คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
1
ร่างสมส่วนเงยหน้าจากกองเอกสารบนโต๊ะ ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ แล้วทิ้งสายตามองออกไปนอกบานกระจกใสของหน้าต่าง ความเหนื่อยล้าจากการนั่งทบทวนสัญญาของบริษัทคู่ค้า ทำให้เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลง ทั้งง่วง ทั้งเบื่อ อยากจะหลุดพ้นจากชีวิตที่เหมือนกับหุ่นยนต์ แต่ก็คงได้แค่คิด เพราะชีวิตจริงมันไม่ง่ายเช่นนั้น
อย่างน้อยก็พ่อคนนึงแล้วที่คอยชี้เส้นทางและสร้างกำแพงกักกันเขาเอาไว้
คนที่จมอยู่ในภวังค์ ลืมตาขึ้นมองโทรศัพท์ตั้งโต๊ะที่แผดเสียงดังน่ารำคาญ ถึงสายที่โทรเข้ามามักจะมีเรื่องด่วนและเหตุจำเป็น แต่เขากลับทำเพียงปรายตามองวัตถุต้นเสียงด้วยสายตาเหนื่อยอ่อน ก่อนจะยอมปล่อยปากกาในมือลงกับโต๊ะ แล้วเอื้อมไปยกหูโทรศัพท์ด้วยท่าทางนวยนาด
“ฮัลโหล”
[..ท่านรองคะ]
“….”
[คุณเดโอจาก BHT มาแล้วนะคะ]
“อ่อ” เสียงเข้มตอบรับ แต่คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เพราะน้ำเสียงที่ฟังดูแปลกไปของเลขาหน้าห้อง “ให้เขาเข้ามาเลย”
[แต่ท่านรองคะ]
“….” เสียงของเลขาสาวเบาลงคล้ายกับเรื่องที่กำลังจะพูดต่อเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้คนที่อยู่กับเธอตรงนั้นได้ยิน
[คุณเดโอหน้าเหมือนคุณโดยองเลยค่ะ]
“……….” ดวงตาที่มองเหม่อชะงักไปกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนที่จะดึงสติกลับมาถามปลายสาย “หมายความว่าไงเลขาคัง”
[ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะคะ พนักงานของเราเห็นเขาก็ซุบซิบกันไปทั่วเลย]
“ให้เขาเข้ามา” กล่าวคำสั่งออกไปด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ก่อนที่จะวางหูโทรศัพท์
เขาอยากจะเห็นคนที่เลขาพูดถึงอยู่เต็มทน ก่อนหน้านี้ คุณหรือคู่หมั้นของเขา ก็เคยมาบอกว่าเจอคนที่หน้าเหมือนกับคิมโดยองที่งานประกาศรางวัลเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ตอนนั้นปากที่พูดให้คุณใจเย็น ในใจกลับคิดว่าคุณฟุ้งซ่านจนมองผิด และมันคงไม่ต่างจากครั้งที่ผ่าน ๆ มาของคุณ
แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้…สิ่งที่คุณเห็นมันจะเป็นความจริง
บานประตูห้องถูกเปิดออกโดยเลขาที่เพิ่งต่อสายคุยด้วย ใบหน้าสวยหันมาทางคนหน้าโต๊ะ พร้อมกับทำหน้าประหลาดใส่ ราวกับว่าถ้าเขาเห็นแขกที่ถูกเชิญมาจะต้องได้อึ้งไปตาม ๆ กัน
ร่างสูงโปร่งที่เดินตามหลังเข้ามาในห้อง เรียกสายตาของเจ้าของโต๊ะประจำตำแหน่งให้มองไป ใบหน้านิ่งติดเย็นชาของคนมาใหม่ ทำเอาคนที่นั่งอยู่มองตาค้าง ที่เลขาของเขาพูดนั้นไม่เกินจริงแม้แต่น้อย คนที่มาปรากฏตัว คนที่เป็นตัวแทนจากบริษัทหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาตีตลาดในเกาหลี คนที่หยุดยืนมองเขาอยู่กลางห้อง คน ๆ นั้นหน้าตาเหมือนเพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้วหกปีราวกับแกะ
ตั้งแต่หัวจรดเท้า ต่างกันก็แค่ทรงผมที่ถูกจัดให้เข้าทรง
ดูเป็นคิมโดยองในเวอร์ชั่นที่โตขึ้น
“สวัสดีครับ”
“….”
“คุณอีแทยง”
และไม่ใช่แค่ภายนอก แต่เสียงก็เหมือน
แทยงที่อึ้งมอง ได้สติกลับมาเพราะถ้อยคำทักทายจากคนกลางห้อง ร่างสมส่วนหยัดยืนขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งมากว่าครึ่งวัน ก่อนจะผายมือและพูดเชิญคนที่หน้าเหมือนคนรู้จักให้ไปนั่งคุยกันที่โซฟารับรองแขกอีกมุมหนึ่งของห้อง
“รับกาแฟมั้ยครับ ผมจะได้บอกเลขา” คนเป็นเจ้าถิ่นที่นั่งจับจองบนโซฟาคนละตัวกับคนที่นั่งอยู่เยื้องกัน เอ่ยถามด้วยสายตากึ่งสับสน มาถึงตอนนี้เขาก็ยังคงรู้สึกแปลก ๆ ที่ได้เจอกับคนที่หน้าเหมือนเพื่อนของตัวเองขนาดนี้
“ไม่เป็นไรครับ ผมคงอยู่ไม่นาน”
“….”
“จริง ๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาคุยเรื่องสัญญากับคุณหรอกครับ และผมก็ขอพูดตามตรงว่าผมคงไม่สนใจ”
“….” คนฟังทำหน้าไม่ถูก เขายังคงตั้งรับกับการปรากฏตัวของคนตรงหน้าไม่ได้ แต่กลับถูกปฏิเสธเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่พ่อของเขาหรือผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดในบริษัทฝากฝังเอาไว้
“ผมก็แค่อยากมาหาเพื่อนเก่า”
“….”
“ของโดยอง”
ริมฝีปากที่ยกยิ้ม หากแต่ตาไม่ได้ยิ้มไปด้วย กำลังจ้องมองสีหน้าสงสัยของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนเก่า ในตอนนี้แทยงไม่ได้ติดใจกับสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้ และเรื่องที่ไม่สนใจข้อตกลงระหว่างบริษัท เขาสงสัยมากกว่าว่าคนที่นั่งคุยอยู่ด้วยเป็นใครกันแน่
รู้จักกับโดยองมาตั้งแต่มัธยมปลาย ไม่เคยรู้เลยว่ามีแฝด
“คุณคือใคร”
“เดโอคิมแฝดของคิมโดยอง”
“….” แทยงจ้องตาอีกฝ่าย ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ ในแววตาของคู่สนทนาไม่ได้แสดงออกว่ากำลังโกหก คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าไม่ใช่เพื่อนของเขา
เหมือนกันเกินไป
“ตกใจมั้ยที่เจอผม”
“….”
“คุณเป็นเพื่อนโดยองนี่”
“….”
“แต่เป็นเพื่อนจริงรึเปล่า”
“….” เจ้าของห้องจ้องสีหน้าถากถางของคนพูดอย่างเคลือบแคลงใจ
“มีความสุขมั้ยครับที่ได้ไปหมดทุกอย่าง”
“พูดอะไรของคุณ”
“แม้แต่คนรักของเขาคุณก็ยังเอาไปด้วย”
“….” เป็นอีกครั้งที่ต้องจ้องมองสายตาเย้ยหยันของคู่สนทนาอย่างไม่เข้าใจ จะว่าไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมดก็ไม่เชิง เขารู้ว่าคนตรงหน้ากำลังประชดเรื่องบริษัทที่เคยเป็นของตระกูลคิม กับเรื่อง..อีมีโซ เด็กที่น่าสงสารคนนั้น
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุผลของมัน
แล้วทำไมคนที่เป็นแฝด..ถึงดูเหมือนกำลังผูกใจเจ็บกับอะไรบางอย่าง
“ไม่ละอายใจบ้างหรอครับ”
“ทำไมผมจะต้องละอายใจ”
“ตอนที่มองหน้าเขา คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไง”
“….”
“ก็รู้ทุกอย่างอยู่แก่ใจ”
“พูดบ้าอะไรของคุณ”
ในเมื่ออีกฝ่ายกำลังทำตัวไม่มีมารยาท ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องพูดจาดีด้วยอีกต่อไป แทยงจ้องใบหน้าที่เหมือนกับโดยองเขม็ง เหนือกว่าความไม่เข้าใจและสับสน คือไม่ชอบท่าทางของเดโอ
“เหอะ”
คนที่ถูกมองว่าเสียมารยาทแค่นลมหายใจออกมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนจากโซฟา แล้วจัดสูทของตัวเองให้เข้าที่ ดวงตาคมที่มีแต่ความเย็นชาเคลือบแฝงปรายตามองใบหน้าได้รูปของคนที่เมินหน้ามองไปทางอื่น
นิ่งให้ได้แบบนี้ตลอดนะ อีแทยง
“ผมหวังว่าคุณกับพ่อของคุณจะมีความสุขกับสิ่งที่มีในตอนนี้นะครับ”
“….”
“ก่อนที่สักวันจะไม่เหลืออะไรให้ชื่นชม”
สายตาเรียบนิ่งมองตามร่างสูงที่เดินเปิดประตูออกไปจากห้อง สิ่งที่คนไม่เป็นมิตรคนนั้นพูดและแสดงออก จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ แต่นิสัยนิ่งเฉยที่มีติดตัว ก็ทำให้เขาทำตัวเป็นน้ำแข็งไปอย่างนั้น
ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุเมื่อหกปีที่แล้ว เขากับโดยองผิดใจกันบางเรื่องจนกลายเป็นเริ่มเหินห่าง ความรู้สึกผิดและเสียดายยังคงฝังอยู่ในใจมาจนถึงทุกวันนี้ พอยิ่งมาเห็นท่าทางที่แฝดเพื่อนแสดงออกด้วยแล้ว
มันก็รู้สึกไม่สบายใจ
“แทยง”
นั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองครู่หนึ่ง บานประตูที่เพิ่งปิดไปก็ถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นร่างสูงใหญ่ของเพื่อนสนิทอีกคนที่เดินหน้าตื่นเข้ามา ใบหน้าที่ดูอินเตอร์หันมองออกไปนอกประตู ก่อนจะแง้มประตูปิด แล้วเดินเข้ามาใกล้
“หมอนั่นหน้าเหมือนไอคิมมาก”
พูดจาเกือบฟังไม่ได้ศัพท์ มือก็ชี้ ๆ ไปทางประตูห้อง เขายังคงตกใจกับคนที่เพิ่งเดินสวนกันไม่หาย ดวงตาที่เต็มไปด้วยความคิดช้อนมองเพื่อนร่างใหญ่ ก่อนจะตอบออกมาหน้าตาย
“เออดิ”
“ใครอ่ะ”
“เดโอคิม ประธาน BHT ในเกาหลี”
“ไม่ หมอนั่นเป็นอะไรกับโดยอง”
“แฝด”
“ห๊ะ มันมีแฝดด้วยหรอ”
“กูก็เพิ่งรู้”
“ใช่หรอวะ” คนที่ยืนอยู่พูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ มันแปลกเกินไปที่เพื่อนสนิทเป็นสิบปีอย่างพวกเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้
“หรือมึงคิดว่าเป็นมันตัวจริง?”
“ก็เหี้ยละ”
“....”
“ดีนะเจอตอนฟ้าสว่าง ถ้าเจอตอนมืดกูคงวิ่ง”
“อย่าเวอร์จอห์น”
“พรุ่งนี้บ่ายสอง อย่าลืมนะมีโซ ลูกค้ารายนี้เป็นหุ้นส่วนกับเราด้วย ดูแลเขาดี ๆ ล่ะ”
“ค่ะบอส”
คุณตอบรับคำทิ้งท้ายของเจ้านายอย่างแข็งขัน น้อยครั้งนักที่จะมีลูกค้ารีเควสอินทีเรียอย่างคุณให้เป็นคนรับงาน มิหนำซ้ำลูกค้ารายนี้ยังเป็นรายใหญ่ในแวดวงธุรกิจ ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตการทำงานสองปีของคุณเลยก็ว่าได้
ในตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานแล้ว แต่คุณก็ขับรถออกมาแวะซื้อดอกไม้สองช่อที่ร้านแถวออฟฟิศ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เงียบสงบ และคุณมักจะมาที่นี่ทุกครั้ง ไม่ว่าจะมีความสุขหรือมีเรื่องไม่สบายใจก็ตาม…
ใช้เวลาเกือบชั่วโมง คุณก็ฟันฝ่ารถติดมาถึงสุสานแถบนอกเมือง คุณหอบช่อดอกไม้สองช่อลงจากรถ แล้วเดินไปตามทางอย่างคุ้นชิน แม้แต่คนกวาดใบไม้และคนดูแลสุสานก็ยังจดจำคุณได้ คุณโค้งทักทายพวกเขา ก่อนที่จะเดินผ่านไปยังจุดหมายอย่างอารมณ์ดี
ช่อดอกไม้สองช่อถูกวางลงหน้าป้ายสุสานสองป้ายที่อยู่เคียงข้างกัน ป้ายหนึ่งสลักชื่อเอาไว้ว่า ‘คิมโดยอน’ คุณคลี่ยิ้มบางราวกับว่าคนที่จมอยู่ในห้วงนิทราอันยาวนานจะเห็นรอยยิ้มและรับรู้ถึงความปรารถนาดีของคุณ ถึงจะไม่ได้สนิทกับน้องสาวของคนรัก แต่ทุกครั้งที่ตั้งใจมาเยี่ยมโดยอง คุณก็จะต้องหิ้วดอกไม้มาฝากน้องสาวของเขาด้วยเสมอ
อีกป้ายหนึ่งที่คุณนั่งยองลงตรงหน้า หลังจากที่วางดอกไม้ประดับเอาไว้เพิ่มความสดใส คุณยกมือขึ้นลูบชื่อที่ถูกสลักเอาไว้บนแผ่นหิน ‘คิมโดยอง’ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ความคิดถึงก็ยังคงไม่จางหาย ถึงแม้ว่าคุณจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยไม่มีเขา แต่เขาก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณอยู่ดี
ไม่ว่าจะสุขหรือจะทุกข์ คุณก็จะมาหาและเล่าให้เขาฟังทุกครั้ง
“พี่โดยอง”
“วันนี้มีลูกค้าจ้างงานมีโซด้วยนะ”
“เขาเลือกมีโซเอง โดยที่บอสไม่ได้เป็นคนเสนอ ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยล่ะ”
“อยากรู้จังว่าทำไม....แต่ก็เป็นเรื่องดีใช่มั้ยคะ”
“แล้วพี่อยู่ที่นั่นสบายดีรึเปล่า”
“มีโซอยากฟังเรื่องของพี่บ้าง”
“คิดถึงมากเลย”
ดวงตายิ้มที่หม่นลงจ้องมองป้ายสุสานตรงหน้า มือนิ่มยังคงลูบแผ่นหินราวกับว่าคนที่ล่วงลับไปจะได้รับสัมผัสของคุณ คุณรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่ได้มานั่งพูดคุยกับคนที่คุณคิดถึง แต่มันก็เศร้าทุกครั้งที่ตระหนักได้ว่าเขาได้จากคุณไปในที่แสนไกล
หมับ!
“ทำอะไร”
จู่ ๆ คุณก็ถูกใครบางคนฉุดแขนให้ลุกขึ้นยืน ตัวของคุณลอยหวือ ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะเซเข้าหาเจ้าของแรง คุณหันใบหน้าที่เต็มไปด้วยปอยผมยุ่งมองคนเสียมารยาท แล้วก็พบกับดวงตาคมที่กำลังจดจ้องคุณอย่างไม่พอใจ สายตาของคุณชะงักไป เมื่อเห็นว่าเป็นคนที่คุณเคยเจอ
คนที่คุณเข้าใจว่าเป็นแฝดของคนรักคุณ
“ถามว่าทำอะไรอยู่!”
คนที่อยู่ใกล้กันเริ่มตะคอกใส่ เพราะคุณที่เอาแต่เงียบมองหน้าเขา สายตาที่ยากจะอ่านออกจ้องมองคุณราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ คุณไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงจะต้องโกรธที่เห็นว่าคุณนั่งอยู่หน้าหลุมศพของแฝดตัวเอง แต่เพราะหน้าตาที่เหมือนกับคนรัก จึงทำให้คุณตอบกลับไปด้วยความโอนอ่อน
“ฉันมาหาพี่โดยอง”
“จะมาทำไม”
“แล้วทำไมจะมาไม่ได้”
คุณถามกลับอย่างสงสัย คุณไม่รู้ว่าทำไมคนที่จับแขนของคุณอยู่ถึงต้องเป็นเดือดเป็นร้อน แล้วคุณจะมาหาคนรักของตัวเองมันผิดตรงไหน
“จะแต่งงานกับเพื่อนของเขาแล้วจะมาหาเขาทำไม”
“….” คุณนิ่งไปเพราะคำพูดของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะรู้เรื่องของคุณมากกว่าที่คิด “คุณรู้ด้วยหรอ”
“รู้สิ”
“….”
“รู้เยอะด้วย”
“….”
“ทำไมต้องเป็นมัน”
“….” คุณทำเพียงนิ่งมองสายตาสงสัยระคนเจ็บปวดของคนตัวสูง
“รู้รึเปล่าว่ามันทำอะไรไว้ หรือว่าตั้งใจตั้งแต่แรก”
“เขาทำอะไรไว้กับคุณฉันไม่รู้หรอกนะคะ แต่ว่าเขาช่วยฉัน”
“….”
“และพี่โดยองคงเข้าใจ”
“หึ..”
อีกฝ่ายแค่นหัวเราะ ก่อนจะปล่อยแขนของคุณให้เป็นอิสระ สายตาหลากอารมณ์เสมองไปทางอื่น ก่อนจะเลื่อนกลับมามองหน้าคุณที่ถอยห่างจากตัวของเขา
“จะให้เขาเข้าใจอะไร พอตายก็มาคบกับเพื่อนของเขา แล้วเพื่อนเลว ๆ แบบนั้นน่ะ”
“ถ้าคุณไม่รู้อะไรก็อย่าพูดเลยค่ะ”
“เธอต่างหากที่ไม่รู้อะไร!”
สายตาที่เหมือนกับน้ำเย็นของคุณจ้องมองสายตาที่คล้ายกับมีไฟลุกโชนของคนตรงหน้า คุณกับเข้าจ้องตากันอย่างไม่มีใครคิดที่จะหลบสายตาไปก่อน แต่ว่าคุณไม่ได้ต้องการที่จะเล่นเกมหรือเอาชนะเขา คุณจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี แล้วเดินสวนออกไปจากสุสาน
ร่างสูงโปร่งที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมปรายตามองช่อดอกไม้สองช่อที่วางอยู่หน้าป้ายสุสานสองพี่น้อง ในขณะที่มือของเขาก็มีอยู่อีกช่อหนึ่ง
ดอกลิลลี่สีเหลือง ของเธอเองหรอมีโซ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
- -
TBC
ใช่ค่ะ ปมเยอะ ปมทางฝั่งมีโซเป็นปมย่อย ส่วนปมหลักต้องยกให้พระเอกเขา แต่ว่ามันก็เกี่ยวกันด้วย
อ่านกันดีๆนะคะ บางอย่างที่ไรท์ใส่มาก็มีทั้งปม มีทั้งให้เอ๊ะอ่า...
แต่ก่อนจะบอกให้อ่านกันดีๆ ต้องถามว่ามีใครอ่านอยู่ก่อน555555555 แง้งงงงง ใครอ่านอยู่เม้นเถอะนะคะ ขอร้อง
#เหมือนเคยรักกัน
ความคิดเห็น