คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro
“อีกแล้วหรอมินรี”
“….”
“ไปหาหมอมั้ย ฉันแนะนำให้ได้นะ”
ฉันที่นั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองยัยฮเยรินอย่างไม่เชื่อหู ไปหาหมอ? ต้องหาหมอเลยหรอ???
“แกจะบ้าหรอ!”
“แกนั่นแหละบ้าไปแล้ว คนอะไรเห็นแฟนเก่าทีไรคลุ้มคลั่งตลอด”
“..ก็….ฮืออ...ทำไงได้อ่ะ”
“อาการแกมันไม่ปกตินะฉันว่า ร้องไห้ไม่เท่าไหร่ แต่ตัวสั่น แล้วจะอ้วกทุกครั้งน่ะ..”
“แค่เครียดแหละ”
“แค่เครียดก็หาหมอได้ ไปหาจิตแพทย์ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นบ้านะมินรี มันคือเรื่องปกติ”
“….”
“แกควรปรึกษาหมอ ยิ่งต้องเจอโรอุนที่บริษัทแทบทุกวั..”
“หยุด! อย่าพูดชื่อหมอนั่น! ฉันคลื่นไส้แล้ว”
“ตาย ๆ แย่แล้วแกน่ะ แค่พูดชื่อเหงื่อก็ไหลเป็นน้ำ”
ฉันยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบ ที่บอกว่าคลื่นไส้ไม่ใช่เรื่องโกหก และที่ฮเยรินบอกว่าฉันเหงื่อตกก็เป็นเรื่องจริง แค่ได้ยินชื่อของหมอนั่นร่างกายมันก็รวนไปหมด
“ฉันรู้จักผู้ปกครองเด็กที่โรงเรียนอยู่คนนึง เขาเป็นจิตแพทย์อยู่โรงบาลเอกชน”
“หรอ โรงบาลไหน”
“โรงบาลโซล หมอคนนี้ก็โอเคนะ คนรู้จักฉันเคยไปหาก็ว่าเก่ง”
“….”
“แต่ต้องทำใจนิดนึง หมอเป็นคนดุ”
“ดุแล้วมาเป็นจิตแพทย์ได้ไง”
“เอาน่า เก่งก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันส่งเบอร์โรงบาลให้แก แกก็นัดไปนะ หมอชื่อ คิม โด ยอง”
หลังจากโยนหัวโยนก้อยมาสามวัน สุดท้ายก็ตัดสินใจมาหาหมอที่ฮเยรินเป็นคนแนะนำ จะไม่หาก็ไม่ได้หรอก ถ้าไม่ทำให้ไออาการบ้า ๆ นี่หายขาด ฉันทำงานไม่ได้แน่ แค่เห็นอดีตแฟนเก่าที่เพิ่งย้ายมาเป็นบอร์ดบริหารเดินอยู่ไกล ๆ ฉันก็อยู่ไม่สุขแล้ว!
“สวัสดีค่..”
ฉันที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องตรวจ กำลังจะสวัสดีหมอตามมารยาท แต่พอเห็นใบหน้าของอีกคนที่เงยขึ้นมอง คำทักทายก็ถูกกลืนลงท้องไปในทันที
…..นี่มันนายดงยอง…ที่เคยอยู่ม.ปลายห้องเดียวกันไม่ใช่หรอ!?!?
หล่อขึ้นจนเกือบจำไม่ได้ หน้าก็ใสกว่าเมื่อก่อนด้วย
เปลี่ยนชื่อเป็นโดยองรึไง
“นั่งสิครับ”
แต่….เราสองคนไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่
แล้วฉันจะต้องเอาปัญหาชีวิตมาปรึกษาหมอนี่เนี่ยนะ น่าอายชะมัด!
“จะยืนหรอครับ”
“อ..อ้อ นั่งค่ะ”
ฉันสะดุ้ง ก่อนจะรีบนั่งลงบนเก้าอี้ ตาก็มองแต่นายดงยองที่กำลังก้มอ่านใบประวัติของฉัน ดูทรงแล้วน่าจะจำกันไม่ได้ แต่ไม่เจอเลยเป็นสิบปี จะลืมก็คงไม่แปลก
“เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ตัวสั่น เหงื่อออก ทุกครั้งที่เห็นหน้าหรือได้ยินชื่อของแฟนเก่า?”
คนตรงหน้าขมวดคิ้วทวนถามอาการของฉันที่พยาบาลเขียนเอาไว้ในกระดาษนั่น พอเห็นหน้าตางง ๆ ของหมอนี่แล้ว ก็ยิ่งไม่อยากเล่า
ก็เพื่อนที่เคยเตะขาเก้าอี้ขอลอกข้อสอบอ่ะ
แม่งเอ๊ย
“ตอบผมสิครับ”
“..ใช่ค่ะ” โตขึ้นแล้วดุจังวะ
“มันเป็นเพราะอะไร”
“เพราะแฟนเก่าไง”
“ผมหมายถึงสาเหตุที่ทำให้คุณมีอาการกับเขา”
“….”
“รักมากหรือว่าจุดจบมันแย่จนฝังใจ”
“….”
ทั้งสองอย่างมั้ง…
พูดแบบนี้เอามีดมาแทงกันเลยเถอะ
“ระหว่างคุณกับเขามันเป็นยังไง เล่าให้ผมฟังหน่อย”
ฉันกะพริบตามองหน้านายหมออย่างลังเล รู้สึกแปลก ๆ ที่จะต้องพูดเรื่องส่วนตัวให้คนไม่สนิทฟัง แต่สายตากดดันที่จ้องมองมา ก็ทำให้ฉันต้องตั้งสติ ไล่เรียงความคิด แล้วเริ่มเปิดปากเล่าอย่างใจเย็น
“ฉันกับเขา..เราคบกันมาสิบปี”
“….”
“ตั้งแต่เรียนมหาลัยจนทำงาน…เขาอยู่กับฉันแทบจะทุกช่วงเวลาที่สำคัญ”
“….”
“…มันก็ค่อนข้างผูกพัน..” เล่าแค่นี้ปากก็เริ่มสั่นแล้ว เพราะภาพในหัวกำลังรีรันความทรงจำอันหอมหวานในอดีต
“….”
“เราเลิกกันเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา เพราะเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว”
“คบซ้อนหรอ”
“ไม่เชิง…เป็นคนที่ทางบ้านเขาวางตัวไว้”
“….”
“แล้วเขาก็เพิ่งตัดสินใจบอกเรา เพราะกลัวว่าเราจะเสียใจ”
“….” นายหมอเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตาก็มองมาอย่างเห็นอกเห็นใจ(?)
“....”
“แล้วทุกวันนี้ทำไมยังเจอเขาอยู่”
“ทำงานที่เดียวกัน”
“ตั้งแต่แรกเลย?”
“เปล่า…เขาเพิ่งย้ายเข้ามาเป็นบอร์ดบริหารที่บริษัทของฉันเมื่อสองเดือนก่อน”
“แล้วอาการที่คุณบอกมา เป็นตั้งแต่เลิกกับเขาเลยหรือยังไง”
“..ก็เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น แต่อาการจะชัดสุดก็ต่อเมื่อเจอตัวเป็น ๆ”
“แปลว่าสองเดือนนี้อาการคุณหนักขึ้น?”
“..อ่า..ค่ะ”
“แฟนเก่าคุณชื่ออะไร”
“โร…อุน”
“อ่อ โรอุน”
“….” แสลงหูมาก ให้ตาย
“แฟนเก่าคุณชื่อโรอุนใช่มั้ย”
“..ใช่”
“โอเค โรอุน”
“….”
“โรอุนนามสกุลอะไรหรอ”
ก..กวนตีน!!!!
จากที่เฉย ๆ กลายเป็นเริ่มเวียนหัวแล้ว จะย้ำชื่อทำไมนักหนา!!!
“เหงื่อออก” ดวงตาตี๋ที่ดูกวนประสาทนั่นลอบมองใบหน้าและคอของฉัน ก่อนจะพูดทักขึ้นมา ยังไง เมื่อกี้คือลองใจ จะดูอาการงี้หรอ เกือบลุกขึ้นต่อยปากแล้วนะ
“….”
“รู้สึกยังไงที่ผมเรียกชื่อเขา”
รู้สึกอยากต่อยหมอ
“เวียนหัวค่ะ”
“มีอะไรอีกไหม”
“ไม่ค่ะ”
“ผมยังไม่แน่ใจอาการของคุณ แต่ที่แน่ ๆ คุณมีความเครียดสะสม”
“…แต่ฉันว่ามันแปลก”
ถึงจะค้านยัยฮเยรินที่ชอบว่าฉันไม่ปกติมาตลอด แต่ก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน ถ้าแค่เครียดมันจำเป็นจะต้องวิ่งไปอ้วกทุกครั้งที่เห็นหน้าไหม แล้วไออาการเหงื่อท่วม ตัวสั่นอีก มันจะแค่เครียดจริงดิ
“อาการหนักสุดเป็นยังไง”
“..ก็คงเป็นตอนที่เดินสวนกับเขา แล้วเขาทัก”
“….”
“มันหูอื้อตาลายเหมือนจะเป็นลม คลื่นไส้จนต้องวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำ หลังจากนั้นตัวก็สั่นอยู่พักใหญ่”
“แล้วไม่บอก”
“….” อ้าว
“ของคุณผมแทงไว้สองแบบนะ”
“….”
“แบบแรกคือคุณมีภาวะเครียดสะสม”
“….”
“แบบที่สองคือคุณกลัวแฟนเก่าตัวเอง”
“ห๊ะ”
“มันก็คือความกลัวอย่างนึง เหมือนที่บางคนกลัวแมลง ดารากลัวผลไม้ กลัวมากจนเป็นลมหรือมีอาการอื่น ๆ ที่เกินกว่าปกติ”
“….”
“คนเป็นโรคกลัวความรักก็ยังมี”
“มีด้วยหรอ มันเป็นยังไงอ่ะ”
“ก็กลัวที่จะต้องเริ่มความสัมพันธ์กับใคร”
“….” แปลกจัง
“อาการก็คล้าย ๆ คุณนั่นแหละ”
“….” จริงดิ
“แต่คุณสนใจปัญหาของคุณก่อนเถอะ”
“……….” แล้วจะพูดให้อยากรู้ทำไม!
“ดูแล้วน่าจะกระทบงานคุณนะ”
“..ใช่ค่ะ…แล้วฉันควรทำยังไง”
“ลาออก”
“ห๊ะ!!”
ไอหมอ !!!
“แล้วก็ลองหาคนใหม่ดูจะได้ลืมคนเก่า”
“….” นั่นคือคำแนะนำของคนเป็นหมอเหรอ!!
คิมดงยอง อะไรดลใจให้คนอย่างแกมาเป็นจิตแพทย์วะ ไม่น่ารอดนะ
“มาให้ผมดูอาการคุณอีกทีสัปดาห์หน้านะ”
“นี่ฉันต้องมาหาหมออีกหรอ”
“มีปัญหาหรอครับ”
“..เปล่าค่ะ”
“งั้นเจอกันเสาร์หน้าครับ ขอบคุณ”
เปลี่ยนหมอ ฉัน จะ เปลี่ยน หมอ!!
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
TBC
อืม ยุ่งนะ แต่ก็เปิดฟิคอีก55555
อยากแต่งใสใสคลายเครียดค่ะ แค่นั้นเลย
ถ้าผ่านมา เม้นด้วยนะคะ T-T
EDIT: แก้คำบรรยาย (08/04/21)
ความคิดเห็น