายตา

    ขอโทษที่มาอัพในเด็กดีช้ากว่ารอร. 1 สัปดาห์นะคะ เพราะว่ามันต้องจัดหน้าเยอะกว่า เพิ่งมีโอกาสแตะคอมวันนี้เอง T^T


    สำหรับ 5 เดือนที่หายตัวไป ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเลยค่ะ ㅠㅠ แค่ว่าเรื่องราวในชีวิตจริง มันดูดพลังงานลาเวนเด้อของเราไปจนหมด เราไม่สามารถกลับมาแต่งฟิคได้ เหมือนกับว่าโดนโลกความเป็นจริงตบหน้า จนจำลองโลกจินตนาการต่อไปไม่ได้

     

    แต่ๆๆ เราพยายามจะดึงตัวเองกลับมาอยู่ค่ะ มันยังเป็นงานอดิเรกที่เราชอบอยู่ และเป็นทางเดียวที่จะสลัดโลกความจริงออกไปจากหัวได้ เราพยายามจะกลับมาสนุกกับมันอยู่นะคะ คิดถึงตัวเองเมื่อก่อนมากๆ ที่นับวันรอเวลาว่างมานั่งแต่งฟิค

     

    คิดว่าคนอ่านน่าจะหายไปเยอะ เพราะเราเองที่หายไปนาน ส่วนคนที่ยังเหลืออยู่ เราสัญญาว่าจะแต่งต่อจนจบค่ะ เราจะพาคุณหมอไปถึงตอนจบให้ได้ อาจจะตันบ้างอะไรบ้าง (ไปๆมาๆแนวรอมคอมยากกว่าดราม่าอีก555) แต่มันต้องจบบบบสิ

     

    ฮือออ สุดท้ายนี้ ใครยังอยู่ถึงตรงนี้ เม้นกันหน่อยนะคะ คอมเม้นของรีดคือยารักษาใจของไรท์เตอร์ค่ะ ㅠㅠ แล้วพบกันตอนหน้านะคะ

     

     

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×