ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
[NCT X You] Love Phobia

ลำดับตอนที่ #1 : Intro

  • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 64


Intro

 

 

 

“อีกแล้วหรอมินรี”

 

 

….

 

 

“ไปหาหมอมั้ย ฉันแนะนำให้ได้นะ”

 

 

 

            ฉันที่นั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองยัยฮเยรินอย่างไม่เชื่อหู ไปหาหมอ? ต้องหาหมอเลยหรอ???

 

 

 

 

 

“แกจะบ้าหรอ!

 

 

“แกนั่นแหละบ้าไปแล้ว คนอะไรเห็นแฟนเก่าทีไรคลุ้มคลั่งตลอด”

 

 

..ก็….ฮืออ...ทำไงได้อ่ะ”

 

 

“อาการแกมันไม่ปกตินะฉันว่า ร้องไห้ไม่เท่าไหร่ แต่ตัวสั่น แล้วจะอ้วกทุกครั้งน่ะ..

 

 

“แค่เครียดแหละ”

 

 

“แค่เครียดก็หาหมอได้ ไปหาจิตแพทย์ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นบ้านะมินรี มันคือเรื่องปกติ”

 

 

….

 

 

“แกควรปรึกษาหมอ ยิ่งต้องเจอโรอุนที่บริษัทแทบทุกวั..

 

 

“หยุด! อย่าพูดชื่อหมอนั่น! ฉันคลื่นไส้แล้ว”

 

 

“ตาย ๆ แย่แล้วแกน่ะ แค่พูดชื่อเหงื่อก็ไหลเป็นน้ำ”

 

 

 

            ฉันยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบ ที่บอกว่าคลื่นไส้ไม่ใช่เรื่องโกหก และที่ฮเยรินบอกว่าฉันเหงื่อตกก็เป็นเรื่องจริง แค่ได้ยินชื่อของหมอนั่นร่างกายมันก็รวนไปหมด

 

 

 

 

“ฉันรู้จักผู้ปกครองเด็กที่โรงเรียนอยู่คนนึง เขาเป็นจิตแพทย์อยู่โรงบาลเอกชน”

 

 

“หรอ โรงบาลไหน”

 

 

“โรงบาลโซล หมอคนนี้ก็โอเคนะ คนรู้จักฉันเคยไปหาก็ว่าเก่ง”

 

 

….

 

 

“แต่ต้องทำใจนิดนึง หมอเป็นคนดุ”

 

 

“ดุแล้วมาเป็นจิตแพทย์ได้ไง”

 

 

“เอาน่า เก่งก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันส่งเบอร์โรงบาลให้แก แกก็นัดไปนะ หมอชื่อ คิม โด ยอง

 

 

 

 

 

            หลังจากโยนหัวโยนก้อยมาสามวัน สุดท้ายก็ตัดสินใจมาหาหมอที่ฮเยรินเป็นคนแนะนำ จะไม่หาก็ไม่ได้หรอก ถ้าไม่ทำให้ไออาการบ้า ๆ นี่หายขาด ฉันทำงานไม่ได้แน่ แค่เห็นอดีตแฟนเก่าที่เพิ่งย้ายมาเป็นบอร์ดบริหารเดินอยู่ไกล ๆ ฉันก็อยู่ไม่สุขแล้ว!

 

 

 

 

 

 

“สวัสดีค่..

 

 

 

            ฉันที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องตรวจ กำลังจะสวัสดีหมอตามมารยาท แต่พอเห็นใบหน้าของอีกคนที่เงยขึ้นมอง คำทักทายก็ถูกกลืนลงท้องไปในทันที

 

 

 

 

 

…..นี่มันนายดงยองที่เคยอยู่.ปลายห้องเดียวกันไม่ใช่หรอ!?!?

 

 

 

 

 

หล่อขึ้นจนเกือบจำไม่ได้ หน้าก็ใสกว่าเมื่อก่อนด้วย

 

 

 

 

 

เปลี่ยนชื่อเป็นโดยองรึไง

 

 

 

 

 

 

“นั่งสิครับ”

 

 

 

 

 

แต่….เราสองคนไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่

 

 

 

 

 

แล้วฉันจะต้องเอาปัญหาชีวิตมาปรึกษาหมอนี่เนี่ยนะ น่าอายชะมัด!

 

 

 

 

 

 

“จะยืนหรอครับ”

 

 

“อ..อ้อ นั่งค่ะ”

 

 

 

            ฉันสะดุ้ง ก่อนจะรีบนั่งลงบนเก้าอี้ ตาก็มองแต่นายดงยองที่กำลังก้มอ่านใบประวัติของฉัน ดูทรงแล้วน่าจะจำกันไม่ได้ แต่ไม่เจอเลยเป็นสิบปี จะลืมก็คงไม่แปลก

 

 

 

 

 

“เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ตัวสั่น เหงื่อออก ทุกครั้งที่เห็นหน้าหรือได้ยินชื่อของแฟนเก่า?”

 

 

 

คนตรงหน้าขมวดคิ้วทวนถามอาการของฉันที่พยาบาลเขียนเอาไว้ในกระดาษนั่น พอเห็นหน้าตางง ๆ ของหมอนี่แล้ว ก็ยิ่งไม่อยากเล่า

 

 

 

 

 

ก็เพื่อนที่เคยเตะขาเก้าอี้ขอลอกข้อสอบอ่ะ

 

 

 

 

แม่งเอ๊ย

 

 

 

 

 

“ตอบผมสิครับ”

 

 

..ใช่ค่ะ” โตขึ้นแล้วดุจังวะ

 

 

“มันเป็นเพราะอะไร”

 

 

“เพราะแฟนเก่าไง”

 

 

“ผมหมายถึงสาเหตุที่ทำให้คุณมีอาการกับเขา”

 

 

….

 

 

“รักมากหรือว่าจุดจบมันแย่จนฝังใจ”

 

 

….

 

 

 

ทั้งสองอย่างมั้ง

 

 

 

 

พูดแบบนี้เอามีดมาแทงกันเลยเถอะ

 

 

 

 

 

“ระหว่างคุณกับเขามันเป็นยังไง เล่าให้ผมฟังหน่อย”

 

 

 

 

            ฉันกะพริบตามองหน้านายหมออย่างลังเล รู้สึกแปลก ๆ ที่จะต้องพูดเรื่องส่วนตัวให้คนไม่สนิทฟัง แต่สายตากดดันที่จ้องมองมา ก็ทำให้ฉันต้องตั้งสติ ไล่เรียงความคิด แล้วเริ่มเปิดปากเล่าอย่างใจเย็น

 

 

 

 

“ฉันกับเขา..เราคบกันมาสิบปี”

 

 

….

 

 

“ตั้งแต่เรียนมหาลัยจนทำงานเขาอยู่กับฉันแทบจะทุกช่วงเวลาที่สำคัญ”

 

 

….

 

 

มันก็ค่อนข้างผูกพัน..” เล่าแค่นี้ปากก็เริ่มสั่นแล้ว เพราะภาพในหัวกำลังรีรันความทรงจำอันหอมหวานในอดีต

 

 

….

 

 

“เราเลิกกันเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา เพราะเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว”

 

 

“คบซ้อนหรอ”

 

 

“ไม่เชิงเป็นคนที่ทางบ้านเขาวางตัวไว้”

 

 

….

 

 

“แล้วเขาก็เพิ่งตัดสินใจบอกเรา เพราะกลัวว่าเราจะเสียใจ”

 

 

….” นายหมอเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตาก็มองมาอย่างเห็นอกเห็นใจ(?)

 

 

....

 

 

“แล้วทุกวันนี้ทำไมยังเจอเขาอยู่”

 

 

“ทำงานที่เดียวกัน”

 

 

“ตั้งแต่แรกเลย?”

 

 

“เปล่าเขาเพิ่งย้ายเข้ามาเป็นบอร์ดบริหารที่บริษัทของฉันเมื่อสองเดือนก่อน”

 

 

“แล้วอาการที่คุณบอกมา เป็นตั้งแต่เลิกกับเขาเลยหรือยังไง”

 

 

..ก็เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น แต่อาการจะชัดสุดก็ต่อเมื่อเจอตัวเป็น ๆ”

 

 

“แปลว่าสองเดือนนี้อาการคุณหนักขึ้น?”

 

 

..อ่า..ค่ะ”

 

 

“แฟนเก่าคุณชื่ออะไร”

 

 

“โรอุน”

 

 

“อ่อ โรอุน

 

 

….” แสลงหูมาก ให้ตาย

 

 

“แฟนเก่าคุณชื่อโรอุนใช่มั้ย”

 

 

..ใช่”

 

 

“โอเค โรอุน

 

 

….

 

 

โรอุนนามสกุลอะไรหรอ”

 

 

 

 

 

..กวนตีน!!!!

 

 

 

 

จากที่เฉย ๆ กลายเป็นเริ่มเวียนหัวแล้ว จะย้ำชื่อทำไมนักหนา!!!

 

 

 

 

 

“เหงื่อออก” ดวงตาตี๋ที่ดูกวนประสาทนั่นลอบมองใบหน้าและคอของฉัน ก่อนจะพูดทักขึ้นมา ยังไง เมื่อกี้คือลองใจ จะดูอาการงี้หรอ เกือบลุกขึ้นต่อยปากแล้วนะ

 

 

 

….

 

 

“รู้สึกยังไงที่ผมเรียกชื่อเขา”

 

 

 

 

รู้สึกอยากต่อยหมอ

 

 

 

 

“เวียนหัวค่ะ”

 

 

“มีอะไรอีกไหม”

 

 

“ไม่ค่ะ”

 

 

“ผมยังไม่แน่ใจอาการของคุณ แต่ที่แน่ ๆ คุณมีความเครียดสะสม”

 

 

แต่ฉันว่ามันแปลก”

 

 

 

ถึงจะค้านยัยฮเยรินที่ชอบว่าฉันไม่ปกติมาตลอด แต่ก็แอบคิดอยู่เหมือนกัน ถ้าแค่เครียดมันจำเป็นจะต้องวิ่งไปอ้วกทุกครั้งที่เห็นหน้าไหม แล้วไออาการเหงื่อท่วม ตัวสั่นอีก มันจะแค่เครียดจริงดิ

 

 

 

 

“อาการหนักสุดเป็นยังไง”

 

 

..ก็คงเป็นตอนที่เดินสวนกับเขา แล้วเขาทัก”

 

 

….

 

 

“มันหูอื้อตาลายเหมือนจะเป็นลม คลื่นไส้จนต้องวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำ หลังจากนั้นตัวก็สั่นอยู่พักใหญ่”

 

 

“แล้วไม่บอก”

 

 

….” อ้าว

 

 

“ของคุณผมแทงไว้สองแบบนะ”

 

 

….

 

 

“แบบแรกคือคุณมีภาวะเครียดสะสม”

 

 

….

 

 

“แบบที่สองคือคุณกลัวแฟนเก่าตัวเอง

 

 

“ห๊ะ”

 

 

“มันก็คือความกลัวอย่างนึง เหมือนที่บางคนกลัวแมลง ดารากลัวผลไม้ กลัวมากจนเป็นลมหรือมีอาการอื่น ๆ ที่เกินกว่าปกติ”

 

 

….

 

 

คนเป็นโรคกลัวความรักก็ยังมี

 

 

“มีด้วยหรอ มันเป็นยังไงอ่ะ”

 

 

“ก็กลัวที่จะต้องเริ่มความสัมพันธ์กับใคร”

 

 

….” แปลกจัง

 

 

“อาการก็คล้าย ๆ คุณนั่นแหละ”

 

 

….” จริงดิ

 

 

“แต่คุณสนใจปัญหาของคุณก่อนเถอะ”

 

 

……….” แล้วจะพูดให้อยากรู้ทำไม!

 

 

 

“ดูแล้วน่าจะกระทบงานคุณนะ”

 

 

..ใช่ค่ะแล้วฉันควรทำยังไง”

 

 

 

 

 

“ลาออก”

 

 

“ห๊ะ!!

 

 

 

 

 

ไอหมอ !!!

 

 

 

 

 

 

“แล้วก็ลองหาคนใหม่ดูจะได้ลืมคนเก่า”

 

 

….” นั่นคือคำแนะนำของคนเป็นหมอเหรอ!!

 

 

 

 

 

คิมดงยอง อะไรดลใจให้คนอย่างแกมาเป็นจิตแพทย์วะ ไม่น่ารอดนะ

 

 

 

 

 

 

“มาให้ผมดูอาการคุณอีกทีสัปดาห์หน้านะ”

 

 

“นี่ฉันต้องมาหาหมออีกหรอ”

 

 

“มีปัญหาหรอครับ”

 

 

..เปล่าค่ะ”

 

 

“งั้นเจอกันเสาร์หน้าครับ ขอบคุณ”

 

 

 

 

 

 

เปลี่ยนหมอ ฉัน จะ เปลี่ยน หมอ!!





- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

TBC

อืม ยุ่งนะ แต่ก็เปิดฟิคอีก55555

อยากแต่งใสใสคลายเครียดค่ะ แค่นั้นเลย

ถ้าผ่านมา เม้นด้วยนะคะ T-T


EDIT: แก้คำบรรยาย (08/04/21)


T
B
ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture