คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : CROSSING THE LINE part 1
นลินนอนตัวแข็งทื่อ ดวงตากลมโตเบิกโพลงจ้องสตรีที่ไม่คล้ายสตรี ใบหน้าที่เคยงดงามอวบอิ่ม บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นความดุดันของบุรุษเพศ หนวดเคราที่ไม่คล้ายจะเป็นหนวดแต่เหมือนขนสัตว์ขึ้นปกคลุมคางมนจนดูน่าหวาดหวั่น ฟันแหลมคมของนางงอกยาวคล้ายคมเขี้ยวของอสุรกาย เหนืออื่นใด ดวงตาที่เคยเป็นสีแดงทับทิม ยามนี้มันแดงก่ำยิ่งกว่าสีของเลือด
สภาพร่างกายของวิเวียน่าทำให้นลินกลัวจนช็อกค้างไป ทว่าอาการดังกล่าวก็ไม่ได้หยุดสัญชาตญาณดิบเถื่อนของมนุษย์หมาป่า นางก้มหน้าลงแล้วขย้ำกัดเรือนร่างหอมกรุ่นจนอีกฝ่ายได้เลือด ฟันแหลมคมครูดไปกับผิวบอบบางจนเป็นบาดแผลเหวอะวะ นลินกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของนางคล้ายกำลังถูกฉีกกระชากออกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งเสียงคำรามของปีศาจร้ายบวกกับกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทำให้ดวงตากลมเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา
นางกลัวตายแต่ร่างกายกลับไม่อาจต้านทาน ถึงอีกฝ่ายไม่ได้พันธนาการร่างกายไว้แต่นางก็ขยับหนีไม่ได้ ร่างกายมันกลัวจนสั่นไปทั้งร่าง ทั้งที่ร่างกายเริ่มบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ
เสียงขย้ำกัดดังกระทบโสตประสาทตลอดเวลา มันเป็นเรื่องบ้ามากที่นางไม่ได้ดิ้นรนให้ตนเองมีชีวิตรอด นลินทำเพียงแค่เบิกตากว้างและเฝ้ารอให้ความตายคืบคลานเข้ามาหา
กึก!
เสียงกัดเริ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้ลำคอมากขึ้น นลินหลับตาลงพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงเป็นสาย
เอาเถิด...หากชีวิตเธอมันเดินทางมาถึงปลายทางแล้ว เธอก็ไม่อยากยื้อแย่งกับมัจจุราชอีกต่อไป
กึก! คมเขี้ยวฝังลงตรงเส้นเลือดใหญ่แถวลำคอ นางได้ยินเสียงเขี้ยวฝังลึกเข้ามาในผิวเนื้อชัดเจนพร้อมกับอาการวิงเวียนศีรษะที่จู่โจมเข้าหา นลินหลับตาแน่นอย่างจำยอม ชีวิตของนางคงถูกพรากจากในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เลือดในกายคงไหลออกมาไม่หยุด เรือนร่างที่เคยอบอุ่นอาจจะเย็นชืดราวหิมะ
ก่อนหน้านี้เธอเคยทำอะไรบ้างนะ? อ่อใช่...เธอทะเลาะกับแม่และหนีมาเดินป่า ทั้งที่แม่ห้ามแล้วแต่เธอก็ไม่ฟัง เธอต้องการอิสระ ต้องการจะหนีไปจากบ้านที่กฎระเบียบเคร่งครัดราวกับอยู่ในคุก และใช่...ก่อนออกมาเธอไม่ได้บอกใคร ไม่ได้บอกแม่ ไม่มีแม้แต่คำอำลา
ช่างน่าเศร้าที่สิ่งสุดท้ายที่นางทิ้งไว้ให้จะมีเพียงความกรุ่นโกรธและความผิดหวังเท่านั้น
แม่...นลินขอโทษ
ภาพในหัวโคลงเคลงไปมาก่อนหมุนวนราวกับลูกข่าง นลินรู้สึกทรมานและพะอืดพะอมจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ อาการดังกล่าวคงเกิดจากนางเสียเลือดมากเกินไป
เมื่อลมหายใจเริ่มแผ่วเบาลง หูสองข้างก็ได้ยินแม้กระทั่งเสียงอัตราการเต้นของหัวใจตัวเอง
ตึก...ตัก
มันทิ้งช่วงยาวนาน...
ทรมานเหลือเกิน...
ความมืดปกคลุมเข้ามาและทันใดนั้นสัมผัสหนึ่งก็ฉุดรั้งสติของนางเอาไว้
แผลบ!
สัมผัสเปียกชื้นตรงหางตาทำให้นลินปรือดวงตามองอย่างยากลำบาก ภาพเลือนรางสะท้อนให้เห็นใบหน้างดงามราวภาพวาดของอีกฝ่าย ดวงตากลมโตทอดมองนางด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก นลินอ้าปากงับอากาศเข้าไป ทว่ามันก็ทำให้นางสำลักจนไอค่อกแค่ก คลื่นความเจ็บปวดถาโถมเข้าหานางอีกระลอกหนึ่งจนหลุดครางร้องอย่างเจ็บปวด
ทว่าท่ามกลางความเจ็บปวด หูของนางก็ได้ยินแว่วเสียงอันไพเราะเอ่ยขึ้น
“ข้า...ข้าขอโทษ” ดวงตาสีแดงทับทิมหลุบลงมองสบกับนางก่อนลากลงไปยังบาดแผลที่ตัวเองลงมือขย้ำอย่างโหดร้าย
“อึก...”
“ข้าควบคุมมันไม่ได้” เสียงหวานกระซิบและเลียบาดแผลให้เบาๆ ทันใดนั้นร่างกายของนางก็คล้ายถูกฉุดขึ้นมาจากใต้น้ำ นลินอ้าปากและหอบหายใจเข้าปอดอีกครั้ง คราวนี้หัวใจของนางเต้นระรัว ความเจ็บปวดบนเรือนร่างแม้ไม่ได้จางหายแต่ก็แผ่วเบาลงมาก นางสะท้านหอบก่อนเหลือกดวงตามองตามการเคลื่อนไหวของสตรีเบื้องหน้า ร่างกายครึ่งสตรีครึ่งบุรุษปรากฏให้เห็น นลินตกตะลึงจนไม่รับรู้ว่าตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสภาพใด
“อึก...ออกไป...รีบออกไป” เสียงหวานสั่นเครือด้วยความทรมาน ดวงตาของนางกลอกไปมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเสียงคำรามของสัตว์ร้ายก็กลับมา นลินที่ยังคงงุนงงทอดมองด้วยความตกใจ
มันเรื่องอะไรกันแน่
แควก!
ใบหน้าของสตรีเริ่มเปลี่ยนกลับไปเป็นบุรุษเพศอีกครั้ง วิเวียน่าขบกรามแน่นและพยายามถอยกายออกห่าง ทว่ากลิ่นกายยั่วเย้าที่แผ่ออกจากร่างอวบอิ่มทำให้นางควบคุมสติไม่อยู่ สัญชาตญาณสัตว์ป่าที่มาพร้อมคำสาปทำให้นางทุกข์ทรมาน แม้อยากวิ่งหนีจากไปให้ไกลแต่กลับทำแบบนั้นไม่ได้
ดอกเดซี่ดอกเล็กบนต้นคออีกฝ่ายค่อยๆ ปรากฏขึ้นพร้อมบาดแผลที่ถูกขย้ำกัดเริ่มสมานอย่างรวดเร็ว
ไม่ทันแล้ว...เพราะคำสาปนั่นทำให้นางเผลอสร้างพันธนาการกับอีกฝ่ายไปแล้ว
“ค-คุณ...ทำไม...” เสียงหวานของนลินขาดห้วง ฉับพลันนั้นหัวใจของนางก็เต้นระรัวพร้อมกับมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป
“เป็นของข้า...จงเป็นของข้า” นางฟังคำนั้นด้วยใจต่อต้าน ทว่าร่างกายกลับกระทำในสิ่งตรงกันข้าม มันแอ่นขึ้นเพื่ออวดโฉมตนเอง ยามนัยน์ตาสีทับทิมกวาดมอง ร่างกายของนางก็คล้ายกับถูกไฟแผดเผา
หมับ!
มือของนลินเคลื่อนโอบกอดรอบลำคอระหงและดึงรั้งเข้าหา ใบหน้าหวานเปียกปอนเอียงซบกับกลุ่มขนบนใบหน้าของอีกฝ่าย จมูกรั้นสูดดมกลิ่นหอมกรุ่นที่ดูเหมือนจะยิ่งแผ่ความหอมออกมามากกว่าเดิม
นางครางร้องในลำคอพร้อมทอดสายตายั่วยวนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“มาสิ...” นลินกระซิบและเริ่มปลดอาภรณ์ออกจากเรือนร่างแปลกประหลาดของอีกฝ่าย ดวงตาหิวกระหายจ้องตอบกลับมาก่อนเจ้าของร่างจะกระโจนเข้าหาความหอมหวานเบื้องหน้า
กลีบปากบางแนบสนิทจนแทบไม่เหลือพื้นที่ว่าง ทั้งนลินและวิเวียน่าแลกจุมพิตกันอย่างเร่าร้อน เสียงครางต่ำดังลอดออกจากลำคอ ยิ่งร่างกายแนบชิดกันมากเท่าไร คลื่นอารมณ์แห่งตัณหาก็ยิ่งปะทุหนักขึ้นเท่านั้น วิเวียน่ารีบดันกายออกห่างเมื่อเริ่มควบคุมสัญชาตญาณของตัวเองไม่ไหว นางเชิดหน้ามองเพดานพร้อมหลับตานิ่ง
“ไม่เป็นไร...” ทว่าเสียงแหบพร่าของคนใต้อาณัติกลับทำให้นางทรมานยิ่งกว่าเดิม “ฉันไม่เป็นไร”
“ข้าอาจพลั้งมือฆ่าเจ้า” เสียงหวานเค้นพลังพูดออกมาด้วยความทรมาน เนิ่นนานกว่าเปลือกตาบางจะเปิดออกอีกครั้ง วิเวียน่าหลุบมองและไล้ปลายนิ้วไปตามกรอบหน้าหวานของอีกคน นางพยายามยั้งมือไว้แต่แค่เพียงสัมผัสบางเบาสำหรับนางก็ทำให้อีกคนเจ็บปวดได้แล้ว
“ไม่...คุณไม่ทำแบบนั้นหรอก” นลินมองความเจ็บปวดที่ฉายผ่านดวงตาคู่นั้นมาที่ตน วิเวียน่าจ้องลึกเข้าไปก่อนจะเผยรอยยิ้มหวานฉ่ำที่ส่งผลให้คนมองตาพร่าเลือนไปชั่วขณะ
“หึ! เจ้าเป็นคนแรกที่กล้าพูด”
“แล้ว?...จะทำไหม” วิเวียน่าใช้การกระทำในการตอบคำถามของนลินใบหน้าแปลกประหลาดก้มลงไปสัมผัสหญิงสาวอีกครั้ง นางคลอเคลียและสูดดมกลิ่นหอมจากเรือนร่างนลินและบรรจงแนบริมฝีปากลงไปแผ่วเบา
“ฮึก...อืม” เสียงหวานหลุดครางอย่างน่าอาย นลินปัดไล่ความขัดเขินออกไปและจดจ้องเพียงดวงตาสีทับทิมเปล่งประกายของอีกฝ่าย
งดงามและอันตรายในคราเดียวกัน...
ลิ้นร้อนตวัดเลียผิวกายหอมแผ่วเบา สาบเสื้อที่ขาดวิ่นถูกแยกออกจนเผยยอดปทุมถันแก่สายตาคนทั้งคู่ แก้มเนียนพลันร้อนวูบวาบเกินจะต้านทาน นลินไม่อาจมองสบตากับวิเวียน่าได้อีกต่อไป เปลือกตาบางจึงปิดลงพร้อมกับอารมณ์ที่ถูกปลดปล่อย
ยามเรียวลิ้นร้อนผ่าวครอบครองยอดอก หัวใจของนางก็กระตุกวูบเหมือนคนกำลังเล่นรถไฟเหาะ นลินบิดร่างกายเร่าๆ จนฟันซี่คมครูดยอดอกจนเจ็บแปลบ หากแต่นางกลับไม่ได้ใส่ใจความเจ็บปวดดังกล่าว เพราะทันทีที่มือสองข้างเริ่มเคลื่อนไหวไปตามส่วนเว้าโค้งใต้อาภรณ์ขาดรุ่งริ่ง สัมผัสที่บางครั้งก็หนักหน่วงจนร้าวระบม แต่บางครั้งก็แผ่วเบาราวปุยนุ่นทำให้ลมหายใจของนลินเริ่มขาดห้วงและหอบหายใจรุนแรง สตินางใกล้ขาดเต็มที ร่างกายร้อนผ่าวราวถูกแผดเผาด้วยเปลวไฟ ไม่ใช่ว่านางไม่เคยมีเซ็กส์มาก่อน หากแต่ครั้งนั้นมันเป็นเพียงการอยากรู้อยากลองของเด็กมอปลายคนหนึ่ง นางจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคู่นอนของนางทำอะไรให้บ้าง รู้เพียงแค่ตื่นขึ้นมานางก็เข็ดขยาดไม่อยากนอนกับใครอีก
กึก...แผลบ
การกัดขย้ำของหญิงสาวทำให้นลินหลุดจากภวังค์ นางหลุบสายตาลงสบกับวิเวียน่าก่อนคลี่ยิ้มมองด้วยความหลงใหล สองพี่น้องคู่นี้ช่างมีดวงตาที่น่าหลงใหลจริงๆ
นลินคิดและค่อยๆ ขยับสอดมือเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มสลวยที่เปลี่ยนเป็นสีสนิมเหล็ก นางขยุ้มเบาๆ ตามจังหวะอารมณ์ที่พุ่งขึ้นลงจนเสียงคำรามร้องประท้วงออกมา
“อื้อ...อ๊ะ!” สัมผัสหนักหน่วงดูดดึงจนยอดอกนางเจ็บช้ำ นางเริ่มเข้าใจแล้วว่าการหยอกล้อของหมาป่าสามารถสร้างความเจ็บปวดได้ไม่ต่างจากการขย้ำเหยื่อดีๆ นี่เอง
รอยยิ้มร้ายกาจเผยออกเมื่อนางครางร้องเพราะความเจ็บ วิเวียน่าเลียบาดแผลให้จนหยาดเลือดที่ไหลซึมจางหายไป ทันใดนั้นเสียงหวานก็เอ่ยกระซิบกึ่งข่มขวัญออกมาว่า “ข้าจะขย้ำเจ้า”
“อ๊ะ!” นลินครางรับจูบร้อนแรงที่ถูกป้อนเข้าหาอีกครั้ง นางแอ่นกายและตวัดขารัดเอวบางไว้ ทว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ร่างกายของนางเสียดสีกับบางอย่าง ความแข็งขืนสัมผัสส่วนอ่อนไหวของนางจนคิ้วเรียวขมวดยุ่ง นลินครุ่นคิดจนมั่นใจแล้วว่า สิ่งนั้นใช่สิ่งเดียวกับที่นางคิด นางจึงได้บังคับเสียงและเอ่ยถามออกไป
“คุณ...ทำไมถึงมี...” ไอ้นั่น...
นลินกลืนคำพูดลงคอเมื่อวิเวียน่าหยุดชะงักกะทันหันพร้อมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนาเมื่อครู่เจื่อนลงก่อนผละกายออกห่างรวดเร็ว การกระทำอันพลิกผันแทบทำให้นลินอยากกัดลิ้นตัวเองให้ขาด
ยัยโง่เอ๊ย!
นางสบถด่าตัวเองในใจ
“ข้าพอแล้ว” วิเวียน่าดึงรั้งขาของนางออกจากเอว เรี่ยวแรงมหาศาลบวกการกระทำไร้เยื่อใยส่งผลให้หัวใจของอีกฝ่ายกระตุกวูบ นลินอ้าปากค้างพลางทอดสายตามองตามวิเวียน่าที่ผละลุกจากไป
ปากพาซวยแท้ๆ
...
ความคิดเห็น